อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเมืองไทยของเราเป็นเมืองร้อนที่ไม่ใช่ร้อนแบบธรรมดาด้วยนะคะแต่เรียกว่าร้อนเหมือนซ้อมตกนรกเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าหากเราอยู่ในตัวเมืองก็จะยิ่งร้อนอบอ้าวมากขึ้นไปอีก เพราะตึกสูง ๆ จะคอยบดบังทิศทางลมทำให้อากาศไม่ถ่ายเท ครั้นจะเปิดแอร์ตลอดเวลาก็กลัวจะเปลืองไฟ เพราะค่าไฟก็ปรับขึ้นเป็นว่าเล่นและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดหรือลดลงเลย บ้างบ้านจากเดิมที่ต้องเสียค่าไฟเดือนละพันนิด ๆ ตอนนี้ก็แตะขึ้นไปอยู่ที่สองพันกว่าเข้าไปแล้ว แต่จะให้เรามานั่งประหยัดไฟโดยการไม่เปิดแอร์เลยก็คงไม่ใช่!! เพราะต้องยอมรับว่าเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันนี้กลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่เราขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว ในเมื่อเครื่องปรับอากาศมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมากขนาดนี้ ทำไมเราไม่เปลี่ยนไปใช้แอร์ประหยัดพลังงานที่คุ้มค่าคุ้มราคาในระยะยาวซะเลยล่ะ !?

หากวันนี้คุณสนใจจะซื้อเครื่องปรับอากาศตัวใหม่ ให้บทความของเราเป็นผู้ช่วยเลือกเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ที่ประหยัดพลังงาน มีมาตรฐาน และมีราคาไม่แพงดูไหมคะรับรองว่าคุณจะต้องเจอรุ่นที่ถูกใจอย่างแน่นอน หากพร้อมแล้วเรามาดูกันเลยค่ะ
เครื่องปรับอากาศระบบ Inverter ยี่ห้อไหนดี?
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 1 ดาว
- Samsung เครื่องปรับอากาศติดผนัง รุ่น S-Inverter
- Carrier แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น COPPER 10
- Hisense แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น T Series
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 2 ดาว
- Saijo Denki แอร์ติดผนังระบบอินเตอร์เตอร์ รุ่น Inverter Sure
- TCL เครื่องปรับอากาศติดผนังระบบ Inverter รุ่น TAC-Pro (Premium Series)
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 : 3 ดาว
แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ที่สั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน Wi-Fi
- Daikin เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ FTKQ-WV2S (รุ่นใหม่ 2022)
- TCL เครื่องปรับอากาศติดผนังระบบ Inverter รุ่น TAC-Pro (Premium Series)
- TCL เครื่องปรับอากาศติดผนังระบบ Inverter รุ่น TAC-XA
- Carrier แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น X-INVERTER PLUS
แอร์อินเวอร์เตอร์ (Conditioner Inverter) คืออะไร ?
เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็คงยังไม่ทราบว่าแอร์สามารถแบ่งระบบการทำงานออกได้เป็น 2 แบบนั่นคือ Inverter และ non-Inverter ซึ่งความแตกต่างของทั้งสองตัวนี้จะส่งผลต่อเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณเป็นอย่างมาก หากคุณต้องการเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคุ้มค่าคุ้มราคา เครื่องปรับอากาศที่มีเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์ (Inverter) จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพราะความแตกต่างระหว่างเครื่องปรับอากาศทั้ง 2 ประเภทนี้จะอยู่ที่ความสามารถของคอมเพรสเซอร์ในการควบคุมความเร็วของมอเตอร์

