สำหรับอุทยานแห่งแรกที่เราเลือกมาแนะนำก็คืออุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดซึ่งก็ได้ถูกเลือกให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งแรกและเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งชาติลำดับที่ 4 ของไทย โดยอุทยานแห่งนี้นอกจากจะมีทิวทัศน์ของท้องทะเลที่สวยงามแล้วนั้น ในบริเวณอุทยานแห่งนี้เองก็ยังมีพื้นที่ป่าที่เขียวชอุ่มที่มาพร้อมกับฉากหลังภูเขาหินปูนสุดตระการตา ทั้งยังมีความหลากหลายของสัตว์ป่าอยู่มากมายหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งนี้กลับมีมากถึง 316 ชนิดเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายจุดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถ้ำพระยานคร, จุดชมวิวเขาแดง, บึงบัวทุ่งสามร้อยยอด และอีกหลาย ๆ ที่ รับรองได้ว่าไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวยอย่างเดียวนะคะ

ในส่วนของที่พักของทางอุทยานก็มีให้บริการกันอย่างครบครันจัดเต็มมาก ๆ ทั้งบ้านพักซึ่งก็จะตั้งอยู่ในโซนหาดสามพระยาซึ่งก็จะอยู่ติดกับหน้าหาดนั่นเองค่ะ และอีกหนึ่งบริการที่พักนั้นก็คือเต็นท์ค่ะซึ่งสำหรับพื้นที่กางเต็นท์นั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 โซน คือลานกางเต็นท์ทุ่งสามร้อยยอดและลานกางเต็นท์หาดสามพระยา โดยในจุดกางเต็นท์ ซึ่งสำหรับบรรยากาศก็คงจะไม่ต้องบรรยายอะไรมากค่ะ เพราะทั้งเงียบสงบ ร่มรื่น และได้บรรยากาศของการพักผ่อนสุด ๆ แถมถ้าหากใครโชคดีก็อาจจะมีโอกาสได้เจอะเจอกับเจ้าลิงตัวแสบและถิ่นอย่างค่างแว่นถิ่นใต้ด้วยนะคะ แต่ขอกระซิบว่าน้อง ๆ น่ารักไม่ลงมากวนนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรเองก็เป็นหนึ่งในอุทยานที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่ค่อนข้างที่จะหลากหลายพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเล เกาะ พื้นที่ป่าและป่าชายเลน รวมไปถึงภูเขาด้วยค่ะ สำหรับกิจกรรมก็มีให้คุณได้เลือกสนุกกันไม่หวั่นไม่ไหว ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนชิล ๆ ใกล้ธรรมชาติ, การเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ, กิจกรรมดำน้ำเพื่อชมความงามของสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลและแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ และอีกมากมายเลยทีเดียวค่ะ

นอกจากกิจกรรมจะค่อนข้างที่จะหลากหลายแล้วนั้น ที่ในอุทยานแห่งนี้เองก็ยังมีบริการบ้านพัก, ค่ายพักและพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ด้วยนะคะ โดยในส่วนของบ้านพักและค่ายพักนั้นก็จะมีให้บริการทั้งโซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติบนฝั่งและในโซนหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ (เกาะกุลา) โดยในโซนบนฝั่งนั้นห้องพักก็จะค่อนข้างที่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันจัดเต็ม เรียกได้ว่าสามารถเทียบเท่ากับการเข้าพักโรงแรมทั่วไปได้เลยทีเดียว ต่อมาก็คือพื้นที่กางเต็นท์ซึ่งก็จะอยู่ที่ลานกางเต็นท์หมู่เกาะชุมพรในโซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ อันนี้ไม่จำเป็นต้องลงเกาะก็ยังสามารถที่จะชื่นชมบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติได้ค่ะทุกคน แถมห้องน้ำเองก็สะอ้านสะอาด ทั้งยังมีร้านค้าร้านอาหารต่าง ๆ ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวกันด้วยค่ะ

ถึงแม้ว่าจังหวัดภูเก็ตจะเต็มไปด้วยโรงแรมสุดหรูหราหลายแห่งก็จริง แต่ถ้าหากว่าใครได้มาพักที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถแห่งนี้ก็ต้องบอกเลยค่ะว่าความรู้สึกที่ได้นั้นจะแตกต่างออกไปจากที่คุณเคยสัมผัสมาอย่างแน่นอนเลยทีเดียว โดยอุทยานแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ในอำเภอถลางซึ่งก็ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวสนามบินมากนัก เดินทางสะดวก แถมบรรยากาศเองก็ดีเลิศอย่างบอกใครเชียวค่ะ โดยพื้นที่ของตัวอุทยานนั้นจะอยู่ติดกับทะเล มีหาดทรายสีขาวยาวไปตลอดแนว แล้วก็ยังมีแนวป่าสนทะเลสวย ๆ ขนาบข้างไปด้วยค่ะ

