ทะเลของประไทย ทะเลที่สวยงาม เป็นทะเลอันดับต้น ๆ ของโลก ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ป่าไม้ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ในฝันของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะทะเลฝั่งอันดามัน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของน้ำทะเลที่ใสสะอาด ไล่ระดับสีสันสวยงาม หาดทรายเนียนนุ่ม เป็นทะเลที่มีความงดงามไม่แพ้ชาติอื่น ๆ อีกทั้งยังมีโลกใต้ท้องทะเลที่สามารถพบแนวปะการังและฝูงปลาหายากได้หลากหลายชนิด เรียกได้ว่าเป็นแดนสวรรค์ของนักดำน้ำเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น เกาะลิบง เกาะหลีเป๊ะ เกาะสิมิลัน และเกาะอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้มีกิจกรรมให้เลือกทำไม่มีเบื่อ สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการท่องเที่ยวได้ทุกรูปแบบทั้งการปีนเขาสูดอากาศบริสุทธิ์ การนอนเล่นพักผ่อนรับกลิ่นอายทะเล หรือกีฬาเอ็กซ์ตรีมทางน้ำสุดมัน แต่เทรนด์การท่องเที่ยวที่ไม่เคยเอาต์เมื่อมาทะเลฝั่งอันดามันนั่นก็คือ การเที่ยวชมความงามของเกาะและท้องทะเลนั่นเอง ซึ่งเป็นความงามที่ครองใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยหาดทรายสีขาว ๆ น้ำทะเลสีใส ๆ จากทะเลฝั่งอันดามันตั้งแต่จังหวัดพังงา – ภูเก็ต – กระบี่ – ตรัง สำหรับใครที่ชื่นชอบทะเลอยู่แล้วจะต้องตกหลุมรักทะเลอันดามันอย่างแน่นอนครับ

จังหวัดพังงา

จังหวัดพังงา เป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวหลากหลายครบทุกรสไม่ว่าจะเป็นทะเล ภูเขา ลำธาร เมืองเก่าเก๋ ๆ คาเฟ่ชิค ๆ แน่นอนว่าทะเลก็ไม่ควรพลาด เพราะทะเลของจังหวัดพังงา เป็นหนึ่งในที่เที่ยวทะเลฝั่งอันดามันสุดปังของใครหลาย ๆ คน ที่ยืนหนึ่งเรื่องความสวยงามและสถานที่อันซีนที่แปลกตาไม่เหมือนใคร ด้วยน้ำทะเลที่ใสราวกับกระจก หาดทรายสีขาวเนียนนุ่ม เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนและถ่ายรูปเช็กอินเป็นที่สุด ส่วนจะมีที่ไหนรอเพื่อน ๆ อยู่บ้างไปติดตามได้เลยครับ

การเดินทางมาจังหวัดพังงา

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดพังงา สำหรับนักเดินทางที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ สามารถเดินโดยรถยนต์ส่วนตัว โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 เพื่อมาจังหวัดชุมพร ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วใช้เส้นทางเขื่อนรัชชประภา ขับต่อไปเพื่อเข้าสู่ อำเภอตะกั่วป่า ซึ่งเขาหลักเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 – 13 ชั่วโมง สำหรับใครที่มาเครื่องบิน สามารถลงที่จังหวัดภูเก็ตหรือกระบี่และเดินทางต่อมาจนถึงจังหวัดพังงาได้

1. หาดเขาหลัก จังหวัดพังงา

มาเริ่มกันที่แรกเลยดีกว่าครับ หาดเขาหลัก เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาหลัก – ลำรู่ จังหวัดพังงา มีลักษณะเป็นทางเดินเลียบชายฝั่ง แนวชาวหาดที่กว้างและทอดยาวกว่า 9 กิโลเมตร ชายหาดมีความสงบ รายล้อมไปด้วยร่มเงาของทิวสน หาดทรายเนียนละเอียด สลับกับก้อนหินน้อยใหญ่เรียงรายอย่างสวยงาม น้ำทะเลสวยใสสะอาด สามารถลงเล่นน้ำได้ และคลื่นทะเลมีระดับสูงกำลังพอดี มีหลายจุดที่เหมาะสำหรับเล่นกีฬาทางน้ำ จนถูกเรียกว่า Surf Town ของเมืองไทย ใครที่เป็นสายเซิร์ฟบอร์ดไม่ควรพลาด

	เดอะ บริซา บีช รีสอร์ต (The Briza Beach Resort)	ดูที่ Agoda
	เดอะ เฮเว่น เขาหลัก รีสอร์ท - ผู้ใหญ่เท่านั้น (The Haven Khao Lak Resort - Adults Only)	ดูที่ Agoda