แอร์ Inverterแอร์ที่มีอินเวอร์เตอร์จะถูกออกแบบมาเพื่อลดความเร็วของมอเตอร์ แต่มันจะทำงานอย่างเงียบ ๆ ตลอดเวลาเพื่อให้ความเย็นที่สม่ำเสมอแก่เรา หลาย ๆ คนอาจคิดว่าการที่เครื่องทำงานตลอดเวลาอาจฟังดูเหมือนสิ้นเปลืองไฟหรือเปล่า? แต่จริง ๆ แอร์แบบ Inverter จะทำงานแบบหนัก-เบาสลับกันไป กล่าวคือมันสามารถเปลี่ยนระดับความเร็วของมอเตอร์ได้ โดยช่วงที่เบานั้นจะเป็นการติดเครื่องรอไว้ ทำให้แอร์ประเภทนี้ไม่ต้องดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ทุกครั้งเหมือนแอร์ทั่วไป |
แอร์ทั่วไป non-Inverterในขณะที่แอร์แบบไม่มีอินเวอร์เตอร์นั้นตัวมอเตอร์จะเร่งทำความเย็นอย่างเต็มที่เต็มกำลัง จากนั้นมันก็จะดับเครื่องลงเมื่ออุณหภูมิในห้องเท่ากับอุณหภูมิที่เราตั้งค่าเอาไว้ และเมื่ออุณหภูมิภายในห้องต่ำกว่าที่กำหนด ตัวมอเตอร์ก็จะกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง กล่าวคือแอร์ชนิดนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนระดับความเร็วของมอเตอร์ได้เลย ทำได้เพียงทำงานกับหยุดทำงานเท่านั้น ซึ่งการทำงานแบบติด ๆ ดับ ๆ เช่นนี้จะกินไฟมากกว่า ทั้งยังส่งผลต่ออายุการใช้งานให้สั้นลงอีกด้วย |
เลือกเครื่องปรับอากาศรุ่นไหนดี (แอร์ติดผนัง)
1. เลือกแอร์กี่ BTU ดี?
การเลือกขนาด BTU นั้น จะขึ้นอยู่กับขนาดของห้องที่เราต้องการติดตั้ง ไม่จำเป็นว่าแอร์ที่ดีจะต้องมี BTU สูง ๆ เสมอไป เพราะ BTU ไม่ใช้ตัววัดคุณภาพของแอร์ หากคุณเลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง มันก็จะช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานได้มากกว่า
เลือกแอร์ที่มี BTU เหมาะสมกับขนาดห้อง จะทำให้ไม่สิ้นเปลืองค่าไฟ
|
||
---|---|---|
ขนาด BTU | ห้องปกติ | ห้องโดนแดด |
9,000 BTU | 12-15 ตร.ม. | 10-14 ตร.ม. |
12,000 BTU | 16-20 ตร.ม. | 14-18 ตร.ม. |
18,000 BTU | 24-30 ตร.ม. | 21-27 ตร.ม. |
21,000 BTU | 28-35 ตร.ม. | 25-32 ตร.ม. |
24,000 BTU | 32-40 ตร.ม. | 28-36 ตร.ม. |
25,000 BTU | 35-44 ตร.ม. | 30-39 ตร.ม. |
30,000 BTU | 40-50 ตร.ม. | 35-45ตร.ม. |
2. เลือกแอร์ที่ประหยัดพลังงาน
นอกจากแอร์ที่มีระบบ Inverter แล้ว การเลือกแอร์ที่มีมีสัญลักษณ์ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด สำหรับคนที่ต้องการเครื่องปรับอากาศแบบประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
3. เลือกฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงตามความต้องการของคุณ
แอร์ในปัจจุบันนี้ไม่เพียงแต่ทำความเย็นอย่างเดียว แต่เพื่อให้มันสามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ดังนั้นหลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มผลิตเครื่องปรับอากาศที่สามารถกรองฝุ่นฟอกอากาศได้, ควบคุมความเย็นอัตโนมัติ, สั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน หรือสามารถทำความสะอาดตัวเองได้อัตโนมัติ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาเครื่องปรับอากาศที่มีฟังก์ชันหลากหลาย ก็อย่าลืมคำนึงถึงการใช้งานจริงเป็นหลักด้วยนะคะ
4. เลือกน้ำยาทำความเย็น R32
แอร์ที่จะใช้น้ำยาทำความเย็นแบบ R32 จะเป็นแอร์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะน้ำยาตัวนี้สามารถทำความเย็นดีกว่าน้ำยาทั่วไป ทำให้เครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงานมากขึ้นนั่นเองค่ะ
5. เลือกค่า EER หรือ SEER ยิ่งสูงยิ่งดี
โดยปกติแล้วเราจะเจอค่า EER (Energy Efficiency Ratio) และค่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) ในรายละเอียดของเครื่องปรับอากาศอยู่บ่อย ๆ จนทำให้หลายคนอาจสงสัยว่าค่า EER และ SEER คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไร ?
ค่า EER เป็นค่าสำหรับใช้วัดประสิทธิภาพการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศ ว่ามันทำความเย็นได้ดีมากน้อยเพียงใด โดยจะคำนวณจากขนาดของ BTU, ชั่วโมงที่ทำงาน และกำลังไฟที่ใช้ ดังนั้นยิ่งค่า EER สูงก็แสดงว่าเครื่องปรับอากาศตัวนั้นทำความเย็นได้ดีและประหยัดพลังงานได้มากกว่านั่นเองค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะดูค่า EER ได้จากฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

