บางแสนถือว่าเป็นไฮไลท์และแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี – พัทยา ที่ทั้งคนกรุงเทพและปริมณฑลเข้ามาเที่ยวกันเยอะมาก เพราะระยะทางไม่ไกลสามารถขับรถยนต์ส่วนตัวไปเที่ยวกันได้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น อีกอย่างคือบางแสนมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งทะเลและน้ำตกให้ทุกคนได้ไปเล่นกัน ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ไม่สามารถไปหาเที่ยวได้ในกรุงเทพ ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมในช่วงสุดสัปดาห์หรือช่วงวันหยุดยาว คนเมืองถึงเลือกหนีฝุ่นกันเข้ามาเที่ยวในบางแสน ดังนั้นในบทความนี้เราจึงอยากมาแนะนำ ‘ที่เที่ยวบางแสน’ ให้ทุกคนได้วางแผนมาเที่ยวกัน

1. อ่างเก็บน้ำบางพระ

อ่างเก็บน้ำบางพระเป็นอีกหนึ่งที่ที่นักท่องเที่ยวแวะเข้ามาถ่ายรูปกันเยอะครับ เพราะแถว ๆ นั้นจะมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่พร้อมกับวิวภูเขาสูงต่ำสลับกัน โดยที่นี่จะมีสะพานยกสูงยื่นออกไปให้นักท่องเที่ยวชมวิวได้อย่างเต็มตา ทั้งนี้ด้วยถนนเป็นทางยาวและรถยนต์ไม่พลุกพล่าน ทำให้เราสามารถปั่นจักรยานและวิ่งออกกำลังกายพร้อมกับการชมวิวได้สบาย ๆ แต่ถ้าอยากไปในช่วงที่สวยที่สุด ผมแนะนำให้ไปในเดือนมีนาคม เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่ดอกเสลาสีม่วงอ่อนผลิบานเต็มที่ ให้ฟิลลิ่งเหมือนกับอยู่ญี่ปุ่นเลยครับ ถ้าหากใครเป็นสายเก็บรูปสวย ๆ ลงโซเชียลต้องแวะมานะครับ ไม่อยากให้พลาดเลยแหละ

2. เขาสามมุข

พื้นที่ภายในเขาสามมุขจะเป็นเนินเขาสูงครับ ซึ่งความสูงตรงนี้แหละทำให้เหมาะสุด ๆ สำหรับการชมวิวธรรมชาติ ถ้าหากไปในช่วงเย็นที่ฟ้ารำไรแต่ยังคงมีแสงอาทิตย์อยู่ ท้องฟ้าจะโปร่งมากและสภาพอากาศเองก็ไม่ร้อนจนเกินไป พร้อมกันนี้ยังมีระเบียงที่นั่งเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมพระอาทิตย์ตกกันอย่างเต็มอิ่ม ไม่เพียงเท่านั้นบริเวณเขาสามมุขยังมีศาลเจ้าแม่เขาสามมุข ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าหากใครยังโสดหรือกำลังตามหารักแท้อยู่ต้องมาขอพรที่นี่เลยครับ แล้วจะสมดังใจหวังไม่ต้องทนเหงาอีกต่อไป ในขณะเดียวกันยังมีเจ้าแม่ทับทิมที่สามารถของเรื่องการเงิน, ธุรกิจ และการเรียนได้ รวมไปถึงเขาสามมุขยังมีลิงเยอะมาก หากใครอยากให้อาหารแถวนั้นก็มีพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารลิงให้บริการอยู่ครับ แต่!! ระวังเรื่องของมีค่าให้ดีเพราะลิงที่นี่ซนมาก หากไม่ระวังของอาจหายไปต่อหน้าต่อตาได้

3. หาดวอนนภา

หาดวอนนภาไม่ได้มีเพียงแค่หาดทรายและน้ำทะเลให้เราเที่ยวชมเพียงแค่นั้น เพราะซีฟู้ดและอาหารที่นี่ขึ้นชื่อมากว่าราคาไม่แพงทั้งยังอร่อยสุด ๆ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะหลั่งไหลเข้ามากันในช่วงเย็น มีร้านรถเข็นจำนวนมากเรียงรายกันตามชายหาด ไม่ว่าจะเป็น หมึกช็อต, ยำทะเล, อาหารตามสั่ง, ลูกชิ้น, กุ้งเต้น, หมึกย่าง และอื่น ๆ อีกมากมาย เมื่อสั่งแล้วก็สามารถไปหาที่นั่งบริเวณชายหาดเพื่อกินลมชมวิวพร้อมกับอาหารในมือ บอกเลยว่าบรรยากาศดีมากเลยครับ ถ้าหากมีเวลาช่วงกลางคืนก็สามารถเข้าไปหาของกินและสัมผัสบรรยากาศทะเลกันได้

4. สะพานปลาอ่างศิลา

จริง ๆ แล้ว ‘สะพานปลาอ่างศิลา’ เป็นอีกหนึ่งที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานพอสมควรครับ โดยในอดีตบริเวณแถวนี้เคยเป็นหมู่บ้านของชาวจีนที่อพยพมาจากสงครามโลก หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ในช่วงของรัชกาลที่ 4 พระองค์ก็ได้มีการจัดสร้างสะพานหินขึ้นมา เพื่อให้การเดินทางและการค้าขายสะดวกยิ่งขึ้น หลังจากสร้างแล้วสะพานปลาอ่างศิลาก็มีการค้าขายอาหารทะเลกันอย่างหนาแน่น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารทะเลสด แต่ไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวเข้ามากันก็คือ ‘ประภาคาร’ ซึ่งสวยเหมาะแก่การเก็บรูปสุด ๆ

5. หาดบางแสน

แน่นอนว่าถ้าพูดถึงบางแสน สิ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ ‘หาดบางแสน’ เพราะเป็นหาดยอดนิยมมานานหลายปี เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการชมวิวทะเลหรืออาบแดดเองก็ทำได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเพิ่มความสนุกให้กับทริปนั่นคือการเล่นบานาน่าโบ๊ท ซึ่งบอกเลยว่าสนุกสุด ๆ รวมไปถึงบริเวณรอบชายหาดก็มีอาหารทะเลให้ซื้อรับประทานกัน ทั้งยังมีห้องพักให้เลือกเยอะมาก หากใครอยากกินลมทะเลนาน ๆ ก็เลือกที่พักกันตามใจชอบเลยครับ การเดินทางมายังหาดบางแสนไม่ได้ยุ่งยาก ขับรถจากตัวเมืองเพียง 14 กิโลเมตรก็ถึงแล้ว

6. สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา

สถาบันแห่งนี้เป็นการรวบรวมสัตว์ทะเลเอาไว้ให้ทุกคนได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้กัน โดยภายในพิพิธภัณฑ์จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ส่วน นั่นคือ ศูนย์เรียนรู้ใต้โลกทะเลบางแสน, สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล นอกจากจะได้เรียนรู้และเห็นสัตว์ทะเลตัวเป็น ๆ แล้ว เรายังได้ความรู้ในเรื่องระบบนิเวศด้วยเช่นกัน หากใครอยากตื่นตาใจกับสัตว์ทะเลหลากหลายสายพันธุ์กับความรู้ที่หาได้ยากในตัวเมือง ‘สถานบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล’ ของทางมหาวิทยาลัยบูรพาถือว่าน่าสนใจมากครับ

7. แกรนด์แคนยอนคีรี ชลบุรี

แกรนด์แคนยอนคีรีคืออีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจเลยละครับ โดยความเป็นมาเป็นไปของที่นี่ในอดีตเคยเป็นเหมืองหินมาก่อน ซึ่งชาวบ้านในสมัยนั้นทำอาชีพเกี่ยวกับการทำหิน นำหินไปขายให้กับทางผู้รับเหมาต่าง ๆ ดังนั้นจะเห็นได้ว่ารูปทรงของภูเขาหินเป็นทรงที่เหมือนกับการโดนกัดเซาะ ซึ่งตรงนี้ละครับเป็นเสน่ห์และสวยแบบไม่เหมือนใคร ไม่เพียงเท่านั้นแอ่งน้ำของที่นี่เองก็เป็นสีเขียวมรกตสวยมาก เนื่องจากด้านล่างเป็นแร่ น้ำจะเปลี่ยนสีไปตามอุณหภูมิของสภาพอากาศ ในขณะเดียวกันยังมีต้นไม้เขียวชะอุ่มรอบบริเวณ ทำให้เรารู้สึกสบายใจและได้ชมวิวทิวทัศน์หลักล้านไปพร้อม ๆ กัน

