สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคนวันนี้ก็มาพบกับเราอีกแล้วกับบทความแนะนำของฝากนั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เดินสายรีวิวของฝากของแต่ละจังหวัดตั้งแต่เหนือจรดใต้กันไปแล้ว แต่สำหรับคราวนี้ก็ถือว่าเป็นบทความที่พิเศษมาก ๆ เพราะเราจะพาทุกคนบินลัดฟ้าไปยังประเทศที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมสำหรับการไปเรียนภาษาและหาประสบการณ์ในต่างแดนมากที่สุดอีกหนึ่งประเทศ หากใครที่ยังนึกไม่ออกก็ขอบอกใบให้อีกนิดว่าประเทศนี้เค้ามีสัตว์ประจำชาติเป็นจิงโจ้และยังมีสัตว์ตัวน้อย ๆ หน้าตาน่ารักที่มีชื่อเรียกโคอาลาด้วยนะคะ เอ๊..พอถึงตรงนี้หลาย ๆ คนคงจะถึงบางอ้อแล้วใช่ไหมคะ ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้เราจะมา “แนะนำของฝากจากประเทศออสเตรเลีย” นั่นเองค่ะ
ประเทศออสเตรเลียดีอย่างไร ทำไมจึงเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยว ?
ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่ถือว่าสวยงามมาก ๆ อีกหนึ่งประเทศเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นในเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์หรือเมลเบิร์นเองถึงแม้ว่าจะมีความวุ่นวายตามประสาสังคมเมืองอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยงาม สะดวกสบายและครบวงจรจะเที่ยว จะปาร์ตี้ จะเรียน หรือจะทำอะไรก็ครบจบในเมืองเดียว จนใครต่อใครต่างก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียวค่ะ
ตัดภาพมาที่เรื่องของความสวยงามทางธรรมชาติกันบ้างซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าออสเตรเลียจะทำให้คุณได้พบกับสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบสีชมพู, น้ำตกอันงดงาม และทิวทัศน์ของมหาสมุทรที่ใสดุจคริสตัลและทั้งหมดที่กล่าวไปก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความสวยงามเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วยังมีอีกหลาย ๆ สถานที่เลยค่ะที่สวยงามจนคุณต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้
นอกจากนี้ออสเตรเลียก็ยังเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลาย ๆ อย่าง ทั้งสำเนียงภาษาอังกฤษที่แตกต่างจากฝั่งอเมริกาและอังกฤษโดยสิ้นเชิง ซึ่งถ้าหากใครที่อยากรู้ว่าสำเนียงเป็นอย่างไรนั้นก็ลองไปฟังการให้สัมภาษณ์ของสาวโรเซ่ Blackpink ได้ค่ะ 🙂 แถมชาวออสซี่เองก็มีไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจไม่น้อยทั้งเรื่องของการชื่นชอบทำกิจกรรมเอาท์ดอร์แบบสุด ๆ มีความชื่นชอบในกีฬาและศิลปะเอามาก ๆ และคนออสซี่ยังสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่หลากหลายได้อย่างรวดเร็วด้วยค่ะ
