แม้ว่าจะมีการพิสูจน์แล้วว่าการลดน้ำหนักที่ได้ผลอย่างแท้จริง คือการทานอาหารที่มีประโยชน์ที่ให้สารอาหารครบถ้วนและการออกกำลังกาย แต่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหรือกิจวัตประจำวันที่เราทำเป็นประจำหรือที่เรากินทุก ๆ วันนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเมื่อคุณต้องการเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจัง คุณอาจจะต้องการตัวช่วยในการทำให้เห็นผลก่อนเพื่อเป็นกำลังใจในการลดระยะยาวอย่างผลิตภัณฑ์ “อาหารเสริมลดน้ำหนัก” หรือ “อาหารเสริมคุมน้ำหนัก” นั้นจึงดูมีความเป็นได้ที่คุณจะให้ความสนใจ เพราะมันง่ายต่อการลดน้ำหนักโดยไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองมากนัก เน้นค่อย ๆ ปรับไปทีละนิด แต่คุณอาจจะมีข้อสงสัยว่ามันมันจะได้ผลจริง ๆ หรือแค่มโนอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงไปรึเปล่า? และทำไมอาหารเสริมเหล่านี้ถึงกลายมาเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก? วันนี้เรามีคำตอบมาเฉลยให้ทุกคนได้ทราบถึงข้อเท็จจริงกันค่ะ
อาหารเสริมลดน้ำหนัก เป็นอันตรายได้หรือไม่?
อาหารเสริมลดน้ำหนักก็เหมือนอาหารเสริมทุกชนิด อย่างเช่น อาหารเสริมวิตามินรวม, อาหารเสริมวิตามินบีรวม, อาหารเสริมคอลลาเจน, อาหารเสริมวิตามินซี, อาหารเสริมแคลเซียม หรืออาหารเสริมไฟเบอร์ ที่สามารถมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ หากคุณรับประทานเกินปริมาณที่ไม่เหมาะสม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานค่ะ
อีกทั้งโปรดระมัดระวังคำอวดอ้างอาหารเสริมลดน้ำหนักที่ว่าเป็น “ยาลดน้ำหนักวิเศษ”, “ช่วยละลายไขมันในร่างกายโดยไม่ต้องทำอะไร” และ “ลดน้ำหนักโดยที่รับประทานอาหารเท่าเดิมแต่ไม่ต้องออกกำลังกาย” หากการอวดอ้างเหล่านั้น ฟังดูดีเกินจริง ก็อาจเป็นไปได้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ อาจไม่ช่วยให้คุณลดน้ำหนัก แถมอาจเป็นอันตรายอีกด้วยนะคะ
ส่วนผสมในอาหารเสริมลดน้ำหนัก
1. สารสกัดจากส้มแขก หรือ Garcinia Cambogia
จากการศึกษาทดลองกับสัตว์ แสดงให้เห็นว่าสามารถยับยั้งเอนไซม์ที่ผลิตไขมันในร่างกาย และเพิ่มระดับของเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งอาจช่วยลดความอยากลงได้ (3) ค่อนข้างปลอดภัย แต่หากทานในปริมาณที่สูง อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้

สารสกัดจากส้มแขก หรือ Garcinia cambogia อาจทำให้น้ำหนักลดลงเล็กน้อย และสำหรับเอฟเฟกต์หรือด้านความปลอดภัยนั้นเล็กน้อยมากค่ะ ถือว่ามีความปลอดภัยอยู่ค่ะ (1, 2)
2. คาเฟอีน
คาเฟอีนเป็นสารออกฤทธิ์ทางจิตที่บริโภคกันมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็น กาแฟซองสำเร็จรูป, กาแฟกระป๋อง, กาแฟแคปซูล, ชาเขียว และช็อคโกแลต (ผงโกโก้) คาเฟอีนนั้นเป็นตัวเร่งการเผาผลาญที่รู้จักกันดี ทำหน้าที่เป็นยาขับปัสสาวะ และมักจะถูกเพิ่มเข้าไปในอาหารเสริมลดน้ำหนักเชิงพาณิชย์ การศึกษาระยะสั้นแสดงให้เห็นว่าคาเฟอีนสามารถเพิ่มการเผาผลาญได้ 3-11% และเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ถึง 29% (4, 5)
