Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » อิเล็กทรอนิกส์ » สมาร์ทดีไวซ์ » รีวิว มือถือแอนดรอยด์ (Android) รุ่นไหนดีที่สุด ปี 2021

รีวิว มือถือแอนดรอยด์ (Android) รุ่นไหนดีที่สุด ปี 2021

สมาร์ทโฟน Android รุ่นที่ดี และคุ้มค่าที่สุด ในระดับราคาต่าง ๆ มีรุ่นอะไรน่าสนใจบ้างในปัจจุบัน ?

Zunkiflee Waesani โดย Zunkiflee Waesani , Palm PN
อัปเดตเมื่อ: August 24, 2021
ใน Android Phone
รีวิว มือถือแอนดรอยด์ (Android) รุ่นไหนดีที่สุด
Share on FacebookShare on Twitter

สารบัญ

  • สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ รุ่นไหนเหมาะกับคุณ ?
  • จุดเด่นของ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ มีอะไรบ้าง ?
    • 1. การจัดการตัวเครื่อง และการจัดการระบบของตัวเครื่อง
    • 2. สเปคเครื่องที่แรงเกินราคา
    • 3. เทคโนโลยีการชาร์จไว
    • 4. มีแอปพลิเคชั่นที่หลากหลาย และสามารถติดตั้งจากภายนอกได้
  • Vivo V21 (5G) (8GB/128GB)
  • OPPO Reno4 Pro 5G (12GB/256GB)
  • Samsung Galaxy A72 (8GB/128GB)
  • OnePlus 9R 5G (12GB/256GB)
  • OPPO Find X3 Pro (12GB/256GB)
  • Xiaomi Mi 11 (8GB/256GB)
  • Vivo X60 Pro 5G (12GB/256GB)
  • OnePlus 9 Pro 5G (12GB/256GB)
  • Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G (12GB/256GB)
  • HUAWEI Mate 40 Pro (8GB/256GB)
    • ข้อควรพิจารณา
  • Samsung Galaxy Z Flip 3 5G (8GB/128GB)
  • Samsung Galaxy S21 Ultra 5G (12/128 GB)
  • ตารางเปรียบเทียบ รีวิว มือถือแอนดรอยด์ (Android) รุ่นไหนดีที่สุด ปี 2021
  • บทส่งท้าย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โลกของสมาร์ทโฟนนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เราต้องขอขอบคุณผู้ผลิตชั้นนำต่าง ๆ ที่มีในปัจจุบัน อย่าง Apple, Samsung, Oppo, Huawei, Xiaomi, Vivo, Realme, infinix, Nokia และแบรนด์อื่นๆ ที่ได้แข่งขันกันสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมามากมาย โดยเฉพาะในฝั่งของ สมาร์ทโฟน Android ที่มีการแข่งขันกันสูงมากๆ เนื่องจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) เป็นมาตรฐานแบบเปิด ทำให้หลาย ๆ แบรนด์สามารถจะนำไปพัฒนาเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายประเภท ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ อาทิเช่น กล้องดิจิตอล ระบบแอนดรอยด์, สมาร์ททีวี, กล่องแอนดรอยด์ และอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลทำให้ เทคโนโลยีแอนดรอยด์ (Android) มีการพัฒนาไปอย่างเร็วกว่าฝั่ง ระบบปฏิบัติการ iOS มากครับ

ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ก็มีตัวเลือกอยู่มากมายครับ เริ่มตั้งแต่สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น, สมาร์ทโฟนระดับกลาง ไปจนถึงสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง แต่ละแบรนด์ก็จะมีแยกย่อยออกไปอีกมากมาย บางแบรนด์เน้นความคุ้มค่า บางแบรนด์เน้นด้านประสิทธิภาพ หรือบางแบรนด์เน้นการถ่ายภาพ อาทิเช่น สมาร์ทโฟนไม่เกิน 1 หมื่น, สมาร์ทโฟนเน้นถ่ายภาพ หรือสมาร์ทโฟนเกมมิ่ง เป็นต้น ซึ่งแน่นอนครับ ด้วยตัวเลือกที่มีมากมาย มันเลยกลายไปเป็นปัญหาในการเลือกซื้อ ต่างจาก iPhone และ iPad ที่มีตัวเลือกไม่มากนัก เพราะฉะนั้นถ้าหากในวันนี้คุณสนใจ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ แต่ยังสับสนไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ? หรือในปัจจุบันมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ? ในบทความนี้อาจจะมีคำตอบสำหรับคุณครับ

เช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada ลดราคาสินค้าลาซาดาเดือนมีนาคม

สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ รุ่นไหนเหมาะกับคุณ ?

  • สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ที่มีดีไซน์สุดพรีเมี่ยม ใช้วัสดุอย่างดี มาพร้อมกับฟังก์ชันที่จัดเต็มในทุก ๆ ด้าน: Samsung Galaxy S21 Ultra 5G (12/128 GB)
  • สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับกล้องประสิทธิภาพสูง ถือว่าดีที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมาก ๆ: HUAWEI Mate 40 Pro (8GB/256GB)
  • มือถือที่มาพร้อมกับหน้าจอคุณภาพสูง มีสเปคแรง และกล้องสวย สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี: OPPO Find X3 Pro (12GB/256GB)
  • สมาร์ทโฟนสุดหรูที่เน้นใช้ทำงานโดยเฉพาะ สเปคแรง กล้องหลังคุณภาพสูง มาพร้อมปากกา เหมาะ ๆ สำหรับคนที่ชอบจดบันทึก: Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G (12GB/256GB)
  • สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับสเปคสุดโหด ในราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งานด้านต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม: OnePlus 9 Pro 5G (12GB/256GB)
  • สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ดีไซน์หรูหราและพรีเมี่ยม แถมมีฟังก์ชันครบจบในตัวเดียว: Vivo X60 Pro 5G (12GB/256GB)
  • สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมสเปคที่คุ้มค่ากับราคามากที่สุด สเปคแรง หน้าจอใหญ่ แถมกล้องมีประสิทธิภาพสูง รองรับทุกการใช้งาน: Xiaomi Mi 11 (8GB/256GB)

จุดเด่นของ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ มีอะไรบ้าง ?

1. การจัดการตัวเครื่อง และการจัดการระบบของตัวเครื่อง

ถ้าหากใครเคยใช้ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) จะทราบดีว่า มันมีความอิสระที่ค่อนข้างมาก มีข้อจำกัดเล็กน้อยเท่านั้น เปรียบเสมือนกับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปเครื่องนึงเลย ที่มันสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายมาก ๆ สามารถถ่ายโอนข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถใช้งานร่วมกับ แฟลชไดร์ฟ หรือ SD Card ได้ คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นจากอินเทอร์เน็ตมาติดตั้งภายในเครื่องได้ และสามารถจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้อีกมากมาย อาทิเช่น จอยเกมมือถือ, หูฟังแบบต่างๆ, คีย์บอร์ดบลูทูธ, ลำโพงบลูทูธ หรือเครื่องปริ้นแบบพกพา เป็นต้น

