ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่มีคนไทยหลายคนเริ่มเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น เพราะหลายประเทศทั่วโลกมีการเปิดประเทศกันหมดแล้ว รวมไปถึงช่วงปลายปีเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศเพราะอากาศค่อนข้างดีและเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถได้ใช้วันหยุดของตัวเองไปเที่ยวตามที่ตัวเองชอบได้ครับ ซึ่งเมื่อพูดถึงการไปเที่ยวต่างประเทศแล้วแน่นอนว่าตัวเลือกแรก ๆ คงจะหนีไม่พ้น ญี่ปุ่น และที่เป็นจุดหมายของใครหลายคนคือ เกาหลี เนื่องจากเป็นประเทศในแถบเอเชีย การเดินทางไม่ได้ไกลมีแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งหลากหลาย หากใครกำลังมีแพลนไปเที่ยวเกาหลีอยู่ วันนี้เรามี ‘ที่เที่ยวดังในเกาหลี’ มาแนะนำให้ทุกคนได้ไปเที่ยวกันครับ

1. หอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower) – โซล

หอคอยเอ็นโซลถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 54 ปีก่อน ซึ่งในอดีตหอคอยแห่งนี้ใช้ประโยชน์ในการปล่อยสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ แต่ด้วยความสูงและวิวทิวทัศน์ที่มองเห็นความสวยงามของกรุงโซลได้แบบพาโนรามา โดยในช่วงเวลากลางวันจะเห็นตึกในตัวเมืองเรียงรายกันอย่างสวยงามบวกกับป่าไม้อันเขียวชอุ่ม ส่วนเวลากลางคืนจะเห็นไฟส่องแสงสว่างจากบ้านช่องและตึกสูงใหญ่ท่ามกลางตัวเมืองถือเป็นวิวหลักล้านที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาชมกันสักครั้งในชีวิตให้เป็นบุญตา นอกจากนี้ยังมีความน่ารักอีกอย่างหนึ่งคือด้านล่างของหอคอยจะมีรั้วสำหรับคล้องกุญแจคู่รักเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าคู่ของตัวเองเคยเดินทางมาและมีความเชื่อว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

2. วัดแฮดง ยงกุงซา (Haedong Yonggungsa Temple)

วัดแฮดง ยงกุงซา จัดว่าเป็นวัดในเกาหลีใต้ที่สวยขึ้นระดับประเทศจนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยือนกันเป็นจำนวนมาก ความพิเศษของที่นี่คือวิวทะเลอันสวยงามเนื่องจากวัดตั้งอยู่บริเวณริมชายหายซึ่งจะมีโขดหินสูงให้เราได้ยืนรับลมและทะเลสีครามแบบไกลสุดหูสุดตา เรียกว่าเป็นอีกมุมหนึ่งที่เหมาะมากสำหรับการชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น ในขณะเดียวกันสถาปัตยกรรมของวัดก็สวยไม่แพ้กันออกแบบตามสไตล์เกาหลีโบราณ ทั้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เรากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตครับ

3. พระราชวังเคียงบก (Gyeongbokgung Palace) – โซล

พระราชวังเคียงบกเคยเป็นราชวังของกษัตริย์ในประเทศเกาหลีมาอย่างยาวนาน ถือเป็นราชวังหลักที่ราชวงศ์อยู่กันมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ดีเมื่อเกิดสงครามใหญ่ราชวังแห่งนี้ก็โดนเผาและทำลายไปกว่าร้อยตำหนัก เหลือเพียงแค่ 10 ตำหนักหลงเหลือเท่านั้น ด้วยชาวเกาหลีอยากเก็บสถานที่ประวัติศาสตร์อันยาวนานเอาไว้ก็ได้มีการบูรณะราชวังให้กลับมาสวยเหมือนเก่า พร้อมกับเปิดให้ชาวเกาหลีและชาวต่างชาติเข้าไปสัมผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมในอดีต เป็นเหมือนการศึกษาและชมความสวยงามไปด้วยในตัว ถ้าหากเข้าไปคุณจะเห็นผู้คนแต่งตัวด้วยชุดฮันบกเหมือนได้ย้อนยุคไปในอดีตเลยละครับ ทั้งนี้สามารถเช่าชุดกับทางเจ้าหน้าที่ได้เลยราคาไม่แพงเลยครับ

4. สวนป่ากรุงโซล (Seoul Forest) – โซล

สวนป่าแห่งนี้จริง ๆ แล้วเป็นสวนสาธารณะในกรุงโซลครับ มีไว้ให้ผู้คนที่พักอาศัยอยู่ในกรุงโซลได้เข้ามาผ่อนคลายกับธรรมชาติกลางเมืองหลวง เหมือนได้หลีกหนีความวุ่นวายกลางเมืองที่มีแต่ตึกกับรถราบนท้องถนนเข้ามาใกล้ชิดกับต้นไม้และดอกไม้สวย ๆ ภายในสวนป่า ไฮไลท์ของที่นี่จะเป็นดอกซากุระเกาหลีที่เรียงรายอยู่ตามข้างทาง ต้องบอกเลยว่าสวยไม่แพ้กับซากุระของญี่ปุ่นเลยครับ ในขณะเดียวกันสวนป่ายังแบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะ, แม่น้ำ, สวนศึกษา, นิเวศวิทยาชุ่มน้ำ และสวนนิเวศวิทยาให้ทุกคนได้ศึกษากันได้แบบเต็มอิ่ม นอกจากผ่อนคลายกับความสวยงามแล้วยังได้ความรู้ติดตัวกลับไปด้วย

5. อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน (Hallasan National Park) – โซล

สายปีนเขาสายแอดเวนเจอร์ห้ามพลาดในการเข้าไปเที่ยว ‘อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน’ โดยเด็ดขาด เพราะถ้าหากอยากจะขึ้นไปบนยอดเขา นักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางขึ้นหลายกิโลใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งเป็นอย่างต่ำ แต่ถ้าถามว่าคุ้มค่าสำหรับความเหนื่อยไหม ? ต้องบอกว่า “คุ้มค่าสุด ๆ” เพราะวิวที่นี่สวยแบบหลักล้านเลยครับ อีกทั้งในระหว่างการเดินทางขึ้นไปก็จะมีดอกไม้ธรรมชาติและพืชนานาพันธุ์ที่หายากให้ดูกันแบบเต็มอิ่ม รวมไปถึงอุทยานยังได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย ดังนั้นความสวยไม่ต้องพูดอะไรให้มากมาย

6. สวนสนุกล็อตเต้ เวิลด์ (Lotte World) – โซล

สำหรับใครที่มาเที่ยวกันเป็นครอบครัวหรือมาเป็นแก๊งค์เพื่อนชอบเที่ยวสวนสนุก ผมแนะนำ ‘อุทยานแห่งชาติฮัลลาซาน’ เพราะเครื่องเล่นของที่นี่มีหลากหลายชนิด มีทั้งโซนสำหรับเด็กที่ปลอดภัย ส่วนของผู้ใหญ่ก็เน้นความผาดโผนหวาดเสียว ในขณะเดียวกันถ้าไปในช่วงเดือนตุลาคมที่เป็นเทศกาลฮาโลวีนก็จะมีโชว์พาเหรดให้เราได้ชมกันอีกด้วย นอกจากเครื่องเล่นสนุก ๆ แล้วด้านในยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่รวบรวมสัตว์น้ำเอาไว้กว่า 650 สายพันธุ์ ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์จำลองให้เราได้เหมือนย้อนอดีตไปในยุคเก่า ซึ่งมีฉากสงครามและความเป็นมาเป็นไปของผู้คนในอดีต หากใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากเที่ยวธรรมชาติหรือเที่ยวในเมืองเข้าไปสนุกกันในสวนสนุก ที่นี่ถือว่าตอบโจทย์ไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ

7. เกาะนามิ (Namiseom Island)

เกาะนามิเป็นเกาะที่มีลักษณะพระจันทร์เสี้ยว ถือได้ว่าเป็นเกาะที่หลายคนพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าโรแมนติกมาก เพราะด้วยบรรยากาศด้านในจะมีต้นเมเปิ้ลและต้นแป๊ะก๊วยซึ่งจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่าง ๆ อย่างถ้าเป็นฤดูใบไม้ผลิใบไม้จะกลายเป็นสีเหลือง เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะเริ่มเป็นสีน้ำตาลโทนอุ่นไปทั่วเกาะถ่ายรูปสวยและเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจมาก นอกจากเกาะจะมีต้นไม้และดอกซากุระสวย ๆ แล้ว ยังมีสัตว์ธรรมชาติอย่างนกกระจอกเทศและกระจอกมาโชว์ตัวให้เราชมความน่ารักอีกด้วย สำหรับใครอยากใช้ชีวิตสโลไลฟ์เที่ยวแบบไม่ต้องคิดอะไรมากควรจะมาเที่ยวเกาะนามิครับ