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่แสดงว่าคาเฟอีนสามารถทำให้น้ำหนักลดลงเล็กน้อยในมนุษย์ (6, 7) แต่การบริโภคคาแฟอีนในปริมาณสูง อาจทำให้เกิดความวิตกกังวล นอนไม่หลับ กระวนกระวายใจ หงุดหงิด คลื่นไส้ ท้องเสียและอาการอื่น ๆ (คาเฟอีนเป็นสิ่งเสพติดและสามารถลดคุณภาพการนอนหลับของคุณได้) (2)

คาเฟอีนสามารถเพิ่มการเผาผลาญและเพิ่มการเผาผลาญไขมันในระยะสั้น ดังนั้นขอแนะนำให้คุณใช้คาเฟอีน เป็นเพียงทางเลือกสำหรับการลดน้ำหนักในช่วงแรก ไม่ควรจะพึ่งคาเฟอีนตลอดการลดน้ำหนัก
3. Orlistat หรือ Alli
Orlistat เป็นยาทางเภสัชกรรมมีขายตามร้านขายยา ที่อยู่ภายใต้ใบสั่งยา Xenical มันสามารถยับยั้งการสลายไขมันในลำไส้ทำให้คุณได้รับแคลอรี่จากไขมันน้อยลง อีกทั้งยังลดความดันโลหิตเล็กน้อย และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ 37% (8, 9) หากทานในปริมาณที่สูงอาจจะมีผลข้างเคียงอาการท้องอืด, การขับถ่ายบ่อยครั้ง ซึ่งยากต่อการควบคุม นอกจากนี้ยังอาจนำไปสู่การขาดวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่นวิตามิน A, D, E และ K
Orlistat หรือที่เรียกว่า Alli หรือ Xenical สามารถลดปริมาณไขมันที่ร่างกายดูดซึมจากอาหาร และช่วยลดน้ำหนักได้ มันมีผลข้างเคียงมากมาย ซึ่งคุณจะต้องระวังอย่างมาก
4. คีโตนราสเบอร์รี่ หรือ Raspberry Ketone
ราสเบอร์รี่คีโตนเป็นสารที่พบในราสเบอร์รี่สีแดง (Rubus idaeus) มักนิยมนำมาสังเคราะห์ขายเป็นอาหารเสริมลดน้ำหนัก คีโตนราสเบอร์รี่มันจะช่วยการสลายไขมัน ยับยั้งการสะสมไขมัน และเพิ่มระดับของฮอร์โมนที่เรียกว่า Adiponectin ซึ่งเชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานว่าราสเบอร์รี่คีโตนทำให้มนุษย์ลดน้ำหนักได้ แต่ก็มีการศึกษาของสัตว์ทดลองโดยหนูที่แสดงให้เห็นว่าใช้ลดน้ำหนัดได้จริง และไม่มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง (2, 10)

5. สารสกัดเมล็ดกาแฟเขียว
เมล็ดกาแฟสีเขียวเป็นเมล็ดกาแฟธรรมดาที่ไม่ได้คั่ว โดยมีสารสองอย่างที่เชื่อว่าช่วยลดน้ำหนักได้ คือ คาเฟอีนและกรดคลอโรจีนิก คาเฟอีนสามารถเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ส่วนกรดคลอโรจีนิกสามารถชะลอการสลายคาร์โบไฮเดรตในลำไส้ และการศึกษาของมนุษย์หลายคนแสดงให้เห็นว่าสารสกัดเมล็ดกาแฟเขียวสามารถช่วยให้คนลดน้ำหนักได้ (11) สารสกัดเมล็ดกาแฟเขียว อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และลดความดันโลหิต นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง สำหรับผลข้างเคียงมันสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่นเดียวกับคาเฟอีน และกรด Chlorogenic ในนั้น อาจทำให้ท้องเสียสำหรับคนที่อาจแพ้เมล็ดกาแฟสีเขียวได้ (2)

6. กลูโคแมนแนน หรือ Glucomannan
Glucomannan หรือที่เรียกว่าบุก มันจะทำงานโดยการดูดซับน้ำและกลายเป็นเหมือนเจลอยู่ในลำไส้ของคุณ และทำให้คุณรู้สึกอิ่ม เพราะการดูดซับน้ำในทางเดินอาหาร มันจึงช่วยให้คุณกินอาหารได้น้อยลง การศึกษาของมนุษย์สามคนแสดงให้เห็นว่ากลูโคแมนแนนรวมกับอาหารเพื่อสุขภาพสามารถช่วยให้ผู้คนลดน้ำหนักได้ 3.6-4.5 กิโลกรัม ใน 5 สัปดาห์ (12)