2. สเปคเครื่องที่แรงเกินราคา

สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ หลายๆ รุ่นมักจะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เกินราคา เนื่องจากในส่วนของฮาร์ดแวร์ต่างๆ โดยเฉพาะ CPU และ GPU ในปัจจุบันก็มีพัฒนาอยู่หลายค่าย ซึ่งผู้ผลิตสามารถเลือกนำไปใช้ได้ และก็มีบางแบรนด์ได้มีการพัฒนาและผลิตขึ้นมาใช้เองด้วยทำให้ทั้ง CPU และ GPU มีการแข่งขันกันอยู่พอสมควร สิ่งนี้ส่งผลให้มันมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตสามารถเลือกใช้ฮาร์ดแวร์ ให้เหมาะสมกับรุ่นนั้น ๆ ได้ อย่างเช่น มือถือสำหรับเล่นเกมก็จะใช้ CPU ที่เน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ หรือมือถือที่เน้นการใช้งานทั่วไปก็จะใช้ CUP ที่เน้นการใช้งานทั่วไป เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์มีสเปคที่คุ้มค่าคุ้มราคาครับ

3. เทคโนโลยีการชาร์จไว

อย่างที่เราได้บอกไปครับว่า แอนดรอยด์ (Android) เป็นมาตรฐานแบบเปิด มีหลาย ๆ แบรนด์นำไปพัฒนาต่อ ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ก็คือ เทคโนโลยีการชาร์จไว ครับ เรียกได้ว่าเป็นความต้องการของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน แต่ละแบรนด์ก็มีการพัฒนาการชาร์จไวของตนเองและมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เช่น Samsung จะเรียกว่า Super Fast Charge ส่วน OPPO จะเรียกว่า  VOOC Flash Charge 3.0 ส่วน OnePlus เทคโนโลยี Warp Charge 30T และอื่น ๆ อีกมากมาย การทำงานของเทคโนโลยี ประกอบไปด้วย ชิปเช็ตที่รองรับการชาร์จเร็ว และอะแดปเตอร์ก็ต้องรองรับเทคโนโลยีชาร์จไวเช่นกัน ซึ่งบางรุ่นที่รองรับการชาร์จไวที่มีประสิทธิภาพสูง ชาร์จเพียงครึ่งชั่วโมงอาจใช้งานได้ทั้งวัน

4. มีแอปพลิเคชั่นที่หลากหลาย และสามารถติดตั้งจากภายนอกได้

แน่นอนครับ ปัจจุบันเรามีแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ใช้บนสมาร์ทโฟนอยู่มากมาย อาทิเช่น แอปฯ สตรีมมิ่ง, แอปฯ ฟังเพลง, แอปฯ สั่งอาหาร, แอปฯ ทางการเงิน, แอปฯ ช้อปปิ้งออนไลน์, แอปฯ วาดรูป, แอปฯ แต่งหน้า, แอปฯ แต่งภาพ และแอปฯ อื่น ๆ อีกมากมาย และยังรวมไปถึง เกมมือถือต่าง ๆ ด้วย ซึ่งแอปลิเคชั่นบางตัวก็สามารถรองรับได้ทั้ง ระบบแอนดรอยด์ และระบบไอโอเอส ซึ่งด้วยความที่แอนดรอยด์มันเป็นมาตรฐานแบบเปิด มันจึงมีแอปพลิเคชั่นเกือบทุกตัวที่คุณต้องการ นอกจากนี้คุณยังสามารถนำไฟล์แอปพลิเคชั่นจากภายนอกมาติดตั้งได้อีกด้วย สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ จึงสามารถรองรับการใช้งานแอปพลฺเคชั่นได้หลากหลายกว่าครับ


สำหรับในวันนี้ เราก็ได้ทำการรวบรวม 12 อันดับ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ รุ่นยอดนิยม และดีที่สุด ในระดับราคาต่าง ๆ มารีวิว ครับ เรามาดูกันว่าในปี 2021 นี้ จะมีมือถือแอนดรอยด์รุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง? เผื่อว่าคุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ? บทความนี้จะนำข้อมูลมือถือรุ่นต่าง ๆ มารีวิว และเปรียบเทียบกัน เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นครับ โดยในวันนี้เราจะหยิบยกสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นอะไรมารีวิวบ้าง ? ตามไปดูกันเลยครับ

Vivo V21 (5G) (8GB/128GB)

Vivo V21 (5G) (8GB/128GB)
รูปภาพจาก Vivo

ราคา 8,499 บาท*

Vivo รุ่น V21 (5G) เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่น่าสนใจที่สุด มาพร้อมดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องที่สวยงาม ดูหรูหรา และพรีเมี่ยม ตัวเครื่องมีความบางและเบา ให้ความรู้สึกสบายและมั่งคงต่อการถือ มาพร้อมจอแสดงผล HDR 10+ ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ มีอัตราการสัมผัสหน้าจอ 90 เฮิรตซ์ ช่วยมอบภาพที่ลื่นไหล สีสันที่คมชัด ดูสบายตา รุ่นนี้ใช้หน่วยประมวลผล Mediatek Dimensity 800U ทำงานคู่กับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC3 ช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องเป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพ มีแรมขนาด 8GB และหน่วยความจำภายในขนาด 128GB ทำให้ไม่ว่าคุณจะฟังเพลง เล่นเกม หรือใช้งานอื่น ๆ รุ่นนี้ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม ในด้านการถ่ายภาพก็โดดเด่นมาก ๆ เช่นกัน โดยมาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 44MP เอาใจสายเซลฟี่โดยเฉพาะ ส่วนกล้องหลังก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมเลนส์หลัก 64MP เลนส์ Ultrawide 8MP และเลนส์ Depth 2MP ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพในมุมมองต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และยังมีฟังก์ชันเสริมอีกมากมายที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพได้เหมือนมืออาชีพ มีการใส่ระบบ Multi-Turbo 3.0 ที่เข้ามาช่วยให้ตัวเครื่องสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แถมรุ่นนี้ยังรองรับสัญญาณ 5G อีกด้วย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมให้กับตัวเครื่องอีกด้วย ในส่วนแบตเตอรี่ให้ความจุมาที่ 4,000mAh พร้อมรองรับการชาร์จไว 33 วัตต์ ทำให้หมดกังวลเรื่องแบตฯ ไปได้เลย

หน้าจอแสดงผล 6.44 นิ้ว 1080 x 2400 pixels (Refresh Rate 90Hz)
ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 base on Android 11
CPU Mediatek Dimensity 800U Octa Core
GPU Mali-G57 MC3
RAM 8GB
ROM 128GB
กล้องหน้า 44MP
กล้องหลัง
  • 64MP
  • 8MP (Ultrawide)
  • 2MP (Depth)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.2
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 2.0
  • USB On-The-Go
แบตเตอรี่ 4,000 mAh (33W Fast Charging)
ดูได้ที่ Shopee

OPPO Reno4 Pro 5G (12GB/256GB)

OPPO Reno4 Pro 5G (12GB/256GB)
รูปภาพจาก oppo.com

ราคา 9,450 บาท*

สุดยอดสมาร์ทโฟน สเปคสูง กล้องเทพ

OPPO Reno4 Pro 5G สมาร์ทโฟนสเปคสูงเกินราคา เปิดตัวไปเมื่อตุลาคม 2020 แม้จะเปิดตัวมานานแล้ว แต่เมื่อเทียบสเปคกับทำให้มันคุ้มค่ามาก ๆ โดยมาพร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่ทันสมัยเรียบหรู ฝาหลังมีการสกรีนลวดลายที่สวยงาม ทั้งยังมีขอบหน้าจอที่บางเฉียบด้วย หน้าจอแสดงผลใช้ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีอัตรา Refresh Rate 90 เฮิรตซ์ และความไวต่อการสัมผัสหน้าจอ 180 เฮิรตซ์ ช่วยมอบภาพที่คมชัด เก็บทุกรายละเอียด มีสีสันสดใส ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีความลื่นไหล และสามารถตอบสนองต่อการสัมผัสที่ว่องไว ช่วยให้การใช้งานสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้านความปลอดภัยใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และระบบจดจำใบหน้า ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย สำหรับสเปครุ่นนี้ใช้ชิพ Qualcomm Snapdragon 765G กราฟิกใช้ชิพ Adreno 620 ซึ่งทั้งคู่มีการประมวลผลที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ พร้อมหน่วยความจำแรม 12GB และรอม 256GB ซึ่งรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมกราฟิกสูง ๆ ได้อย่างสบาย ไม่ต้องพูดถึงการใช้งานด้านอื่น ๆ สำหรับกล้องภ่ายถาพ กล้องหน้าใช้เลนส์ 32MP ในส่วนกล้องหลังเป็น Triple Camera โดยมีเลนส์หลัก 48MP เลนส์ Ultrawide 12MP และเลนส์ Telephoto 13MP พร้อมด้วยเทคโนโลยีและโหมดการถ่ายภาพอีกมากมายคอยช่วย ทำให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบได้ง่าย ๆ ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4,000mAh ซึ่งอาจมองว่าน้อย แต่ทดแทนด้วยการชาร์จไวได้ถึง 50W