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็คือเพียงพอที่จะบอกว่าออสเตรเลียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าไปเที่ยวมาก ๆ และก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยค่ะเพราะว่าตอนนี้ออสเตรเลียได้เปิดประเทศตอนรับนักท่องเที่ยวหรือนักเรียกที่ต้องการจะบินไปหาประสบการณ์ต่างแดนแล้วค่ะ ซึ่งใครที่ถือวีซ่าอยู่ตอนนี้ก็เตรียมตัวได้เลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วหากว่าใครได้มีโอกาสไปถึงออสเตรเลียแล้วก็อย่าลืมที่จะตามหาของฝงของฝากติดไม้ติดมือกลับมาประเทศไทยบ้างนะคะ เอาเป็นว่าตอนนี้ใครที่อยู่ที่กำลังจะเดินทางหรือมีแพลนจะเดินทางเร็ว ๆ นี่แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะซื้อของฝากอะไรดีนั้น วันนี้เราก็มีไอเดียของฝากเจ๋ง ๆ จากประเทศออสเตรเลียมาฝากทุก ๆ คนกันค่ะ
1. VEGEMITE สเปรดทาขนมปัง

สำหรับของฝากชิ้นแรกก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก VEGEMITE ของดีของเด็ดอีกหนึ่งที่ดูจะถูกปากถูกใจชาสออสซี่กันเป็นอย่างมาก โดย VEGEMITE นั้นถูกผลิตขึ้นในเมือง Port Melbourne ตั้งแต่ปีค.ศ.1923 นู้นเลยค่ะ ซึ่งในปีหน้าก็จะมีอายุครบ 100 ปีแล้วนะคะ หลาย ๆ คนสงสัยใช่ไหมคะว่า VEGEMITE คืออะไรกันแน่? มันคือสเปดสำหรับใช้ทาขนมปัง, แซนด์วิช และยังสามารถนำมาใส่ในอาหารได้ด้วย
เนื้อของสเปรดก็จะค่อนข้างข้นและเหนียว มีสีเข้มและมีกลิ่นที่เฉพาะตัวแตกต่างจากสเปรดขนมปังทั่วไปเ นื่องจากส่วนผสมส่วนใหญ่นั้นมาจากบริวเวอร์ ยีสต์ที่อุดมณ์ไปด้วยวิตามินบี (วิตามินบี 1 ไรโบฟลาวิน B2 ไนอาซินบี 3 และโฟเลต) นำมาปรุงนั้นนิดนี่หน่อยจนออกมาเป็นสเปรดในกระปุกเหลือง ๆ อย่างที่เราเห็นนั่นเองละค่ะ
ในเรื่องของรสชาติอันนี้ก็ต้องยอมรับว่ามีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวมาก ๆ ใครที่ไม่เคยลองอาจจะมีงงเล็กน้อย รสชาติคือจะไม่หวานเลยค่ะ แต่จะออกรสเค็ม ๆ มีกลิ่นคาว ๆ หน่อย ๆ แนะนำให้ทาบาง ๆ นะคะอย่าทาเยอะ แรก ๆ อาจจะไม่ชินแต่หลัง ๆ ทานไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มชินไปเองจนลืมภาพของสเปรดหวาน ๆ ไปเลยจ้า ซึ่ง VEGEMITE ไม่ใช่แค่จะผลิตและถือครองโดยออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังเปรียบได้ว่า ‘tastes like Australia’ เลยก็ว่าได้ หากใครที่อยากจะสัมผัสความอร่อยแบบชาวออสซี่ก็ไปจ้าไปซื้อมาลองกันได้เลย
2. Lucas’ Papaw Ointment บาล์มสารพัดประโยชน์

Lucas’ Papaw Ointment ก็เป็นอีกหนึ่งของฝากที่อยู่คู่กับประเทศออสเตรเลียมาเป็นเวลานานเป็นร้อยปี ถูกคิดค้นโดยดร.ลูคัสและมีแหล่งผลิตอยู่ที่รัฐควีนส์แลนด์ โดยบาล์มตัวนี้เป็นการผสมผสานของส่วนผสมจากธรรมชาติ ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็ได้แก่มะละกออันเป็นพืชที่ปลูกในรัฐควีนส์แลนด์นั่นเองค่ะ