ส่วนค่า SEER หมายถึงค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานตามการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ทำให้การคำนวณค่า SEER ออกมามีความใกล้เคียงความเป็นจริงมากกว่าค่า EER แนะนำให้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีค่า SEER สูงไว้ก่อน เพราะหมายความว่าจะประหยัดไฟได้มากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ยิ่งประหยัดไฟได้มากเท่าไหร่ ราคาของเครื่องปรับอากาศก็จะยิ่งสูงตามมากขึ้นเท่านั้น
เครื่องปรับอากาศในปัจจุบันได้มีการพัฒนาระบบฟังชันต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็มีราคาและคุณภาพที่ต่างกัน ทั้งยังมีหลายยี่ห้อให้เราเลือกมาก ดังนั้นการเลือกเครื่องปรับอากาศก็ต้องขึ้นกับความต้องการของผู้ซื้อด้วยว่าอยากใช้งานแบบไหนที่สุด? จะตอบโจทย์เรามั้ย? หรือคุ้มค่ากับเรามั้ย? เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันค่ะว่าเครื่องปรับอากาศแบบไหนเหมาะกับคุณและประหยัดไฟที่สุด
Toshiba แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น GEN-Z (NEW 2022)

ราคา 11,399 บาท*
ข้อดี
- มีโหมดทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ
- แผงคอยล์มีการเคลือบสารที่ช่วยลดการจับตัวของคราบสกปรกและฝุ่นละออง
- มีแผ่นฟอกอากาศ 2.5 ไมครอน
ขนาด BTU | 12100 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 16.45 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 |
Toshiba แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น PM CLEAR (รุ่นปี 2021)

ราคา 16,999 บาท*
สำหรับรุ่นนี้จะต่างจาก Toshiba รุ่น GEN-Z ตรงที่ภายในตัวเครื่องมีระบบฟอกอากาศแบบประจุที่ช่วยลดฝุ่นละอองและไวรัสได้ มาพร้อมกับแผ่นฟอกอากาศ PM 2.5 Filter ถึง 2 ชิ้น ในขณะที่ GEN-Z จะมีเพียงมีแผ่นฟอกอากาศอย่างเดียวเท่านั้นเท่านั้น โดยรุ่น PM CLEAR จะคงเป็นแอร์ระบบ Inverter ที่ช่วยป้องกันการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง ช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องเย็นสม่ำเสมอกันตลอดเวลา มีโหมดปรับทิศทางองศาของลมได้ถึง 10 ระดับ รวมถึงมีแบบ Auto-Swing ด้วย ในส่วนของแรงลมนั้นจะปรับได้ถึง 5 ระดับตามความต้องการ โดยตัวที่เราแนะนำวันนี้จะมีขนาด 17,000 BTU ดังนั้นจึงเหมาะกับห้องขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางเลยค่ะ ตัวคอมเพรสเซอร์เป็นแบบ Twin Rotary ที่ทำงานได้นุ่มนวล ทำให้มีเสียงดังรบกวนที่ต่ำมาก
ข้อดี
- มีระบบฟอกอากาศแบบประจุ ลดฝุ่น PM2.5 + ไวรัส
- มีโหมดทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ
- แผงคอยล์มีการเคลือบสารที่ช่วยลดการจับตัวของคราบสกปรกและฝุ่นละออง
- มีแผ่นฟอกอากาศ PM 2.5 Filter 2 ชิ้น
ขนาด BTU | 17000 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 17.45 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 |
Carrier แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น MERCURY

ราคา 9,214 บาท*
ข้อดี
- มีระบบทำความสะอาดตัวเองแบบละลายน้ำแข็ง
- แผงคอยล์มีการเคลือบสาร Hydrophilic Gold Fin ทำให้ทนทานทุกสภาพอากาศ
- ใช้แผ่นฟอกอากาศชนิดพิเศษ Electrostatic IFD Filter ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดักจับฝุ่นละอองให้ดีขึ้น
ขนาดความเย็น | 9800 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 16.58 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 |
Carrier แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น COPPER 10

ราคา 15,399 บาท*
ข้อดี
- มีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ เพื่อไล่ความชื้น ลดการสะสมของสิ่งสกปรกภายในเครื่อง
- แผงคอยล์มีการเคลือบสารที่ช่วยลดการจับตัวของคราบสกปรกและฝุ่นละออง
- แผ่นฟอกอากาศของ Carrier จะสามารถกรองฝุ่นด้วย PM 2.5 , กรองกลิ่น, และยับยั้งการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย IFD Filter
หมายเหตุ รุ่น COPPER 10 จะประหยัดพลังงานได้ดีกว่ารุ่น COPPER 7
ขนาด BTU | 15000 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 18.07 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 | 1 ดาว |
Carrier แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น X-INVERTER PLUS