หน้าจอแสดงผล AMOLED 6.5 นิ้ว 1080 x 2400 (Refresh Rate 90Hz)
ระบบปฏิบัติการ Color OS 7.2 based on Android 10.0
CPU Qualcomm Snapdragon 765G Octa Core
GPU Adreno 620
RAM 12GB
ROM 256GB
กล้องหน้า 32MP
กล้องหลัง
  • 48MP
  • 12MP (Ultrawide)
  • 13MP (Telephoto)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.1
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 2.0
  • USB On-The-Go
  • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่ 4,000mAh (รองรับชาร์จไว 65W)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Samsung Galaxy A72 (8GB/128GB)

Samsung Galaxy A72 (8GB/128GB)
รูปภาพจาก Samsung

ราคา 13,999 บาท*

Samsung Galaxy A72 สมาร์ทโฟนดีไซน์พรีเมี่ยม เรียบหรู มาพร้อมกับสเปคที่จัดเต็มในทุก ๆ ด้าน เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2021 ตัวบอดี้ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี จอขนาดใหญ่ขนาด 6.7 นิ้ว Super AMOLED มีความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล และมีอัตราการสัมผัสหน้าจอ 90 เฮิรตซ์ ให้ภาพที่ไหลลื่น ไม่สะดุด กล้องหน้าแบบ Punch-Hole Display มอบพื้นที่การใช้งานที่เต็มจอมากยิ่งขึ้น ในด้านสเปคออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 720G คู่กับ Adreno 619 พร้อม Ram 8GB และ Rom 128GB ช่วยให้มันทำงานได้อย่างรวดเร็ว และลื่นไหล ตอบโจทย์การใช้งานด้านต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังรองรับ microSD ได้สูงสุด 1 TB ด้วย หมดปัญหาเรื่องหน่วยความจำเต็ม ส่วนด้านของการถ่ายภาพก็โดดเด่นไม่แพ้กัน มาพร้อมกล้องหน้า 32MP ให้คุณเซลฟี่ด้วยกล้องคุณภาพสูง และกล้องหลังแบบ Quad Camer ได้แก่ เลนส์หลัก 64MP, เลนส์ Ultrawide 12MP, เลนส์ Telephoto 8MP และเลนส์ Macro 5MP พร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ และฟังก์ชันการถ่ายภาพอีกมากมายให้คุณได้ใช้งาน เพื่อมอบภาพที่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้รุ่นนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ซึ่งรองรับเทคโนโลยีชาร์จไวได้ถึง 25 วัตต์ ช่วยให้คุณใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน

หน้าจอแสดงผล 6.7 นิ้ว 1080 × 2400 pixels
ระบบปฏิบัติการ One UI 3.0 base on Android 11
CPU Qualcomm Snapdragon 720G Octa Core
GPU Adreno 619
RAM 8GB
ROM 128GB
กล้องหน้า 32MP
กล้องหลัง
  • 64MP
  • 12MP (Ultrawide)
  • 8MP (Telephoto)
  • 5MP (Macro)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.0
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 2.0
  • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่ 5,000 mAh (รองรับชาร์จไว 25W)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

OnePlus 9R 5G (12GB/256GB)

OnePlus 9R 5G (12GB/256GB)
รูปภาพจาก Oneplus

ราคา 17,900 บาท*

OnePlus 9R สมาร์ทโฟนสเปคสุดโหด จอเทพ แต่มาในราคาที่คุ้มค่า เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ มีนาคม 2021 ด้วยเครื่องที่มีดีไซน์การออกแบบที่เน้นความเรียบหรู ขอบหน้าจอบางเฉียบ ช่วยให้ดูพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น ใช้ชิปเซ็ตรุ่นที่เกือบจะแรงที่สุดแล้ว ซึ่งเป็นรุ่นที่ปรับปรุงจากชิปเรือธงปีที่แล้วอย่าง Snapdragon 865 โดยรุ่นนี้ใช้ Snapdragon 870 5G แรม 12GB ซึ่งให้มาเยอะมาก ไม่ต้องเกรงว่าเครื่องจะหน่วง หน่วยความจำอีก 256GB หน้าจอแสดงผล HDR 10+ ชนิด Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นึ้ว ความละเอียด 1080 × 2400 พิกเซล โดยมีอัตราการสัมผัสหน้าจอถึง 120 เฮิรตซ์ ช่วยมอบการแสดงผลภาพที่ลื่นไหล มีความคมชัดทุกรายละเอียด รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ และระบบจดจำใบหน้าที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเครื่อง กล้องหน้าแบบ Punch-Hole Display ความละเอียด 16MP ที่พร้อมให้คุณเซลฟี่ด้วยกล้องคุณภาพสูง กล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบด้วยเลนส์หลัก 48MP, เลนส์ Ultrawide 16MP, เลนส์ Macro 5MP และสุดท้ายเลนส์ Depth 2MP พร้อมฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับถ่ายภาพในยุคปัจจุบัน ถ่ายวิดีโอเนียนสมูทเสริมด้วยกันสั่น อีกทั้งยังมีด้วยแบตเตอรี่ที่สูงถึง 4,500 mAh ซึ่งรองรับชาร์จไว 65W อีกด้วย ซึ่งด้วยสเปคขนาดนี้ รุ่นนี้จึงสามารถจะทำได้ทุกอย่างตามที่คุณต้องการ ใช้ถ่ายภาพก็สวย ใช้เล่นเกมก็สบาย

หน้าจอแสดงผล 6.55 นิ้ว 1080 × 2400 pixels
ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 base on Android 11
CPU Qualcomm Snapdragon 870 5G Octa Core
GPU Adreno 650
RAM 12GB
ROM 256GB
กล้องหน้า 16MP
กล้องหลัง
  • 48MP
  • 16MP (Ultrawide)
  • 5MP (Macro)
  • 2MP (Depth)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.1
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 3.1
  • USB On-The-Go
  • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่ 4,500 mAh (รองรับชาร์จไว 65W)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

OPPO Find X3 Pro (12GB/256GB)

