18 ที่เที่ยวญี่ปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นยอดฮิต ไปแล้วไม่ควรพลาด

ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนไทยหลายคนที่อยากเปิดประสบการณ์ในการไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกครับ เพราะการเดินทางไปญี่ปุ่นไม่ได้ไกลมากใช้เวลานั่งเครื่องบินประมาณ 6 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งความสวยงามเป็นระเบียบของตัวเมือง อาหารที่อร่อย และแหล่งท่องเที่ยวที่ครบครันทั้งในเรื่องของธรรมชาติและประวัติศาสตร์มีให้เที่ยวแบบครบจบที่เดียว

ญึ่ปุ่นจึงเป็นประเทศที่คุ้มค่าสำหรับการไปเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวครับ อย่างไรก็ดีการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อาจจะต้องวางแผนกันสักหน่อยว่าจะไปไหนและมีที่ไหนที่ควรไปบ้าง ดังนั้นในวันนี้ผมจึงรวบรวมเอา ‘ที่เที่ยวดังในญี่ปุ่น’ มาฝากให้ทุกคนได้อ่านกันในบทความนี้ครับ

1. ป่าไผ่ (Arashiyama Bamboo Grove) – เกียวโต

ป่าไผ่ (Arashiyama Bamboo Grove) 
ป่าไผ่ (Arashiyama Bamboo Grove)
ที่อยู่ Sagaogurayama Tabuchiyamacho, Ukyo Ward, Kyoto, 616-8394
พิกัด Google Maps

ป่าไผ่ของที่นี่ถือเป็นที่เลื่องชื่อลือชาในเรื่องของความสวยครับ เพราะไผ่มีการเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล อย่างเช่นถ้าหากไปในช่วงต้นปีจะเป็นช่วงที่ซากุระกำลังออกดอกผลิบานอย่างสวยงาม ทำให้เราได้ชมทั้งไผ่และซากุระไปพร้อม ๆ กัน แต่ถ้าไปช่วงปลายปีหรือประมาณพฤศจิกายนไปจนถึงธันวาคมใบไผ่จะเริ่มเปลี่ยนสีเพราะเข้าสู่ช่วงใบไม้ร่วง ดังนั้นช่วงปลายปีจึงเป็นไฮซีซั่นสำหรับที่นี่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะมาก อีกทั้งด้านในยังมีของฝากน่ารัก ๆ ให้ทุกคนได้ซื้อกลับบ้านอีกด้วยครับ แต่ถ้าจะให้แนะนำให้ไปช่วงเช้าครับ เพราะอากาศยังไม่ร้อนมากและค่อนข้างจะสวยเป็นพิเศษเนื่องจากแสงอาทิตย์จะสาดส่องตามไม้ไผ่ไปทั่วบริเวณ


2. หมู่บ้านประวัติศาสตร์แห่งชิระงะวะโงและโกะกะยะมะ – กิฟุ

หมู่บ้านประวัติศาสตร์แห่งชิระงะวะโงและโกะกะยะมะ
หมู่บ้านประวัติศาสตร์แห่งชิระงะวะโงและโกะกะยะมะ
ที่อยู่ Ogimachi, Shirakawa, Ono District, Gifu 501-5627
พิกัด Google Maps

ถ้าหากพลาดการมาที่นี่ต้องบอกเลยว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากครับ เพราะหมู่บ้านประวัติศาสตร์แห่งชิระงะวะโงและโกะกะยะมะได้รับการเลือกให้เป็นมรดกของโลก มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของสิ่งก่อสร้างและวัฒนธรรมอันสวยงาม โดยหมู่บ้านจะตั้งอยู่กลางหุบเขาธรรมชาติ บ้านในแต่ละหลังมีการสร้างหลังคาให้ทำมุมแบบ 60 องศา ลักษณะคล้ายกับการพนมมือ ซึ่งสาเหตุที่สร้างบ้านในลักษณะนี้เป็นเพราะบริเวณนั้นหนาวมาก หนาวชนิดที่หิมะตกกองเป็นภูเขา ดังนั้นการสร้างหลังคาทรงนี้จะช่วยให้เคลียร์หิมะออกได้ง่าย เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยและพื้นที่บริเวณนั้นมีหญ้าเขียวชอุ่มบวกกับวิวทัศน์ภูเขาที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้สวยเหมือนอยู่บนสวรรค์


3. ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) – เกียวโต

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha)
ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha)
ที่อยู่ 68 Fukakusa Yabunouchicho, Fushimi Ward, Kyoto, 612-0882
พิกัด Google Maps

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริจัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับท็อปของญี่ปุ่นเลยครับ ไฮไลท์ของที่นี่คือบริเวณด้านหลังของศาลจะมีเสาสีแดงที่เรียงรายกันกว่าหมื่นเสา เป็นทางเดินไปสู่ภูเขาอินาริซึ่งมีวิวสวย ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เก็บรูปกัน ทั้งนี้มีความเชื่อกันว่าภายในศาลเจ้าจะมีเทพเจ้านามว่า ‘อินาริ’ ที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ทั้งในเรื่องของการค้าขาย อำนาจ โรคภัยไข้เจ็บ การสอบ รวมไปถึงพืชพันธุ์ทางการเกษตรด้วยครับ ถ้าหากใครอยากไปชมศาลเจ้าสวย ๆ พร้อมกับบรรยากาศดี ๆ แนะนำให้มาที่ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

4. ปราสาทโอซากะ (Osaka Castle) – โอซากะ

ปราสาทโอซะกะ (Osaka Castle)
ปราสาทโอซากะ (Osaka Castle)
ที่อยู่ 1-1 Osakajo, Chuo Ward, Osaka, 540-0002
พิกัด Google Maps

ประสาทโอซากะมีประวัติศาสตร์มานานแล้วกว่านับร้อยปี ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันสำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งปราสาทแห่งนี้ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงให้กลายเป็นพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับชมความเป็นมาเป็นไปในอดีต บริเวณด้านในจะมีทั้งหมด 8 ชั้น มีการตั้งโชว์วัตถุทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น อาวุธทางสงคราม, เรื่องราวและข้อมูลของปราสาทแห่งนี้ รวมไปถึงหุ่นที่จำลองอย่างสมจริงเหมือนกับเราได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริง ๆ เรียกว่าเป็น 8 ชั้นที่สนุกเพลิดเพลินและได้ความรู้ไปด้วยในตัว นอกจากนี้บริเวณปราสาทยังมีดอกซากุระให้ชมกันแบบเต็มตา ถ้าไปในช่วงเมษายนจะเป็นช่วงที่ดีมากครับเพราะดอกไม้บานสะพรั่ง


5. ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) – โอซากะ

ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) 
ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market)
ที่อยู่ 2 Chome Nipponbashi, Chuo Ward, Osaka, 542-0073
พิกัด Google Maps

ตลาดคุโรมงตั้งอยู่ในเมืองโอซากะซึ่งเป็นเมืองใหญ่และเมืองเศรษฐกิจอันดับ 2 ของญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่คืออาหารทะเลจะสดมาก !! หากใครชื่นชอบรับประทานหมึก, ปลา, ปู หรือซีฟู้ดอื่น ๆ ต้องมาที่นี่ให้ได้ครับ โดยในแต่ละร้านจะจัดการอาหารทะเลให้เราเสร็จสรรพเรียบร้อยทั้งการล้างและหั่นเป็นซาซิมิ รับรองว่าไม่มีคำว่าผิดหวัง แต่หากใครแพ้หรือไม่ชอบอาหารทะเลก็สามารถมาได้นะครับ เพราะด้านในมีเนื้อวากิวเกรด A ราคาถูกและของหวานให้เลือกรับประทานกันด้วยเช่นกัน ถ้ามีโอกาสมาโอซากะผมไม่อยากจะให้ทุกคนพลาดมาที่นี่


6. ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) – ฮอกไกโด

ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) 
ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)
ที่อยู่ 15号 Kisenkita, Nakafurano, Sorachi District, Hokkaido 071-0704
พิกัด Google Maps

ใครเป็นสายถ่ายรูปหรือชอบดอกไม้สวย ๆ ‘ฟาร์มโทมิตะ’ เป็นตัวเลือกที่ถูกใจคนแน่นอน เพราะฟาร์มแห่งนี้มีการตกแต่งสวนอย่างสวยงาม เป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่สลับสีกันเป็นแถว ๆ ละลานตามาก แต่ถ้าหากเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาคงต้องเป็นลาเวนเดอร์สีม่วงซึ่งหาชมได้ยาก ที่สำคัญคือกลิ่นหอมโชยให้บรรยากาศดีสุด ถ้าหากใครอยากมาเก็บภาพดอกลาเวนเดอร์ผมแนะนำให้มาในช่วงกรกฎาคม เพราะดอกจะบานพร้อมกันทั้งฟาร์ม รับรองว่าเข้าไปแล้วชุ่มชื่นหัวใจแน่นอน


7. วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple) – เกียวโต

วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple)
วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple)
ที่อยู่ 1 Chome-294 Kiyomizu, Higashiyama Ward, Kyoto, 605-0862
พิกัด Google Maps

วัดคิโยมิซุไม่ได้มีจุดขายเพียงแค่สถาปัตยกรรมเท่านั้น แต่ทางวัดยังได้รับเลือกจากองค์กรระดับโลกอย่างยูเนสโกให้กลายเป็นมรดกของโลกอีกด้วย โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาทำให้มีน้ำไหลผ่าน ซึ่งน้ำจะสะอาดและใสเหมือนกับผ่านการกรองมาแล้วกว่า 500 ครั้ง เพราะเป็นการรวมตัวกันของน้ำใสบริสุทธิ์ทั้งหมด 3 สายจนกลายเป็นน้ำตกชื่อดังนั่นคือ ‘น้ำตกโอโตวะ’ ครับ ความใสของน้ำทำให้เกิดการตั้งชื่อวัดว่า ‘วัดน้ำใส’ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีซากุระสีแดงและวิวทิวทัศน์เกียวโตให้ดูกันแบบเต็มอิ่ม


8. ปราสาทฮิเมะจิ (Himeji Castle) – เฮียวโงะ

ปราสาทฮิเมะจิ (Himeji Castle) 
ปราสาทฮิเมะจิ (Himeji Castle)
ที่อยู่ 68 Honmachi, Himeji, Hyogo 670-0012
พิกัด Google Maps

การเดินทางมาเที่ยวปราสาทฮิเมะจิไม่ยากครับ จะนั่งรถไฟฟ้าหรือรถบัสก็ได้ใช้เวลาไม่นาน โดยปราสาทแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 600 ปี หากใครอินประวัติศาสตร์ต้องมากันสักครั้ง เพราะที่นี่เป็นมรดกโลกและมรดกสำคัญของญี่ปุ่น ทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้สามารถเข้าไปในปราสาทได้ทุกชั้น ซึ่งทั้งหมดจะมีทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นบนสุดจะทำให้เรามองเห็นวิวทัศน์สวย ๆ และศาลเจ้าให้เราได้กราบไหว้ รวมไปถึงในพื้นที่ก็มีสวนและคูน้ำให้เราได้ล่องเรือกันอย่างเพลิดเพลิน


9. สวนโยชิไกเอน (Yoshikien Garden) – โตเกียว

สวนโยชิไกเอน (Yoshikien Garden)
สวนโยชิไกเอน (Yoshikien Garden)
ที่อยู่ 1-1 Kasumigaokamachi, Shinjuku City, Tokyo 160-0013
พิกัด Google Maps

