โดยปกติแล้วเรามักจะใช้กระทะหรือหม้อทอดไฟฟ้าในสำหรับทำอาหารประเภททอด แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถกินอาหารทอดโดยไม่ต้องใช้น้ำมันทอด? แถมยังได้ประหยัดเงินที่ต้องเอาไปซื้อน้ำมันและยังได้สุขภาพที่ดี มาถึงบรรทัดนี้ทุกคนอาจจะเกิดคำถามในใจกันแล้วว่าเป็นไปได้อย่างไรกับการกินอาหารทอดโดยไม่ใช้น้ำมัน 🤔 ขอบอกว่าเป็นไปได้แน่นอนค่ะ หากเรามี “หม้อทอดไร้น้ำมัน” ติดไว้ในครัวเรือน 🥰

แม้ว่าปัจจุบันมีหม้อทอดไร้น้ำมันให้เราได้เลือกซื้อหลายแบรนด์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น หม้อทอดไร้น้ำมันแบรนด์ Philips, หม้อทอดไร้น้ำมันแบรนด์ Tefal รวมไปถึงหม้อทอดไร้น้ำมันแบรนด์อื่น ๆ ที่ราคาไม่เกิน 2,000 บาท โดยที่คุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปก็ทำให้มีหลายยี่ห้อผลิตหม้อทอดไร้น้ำมันที่สามารถทำได้แทบจะทุกอย่างและสามารถใช้แทนเตาอบไฟฟ้า, หม้ออบลมร้อน หรือเครื่องปิ้งขนมปังได้เลย แน่นอนว่าฟังก์ชันที่เยอะขนาดนี้หลาย ๆ คนคงจะรู้สึกสับสนและเลือกซื้อไม่ถูกแน่น ๆ เพราะยี่ห้อนี่ก็ดี !!! แบรนด์นั้นก็โดน !!!
ดังนั้นวันนี้เราจึงขอยกมืออาสารวบรวมหม้อทอดไร้น้ำมันรุ่นฮิต ๆ มารีวิวเพื่อเป็นตัวเลือกให้คุณเองค่ะ จะมียี่ห้อไหนบ้างเรารีบไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ


เราได้ทดลองทำขนมปังหน้าหมู และทอดเฟรนฟราย จากหม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9200/91
ซื้อ หม้อทอดไร้น้ำมัน ยี่ห้อไหนดี
- หม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อก คุณภาพดี ใช้งานง่าย ราคากลาง ๆ: หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9200/91
- หม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิทัล คุณภาพดี คุ้มค่าคุ้มราคา: หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9270/91
- หม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อก คุณภาพดี ราคาย่อมเยาตามมาตรฐานแบรนด์: หม้อทอดไร้น้ำมัน TEFAL รุ่น EY2018
- หม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิทัลขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน: หม้อทอดไร้น้ำมัน HAFELE รุ่น ดิจิตอล 5.7 ลิตร
- หม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อก สไตล์มินิมอล สวยตรงปก: หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9100/20
หม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer) มีข้อดีอะไรบ้าง ?
หมูกรอบ, เฟรนช์ฟราย, ลูกชิ้นทอด หรือจะเป็นหนังไก่ทอดกรุบ ๆ อาหารที่เรากล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่ทุกคนชอบทานด้วยกันทั้งนั้น เพราะความกรุบกรอบและเสียง Crack (เสียงแตก) ตอนที่เคี้ยวนั้นมันทำให้เรารู้สึกฟินแบบบอกไม่ถูก 😋 แต่ทั่ว ๆ ไปแล้วกว่าจะได้ไอต้าวความรักกรอบ ๆ สักชิ้นนั้นต้องผ่านอะไรมามากมาย สำคัญที่สุดก็คือการทอดด้วยน้ำมันท่วม ๆ ฉ่ำ ๆ จนเมนูโปรดของเราสุกกรอบน่ารับประทาน และอย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าน้ำมันเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ อีกมากมาย ถึงแม้ว่าเราจะพยายามเลือกซื้อน้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพขนาดไหน แต่การรับประทานน้ำมันในปริมาณที่เกินความจำเป็น (เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน) ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน

ในเมื่อเลิกทานของทอดไม่ได้เราจึงต้องหาตัวช่วยที่จะทำให้อาหารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพและดีต่อใจมากขึ้น ดังนั้น “หม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer)” จึงถูกผลิตออกมากเพื่อตอบสนองความต้องการของเราโดยเฉพาะ เพราะมันช่วยให้อาหารทอดของคุณกรอบและมีสีเหลืองทองสม่ำเสมอโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน 😇 หม้อทอดเหล่านี้ทำงานโดยการหมุนเวียนอากาศร้อนให้อยู่ภายในตัวเครื่องและทำให้อาหารสุกกรอบด้วยไขมันที่มีอยู่ในอาหารโดยไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเข้าไปเพิ่ม ดังนั้นการใช้หม้อทอดไร้น้ำมันจึงลดการบริโภคไขมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำมันพืชได้มาก

วิธีการใช้งานหม้อทอดไร้น้ำมัน (Air Fryer)
หม้อทอดไร้น้ำมันส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แค่นำอาหารที่เราจะทอดใส่เข้าไปในตัวเครื่อง ปิดฝา กำหนดเวลาและอุณหภูมิในการทอด กดปุ่มเริ่มทำงาน เมื่อครบเวลาตามที่กำหนดก็ถือว่าเสร็จ เราก็จะได้อาหารทอด กรอบ ๆ ร้อน ๆ อีกทั้งยังปลอดน้ำมันอีกด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วดูเหมือนจะง่ายกว่าการทอดแบบใช้น้ำมันด้วยซ้ำ สามารถทำเองได้ง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าน้ำมันจะกระเด็นมาโดนตัวเรา หรือกังวลว่าอาหารจะสุกหรือจะไหม้เพราะหม้อทอดไร้น้ำมันสามารถกำหนดเวลาและอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้การยกเลิกการทำงานของเครื่องก็สามารถทำได้ทันทีอีกด้วยนะคะ


เราได้ทดลองทำ ชีสเค้กหน้าไหม้ และ ปลาทอด จากหม้อทอดไร้น้ำมัน
คำแนะนำในการเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมัน
1. ปริมาณความจุของหม้อทอดไร้น้ำมัน
ความจุจึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นลำดับแรก ๆ ในการเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมัน หากคุณซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น ทำให้เวลาใช้งานจริงเกิดการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าโดยเปล่าประโยชน์ ในทางกลับกันหากคุณมีสมาชิกในครอบครัวจำนวนมากแต่ซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันที่มีความจุน้อย ๆ คุณก็จะต้องเสียเวลาในการปรุงเมนูเดิมหลายครั้ง ดังนั้นคุณจึงต้องเลือกซื้อความจุให้ตรงกับความต้องการและการใช้งานจริง จึงจะคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด อาทิเช่น
- ความจุ 0.5 – 1 ลิตร จะเหมาะสำหรับผู้ที่ทำอาหารทาน 1 คน
- ความจุ 1.5 – 2 ลิตร จะเหมาะสำหรับทำครั้งละ 1-2 คน
- ความจุ 4 – 5 ลิตรขึ้นไป ก็จะเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิก 3-6 คน
2. เลือกหม้อทอดไร้น้ำมันแบบตะกร้า / ตะแกรง
จากที่เราได้พูดถึงปริมาณความจุในข้อแรกไปแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณควรพิจารณาก็คือคุณอยากได้ “หม้อทอดไร้น้ำมันในรูปแบบตะกร้า” หรือ “หม้อทอดไร้น้ำมันที่เป็นตะแกรง” 🤔 หลายคนในที่นี้อาจสงสัยว่ามันต่างกันอย่าง ? และแบบนี้ดีกว่ากัน ? ก็ต้องเรียนคุณผู้อ่านที่รักว่ามันมีข้อดีข้อเสียคนละแบบค่ะ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความต้องการของคุณ แต่จากที่ผู้เขียนที่ทดลองใช้งานจริง ๆ มาทั้ง 2 รูปแบบ ผู้เขียนจะสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

หม้อทอดไร้น้ำมันในรูปแบบตะกร้า
|
หม้อทอดไร้น้ำมันที่เป็นตะแกรง
|
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เป็นแบบตะกร้าความจุที่แต่ละแบรนด์ที่ระบุมานั้นอาจจะเป็นความจุของตัวหม้ออย่างเดียว แนะนำว่าก่อนจะซื้อคุณควรสอบถามกับทางร้านให้ดีว่าความจุที่บอกมานั้นเป็นความจุของตัวหม้อหรือเป็นความจุที่รวมตะกร้าทอดไปด้วย
2. โหมดการทำอาหาร (แอนะล็อก / ดิจิทัล)
เปรียบเทียบความแตกต่าง หม้อทอดไร้น้ำมัน Analog VS Digital
จริง ๆ แล้วโหมดการทำอาหารไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญสักเท่าไหร่ (สำหรับตัวผู้เขียน) เพราะในกรณีที่เป็นหม้อทอดแบบแอนะล็อกเราจะเห็นว่าหลายยี่ห้อตอนนี้มีเมนูที่บอกเวลาและอุณหภูมิบนตัวเครื่องมาให้เลยค่ะ แม้ว่าเราจะไม่สามารถกดเลือกเมนูเหล่านั้นได้ (เพราะเป็นการสกรีนตัวหนังสือลงบนเครื่องเฉย ๆ) แต่ก็ทำให้เราไม่ต้องจดจำหรือเปิดตำราอาหารให้เสียเวลา