OPPO Find X3 Pro (12GB/256GB)
รูปภาพจาก oppo.com

ราคา 18,800 บาท*

สมาร์ทโฟน กล้องไมโครเลนส์ ภาพคมชัดเก็บครบ

มือถือที่จะปฏิวัติวงการแห่งสีที่จัดจ้านและลุ่มลึก สำหรับ OPPO Find X3 Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปในมีนาคม 2021 มาพร้อมการปรับโฉมดีไซน์ใหม่ที่ดูพรีเมี่ยมมากกว่าเดิม ใช้หน้าจอไร้ขอบขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ระดับ QHD+ ที่ให้ความคมชัดสูง เต็มไปด้วยสีสันที่มากถึง 1.07 พันล้านสี บวกกับระบบประมวลผลภาพสี 10 บิต ทำให้มีการไล่เฉดสีที่ไร้ที่ติ มอบสีสันสดใสในทุกอณูภาพ  มีอัตรา Refresh Rate ที่สูงถึง 120 เฮิรตซ์ และยังมีความไวต่อการสัมผัสที่ 240 เฮิรตซ์ ช่วยมอบการสัมผัสที่ราบรื่น ไม่มีสะดุด ในด้านสเปคใช้ชิพ Snapdragon 888 ที่มีประสิทธิภาพสูง คู่กับชิพ Adreno 660 ช่วยให้ประมวลผลสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีแรม 12GB และรอมอีก 256GB ช่วยให้มันทำงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ช่วยทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหนือกว่าส่วนกล้องก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยกล้องหน้าใช้เลนส์ 32MP ที่บันทึกวีดีโอได้สูงสุด 4K ที่ 60 เฟรม/วินาที ได้ ส่วนกล้องหลังจัดเต็มด้วย Quad Camera ที่มีเลนส์หลัก 50MP เลนส์ Ultrawide 50MP เลนส์ Telephoto 13MP และเลนส์ Microlens 3MP พร้อมการซูมแบบต่าง ๆ ใช้ระบบโฟกัส PDAF และ Laser Auto Focus ช่วยทำให้การจับภาพง่ายดาย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีและโหมดการถ่ายภาพอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สามารถช่วยให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ในส่วนแบตเตอรี่ให้ความจุมาที่ 4,500 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบบไร้สาย และรองรับการชาร์จไว 65W ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

หน้าจอแสดงผล AMOLED 6.7 นิ้ว 1440 x 3216 (Refresh Rate 120Hz)
ระบบปฏิบัติการ Color OS 11.2 based on Android 11
CPU Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
GPU Adreno 660
RAM 12GB
ROM 256GB
กล้องหน้า 32MP
กล้องหลัง
  • 50MP
  • 50MP (Ultrawide)
  • 13MP (Telephoto)
  • 3MP (Microlens)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.2
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 3.1
  • USB On-The-Go
แบตเตอรี่ 4,50mAh (รองรับชาร์จไร้สาย / รองรับชาร์จไว 65W)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Xiaomi Mi 11 (8GB/256GB)

Xiaomi Mi 11 (8GB/256GB)
รูปภาพจาก Mi

ราคา 21,699 บาท*

มือถือที่มอบความบันเทิงให้กับคุณได้อย่างเต็มรูปแบบ ในราคาคุ้มค่า Xiaomi Mi 11 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่ดูเรียบหรูเกินราคา ใช้จอแสดงผล AMOLED HDR 10+ ขนาดใหญ่ 6.81 นิ้ว ไร้ขอบ ซึ่งมีความละเอียดสูง 1440 x 3200 พิกเซล มีอัตราการสัมผัสหน้าจอ 120 เฮิรตซ์ และมีอัตราการสัมผัส 480 เฮิรตซ์ ยกระดับการแสดงผลภาพที่ลื่นไหล มีความคมชัดสูงและสีสันสดใส รอบรับระบบสแกนลายนิ้วใต้หน้าจอและระบบจดจำใบหน้า ส่วนขุมพลังรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ตรุ่นที่แรงที่สุด Snapdragon 888 ทำงานคู่กับ Adreno 660 พร้อมแรม 8GB และใส่หน่วยความจำมาให้อีก 256GB ทำให้ตัวเครื่องทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะช้าหรือหน่วง ตอบโจทย์ทุก ๆ การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ในด้านการถ่ายภาพก็โดดเด่นไม่แพ้กันโดยมาพร้อมกล้องหน้า 20MP ให้คุณเซลฟี่ด้วยกล้องคุณภาพสูง และกล้องหลัง 3 เลนส์ โดยเลนส์หลัก 108MP เลนส์ Ultrawide 13MP และเลนส์ Macro 5MP พร้อมโหมดการถ่ายภาพอีกมากมาย ช่วยมอบภาพที่สมบูรณ์แบบได้ง่าย ๆ ถือว่าสุดทุกด้านจริง ๆ สำหรับรุ่นนี้ นอกจากนี้ในด้านของแบตเตอรี่ก็มาพร้อมความพิเศษ โดยให้ความจุมาที่ 4,600 mAh พร้อมรองรับการชาร์จไว 55W, การชาร์จไร้สาย และสามารถแบ่งแบตเตอรี่แบบไร้สายให้เครื่องอื่น ๆ ได้ด้วย เหมาะมากกับคนที่ต้องการมือถือรุ่นที่มีความคุ้มค่า รองรับทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี

หน้าจอแสดงผล 6.81 นิ้ว 1440 × 3200 pixels (Refresh Rate 120Hz)
ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 based on Android 10
CPU Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
GPU Adreno 660
RAM 8GB
ROM 256GB
กล้องหน้า 20MP
กล้องหลัง
  • 108MP
  • 13MP (Ultrawide)
  • 5MP (Macro)
การเชื่อมต่อ
  • Infrared (IrDA)
  • Bluetooth 5.2
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 2.0
  • USB On-The-Go
แบตเตอรี่ 4,600 mAh (รองรับชาร์จไว 55W / ชาร์จไร้สาย / แบ่งแบตเตอรี่แบบไร้สาย)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Vivo X60 Pro 5G (12GB/256GB)

Vivo X60 Pro 5G (12GB/256GB)
รูปภาพจาก Vivo

ราคา 23,617 บาท*

Vivo รุ่น X60 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟนตัวท๊อปรุ่นล่าสุดของทางวีโว่ เปิดจตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 ซึ่งมาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่ด เน้นความหรูหราและพรีเมี่ยม ตัวเครื่องมาพร้องหน้าจอแสดงผลแบบขอบโค้งทั้ง 2 ด้าน แบบ POLED Waterfall FullView Display ขนาด 6.56 นิ้ว มีความละเอียดอยู่ที่ 1080 x 2376 พิกเซล ซึ่งคุณสามารถสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้เลย รุ่นนี้ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 870 ทำงานคู่กับ Adreno 620 พร้อมแรมขนาด 12GB และหน่วยความจำภายใน 256GB ด้วยขุมพลังทั้งหมดมันจะช่วยให้ตัวเครื่องมีความลื่นไหล สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ส่วนเรื่องกล้องก็พิเศษมาก ๆ ครับ โดย X60 Pro 5G รุ่นนี้ ใช้กล้องหลังแบบ Triple Camera กล้อง 3 ตัว ซึ่งเลนส์หลักมีความละเอียด 48MP เลนส์ Ultrawide 13MP และเลนส์ Telephoto 13MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP พร้อมทั้งมีเทคโนโลยีอีกมากมายคอยช่วยเหลือ ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพได้อย่างมืออาชีพ อีกทั้งยังมีแบตเตอรีขนาด 4,200 mAh ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน และสามารถรองรับระบบชาร์จเร็ว vivo FlashCharge ช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมได้ทั้งวัน สำหรับรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถช่วยให้การใช้งานมือถือรุ่นี้สนุกขึ้น

หน้าจอแสดงผล 6.56 นิ้ว 1080 x 2376 pixels (Refresh Rate 120Hz)
ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 base on Android 11
CPU Qualcomm Snapdragon 870 Octa Core
GPU Adreno 620
RAM 12GB
ROM 256GB
กล้องหน้า 32MP
กล้องหลัง
  • 48MP
  • 13MP (Ultrawide)
  • 13MP (Telephoto)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.1
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 2.0
แบตเตอรี่ 4,200 mAh (33W Fast Charging)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