สวนโยชิไกเอนเป็นสวนเล็ก ๆ ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย ในอดีตสวนแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักสำหรับสงฆ์ แต่ด้วยบรรยากาศ ความเงียบสงบ และการตกแต่งทำให้ที่นี่น่าไปมากเลยครับ ด้านในจะมีสวนมอส, สวนดอกไม้ รวมไปถึงสระน้ำที่ไม่ว่ามองไปมุมไหนก็ผ่อนคลายสบายตา ถ้าหากใครอยากสโลว์ไลฟ์ไม่ชอบความวุ่นวายอยากให้ลองแวะกันเข้าไปครับ เพราะสามารถเข้าชมได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย


10. ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain) – ชิซุโอะกะ

ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain)
ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain)
ที่อยู่ Kitayama, ฟุจิโนะมิยะ จังหวัดชิซุโอะกะ 418-0112
พิกัด Google Maps

มาญี่ปุ่นแล้วไม่ได้ไปดูภูเขาไฟฟูจิก็เป็นอะไรที่น่าเสียมากครับ เพราะภูเขาไฟแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ โดยความสวยงามของที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ภูเขาไฟเท่านั้นครับ แต่พื้นที่รอบ ๆ จะมีทุ่งดอกไม้, สวนสาธารณะ, ทะเลสาบ, ชายหาด, ศาลเจ้า และเนินเขา ที่เห็นได้ทั้งความสวยงามของสถาปัตยกรรม ดอกไม้ และสายน้ำไปพร้อมกับการชมพูเขาไฟ เป็นวิวที่สวยมากไม่ว่าจะใช้กล้องอะไรถ่ายก็ไม่สามารถลบความสวยของภูเขาไฟฟูจิได้เลยครับ ทั้งนี้ภูเขาไฟฟูจิสามารถเข้ามาเที่ยวได้ในทุกซีซั่น เพราะในแต่ละฤดูกาลจะสวยแตกต่างกันออกไป


11. ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) – เกียวโต

ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine)
ที่อยู่ 68 Fukakusa Yabunouchicho, Fushimi Ward, Kyoto, 612-0882
พิกัด Google Maps

ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ มีจุดเด่นคือศาลจะตั้งอยู่บริเวณริมทะเล ในระหว่างเดินไปยังเนินเขาเพื่อชมความสวยงามของทะเลจะมีเสาโทริอิสีแดงเรียงตัวกันตามทางเดิน ซึ่งเป็นอะไรที่สวยสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ส่วนน้ำทะเลเองก็จะเป็นโทนสีน้ำเงินครามสามารถเดินไปรับลมและชมวิวทะเลกันได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ มีหลายคนที่มาขอในเรื่องของความรักและบุตร ซึ่งหลายคนก็ได้สมตามใจหวังตามที่ตัวเองได้ขอไป หากใครกำลังคาดหวังกับความรักหรือการมีลูกก็ลองมาขอกันได้ครับ


12. ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan) – โอซากะ

ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan)
รูปภาพจาก usj.co.jp
ที่อยู่ 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, 554-0031
พิกัด Google Maps

ญี่ปุ่นไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามของปราสาท วัด หรือวัฒนธรรมเท่านั้น แต่สวนสนุกของญี่ปุ่นก็เจ๋งไม่แพ้ใคร มีหลายคนที่เดินทางมาญี่ปุ่นเพื่อเข้าไป ‘ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน’ โดยเฉพาะ ด้านในสวนสนุกจะตกแต่งให้ฟิลลิ่งเหมือนกับอยู่ในฮอลลีวูด เหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ชื่อดังโดยเฉพาะ Harry Potter ที่มีนักท่องเที่ยวแต่งตัวพ่อมดแม่มดกันเดินเต็มไปหมด นอกจากยังมีเครื่องเล่นหลากหลายชนิดสามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เล่นกันเพลินได้ตลอดทั้งวันแบบไม่มีเบื่อ รวมไปถึงโชว์การแสดงตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งวัน เรียกว่าทุกคนยอมเสียเวลาทั้งวันเพื่ออยู่ในยูนิเวอร์ซัลแห่งนี้เลยครับ


13. พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) – โตเกียว

พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)
พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)
ที่อยู่ 1-1 Chiyoda, Chiyoda City, Tokyo 100-8111
พิกัด Google Maps

พระราชวังอิมพีเรียลตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว เป็นราชวังที่ทางจักพรรดิญี่ปุ่นใช้ประทับกันมาอย่างยาวนับ 200 กว่าปี ทางเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าไปชมกันในราชวังได้ จะมีไกด์นำทางให้กับเราในการพาชมจุดต่าง ๆ ครับ แต่ถ้าใครไม่ชอบการรอหรือไม่อยากเข้าไปจริง ๆ แล้วบริเวณด้านนอกเองก็สวยไม่แพ้กันครับ เพราะมีทั้งสวนและวิวโรงน้ำชาสุวะโนะให้เราได้เดินเล่นถ่ายภาพกัน นอกจากนี้บริเวณเส้นทางคูน้ำก็มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากมาวิ่งออกกำลังกายกัน เพราะบรรยากาศค่อนข้างดีมีดอกซากุระบานสะพรั่งและต้นไม้สวยให้ชมกันตลอดเส้นทาง


14. น้ำตกยูทากิ (Yutaki falls) –โทชิกิ

น้ำตกยูทากิ (Yutaki falls)
น้ำตกยูทากิ (Yutaki falls)
ที่อยู่ Yumoto, Nikko, Tochigi 321-1662
พิกัด Google Maps

น้ำตกยูทากิสวยมากจริง ๆ ครับ โดยเนินเขาที่เป็นทางผ่านน้ำจะความสูงมากถึง 50 เมตร ดังนั้นสายน้ำจะไหลลงมาจากที่สูงอย่างสวยงาม เมื่อผสมกับธรรมชาติรอบข้างที่เป็นป่าไม้เขียวชอุ่มตามสไตล์ญี่ปุ่นจะยิ่งสวยมากขึ้นแบบทวีคูณ ทั้งนี้น้ำตกจะมีน้ำตลอดทั้งปีครับเนื่องจากมันเป็นแหล่งรวมตัวของน้ำจากทั้งหมด 3 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น ริวซู, เคงอน และโอคุนิกโก้ ดังนั้นใครว่างมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงไหนก็แวะกันเข้ามาได้ครับ นอกจากนี้ภายในพื้นที่น้ำตกก็จะมีร้านอาหารและขนมท้องถิ่นให้เราได้ชิมกัน อย่างเช่น ดังโงะหรืออาหารจำพวกลูกชิ้นที่รับประทานง่าย ๆ แต่อิ่มท้องและอิ่มใจไปพร้อมกับวิวของน้ำตก


15. ชมดอกซากุระที่แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River) – โตเกียว

แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River)
แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River)
ที่อยู่ โตเกียว ญี่ปุ่น
พิกัด Google Maps

ถ้าใครอยากจะชมดอกซากุระแบบจัดเต็มแบบไม่มีกั๊กจริง ๆ ต้องมาเที่ยวที่บริเวณ ‘แม่น้ำเมกุโระ’ ซึ่งตั้งอยู่ในช่วงเขตชินากาว่า ในช่วงเวลาที่ควรไปคือช่วงประมาณ 5 โมงเย็น เพราะมีการเปิดร้านขายของกันแบบอุ่นหนาฝาคั่ง ทั้งนี้รอบ ๆ ริมคลองจะมีการปลูกต้นซากุระมากถึง 800 ต้นยาวไปตามทางเลยครับ จะเรียกว่าดอกไม้ละลานตาเลยก็ได้ แต่ถ้าจะมาเที่ยวแนะนำว่าให้มาในช่วงเมษายนครับเพราะเป็นฤดูกาลที่ดอกซากุระสวยที่สุด มีเทศกาลและไฟสวย ๆ ให้เราเดินกันอย่างเพลินหูเพลินตา


16. สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) –โทชิกิ

สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)
ที่อยู่ Kamihatsuishimachi, Nikko, Tochigi 321-1401
พิกัด Google Maps

‘สะพานชินเคียว’ เป็นสะพานอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังมีการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในสะพานที่สวยติดอันดับท็อป ๆ ของญี่ปุ่นเลยครับ โดยถ้าหากย้อนไปในอดีตสะพานนี้มีไว้สำหรับราชวงศ์และชนชั้นสูงเท่านั้นในการเดินทางข้ามแม่น้ำ ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นทางเดินเพื่อเข้าไปในศาลเจ้าฟูทาราซังเพื่อเคารพเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ที่เป็นไฮไลท์ของสะพานคือธรรมรอบข้างเพราะมีต้นไม้ ป่าเขา และดอกไม้สลับสีกันอย่างสวยงาม ส่วนบริเวณด้านล่างของสะพานจะเป็นแม่น้ำไดยะ ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าน้ำเป็นสีฟ้าอ่อนและมีความใสมาก เห็นแล้วรู้สึกสดชื่นสบายหูสบายตาเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก


17. สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park) นากาโน่

สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park)
สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park)
ที่อยู่ 6845 Hirao, Yamanochi, Shimotakai District, Nagano 381-0401
พิกัด Google Maps

เชื่อว่าภาพของลิงแช่บ่อน้ำพุร้อนคงเป็นภาพที่หลายคนน่าจะเคยเห็นผ่านหน้าผ่านตากันมาบ้าง หากใครเป็นคนรักสัตว์น่าจะชอบที่นี่กันครับ เพราะสวนลิงแห่งนี้ได้ปรับปรุงให้เจ้าลิงได้แช่บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติโชว์นักท่องเที่ยวกันแบบเต็มอิ่ม เพียงแค่เดินเข้าไปทุกคนจะได้เห็นฟูงลิงเต็มไปทั่วสวน เมื่อเดินเข้าไปถึงบ่อน้ำพุร้อนก็จะเห็นลิงเรียงรายแช่น้ำหน้าแดงกันเป็นกลุ่ม ทั้งนี้ลิงเองก็มีความน่ารักครับเขาจะไม่ยุ่งกับคนที่เข้ามาเที่ยวเพราะค่อนข้างจะชินกับมนุษย์ แต่กฎเหล็กคือห้ามไปจับหรือยุ่งกับพวกเขาโดยเด็ดขาดต้องปล่อยให้เขาอยู่ตามธรรมชาติชมความน่ารักก็เพียงพอแล้ว


18. ภูเขาซะโอ (Mount Zao) – มิยากิ

ภูเขาซะโอ (Mount Zao)
ภูเขาซะโอ (Mount Zao)
ที่อยู่ Kuraishidakekokuyuchinai-国有林内 Togattaonsen, 蔵王町 刈田郡 Miyagi 989-0916
พิกัด Google Maps

ภูเขาซะโอเหมาะสำหรับสายท่องเที่ยวแบบเอ็กสตรีมหรืออยากทำกิจกรรมสนุก ๆ มากกว่าการไปเดินเล่นชมดอกไม้ครับ โดยในช่วงหน้าหนาวภูเขาแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้ามานั่งกระเช้าขึ้นที่สูงเพื่อเข้าสเก็ตบอร์ดหิมะ ทั้งยังมีรีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวได้แช่ออนเซนอุ่น ๆ ในบรรยากาศหนาวบอกเลยว่าฟินมาก !! ในขณะเดียวกันถ้าหากใครไปเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะสามารถเดินชมใบไม้สวย ๆ และปีนเขาเพิ่มความท้าทายให้กับตัวเองได้ ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์แนะนำให้ลองเข้ามาเที่ยวแล้วจะติดใจ

Lolipop

Lolipop

Create article about music and news with heart

Next Post