บรรยากาศภายในที่พักแห่งนี้ก็ค่อนข้างที่จะเงียบสงบซึ่งก็จะแตกต่างไปจากภาพจำของภูเก็ตที่เรารู้จักกันไปมากเลยทีเดียว มาถึงในส่วนของตัวที่พักก็จะเลือกใช้บริการกันอยู่ 3 ประเภทค่ะ คือบ้านพักซึ่งก็จะตั้งอยู่ในโซนที่ 1 ส่วนค่ายพักนั้นก็จะอยู่ในโซนที่ 2 และพื้นที่กางเต็นท์ก็จะอยู่ในที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บริเวณหน้าหาดในยางค่ะ ซึ่งอยากจะบอกว่าบรรยากาศนั้นดีมาก ๆ แถมจากจุดกางเต็นท์มองออกไปก็ยังจะสามารถถ่ายรูปกับเครื่องบินที่กำลังจะลงจอดที่สนามบินได้ด้วยนะคะ

ตามมาติด ๆ นะคะกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ซึ่งก็จะตั้งอยู่ที่จังหวัดพังงาค่ะทุกคน โดยอุทยานแห่งนี้จะเป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในแถบทะเลอันดามันจำนวน 5 เกาะด้วยกันค่ะ ซึ่งก็ได้แก่ เกาะสุรินทร์เหนือ, เกาะสุรินทร์ใต้, เกาะรี, เกาะไข่ และเกาะกลาง จุดเด่นของการมาเยี่ยมเยือนอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ก็คือการได้มาเห็นความชมความสวยงามและได้มาชื่นชมกับความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเลค่ะ โดยบรรยากาศการมาพักผ่อนในที่แห่งนี้คงจะใช้คำไหนอธิบายได้ไม่ดีเท่ากับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์แล้วละค่ะ ที่อุทยานแห่งนี้จะเป็นการพักผ่อนที่ปราศจากความวุ่นวาย แต่จะเน้นอยู่กับความเรียบง่ายของธรรมชาติเป็นหลักนั่นเองค่ะ

ที่พักภายในอุทยานเองก็จะมีทั้งแบบบ้านพักและแบบกางเต็นท์ให้เลือกค่ะ โดยถ้าหากเป็นบ้านพักนั้นก็จะเป็นบ้านพักที่มาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศที่เย็นฉ่ำในราคาที่คุณสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งในส่วนบ้านพักก็จะมีอยู่ด้วยกัน 2 โซนคือโซนสินสมุทรซึ่งตั้งอยู่ในโซนที่ 1 และโซนระกำหวานซึ่งจะตั้งอยู่ในโซนที่ 2 โดยทั้งสองโซนนั้นที่พักอาจจะอยู่ห่างออกจากหน้าหาดไปเล็กน้อยแต่ก็จะอยู่ใกล้กับแนวต้นไม้ใหญ่ทำให้เดินเล่นได้ชิล ๆ สบาย ๆ ไม่มีเหนื่อย ส่วนพื้นที่กางเต็นท์นั้นทางอุทยานก็ได้จัดไว้ให้ในพื้นที่ของอ่าวไม้งามบนหาดทรายสีขาวเนื้อเนียนละเอียดท่ามกลางบรรยากาศที่แสนจะร่มรื่นเย็นสบาย เอาเป็นว่านักท่องเที่ยวท่านใดที่สนใจก็แนะนำให้ตรวจสอบช่วงเวลากันให้ดี ๆ นะคะ เพราะว่าจะมีบางช่วงที่ทางอุทยานจะปิดเกาะเพื่อทำการฟื้นฟูธรรมชาติให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เช่นเดิมนั่นเอง

ต่อมาก็จะเป็นในส่วนของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่นั่นเองค่ะ สำหรับอุทยานแห่งนี้ก็จะเหมาะมาก ๆ ค่ะสำหรับคนที่ชื่นชอบบรรยากาศการพักผ่อนที่ติดทะเล เงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะว่าในพื้นที่ของอุทยานแห่งนี้นั้นมีสภาพธรรมชาติที่ยังคงสมบูรณ์สวยงามและยังเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์นาชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องปูเสฉวนตัวน้อย ๆ ณ อุทยานแห่งนี้เองก็เป็นเหมือนบ้านของน้อง ๆ เค้านั่นเองละค่ะ