OnePlus 9 Pro 5G (12GB/256GB)

OnePlus 9 Pro 5G (12GB/256GB)
รูปภาพจาก Oneplus

ราคา 28,750 บาท*

OnePlus 9 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงของค่าย เพิ่งเปิดตัวไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเดือนกรกฏาคม 2021 ด้วยตัวเครื่องที่มีดีไซน์เรียบหรู บางเฉียบ ใช้หน้าจอแบบไร้ขอบ ทำให้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น ใช้ชิปเซ็ตรุ่นที่แรงที่สุดอย่าง Snapdragon 888 5G ทำงานคู่กับ Adreno 660 แรมให้มาสูงถึง 12GB ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะช้า หรือหน่วง และใส่หน่วยความจำมาให้อีก 256GB หน้าจอใช้ HDR 10+ ชนิด Fluid AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 6.7 นึ้ว ความละเอียดสูง 1440 × 3216 พิกเซล และยังมีอัตราสัมผัสหน้าจอถึง 120 เฮิรตซ์ ช่วยมอบภาพที่ลื่นไหล คมชัดทุกรายละเอียด แสดงผลได้เต็ม ๆ ตา รองรับทั้งระบบสแกนนิ้วใต้หน้าจอ และระบบจดจำใบหน้า ซึ่งทำงานได้อย่างรวดเร็ว กล้องหน้าแบบรู อยู่ที่มุมของหน้าจอ ทำให้ไม่เกะกะสายตาเวลาใช้งาน โดยกล้องหน้าให้ความละเอียดมาที่ 16MP และจุดเด่นอยู่ที่กล้องหลังที่ให้มา 4 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลัก 48MP, เลนส์ Ultrawide 50MP, เลนส์ Telephoto 8MP และเลนส์ Depth 2MP ซึ่งช่วยตอบโจทย์ทุกการถ่ายภาพและการบันทึกวิดีโอได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมฟังก์ชันอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งระบบกันสั่นด้วย นอกจากนี้ยังให้แบตเตอรี่ที่มีความจุถึง 4,500 mAh ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งวัน พร้อมรองรับชาร์จไว 65W และชาร์จไร้สายอีกด้วย หากใครต้องการมือถือเน้นเล่นเกม และถ่ายภาพด้วยกล้องหลังรุ่นนี้ถือว่าเหมาะมาก ๆ

หน้าจอแสดงผล 6.7 นิ้ว 1440 × 3216 pixels
ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 base on Android 11
CPU Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
GPU Adreno 660
RAM 12GB
ROM 256GB
กล้องหน้า 16MP
กล้องหลัง
  • 48MP
  • 50MP (Ultrawide)
  • 8MP (Telephoto)
  • 2MP (Depth)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.2
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 3.1
  • USB On-The-Go
  • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
แบตเตอรี่ 4,500 mAh (รองรับชาร์จไว 65W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G (12GB/256GB)

Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G (12GB/256GB)
รูปภาพจาก Samsung

ราคา 29,889 บาท*

มาต่อกันที่ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G สมาร์ทโฟนซีรี่ส์ยอดนิยม สมาร์ทโฟนสุดหรูที่มาพร้อมฟังก์ชันที่หลากหลาย สำหรับรุ่นนี้เปิดตัวไปเมื่อสิงหาคม 2020 ด้วยราคาที่สูงมาก แต่ปัจจุบันราคาก็ลดลงไปมากเช่นกัน แต่ด้วยฟังก์ชันที่ได้ทำให้มันคุ้มค่ามาก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมจอ Dynamic AMOLED 2X จอแสดงผล HDR 10+ ไร้รอยบาก ขนาดใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว ความละเอียดสูง 1440 x 3088 พิกเซล และมีอัตราการสัมผัสหน้าจอ 120 เฮิรตซ์ ทำให้มันสามารถแสดงผลได้อย่างลื่นไหลมาก ๆ มอบสีสันที่สดใส คมชัดทุดรายละเอียด มาพร้อมปากกา S-Pen ใหม่ ที่สามารถเขียนได้ถนัดมือมากขึ้น สเปคเครื่องใช้ชิพ Exynos 990 ทำงานคู่กับ Adreno 650 พร้อมแรม 8GB และรอม 256GB แถมยังรองรับ microSD สูงสุด 256 GB ได้อีกด้วย ในด้านการถ่ายภาพ กล้องหน้าอาจจะไม่เน้นมากนัก โดยให้ความละเอียดมาที่ 10MP แต่จะเน้นที่กล้องหลัง มาพร้อมเลนส์หลัก 108MP เลนส์ Ultrawide 12MP  และเลนส์ Telephoto 12MP ช่วยมอบภาพถ่ายที่คมชัดทุดรายละเอียด ถือว่ามีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับกล้องดี ๆ ตัวนึงเลย และยังมีฟังก์ชันกล้องอีกมากมายให้คุณได้สนุกกับการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ด้านแบตเตอรี่รุ่นนี้ให้ความจุมาที่ 4,500 mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 15 วัตต์ และรองรับชาร์จไร้สายอีกด้วย

หน้าจอแสดงผล 6.9 นิ้ว 1440 × 3088 pixels (Refresh Rate 120Hz)
ระบบปฏิบัติการ One UI 2.5 based on Android 10.0
CPU Samsung Exynos 990 Octa Core
GPU Adreno 650
RAM 8GB
ROM 256GB
กล้องหน้า 10MP
กล้องหลัง
  • 108MP
  • 12MP (Ultrawide)
  • 12MP (Telephoto)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.0
  • รองรับ NFC
  • ANT+
  • Type-C USB 2.0
  • USB On-The-Go
แบตเตอรี่ 4,500 mAh (รองรับชาร์จไว 15W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

HUAWEI Mate 40 Pro (8GB/256GB)

HUAWEI Mate 40 Pro (8GB/256GB)
รูปภาพจาก Consumer.huawei

ราคา 29,990 บาท*

สำหรับรุ่นนี้ไม่ได้ใช้ระบบ Android แต่เราขอรวมมาไว้ในลิสส์นี้ด้วย โดย HUAWEI Mate 40 Pro โทรศัพท์รุ่นที่ดีที่สุด จากแบรนด์ดัง Huawei ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 ซึ่งถือเป็นรุ่นที่โดดเด่นเรื่องกล้องถ่ายภาพมากที่สุด ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่าง HarmonyOS ซึ่งเน้นการใช้งานที่เรียบง่าย ใกล้เคียงกับ Android มีดีไซน์ที่ยอดเยี่ยม เพิ่มความพรีเมี่ยมด้วยขอบหน้าจอแบบโค้ง ทำให้มันเป็นจอไร้ขอบ ใช้งานได้เต็ม ๆ ตา โดยใช้หน้าจอ HDR 10 ขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมที่ 6.76 นิ้ว รุ่นนี้เป็นจอโค้ง ความละเอียดสูง และมีอัตราการสัมผัสหน้าจอ 90 เฮิรตซ์ ช่วยมอบการแสดงผลที่ไหลลื่น ดูสวยงาม มีระบบสแกนลายนิ้วมือใต้จอ และระบบจดจำใบหน้า 3D face เพิ่มความรวดเร็ว ในด้านกล้องก็ยังคงร่วมมือกับ Leica อีกเช่นเดิม โดยมีกล้องให้มาถึง 2 เลนส์ ความละเอียด 13MP และกล้องหน้าตัวที่สอง TOF 3D ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเซลฟี่ให้ดียิ่งขึ้น ส่วนกล้องหลังให้มา 3 เลนส์ โดยเป็น เลนส์กล้องดิจิตอล 50MP เลนส์ Periscope telephoto 12MP และเลนส์ Ultrawide 20MP ซึ่งเป็นเลนส์จากแบรนด์ดังอย่าง Leica ที่มีเอกลักษณ์ของภาพสูงมาก ทำให้ได้ภาพที่โดดเด่นกว่ามือถือค่ายอื่น ๆ และมันยังมีฟังก์ชันถ่ายภาพอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วยให้สนุกกับการภ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ในด้านสเปครุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต Kirin 9000 5G ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง คู่กับ Mali-G78 MP24 พร้อมแรม 8GB และรอม 256GB ช่วยให้มันสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีสะดุด ตอบโจทย์ทุก ๆ การใช้งานได้อย่างสบาย อีกทั้งยังรองรับ NM card สูงสุด 256 GB อีกด้วย หมดกังวลเรื่องพื้นที่เก็บข้อมูลไปได้เลย นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จ SuperCharge 40W ชาร์จแค่ 30 นาที ได้ 70% ซึ่งเร็วมาก และชาร์จไร้สายด้วย