Glucomannan เป็นเส้นใยที่เป็นมิตรต่อลำไส้ นอกจากนี้ยังสามารถลดน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอลในเลือด และลดไตรกลีเซอไรด์ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพช่วยอาการท้องผูก สำหรับผลข้างเคียงนั้น สามารถทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และอุจจาระนิ่ม (2)
7. สารสกัดจากชาเขียว
สารสกัดจากชาเขียวเป็นส่วนผสมที่นิยมในอาหารเสริมลดน้ำหนักมากมาย เนื่องจากการศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าสารต้านอนุมูลอิสระหลัก ๆ ใน Epigallocatechin gallate (EGCG) สามารถช่วยในการเผาผลาญไขมันได้ ลดการสร้างไขมัน และลดการดูดซึมไขมัน โดยมันจะช่วยเพิ่มการทำงานของ Norepinephrine ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญไขมัน การศึกษาโดยทดลองกับมนุษย์จำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าสารสกัดจากชาเขียว สามารถเพิ่มการเผาผลาญไขมัน และทำให้เกิดการสูญเสียไขมันโดยเฉพาะในพื้นที่หน้าท้อง (13, 14, 15)
การดื่มชาเขียวนั้นปลอดภัย แต่การสกัดจากชาเขียวอาจไม่ใช่ หากรับประทานในปริมาณที่สูงเกินไป สารสกัดจากชาเขียวอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ และความดันโลหิตเพิ่มขึ้น (2)
8. กรดคอนจูเกเตดไลโนเลอิก หรือ Conjugated Linoleic Acid (CLA)
Conjugated linoleic acid หรือ CLA เป็นอาหารเสริมลดความอ้วนที่ได้รับความนิยมมานานหลายปี จากการศึกษา CLA ทำให้น้ำหนักลดลงประมาณ 0.1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ได้นานสูงสุด 6 เดือน (16) อย่างไรก็ตาม CLA เป็นอาหารเสริมลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ แต่อาจมีผลร้ายในระยะยาว การลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อยนั้นไม่คุ้มกับความเสี่ยง
9. ฤาษีผสม (Coleus Forskohlii) หรือ Forskolin
Forskolin เป็นสารสกัดจากพืชในในเขตร้อน อาทิเช่นอินเดียและไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลดน้ำหนัก โดยการเพิ่มการสลายไขมัน และลดความอยากอาหาร ในการทดลองแบบสุ่มผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน 19 คน เมื่อทาน Forskolin มันช่วยลดไขมันในร่างกายได้อย่างมีนัยสำคัญประมาณ 4% แต่ในเรื่องของผลข้างเคียงหรือความปลอดภัยนั้น จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมในการใช้งานทั้งระยะสั้นและระยะยาว (2) หากคุณยังไม่แน่ใจในการข้อมูลตอนนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารเสริมตัวนี้ จนกว่าจะมีการวิจัยเพิ่มเติม
10. สารสกัดส้มขม หรือ Bitter Orange
สารสกัดส้มขม มันสามารถลดความอยากอาหารและเพิ่มการเผาผลาญไขมันอย่างดี แต่ก็มีผลข้างเคียงหากรับประทานในปริมาณที่สูง อาทิเช่น อาการเจ็บหน้าอก, ปวดหัว, เกิดความวิตกกังวล, อัตราการเต้นของหัวใจสูง, ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก, หลอดเลือดสมองตีบ, กล้ามเนื้อหัวใจตาย, และอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ (2)
แม้ว่าสารสกัดส้มขมอาจเป็นผลดีต่อการลดน้ำหนักในระยะสั้น อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงก็อาจจะส่งผลร้ายแรงได้ในระยะยาวหรือหากคุณทานในปริมาณที่สูงเกินไป ดังนั้นควรใช้ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งในการทานอาหารเสริมสารสกัดส้มขม (2)
