“โยเกิร์ต” เป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่หลาย ๆ คนชอบรับประทาน เพราะว่ามันมีความอร่อย เมื่อทานแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น อีกทั้งโยเกิร์ตยังมีประโยชน์ที่สำคัญต่อร่างกาย โยเกิร์ตสามารถหาซื้อได้ง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อจาก ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาเก็ต และหลายคนเองอาจจะชอบซื้อโยเกิร์ตมารับประทาน ซึ่งบางยี่ห้อก็อาจจะไม่อร่อยและไม่ตรงตามที่คุณต้องการ ส่วนบางยี่ห้อที่มีรสชาติดีกลับมีราคาสูง และอาจจะสิ้นเปลืองหากต้องซื้อมาทานในทุก ๆ วัน แต่มันจะดีกว่าไหมหากคุณมีเครื่องทำโยเกิร์ตด้วยตัวเองที่บ้านซักเครื่อง หากคุณมีเครื่องนี้จะสามารถทำโยเกิร์ตได้ทุกวัน หรือจะทำทีละเยอะ ๆ แล้วแช่ในตู้เย็นก็ยังได้ เพราะมันสามารถเก็บได้นานหลายวัน อีกทั้งยังสามารถปรับปรุงรสชาติตามที่คุณชอบได้อีกด้วย สามารถกำหนดน้ำตาลได้ว่าคุณต้องการในปริมาณเท่าไหร่ เหมาะสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนัก แน่นอนว่ามันจะสามารถทำให้คุณทานได้ทุกวันโดยไม่อ้วนค่ะ เราไปดูกันว่าเครื่องทำโยเกิร์ตยี่ห้อไหนจะใช่สำหรับคุณ
โยเกิร์ตทำได้อย่างไร ?
ปกติแล้วโยเกิร์ตมีหลากหลายประเภท รวมถึงโยเกิร์ตกรีก โยเกิร์ตไขมันต่ำ และไม่มีไขมัน อย่างไรก็ตามแล้วโยเกิร์ตเหล่านี้มีส่วนผสมพื้นฐานและการผลิตที่สอดคล้องกัน เราไปดูกันว่าโยเกิร์ตแสนอร่อยทีหลาย ๆ คนชอบทานทำจากอะไรบ้าง

- ส่วนผสมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำนมดิบ น้ำนมดิบจะถูกขนส่งจากฟาร์มไปยังโรงงานผลิตเป็นครั้งแรก
- เมื่อน้ำนมมาถึงโรงงานส่วนประกอบของมันจะถูกปรับเปลี่ยนก่อนนำไปทำโยเกิร์ต โดยจะนำไปพาสเจอร์ไรส์ในอุณหภูมิ 80 °C
- เมื่อทำการพาสเจอร์ไรส์แล้วต้องรอให้นมเย็นลงประมาณ 43-46 °C และจะต้องผ่านการหมักเมื่อหมักแล้วจะเกิด 2 จุลินทรีย์ในโยเกิร์ตเราเรียกว่า แลคโตบาซิลลัสและ สเตรปโทค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส โดยจุลินทรีย์เหล่านี้เป็นผลจากหมักเฉพาะของโยเกิร์ตซึ่งทำให้ได้รสชาติ กลิ่นและได้ประโยชน์ที่ครบถ้วน
- หลังจากนั้นก็ทำการเพิ่มผลไม้ น้ำตาลและส่วนผสมอื่น ๆเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและบรรจุในถ้วยโยเกิร์ต
- ต่อมาโยเกิร์ตจะถูกทำให้เย็นลงและเก็บไว้ที่อุณหภูมิทำความเย็น 5 °C เพื่อชะลอการเสื่อมสภาพทางกายภาพเคมีและจุลินทรีย์
ใครที่ไม่ควรรับประทานโยเกิร์ต ?
