ในช่วงวัยทำงานบางครั้งจะหาวันหยุดพักผ่อนซักทีก็ยากแสนยาก จะลางานเพื่อไปเที่ยวก็ดูไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นเราเมื่อได้วันหยุดมาทั้งทีจึงต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งชาวกรุงเทพหลายคนก็มักจะนิยมเลือกหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เพื่อลดระยะเวลาในการเดินทาง จะได้เที่ยวได้แบบสบายใจไม่ต้องคอยกังวลเรื่องระยะเวลาที่กระชั้นชิด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้ ๆ อย่างกาญจนบุรี, ราชบุรี, สระบุรี, นครนายก หรือสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่เดินทางจากกรุงเทพได้สะดวกอย่าง เพชรบุรี, พัทยา หรือ เลือกไปพักที่พักแถวหัวหิน เพื่อเล่นน้ำทะเล และสนุกไปกับสวนน้ำเย็นชื่นใจ

แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งจังหวัดปริมณฑลที่น่าสนใจที่อยากให้คุณลองไปเยี่ยมชม นั่นก็คือ ‘จังหวัดนครปฐม’ ค่ะ เพราะจังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดเก่าแก่ที่มีประวัติ และขึ้นชื่อว่าเป็นที่ตั้งเก่าแก่ของเมืองในยุคสมัยทวารวดี ซึ่งก็มีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเป็นจำนวนมาก ทำให้จังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมโบราณและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าเป็นเมืองในฝันของคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวศึกษาประวัติศาสตร์เลยล่ะค่ะ

แต่นอกจากนี้จังหวัดนครปฐมก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจนอกจากวัดวาอารามอีกมากมายไม่ว่าตลาดน้ำโบราณ, พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงผลงานศิลปะแขนงต่าง ๆ ไปจนถึงคาเฟ่สุดชิค หากคุณยังไม่แน่ใจว่าวันหยุดนี้คุณจะไปเที่ยวที่ไหนในจังหวัดนครปฐม เราก็ขออาสาเป็นไกด์นำเที่ยวให้คุณในบทความข้างล่างนี้เลยค่ะ

1. วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร

หากพูดถึงจังวัดนครปฐฒ แน่นอนว่าสถานที่แรกที่หลาย ๆ คนนึกถึงจะต้องเป็น ‘วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร’ อย่างแน่นอน เพราะเป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ และมีความสูงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่ไม่ว่าใครที่เข้าสู่เขตนครปฐมก็ต้องมองเห็นพระปฐมเจดีย์สวยเด่นมาแต่ไกลเลยทีเดียว ซึ่งวัดแห่งนี้ก็เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระโคตมพุทธเจ้า ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ที่นอกจากจะเป็นที่เคารพสักการะของผู้คนมาช้านานแล้ว ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ถ่ายรูปได้สวย เพราะมีสถาปัตยกรรมอันงดงาม และความโอ่อ่าใหญ่โตของของพระปฐมเจดีย์ค่ะ

2. ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง ณ บางเลน

อีกสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดเช็คอินยอดนิยมของจังหวัดนครปฐม เราจะไม่พูดถึง ‘ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง’ ไปไม่ได้เลยค่ะ เพราะตลาดน้ำแห่งนี้มีความแตกต่างกันตลาดน้ำอื่น ๆ ตรงที่คุณจะสามารถชิมอาหารอร่อย ๆ และช้อปสินค้าราคาสุดคุ้มท่ามกลางวิวทุ่งดอกบัวแดงสุดลูกหูลูกตา ซึ่งแน่นอนว่ากิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการลงไปพายเรือชมวิวดอกบัวแดง และถ่ายรูปเก๋ ๆ คู่กับเหล่ากอบัวบานสะพรั่งทั้งดอกบัวสายพันธุ์ดั้งเดิม และดอกบัวแดงมะเหมี่ยวที่จะสลับกันบานตลอดทั้งปี ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดฮิตที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมาชมความสวยงามกันอย่างไม่ขาดสายเลยค่ะ

3. พุทธมณฑล

‘พุทธมณฑล’ เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาที่มีอาณาเขตกว้างขวางกว่า 2,500 ไร่ ที่ภายในพื้นที่ก็จะมีความร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าทั้งไม้ดอก และไม้ใบที่ได้รับการดูแลอย่างดี ในบางจุดก็มีไม้พุ่มที่ถูกตัดแต่งเป็นรูปต่าง ๆ ดูน่ารัก รวมถึงยังมีบ่อน้ำ และฝายกั้นน้ำรอบบริเวณยิ่งช่วยให้บรรยาร่มเย็นยิ่งขึ้น โดยจะมีจุดเด่นคือ ‘พระศรีศากยะทศพลญาณ’ ที่สูงถึง 15.75 เมตร ซึ่งมีความงดงามตะการตาเป็นอย่างมาก หากใครที่ต้องการหาสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสงบ หลบหนีจากความวุ่นวายมาไหว้พระทำบุญ มานั่งเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ มาให้อาหารปลา หรือแม้แต่มาวิ่งออกกำลัง เราขอแนะนำให้คุณมาที่นี่เลยค่ะ