บริเวณหาดเขาหลัก ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่มีความสวยงามโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกจากมุมชายหาดกว้าง ๆ โดยไม่มีอะไรมาบดบัง พร้อมกับแสงอาทิตย์สีส้มที่สะท้อนลงในทะเลและท้องฟ้ายามเย็น เป็นภาพที่สวยงามราวกับหลุดออกมาจากโปสต์การ์ด ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความประทับใจและเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่ เหมาะกับการมานั่งชิลและการดินเนอร์เป็นอย่างมาก

สำหรับการมาท่องเที่ยวหาดเขาหลัก สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงที่แนะนำจะเป็นช่วงต้นปีในฤดูร้อน คือ ช่วงระหว่างเดือนมกราคม ไปจนถึงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งจะเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ น้ำทะเลจะใสสะอาด และวิวสวยที่สุด รวมไปถึงการเดินทางด้วยเรือจะปลอดภัยและสะดวก รับรองว่าบรรยากาศดีเพลินตามาก ๆ ครับ

2. หาดเจ้าหญิง จังหวัดพังงา

หาดเจ้าหญิง เป็นหาดทราย ตั้งอยู่บนเกาะเมียง หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า เกาะสี่ อยู่ในหมู่เกาะสิมิลัน เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีทะเลสวยงามระดับโลก เป็นชายหาดที่มีผืนทรายสีขาวละเอียดทอดยาวไปประมาณ 400 เมตร รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสไล่ระดับสวยงาม มีปะการังกระจายเป็นกลุ่มอยู่บริเวณรอบ ๆ แนวโขดหิน มีจุดเล่นน้ำและดำน้ำตื้นดูปะการังได้ นอกจากนี้บนเกาะยังมีจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม คือ หาดเล็ก ที่เดินต่อจากหาดเจ้าหญิงได้ ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้หาดเจ้าหญิงเลยทีเดียว

	คาลิมา รีสอร์ต แอนด์ วิลล่า เขาหลัก (Kalima Resort and Villas Khao Lak)	ดูที่ Agoda
	เอ็มเจ บูทิก โฮเต็ล เขาหลัก (MJ Boutique Hotel Khao Lak)	ดูที่ Agoda

สำหรับอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดบนเกาะนั่นก็คือ จุดชมวิวลานข้าหลวง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน สามารถมองเห็นวิวของทะเลอันดามันที่ย้อมไปด้วยแสงอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม บนเกาะเมียงเป็นเกาะที่อยู่ภายในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ทำให้บนเกาะยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์หายากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นนกชาปีไหน ปู่ไก่ และปูเสฉวนนั่นเองครับ

หากเพื่อน ๆ ต้องการชมความสวยงามของหาดเจ้าหญิง ช่วงเวลาการท่องเที่ยวจะเป็นช่วงระหว่างเดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี เพราะเป็นช่วงปลอดลมมรสุมท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีคลื่นลม น้ำทะเลสงบนิ่ง ทำให้ง่ายต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ และนักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงามของเกาะเป็นจำนวนมาก

3. เขาตะปูและเขาพิงกัน จังหวัดพังงา

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเกาะพังงาที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยเขาตะปู หรือ เขาตาปู ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า James Bond Island เนื่องจากเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง James Bond ทำให้เป็นเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ มีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยว รูปทรงคล้ายกับตะปูขนาดยักษ์ที่ถูกตอกลงไปในทะเล รายล้อมไปด้วยทะเลอันดามัน เนื่องจากเขาตะปูถูกน้ำทะเลกัดเซาะอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขาอาจจะล้มลงมาได้ จึงไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้ โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมห่าง ๆ หรือชมจากสันดอนของเขาพิงกันได้

	Pha Nga Origin Hotel	ดูที่ Agoda
	โรงแรมเลอ เอราวัณ พังงา (Le Erawan Phang Nga Hotel)	ดูที่ Agoda

สำหรับเขาพิงกันที่อยู่ใกล้ ๆ กับเขาตะปู ห่างกันประมาณ 40 เมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความโดดเด่นและแปลกตาเช่นเดียวกับเขาตะปู เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยเขาพิงกัน มีลักษณะเป็นเกาะขนาดเล็ก ประกอบด้วยภูเขาจำนวนสองลูก ที่เคลื่อนตัวมาวางพิงกัน ภายในเกาะมีหาดทรายเชื่อมต่อติดกัน น้ำทะเลไล่สีจากสีฟ้าไปเป็นสีเขียวมรกต เมื่อมองออกไปในทะเล สามารถมองเห็นวิวของเขาตะปูและท้องทะเลอันดามันได้อย่างสวยงาม

เขาตะปูและเขาพิงกัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกใช้เป็นจุดจอดเรือสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายภาพ ทำให้ส่วนใหญ่จะมาเที่ยวกันแบบ One Day Trip พร้อมกับเกาะอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกันอย่าง เกาะปันหยี เกาะห้อง เกาะพนัก โดยฤดูท่องเที่ยวช่วงเดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนเมษายน จะเป็นช่วงที่ไม่มีคลื่นลมและน้ำในทะเลสวยงามที่สุดครับ

จังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ต เมืองที่โดดเด่นด้านการท่องเที่ยว เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่ามากมาย มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะทะเลภูเก็ตที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็ต้องพูดถึงความสวยงามอยู่ตลอดเวลา ด้วยหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ น้ำทะเลใสราวกับกระจก โลกใต้ท้องทะเลที่มีปะการังและฝูงปลานับร้อยพัน ที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ด้วยเหตุผลเหล่านี้เองที่ทำให้จังหวัดภูเก็ตถูกเรียกว่า ‘ไข่มุกแห่งอันดามัน’ เป็นทะเลที่ผู้คนมักจะเดินทางมาเพื่อหาความสุขนั่นเอง

การเดินทางมาจังหวัดภูเก็ต

สำหรับเส้นทางหลักที่ใช้เดินทางมาจังหวัดภูเก็ตด้วยรถยนต์ เริ่มจากกรุงเทพฯ โดยสามารถใช้เส้นทางจากทางหลวงหมายเลข 35 แล้วต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัด เพชรบุรี ตรงมาถึงจังหวัดชุมพร จากนั้นต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน และอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเลี้ยวขวาสู่ทางหลวงหมายเลข 401 และต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 415 พบสามแยกเลี้ยวเข้า อำเภอทับปุด ใช้ทางหลวง 4144 ขับเรื่อย ๆ จนพบสามแยกและเลี้ยวซ้ายเพื่อมาจังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีสายการบินอีกมากมายที่สามารถบินตรงจากกรุงเทพฯ มายังภูเก็ตได้เลย ทำให้สามารถเดินทางไปกลับได้สะดวกมาก ๆ ครับ

1. หาดฟรีด้อม (Freedom Beach) จังหวัดภูเก็ต

หากพูดถึงชายหาดในจังหวัดภูเก็ต แน่นอนว่าหลายคนคงต้องนึกถึง หาดป่าตอง หรือ หาดกะรน เป็นอันดับต้น ๆ หากพูดถึง หาดฟรีด้อม อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไหร่ ซึ่งหาดฟรีด้อม เป็นหาดลับที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต มีอีกชื่อหนึ่ง คือ หาดไม้ง้าว ชายหาดและน้ำทะเลมีความสวยงามจนเรียกคะแนนจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้สามารถคว้าอันดับที่ 18 จากเว็บไซต์ชื่อดัง World Beach Guide เสน่ห์ของหาด คือ บริเวณรอบเกาะมีพรรณไม้ขึ้นอุดมสมบูรณ์ หาดทรายขาวเนียนนุ่มสะอาดตา น้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกตใสสะอาด จนสามารถมองเห็นฝูงปลาและแนวปะการังในโลกใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นดูปะการังมาก ๆ ครับ

	Seaview Patong Hotel	ดูที่ Agoda
	Duangjitt Resort and Spa	ดูที่ Agoda

เส้นทางการเดินทางไปยังหาดต้องฝ่าเนินเขาไปลึกพอสมควร แต่เมื่อได้ไปสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของชายหาดและน้ำทะเลแล้ว รับรองว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งแน่นอน และถึงแม้พื้นที่ของหาดจะไม่ได้กว้างมากนัก ด้วยบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ทำให้สามารถปลีกตัวออกมาจากความวุ่นวายได้ ที่สำคัญชายหาดแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นจุดที่เหมาะกับการนอนอาบแดดพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ พร้อมกับสามารถชมวิวทิวทัศน์ของทะเลอันดามันที่สวยงามได้อย่างเพลิดเพลิน

สำหรับการเดินทางมาที่หาดฟรีด้อมสามารถเดินทางมาได้ 2 เส้นทาง ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ โดยทางรถยนต์ให้มุ่งหน้าจากป่าตอง เพื่อมายังหาดไตรรัง หากมาทางเรือต้องนั่งเรือมาจากหาดป่าตองได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีโอกาสมาจังหวัดภูเก็ต หรือมาเที่ยวป่าตองแล้วอยากหามุมสงบ ๆ หลีกหนีจากความอึกทึกวุ่นวาย ก็สามารถแวะมาเช็กอินที่หาดฟรีด้อมได้ รับรองว่าไม่เสียเที่ยวแน่นอนครับ

2. เกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต

เกาะเฮ หรือ Coral Island อยู่ในท้องทะเลอันดามันของจังหวัดภูเก็ต เป็นเกาะที่มีพื้นที่ของเกาะเขียวชอุ่ม มีชายหาดสีขาวที่เนื้อเนียนละเอียดนุ่มเท้า ทำให้สามารถเดินเล่นบนชายหาดได้อย่างชิล ๆ โดยบนเกาะจะมีชายหาด 2 แห่งที่เป็นจุดท่องเที่ยวหลัก คือ หาดหน้า เป็นหาดที่มีหาดทรายสีขาวและพื้นหลังเป็นน้ำทะเลสีฟ้าใส รายล้อมไปด้วยเงาจากต้นไม้ที่ร่มรื่น นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับอีกจุด คือ หาดกล้วย ซึ่งบรรยากาศจะค่อนข้างสงบกว่า คนไม่พลุกพล่านวุ่นวาย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวุ่นจนเกินไป

	Rawai Palm Beach Resort	ดูที่ Agoda
	Coral Island Resort	ดูที่ Agoda

ภายในท้องทะเลรอบ ๆ เกาะเฮ มีปะการังกิ่งและปะการังจานเป็นแนวยาว สามารถพบฝูงปลาน้อยใหญ่ได้มากมายไม่ว่าจะเป็น ปลาผีเสื้อ ปลากะพง ปลาโนรี โดยจะมีกิจกรรมยอดนิยมอย่างดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก นอกจากนี้ยังสามารถพายเรือคายัคแบบธรรมดาและแบบใสเพื่อชมความงามรอบ ๆ เกาะได้ โดยเรือคายัคใส เราสามารถมองดูปลาจากบนเรือได้เลย ถึงแม้จะไม่ชัดเท่ากับลงไปดำน้ำด้วยตัวเอง แต่ก็ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ไปอีกแบบ ที่สำคัญบนเกาะยังมีกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น บานาน่าโบ๊ท เจ็ตสกี และกีฬาอื่น ๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นสนุกอย่างเต็มที่

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะเฮ เหมาะกับการมาท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ เน้นการมาพักผ่อนชมธรรมชาติและเล่นกีฬาทางน้ำ โดยการเดินทางมาด้วยเรือสปีดโบ๊ท เรือหางยาว หรือเรือยอชต์ สามารถเดินจากชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต ห่างจากหาดราไวย์ประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 – 45 นาที ขึ้นอยู่กับเรือที่เลือกเดินทาง และช่วงเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนเมษายน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจที่จะทำให้เพื่อน ๆ ได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อน ๆ ได้อย่างเต็มที่ครับ

3. เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต

หากพูดถึงเกาะที่มีน้ำทะเลสวยใสไม่เป็นรองใครของทะเลฝั่งอันดามันจนได้ชื่อว่า มัลดีฟแห่งเมืองไทย เป็นเกาะส่วนตัวที่มีการจำกัดนักท่องเที่ยว ลักษณะของเกาะขนาดเล็ก รูปร่างคล้ายกับท่อนไม้ บรรยากาศดี ผู้คนน้อย เงียบสงบ น้ำทะเลสีฟ้าใสไล่ระดับจากสีฟ้าอ่อนไปยังสีฟ้าเข้มราวกับคริสตัล ตัดกับชายหาดสีขาวได้อย่างลงตัว ด้วยน้ำทะเลที่ใสและธรรมชาติถูกรบกวนน้อยทำให้ปะการังบริเวณรอบ ๆ เกาะยังคงความอุดมสมบูรณ์และกลายเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการดำน้ำชมปะการัง โดยกิจกรรมยอดนิยม คือ การดำน้ำตื้นบริเวณหน้าหาด ซึ่งจะเต็มไปด้วยแนวปะการัง ดอกไม้ทะเล ปลาการ์ตูน และฝูงปลาอื่น ๆ อีกมากมาย

	Pixel Condo At Panwa Beach	ดูที่ Agoda
	Seaview At Cape Panwa	ดูที่ Agoda

สำหรับจุดไฮไลต์ของเกาะที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเช็กอิน คือ สะพานไม้ที่เป็นท่าเรือเข้าสู่เกาะ โดยจะเป็นสะพานที่ทอดยาวลงไปบนทะเล ดูคล้ายเกาะมัลดีฟส์ ซึ่งบนเกาะไม้ท่อนยังมีจุดถ่ายรูปอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นบริเวณทางด้านขวาของชายหาดบนเกาะ โดยจะมีมุมโขดหินที่บรรยากาศดี วิวสวย พร้อมคลื่นน้ำทะเลที่กระทบกับโขดหินเกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม รวมไปถึงจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของจังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงาได้ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่หากใครได้มาเห็นจะต้องประทับใจจนแทบไม่อยากละสายตาเลยทีเดียว