1. คนที่แพ้แลคโตส
การแพ้แลคโตสเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดแลคเตสเอนไซม์ที่จำเป็นในการย่อยแลคโตสซึ่งเป็นน้ำตาลที่พบในนม และมักจะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น ปวดท้องและท้องเสียหลังจากบริโภคผลิตภัณฑ์นม ดังนั้นผู้ที่แพ้แลคโตสอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงโยเกิร์ต อย่างไรก็ตามบางคนที่แพ้แลคโตสอาจจะสามารถทานโยเกิร์ตบางยี่ห้อได้ เพราะในบางยี่ห้อแลคโตสบางส่วนถูกทำลายลงในระหว่างการผลิต
2. คนที่แพ้นม
ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมมีเคซีนและหางนมซึ่งเป็นโปรตีนที่บางคนแพ้ ในกรณีเหล่านี้การรับประทานนมอาจจะก่อให้เกิดลมพิษและตัวบวมไปจนถึงภูมิแพ้ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงโยเกิร์ตหากคุณมีอาการแพ้นม
3. หากคุณไม่ชอบน้ำตาล
โยเกิร์ตหลายประเภทมีน้ำตาลที่เติมในปริมาณที่สูงโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่บอกว่ามีไขมันต่ำ การบริโภคน้ำตาลมากเกินไปอาจจะเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพหลายประการรวมถึงโรคเบาหวานและโรคอ้วน ดังนั้นคุณจะต้องอ่านฉลากอาหารและหลีกเลี่ยงแบรนด์ที่ระบุน้ำตาลไว้ในส่วนผสม
วิธีเลือกซื้อ เครื่องทำโยเกิร์ต ที่ดีที่สุด
1. ขนาด
ขนาดเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งโดยคุณจะต้องเช็คให้ดีว่า คุณต้องการรับประทานมากน้อยแค่ไหน เพราะบางเครื่องอาจจะมีขนาดเล็กทำได้แค่เล็กน้อย แต่บางเครื่องก็ใหญ่มากเกินไปอาจจะเปลืองพื้นที่ภายในบ้าน ดังนั้นควรพิจารณาให้ดีนะคะ
2. ประเภท
คุณสามารถเลือกเครื่องทำโยเกิร์ตแบบไฟฟ้าและแบบไม่ใช้ไฟฟ้าได้ มั้ง 2 ชนิดนี้มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการ คุณอาจต้องการใช้เครื่องที่ไม่ใช่ไฟฟ้าเพื่ออุ่นนมและหมัก เครื่องชนิดนี้มีข้อดีคือมีราคาถูก แต่ไม่สามารถควบคุมการอุณหภูมิได้ แต่เครื่องทำโยเกิร์ตแบบไฟฟ้าสามารถควบคุมอุณหภูมิและจับเวลาได้อย่างแม่นยำทำให้โยเกิร์ตไฟฟ้าทำงานได้อย่างสม่ำเสมอแต่มีข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูงในบางยี่ห้อ
3. ความจุ
เมื่อคุณกำลังมองหาเครื่องทำโยเกิร์ตสิ่งต่อไปที่คุณควรคำนึงถึงคือปริมาณโยเกิร์ตที่สามารถผลิตได้ เครื่องทำโยเกิร์ตแต่ละยี่ห้อมีความจุที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณต้องการในปริมาณเท่าไหร่
4. ความสะดวกสบาย
ถัดมาคือคุณยังต้องพิจารณาเครื่องทำโยเกิร์ตที่ใช้งานง่ายและทันสมัย คุนไม่ควรเลือกเครื่องที่ใช้งานซับซ้อนจนเกินไปเพราะมันอาจจะใช้งานยุ่งยาก ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะมองหาฟังก์ชั่นมากกว่าการออกแบบ
5. ตัวจับเวลา
ตัวจับเวลาเป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องมองหาในเครื่องทำโยเกิร์ต เพราะการทำโยเกิร์ตต้องมีการตั้งระยะเวลาเหมือนทำขนมปัง โดยจะต้องมีการหมักเวลาที่ต้องการอาจมีตั้งแต่ 5 ชั่วโมงถึง 8 ชั่วโมง และเครื่องทำโยเกิร์ตที่ดีควรมีคุณสมบัติเปิดปิดอัตโนมัติและตั้งเวลาเพื่อให้โยเกิร์ตของคุณออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
6. อุณหภูมิ
การควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมมีความสำคัญมาก เพราะกระบวนการหมักอาจจะล้มเหลวหากปราศจากอุณหภูมิที่เหมาะสม คุณควรมองหาเครื่องที่มีการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำ หากไม่มีการตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมโยเกิร์ตก็จะไม่สามารถทำได้อย่างสำเร็จ
7. การทำความสะอาด