4. ตลาดน้ำดอนหวาย

‘ตลาดน้ำดอนหวาย’ เป็นตลาดน้ำชื่อดังของจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นตลาดน้ำเก่าแก่ที่ยังคงสภาพดั้งเดิมของตลาดเก่าในสมัยรัชกาลที่ 6 เอาไว้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะเวียนมาเยีย่มชมและแวะซื้อของฝาก เพราะที่ตลาดน้ำแห่งนี้เรียกได้ว่ามีของกินของฝากให้ชิมให้ซ้อปกันอย่างจุใจเลยทีเดียวทั้งสินค้าท้องถิ่น ไปจนถึงสารพัดอาหารคาวและอาหารหวาน ที่ขอบอกว่าตลาดน้ำแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่จำนวนร้านค้าที่เยอะ แต่อาหารยังอร่อยทุกร้านอีกด้วย โดยเฉพาะเป็ดพะโล้เมนูขึ้นชื่อของตลาดน้ำดอนหวายที่ถ้าไม่ได้กินถือว่าไม่ถึงตลาดน้ำดอนหวายเลยค่ะ

5. วัดไร่ขิง

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่อ ‘วัดไร่ขิง’ มาอย่างแน่นอน เพราะวัดไร่ขิงเป็นวัดชื่อดังในนครปฐม ที่นอกจากจะเป็นวัดที่ชาวบ้านสักการะแล้ว ยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของผู้คนอีกด้วย เพราะวัดไร่ขิงมีพื้นที่ที่กว้างขวางมาก อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความสดชื่นของสวนธรรมชาติสุดร่มรื่น และความผ่อนคลายของบรรยากาศริมน้ำ แต่สิ่งที่ทำให้วัดไร่ขิงขึ้นชื่อไม่ใช่บริเวณที่ใหญ่โต แต่เป็นความศักดิ์สิทธิ์ของ ‘หลวงพ่อวัดไร่ขิง’ พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระประธานเก่าแก่ที่ชาวสามพรานเคารพรักมาเป็นเวลานาน โดยมีความเชื่อว่าถ้าได้มากราบไหว้ และอธิษฐานต่อหน้าหลวงพ่อวัดไร่ขิง พรทุกอย่างก็จะเป็นจริง ขอบอกเลยว่าสายมูทุกคนห้ามพลาดค่ะ

6. ลานแสดงช้าง และฟาร์มจระเข้สามพราน

หากคุณเป็นคนรักสัตว์ และชอบบรรยากาศความเป็นป่าเขา บอกเลยค่ะว่าคุณควรมาที่ ‘ลานแสดงช้าง และฟาร์มจระเข้สามพราน’ เพราะที่นี่จะให้คุณได้สัมผัสกับความร่มรื่นของบรรยากาศสวนป่าอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีทะเลสาบ, สวนน้ำตก และสวนสัตว์ขนาดย่อม และยังให้คุณเพลินเพลินกับการชมการแสดงจากน้องช้างสุดยิ่งใหญ่อลังการที่มีทั้งความน่ารัก และสนุกสนาน รวมถึงสร้างความตื่นเต้นลุ้นระทึกให้คุณด้วยการแสดงโชว์จับจระเข้ด้วยมือเปล่าจากหมอจระเข้ฝีมือดีผู้สืบสานตำนานไกรทอง ซึ่งจะสร้างความตื่นเต้น และประทับใจแบบที่คุณจะหาจากที่ไหนไม่ได้เลยค่ะ

7. วัดกลางบางพระ 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เหล่าสายบุญ และสายมูทั้งหลายไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวนครปฐม นั่นก็คือ ‘วัดกลางบางพระ’ วัดเก่าแก่ของชาวนครปฐม ที่เป็นสถานที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่ใจกลางวัด มีการตกแต่งบรเวณวัดด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทย ๆ ซึ่งผู้คนก็ต่างนิยมเดินทามากราบไหว้กันอย่างไม่ขาดสาย เพราะนอกจากจะเป็นวัดที่สวยงามร่มรื่นแล้ว ก็ยังยังโด่งดังเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อสมหวังที่มักจะดลบันดาลให้คนที่ไปกราบไหว้ขอพรสมหวังทุกประการดังใจต้องการเหมือนชื่อของท่าน โดยเฉพาะคนที่ขอพรเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน, ขอเลขเด็ด และความรัก โดยคนที่สมหวังตามที่ปรารถนาก็มักจะมาแก้บนด้วยด้วยหัวหมู และไข่ไก่ หากคุณต้องการขอพรอะไรซักอย่างให้ตัวเองสมหวังขอแนะนำให้แวะมาขอพรที่ ‘วัดกลางบางพระ’ เลยค่ะ