ด้านการใช้งานก็ถือได้ว่าอเนกประสงค์จริง ๆ เลยค่ะเพราะว่าเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติทำให้สามารถใช้งานได้แบบสากกะเบือยันเรือรบ ทั้งใช้ในการรักษาแผลเปิดเล็กน้อย, ผิวอักเสบ, ผิวแตก, แผลไฟไหม้และน้ำร้อนลวก, ทาผิวที่ถูกแดดเผา, แก้ปัญหาผื่นผ้าอ้อม, ใช้ทาผิวที่โดนแมลงสัตว์กัดต่อย และสามารถทาริมฝีปากได้ด้วยเช่นกันค่ะ
เห็นไหมล่ะคะว่าบาล์มตัวนี้สารพัดประโยชน์เสียจริง แถมยังใช้งานก็ง่าย ราคาก็ไม่ได้แพงมากอีกด้วย แนะนำว่านอกจากจะซื้อฝากเพื่อน คนในครอบครัว หรือคนพิเศษแล้วเนี่ย อย่าลืมซื้อเก็บไว้ใชังานเองด้วยนะคะ รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
3. Thursday Plantation ทีทรีออยล์

มาต่อกันที่ของฝากในหมวดหมู่ของความงามกันอีกหนึ่งชิ้นซึ่งก็คือทีทรีออยล์นั่นเองค่ะ โดย Thursday Plantation เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่สกัดมาจากใบ Melaleuca Alternifolia ซึ่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในบริเวณชายฝั่งทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์และทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ผลิตที่ออสเตรเลียโดยผ่านกระบวนการที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย เนื้อของผลิตภัณฑ์สามารถซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างรวดเร็ว สรรพคุณของทีทรีออยล์ค่อนข้างหลากหลายทั้งช่วยฟื้นฟูผิว ช่วยจัดการกับสิวและสิวอักเสบด้วยพลังของธรรมชาติ ใช้ทาบาดแผลเล็กๆ เช่น แผลไฟไหม้ รอยถลอก ใช้ทาฝีและรอยจากแมลงสัตว์กัดต่อย
ทำไมต้องทีทรีออยล์และทำไมต้องเป็นแบรนด์นี้ ? ก็เพราะว่า Thursday Plantation เป็นแบรนด์ที่มีอายุยาวนาน เป็นแบรนด์ที่เชื่อถือได้ และสินค้ามีคุณภาพสูงนั่นเอง เนื่องจากเป็นการสกัดที่เข้มข้นและบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ และยังปราศจาก SLS, พาราเบน, สารสังเคราะห์และสารตัวเติมอีกด้วยค่ะ ซึ่งแน่นอนว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งของฝากที่น่าจะถูกอกถูกใจสาว ๆ มากเป็นพิเศษเลยทีเดียว
4. ครีมรกแกะ

![]() | ครีมรกแกะ Careline สูตรผสมสารสกัดจากเมล็ดองุ่นและวิตามินอี | |
![]() | Rebirth ครีมรกแกะสกัดบริสุทธิ์ผสมวิตามินอี | |
![]() | ครีมรกแกะ Catherine สูตรผสมคอลลาเจนและวิตามินอี |
ต่อด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะจะเป็นของฝากสำหรับคุณสาว ๆ, คุณแฟน หรือเพื่อนสาวกันบ้างดีกว่า ซึ่งต้องบอกไว้เลยค่ะหากใครพูดถึงครีมที่โด่งดังจากประเทศออสเตรเลียแล้วละก็ สิ่งแรก ๆ ที่หลายคนมักจะนึกถึงนั่นก็คือครีมรกแกะนั่นเองค่ะ
ครีมรกแกะจากประเทศออสเตรเลียถือเป็นครีมคุณภาพเยี่ยมที่มีสารสกัดจากรกแกะ มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูกระชับแลดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังอาจช่วยในการสมานแผลอีกด้วยค่ะ ซึ่งนอกจากจะมีส่วนผสมสำคัญจากรกแกะแล้วก็ยังมีส่วนผสมสำคัญอื่น ๆ ที่ช่วยในบำรุงและฟื้นฟูผิวหน้าด้วยเช่นกัน ซึ่ง