เครื่องผลิตโยเกิร์ตบางยี่ห้อมาพร้อมกับชิ้นส่วนที่ปลอดภัยสำหรับเครื่องล้างจาน และไม่ว่าคุณจะเลือกแบบใดก็ตามให้แน่ใจว่าทำความสะอาดได้ง่าย เพราะการใช้เครื่องทำโยเกิร์ตที่สกปรกอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนและไม่ปลอดภัยได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับคำแนะนำที่เราได้มอบให้ไปในวันนี้ เราหวังว่าทุกท่านจะนำคำแนะนำจากเราไปเลือกซื้อสินค้าได้นะคะ แต่สิ่งสำคัญเสมอคือคุณควรจะมองหาการรับประกันสินค้าทุกครั้ง และควรมองหาเครื่องทำโยเกิร์ตที่ทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน และต้องไม่แตกหักง่าย ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องไปเลือกสินค้ากันแล้วค่ะ ไปกันเลย
อุปกรณ์ทำโยเกิร์ตโฮมเมด

ราคา 378 บาท*
ประเภท | เครื่องทำโยเกิร์ตแบบไฟฟ้า |
---|---|
กำลังไฟ | 15 วัตต์ |
ขนาด | 16.5 x 16.5 x 11 เซนติเมตร |
การตั้งเวลา | ไม่ระบุ |
Natto เครื่องทำโยเกิร์ต

ราคา 395 บาท*
ประเภท | เครื่องทำโยเกิร์ตแบบไฟฟ้า |
---|---|
กำลังไฟ | 15 วัตต์ |
ขนาด | 16.5 x 16.5 x 11 เซนติเมตร |
การตั้งเวลา | ตั้งได้ |
เครื่องทำโยเกิร์ต รุ่น SEV-3516

ราคา 880 บาท*
ประเภท | เครื่องทำโยเกิร์ตแบบไฟฟ้า |
---|---|
กำลังไฟ | ไม่ระบุ |
ขนาด | ไม่ระบุ |
การตั้งเวลา | ตั้งได้ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ เครื่องทำโยเกิร์ตอัตโนมัติ ยี่ห้อไหนดีสุด ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
|
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับสินค้าที่เราได้แนะนำกันไปในวันนี้ เราหวังว่าทุกท่านจะสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ที่ถูกใจได้นะคะ แน่นอนว่าโยเกิร์ตมีประโยชน์มากมาย คุณอยากรู้กันมั้ยคะว่าโยเกิร์ตมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ถ้าอยากรู้ก็ไปกันเลยค่ะ
ประโยชน์ของโยเกิร์ต
การบริโภคโยเกิร์ตเป็นประจำก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากกับร่างกาย โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์นมได้รับการยอมรับจากหน่วยงานกำกับดูแลและสถาบันวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพ ถึงแม้ว่าโยเกิร์ตจะมีลักษณะเป็นแบคทีเรียที่มีชีวิตแต่ก็อัดแน่นไปด้วยสารอาหารและนี่คือประโยชน์จากโยเกิร์ต
- บำรุงกระดูก โยเกิร์ตเป็นโปรตีนที่อุดมไปด้วยและสารอาหารงจำนวนมากที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของกระดูก เช่น แคลเซียม วิตามินดีและโพแทสเซียม ยิ่งไปกว่านั้นแบคทีเรียที่มีชีวิตที่มีอยู่ในโยเกิร์ตและโปรไบโอติกจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและทำให้สุขภาพของกระดูกดีขึ้น
- บำรุงลำไส้ โยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์นมหมักที่มีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตจำนวนมาก ซึ่งมีอิทธิพลต่อส่วนประกอบของจุลินทรีย์ในลำไส้และหากทานเป็นประจำจะทำให้สุขภาพของลำไส้ดีขึ้น
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การบริโภคโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกอยู่เป็นประจำอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณแข็งแรงและลดโอกาสในการเกิดโรคต่าง ๆ
- ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก โยเกิร์ตมีคุณสมบัติหลายอย่างที่อาจช่วยในการควบคุมน้ำหนักเพราะโยเกิร์ตมีโปรตีนสูงซึ่งทำงานร่วมกับแคลเซียมเพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนลดความอยากอาหารได้