10 ที่เที่ยวหน้าฝน ที่ไหนดี สัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอก

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หลาย ๆ คนคงคิดว่าสภาพอากาศที่เฉอะแฉะทำให้เป็นอุปสรรค การเดินทางไปท่องเที่ยวก็แสนจะลำบาก ขับรถค่อนข้างยาก อากาศเปียกชื้นไม่สบายตัว ที่สำคัญท้องฟ้ามืดมัวทำให้ถ่ายรูปออกมาไม่สวย ทำให้การท่องเที่ยวหมดสนุกเต็มไปด้วยความกังวลใจ แต่เพื่อน ๆ ทราบกันไหมครับว่าการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ เพราะเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด ฝนโปรยลงมาช่วยคลายร้อน ต้นไม้ใบหญ้ากลับมาเขียวชอุ่ม มองไปทางซ้ายหรือขวาก็เย็นสบายตา โดยเฉพาะการมาท่องเที่ยว ภูเขา ป่าไม้ อุทยานฯ เที่ยวดอย เที่ยวน้ำตก ซึ่งถือได้ว่าเป็นช่วงไฮซีซันเลยก็ว่าได้

ในวันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน พร้อมชมธรรมชาติที่สวยงามและทัศนียภาพสุดประทับใจ เพื่อเก็บไว้เป็นเรื่องราวดี ๆ ในการท่องเที่ยวท่ามกลางสายฝน แถมยังมีกิจกรรมยอดนิยมอย่างล่องแก่ง แคมป์ปิ้ง การเดินป่า เที่ยวเขื่อน ชมทะเลหมอก สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อรีเฟรชร่างกายและจิตใจให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง แต่จะมีที่ไหนถูกใจเพื่อน ๆ กันบ้างตามไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยครับ

อ่านเพิ่มเติม เที่ยวหน้าฝนอย่างไรให้ปลอดภัย

สถานที่เที่ยวหน้าฝน ที่ไหนดี ?

1. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

ภูทับเบิก
รูปภาพจาก thailandtourismdirectory.go.th
ที่อยู่ ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
พิกัด Google Maps

ใครบอกว่าภูทับเบิกต้องมาเที่ยวเฉพาะหน้าหนาวเท่านั้น อาจจะต้องเปลี่ยนความคิด เพราะภูทับเบิกในช่วงฤดูฝนก็สามารถมาเที่ยวชมทะเลหมอกได้ โดยภูทับเบิกตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ เบื้องหน้าห้อมล้อมไปด้วยวิวของภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนกัน มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ป่าไม้เขียวชอุ่มร่มรื่น ท้องฟ้าและภูเขาปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆและไอหมอกสีขาว ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวมักจะนิยมมาเที่ยวช่วงฤดูหนาว ทำให้ช่วงฤดูฝนคนไม่พลุกพล่าน ที่สำคัญต้นไม้ใบหญ้าผลิใบสวยงาม ทำให้ได้สัมผัสกับอีกมุมของภูทับเบิกที่บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายมาก ๆ ครับ

สำหรับไฮไลต์ช่วงหน้าฝนของภูทับเบิกนั่นก็คือ ทะเลหมอก ซึ่งมีโอกาสเจอทะเลหมอกได้แทบทุกวัน หากเป็นวันที่ฟ้าเปิด แสงอาทิตย์จะส่องผ่านก้อนเมฆและทะเลหมอก ทำให้มองเห็นวิวภูเขาที่รายล้อมไปด้วยทะเลหมอกสวย ๆ ที่สำคัญยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเพื่อรับไอแดดอุ่น ๆ พร้อมวิวสวย ๆ อีกด้วย และอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดนั่นคือ ไร่กะหล่ำปลี ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ความงดงามของไร่กะหล่ำปลีขนาดใหญ่ รวมทั้งสูดรับอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดได้อย่างเต็มที่

โดยภูทับเบิกสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยการมารับชมทะเลหมอกในช่วงฤดูฝนจะอยู่ระหว่างเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งช่วงต้นฤดูหนาวจะอยู่ระหว่างเดือนกันยายน ไปถึงเดือนตุลาคม ถือได้ว่าเป็นช่วงที่ภูทับเบิกสวยงามที่สุด และควรไปช่วงกลางวันก่อนพระอาทิตย์ตก โดยเพื่อน ๆ สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ แต่หากไม่เชี่ยวชาญเส้นทาง แนะนำว่าควรเหมารถขึ้นไปจะทำให้สะดวกกว่า และหากเป็นช่วงฤดูฝน เส้นทางจะชื้นแฉะควรเตรียมตัวให้ดีและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อความปลอดภัยในการท่องเที่ยวครับ


2. บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก จังหวัดกาญจนบุรี

บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก จังหวัดกาญจนบุรี
รูปภาพจาก mgronline.com
ที่อยู่ ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
พิกัด Google Maps

บ้านอีต่อง หมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องหมอกและฝน เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่รวบรวมประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวไทยและพม่าในสมัยอดีตไว้ด้วยกัน บริเวณรอบ ๆ หมู่บ้าน รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนและฤดูหนาวมีหมอกปกคลุมหนา ทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี หากใครมาเที่ยวต้องไม่พลาดที่จะมา สะพานป้ายไม้ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้าน ถือได้ว่าเป็นจุดเช็กอินแรกเมื่อมาถึงบ้านอีต่อง โดยเป็นสะพานที่เรียงรายไปด้วยแผ่นป้ายไม้ที่มีข้อความต่าง ๆ ของนักท่องเที่ยวอยู่ทั่วสะพาน ไม่ว่าใครเมื่อมาถึงก็ต้องถ่ายรูปไว้เป็นความทรงจำ โดยบนสะพานมีจุดชมวิวหมู่บ้าน สามารถมองเห็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและบ้านเรือนต่าง ๆ เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนชิล ๆ เพราะภายในหมู่บ้านมีตลาดเล็ก ๆ ร้านอาหาร และร้านขายของ ที่บรรยากาศสโลว์ไลฟ์มาก ๆ

ภายในหมู่บ้านมีอีกหนึ่งจุดยอดฮิต คือ เหมืองปิล๊อก เป็นสถานที่ทำเหมืองในสมัยอดีตที่เคยรุ่งเรือง แต่ปัจจุบันได้ปิดตัวลงเหลือไว้เพียงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ในอดีต ซึ่งเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ เครื่องมือ ซากรถ และตัวอาคารเก่า ที่ให้บรรยากาศคลาสสิกสุด ๆ สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูปแนวสตรีทเท่ ๆ ไม่ควรพลาดครับ นอกจากนี้หากใครมานอนค้างคืน ต้องตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ จุดชมวิวเนินช้างศึก ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี หากมาในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาวก็จะได้สัมผัสกับทะเลหมอกอย่างใกล้ชิด และใกล้ ๆ หมู่บ้านมีน้ำตกจ๊อกกระดิ่น น้ำตกสีเขียวมรกตที่มีความสวยงามอลังการ ซึ่งในช่วงฤดูฝนน้ำค่อนข้างแรงอาจจะไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ แต่แค่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองก็อิ่มอกอิ่มใจแล้วครับ

สำหรับการเดินทางไปหมู่บ้านอีต่องและเหมืองปิล๊อก หากเน้นการมาท่องเที่ยวพักผ่อนชมบรรยากาศหมู่บ้าน สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวได้ แต่สำหรับการเดินทางไปยังจุดชมวิวเนินช้างศึก แนะนำว่าควรเหมารถจากคนในท้องที่ เพราะในช่วงฤดูฝนทางค่อนข้างแฉะ หากไม่ชินเส้นทางอาจจะเกิดความลำบากในการขับรถได้ และควรตรวจสอบสภาพอากาศเพื่อให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจไร้กังวลครับ


3. แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี

แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
รูปภาพจาก thailandtourismdirectory.go.th
ที่อยู่ ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
พิกัด Google Maps