ราคา 19,399 บาท*
ข้อดี
- มีระบบฟอกอากาศแบบประจุ ลดฝุ่น PM2.5 + ไวรัส
- มีโหมดทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ
- แผงคอยล์มีการเคลือบสารที่ช่วยลดการจับตัวของคราบสกปรกและฝุ่นละออง
- มีแผ่นฟอกอากาศ PM 2.5 Filter
- ปล่อยลมเย็นแบบอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว ไม่ทำให้ตาแห้ง และทำให้หายใจได้สะดวกมากขึ้น
- ส่งลมแอร์เย็นได้ไกลกว่าเดิม ทำให้ไอเย็นกระจายทั่วทั้งห้อง หมดปัญหาคนขี้ร้อน
- ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อระบบ WiFi สามารถสั่งการแบบระบบเสียงได้ด้วย
- การันตีความประหยัดด้วยฉลากเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว (ทุกขนาด BTU)
ขนาด BTU | 12200 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 22.50 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 | 3 ดาว |
TCL เครื่องปรับอากาศติดผนังระบบ Inverter รุ่น TAC-XA

ราคา 14,090 บาท*
ข้อดี
- คอยล์ทำจากทองแดงที่ทนต่อการกัดกร่อนในทุกสภาวะอากาศ
- มีแผ่นฟอกอากาศ
- การไหลของอากาศอัจฉริยะ มีการปล่อยลมเย็นแบบอ่อนโยนและแบบโค้ง
- ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน
ขนาด BTU | 22387 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 16.41 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 |
TCL เครื่องปรับอากาศติดผนังระบบ Inverter รุ่น TAC-Pro (Premium Series)

ราคา 13,690 บาท*
สำหรับเครื่องปรับอากาศจาก TCL รุ่นนี้จะอัปเกรดขึ้นมากจากรุ่น TAC-XA ตรงที่มีการใช้สารเคลือบที่คอยล์เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและไวรัส ตัวบานสวิงออกแบบมาให้เป็นรูปตัว S ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ TCL มาพร้อมรูขนาดเล็กที่บานสวิงมากถึง 1,422 รู ที่จะช่วยกระจายลมเย็นได้ดีและนุ่มนวลยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถบันทึกค่าตำแหน่งบานสวิงในแบบที่คุณชอบได้ด้วย ทั้งนี้ตัวเครื่องมีการควบคุมอัจริยะและมีโหมดการนอนหลับมาให้ ทำให้เหมาะสำหรับนำไปติดตั้งในห้องนอนด้วยค่ะ โดยทางแบรนด์ก็ยังออกแบบมาให้ตัวเครื่องทำงานได้ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม ด้วยการการันตีด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ในระดับ 2 ดาวเชียวนะคะ
ข้อดี
- แผงคอยล์มีการเคลือบสารที่ช่วยลดการจับตัวของคราบสกปรกและฝุ่นละออง
- มีแผ่นฟอกอากาศ Nano Purify Filter & Nano Carbon Filter ยับยั้งแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์
- การไหลของอากาศอัจฉริยะ มีการปล่อยลมเย็นแบบนุ่มนวล ไม่ทำร้ายผิว
- เป็น Smart Control เชื่อมต่อที่กับสมาร์ทโฟน หรือสั่งงานด้วยระบบเสียงผ่าน Alex / Google Assistant ได้
- การันตีความประหยัดด้วยฉลากเบอร์ 5 ระดับ 2 ดาว
ขนาด BTU | 18000 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 21.43 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 | 2 ดาว |
Daikin เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ FTKQ-WV2S (รุ่นใหม่ 2022)

ราคา 11,190 บาท*
ข้อดี
- ปรับอุณหภูมิครั้งละ 0.5 องศา ทำให้คุณได้อุณหภูมิความเย็นที่ตรงใจที่สุด
- คอมเพรสเซอร์เป็นแบบสวิงที่ลดเสียงดังในการทำงานและลดการกระชากไฟ
- คอยล์เคลือบสารป้องกันฝุ่น ความชื้นและแมลง
- มีการกระจายลมแบบไหลเวียนที่ดีต่อคนและสิ่งของ ทั้งยังปรับแรงลมให้อัตโนมัติได้ด้วย
- มีโหมดทำความเย็นและความร้อนอัตโนมัติ
- มีแผ่นกรองอากาศสำหรับป้องกันเชื้อราและฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมถึงยังมีระบบป้องกันกลิ่นอับและเชื้อราในตัวเครื่อง
- สามารถเชื่อมต่อกับระบบ Wifi ได้
ขนาด BTU | 9200 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 17.49 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 |
Samsung เครื่องปรับอากาศติดผนัง รุ่น S-Inverter