ภายในเกาะที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสวย ๆ พร้อมบรรยากาศสุดโรแมนติก สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปและต้องการการพักผ่อนที่เงียบสงบ จะต้องหลงรักเกาะแห่งนี้แน่นอนครับ โดยเกาะไม้ท่อน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 9 กิโลเมตร สามารถเดินทางมาด้วยเรือได้โดยจะมีทั้งเรือคาตามารันและเรือสปีดโบ๊ท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 – 45 นาที นักท่องเที่ยวนิยมมาแบบ One Day Trip หรือสำหรับใครที่ต้องการพักค้างคืนบนเกาะก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันครับ

จังหวัดกระบี่

หากลองหลับตาแล้วนึกภาพหมู่เกาะสวย ๆ ที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลใส ๆ ชายหาดที่มีชายหาดแสนร่มรื่น แน่นอนว่าภาพของ จังหวัดกระบี่ จะต้องลอยขึ้นมาแน่ ๆ เพราะจังหวัดกระบี่ เป็นจังหวัดที่อยู่ทางฝั่งทะเลอันดามัน มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย บนท้องทะเลสีเขียวมรกตที่เรียงรายไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ พร้อมหาดทรายสีขาวให้เลือกท่องเที่ยวได้อย่างหลากหลาย ทำให้จังหวัดกระบี่ ถูกลิสต์ไว้เพื่อเป็นจุดหมายสำหรับนักท่องเที่ยวนั่นเอง หากใครที่ได้มาสัมผัสเสน่ห์ของจังหวัดกระบี่จะต้องประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอนครับ

การเดินทางมาจังหวัดกระบี่

สำหรับการเดินทางยังจังหวัดกระบี่ สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ได้ด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยเพื่อน ๆ สามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 เริ่มจากผ่านจังหวัดเพชรบุรี ต่อมาผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดพังงา และขับมาจนถึงจังหวัดกระบี่ รวมระยะทางประมาณ 946 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 12 ชั่วโมง หากใครอยากมีเวลาเที่ยวเยอะ ๆ แนะนำเป็นเดินทางด้วยเครื่องบินจะสะดวกกว่า เพราะปัจจุบันมีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ บินตรงมาถึงจังหวัดกระบี่โดยสายการบินภายในประเทศ ทั้งจากสนามบินดอนเมืองและจากสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเที่ยวจำกัดมาก ๆ ครับ

1. ทะเลแหวก จังหวัดกระบี่

ทะเลแหวก สถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่แปลกตา เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับเกาะปอดะ จังหวัดกระบี่ โดยทะเลแหวก เกิดจากน้ำขึ้นน้ำลง ทำให้เม็ดทรายมารวมกันจนเกิดเป็นแนวสันทรายของทั้ง 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อ ลักษณะเป็นสันทรายสีขาวเนียนละเอียด ทอดตัวเป็นแนวยาวเชื่อมเกาะทั้ง 3 เหมือนกับแบ่งทะเลแยกออกเป็น 3 ส่วน แนวชายหาดกว้างขวาง สามารถเดินไปมาระหว่างเกาะได้ เมื่อน้ำลงแนวสันทรายก็จะค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำทะเล และจะค่อย ๆ จมหายลงไปเมื่อถึงเวลาน้ำขึ้น น้ำทะเลมีความใสสะอาด สามารถลงไปเล่นน้ำได้ โดยเฉพาะเกาะทับ ที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นปะการังน้ำตื้นได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงไปดำน้ำ

	Ananta Burin Resort	ดูที่ Agoda
	Ava Sea Krabi Resort	ดูที่ Agoda

สำหรับใครที่มาเยือนทะเลแหวกแล้ว ก็ไม่ควรพลาดจุดดำน้ำสุดฮิตใกล้ทะเลแหวกนั่นก็คือ เกาะไก่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาที ซึ่งเกาะไก่ เป็นเกาะหินปูนแหลม ๆ มีลักษณะคล้ายกับไก่ที่กำลังชูคอ บริเวณด้านหลังเกาะไก่จะมีปะการัง ปลาลายเสือ และฝูงปลาอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้สามารถลงไปว่ายน้ำ ทั้งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก เพื่อชมโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามได้อย่างเพลิดเพลิน หรือจะให้อาหารปลาจากบนเรือได้เช่นกัน

สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาท่องเที่ยวจะอยู่ช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยช่วงเวลาในการมาเที่ยวจะเป็นช่วงเวลาน้ำลงของแต่ละวัน ซึ่งสามารถซื้อแพ็กเกจจากบริษัททัวร์จะสะดวกที่สุด โดยจะมีบริการเรือสปีดโบ๊ทและเรือหางยาวแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะถูกรวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ของ 4 เกาะหลัก ๆ คือ เกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะทับ และเกาะหม้อ หากเดินทางจากอ่าวนางจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เท่านั้นเองครับ

2. หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

หมู่เกาะพีพี แหล่งท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามันที่สวยงามติดอันดับโลก ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งกระบี่ประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ โดยหมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยเกาะใหญ่หลัก ๆ 2 เกาะที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก คือ เกาะพีพีดอนและอีกเกาะ คือ เกาะพีพีเล ทั้ง 2 เกาะ รายล้อมด้วยเกาะเล็ก ๆ ใกล้เคียงอย่างเกาะยูง เกาะไม้ไผ่ และหมู่เกาะบิดะ ภายในเกาะมีชายหาดที่ขาวสะอาด น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ ทำให้เห็นโลกใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน เหมาะกับการดำน้ำดูปะการังและดอกไม้ทะเล

	PP Princess Resort	ดูที่ Agoda
	ChaoKoh Phi Phi Hotel & Resort	ดูที่ Agoda

โดยเกาะพีพีดอน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะพีพี มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ เช่น หาดอ่าวต้นไทร หาดยาว อ่าวโล๊ะดาลัม อ่าวนุ้ย ซึ่งแต่ละที่ต่างมีทะเลที่สวยงาม เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับเกาะพีพีเล เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองลงมาจากเกาะพีพีดอน จะมีอ่าวมาหยา ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของชายหาดและน้ำทะเล มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็ก รูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยวที่แปลกตา นอกจากนี้บนเกาะพีพีเลยังมีจุดท่องเที่ยวอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นอ่าวโล๊ะซามะ อ่าวปิเละ ถ้ำไวกิ้ง พร้อมกับกิจกรรมอีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกอย่างจุใจ

สำหรับการเดินทางมายังหมู่เกาะพีพี สามารถเลือกมาได้ทั้งแบบค้างคืนและแบบไปเช้าเย็นกลับได้ สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทางทั้งจากอ่าวนางฝั่งจังหวัดกระบี่และจากฝั่งจังหวัดภูเก็ต และเลือกโดยสารมาได้ด้วยเรือเฟอร์รี่หรือเรือสปีดโบ๊ท ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง หากซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์ก็จะทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางและสามารถท่องเที่ยวได้สะดวกมากยิ่งขึ้นครับ

3. เกาะห้อง จังหวัดกระบี่

เกาะห้อง หรือ เกาะเหลาบิเละ เกาะที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ทำให้มีแนวป่าไม้ที่ร่มรื่น เป็นเกาะที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีเขียวใสมรกต จนถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ‘มรกตแห่งท้องทะเลกระบี่’ ภายในเกาะชายหาดมีลักษณะที่โดดเด่น โดยจะเป็นโค้งครึ่งวงกลม 2 อ่าวเชื่อมต่อเข้ากัน หาดทรายเนียนนุ่ม มีกัลปังหาและแนวปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก ทำให้เป็นแหล่งอาศัยของฝูงปลาหลากหลายชนิด เหมาะกับการเล่นน้ำดูปะการัง

	ปาหนัน กระบี่ รีสอร์ต (Panan Krabi Resort)	ดูที่ Agoda
	บลูโซเทล กระบี่ (BlueSotel Krabi)	ดูที่ Agoda

บนเกาะห้องมีจุดชมวิวแบบ 360 องศา สามารถมองเห็นวิวได้ทุกทิศทาง และวิวเกาะน้อยใหญ่มากมายไม่ว่าจะเป็นเกาะเหลาลาดัง เกาะเหลากา เกาะอูตัง และเกาะอื่น ๆ และอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวนั่นก็คือ การพายเรือคายัค โดยจะเป็นการพายเรือคายัคเพื่อเที่ยวชมทัศนียภาพและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดในลากูน หรือ ทะเลใน ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะห้อง มีลักษณะคล้ายห้องโถงที่ตั้งอยู่กลางทะเล รายล้อมไปด้วยภูเขา หน้าผาสูงชัน และป่าโกงกาง ทำให้เป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำหลายชนิด มีน้ำทะเลสีเขียวมรกต น้ำทะเลรอบ ๆ ค่อนข้างตื้นทำให้สามารถมองเห็นพื้นด้านล่างได้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์

โดยเกาะห้องสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่เหมาะสมและทะเลสวยใสเป็นที่สุด จะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี นิยมมาท่องเที่ยวแบบ One Day Trip โดยสามารถมาขึ้นเรือสปีดโบ๊ทที่อ่าวนางได้ ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อแพ็กเกจการท่องเที่ยวจากบริษัททัวร์ ซึ่งจะรวมเส้นการท่องเที่ยวรวมกับเกาะอื่น ๆ ด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้อย่างหลากหลาย

จังหวัดตรัง

จังหวัดตรัง เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีเสน่ห์ในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งป่า เขา น้ำตก หรือเกาะที่เต็มไปด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามเกินคำบรรยาย ซึ่งท้องทะเลตรังก็สวยไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน เพราะท้องทะเลตรังมีธรรมชาติที่สวยงาม ภูเขาหินที่ตั้งตระหง่านปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ความอุดมสมบูรณ์ของปะการังใต้ท้องทะเล น้ำทะเลที่ใสสะอาด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เคยผิดหวังเมื่อได้มาเยือนจังหวัดแห่งนี้

การเดินทางมาจังหวัดตรัง

สำหรับการเดินทางมาจังหวัดตรัง หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 41 กรุงเทพฯ – ชุมพร ซึ่งเป็นทางหลวงสายหลักของภาคใต้ จากนั้นวิ่งลงผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดตรัง ระยะทางโดยรวมประมาณ 828 กิโลเมตร ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 12 – 15 ชั่วโมง แต่สำหรับใครที่มีเวลาจำกัดก็แนะนำให้เดินทางมาด้วยเครื่องบิน โดยจะมีเที่ยวบินเพื่อบินตรงมาที่จังหวัดตรัง ทำให้สะดวกและประหยัดเวลามากกว่าครับ

1. เกาะลิบง จังหวัดตรัง

เกาะลิบง เป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีความสวยงามของท้องทะเลจังหวัดตรัง บริเวณรอบ ๆ ประกอบไปด้วยภูเขา ที่ราบ และทะเล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติและทุ่งหญ้าทะเล ซึ่งหญ้าทะเลเป็นอาหารของพะยูน ทำให้บริเวณเกาะกลายเป็นแหล่งอาหารของพะยูน หากโชคดีอาจจะพบฝูงพะยูนมากินอาหาร รวมไปถึงรอบ ๆ เกาะมีนกหลากหลายสายพันธุ์มาอาศัยอยู่ริมหาดและบริเวณรอบ ๆ เกาะ เช่น นกหัวโต นกกินเปี้ยว นกยางเขียว การท่องเที่ยวบนเกาะลิบงจึงค่อนข้างต่างจากเกาะอื่น ๆ โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เหมาะสำหรับคนที่รักธรรมชาติ

	ซี บรีซ รีสอร์ต แอท เกาะลิบง (Sea Breeze Resort @ Koh Libong)	ดูที่ Agoda
	อันดาเลย์ บีช รีสอร์ต (Andalay Beach Resort)	ดูที่ Agoda

อีกหนึ่งไฮไลต์ของเกาะลิบง สะพานหิน แนวโขดหินขนาดใหญ่ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลทำให้มีรูปร่างคล้ายกับสะพาน มีช่องว่างด้านล่างทำให้ดูคล้ายสะพานที่ทำจากหิน ควรมาในช่วงเวลาที่น้ำลดจะทำให้สามารถเดินเข้ามาถ่ายรูปได้ นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงามอีกด้วย ถือเป็นจุดเช็กอินยอดนิยม และบนเกาะยังมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นแหลมปันหยัง แหลมโต๊ะชัย หาดทุ่งหญ้าคา บ่อน้ำจืดกลางทะเล แหลมจูโหย ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

การเดินทางเดินทางโดยการนั่งเรือ จากท่าเรือหาดยาว ตำบลเกาะลิบง ไปยังท่าเรือเกาะลิบง ใช้เวลาประมาณ 15 – 30 นาที บนเกาะลิบงสามารถมาเที่ยวแบบค้างคืนได้ โดยช่วงที่เหมาะสมสำหรับการมาเที่ยวเกาะลิบงจะเป็นช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงปลอดลมมรสุมทำให้การเดินทางสะดวกนั่นเองครับ

2. เกาะมุก จังหวัดตรัง

เกาะมุก เกาะที่มีขนาดใหญ่อีกเกาะหนึ่งแห่งท้องทะเลตรัง ซึ่งบนเกาะยังคงความเป็นธรรมชาติ และผสมผสานเข้ากับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะได้อย่างลงตัว บรรยากาศของเกาะ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนอย่างสงบ เพื่อหลบหนีจากความวุ่นวาย โดยบนเกาะมุกจะมีหาดขึ้นชื่อหลัก ๆ อยู่ 2 หาดด้วยกัน คือ หาดฝรั่งและหาดสบาย ซึ่งหาดทั้งสองมีหาดทรายที่สวยงาม บรรยากาศดี เหมาะกับการนอนเล่น อาบแดดริมชายหาด และลงเล่นน้ำ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก แน่นอนว่าบรรยากาศตอนกลางคืนก็สุดแสนจะโรแมนติกไม่แพ้ตอนกลางวันเลยทีเดียว

	เกาะมุก ปาวาปี บีช รีสอร์ต (Koh Mook Pawapi Beach Resort)	ดูที่ Agoda
	เกาะมุก สิวาลัยบีช รีสอร์ต (Koh Mook Sivalai Beach Resort)	ดูที่ Agoda