ในขณะเดียวกัน หากเป็นหม้อทอดแบบดิจิทัลก็จะมีโปรแกรมเมนูอาหารมาให้เรากดเลือกแบบพร้อมใช้งานทันที ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเข้าไปตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก ถือว่าเป็นโหมดที่จะช่วยให้เราใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 แบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน เพราะหากเป็นแบบแอนะล็อกราคาก็จะถูกกว่ามาก แต่อาจยุ่งยากนิดหน่อยตรงที่เราต้องกำหนดเวลาและอุณหภูมิเองทุกอย่าง ในขณะที่แบบดิจิทัลนั้นเราสามารถสั่งงานด้วยการกดปุ่มเดียวเท่านั้น แต่ก็แลกมากับราคาที่แพงกว่าด้วยค่ะ
3. การดูแลรักษาทำความสะอาด
วิธีทำความสะอาดหลังจากใช้งานนั้นถือว่าเป็นข้อสำคัญในการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว เพราะทุกครั้งที่เราทำอาหาร จะต้องมีคราบสกปรกหลังการทำอาหารเสร็จเสมอ มันคือสิ่งที่อยู่คู่กันและยากที่จะที่หลีกเลี่ยงได้ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราจะเลือกหม้อทอดไร้มันที่ถูกออกแบบมาให้ทำความง่าย ๆ อย่างการเคลือบสารกันอาหารติดตัวเครื่อง (non-stick) หรือจะเป็นถอดออกมาใช้งานร่วมกับเครื่องล้างจานได้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาขัดเอง
แต่เชื่อหรือไม่คะ? หม้อทอดไร้น้ำมันบางยี่ห้อแม้ว่าจะระบุว่ามีการเคลือบสาร non-stick มาให้แล้ว แต่เวลาใช้งานจริง ๆ ก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่กล่าวอ้าง หรืออาจจะเป็นเพราะทางแบรนด์เคลือบมาให้แบบบางมาก ๆ ก็ได้ อาทิเช่นในรูปทางขวามือของคุณเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันจากแบรนด์ xx ที่มีราคาไม่แพงนัก (ไม่มีในรีวิววันนี้แน่นอนค่ะ) ผู้เขียนทดลองใช้ได้ประมาณ 2 ครั้ง พบว่าตะแกรงกรอบจนลอกออกเป็นสนิม ซึ่งต้องอภัยมา ณ ที่นี้เพราะว่าผู้เขียนไม่มีรูปตะแกรงมาให้ดูค่ะ (ทิ้งไปแล้วค่ะเพราะชอกช้ำระกำใจสุด ๆ 😫) แต่จะให้ดูว่าภายในตัวหม้อก็เคลือบสารได้บางมาก ๆ ไม่ต่างกันเลยค่ะ

ดังนั้นก่อนจะซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันมาใช้งาน ผู้เขียนอยากให้คุณถามใจตัวเองดูก่อนว่าจำเป็นต้องใช้งานบ่อยไหม ? อยากได้หม้อทอดที่มีอายุการใช้งานยาวนานรึเปล่า ? หากใช่ แนะนำให้ซื้อยี่ห้อดี ๆ ที่มีมาตรฐานไปเลยค่ะ แม้ว่าราคาอาจจะแพงสักหน่อยแต่เจ็บแล้วจบนะคะ!! แต่หากคุณชอบซื้อสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ที่ผลิตตามเทรนด์อยู่เสมอ และไม่ได้ทำอาหารบ่อย ๆ ก็แนะนำให้ซื้อรุ่นที่ไม่ต้องแพงมากก็ได้ค่ะ แต่ขอให้คุณใช้งาน, ล้างทำความสะอาด และเก็บรักษาอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ
4. การตั้งค่าสูงสุดของเวลา – อุณหภูมิ
โดยปกติแล้วหม้อทอดไร้น้ำมันจะมีอุณหภูมิในช่วง 80-200 องศาเซลเซียส ดังนั้นที่เราจะมารีวิวในวันนี้รับรองว่าเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันที่สามารถปรับอุณหภูมิได้สูงสุด 200 องศาเซลเซียสทุกแบรนด์เลยค่ะ แต่ในส่วนของเวลานั้นจะมีให้เลือก 2 ค่า คือสูงสุด 30 นาที และ 60 นาที อย่างไรก็ตาม ขอให้คุณเลือกจากเมนูอาหารที่คุณทานบ่อย ๆ เป็นหลักนะคะ หากคุณไม่มีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการทอดนานเป็นชั่วโมง ๆ แนะนำให้เลือกแบบสูงสุด 30 นาทีก็เพียงพอแล้วค่ะ
รีวิว – หม้อทอดไร้น้ำมัน – แอนะล็อก
หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9200/91

ราคา 3,490 บาท*
หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9200/91 ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่อยู่ยงคงกระพัน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี บทความรีวิวหม้อทอดไร้น้ำมันที่ดีที่สุดก็ยังคงมีรุ่นนี้อยู่ในบทความเสมอ 👏👏👏 เนื่องจากเว็บไซต์ของเราเน้นใช้งานจริง รีวิวจริง อันไหนที่ว่าดี ต่อให้เป็นรุ่นเก่าแล้วก็ยังคงเอามานำเสนอเพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่เพื่อน ๆ ที่อยากได้หม้อทอดที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดค่ะ 😘

จริง ๆ แล้วรุ่นนี้เรียกว่าแทบจะเป็นรุ่นที่เพอร์เฟคที่สุด แต่รองมาจาก PHILIPS รุ่น HD9270/91 ที่เป็นระบบดิจิทัลนะคะ หากคุณต้องการหม้อทอดคุณภาพราคาประหยัด แนะนำเป็นรุ่นนี้ก็ดีค่ะ แต่จะมีข้อติเพียงนิดเดียวก็ตรงที่การปรับค่าเวลาหรืออุณหภูมิต่าง ๆ ไม่ค่อยละเอียดนัก ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อด้อยของหม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อกทุกรุ่นเลยค่ะ แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของคุณภาพ เทคโนโลยี ความทนทาน ต่าง ๆ นานานั้นเราขอยกให้ PHILIPS รุ่นนี้เป็นหม้อทอดแบบแอนะล็อกที่ดีที่สุด
ส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างชอบที่น้องมาเป็นแบบตะกร้าทอดมากค่ะ แม้ว่าจะทำให้ความจุของหม้อเล็กลงไปบ้าง แต่ก็ถอดออกมาล้างทำความสะอาดง่ายมาก ไม่ต้องกลัวว่าจุกยางจะหลุดหายหรือเสื่อมสภาพอะไรเลย เพราะรุ่นนี้ไม่มีจุกยางมาให้ค่ะ เนื่องจากไม่ใช่แบบตะแกรงนั้นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อหรือไม่คะว่า มีเพื่อน ๆ หลายคนหลังไมค์มาถามถึงน้องจุกยางตรงกลางหม้อรูปก้นดาว ว่าต้องเอาออกด้วยไหม 🤔 ? ขออนุญาตเคลียร์ประเด็นนี้ ณ ตรงนี้ไว้เลยว่า "อย่าหาทำ" ค่ะทุกคน 🙅♀️ หากคุณลองพยายามจะดึงออก คุณจะทราบได้ทันทีว่าน้องถอดออกไม่ได้นะคะ จุกยางตรงนี้มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารของเราสัมผัสโดนน้ำมัน อีกทั้งยังช่วยให้ตะกร้าไม่ไปขีดข่วนให้ตัวหม้อเป็นรอยด้วยค่ะ ส่วนใครที่เกรงว่าจุกยางโดนความร้อนแล้วจะละลายเป็นพิษต่อร่างกายหรือไม่ ? ก็ขอให้คุณวางใจได้ค่ะ จุกยางทนความร้อนสูงมาก ไม่ละลายแน่นอนจ้า
อ่านรีวิวเพิ่มเติมแบบละเอียดได้ที่ "รีวิว PHILIPS หม้อทอดไร้น้ำมัน รุ่น HD9200/91 - ฉบับใช้งานจริง"
สรุป
- ขนาดของหม้อไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ไม่ใช้พื้นที่เยอะมากนัก เหมาะสำหรับครอบขนาดกลาง
- ด้านในเป็นตะกร้าทอดที่ถอดออกง่าย มีระบบล็อกในตัว มีการกเคลือบสารกันติดมาให้ทุกจุด ทำให้ล้างทำความสะอาดง่าย และนำเข้าเครื่องล้างจานได้
- วัสดุก็แข็งแรงทนทาน
- คุณภาพและฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ตรงตามมาตรฐานแบรนด์ระดับโลก
- ก้นถาดรูปปลาดาว เทคโนโลยีเฉพาะของ PHILIPS ที่ทำให้อาหารออกมากรอบนอกนุ่มในอร่อย
วีดีโอ ทดสอบการใช้งาน หม้อทอดไร้น้ำมัน Philips รุ่น HD9200/91
ความจุ | 4.1 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 1400 วัตต์ |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
ตั้งอุณหภูมิสูงสุด | 200 องศาเซลเซียส |
ตะแกรงถอดได้ | ![]() |
สั่งงานระบบสัมผัส | ![]() |
ฟังก์ชันเมนูอาหาร | ![]() |
หม้อทอดไร้น้ำมัน TEFAL รุ่น EY2018