สำหรับพื้นที่ค้างคืนพักแรมก็จะเปิดให้บริการกันแบบเต็นท์ค่ะ โดยพื้นที่กางเต็นท์ก็จะมีอยู่ 2 ที่ด้วยกันนั่นก็คือ ลานกางเต็นท์แหลมโตนดที่บริเวณแหลมโตนดบนเกาะลันตาใหญ่ค่ะและที่ต่อมาก็คือลานกางเต็นท์เกาะรอกซึ่งก็จะตั้งอยู่บนเกาะรอกนอกซึ่งทั้งสองที่นั้นต่างก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันแต่รับรองได้ค่ะว่าทั้งสองที่นั่นตอบโจทย์การพักผ่อนได้อย่างดีเลยทีเดียว ส่วนใครที่ไปพักแล้วกลัวเบื่อก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะเพราะนอกจากจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติบนชายฝั่งกันแล้ว คุณก็ยังสามารถดำน้ำเพื่อชมความงามของโลกใต้ทะเลได้ด้วยเช่นกัน

อุทยานแห่งชาติตะรุเตาก็เป็นหนึ่งในอุทยานที่หลาย ๆ คนอยากจะมาเยี่ยมชมสักครั้งเหมือนกัน เพราะว่าที่อุทยานแห่งนี้นอกจากจะมีท้องทะเลสวย ๆ แล้วนั้น พื้นที่ของอุทยานเองก็ยังครอบคลุมไปถึงหมู่เกาะและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกาะตะรุเตา, เกาะราวี, เกาะอาดัง, เกาะหลีเป๊ะที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีและอีกหลาย ๆ เกาะซึ่งรวมแล้วกว่า 51 เกาะเลยทีเดียวค่ะ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอุทยานแห่งนี้จึงเป็นเหมือนสวรรค์ของคนที่รักและชื่นชอบทะเลนั่นเองค่ะ

สำหรับใครสนใจจะมาพักที่อุทยานแห่งนี้ก็สามารถเลือกพักได้ทั้งแบบบ้านพักและเต็นท์พักแรมค่ะ โดยบ้านพักนั้นก็จะมีให้บริการกันทั้งที่พักแบบมีห้องน้ำในตัวและแบบห้องน้ำรวม ซึ่งห้องพักทั้งหมดก็จะกระจายตัวกันอยู่ทั้งในโซน 1 ซึ่งจะเป็นโซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติและโซนที่ 3 ซึ่งจะเป็นโซนหน่วยพิทักษ์ฯ แหลมสน เกาะอาดัง

บ้านพักในอุทยานนั้นมีหลากหลายประเภทค่ะ ฉะนั้นแล้วขอแนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดกันให้เรียบร้อยก่อนทำการจองที่พัก แถมในบางหลังเองก็ยังมีการกำหนดช่วงเวลาในการจ่ายไฟด้วยค่ะ มาถึงในส่วนของเต็นท์กันบ้าง โดยอุทยานแห่งชาติตะรุเตานั้นจะมีจุดให้นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์ได้ทั้งหมด 3 จุดค่ะ คือ ลานกางเต็นท์พันเตมะละกาและลานกางเต็นท์เมาะและ ซึ่งทั้งสองที่แรกนี้จะตั้งอยู่ในพื้นที่ของเกาะตะรุเตา และอีกหนึ่งจุดก็จะเป็นลานกางเต็นท์แหลมสนแต่ในจุดสุดท้ายนี้ก็จะตั้งอยู่ในโซนของโซนหน่วยพิทักษ์ฯ แหลมสนบนเกาะอาดังนั่นเองค่ะ ซึ่งจากข้อมูลจากเว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาตินั้นยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องนอนต่าง ๆ ฉะนั้นแล้วขอแนะนำให้ผู้ที่สนใจจะกางเต็นท์ในบริเวณดังกล่าว ขอให้เตรียมอุปกรณ์พักแรมไปให้พร้อมนะคะ