แก่งหินเพิง เป็นสถานที่ล่องแก่งอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ อยู่ในลำธาร ในทุก ๆ ปี แก่งหินเพิงจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่รักในการผจญภัยมารวมตัวกัน เพราะในช่วงฤดูฝน แก่งหินจะมีความสวยงาม โดยกิจกรรมยอดฮิตในช่วงหน้าฝน กิจกรรมล่องแก่งและแพยาง ซึ่งแก่งหินเพิงจัดเป็นแก่งที่มีความยาวระดับ 3 – 5 ซึ่งเป็นระดับปานกลาง ไปจนถึงระดับยากมาก ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญในการพายเรือเป็นอย่างมาก ด้วยกระแสน้ำสีขาวที่ไหลเชี่ยวกรากระยะทางกว่า 4.5 กิโลเมตร ทำให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับการล่องแก่ง

บางช่วงที่กระแสน้ำเบาก็สามารถสนุกไปกับการลงไปเล่นน้ำได้ โดยจุดที่ไม่ควรพลาด คือ แก่งสไลเดอร์ ซึ่งเป็นแนวแก่งหินใต้น้ำที่มีกระแสน้ำไหลเร็วบริเวณผิวน้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปนอนเล่นปล่อยตัวไหลไปกับน้ำได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน และเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี แต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลหรือผู้เชี่ยวชาญคอยสังเกตระดับน้ำว่าสูงมากพอหรือไม่ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย นอกจากกิจกรรมล่องแก่ง ยังมีกิจกรรมเดินป่าและขี่จักรยานเพื่อศึกษาธรรมชาติ หากโชคดีก็จะได้เห็นผีเสื้อสีสันแปลกตาที่อาศัยอยู่รอบ ๆ อีกด้วยครับ

สำหรับการมาท่องเที่ยวเพื่อล่องแก่ง ช่วงที่เหมาะจะมาเที่ยวมากที่สุด คือ ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ช่วงฤดูฝนจะมีน้ำหลากทำให้แก่งหินเพิงมีความสวยงาม เหมาะกับการท่องเที่ยวมาเล่นน้ำตามแก่งต่าง ๆ สำหรับใครที่อยากเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดมันและคนที่ชอบความตื่นเต้นเร้าใจ ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันให้ได้ เพราะหากหมดช่วงน้ำหลากในฤดูฝนไปต้องเสียดายแน่ ๆ ครับ


4. อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ

อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ
รูปภาพจาก chpao.org
ที่อยู่ อุทยานแห่งชาติไทรทอง ตำบลวังตะเฆ่ อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ
พิกัด Google Maps

อุทยานแห่งชาติแห่งชาติไทรทอง พื้นที่ครอบคลุมหลายอำเภอในจังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งจุดยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียว เพราะในชช่วงฤดูฝนป่าไม้และผืนหญ้าจะเขียวชอุ่ม อากาศเย็นตลอดทั้งปี ทำให้ดอกกระเจียวเริ่มเบ่งบาน ซึ่งภายในอุทยานฯ จะมีทุ่งดอกกระเจียว หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทุ่งบัวสวรรค์ โดยเป็นทุ่งขนาดใหญ่ มีป่าต้นเต็งรังที่อุดมสมบูรณ์และดอกกระเจียวผลิบานกระจายอยู่เต็มท้องทุ่ง รายล้อมไปด้วยหมอกสีขาวสวยงามราวกับภาพวาด พร้อมจุดชมวิวมากมายตลอดเส้นทางให้ได้เดินเที่ยวชมกันอีกด้วย

นอกจากนี้ภายในอุทยานฯ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ผาหำหด จุดชมวิวสุดหวาดเสียวบนหน้าผาสูงชัน มีลักษณะเป็นชะง่อนผา รูปร่างคล้ายแผ่นกระดาน ยื่นออกไปกลางอากาศ บริเวณด้านล่างจะเป็นผืนป่าและชุมชน หากเป็นช่วงหลังฝนตก รอบ ๆ หน้าผาจะถูกปกคลุมด้วยไอหมอกจาง ๆ หากใครอยากรู้ว่าน่าหวาดเสียวขนาดไหนก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเองให้ได้ครับ และอีกจุดเช็กอินที่ก่อนกลับก็อย่าลืมมาแวะพักที่ น้ำตกไทรทอง น้ำตกที่ขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นลานหินแผ่กว้างทำให้น้ำตกไหลลงมาอย่างสวยงาม พร้อมกับแอ่งน้ำต่าง ๆ ให้ลงเล่นได้เย็นชื่นใจ

สำหรับการมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยว น้ำตกไทรทอง ให้ได้ลงเล่นน้ำกันอีกด้วย สำหรับใครที่ตั้งใจมาชมทุ่งดอกกระเจียว แนะนำเป็นช่วงกรกฎาคม ไปจนถึงช่วงเดือนกันยายน เป็นช่วงที่ดอกไม้กำลังเบ่งบาน หรือควรตรวจสอบสภาพอากาศและสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ให้แน่ใจ เพื่อที่จะได้ไม่เสียเที่ยวครับ


5. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก
รูปภาพจาก thai.tourismthailand.org
ที่อยู่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
พิกัด Google Maps

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นอุทยานฯ ที่อยู่บนพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดเลย เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ของป่าไม้ รวมไปถึงยังผสมผสานกันระหว่างธรรมชาติและร่องรอยของประวัติศาสตร์ในอดีตได้อย่างลงตัว ภายในอุทยานมีน้ำตกที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกหมันแดง มีความสูง 32 ชั้น สามารถชมได้ชั้น 1 – 9 มีน้ำไหลให้เล่นตลอดทั้งปี จุดเด่น คือ ดอกลิ้นมังกร ซึ่งจะบานเพียงปีละครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ยังมี น้ำตกห้วยขมิ้นน้อย และน้ำตกร่มเกล้า – ภราดร ที่มีความโดดเด่น ร่มรื่น และสวยงามไม่แพ้กันครับ

ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

บริเวณรอบ ๆ อุทยานฯ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและโขดหินที่รูปร่างแปลกตามากมาย เช่น ลานหินแตก มีลักษณะเป็นลานหิน โดยรอยแตกเป็นแนวร่องเหมือนแผ่นดินแยก แคบบ้าง กว้างบ้าง สลับกัน พื้นหินปกคลุมด้วยพืชมอสส์และตะไคร่น้ำต่าง ๆ มีความสวยงาม แต่ต้องเดินอย่างระมัดระวัง และอีกหนึ่งจุดชมวิวประทับใจ ลานหินปุ่ม ลานหินที่มีลักษณะตะปุ่มตะป่ำขนาดไล่เลี่ยกัน เกิดจากการสึกกร่อนจากธรรมชาติ สามารถมองเห็นวิวของผืนป่าและภูเขาได้ โดยมีพื้นหลังเป็นวิวท้องฟ้าที่กว้างใหญ่แบบ 360 องศา ลมพัดเย็นสบาย ด้วยวิวที่สวยงามและเดินทางง่ายทำให้ลานหินปุ่มกลายเป็นจุดเช็กอินยอดฮิตนั่นเอง

สำหรับการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละฤดูต่างก็มีบรรยากาศและความพิเศษแตกต่างกัน ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป จะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้ดอกไม้ในป่าเบ่งบานอย่างสวยงาม เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยว หากใครไม่อยากพลาดบรรยากาศดี ๆ ในช่วงฤดูฝนก็เตรียมจัดกระเป๋าแล้วจัดทริปไปเที่ยวกันได้เลย


6. เขาช่องลม จังหวัดนครนายก

รูปภาพจาก thai.tourismthailand.org
ที่อยู่ ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
พิกัด Google Maps

เขาช่องลม ตั้งอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศแตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล โดยต้นจะมีแหล่งน้ำธรรมชาติส่วนหนึ่งจากเขาใหญ่ไหลลงมาสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนขุนด่านฯ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนน้ำในเขื่อนจะลดต่ำลง และฝนสร้างความชุ่มฉ่ำ ทำให้พื้นที่ของธรรมชาติโดยรอบเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าต้นไม้เขียวชอุ่ม มีช่องเขา ลำธาร และโขดหินที่งดงาม จนถูกเรียกว่า ‘กรีนแลนด์เมืองไทย’ ทำให้ใครหลาย ๆ คนเมื่อได้เห็นความงดงามเหล่านี้ต่างก็ต้องหลงเสน่ห์