ราคา 2,490 บาท*
เรียกว่าใครที่อยู่ในวงการหม้อทอดไร้น้ำมันมานาน ก็คงจะทราบดีว่านอกจากแบรนด์ PHILIPS รุ่น HD9200/91 แล้ว อีกหนึ่งแบรนด์ที่ตีคู่กันมาเลยก็คือ TEFAL รุ่น EY2018 ซึ่งเป็นเพียงสองแบรนด์ที่มีคะแนนสูสีไล่เลี่ยพอ ๆ กันเลยค่ะ (อยู่ที่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับของแบรนด์ไหนเท่านั้น ส่วนตัวแล้วเราชอบทั้ง 2 แบรนด์ ก็ซื้อมาใช้ทั้งคู่กันไปเลยค่ะ 🤣)

สำหรับรูปทรงวัสดุภายนอกนั้นต้องบอกว่าแข็งแรงทนทานพอ ๆ กัน ภายในเคลือบสารกันติดมาให้อย่างดี อายุการใช้งานเครื่องนี้ยาวนานมากเลยค่ะ เพราะขณะนี้เป็นปี 2023 แล้วน้องก็ยังสวยเช้งกระเด๊ะเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยน ภายในหม้อไม่มีการหลุดลอกใด ๆ
การทำความร้อนก็ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ดี เป็นอีกรุ่นที่ทนทานมาก ๆ ผู้เขียนแอบส่งต่อรุ่นนี้ให้คุณแม่เอาไปใช้อีกบ้าน ก็ไม่มีอาการงอแงใด ๆ (สาเหตุที่ไม่ใช้เพราะเดิมทีผู้เขียนชอบหม้อทอดแบบตะกร้ามากกว่า ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวค่ะ) ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่สามารถรับมือได้ทุกเมนู แถมคุณแม่ยังชมไม่ขาดปากอีกว่าใช้ง่ายมาก 🥰 !!! ในด้านความปลอดภัยนั้นก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะเพราะว่ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติ สบายใจหายห่วงได้เลยค่ะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติมแบบละเอียดได้ที่ "รีวิว TEFAL หม้อทอดไร้น้ำมัน รุ่น EY2018 - ฉบับใช้งานจริง"


เราได้ลองทำปีกไก่ทอดด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันของ TEFAL รุ่น EY2018
สรุป
- ดีไซน์สวยงาม ดูทันสมัย เหมาะกับบ้านทุกสไตล์
- เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง
- ด้านในเคลือบสารกันติด ทำความสะอาดง่าย
- สามารถถอดตะแกรงและหม้อทอดเข้าเครื่องล้างจานได้
- สินค้าจากแบรนด์ดัง ทำให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย
- เสียงการทำงานค่อนข้างดังพอสมควร
- ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่มาก
ความจุ | 4.2 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 1500 วัตต์ |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
ตั้งอุณหภูมิสูงสุด | 200 องศาเซลเซียส |
ตะแกรงถอดได้ | ![]() |
สั่งงานระบบสัมผัส | ![]() |
ฟังก์ชันเมนูอาหาร | ![]() |
หม้อทอดไร้น้ำมัน TEFAL รุ่น EY501866

ราคา 3,299 บาท*
อีกรุ่นหม้อทอดแบบแอนะล็อกจากแบรนด์ TEFAL ที่เราอยากแนะนำ รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ 2-in-1 คือ ทอด+ย่าง ในตัวเดียวค่ะ ตัวเครื่องใช้งานง่าย แต่เสียงตอนทำงานคือดังมากนะคะ (ต้องทำใจหน่อย)

ส่วนตะแกรงและด้านในหม้อทอดเคลือบสารกันติดมาอย่างหนา เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย การทำความร้อนและฟังก์ชันทำอาหารต่าง ๆ คือดีมากค่ะ อาหารสุกทั่วถึง การควบคุมไฟและอุณหภูมิทำได้ง่าย ไม่ทำให้อาหารไหม้ ตัวเครื่องร้อนเร็ว ทำได้หลายเมนูแน่นอน มาพร้อมระบบตัดไฟที่ดี
แต่ขนาดโดยรวมใหญ่พอสมควรเลยนะคะ อาจจะเปลืองพื้นที่เคาน์เตอร์ครัวไปหน่อย รูปลักษณ์ภายนอกดูดีแข็งแรงทนทานมีคุณภาพ
สรุป
- งานได้ทั้งทอดและย่าง
- หม้อทอดใช้งานได้ดี ร้อนเร็ว อาหารสุกเร็วอย่างทั่วถึง ไม่มีกลิ่นคลุ้งกระจาย
- เคลือบสารกันติด (non-stick) อย่างหนา ไม่หลุดลอกง่าย ๆ
- วัสดุที่ใช้ประกอบหม้อทอดคุณภาพดี ตามมาตรฐานของแบรนด์
- มีระบบความปลอดภัยน่าเชื่อถือ
- เครื่องเวลาทำงานเสียงค่อยข้างดัง
- ขนาดค่อนข้างใหญ่
ความจุ | 4.2 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 1550 วัตต์ |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
ตั้งอุณหภูมิสูงสุด | 200 องศาเซลเซียส |
ตะแกรงถอดได้ | ![]() |
สั่งงานระบบสัมผัส | ![]() |
ฟังก์ชันเมนูอาหาร | ![]() |
หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9100/20

ราคา 2,990 บาท*
ขออนุญาตร้องกรี๊ดดัง ๆ ให้กับความปังในดีไซน์ของ PHILIPS ครั้งนี้ !!! 🥳 หลังจากที่ทางแบรนด์พยายาม Keep Look อยู่นาน ในที่สุดเราก็ได้เห็นดีไซน์น้องหม้อทอดที่เป็นสไตล์มินิมอลสักทีนะคะ บอกเลยว่าต่อให้คุณจะมีหม้อทอดของ PHILIPS อยู่แล้วก็ต้องโดนน้องรุ่นนี้ตกเข้าอย่างจัง !! ด้วยความน่ารักที่มาในสีขาวออกครีม ๆ ใครเล่าจะอดใจไหว 😍 !!!

หากเพื่อน ๆ ที่กำลังรู้สึกลังเล กลัวว่าน้องจะไม่สวยปกตรงปก ผู้เขียนขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่าเครื่องจริงสวยมาก!! น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก เห็นขนาดเล็ก ๆ แบบนี้แต่มีความจุถึง 3.7 ลิตร เหมาะสำหรับ 2-3 คน โดยรวมแล้วชอบมากกกกก (ชอบตรงสีเครื่องนี่แหละค่ะ)
ในส่วนของคุณภาพนั้นก็ไม่ต้องรีวิวกันเยอะ เพราะสินค้าของ PHILIPS ทุกชิ้น (ที่เป็นของแท้) คุณภาพดี ตัวเครื่องแข็งแรงทนทาน ฟังก์ชันการใช้งานใช้ได้ตามปกติ ไม่มีที่ติ !! ทุกอย่างสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานแบรนด์ เป็นรุ่นที่มีปุ่มไม่เยอะ ใช้ง่ายมาก ๆ
บอกเลยว่ารุ่นนี้ต้องตำค่ะ มีแล้วก็ซื้ออีกได้ ซื้อมาตั้งโชว์เฉย ๆ ก็ยังคุ้มเลยจ้าาา 😆 เป็นหม้อทอดจาก PHILIPS ที่ราคาไม่ได้แรงอย่างที่คิด
สรุป
- ใบเล็กน่ารัก สีขาวมินิมอลสุด ๆ
- ดีไซน์และสีสันสวยตรงปก
- ด้านในไม่มีตะกร้าเหมือนรุ่นก่อน ๆ
- วัสดุก็แข็งแรงทนทาน
- คุณภาพและฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ตรงตามมาตรฐานแบรนด์ระดับโลก
- ก้นถาดรูปปลาดาว เทคโนโลยีเฉพาะของ PHILIPS ที่ทำให้อาหารออกมากรอบนอกนุ่มในอร่อย
ความจุ | 3.7 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 1500 วัตต์ |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
ตั้งอุณหภูมิสูงสุด | องศาเซลเซียส |
ตะแกรงถอดได้ | ![]() |
สั่งงานระบบสัมผัส | ![]() |
ฟังก์ชันเมนูอาหาร | ![]() |
หม้อทอดไร้น้ำมัน Simplus รุ่น KQZG007

ราคา 879 บาท*
หม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อกตัวสุดท้ายมาจากแบรนด์ Simplus ที่มีดีไซน์สวยมาก ๆ โดยมีจะสีเบจ, สีเขียว และสีดำ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบสีเขียวมากค่ะ เพราะว่าพวกอะไหล่ที่เป็นโลหะจะเป็นสีเงินทำให้ดูมินิมอลมากกว่าสีทอง สำหรับฟังก์ชันการทำงานก็ง่ายมาก ๆ มีเพียงแค่ 2 ปุ่มเท่านั้น สามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนู ความแม่นยำของอุณหภูมิอยู่ในระดับที่น่าพอใจ อาจมีไหม้บ้างนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วสุกทั่วถึงทุกชิ้น

หลังจากที่ได้ลองใช้งานมาสักระยะ หากตัดเรื่องความน่ารักออกไป เราค่อนข้างตะหงิดใจตรงปุ่มปรับเวลาค่ะ เพราะบางครั้งก็ทำงานเดินตามปกติ แต่บางครั้งก็พบว่าปุ่มเวลาไม่เดิน ในส่วนของการแจ้งเตือนอาหารสุกนั้นบอกเลยว่าน้องร้องดังมากค่ะ ทำงานอยู่อีกห้องก็ได้ยินอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามด้วยราคาและดีไซน์ที่สุดแสนน่ารักตะมุตะมิก็ทำให้เรายอมมองข้ามข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปได้ค่ะ เอาเป็นว่าหากปุ่มเวลาจะไม่เดินจริง ๆ ก็ส่งเคลมในระยะรับประกันได้เลยค่ะ หรือถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาส่งกลับไปมา แนะนำให้จับเวลาในมือถืออีกครั้ง เมื่อครบตามที่กำหนดแล้วค่อยมาเดินมาดูก็ได้ค่ะ
สรุป
- วัสดุทนทานคุณภาพเหมาะสมกับราคา
- ดีไซน์สวยงาม สีสวยตรงปก
- ขนาด 4.5 ลิตรที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กมาก
- เครื่องทำความร้อนได้ดี
- เสียงตอนทำงานค่อนข้างดัง
- ปุ่มตั้งเวลาค้างบ่อย (เวลาไม่เดิน)
ความจุ | 4.5 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 1300 วัตต์ |
ตั้งเวลาสูงสุด | 30 นาที |
ตั้งอุณหภูมิสูงสุด | 200 องศาเซลเซียส |
ตะแกรงถอดได้ | ![]() |
สั่งงานระบบสัมผัส | ![]() |
ฟังก์ชันเมนูอาหาร | ![]() |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
รีวิว – หม้อทอดไร้น้ำมัน – ดิจิทัล
หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9270/91

ราคา 5,590 บาท*
แม้ว่าผู้เขียนจะไม่ได้เป็นนายหน้าขายประกัน แต่ก็รับประกันได้เลยว่าหม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิทัลจากแบรนด์ PHILIPS รุ่น HD9270/91 เป็นรุ่นที่ดีที่สุด อีกทั้งยังมียอดขายสูงที่สุดด้วยนะคะ 👍
ตัวหม้อมีความจุ 6.2 ลิตร แต่หากนับตะกร้าเข้าไปด้วยความจุก็จะเล็กลงเหลือประมาณ 4.2 ลิตรเท่านั้น แต่ก็ยังเหมาะสำหรับ 4-5 คน หน้าจอเป็นระบบสัมผัส อีกทั้งยังสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย การควบคุมอุณหภูมิโดยรวมถือว่าดีมาก อาหารออกมากรอบอร่อย สุกทั้งชิ้น แถมใช้ง่ายไม่ยุ่งยาก เสียงเครื่องตอนทำงานเงียบมาก ๆ