ราคา 14,950 บาท*
ข้อดี
- ทำความสะอาดตัวเองได้เองอัตโนมัติ ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา
- แผงคอยล์มีการเคลือบสารที่ช่วยลดการจับตัวของคราบสกปรกและฝุ่นละออง
- มีแผ่นฟอกอากาศ PM 2.5 Filter
- มีโหมดประหยัดพลังงาน (ECO Mode) ที่ช่วยทำให้กินไฟน้อยลง โดยที่คุณยังรู้สึกเย็นสบายได้เหมือนเดิม
- มีโหมด Good Sleep เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอน ช่วยทำให้นอนหลับสบาย มีอุณหภูมิที่เย็นพอเหมาะ
ขนาด BTU | 12000 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 19.00 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 | 1 ดาว |
Hisense แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น T Series

ราคา 18,990 บาท*
ข้อดี
- มีโหมดทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ
- แผงคอยล์มีการเคลือบสารที่ทนต่อการสึกกร่อน และช่วยให้มีความทนทานสูง
- มีแผ่นฟอกอากาศ 4 ชั้น ช่วยลดแบคทีเรียและกลิ่น
- มีระบบฟอกอากาศที่ใช้เทคโนโลยี Cold Plasma ป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- มีเซ็นเซอร์คอยตรวจจับอุณหภูมิ ทั้งยังสามารถส่งลมเย็นได้ไกล ทำให้เรารู้สึกเย็นสบายตลอดไม่ว่าจะอยู่มุมใดของห้อง
ขนาด BTU | 23500 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 18.22 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 | 1 ดาว |
Hisense แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น K Series

ราคา 13,290 บาท*
ยังคงอยู่กับแบรนด์ Hisense แต่รอบนี้เราจะลดคุณสมบัติเครื่องปรับอากาศลงมาสักหน่อยค่ะ สำหรับใครที่ต้องการเน้นแอร์ระบบ Inverter ประหยัดไฟระดับกลาง ๆ ไม่ต้องการต้องการฟังก์ชันเสริมมากมาย แนะนำว่าต้องจัดรุ่น K Series เลยค่ะ เพราะว่ารุ่นนี้ทางแบรนด์ไม่ได้จัดเต็มแผ่นกรองเหมือนรุ่น T Series ที่มีถึง 4 ชั้น แต่ก็ยังคงใส่แผ่นกรองสำหรับดักจับฝุ่นมาให้ เพียงแค่มันไม่สามารถกำจัดกลิ่นหรือฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้เท่านั้น ในส่วนของคอยล์ก็ลดคุณสมบัติลงเล็กน้อยโดยใช้สารเคลือบแบบ Blue Fin ที่ช่วยลดการสึกกร่อน ในส่วนฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ก็ยังมีให้เหมือนเดิมทั้งน้ำยา R32, เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิรอบตัวผู้ใช้, โหมดทำความเย็นอย่างรวดเร็ว รวมถึงระบบป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับชื้น โดยรวมแล้วหากคุณไม่ได้อาศัยในพื้นที่ที่มีอากาศปนเปื้อนมากนักและไม่ต้องการอากาศที่สะอาดขั้นสุด ซื้อแค่รุ่น K Series ก็ถือว่าเอาอยู่แล้วค่ะ
ข้อดี
- มีโหมดทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ ป้องกันการเกิดเชื้อราและกลิ่นอับชื้น
- แผงคอยล์มีการเคลือบสารที่ทนต่อการสึกกร่อน
- มีแผ่นฟอกอากาศสำหรับกรองฝุ่น
- เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ ทำให้เรารู้สึกเย็นสบายตลอดไม่ว่าจะอยู่มุมใดของห้อง
ขนาด BTU | 17900 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 15.83 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 |
Mitsubishi เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น KT Series (Happy Inverter)