กิจกรรมยอดฮิตเมื่อมาเที่ยวเขาช่องลมนั่นก็คือ นั่งเรือเที่ยวชมความงามของทะเลสาบเขื่อนขุนด่านฯ และล่องเรือชมต้นน้ำ – เขาช่องลม โดยจะเป็นการนั่งเรือเข้าไปเพื่อเที่ยวชมวิว 2 จุด เริ่มต้นที่จุดต้นน้ำ และ ต่อด้วยเขาช่องลม ที่เป็นไฮไลต์สำคัญ มีลักษณะเป็นขุนเขา ลมพัดตลอด บรรยากาศเย็นสบาย สองข้างทางเป็นวิวหุบเขา ปกคลุมด้วยผืนหญ้าเขียวขจีสวยงาม และสำหรับใครที่อยากชมวิวน้ำตกสวย ๆ เดินลึกเข้าไปจากท่าเรือเขาช่องลมจะพบกับน้ำตกเขาช่องลม น้ำตกผางาม และน้ำตกคลองคราม ที่มีน้ำไหลชุ่มฉ่ำตระการตา รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ช่วงเที่ยวเดือนมิถุนายน ไปจนถึงกันยายน เป็นช่วงกรีนซีซัน ควรตรวจสอบสภาพอากาศและระดับน้ำ โดยในช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 – 08.00 น. และสำหรับช่วงเย็นเวลาประมาณ 15.00 – 16.00 น. โดยจะเป็นการนั่งเรือเข้าไปด้านในผ่านจุดต่าง ๆ สำหรับใครที่ต้องการเดินเข้าไปที่น้ำตกเขาช่องลม แนะนำว่าให้ไปเป็นกลุ่ม ห้ามออกนอกเส้นทาง และที่สำคัญควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะจากลักษณะของป่าและเส้นทางค่อนข้างรก อาจจะทำให้หลงป่าได้ง่าย ๆ ควรศึกษาเส้นทางและระมัดระวังในการเดินทางเพื่อความปลอดภัยครับ


7. หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ

หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ
รูปภาพจาก thailandtourismdirectory.go.th
ที่อยู่ ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
พิกัด Google Maps

หินสามวาฬ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดบึงกาฬ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์และถือเป็นผลงานศิลปะที่เกิดขึ้นมาจากธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ บรรยากาศเย็นสบาย ผืนป่ารายล้อมไปด้วยถ้ำ หน้าผา และโขดหินที่ดูแปลกตา โดยเฉพาะหินสามวาฬ ที่มีลักษณะที่โดดเด่น เป็นโขดหินทรายขนาดยักษ์ติดอยู่กับหน้าผาที่สูงชัน แยกเป็นหิน 3 ก้อน รูปร่างของโขดหินดูคล้ายกับครอบครัวของปลาวาฬ พ่อ แม่ และลูก ที่กำลังแหวกว่ายอยู่บนผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ดูน่ารักและอบอุ่น

บนหินสามวาฬ เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม โดยนักท่องเที่ยวนิยมมากันแต่เช้ามืดเพื่อรับแสงแรกของพระอาทิตย์ บรรยากาศสุดโรแมนติก พร้อมแสงอาทิตย์ลอดกลุ่มเมฆกระทบกับไอหมอกจาง ๆ โดยเฉพาะในช่วงปลายฤดูฝนและฤดูหนาว ธรรมชาติจะมีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกล 360 องศา ด้านล่างห้อมล้อมไปด้วยผืนป่าภูวัว และสามารถมองวิวแม่น้ำโขงเหนือสุดของแดนอีสานได้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงจุดชมวิวผาน้ำทิพย์ ส้างร้อยบ่อ จุดชมวิวถ้ำฤๅษี ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่หลากหลาย