สูตรก็จะมีส่วนผสมและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป โดยคุณก็สามารถเลือกใช้งานหรือเลือกซื้อกลับไปฝากคนที่คุณรักได้ตามต้องการเลยค่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใดหากว่าคุณเลือกครีมรกแกะไปเป็นของฝากโดยเฉพาะเป็นของฝากให้คุณสาว ๆ รับรองเลยว่าเธอคงจะแฮปปี้ไม่น้อยเลยนะคะ
5. บูมเมอแรง

บูมเมอแรง… ใช่แล้วค่ะบูมเมอแรงคืออีกหนึ่งของฝากที่แนะนำโดยคนออสซี่เองเลย สำหรับบูมเมอแรงที่เราอาจจะเคยเห็นหรือเคยเล่นกันนั้นจริง ๆ แล้วบูมเมอแรงมีต้นกำเนิดมาจากประเทศออสเตรเลีย โดยเครื่องร่อนหรือบูมเมอแรงอย่างที่เห็นนี้ถูกคิดค้นโดยชนเผ่าพื้นเมืองที่มีชื่อเรียกว่าชาวอะบอริจิน
ในตอนแรกบูมเมอแรงถูกใช้เป็นอาวุธและเครื่องมือในการล่าสัตว์ ซึ่งนั่นก็ถือเป็นความชาญฉลาดของชาวอะบอริจินทเค้าเลยล่ะ เพราะว่านักล่าอย่างพวกเขาจะไม่มีวันสูญเสียบูมเมอแรงที่ถือเป็นอาวุธสำคัญขณะที่ออกไปหาเหยื่อนั่นเอง นอกจากนี้แล้วบูมเมอแรงก็ถูกใช้ในการขุดและใช้ในพิธีต่าง ๆ อีกด้วยนะคะ
บูมเมอแรงแบบออริจินอลนั้นทำมาจากไม้อย่างดี แต่บูมเมอแรงที่เป็นของฝากที่มีขายอยู่ในปัจจุบันก็ได้มีการออกแบบให้สวยงามมากขึ้น มีน้ำหนักที่เบาขึ้น และถูกแต่งแต้มด้วยการวาดลวดลายให้ดูวิจิตรงดงามมากขึ้นเช่นกัน แถมยังมีการดีไซน์บูมเมอแรงหลากหลายขนาดด้วยค่ะ
ดังนั้นแล้วบูมเมอแรงก็เลยกลายเป็นอีกหนึ่งของฝากที่เป็นสัญลักษณ์ของออสเตรเลีย แล้วยังเป็นของที่ระลึกที่สามารถสื่อความหมายได้ว่าจะกลับมาใหม่ ‘เหมือนบูมเมอแรง’ อีกด้วย ดังนั้นแล้วใครที่ได้ไปออสเตรเลียแล้วติดอกติดใจอยากกลับไปใหม่ก็ต้องถือเคล็ดด้วยการซื้อบูมเมอแรงกลับมาด้วยนะคะ อิอิ
6. ผลงานศิลปะโดยชาวอะบอริจิน
หลังจากที่ได้ชื่นชมผลงานการคิดค้นบูมเมอแรงกันไปแล้ว คราวนี้ก็มาพูดกันถึงเรื่องของผลงานด้านศิลปะกันบ้างดีกว่านะคะ โดยชาวอะบอริจินเป็นชนพื้นเมืองที่เก่าแก่และยังคงอาศัยมาจนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ โดยผลงานของชาวอะบอริจินนั้นนับว่าเป็นผลงานที่มีลักษณะที่เฉพาะตัวเอามาก ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นเสน่ห์ของงานศิลปะที่ทำให้ภาพดูโดดเด่นและเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว
แม้แต่ชาวออสซี่เองก็แนะนำเลยว่าต้องซื้อกลับบ้านให้ได้ งานศิลปะนสไตล์ชาวอะบอริจินนั้นมักจะใช้สีหลัก ๆ อยู่ไม่กี่สีได้แก่สีขาว, ดำ, แดง และเหลืองซึ่งแต่ละสีต่างก็แฝงไปด้วยความหมาย และมักจะมีการใช้ชุดสัญลักษณ์ง่าย ๆ เช่น จุด, วงกลมที่มีศูนย์กลาง, เส้นโค้งและเส้นตรงมาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ผลงานค่ะ ซึ่งถ้าหากใครที่มีความชื่นชอบในผลงานศิลปะแล้วละก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งค่ะ
7. ตุ๊กตาหมีโคอาลา