ราคา 16,846 บาท*
ข้อดี
- แผ่นกรองอากาศขนาดเล็ก Nano Platinum Filter ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่น
- ใช้เทคโนโลยี Econo Cool ที่จะช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น
- มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ
- มีโหมด Powerful Cool สำหรับการทำความเย็นอย่างรวดเร็ว
ขนาด BTU | 12283 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 17.47 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 |
Saijo Denki แอร์ติดผนังระบบอินเตอร์เตอร์ รุ่น Inverter Sure

ราคา 11,305 บาท*
ข้อดี
- สามารถกรองฝุ่นได้เล็กถึงขนาด PM 0.1 หรือเล็กกว่าฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 25 เท่า
- แผงคอยล์ร้อนออกแบบให้มีขนาดใหญ่ จึงช่วยให้ระบายอากาศและความร้อนในตัวเครื่องได้ดี
- แผงระบายความร้อนทำจากทองแดง จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนทานมาก
- กำจัดเชื้อโรคในอากาศด้วยระบบฟอกอากาศโอโซน มีผลการวิจัยที่เชื่อถือได้
- การันตีความประหยัดด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่สูงถึง 2 ดาว
ขนาด BTU | 12850 BTU |
---|---|
ระบบ Inverter | |
SEER | 22.31 BTU/hr/W |
สารทำความเย็น R32 | |
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 | 2 ดาว |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ แนะนำ เครื่องปรับอากาศประหยัดไฟ (ระบบอินเวอร์เตอร์) ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
Toshiba แอร์ติดผนังระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น PM CLEAR (รุ่นปี 2021) |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
TCL เครื่องปรับอากาศติดผนังระบบ Inverter รุ่น TAC-Pro (Premium Series) |
| |||
Daikin เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ FTKQ-WV2S (รุ่นใหม่ 2022) |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
Mitsubishi เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น KT Series (Happy Inverter) |
| |||
|
เคล็ดลับใช้เครื่องปรับอากาศให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
1. สร้างระบบหมุนเวียนอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์

ในกรณีที่คุณใช้แอร์ทั่วไปแต่คุณต้องการเปลี่ยนเป็นแอร์ที่มีระบบฟอกอากาศในตัวโดยที่ไม่ต้องซื้อแอร์เครื่องใหม่ คุณสามารถประหยัดเงินได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้แผ่นกรองอากาศที่ใช้สำหรับเครื่องปรับอากาศโดยเฉพาะในการดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก แต่วิธีนี้จะทำให้แอร์ของคุณทำความเย็นได้น้อยลงและทำงานหนักมากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้มันกินไฟกว่าเดิมด้วยค่ะ ในทางกลับกันหากคุณลงทุนขึ้นมาอีกสักหน่อย ด้วยการใช้เครื่องฟอกอากาศไปพร้อม ๆ กับเปิดแอร์ วิธีนี้จะทำให้ภายในห้องมีระบบหมุนเวียนอากาศที่ดีและสามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีเครื่องฟอกอากาศหลายหลากยี่ห้อให้เลือกซื้อเยอะมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องฟอกอากาศของ Philips, เครื่องฟอกอากาศของ Tefal, เครื่องฟอกอากาศของ Xiaomi รวมถึงเครื่องฟอกอากาศราคาไม่เกิน 5,000 บาท ก็มีค่ะ
2. เพิ่มความเย็นภายในห้องด้วยพัดลม

หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าการเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 27°C พร้อมกับเปิดพัดลมไปด้วยจะช่วยทำให้อากาศภายในห้องเย็นขึ้นและช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วย แน่นอนว่าทฤษฎีนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ แต่หากคุณต้องการเห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ แนะนำว่าควรใช้เป็นพัดลมทาวเวอร์จะดีที่สุด เพราะพัดลมทาวเวอร์ถูกออกแบบมาให้ใช้คู่กับเครื่องปรับอากาศโดยเฉพาะ มันจะช่วยกระจายไอเย็นของเครื่องปรับอากาศให้ดีมากขึ้นกว่าเดิมทำให้เย็นทั่วทั้งห้องรวมถึงจุดที่เป็นมุมอับต่าง ๆ ก็เย็นขึ้นค่ะ สามารถลดอุณหภูมิภายในห้องได้ประมาณ 2-7 องศาเลยค่ะ
วิธีคลายร้อน ทำให้ห้องเย็น ไม่ร้อนอบอ้าว โดยไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ
1. ใช้พัดลมตั้งพื้น
หลักการง่าย ๆ ของการถ่ายเทอากาศร้อนคือคุณต้องเปิดห้องให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก หากอากาศข้างนอกเย็นกว่าข้างในให้คุณนำพัดลมไปวางตั้งหน้าประตูหรือหน้าต่าง จากนั้นก็หันหน้าพัดลมออกไปข้างนอกเพื่อระบายความร้อนในห้องออก อีกหนึ่งวิธีสำหรับทำให้ห้องเย็นขึ้นคือการนำน้ำแข็งมาตั้งไว้หน้าพัดลม จากนั้นก็หันพัดลมมาที่ตัวเรา วิธีนี้หลักการจะคล้าย ๆ กับพัดลมไอน้ำต่างกันตรงที่เย็นมากกว่าค่ะ
2. ใช้ผ้าม่านชนิดกันแดด
ผ้าม่านแบบกันแดดจะมีเนื้อผ้าหนากว่าผ้าม่านทั่วไปเป็นพิเศษ ทั้งยังมีการเคลือบซิลิโคนหรือเคลือบโฟมไว้ด้วย เพื่อใช้สำหรับป้องกันรังสี UV และความร้อนจากภายนอกไม่ให้ส่องเข้ามาในห้อง ยิ่งคุณเลือกใช้ผ้าม่านสีเข้มก็ยิ่งป้องกันได้ดีค่ะ
3. แยกเครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทออก
เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิดก็สร้างความร้อนภายในห้องได้เช่นกัน อาทิเช่น หม้อหุงข้าว, กระติกน้ำร้อน, เครื่องปิ้งขนมปัง, เตาอบขนม, หม้อทอดไร้น้ำมัน, ไมโครเวฟ, เตารีด หรือเครื่องอบผ้า เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้จะทำงานโดยอาศัยความร้อนเป็นหลัก หากเราเปิดใช้งานก็จะทำให้อากาศภายในห้องร้อนมากขึ้น ทั้งรวมถึงโน๊ตบุ๊คบางรุ่นที่ระบายลมร้อนออกมามากเกินไปด้วยค่ะ
4. ปลูกต้นไม้ในบ้าน
ปัจจุบันนี้เทรนด์การปลูกไม้ประดับภายในบ้านกำลังมาแรง เพราะไม่เพียงแต่ใช้ตกแต่งห้องสไตล์มินิมอลหรือปลูกเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลเท่านั้น แต่ยังช่วยฟอกอากาศภายในห้องให้มีความสดชื่นได้อีกด้วย
ประเภทเครื่องปรับอากาศ (แอร์ทำความเย็น)
1. แอร์ติดผนัง

แอร์ติดผนังเป็นแอร์นิยมที่ใช้ในบ้านเรือนที่พักอาศัยมากที่สุด มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายและดูแลรักษาง่าย เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ขนาดเล็กไปถึงจนขนาดกลาง อีกทั้งยังประหยัดพลังงานได้ดี มีตัวเลือกในท้องตลาดหลากหลายยี่ห้อหลายรุ่น
สำหรับใครกำลังมองหาแอร์สำหรับเอาไว้ใช้งานในพื้นที่ขนาดเล็ก อย่างเช่นห้องนอนหรือตามคอนโด คุณสามารถอ่านบทความแนะนำเครื่องปรับอากาศสำหรับใช้ตามบ้านเรือนหรือคอนโดที่เราได้ทำการรวบรวมเครื่องปรับอากาศรุ่นที่ดีที่สุดมาไว้ให้คุณแล้ว ซึ่งมี BTU หลากหลายขนาดและมีทั้งแบบธรรมดากับแบบ Inverter ให้ด้วยนะคะ หรือหากใครรู้ว่าตัวเองต้องการแอร์ที่มีขนาด 9,000 BTU เพื่อนำไปใช้ในห้องขนาดเล็ก ๆ ไม่เกิน 9 – 14 ตารางเมตร ก็สามารถกเข้าไปอ่านรายละเอียดได้จากลิ้งก์ที่เราใส่ให้ได้เลยค่ะ
2. แอร์เคลื่อนที่

แอร์เคลื่อนที่จะมาในรูปทรงแนวตั้ง มีขนาดเล็กกะทัดรัด เน้นเคลื่อนย้ายสะดวก ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแบบถาวร หากดูจากภายนอกจะคล้ายกับพัดลมไอเย็นมาก แต่จะทำความเย็นได้เหมือนเครื่องปรับอากาศเด๊ะ ๆ การใช้งานง่ายดาย เพียงแค่การเสียบปลั๊กไฟ ต่อท่อลมร้อนออกไปข้างนอก เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่แอร์ประเภทนี้ไม่เหมาะกับห้องกว้าง ๆ เพราะส่วนใหญ่จะมี BTU ไม่สูงมากนัก อีกทั้งคุณจะต้องหาตำแหน่งในการติดตั้งที่เหมาะสม เน้นติดตั้งใกล้ ๆ กับหน้าต่าง หากเป็นห้องไม่มีหน้าต่างอาจต้องเจาะกำแพงเพื่อต่อท่อปล่อยลมร้อนออกค่ะ
3. แอร์ตั้งพื้น