8. หุบเขาศิลปะแห่งโพชอน (Pocheon Art Valley)

หุบเขาศิลปะแห่งโพชอนในอดีตเคยเป็นพื้นที่สำหรับการทำอุตสาหกรรมแร่หินแกรนิตครับ แต่ด้วยความสวยของหุบเขาที่มีทะเลสาบสีเขียวมรกตและต้นไม้สวย ๆ ล้อมรอบ ทำให้ทางเกาหลีมีการปรับเปลี่ยนเหมืองให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาได้นับล้านคนต่อปี นอกจากนี้ยังซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องเข้ามาถ่ายทำกันเยอะมากครับ ส่วนในช่วงที่เหมาะกับการเดินทางมาเที่ยวมากที่สุดคือเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากใบไม้รอบ ๆ หุบเขาสวยมากที่สุด เป็นสีน้ำตาลโทนอุ่นช่วยให้บรรยากาศด้านในโรแมนติกมาก ๆ

9. หมู่บ้านชอนจู ฮันอก (Jeonju Hanok Village)

หมู่บ้านชอนจู ฮันอก เป็นหมู่บ้านโบราณของเกาหลีที่มีอายุอันยาวนานแล้วกว่า 800 ปี ถึงแม้ว่าโลกจะเปลี่ยนไปเยอะแล้ว แต่ทางเกาหลียังคงได้รับการดูแลและอนุรักษ์บ้านเรือนเอาไว้ให้เหมือนในอดีต โดยภายในหมู่บ้านมีบ้านโบราณรวมกันอยู่นับเกือบ 800 หลัง เมื่อเดินเข้าไปแล้วจะเหมือนกับได้นั่งไทม์แมคชีนย้อนอดีตกลับไปในเกาหลียุคเก่า นอกจากนี้ด้านในยังมีคาเฟ่ให้เราได้นั่งรวมไปถึงร้านอาหารเกาหลีโบราณที่เป็นแนวโลคอลหรืออาหารพื้นบ้านอีกด้วย รับรองว่ารสชาติอร่อยไม่รู้ลืมแน่นอน ทั้งนี้ถ้าหากใครอยากรู้สึกอินกับบรรยากาศมากขึ้นก็สามารถเช่าชุดฮันบกไปเดินเล่นกันในหมู่บ้านได้

10. ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market) – โซล

ตลาดนัมแดมุนถือได้ว่าเป็นตลาดชื่อดังระดับโลกเลยครับ เพราะตลาดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมานานแล้วถึง 600 ปี โดยตลาดจะเป็นลักษณะของร้านค้าที่แผงลอยมีของขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าและอาหารสตรีทฟู้ดให้ซื้อเยอะมากจนตาลาย ที่สำคัญคือราคาถูกมากหากใครอยากได้เสื้อผ้าสวยหรืออาหารอร่อยกันแบบอิ่มท้องต้องลองมาเหยียบตลาดนัมแดมุนกันสักครั้งแล้วจะเพลินจนไม่อยากกลับเลยแหละ แนะนำว่าให้ลองกินเกี๊ยวกับคิมบับครับอร่อยไม่รู้เลยแน่นแน

11. สวนสาธารณะฮานึล (Haneul Park) – โซล

สวนสาธารณะฮานึงคืออีกหนึ่งสวนที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล โดยสวนสาธารณะแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของธรรมชาติ เนื่องจากอดีตเคยเป็นสถานที่สำหรับการฝังขยะจนทำให้ดินแถวนั้นกลายเป็นพิษขึ้น ดังนั้นทางเกาหลีจึงพยายามฟื้นฟูให้ดินและธรรมชาติกลับมาสวยดังเดิม ด้วยการปลูกพืชกว่า 70 ชนิด แต่ที่เป็นไฮไลท์เลยคือทุ่งหญ้าสีเงินที่ทุกคนต้องเดินมาถ่ายรูปอัพลงโซเชียลเพราะสวยมาก ทั้งนี้เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนไปดอกหญ้าก็จะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีชมแดงไปทั่วพื้นที่ ไม่ว่ามาในฤดูกาลไหนสวนสาธารณะฮานึลก็สวยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเสมอ

12. ทงแดมุน ดีไซน์ พลาซ่า (Dondaemun Design Plaza) – โซล

ทงแดมุน ดีไซน์ พลาซ่า เป็นพื้นที่สำหรับการจัดงานและนิทรรศการมากมายกลางเมือง ทั้งยังมีศิลปินชื่อดังของเกาหลีมาถ่าย MV กันเยอะมาก เนื่องจากอาคารของที่นี่ดีไซน์ออกมาดูแปลกตามีความเป็นแฟชั่นอยู่ในตัว ลักษณะของอาคารคล้าย ๆ กับยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวที่หลุดเข้ามาในโลก เป็นสถาปัตยกรรมที่ดูแปลกใหม่และสวยมาก ถ้ามีโอกาสต้องมาเก็บรูปสวย ๆ กันสักครั้ง ซึ่งจริง ๆ แล้วทงแดมุนไม่ได้มีเพียงแค่อาคารสวยเท่านั้น แต่ด้านในยังมีพิพิธภัณฑ์, ห้องสมุด และห้างสรรพสินค้าให้เราได้ช็อปปิ้งกันอีกด้วย

13. อุทยานแห่งชาติบุคฮันซาน (Bukhansan National Park)

อุทยานแห่งชาติบุคฮันซานมีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่างเลยครับ เพราะนอกจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์แล้ว อุทยานยังเคยเป็นที่ตั้งในการสร้างป้อมปราการเพื่อใช้เฝ้าระวังข้าศึกที่จะมาบุกรุก นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปโบราณขนาดใหญ่ที่แกะสลักอย่างสวยงามให้เราชม ส่วนความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติก็จะมีทั้งพืชพันธุ์มากกว่าพันชนิด โดยสีของใบไม้ที่นี่จะสวยมาก ๆ มีการเปลี่ยนโทนสีไปตามฤดูกาลต่าง ๆ สวยถูกใจทุกคนอย่างแน่นอน เป็นอุทยานที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจนได้รับบันทึกสถิติโลกกินเนสส์เลยทีเดียว

14. เกาะเชจู (Jeju Island)

นอกจากเกาะนามิที่สวยขึ้นชื่อแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเกาะที่ดังไม่แพ้กันคือ ‘เกาะเชจู’ โดยเกาะแห่งนี้มีพื้นที่ใหญ่มาเป็นอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ ทั้งนี้บริเวณเกาะเชจูเคยเป็นภูเขาไฟมาก่อนและมีการประทุมาแล้วอย่างรุนแรงเมื่อหลายล้านปีก่อน ดังนั้นร่องรอยในอดีตก็ยังคงทิ้งเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน นอกจากนี้บนเกาะเชจูเองก็มีอุทานยานชื่อดัง 2 ที่ นั่นคือฮัลลาซานและซองซาน อิลชุลบง ซึ่ง UNESCO ตั้งให้เป็นมรดกโลกมาแล้วเรียบร้อย ความสวยของวิวทิวทัศน์สวยไม่แพ้ใครหากใครอยากอยู่แบบเต็มอิ่มบนเกาะก็มีที่พักให้ใช้บริการกันครับ

15. อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน (Seoraksan National Park) – คังว็อน

อุทยานแห่งชาติซอรัคซานอยู่ภายในบริเวณจังหวัดคังวอน สาเหตุที่อุทยานกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต เพราะด้านในมีต้นไม้และใบไม้สวย ๆ ตัดสลับแดง ชมพู และน้ำตาลไปทั่วอุทยาน บรรยากาศถือว่าค่อนข้างโรแมนติก ทั้งนี้ยังมีกระเช้าที่สามารถชมวิวจากมุมสูงได้แบบเต็มอิ่ม ส่วนใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ก็แนะนำให้เดินขึ้นเข้าเพื่อเข้าชมวิวเทือกเขาและเป็นการท้าทายความแข็งแรงไปด้วยในตัว นอกจากนี้ด้านบนเขายังมีซินฮึงซาซึ่งมีพระพุทธรูปปางค์นั่งสมาธิขนาดใหญ่ให้เราได้กราบไหว้เคารพบูชาเป็นสิริมงคลของชีวิต