ปฏิเสธไม่ได้นะคะว่าค่ะออสเตรเลียมีสัตว์ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอยู่หลายชนิด และหนึ่งในนั้นก็คือต้าวน้องโคอาลานี่เองค่ะ โคอาลาเป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย มักจะพบได้ในป่าทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกของออสเตรเลีย ตามแนวชายฝั่งของควีนส์แลนด์ นิวเซาท์เวลส์ เซาท์ออสเตรเลีย และวิกตอเรียเท่านั้นค่ะ โดยน้องเค้าจะเป็นสัตว์ที่ตัวอ้วน ไม่มีหาง หัวโต หูกลม ขนฟู และมีจมูกรูปช้อนขนาดใหญ่ นิสัยค่อนข้างที่จะขี้เซาเอามาก ๆ โดยมักจะเห็นน้องโคอาลาบ่อย ๆ ตามต้นยูคาลิปตัสเพราะว่าเป็นอาหารอันโอชะของเค้านั่นเองค่ะ
ซึ่งแน่นอนค่ะว่าความน่ารักทะลุจอของโคอาลาก็ทำให้ใครต่อใครที่มีโอกาสไปเยือนออสเตรเลียทั้งทีจะต้องแวะไปทักทายและร่วมถ่ายภาพกับน้องโคอาลาตัวเป็น ๆ ให้ได้ และสิ่งที่จะต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านมาด้วยนั่นก็คือตุ๊กตาหมีโคอาลาค่ะ ตุ๊กตาหมีโคอาลาก็ถือว่าน่ารักไม่แพ้กับน้องโคอาลาตัวจริง ๆ เลยค่ะ แถมยังมีขนที่ฟูและมีหลากหลายขนาดให้เลือกอีกด้วยเหมาะสำหรับซื้อกลับเป็นของฝากมาก ๆ เลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วก็อย่าลืมเลือกตุ๊กตาหมีที่มีมาตรฐานในการผลิตเพื่อให้ได้ตุ๊กตาที่มีคุณภาพแล้วอีกอย่าง อย่าลืมตรวจสอบวัสุดที่ใช้ในการผลิตด้วย แนะนำว่าให้เลือกวัสดุที่ไม่มีสารก่อภูมิแพ้ก็จะดีที่สุดนะคะ
8. หมวก Cork hat

มาต่อกันที่อย่างหนึ่งของที่ระลึกซึ่งของชิ้นนี้ก็มีความพิเศษมาก ๆ เพราะว่ามันจะสามารถที่จะเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นชาวออสซี่ในพริบตาเดียว ซึ่งของชิ้นนี้ก็คือหมวกหน้าตาแปลก ๆ อันนี้นั่นเอง ซึ่งเรามาทำความรู้จักกับหมวกประเภทนี้ก็เลย หมวกที่ทุกคนเห็นอยู่นี้มีชื่อเรียกว่า ‘Cork hat’ เป็นหมวกปีกกว้างแบบทั่ว ๆ ไป แต่ที่พิเศษและแตกต่างออกไปคือหมวกประเภทนี้จะมีจุกไม้ก็อกที่ถูกแขวนไว้กับเชือกและถูกยึดติดไว้กับปีกของหมวกห้อยต่องแต่งแกว่งไปมานั่นเองค่ะ โดยเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพื่อความเก๋ไก๋อะไรหรอกนะคะ แต่เพื่อเป็นกันไล่แมลงไม่ให้เกาะตามใบหน้าหรือจมูกยังไงล่ะทุกคน
เนื่องจากในพื้นที่ชนบทห่างไกลของออสเตรเลีย เช่น Uluru, Kings Canyon, Lake Eyre หรือ Balladonia ในวันที่อากาศร้อนมาก ๆ นั้นก็จะมีพวกแมลงเยอะสุด ๆ ซึ่งการจะใช้มือปัดอยู่ทุก ๆ ห้านาทีก็คงไม่ไหวหรอกนะคะ แถมยังไล่พวกมันออกไปไม่ได้ ไล่ไปก็บินกลับมาอีกทุกครั้ง แน่นอนค่ะว่าสิ่งที่ตามมาคือความรำคาญและความหงุดหงิดทำให้ชาวออสซี่เลยคิดค้นหมวก Cork hat ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งหมวกประเภทจะว่าไปก็ดูเก๋ดีนะ ใส่ถ่ายรูปเช็กอินก็ได้อารมณ์แบบชาวออสซี่ดีแท้ อิอิ
9. ช็อกโกแลตบิสกิต Tim Tam