นอกจากเกาะมุกจะมีชายหาดที่สวยงามแล้ว อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่เรียกว่าแทบจะมีอยู่ในทุกโปรแกรมการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังเลยนั่นก็คือ ถ้ำมรกต เป็นถ้ำที่มีความงดงามตระการตา มีลักษณะเป็นเวิ้งถ้ำและเป็นโพรงขนาดเล็ก ต้องอาศัยช่วงเวลาน้ำลดเพื่อลอดเข้าไปในถ้ำ น้ำทะเลโดยรอบเป็นสีเขียวมรกต ภายในถ้ำมีหาดทรายสีขาว แสงแดดกระทบผืนน้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกต ป่าไม้เขียวชอุ่ม พื้นที่โดยรอบรายล้อมไปด้วยหน้าผาสูงชัน เป็นธรรมชาติที่สวยงามดูแปลกตา สำหรับใครที่อยากสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอย่างใกล้ชิดไม่ควรพลาดครับ

สำหรับการเดินทางมาเที่ยวเกาะมุกสามารถขึ้นเรือที่ท่าเรือควนตุ้งกู หรือเช่าเรือแบบเหมาลำจากท่าเรือปากเมงได้ ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินทางมายังเกาะประมาณ 40 นาที และที่สำคัญควรตรวจสอบช่วงเวลาออกเรือและเวลาน้ำขึ้นน้ำลงให้ดี เพื่อที่จะได้ไม่พลาดช่วงเวลาในการเข้าไปเที่ยวชมถ้ำมรกต โดยช่วงเวลาเที่ยวช่วงที่เหมาะสมอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงปลอดลมมรสุมนั่นเองครับ

3. เกาะกระดาน จังหวัดตรัง

เกาะกระดาน เป็นเกาะที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ฝั่งทะเลอันดามันในจังหวัดตรัง อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเจ้าไหม เป็นเกาะที่มีชายหาดน้ำตื้นที่มีพื้นที่ทอดยาวกว้างขวาง เนื้อทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลมีความใสโทนสีไล่ระดับน้ำตื้นไปจนถึงระดับน้ำลึกแบ่งพื้นที่ชัดเจน ด้วยเสน่ห์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้จึงทำให้เกาะกระดานถูกโหวตให้เป็น ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ปี 2023 ของเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง World Beach Guide และด้วยชายหาดน้ำตื้นที่มีรัศมีกว้างไกลรวมกับน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว ทำให้เกาะแห่งนี้มีกิจกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาทำกันนั่นก็คือ การดำน้ำตื้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของนักดำน้ำที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง

	มะลิ รีสอร์ต (Mali Kradan)	ดูที่ Agoda
	รีฟ รีสอร์ต (Reef Resort)	ดูที่ Agoda

สำหรับเกาะกระดาน จะมีชายหาดหลัก ๆ 4 แห่ง คือ ชายหาดเกาะกระดาน ชายหาดอ่าวเนียง ชายหาดอ่าวไผ่ และชายหาดอ่าวช่องลม โดยเฉพาะชายหาดเกาะกระดาน ที่มีแนวปะการังทอดยาวลงไปในทะเล ทำให้กลายเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมของนักเที่ยว และที่สำคัญยังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่เมื่อมองออกไป สามารถมองเห็นเกาะมุก เกาะเชือก และเกาะอื่น ๆ บริเวณใกล้เคียงได้ เป็นวิวที่สวยงามคุ้มค่ากับการเดินทางมาเที่ยวมาก ๆ นอกจากดำน้ำและจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกแล้ว บนเกาะยังมีกิจกรรมพายเรือคายัค ซัพบอร์ด และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย รับรองว่ากิจกรรมแน่นทั้งวันมีเบื่อแน่นอนครับ

เกาะกระดาน สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งแบบ One Day Trip และแบบค้างคืน โดยถูกรวมอยู่ในแพ็กเกจการท่องเที่ยวของแต่ละบริษัททัวร์ ซึ่งจะทำให้สะดวกมากและเที่ยวชมได้หลาย ๆ เกาะ หรือหากต้องการเที่ยวแบบส่วนตัว ก็สามารถเหมาเรือหางยาวหรือเรือสปีดโบ๊ทจากท่าเรือปางเมง ท่าเรือควนตุ้งกู และท่าเรือเจ้าไหมได้ ใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาที หรือหากเดินทางมาจากฝั่งจังหวัดภูเก็ตจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง เท่านั้นเองครับ ซึ่งหากใครแวะมาเที่ยวจังหวัดตรัง ต้องหาโอกาสมาเที่ยวเกาะกระดานให้ได้สักครั้ง เพราะไม่ว่ามองมุมไหนก็สวยงามจริง ๆ ครับ