ส่วนผสมต้องห้ามสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
1. Ephedra หรือ อีเฟรดา (1, 2)
เป็นพืชที่มีสารบางอย่างที่สามารถกระตุ้นระบบประสาทของคุณ เพราะเหตุใดจึงนิยมแอบใส่ในยาลดความอ้วนแบบผิด ๆ เพราะมันเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมัน ทำให้คุณสูญเสียน้ำหนักรวดเร็ว อีกทั้งยังลดความอยากอาหาร มันมีประสิทธิภาพพอประมาณสำหรับการลดน้ำหนักระยะสั้น (6 เดือนหรือน้อยกว่า) แต่ไม่มีการศึกษาประเมินผลระยะยาวของพวกเขา ในปี 2533 เอเฟดดราเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จำหน่ายเพื่อการลดน้ำหนัก แต่ในปี 2547 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ได้มีการสั่งห้ามอีเฟดราในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยให้ข้อสรุปว่ามันไม่ปลอดภัย
ผลข้างเคียง Ephedra อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้, อาเจียน, วิตกกังวล, การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์, ความดันโลหิตสูง, การเต้นของหัวใจผิดปกติ, อาการชัก, หัวใจวายและการเสียชีวิตในที่สุด
2. Sibutramine หรือ ไซบูทรามีน (17)
เป็นยาที่ใช้ในการรักษาของโรคอ้วน ต้องใช้ควบคู่พร้อมกับการออกกำลังกาย ทำให้หิวน้อยลง และรู้สึกอิ่มนานขึ้น ปัจจุบันมีการเพิกถอนออกจากไม่ให้ใช้ในผลิตอาหารเสริมลดน้ำหนัก เพราะมีผลข้างเคียงร้ายแรงมากกว่าประโยชน์ อาทิเช่น คลื่นไส้, อาเจียน, รู้สึกสับสน, วิตกกังวล มีอาการใจสั่น, หัวใจเต้นเร็ว, ความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดหัวใจวาย และทำให้เสียชีวิตได้
3. Diuretics หรือ ยาขับปัสสาวะ (18)
ยาขับปัสสาวะที่ใช้ในการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว, โรคตับแข็ง, ความดันโลหิตสูง, โรคไข้หวัดใหญ่, พิษน้ำและบางโรคที่เกี่ยวกับไต แต่บางครั้งก็เอามาใช้ทางที่ผิดอย่างใช้ในอาหารเสริมหรือยาลดน้ำหนักแทน ซึ่งหากได้รับในปริมาณมาก ๆ อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรุนแรง และทำให้เสียชีวิตได้
4. Fluoxetine หรือ ยาฟลูออกซิทีน (19)
Fluoxetine หรือ ยาฟลูออกซิทีน จัดเป็นยาอันตรายต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ ใช้สำหรับการรักษาความผิดปกติที่สำคัญซึมเศร้า หรือโรคความผิดทางจิต โรคตื่นตระหนกเป็นต้น ซึ่งมีผลข้างเคียง อาหารไม่ย่อย, ปัญหาการนอนหลับ, ความเสื่อมของสมรรถภาพทางเพศ, ปากแห้ง และไม่อยากทานอาหาร นั่นจึงเป็นช่องทางที่ทำให้คนที่ไม่หวังดีนำไปใส่ในยาลดน้ำหนัก
เราใช้เกณฑ์ในการเลือกสินค้าโดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมไปถึงยอดขายและรีวิวของผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ก่อนซื้อแนะนำในอ่านฉลากส่วนประกอบต่าง ๆ รวมไปถึงปรีกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร
* เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน *
อาหารเสริมลดน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี?