8. เจษฎา เทคนิค มิวเซียม

สถานที่ท่องเที่ยวที่เชื่อว่าใครที่ชื่นชอบเกี่ยวกับยานพาหนะ, ชอบของวินเทจ หรือสะสมรถยนต์เก่าจะต้องตาลุกวาวอย่างแน่นอน เพราะที่นี่คือ ‘เจษฎา เทคนิค มิวเซียม’ พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวม และจัดแสดงรถเก่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งมีการจัดแสดงทั้งรถยนต์รุ่นเก่า มอเตอร์ไซต์รุ่นหายาก ไปจนถึงยานพาหนะโบราณทั้งทางน้ำ และทางอากาศ อีกทั้งที่พิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดกิจกรรมภายนอกพิพิธภัณฑ์อยู่เสมอ อย่างเช่น งานช่วยเหลือสังคม, กิจกรรมสาธารณประโยชน์ และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังสามารถเข้าชมได้ฟรี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นอีกด้วยค่ะ

9. วัดกลางบางแก้ว

หากใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เราขอแนะนำให้คุณลองไปที่ ‘วัดกลางบางแก้ว’ อีกหนึ่งวัดดังขึ้นชื่อของจังหวัดนครปฐมแห่งนี้เลยค่ะ วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าวัดได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และมีการค้นพบโบราณวัตถุมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ, ใบเสมา, วิหารโบราณ รวมถึงพระพุทธรูปหินทรายแดงเก่าแก่ อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานหลวงพ่อโต นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอย่างหอไตรที่มีการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยที่สวยงาม และพิพิธภัณฑ์พระพุทธวิถีนายก รวมถึงพระอุโบสถที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังสุดวิจิตรบรรจง ให้เราได้ศึกษา และชื่นชมกันอีกมากมายเลยค่ะ

10. พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย

หากคุณชื่นชอบการชมงานศิลปะ เราขอแนะนำให้คุณลองไปเยี่ยม ‘พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย’ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดนครปฐม ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีการจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งแบบไฟเบอร์กลาสที่มีความสวยงามสมจริง โดยจะเน้นการจัดวางหุ่นขี้ผึ้งเพื่อบกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการอนุรักษ์ และเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของไทย โดยหุ่นขี้ผึ้งที่จัดแสดงนอกจากจะมีความสวยงามสมจริงแล้ว เรื่องราวที่สื่อก็มีความน่าสนใจทั้งหุ่นขี้ผึ้งชุดบุคคลสำคัญ, ชุดพระอภัยมณีของสุนทรภู่, ชุดหมากรุกไทย และชุดครอบครัวไทย เป็นต้นค่ะ

11. วัดศีรษะทอง

สำหรับชาวสายมูที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบได้บุญ เราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่แนะนำว่าคุณต้องไปนั่นก็คือ ‘วัดศีรษะทอง’ นั่นเองค่ะ เพราะที่วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของ ‘พระราหู’ ที่ผู้คนนิยมแห่แหนกันมาเพื่อสักการะบูชากราบไหว้กันอย่างไม่ขาดสาย เพราะเชื่อกันว่าหากใครที่ได้มากราบไหว้ขอพรกับองค์พระราหู ท่านก็จะช่วยปัดเป่าเรื่องร้าย ๆ ให้หมดไป โดยผู้คนมักจะนิยมมาขอพรเกี่ยวกับโชคลาภความร่ำรวย หรือขอให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อีกทั้งภายในบริเวณวัดยังมีโบสถ์ และมีการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยที่งดงามอีกด้วยค่ะ

12. เมืองรัตติยา

ช่วงนี้เราจะเห็นเพื่อน ๆ ในโลกโซเชี่ยลถ่ายรูปเช็คอินในชุดไทยโบราณสวย ๆ ในบรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในยุตโบราณบ่อยมาก ๆ ซึ่งสถานที่แห่งนั้นก็คือ ‘เมืองรัตติยา’ แห่งจังหวัดนครปฐมนั่นเอง ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ย้อนยุค ที่เมื่อเข้าไปถึงสิ่งแรกที่คุณจะเห็นก็คือป้อมปราการกำแพงเมืองสีขาวสุดอลังการ ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องศรีอโยธยาอีกด้วย อีกทั้งยังมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ ชิค ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นสะพานแขวนสไตล์โบราณสีแดงที่พาดผ่านคลองนกกระทุง และมุมเมืองโบราณต่าง ๆ ที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปเวลาไหนก็ดูสวยเป๊ะ นอกจากนี้ยังเอาใจสายกินด้วยร้านอาหารอร่อย ๆ ที่คอยให้คุณไปเลือกชิมมากมายทั้งอาหารคาวหวาน ร้านกาแฟ ร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศแม่น้ำชิล ๆ ไปจนถึงเรือนนวดแผนไทยโบราณเพื่อคลายปวดเมื่อยจากการเดินถ่ายรูปหรือเดินชิมอาหารมาหลายชั่วโมง และที่สำคัญที่สุดหากใครที่อยากจะแชะรูปในลุคสาวไทยโบราณเลิศ ๆ ที่นี่เขาก็มีชุดไทยไว้ให้เช่าบริการอีกด้วยค่ะ

13. Niagara N Garden

สำหรับสายคาเฟ่ก็ไม่ต้องน้อยใจค่ะ เพราะจังหวัดนครปฐมก็มีค่าเฟ่สุคยูนีคอย่าง ‘Niagara N Garden’ รอให้คุณมาเยี่ยมชม ด้วยไอเดียสุดปังที่ได้นำเอาเครื่องบินทั้งลำมาแปลงโฉมเป็นคาเฟ่สุดล้ำ อีกทั้งยังมีการตกแต่งด้วยข้าวของที่ดูมีความวิทยาศาสตร์ไซไฟ มีความทันสมัยล้ำยุคเหมือนกันเราได้หลุดไปอยู่ในยานอวกาศ ถือเป็นคาเฟ่อีกแห่งที่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ หลากหลาย และไม่เหมือนใครมาก ๆ นอกจากนี้ในบริเวณคาเฟ่ยังมีอาคารสีส้มอิฐดูสวยโดดเด่นที่ได้รับการตกแต่งสไตล์ยุโรปซึ่งเปิดเป็นร้านอาหาร ที่จะคอยเสิร์ฟอาหารอิตาลีรสเลิศให้เราได้รับประทาน อีกทั้งยังมีจุดนั่งเล่นริมน้ำตกที่จำลองเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้ำตกไนแองการา และโดมใสสุดน่ารักที่ประดับไปด้วยเหล่าตุ๊กตาหมีละลานตาให้เราได้จิบชายามบ่ายแบบเพลิน ๆ อีกด้วยค่ะ

14. ตลาดบางหลวง ร.ศ.122

สำหรับใครที่อยากลองเดินตลาดโบราณที่เป็นตลาดโบราณจริง ๆ ไม่ใช้ตลาดโบราณได้รับการรีเมคมา เราขอแนะนำให้คุณมาที่ ‘ตลาดบางหลวง ร.ศ.122’ เลยค่ะ รับรองว่าคุณต้องชอบอย่างแน่นอน เพราะตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำท่าจีน ซึ่งตลาดแห่งนี้เป็นชุมชนชาวจีนที่ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย และอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ ทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยร้านรวงแบบโบราณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านตัผมแบบโบราณ, ร้านเสริมสวย, ร้านขายยา, ร้านกาแฟ และร้านขายอาหารที่ยังคงกลิ่นอายของวิถีชีวิตดั้งเดิมแบบสมัยก่อนเอาไว้ และถ้าคุณอยากสัมผัสบรรยากาศของย่านตลาดเก่าที่คึกคัก เราขอแนะนำให้คุณมาในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ค่ะ เพราะร้านค้าต่าง ๆ จะพากันเปิดร้านขายของกันอย่างคึกคัก ได้บรรยากศเหมือนย่านชุมชนสมัยก่อนยังไงอย่างงั้นเลยค่ะ

15. อุโมงค์ชมพูพันธุ์ทิพย์

ถ้าคุณอยากชมดอกไม้สวย ๆ บานสะพรั่ง และอยากได้โรเคชั่นถ่ายรูปที่ได้ฟิลซากุระญี่ปุ่น ขอบอกเลยค่ะว่า ‘อุโมงค์ชมพูพันธุ์ทิพย์’ เป็นสถานที่ที่คุณกำลังตามหา โดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งที่จริงแล้วจุดที่จะสามารถชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์นั้นมีอยู่หลายจุดทั่วมหาลัย แต่จุดที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่จะมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เรียงรายกันตามสองข้างถนนมากกว่า 200 ต้น ทำให้เมื่อเวลาดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ก็จะเกิดทิวทัศน์ดอกไม่สีชมพูบานสะหรั่งเป็นอุโมงค์สวยงามเหมือนในเทพนิยายเลยล่ะค่ะ ซึ่งช่วงเวลาที่ดอกไม้จะบานในแต่ละปีจะไม่เท่ากัน แต่โดยประมาณแล้วจะอยู่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนเมษายนของทุกปี หากใครที่อยากมาชื่นชมความสวยงามของอุโมงค์ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ขอแนะนำให้คุณเช็กช่วงเวลาอย่างรอบคอบนะคะ