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวหินสามวาฬ สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ควรมาในช่วงเช้า โดยเส้นทางค่อนข้างแคบและลาดชัน หากใครไม่ชินเส้นทาง แนะนำให้ใช้บริการรถสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนควรเตรียมตัวให้พร้อม เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจจะทำให้ลื่นและเกิดอันตรายได้ และที่สำคัญควรตรวจสอบสภาพอากาศและเส้นทางให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่พลาดเก็บภาพเซลฟี่กับพระอาทิตย์ยามเช้าสวย ๆ บนหินสามวาฬนั่นเองครับ


8. บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่

บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่
รูปภาพจาก gotouchthesky.com
ที่อยู่ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด Google Maps

การมาเที่ยวเชียงใหม่ใครบอกว่ามาเที่ยวได้เฉพาะฤดูหนาว โดยจังหวัดเชียงใหม่ มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่ถึงแม้จะเป็นฤดูฝนก็มาเที่ยวได้นั่นก็คือ บ้านป่าบงเปียง ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพื่อน ๆ สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ บนเนินภูเขาสูง พื้นหลังเป็นท้องฟ้าสีคราม พร้อมก้อนเมฆสีขาวไล่เรียงสลับซับซ้อนกัน ส่วนจุดชมวิวที่เป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือ ทุ่งนาขั้นบันได โดยเราสามารถมองเห็นวิวคันนาลดหลั่นไปตามภูเขาที่กว้างไกล พร้อมเสียงน้ำไหลตามคันนา เป็นบรรยากาศที่สงบ เหมาะกับการมาฟื้นพลังมาก ๆ

สำหรับการมาเที่ยวบ้านป่าบงเปียง เพื่อน ๆ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากเลยครับ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เน้นความเรียบง่ายไม่ต้องทำอะไรมาก ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ นอนพักผ่อนแบบเรื่อยเปื่อย ชมวิวคันนาแบบชิล ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ ซึมซับธรรมชาติ ถ่ายรูปเล่นลงโซเชียล หากโชคดีก็จะได้สัมผัสกับหมอกยามเช้า รับไอแดดอุ่น ๆ ลมพัดเย็นสบาย นั่งจิบกาแฟรับเช้าวันใหม่ได้อย่างเพลิดเพลิน โดยในแต่ละช่วงเวลาของบ้านบงเปียง ก็จะมีบรรยากาศและเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป หากใครอยากหนีจากความวุ่นวายในเมือง แนะนำว่าควรแวะมาเที่ยวให้ได้ครับ

โดยบ้านป่าบงเปียง สามารถขับรถยนต์ส่วนตัวไปได้ เส้นทางค่อนข้างลาดชันและมีทางโค้งเยอะพอสมควร ควรศึกษาเส้นทางและระมัดระวังในการเดินทางให้ดี และหากใครที่ต้องการมาชมทุ่งนาขั้นบันไดที่เป็นสีเขียวขจี แนะนำว่าควรมาในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม เพราะเมื่อมาในฤดูอื่น สีของนาข้าวก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ก็ให้บรรยากาศและความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกันครับ


9. น้ำตกเปรโต๊ะลอซู จังหวัดตาก

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู จังหวัดตาก
รูปภาพจาก guidebangkok.net
ที่อยู่ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
พิกัด Google Maps

ในช่วงฤดูฝนน้ำตกถือได้ว่าเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยวชมความงามของน้ำตก เพราะป่ามีความอุดมสมบูรณ์ น้ำจะไหลแรง ทำให้สายน้ำจากน้ำตกมีความสวยงามมากที่สุด โดยเฉพาะน้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือที่ชาวบ้านเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตกปิตุ๊โกร น้ำตกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นน้ำตกที่มีลักษณะโดดเด่นสวยงามเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน โดยเป็นน้ำตกที่มีสายน้ำ 2 สายไหลมาบรรจบกันเกิดเป็นรูปหัวใจ ทำให้หลาย ๆ คน เรียกว่า ‘น้ำตกรูปหัวใจ’ บรรยากาศบริเวณน้ำตกเย็นสดชื่น มีละอองน้ำฟุ้งกระจาย เหมือนกับภาพวาดที่อยู่ในจินตนาการเลยทีเดียว