![]() Clover Plus: L-carnitine and inulin complex | ![]() Apple Herb Detox | ![]() Gold Princess: Capsicum Plus | ![]() VENISTA DETOX (เวนิสต้า ดีทอกซ์) | ![]() Dago Green ดาโกกรีน | ![]() Real Elixir Chitosan 500mg | ![]() Mc.plus แม็คพลัส แอคทิฟ |
สรุปสั้น ๆ ส่วนผสมในอาหารเสริมลดน้ำหนัก ส่วนใหญ่มีอะไรบ้าง? (1, 2)
ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนักที่เราจะอธิบายบอกต่อไปนี้ จะทำให้คุณได้ทราบว่าส่วนผสมแต่ละอย่างมีสรรพคุณและการใช้งานอย่างไรบ้าง มันมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด และจะช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่
ส่วนผสม | การทำงาน | มีความปลอดภัยไหม |
สารสกัดเมล็ดมะม่วงแอฟริกัน (African mango) | อ้างว่าเพื่อลดการก่อตัวของเนื้อเยื่อไขมัน แต่อาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้น้อยมาก | หากทานในปริมาณที่สูง อาจมีอาการปวดหัว,การนอนหลับยาก,ท้องอืด |
เบต้ากลูแคน (Beta Glucan) | อ้างว่าทำให้คุณรู้สึกอิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเบต้ากลูแคนจะไม่มีผลต่อน้ำหนักตัว | ทานในปริมาณที่สูงสามารถทำให้ท้องอืด |
สารสกัดส้มขม (Bitter Orange) | ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ เพิ่มการสลายไขมัน และลดความอยากอาหารลงเล็กน้อย | หากทานในปริมาณที่สูง อาจจะมีอาการเจ็บหน้าอก, วิตกกังวล, ปวดหัว, ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก, อัตราการเต้นหัวใจได้เร็วขึ้น, ความดันโลหิตสูงขึ้น |
คาเฟอีน | สารกระตุ้นที่ทำให้คุณตื่นตัว เพิ่มพลังงานเผาผลาญแคลอรี่และสลายไขมัน ซึ่งอาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ | หากทานในปริมาณที่สูง อาจมีอาการคลื่นไส้, อาเจียน, หัวใจเต้นเร็ว และชัก |
แคลเซียม | เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อ กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นประสาท แต่ไม่ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ | หากทานในปริมาณที่สูง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไต |
แคปไซซิน (Capsaicin) | อ้างว่าช่วยเผาผลาญไขมันและแคลอรี่ ให้คุณรู้สึกอิ่มและกินน้อยลง แต่ก็ยังยังไม่ได้รับการศึกษามากพอที่จะรู้ว่ามันจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้หรือไม่ | หากทานในปริมาณที่สูง เกิดอาการปวดท้อง รู้สึกแสบร้อน คลื่นไส้ และท้องอืด |
คาร์นิทีน (Carnitine) | อาหารเสริม Carnitine อาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เล็กน้อยจากการช่วยสลายไขมัน | หากทานในปริมาณที่สูง อาจเกิดอาการคลื่นไส้, อาเจียน, ท้องร่วง, ปวดท้อง |
ไคโตซาน (Chitosan) | ช่วยดักจับไขมันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้มาก | หากทานในปริมาณที่สูง อาจทำให้ท้องอืด,ท้องผูก, อาหารไม่ย่อย |
โครเมียม (Chromium) | อาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักและไขมันในร่างกาย และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ได้เล็กน้อย | หากทานในปริมาณที่สูง อาจทำให้มีอุจจาระเป็นน้ำ, ปวดศีรษะ,อ่อนเพลีย,คลื่นไส้อาเจียน,ท้องผูก |
ฤาษีผสม (Coleus Forskohlii) | หรือ Forskolin อ้างว่าลดความอยากอาหารและเพิ่มการสลายไขมันในร่างกาย แต่ยังไม่ได้รับการศึกษามากนัก แต่ดูเหมือนดูเหมือนว่าจะไม่มีผลต่อน้ำหนักตัวหรือความอยากอาหาร | ดูเหมือนจะปลอดภัย (ยังไม่ได้รับการศึกษามากนัก) |
กรดคอนจูเกเตดไลโนเลอิก (CLA) | อ้างว่าลดไขมันในร่างกายได้ ซึ่งอาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักและไขมันในร่างกายได้เล็กน้อย | มันสามารถทำให้ปวดท้องท้องผูกท้องเสีย และอาหารไม่ย่อยได้ |
สกัดสารฟูโคแซนทีน (Fucoxanthin) | อ้างว่าช่วยลดน้ำหนักโดยการเผาผลาญแคลอรี่และลดไขมัน แต่ยังไม่ได้รับการศึกษามากพอที่จะหาข้อสรุป | แต่ก็ยังไม่ได้รับการศึกษามากพอที่จะรู้ได้อย่างแน่นอน |