8. น้ำตกชันตาเถร

สำหรับคนที่ลืมเบื่อทะเลแล้ว อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปน้ำจืดบ้าง ผมอยากจะแนะนำ ‘น้ำตกชันตาเถร’ ครับ โดยน้ำตกจะมีทั้งหมด 5 ชั้น ในแต่ละชั้นจะมีทั้งต้นไม้, ดอกไม้ รวมไปถึงสัตว์ป่าตัวเล็กตัวน้อยให้เราได้รับชมกัน ถ้าหากไปในช่วงปลายปีถึงต้นปีคุณอาจโชคดีเจอกับนกเงือกหายาก ทั้งนี้มาน้ำตกแล้วแน่นอนว่าการลงไปเล่นน้ำให้เย็นชื่นใจ ก็ต้องห้ามพลาด ซึ่งน้ำตกชันตาเถรเป็นน้ำตกที่สามารถลงไปเล่นได้ครับ เพราะน้ำไม่แรงลงไปเล่นแช่ความเย็นให้ฟินกันได้อย่างเต็มที่ ส่วนใครชื่นชอบการเดินป่าแอดเวนเจอร์ ก็สามารถเดินไต่ขึ้นไปตามชั้นต่าง ๆ ของน้ำตกได้ ซึ่งในแต่ละชั้นก็จะมีความสวยที่แตกต่างกัน แต่แนะนำให้แวะไปชั้น 4 เพราะถือเป็นชั้นที่สวยที่สุด

9. พระมหาเจดีย์วัดแสนสุข

หลังจากเที่ยวกับธรรมชาติกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็หันมาเพิ่มสิริมงคลและรับบุญกันบ้าง โดยสถานที่ที่อยากแนะนำให้ไปกันคือ ‘พระมหาเจดีย์วัดแสนสุข’ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าประติมากรรมสวยตระการตามาก ๆ อย่างพระมหาเจดีย์เกตุแก้วจะมีบันไดพญานาคอันสวยงาม ส่วนภายในเจดีย์มีทั้งพระบรมธาตุ, อัญญมณีธาตุ และพระธาตุ ที่ถ้าได้เห็นแล้วต้องบอกว่า “สวย” กันเป็นเสียงเดียวกัน สีทองอร่ามไปทั้งเจดีย์สัมผัสได้ถึงพระพุทธคุณ ได้กราบไหว้เพิ่มสิริมงคลให้กับตัวเอง นอกจากนี้ยังมีโซนของรูปปั้นที่แสดงถึงสวรรค์และนรกให้เราได้ตระหนัก ใช้ชีวิตกันอย่างมีสติมากขึ้น

10. ถนนคนเดินบางแสน

ถนนคนเดินบางแสนมีของขายเยอะมาก ๆ ครับ หากใครมาเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อยากให้ลองมาแวะเวียนซื้อของกันครับ โดยถนนคนเดินที่นี่จะเปิดในวันศุกร์และเสาร์ เวลาตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืน โดยสินค้ามีทั้งเสื้อผ้า, เครื่องดื่ม และอาหาร ยิ่งโดยเฉพาะซีฟู้ดถือว่าแจ่มเลยละครับ เพราะราคาค่อนข้างถูกและความสด ก็สมกับที่อยู่ใกล้ทะเลเลยครับ มีทั้งกุ้ง, หอย, ปู และปลาหมึก ให้ได้รับประทานกัน นอกจากนี้ยังมีสินค้าแฮนด์เมนสวย ๆ เอาไว้สำหรับการตกแต่งบ้านอีกด้วย