ขอพักเติมความหวานกันสักครู่ด้วย Tim Tam ช็อกโกแลตบิสกิตที่เป็นที่โปรดปรานของชาวออสซี่และเป็นของหวานที่ขายดีมาก ๆ เลยล่ะค่ะ โดย Tim Tam ถูกนำมาวางขายและเป็นที่รู้จักของชาวออสซี่ตั้งแต่ 1964 นู้นเลยค่ะ ซึ่งในปัจจุบันก็มี Tim Tam ให้เลือกกันหลากหลายรสชาติมาก ๆ ทั้งรสคาราเมล, คาร์ก, ดับเบิลโค้ตช้อกโกแลต, ออริจินอล และอีกมากมาย
ต้องบอกเลยว่า Tim Tam จากออสเตรเลียนั้นแตกต่างจากทั้งของฝั่งอเมริกาหรือแบบที่เราเคยกินอย่างแน่นอนค่ะ เพราะของแท้จากออสเตรเลียนั้นทั้งเข้มข้น หวานหอม และมีรสชาติที่อร่อยมาก ๆ คือใครที่เป็นแฟนคลับก็น่าจะแยกความแตกต่างของแต่ละประเทศได้ดีซึ่งต้องยอมรับเลยว่าของแท้ส่งตรงจากทางฝั่งออสเตรเลียคือยืนหนึ่งจริง ๆ
Tim Tam คือบิสกิตกรุบกรอบ สอดไส้ครีม และเคลือบช็อกโกแลตแท้ ๆ ที่ทานเมื่อไหร่ก็อร่อย แต่สำหรับชาวออสซี่แล้วจะมีวิธีการทานที่พิเศษและทำให้ Tim Tam อร่อยขึ้นหลายเท่าเลยค่ะ ก่อนอื่นเลยก็ต้องเตรียมเครื่องดื่มกันก่อน โดยอาจจะเลือกเป็นกาแฟร้อน, ชา หรือช็อกโกแลตร้อนก็ได้ค่ะ จากนั้นก็หยิบ Tim Tam ขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วให้กัดปลายแต่ละด้านเพื่อเปิดเป็นช่องสำหรับใช้ดูด นำปลายข้างหนึ่งจุ่มลงไปในเครื่องดื่มจากนั้นก็ให้ดูดที่ปลายอีกด้านหนึ่ง คือเอาง่าย ๆ ว่าใช้ Tim Tam แทนหลอดดูดนั่นเอง แต่ทันทีที่เครื่องดื่มเริ่มสัมผัสกับเนื้อของขนมมันจะค่อย ๆ ยุบตัวลง ดังนั้นให้ดูดอย่างไว และเมื่อเครื่องดื่มเข้าไปยังปากของคุณแล้วก็ให้รีบหม่ำ Tim Tam ทั้งชิ้นทันที รับรองว่าฟินแน่นอนค่ะงานนี้ ต้องลองให้ได้นะทุกคน
10. Charm Pandora จากออสเตรเลีย

ทุกคนต่างก็มีวิธีการเก็บความทรงจำของช่วงเวลาแห่งความสุขที่แตกต่างกันออกไป และสำหรับบางคนที่ชื่นชอบในเครื่องประดับของ Pandora เองก็คงหนีไม่พ้นการบันทึกความทรงจำผ่านเลือกชาร์มหรือจี้ประดับนั่นเองค่ะ โดยชาร์มจากออสเตรเลียนั้นก็ไม่ธรรมดาเพราะว่าเป็นชาร์มที่ออกแบบมาพิเศษไม่ว่าจะเป็นชาร์มรูป Sydney Opera House ที่เป็นทั้งสัญลักษณ์และภาพจำของมหานครซิดนีย์ หรือว่าจะเป็นสัตว์ประจำชาติออสเตรเลียอย่างจิงโจ้หรือโคอาลาเองก็มีให้คุณได้เลือกเช่นเดียวกัน
ถึงแม้ว่าจะชาร์มจะเป็นจี้ประดับที่คุณสามารถหาซื้อได้แม้ในประเทศไทยก็จริง แต่ถ้าหากเป็นชาร์มที่ถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะตัวเช่นนี้ มันก็เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจให้คุณได้หวนคิดถึงเรื่องราวของความสุข รอยยิ้ม และความทรงจำในประเทศออสเตรเลียได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะและนอกจากคุณจะซื้อชาร์มเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้กับตัวเองแล้ว คุณก็ยังจะสามารถซื้อชาร์มเพื่อมอบเป็นของขวัญชิ้นพิเศษให้กับคนพิเศษด้วยก็ได้นะคะ
11. ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังจากจิงโจ้
ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังอยู่แล้วละก็ คงจะพลาดไม่ได้ที่จะสอยเครื่องหนังที่ทำจากหนังจิงโจ้มาครอบครองหรอกนะคะ โดยในออสเตรเลียนั้นนอกจากเนื้อจิงโจ้จะเป็นที่นิยมแล้วหนังก็ยังสามารถนำมาทำเป็นกระเป๋าสตางค์, เข็มขัด, หมวก, กระเป๋า, รองเท้า และอื่น ๆ อีกได้หลากหลายอย่าง
โดยหนังจิงโจ้นั้นสามารถทำให้สิ่งของเครื่องใช้นั้นดูสวยงามและดูหรูหรามาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ หนังจิงโจ้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายอย่างเลยทีเดียวซึ่งจุดเด่นของหนังจิงโจ้ที่ทุกคนพูดถึงนั่นก็คือจะเป็นหนังที่มีความแข็งแรงสูง มีอายุการใช้งานที่นานแต่มีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่นได้ดี
อีกทั้งหนังจิงโจ้เองก็ยังมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวเมื่อเทียบกับหนังประเภทอื่น ด้วยสัมผัสและความรู้สึกที่แปลกใหม่ในการใช้งาน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เองค่ะที่ทำให้หนังจิงโจ้กลายเป็นหนังอีกหนึ่งประเภทที่เป็นที่ต้องการสูง ซึ่งใครที่มีโอกาสเดินทางไปถึงประเทศที่เป็นแหล่งผลิตหนังจิงโจ้ทั้งทีก็อย่าลืมซื้อกลับมาเป็นของฝากติดไม้ติดมือกันด้วยนะคะ
5 Fun Fact เกี่ยวกับออสเตรเลีย
1. ขนของโคอาลาก็ไม่ได้นุ่มอย่างที่เราคิด
ถึงแม้ว่าโคอาลาจะเป็นสัตว์ที่ดูน่ารักน่าชังและยังมีขนปุกปุยดูนิ่มฟูน่ากอดนั้น จริง ๆ แล้วขนของเจ้าโคอาลาไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนอย่างที่คุณคิดแน่นอนค่ะ แต่ขนของโคอาลานั้นจะค่อนข้างหนา ไม่ได้แข็งมากแต่ก็ไม่ได้นิ่มมากเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อมีไว้ป้องกันโคอาลาจากอากาศหนาวและอากาศร้อนนั่นเองค่ะ
2. โคอาลาไม่ใช่หมี
แม้ว่าบางคนจะเข้าใจผิดว่าโคอาลาเป็น “หมี” แต่โคอาลาเป็นสัตว์จำพวกมาร์ซูเพียล (marsupial) คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีกระเป๋าหน้าท้องนั่นเองค่ะ โดยความเข้าใจผิดว่าโคอาลาเป็นหมีนั่นก็อาจจะมาจากชาวยุโรปที่เดินทางมายังออสเตรเลียและมักจะเรียกโคอาลาติดปากว่า Koala bear หรือบางคนอาจจะเรียกว่าน้องหมีโคอาลา แต่ในความจริงแล้วน้องไม่ได้เป็นหมีนะคะทุกคน
3. จิงโจ้อาจไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
ในบางครั้งจิงโจ้ก็เป็นสัตว์ที่อาจเป็นอันตรายได้ค่ะ โดยเฉพาะจิงโจ้ตัวผู้เพราะจะมีขาหลังที่แข็งแรงมาก ๆ และก็ยังมีกรงเล็บอันทรงพลังที่ทั้งยาวและคม สามารถสร้างความเสียหายและทำให้คู่ต่อสู้เกิดการบาดเจ็บได้ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามจิงโจ้มักจะเป็นสัตว์ที่เชื่องและจะโจมตีหรือแสดงท่าทีดุร้ายก็ต่อเมื่อถูกยั่วยุหรือเมื่อลูก ๆ ของพวกมันถูกคุกคามเท่านั้น ถึงแม้จิงโจ้จะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศแต่ก็สามารถนำเนื้อมาทำอาหารและนำหนังส่งไปทำเป็นเครื่องหนังได้ค่ะ