ส้มแขก (Garcinia cambogia) | อ้างว่าช่วยลดจำนวนเซลล์ไขมันใหม่ที่ร่างกาย ลดความอยากอาหาร ซึ่งมีผลเพียงเล็กน้อยต่อการลดน้ำหนัก | ค่อนข้างปลอดภัย แต่หากทานในปริมาณที่สูง อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ |
กลูโคแมนแนน (glucomannan) | อ้างว่าดูดซับน้ำในลำไส้เพื่อช่วยให้คุณรู้สึกอิ่ม มีผลเพียงเล็กน้อยต่อการลดน้ำหนัก แต่มันอาจช่วยลดโคเลสเตอรอลรวม | ส่วนใหญ่ดูเหมือนจะปลอดภัย แต่หากทานในปริมาณที่สูงอาจทำให้ท้องอืด ท้องเสีย ท้องผูก และไม่สบายท้อง |
สารสกัดจากเมล็ดกาแฟเขียว | อ้างว่าลดการสะสมไขมันและช่วยแปลงน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน ซึ่งอาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เล็กน้อย | ดูเหมือนจะปลอดภัย แต่หากทานในปริมาณที่สูงอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวและการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ |
สารสกัดชาเขียว | อ้างว่าช่วยลดน้ำหนักโดยการเพิ่มแคลอรี่ที่ร่างกายเผาผลาญ ช่วยทำลายเซลล์ไขมัน ลดการดูดซึมไขมัน ซึ่งช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เล็กน้อย | การดื่มชาเขียวนั้นปลอดภัย แต่การสกัดจากชาเขียวอาจไม่ใช่ สารสกัดจากชาเขียวอาจทำให้เกิดอาการท้องผูก ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ และความดันโลหิตเพิ่มขึ้น |
Guar gum | อ้างว่าทำให้คุณรู้สึกอิ่ม ลดความอยากอาหาร แต่อาจไม่ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ | แต่หากทานในปริมาณที่สูงอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย คลื่นไส้ และตะคริว |
Hoodia | อ้างว่ายาระงับความอยากอาหาร ยังไม่มีการวิจัยเกี่ยวกับ hoodia มากนัก แต่อาจช่วยให้คุณกินน้อยลงหรือลดน้ำหนักได้ | Hoodia อาจไม่ปลอดภัย มันสามารถทำให้เกิดอัตราการเต้นหัวใจอย่างรวดเร็ว, ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น, ปวดหัว, เวียนศีรษะ, คลื่นไส้, และอาเจียน |
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) | ที่ช่วยบำรุงรักษาหรือฟื้นฟูแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในทางเดินอาหารของคุณ แต่ไม่ชัดเจนว่าอาหารเสริมโปรไบโอติกจะมีผลต่อน้ำหนักหรือไขมันในร่างกายหรือไม่ | ปรไบโอติกมีความปลอดภัย แต่อาจทำให้เกิดก๊าซหรือปัญหาระบบทางเดินอาหารอื่น ๆ |
Pyruvate | อ้างว่าเป็นการเพิ่มการสลายไขมัน ลดน้ำหนักตัว และไขมันในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เล็กน้อย | แต่หากทานในปริมาณที่สูงอาจทำให้อาการท้องร่วง ท้องอืด |
ราสเบอร์รี่ คีโตน (Raspberry ketone) | อ้างว่าเป็น “เผาผลาญไขมันได้ดี” คีโตนราสเบอร์รี่ได้รับการศึกษาเป็นช่วยลดน้ำหนักร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ แต่สำหรับราสเบอร์รี่ คีโตน เดี่ยว ๆ นั้นยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด | คีโตนราสเบอร์รี่ยังไม่ได้รับการศึกษามากพอที่จะบอกได้ว่ามันปลอดภัยหรือไม่ แต่เบื้องต้นนั้นยังไม่มีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง |
วิตามินดี | วิตามินดีไม่ได้ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ | แนะนำคือ 600-800 IU ต่อวัน |
โยฮิมบี (Yohimbe) | Yohimbe ไม่ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ | Yohimbe อาจไม่ปลอดภัย เพราะผลข้างเคียงอาจรุนแรง อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว ความดันโลหิตสูง ความวิตกกังวล หัวใจเต้นเร็ว หัวใจวาย หัวใจล้มเหลว และถึงแก่ความตาย |
การลดน้ำหนักด้วยวิธิอื่น ๆ
การลดน้ำหนักนั้นมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปมากมายหลายวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความสามารถและความต้องของผู้ที่ลดน้ำหนักเองด้วยว่าต้องการใช้วิธีไหน อาทิเช่น
- วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยการใช้หลักการโภชนาการด้วยการลดน้ำตาลและแป้ง, เน้นกินโปรตีน ไขมันดี อย่างน้ำมันมะกอก,น้ำมันมะพร้าว และทานผัก สุดท้ายคือการออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ง่าย ๆ ด้วยการยกน้ำหนักอย่างดัมเบล