สำหรับแอร์ประเภทนี้หากดูจากรูปลักษณ์ภายนอกก็จะคล้าย ๆ กับแอร์เคลื่อนที่ เพราะจะมาในทรงแนวตั้งเหมือนกัน แต่จะต่างกันตรงที่แอร์ตั้งพื้นมีขนาดใหญ่กว่ามากและจะไม่มีล้อมาให้ เพราะต้องติดตั้งอยู่กับที่ เนื่องจากต้องต่อพัดลมระบายความร้อนด้วย ในส่วนประสิทธิภาพการทำความเย็นนั้นก็ทำออกมาได้ดีเทียบเท่ากับแอร์ติดผนังเลยค่ะ
3. แอร์ฝังเพดาน

แอร์ฝังเพดานจะพบได้ตามอาคารที่เน้นการตกแต่งสวยงาม เพราะแอร์ชนิดนี้จะถูกซ่อนไว้ในฝ้าเพดานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องหรือท่อน้ำยา มีราคาที่สูงกว่าแอร์ประเภทอื่น ๆ ทั้งยังมีความยุ่งยากในการติดตั้งและการบำรุงรักษาอีกด้วย
4. แอร์แขวนใต้ฝ้า

แอร์ชนิดนี้โดยส่วนใหญ่เราพบได้ตามออฟฟิศสำนักงานที่มีขนาดใหญ่หน่อย เพราะเป็นแอร์ที่กระจายความเย็นได้ดี สามารถส่งความเย็นได้ทั่วถึงทั้งห้อง มีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีคนอยู่เยอะ ๆ
บทสรุปส่งท้าย
เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมก็คือ “ขนาดห้องของคุณ” เพราะเราต้องดูด้วยว่าห้องที่จะติดตั้งสภาพอุณหภูมิห้องโดยรวมเป็นแบบไหน? ขนาดของห้องมีความกว้างมากน้อยเพียงใด? เราจึงจะทราบว่าห้องแบบนี้เหมาะกับแอร์ชนิดไหนที่สุดค่ะ

อย่างเช่นหากเป็นบ้านหรือคอนโดที่มีขนาดกว้างมาก ๆ ก็ต้องดูค่าของ BTU ของแอร์แต่ละเครื่อง ที่มีทั้งแบบ BTU ตํ่า ๆ ไปจนถึง BTU สูง ๆ เพราะหาก BTU สูงเกินไปจะทำให้ตัวคอมเพรสเซอร์ของแอร์ตัดบ่อย เพราะแอร์ทำความเย็นได้เร็ว ก็ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์มีอายุการใช้งานน้อยลง ส่วนแอร์ที่มี BTU ตํ่าเกินไปจะทำให้ห้องเย็นช้า คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักตลอดเวลา ก็ทำให้คอมเพรสเซอร์มีอายุการใช้งานสั้นลงเช่นกัน นอกจากนี้แอร์ที่มี BTU ตํ่าเกินไปนั้นก็ทำให้เปลืองพลังงานอีกด้วย เนื่องจากขนาด BTU ของแอร์ไม่เหมาะกับพื้นที่นั่นเองค่ะ
ดังนั้นอย่าลืมเช็กคุณสมบัติของแอร์ด้วยนะคะว่าสามารถส่งความเย็นได้กระจายทั่วห้องในระดับไหน? เหมาะสมกับห้องของคุณมั้ย? แน่นอนว่าบทความในวันนี้ที่เราได้คัดสรรเครื่องปรับอากาศในแบบต่าง ๆ มาให้คุณอย่างจุใจ แต่โดยรวมแล้วจะเน้นไปที่ “เย็นดี เย็นเร็ว และประหยัดพลังงาน” มากกว่า ซึ่งรับรองว่าไม่ว่าอากาศจะร้อนเพียงใดก็สามารถเอาอยู่แน่นอนค่ะ

ทั้งนี้ก่อนจากกันเราก็ยังมีบทความการดูแลเครื่องปรับอากาศให้มีอายุใช้งานที่ยาวนานและการเลือกซื้อน้ำยาล้างแอร์ในการบำรุงรักษามาฝากกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปเปิดแอร์คลายร้อนสักหน่อยแล้วค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