ข้อควรพิจารณา

  • ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่าง Harmony OS
  • ใช้งาน Huawei Mobile Service (HMS) แทน Google Mobile Service (GMS) ที่ไม่ได้ติดตั้งมาด้วย ทำให้คุณอาจจะต้องปรับตัวในการใช้งานเล็กน้อย
หน้าจอแสดงผล 6.76 นิ้ว 1344 × 2772 pixels
ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 2.0
CPU Kirin 9000 Octa Core
GPU Mali-G78 MP24
RAM 8GB
ROM 256GB
กล้องหน้า
  • 13MP
  • กล้องหน้าตัวที่สอง TOF 3D
กล้องหลัง
  • 50MP
  • 12MP (Periscope telephoto)
  • 20MP (Ultrawide)
การเชื่อมต่อ
  • Infrared (IrDA)
  • Bluetooth 5.2
  • รองรับ NFC
  • Type-C USB 3.1
  • USB On-The-Go
แบตเตอรี่ 4,200 mAh (รองรับชาร์จไว 40W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ Shopee

Samsung Galaxy Z Flip 3 5G (8GB/128GB)

Samsung Galaxy Z Flip 3 5G (8GB/128GB)
รูปภาพจาก Samsung

ราคา 34,900 บาท*

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด Samsung Galaxy Z Flip 3 เป็นมือถือจอพับได้เครื่องแรกในตระกูล Galaxy ที่เพิ่งเปิดตัวไปในเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา มาพร้อมกับดีไซน์ที่แปลกใหม่และความพิเศษมากมาย ซึ่งได้รับการดีไซน์ออกแบบมาเป็นอย่างดี มีการใช้อลูมิเนียมเป็นโครงสร้างและใช้กระจกที่แข็งแรงที่สุดทั้งด้านหน้าและหลังรองรับการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม หน้าจอแสดงผลสามารถพับได้ โดยเมื่อพับขนาดจะเหลือแค่ 4.2 นิ้ว เท่านั้น ช่วยให้คุณพกใส่กระเป๋าขนาดเล็กได้พอดี มีหน้าจอนอก ขนาด 1.9 นิ้ว ด้วย ทำให้คุณสามารถเช็คการแจ้งเตือนต่าง ๆ และตอบโต้ได้ทันที หรือจะเอาไว้พรีวิวเพื่อถ่ายเซลฟี่จากกล้องหลังก็ได้เช่นกัน หน้าจอหลักชนิด Dynamic AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว มีอัตรา Refresh Rate 120Hz ช่วยให้แสดงผลภาพได้อย่างลื่นไหล ด้วยความคมชัดสูง ขุมกำลังใช้ GPU Adreno 660 ส่วน CPU เป็น Snapdragon 888 ตัวที่แรงที่สุด ณ ขณะนี้ และ RAM 8GB ทำให้รุ่นนี้มาพร้อมกับความเร็วที่มากขึ้น ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ในส่วนของกล้องหน้ามีความละเอียด 10MP และกล้องหลัง 2 เลนส์ โดยเลนส์หลัก 12MP และเลนส์ Ultrawide 12MP พรอมระบบกันสั่นประสิทธิภาพสูง และมีโหมดถ่ายภาพอีกมากมายให้คุณได้สนุก ในส่วนของแบตฯ ให้ความจุมาที่ 3,300mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 15W และรองรับชาร์จไร้สาย ซึ่งด้วยการใช้งานแบบพับได้ ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ทำให้ใช้งานได้ตลอดทั้งวันอย่างสบาย

หน้าจอแสดงผล 6.7 นิ้ว 1080 × 2640 pixels (Refresh Rate 120Hz)
ระบบปฏิบัติการ One UI 3.5 based on Android 11
CPU Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
GPU Adreno 660
RAM 8GB
ROM 128GB
กล้องหน้า 10MP
กล้องหลัง
  • 12MP
  • 12MP (Ultrawide)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.1
  • รองรับ NFC
  • ANT+
  • Type-C USB 3.1
  • USB On-The-Go
แบตเตอรี่ 3,300mAh (รองรับชาร์จไว 15W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Samsung Galaxy S21 Ultra 5G (12/128 GB)

Samsung Galaxy S21 Ultra 5G (12/128 GB)
รูปภาพจาก Samsung

ราคา 39,900 บาท*

ปิดท้ายกันที่ Samsung Galaxy S21 Ultra 5G สมาร์ทโฟนเรือธงตัวท๊อปของซัมซุง ซึ่งได้เปิดตัวครั้งแรกเดือน มกราคม 2021 ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบที่ดีเยี่ยม ดีไซน์บางเฉียบ ดูหรูหราและพรีเมียม หลอมรวมสเตนเลสสตีลขัดเงาเข้ากับกระจกได้อย่างลงตัว ใช้หน้าจอ HDR 10+ ที่ใหญ่ถึง 6.8 นิ้ว แบบ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียดสูง และมีอัตราสัมผัสหน้าจอ 120 เฮิรตซ์ ซึ่งสามารถแสดงผลได้ทุกสภาวะ มีความคมชัดสูง สีสันมีความแม่นยำดูสดใส ส่วนสเปคใช้ชิพประสิทธิภาพสูง Exynos 2100 ทำงานคู่กับ Mali-G78 MP14 พร้อมแรม 12GB และรอม 128GB ช่วยให้มันสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล ตอบโจทย์ทุก ๆ การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม ในด้านการถ่ายภาพมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียดสูง 40MP ให้คุณเซลฟี่ด้วยภาพที่คมชัด ส่วนกล้องหลังประสิทธิภาพสูงไม่แพ้กัน โดยมีเลนส์หลัก 108MP เลนส์ Ultrawide 12MP เลนส์ Telephoto 10MP และเลนส์ Periscope Telephoto 10MP ถือว่าเป็นที่สุดของการถ่ายภาพแล้ว ช่วยมอบภาพถ่ายที่คมชัด ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ และฟังก์ชันอีกมากมาย ทำให้มันมีประสิทธิภาพไม่ต่างไปจากกล้องถ่ายรูปตัวนึงเลย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยให้คุณได้สนุกกับการถ่ายภาพได้อย่างเต็มที่ ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพอย่างแน่นอน นอกจากแบตเตอรี่รุ่นนี้ก็จัดเต็มมาให้ โดยให้ความจุมาที่ 5,000 mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 15 วัตต์ และรองรับชาร์จไร้สายอีกด้วย ทำให้มันสามารถจะใช้งานได้ตลอดทั้งวันแบบสบาย ๆ ใครที่ต้องการความสุด รุ่นนี้ให้คุณได้