- วิธีลดน้ำหนักลดน้ำหนักด้วยการทาน Keto ซึ่งเป็นการเน้นทานไขมัน 75% คาร์โบไฮเดรต 5% และโปรตีน 20%
- วิธีลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารแบบ IF 16:8 โดยการคุมอาหารซึ่งจะอดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมง และกินจะได้ในเวลา 8 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ยังสามารถดื่มน้ำเปล่า กาแฟดำ ชาสมุนไพรและชาเขียวได้ระหว่างที่อดอาหาร แต่จะต้องไม่ใส่น้ำตาลลงในเครื่องดื่มเป็นอันขาดนะคะ
- วิธีเน้นการฟิตหุ่นโดยออกกำลังกายเป็นหลัก ซึ่งเป็นการทานอาหารตามปกติ อาจจะหลีกเลี่ยงของทอด ของมัน และของหวาน แต่อย่าลืมที่ทานโปรตีนทดแทนหลังออกกำลังกายไปด้วยนะคะ อาทิเช่น เวย์โปรตีน, โปรตีนบาร์ หรือซุปไก่สกัดเข้มข้น เพื่อเป็นการทดแทนโปรตีนที่สูญเสียไปให้ร่างกายไม่ขาดโปรตีน
- อาหารทางเลือก เป็นการเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ทั้งยังคงความอร่อย โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทานแต่อาหารคลีนที่ไม่ผ่านการปรุงรสเสมอไป อาทิเช่นการใช้ หม้อทอดไร้น้ำมัน (หม้อทอดไร้น้ำมัน ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่)แทนการใช้น้ำมันทอด, ทานนมอัลมอนด์หรือนมถั่วเหลืองแทนนมวัว เป็นต้น
วิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก โดยไม่ต้องเสียเงินคือทำตามแผนหลักอาหารเพื่อสุขภาพโดยลดแคลอรี่ และออกกำลังกายเป็นประจำ ภายใต้คำแนะนำของผู้ให้บริการด้านสุขภาพ โบนัสของการการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตอาจจะช่วยทำให้คุณลดน้ำหนักได้และอาจลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคเบาหวานและโรคมะเร็งบางชนิดอีกด้วยนะคะ
นอกเหนือจากลดน้ำหนักไปแล้วคุณควรจะมีเครื่องชั่งน้ำหนักที่วัดไขมันและมวลร่างกาย ไว้ติดบ้าน เพื่อไว้คอยบอกรายละเอียดต่าง ๆ ที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับร่างกายของคุณ เพื่อใช้ในการลดน้ำหนักควบคู่ไปด้วยอย่างถูกต้อง
References :
- Dietary Supplements for Weight Loss Fact Sheet for Consumers
- Dietary Supplements for Weight Loss Fact Sheet for Health Professionals
- Safety and Mechanism of Appetite Suppression by a Novel Hydroxycitric Acid Extract (HCA-SX)
- Normal Caffeine Consumption: Influence on Thermogenesis and Daily Energy Expenditure in Lean and Postobese Human Volunteers
- Comparison of Changes in Energy Expenditure and Body Temperatures After Caffeine Consumption
- Relationship Between Basal Metabolic Rate, Thermogenic Response to Caffeine, and Body Weight Loss Following Combined Low Calorie and Exercise Treatment in Obese Women
- Body Weight Loss and Weight Maintenance in Relation to Habitual Caffeine Intake and Green Tea Supplementation
- Long-term Changes in Blood Pressure Following Orlistat and Sibutramine Treatment: A Meta-Analysis
- XENical in the Prevention of Diabetes in Obese Subjects (XENDOS) Study: A Randomized Study of Orlistat as an Adjunct to Lifestyle Changes for the Prevention of Type 2 Diabetes in Obese Patients
- Raspberry Ketone Increases Both Lipolysis and Fatty Acid Oxidation in 3T3-L1 Adipocytes
- The Effect of Chlorogenic Acid Enriched Coffee on Glucose Absorption in Healthy Volunteers and Its Effect on Body Mass When Used Long-Term in Overweight and Obese People
- Experiences With Three Different Fiber Supplements in Weight Reduction
- Effectiveness of Green Tea on Weight Reduction in Obese Thais: A Randomized, Controlled Trial
- The Effects of Green Tea on Weight Loss and Weight Maintenance: A Meta-Analysis
- The Effect of Caffeine, Green Tea and Tyrosine on Thermogenesis and Energy Intake
- Efficacy of Conjugated Linoleic Acid for Reducing Fat Mass: A Meta-Analysis in Humans
- Sibutramine
- Diuretics
- Fluoxetine