นอกจากนี้จำนวนประชากรจิงโจ้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจทำให้เกิดความไม่สมดุลในธรรมชาติได้ ดังนั้นรัฐบาลออสเตรเลียเลยอนุญาตให้ผู้ที่ถือใบอนุญาตสามารถล่าจิงโจ้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่กำหนดไว้ด้วยค่ะ

4. ออสเตรเลียมีหิมะ
ส่วนใหญ่แล้วภาพของออสเตรเลียที่เราเห็นกันคุ้นตานั่นก็คือภาพของเมืองใหญ่, ชายหาด หรือสัตว์ป่า แต่เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นภาพของหิมะกันเท่าไหร่นัก จริง ๆ แล้วออสเตรเลียก็เป็นอีกหนึ่งประเทศค่ะที่มีหิมะเช่นกัน แถมยังมีหิมะที่เยอะมาก ๆ จนสามารถเล่นกีฬาหน้าหนาวได้เลย แต่ก็ไม่ใช่ทุกที่จะมีหิมะเสมอไปหรอกนะคะ แต่คุณจะสามารถพบเห็นหิมะได้ในบางพื้นที่เท่านั้นซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ตามพื้นที่สูง ๆ อย่างบนเทือกเขาสโนวี่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์, ภูมิภาคแอลป์ของรัฐวิกตอเรีย และบริเวณที่เป็นภูเขาของแทสเมเนีย
5. ซิดนีย์ไม่ใช่เมืองหลวงของออสเตรเลีย
ซิดนีย์ถือว่าเป็นเมืองแรก ๆ ที่หลาย ๆ คนมักจะนึกถึงหากว่าพูดชื่อประเทศออสเตรเลีย แต่บอกเลยค่ะว่าซิดนีย์ไม่ใช่เมืองหลวงของออสเตรเลียหรอกนะคะ อ้าว…มาถึงตรงนี้หลาย ๆ คงจะเปลี่ยนมาตอบว่าเมลเบิร์นสินะ ซึ่งเมลเบิร์นก็ยังเป็นคำตอบที่ผิดค่ะ ในความจริงแล้วเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียก็คือ ‘แคนเบอร์รา’ นั่นเองค่ะ
หลาย ๆ ก็คงอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเมืองหลวงกันมากเท่าไหร่หรืออาจจะคุ้น ๆ หูอยู่บ้าง โดยเหตุผลที่แคนเบอร์ราได้เป็นเมืองหลวงของออสเตรเลียก็เพราะแต่เดิมนั้นแต่ละเมืองต่างก็ต้องการที่จะเป็นเมืองหลวงของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซิดนีย์และเมลเบิร์นแต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ สุดท้ายแล้วตำแหน่งของเมืองหลวงเลยตกมาอยู่ที่แคนเบอร์รา เนื่องจากแคนเบอร์ราตั้งอยู่ที่จุดกึ่งกลางระหว่างซิดนีย์และเมลเบิร์นพอดิบพอดี จึงถือเป็นศูนย์กลางของการบริหารงานของประเทศนั่นเองค่ะ
และนั่นก็คือเรื่องราวและความน่าสนใจทั้งหมดของประเทศออสเตรเลียที่เราหยิบมาฝากกันค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะเห็นอย่างนี้แล้วมีใครอยากลองไปเที่ยวหรือลองไปใช้ชีวิตแบบชาวออสเตรเลียกันบ้างไหมเอ่ย ซึ่งถ้าใครสนใจก็ลองไปกันได้นะคะเพราะอย่างที่บอกไปว่าตอนนี้ออสเตรเลียกำลังอ้าแขนรับนักท่องเที่ยวทุกคนอยู่นะคะ เพียงแค่คุณฉีดวัคซีนให้ครบตามที่กำหนด จากนั้นก็เตรียมยื่นวีซ่าแล้วก็เตรียมบินลัดฟ้าไปหาเจ้าโคอาลาได้เลย
แต่อย่างไรก็ดีขากลับอย่าลืมแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับมาไทยด้วยนะคะ หวังว่าของฝากทั้ง 11 อย่างที่เราได้นำเสนอไปในวันนี้คงจะเป็นไอเดียให้คุณได้เลือกซื้อของฝากและของที่ระลึกได้ง่ายขึ้นนะคะทุกคน