หน้าจอแสดงผล 6.8 นิ้ว 1440 × 3200 pixels (Refresh Rate 120Hz)
ระบบปฏิบัติการ One UI 3.1 based on Android 11
CPU Samsung Exynos 2100 Octa Core
GPU Mali-G78 MP14
RAM 12GB
ROM 128GB
กล้องหน้า 40MP
กล้องหลัง
  • 108MP
  • 12MP (Ultra Wide)
  • 10MP (Telephoto)
  • 10MP (periscope telephoto)
การเชื่อมต่อ
  • Bluetooth 5.2
  • รองรับ NFC
  • ANT+
  • Type-C USB 3.2
  • USB On-The-Go
แบตเตอรี่ 5,000 mAh (รองรับชาร์จไว 25W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

ตารางเปรียบเทียบ รีวิว มือถือแอนดรอยด์ (Android) รุ่นไหนดีที่สุด ปี 2021

ยี่ห้อ/รุ่นสินค้าคุณสมบัติดูเพิ่มเติม

Vivo V21 (5G) (8GB/128GB)

รูปภาพจาก Vivo

Vivo V21 (5G) (8GB/128GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.44 นิ้ว 1080 x 2400 pixels (Refresh Rate 90Hz)
  • ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 11.1 base on Android 11
  • CPU : Mediatek Dimensity 800U Octa Core
  • GPU : Mali-G57 MC3
  • RAM : 8GB
  • ROM : 128GB
  • กล้องหน้า : 44MP
  • กล้องหลัง :
    • 64MP
    • 8MP (Ultrawide)
    • 2MP (Depth)
  • การเชื่อมต่อ :
    • Bluetooth 5.2
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 2.0
    • USB On-The-Go
  • แบตเตอรี่ : 4,000 mAh (33W Fast Charging)
ดูได้ที่ shopee

OPPO Reno4 Pro 5G (12GB/256GB)

รูปภาพจาก oppo.com

OPPO Reno4 Pro 5G (12GB/256GB)

  • หน้าจอแสดงผล : AMOLED 6.5 นิ้ว 1080 x 2400 (Refresh Rate 90Hz)
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 7.2 based on Android 10.0
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 765G Octa Core
  • GPU : Adreno 620
  • RAM : 12GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องหน้า : 32MP
  • กล้องหลัง:
    • 48MP
    • 12MP (Ultrawide)
    • 13MP (Telephoto)
  • การเชื่อมต่อ:
    • Bluetooth 5.1
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 2.0
    • USB On-The-Go
    • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 4,000mAh (รองรับชาร์จไว 65W)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Samsung Galaxy A72 (8GB/128GB)

รูปภาพจาก Samsung

Samsung Galaxy A72 (8GB/128GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.7 นิ้ว 1080 × 2400 pixels
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.0 base on Android 11
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 720G Octa Core
  • GPU : Adreno 619
  • RAM : 8GB
  • ROM : 128GB
  • กล้องหน้า : 32MP
  • กล้องหลัง :
    • 64MP
    • 12MP (Ultrawide)
    • 8MP (Telephoto)
    • 5MP (Macro)
  • การเชื่อมต่อ:
    • Bluetooth 5.0
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 2.0
    • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5,000 mAh (รองรับชาร์จไว 25W)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

OnePlus 9R 5G (12GB/256GB)

รูปภาพจาก Oneplus

OnePlus 9R 5G (12GB/256GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.55 นิ้ว 1080 × 2400 pixels
  • ระบบปฏิบัติการ: OxygenOS 11 base on Android 11
  • CPU: Qualcomm Snapdragon 870 5G Octa Core
  • GPU: Adreno 650
  • RAM : 12GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องหน้า : 16MP
  • กล้องหลัง:
    • 48MP
    • 16MP (Ultrawide)
    • 5MP (Macro)
    • 2MP (Depth)
  • การเชื่อมต่อ :
    • Bluetooth 5.1
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 3.1
    • USB On-The-Go
    • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 4,500 mAh (รองรับชาร์จไว 65W)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

OPPO Find X3 Pro (12GB/256GB)

รูปภาพจาก oppo.com

OPPO Find X3 Pro (12GB/256GB)

  • หน้าจอแสดงผล : AMOLED 6.7 นิ้ว 1440 x 3216 (Refresh Rate 120Hz)
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 based on Android 11
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
  • GPU : Adreno 660
  • RAM : 12GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องหน้า : 32MP
  • กล้องหลัง :
    • 50MP
    • 50MP (Ultrawide)
    • 13MP (Telephoto)
    • 3MP (Microlens)
  • การเชื่อมต่อ :
    • Bluetooth 5.2
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 3.1
    • USB On-The-Go
  • แบตเตอรี่ : 4,50mAh (รองรับชาร์จไร้สาย / รองรับชาร์จไว 65W)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Xiaomi Mi 11 (8GB/256GB)

รูปภาพจาก Mi

Xiaomi Mi 11 (8GB/256GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.81 นิ้ว 1440 × 3200 pixels (Refresh Rate 120Hz)
  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 12 based on Android 10
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
  • GPU : Adreno 660
  • RAM : 8GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องหน้า : 20MP
  • กล้องหลัง :
    • 108MP
    • 13MP (Ultrawide)
    • 5MP (Macro)
  • การเชื่อมต่อ:
    • Infrared (IrDA)
    • Bluetooth 5.2
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 2.0
    • USB On-The-Go
  • แบตเตอรี่: 4,600 mAh (รองรับชาร์จไว 55W / ชาร์จไร้สาย / แบ่งแบตเตอรี่แบบไร้สาย)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Vivo X60 Pro 5G (12GB/256GB)

รูปภาพจาก Vivo

Vivo X60 Pro 5G (12GB/256GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.56 นิ้ว 1080 x 2376 pixels (Refresh Rate 120Hz)
  • ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 11.1 base on Android 11
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 870 Octa Core
  • GPU : Adreno 620
  • RAM : 12GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องหน้า: 32MP
  • กล้องหลัง :
    • 48MP
    • 13MP (Ultrawide)
    • 13MP (Telephoto)
  • การเชื่อมต่อ:
    • Bluetooth 5.1
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 2.0
  • แบตเตอรี่ : 4,200 mAh (33W Fast Charging)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

OnePlus 9 Pro 5G (12GB/256GB)

รูปภาพจาก Oneplus

OnePlus 9 Pro 5G (12GB/256GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.7 นิ้ว 1440 × 3216 pixels
  • ระบบปฏิบัติการ : OxygenOS 11 base on Android 11
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
  • GPU : Adreno 660
  • RAM : 12GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องหน้า : 16MP
  • กล้องหลัง :
    • 48MP
    • 50MP (Ultrawide)
    • 8MP (Telephoto)
    • 2MP (Depth)
  • การเชื่อมต่อ :
    • Bluetooth 5.2
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 3.1
    • USB On-The-Go
    • ช่องหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 4,500 mAh (รองรับชาร์จไว 65W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G (12GB/256GB)

รูปภาพจาก Samsung

Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G (12GB/256GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.9 นิ้ว 1440 × 3088 pixels (Refresh Rate 120Hz)
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 2.5 based on Android 10.0
  • CPU : Samsung Exynos 990 Octa Core
  • GPU: Adreno 650
  • RAM : 8GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องหน้า : 10MP
  • กล้องหลัง :
    • 108MP
    • 12MP (Ultrawide)
    • 12MP (Telephoto)
  • การเชื่อมต่อ :
    • Bluetooth 5.0
    • รองรับ NFC
    • ANT+
    • Type-C USB 2.0
    • USB On-The-Go
  • แบตเตอรี่ : 4,500 mAh (รองรับชาร์จไว 15W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