โดยน้ำตกเปรโต๊ะลอซู เราสามารถเข้าไปเดินชมความงามของน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด หรือสามารถมองน้ำตกจากจุดชมวิวบนยอดดอยมะม่วงสามหมื่นได้ โดยจะมีจุดชมวิวน้ำตกรูปหัวหัวใจ เป็นจุดชมวิวยอดฮิต ซึ่งเราจะได้รับความสดชื่นและเห็นวิวน้ำตกรูปหัวใจผ่านสายหมอกในฤดูฝน เป็นภาพสุดประทับใจที่ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักเดินป่าและผู้ที่มีหัวใจรักการผจญภัยต้องไปให้ได้สักครั้ง

การเดินทางไปยังน้ำตกเปรโต๊ะลอซู เหมาะกับการมาเที่ยวในช่วงฤดูฝน เพราะจะทำให้สามารถมองเห็นน้ำตกที่เป็นรูปหัวใจได้แบบเต็มดวง โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเป็นทริปตั้งแคมป์เพื่อท่องเที่ยวน้ำตกเปรโต๊ะลอซูและจุดชมวิวต่าง ๆ บนดอยมะม่วงสามหมื่น เส้นทางสำหรับการเดินไปน้ำตกไม่ลำบากมาก เดินง่าย ส่วนดอยมะม่วงสามหมื่นที่มีจุดชมวิวน้ำตก เส้นทางค่อนข้างลื่นและลาดชันต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษครับ


10. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
รูปภาพจาก trip.com
ที่อยู่ ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พิกัด Google Maps

หากพูดถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลาย ๆ คนคงนึกถึงเมืองร้อยเกาะและทะเลที่มีความสวยงาม แต่ในช่วงฤดูฝน ก็มีที่เที่ยวที่สวยงามไม่แพ้กัน ที่นี่คือ เขื่อนรัชชประภา หรือชื่อเดิม เขื่อนเชี่ยวหลาน อยู่ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก โดยเป็นเขื่อนเก็บน้ำที่มีธรรมชาติงดงาม สามารถล่องเรือชมทะเลสาบ ด้วยบรรยากาศรอบ ๆ เขื่อน ที่มีความเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยภูเขาหินปูนสูงใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตามากมาย แมกไม้สีเขียวชอุ่มปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ ท่ามกลางผืนน้ำทะเลสีเขียวมรกต ด้วยบรรยากาศและลักษณะโดยรอบของเขื่อนคล้ายกับเมืองกุ้ยหลินในประเทศจีน ทำให้ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘กุ้ยหลินเมืองไทย’

สำหรับใครที่มาเที่ยวเขื่อนรัชชประภาในช่วงฤดูฝน บอกได้เลยว่าจะต้องถูกใจมากแน่ ๆ เพราะในช่วงเช้าบริเวณเขื่อนมีโอกาสเกิดหมอกขึ้น และในช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ซึ่งอาจจะมีเมฆหมอกก่อตัวบนภูเขา แสงอาทิตย์สีส้มที่ลอดผ่านก้อนเมฆและกระทบลงบนผิวน้ำ บอกได้เลยว่าเป็นภาพที่โรแมนติกแบบสุด ๆ และจุดไฮไลต์ของนักท่องเที่ยวที่ต้องมาเช็กอินนั่นก็คือ หินสามเกลอ หรือ เขาสามเกลอ เขาหินปูนที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมากลางเขื่อนรัชชประภา หากมาถึงแล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปเก็บเอาไว้เพื่อบอกว่าเราได้มาถึงเขื่อนรัชชประภาแล้วนั่นเอง

การมาเที่ยวเขื่อนรัชชประภา สามารถมาเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงที่เขื่อนมีความสวยงาม ควรมาเที่ยวช่วงปลาย ๆ ฤดูฝนระหว่างกลางเดือนกันยายนและเดือนเดือนตุลาคม เพราะมีฝนตกไม่นานจนเกินไป โดยฝนตกช่วงเย็นถึงกลางคืน ทำให้ตอนเช้ามีโอกาสเกิดหมอกจาง ๆ ได้บ่อยครั้ง และที่สำคัญควรตรวจสอบสภาพอากาศให้ดี เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงลมมรสุมที่มีความรุนแรง หากลมมรสุมอ่อนรับรองว่าวิวสวยเกินคำบรรยายแน่นอนครับ