หากใครที่มีโอกาสได้มาเยือนถิ่นหมูย่างเมืองตรังทั้งที ถ้าหากมีเวลาเหลือก็อยากจะแนะนำให้มาพักค้างคืนกันที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมดูได้นะคะ เพราะบรรยากาศรอบ ๆ ที่พักและในอุทยานนั้นค่อนข้างที่จะเงียบสงบเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย และไม่ได้มีผู้คนพลุกพล่านจึงเหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่ต้องการที่จะมานอนฟังเสียงคลื่น นั่งดูพระอาทิตย์ตก หรือใครที่อยากจะพักสมองพักร่างกายนี่ก็ยิ่งเหมาะเลยแหละ สำหรับในส่วนของที่พักก็จะมีทั้งที่เป็นห้องพักเป็นหลังและเต็นท์ค้างแรมค่ะ

ตัวที่พักนั้นจะตั้งอยู่ในโซนที่ 1 ซึ่งเป็นโซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติและอยู่ติดกับบริเวณหาดฉางหลาง ห้องพักทั้งหมดก็จะมีหลากหลายประเภทและหลากหลายราคา รวมถึงยังมีห้องพัดที่มีเครื่องปรับอากาศให้คุณได้เลือกกันด้วยนะคะ แต่สำหรับใครที่อยากจะประหยัดเงินในส่วนนี้หรืออยากที่จะใช้ชีวิตแบบใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากขึ้น ทางอุทยานก็มีทั้งจุดกางเต็นท์เตรียมไว้ให้รวมถึงยังมีบริการเครื่องนอนให้กับนักท่องเที่ยวด้วยเช่นกันค่ะ สำหรับจุดกางเต็นท์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวจากภายนอกสามารถกางเต็นท์ได้นั่นก็คือลานกางเต็นท์ฉางหลางบริเวณโซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติและลานกางเต็นท์หยงหลิงซึ่งก็จะอยู่บริเวณโซนหน่วยพิทักษ์ 2 ว่ากันว่าหาดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ที่สวยงามและธรรมชาติสุด ๆ ไปเลยค่ะ เพราะว่าที่หาดแห่งนี้เป็นหาดทรายเนื้อรูปรูปทรงโค้งและรายล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตา เอาเป็นว่าสายธรรมชาตินี่ควรจะต้องเก็บไว้ในลิสต์สถานที่ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งนึงเลยค่ะ

และที่พักในอุทยานที่สุดท้ายของวันนี้ก็คือที่พักในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง อีกหนึ่งที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีทะเลที่สวยแล้วก็ยังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพมากอีกด้วย นี่จึงทำให้การเดินทางค่อนข้างที่จะสะดวก เอาเป็นว่าใครที่ไม่อยากเดินทางไกลหรือมีเวลาจำกัดก็แนะนำให้มาที่อุทยานแห่งนี้ได้เลยค่ะ โดยที่พักของอุทยานเองก็จะมีให้บริการทั้งหมด 2 แบบด้วยกันค่ะ คือแบบบ้านพักและลานกางเต็นท์ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าบ้านพักของอุทยานนั้นอาจจะไม่ได้อยู่ติดกับหน้าหาดมากและตั้งอยู่บนเนินเขา แต่ถ้าหากว่าใครที่อยากพักใกล้กับทะเลก็แนะนำเป็นลานกางเต็นท์ธารมะยมดีกว่าค่ะ เพราะลานกางเต็นท์ตรงนี้นั้นอยู่ห่างจากหน้าหาดไม่มาก แถมบรรยากาศเองก็รมรื่มสวยงามและค่อนข้างที่จะเงียบสงบเลยทีเดียว

ทางด้านหลังของลานกางเต็นท์ห่างออกไปมากก็จะเป็นที่ตั้งของน้ำตกธารมะยม น้ำตกที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในเกาะช้างโดยน้ำตกแห่งนี้จะเป็นน้ำตก 4 ชั้นขนาดกลาง สามารถเล่นน้ำเพื่อคลายร้อนได้ค่ะ สำหรับจุดกางเต็นท์แห่งนี้นอกจากจะมีบริการสำหรับการพักแรมแบบเต็นท์แล้วนั้น สำหรับใครที่มีรถบ้านแล้วอยากจะมาจอดในพื้นที่ของทางอุทยานเองก็สามารถทำได้เช่นกันนะคะ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในที่พักแรมที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่น ๆ เลยค่ะ เพราะว่าที่แห่งนี้นั้นนอกจากจะมีทะเลสวย ๆ แล้วก็ยังมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และธารน้ำตกสวย ๆ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอะไรที่คุ้มค่าสำหรับการมาพักผ่อนจริง ๆ เลยค่ะ