HUAWEI Mate 40 Pro (8GB/256GB)

รูปภาพจาก Consumer.huawei

HUAWEI Mate 40 Pro (8GB/256GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.76 นิ้ว 1344 × 2772 pixels
  • ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS 2.0
  • CPU : Kirin 9000 Octa Core
  • GPU : Mali-G78 MP24
  • RAM : 8GB
  • ROM : 256GB
  • กล้องหน้า :
    • 13MP
    • กล้องหน้าตัวที่สอง TOF 3D
  • กล้องหลัง :
    • 50MP
    • 12MP (Periscope telephoto)
    • 20MP (Ultrawide)
  • การเชื่อมต่อ :
    • Infrared (IrDA)
    • Bluetooth 5.2
    • รองรับ NFC
    • Type-C USB 3.1
    • USB On-The-Go
  • แบตเตอรี่ : 4,200 mAh (รองรับชาร์จไว 40W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ shopee

Samsung Galaxy Z Flip 3 5G (8GB/128GB)

รูปภาพจาก Samsung

Samsung Galaxy Z Flip 3 5G (8GB/128GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.7 นิ้ว 1080 × 2640 pixels (Refresh Rate 120Hz)
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.5 based on Android 11
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 888 Octa Core
  • GPU : Adreno 660
  • RAM : 8GB
  • ROM : 128GB
  • กล้องหน้า : 10MP
  • กล้องหลัง :
    • 12MP
    • 12MP (Ultrawide)
  • การเชื่อมต่อ :
    • Bluetooth 5.1
    • รองรับ NFC
    • ANT+
    • Type-C USB 3.1
    • USB On-The-Go
  • แบตเตอรี่ : 3,300mAh (รองรับชาร์จไว 15W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Samsung Galaxy S21 Ultra 5G (12/128 GB)

รูปภาพจาก Samsung

Samsung Galaxy S21 Ultra 5G (12/128 GB)

  • หน้าจอแสดงผล : 6.8 นิ้ว 1440 × 3200 pixels (Refresh Rate 120Hz)
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 3.1 based on Android 11
  • CPU : Samsung Exynos 2100 Octa Core
  • GPU : Mali-G78 MP14
  • RAM : 12GB
  • ROM : 128GB
  • กล้องหน้า : 40MP
  • กล้องหลัง :
    • 108MP
    • 12MP (Ultra Wide)
    • 10MP (Telephoto)
    • 10MP (periscope telephoto)
  • การเชื่อมต่อ :
    • Bluetooth 5.2
    • รองรับ NFC
    • ANT+
    • Type-C USB 3.2
    • USB On-The-Go
  • แบตเตอรี่ : 5,000 mAh (รองรับชาร์จไว 25W / รองรับชาร์จไร้สาย)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

บทส่งท้าย

สำหรับ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ แต่ละรุ่นก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นเน้นตัวกล้องเป็นหลัก บางรุ่นรองรับถ่ายวิดีโอที่สมูท มีกันสั่นในตัวเข้ามาช่วย เป็นข้อดีสำหรับผู้ที่นำสมาร์ทโฟนไปใช้ถ่ายวิดีโอ Vlog ไลฟ์สด หรือบางรุ่นมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงในทุกด้าน เป็นต้น ซึ่งสำหรับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นข้างต้น เป็นรุ่นไฮไลต์ของแต่ละแบรนด์ ซึ่งมีความโดดเด่น ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งทุกรุ่นในที่นี้ต่างมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคุลมในทุกระดับ อยู่ที่ว่า คุณจะเน้นใช้งานไปในด้านไหนครับ อาทิเช่น เน้นความคุ้มค่า เน้นเล่นเกม หรือเน้นถ่ายภาพ เป็นต้น สุดท้ายนี้เราอยากแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการใช้สมาร์ทโฟนต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อ และมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ เพราะจะมีคราบสกปรก ฝุ่นละอองต่างๆ ที่เกาะอยู่บนสามร์ทโฟนมากมาย ยิ่งช่วงนี้มีโรคระบาด COVID-19 อยู่ด้วยคุณต้องยิ่งระวังครับ เพื่อลดโอกาศการติดเชื้อ ซึ่งวิธีการทำความสะอาด การฆ่าเชื้อโรคบนมือถือก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพื่อสุขภาพของตัวคุณเองและคนที่คุณรัก

Previous Post

ซื้อ iPhone รุ่นไหนดี ปี 2022

Next Post

รีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ผู้ช่วยทำความสะอาดบ้าน ยี่ห้อไหนดี ปี 2022

Zunkiflee Waesani

Zunkiflee Waesani

ชื่อ ซุ้ลกิฟลี แวสะนิ ชื่อเล่น ซุล จบจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย คณะ สาขาวิชา วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เวลาว่าง หากาแฟดำกินกับฟังเพลงเมโลดี้เพราะ ๆ

Next Post
รีวิว หุ่นยนต์ทำความสะอาด หุ่นยนต์ดูดฝุ่น/ถูพื้น ที่ดีที่สุด ปี 2021

รีวิว หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ผู้ช่วยทำความสะอาดบ้าน ยี่ห้อไหนดี ปี 2022

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

มือถือ งบ 3,000 บาท ยี่ห้อไหนดี
Android Phone

รีวิว มือถือ งบ 3,000 บาท ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

January 22, 2023
แนะนำ สมาร์ทโฟน Infinix รุ่นไหนน่าใช้ ปี 2021
Android Phone

แนะนำ สมาร์ทโฟน Infinix รุ่นไหนน่าใช้ ปี 2023

January 22, 2023
รีวิว มือถือ Samsung ราคาไม่เกิน 5,000 บาท รุ่นไหนดีที่สุุด
Android Phone

มือถือ Samsung ราคาไม่เกิน 5,000 บาท รุ่นไหนดีที่สุด ปี 2023

January 6, 2023
รีวิว มือถือ Xiaomi (เสี่ยวหมี่) รุ่นไหนน่าใช้บ้าง
Android Phone

รีวิว มือถือ Xiaomi (เสี่ยวหมี่) รุ่นไหนน่าใช้ ปี 2023

March 4, 2023
มือถือเรียนออนไลน์ได้ ราคาถูก
Android Phone

แนะนำ มือถือเรียนออนไลน์ได้ ราคาถูก รุ่นไหนดี ปี 2021

June 25, 2021
รีวิว สมาร์ทโฟน Vivo รุ่นไหนดี ปี 2021
Android Phone

รีวิว สมาร์ทโฟน Vivo รุ่นไหนดี ปี 2023

January 28, 2023

Recent Posts

  • สมาร์ทวอทช์ Smartwatches ระดับพรีเมียม ที่ดีที่สุดสำหรับปี 2023
  • 8 อายไลเนอร์สีขาว ยี่ห้อไหนดี เขียนง่าย ติดทน ปี 2023
  • 10 แท็บเล็ต ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ยี่ห้อไหนดี ยอดนิยม สเปคแรง ปี 2023
  • สมุดเฟรนชิพ แบบไหนดี ทั้งแบบเท่ ๆ และน่ารัก ดีไซน์สวย
  • รีวิว มือถือพับได้ รุ่นไหนดี ปี 2023 Samsung, OPPO, HUAWEI

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ

© 2022 Best Review Asia