เที่ยวหน้าฝนอย่างไรให้ปลอดภัย

1. ควรตรวจสอบสภาพอากาศและวางแผนการเดินทาง

แอปแผนที่ควรมีการแสดงระยะ จุดหมายปลายทาง
ควรตรวจสอบสภาพอากาศและวางแผนการเดินทาง

เมื่อตั้งใจไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน การตรวจสอบสภาพอากาศของจุดหมายที่จะไปเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ครับ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวในหลาย ๆ ที่สามารถไปเที่ยวช่วงฤดูฝนได้ แต่หากเกิดพายุหรือสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน อาจจะทำให้ท่องเที่ยวได้ไม่สะดวก ดังนั้นจึงควรศึกษาเส้นทางและข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวให้ดี เพื่อที่จะทำให้เราสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายและมีความปลอดภัยในการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะได้ไม่พลาดวิวดี ๆ และบรรยากาศสวย ๆ ที่เป็นไฮไลต์ของแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วยครับ

2. ควรแต่งกายให้เหมาะสม

การแต่งกายเพื่อท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน ควรเป็นการแต่งกายง่าย ๆ เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เคลื่อนไหวได้คล่องตัว ควรเป็นผ้าที่แห้งง่าย ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น และไม่อุ้มน้ำ อาจจะเป็นผ้าใยสังเคราะห์ต่าง ๆ หากเป็นเสื้อแขนยาวก็จะสามารถช่วยป้องกันกิ่งไม้และแมลงต่าง ๆ ได้ ส่วนกางเกง ควรเป็นกางเกงที่ไม่สั้นหรือยาวจนเกินไป เพื่อการเดินที่สะดวก ที่สำคัญ รองเท้า ควรเป็นรองเท้าที่น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย มีดอกยางกันลื่นได้ เพื่อป้องกันการหกล้ม หากเป็นรองเท้าที่กันน้ำก็จะไม่อุ้มน้ำ ที่สำคัญสามารถทำความสะอาดได้ง่ายนั่นเองครับ

3. ควรจัดเตรียมสัมภาระที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง

อุปกรณ์ตั้งแคมป์เข้าป่า เดินป่า แก๊สซาลาเปา แก๊ส ผู้ชาย
ควรจัดเตรียมสัมภาระที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นร่ม เสื้อฝน รวมไปถึงอุปกรณ์เผื่อกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ

แน่นอนว่าการท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน ย่อมมีโอกาสที่จะเกิดฝนตกได้ตลอดเวลา ควรพกร่ม เสื้อกันฝน หรือ หมวก ติดตัวไว้เสมอ แต่หากเดินป่าควรพกยากันยุง สเปรย์กันแมลง หรืออุปกรณ์กันทาก รวมไปถึงอุปกรณ์เผื่อกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างเข็มทิศ ไฟฉาย ยารักษาโรค น้ำดื่ม อาหาร และอุปกรณ์เพิ่มเติมอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและทำให้ท่องเที่ยวได้สนุกมากยิ่งขึ้น

4. ควรตรวจสอบสภาพรถยนต์

สำหรับใครที่วางแผนด้วยการขับรถยนต์ เพื่อเที่ยวช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบสภาพรถยนต์ทุกครั้งก่อนออกเดินทางไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ที่ปัดน้ำฝน แบตเตอรี่ น้ำมันเบรก เครื่องยนต์ต่าง ๆ ที่สำคัญ โดยเฉพาะยางรถ ควรตรวจดูว่ามีดอกยางและลมยางหรือไม่ โดยรถยนต์ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน แนะนำว่าควรเช็กอย่างละเอียดที่ศูนย์บริการรถยนต์ เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและทำให้ทริปการท่องเที่ยวของเราปลอดภัยครับ

Dome Wasan

Dome Wasan

Hi everyone, I graduated from Prince of Songkhla University in the Faculty of Liberal Arts. I like the most about anime in Japan. Nice too meet you.

Next Post