สรุป
- ดีไซน์สวยงาม ดูทันสมัย เหมาะกับบ้านทุกสไตล์
- เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่
- ด้านในเป็นตะกร้าทอดที่ถอดออกง่าย เคลือบสารกันติด ทำความสะอาดง่าย เอาเข้าเครื่องล้างจานได้
- สินค้าจากแบรนด์ดัง ทำให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย วัสดุก็แข็งแรงทนทาน
- คุณภาพและฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ตรงตามมาตรฐานแบรนด์ระดับโลก
- เสียงการทำงานเงียบมาก
- ก้นถาดรูปปลาดาว เทคโนโลยีเฉพาะของ PHILIPS ที่ทำให้อาหารออกมากรอบนอกนุ่มในอร่อย
- ระบบสัมผัสต้องออกแรงกดสักหน่อย การสัมผัสไม่ได้ไหลลื่นมากนัก
ความจุ | 6.2 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 2000 วัตต์ |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
ตั้งอุณหภูมิสูงสุด | 200 องศาเซลเซียส |
ตะแกรงถอดได้ | ![]() |
สั่งงานระบบสัมผัส | ![]() |
ฟังก์ชันเมนูอาหาร | ![]() |
หม้อทอดไร้น้ำมัน HAFELE รุ่น ดิจิตอล 5.7 ลิตร

ราคา 2,490 บาท*
HAFELE เป็นแบรนด์ผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีมาตรฐานความปลอดภัย อีกทั้งตัวสินค้ายังขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน หากคุณเคยใช้สินค้าอื่น ๆ จากแบรนด์นี้มาก่อน คุณจะรู้สึกถึงของคุณภาพไว้ใจได้อย่างแน่นอนค่ะ
ตัวเครื่องโดยรวมมีขนาดใหญ่มาก สามารถอบไก่ได้ทั้งตัว ฟังก์ชันการทำงานไม่ซับซ้อน มีหลายเมนูให้เลือกใช้ เสียงทำงานไม่ได้ดังจนเกินไป ตัวหม้อทำความร้อนได้ไว แต่เวลาที่ดึงตะกร้าทอดออกต้องใช้แรงนิดหน่อย (ดึงค่อนข้างยาก ใส่กลับก็ยาก 😞)

สรุป
- ดีไซน์สวย
- เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่
- ระบบทัชสกรีนดี
- เวลาดึงตัวตะกร้าหม้อทอดออกต้องใช้แรงหน่อย
- เสียงเบามาก
- เช็ดทำความสะอาดง่าย
- ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน
- เสียงสัญญานเตือนดัง
ความจุ | 5.7 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 1700 วัตต์ |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
ตั้งอุณหภูมิสูงสุด | 200 องศาเซลเซียส |
ตะแกรงถอดได้ | ![]() |
สั่งงานระบบสัมผัส | ![]() |
ฟังก์ชันเมนูอาหาร | ![]() |
หม้อทอดไร้น้ำมัน Gaabor รุ่น GA-E45A01 / E45A02

ราคา 999 บาท*
สำหรับหม้อทอดไร้น้ำมันจากแบรนด์ Gaabor ซีรีส์นี้จะมีรุ่น GA-E45A01 และ GA-E45A02 แน่นอนค่ะ ว่าทั้งคู่มีฟังก์ชันการทำงานและรูปทรงที่เหมือนกันทุกอย่าง แต่จะต่างกันเพียงแค่เป็นสีขาวและสีดำเท่านั้น สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้อสีไหนดี เราขอแนะนำสีขาวเลยค่ะ เพราะใช้แล้วห้องครัวดูมินิมอลมาก ๆ

ในส่วนของฟังก์ชั้นการทำงานต้องบอกว่าแม้จะเป็นแบบดิจิทัลที่ใช้งานง่าย กะระยะเวลา ความร้อนได้ละเอียดกว่า แต่รุ่นนี้ไม่มีโปรแกรมเมนูอาหารมาให้นะคะ อีกทั้งตัวหม้อที่ทางแบรนด์ระบุว่าขนาด 4.5 ลิตร โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่าอาจจะเล็กไปหน่อยค่ะ ไม่จะถึง 4.5 ลิตร
ส่วนปัญหาที่หลาย ๆ คนเจอก็คือตัวหม้อเหมือนจะปิดไม่สนิท จริง ๆ แล้วหลังจากที่ลองใช้อยู่นาน ฝาหม้อปิดสนิทนะคะเพียงเราต้องออกแรงกดเข้าไปถึงจะสนิทค่ะ
สรุป
- ดีไซน์สวยหรา ตัดขอบด้วยสีโรสโกลด์
- เป็นระบบดิจิทัลที่ไม่มีโปรแกรมเมนูอาหารมาให้
- ต้องออกแรงกด เพื่อให้ฝาหม้อปิดสนิท
- ขนาดรู้สึกเหมือนจะเล็กกว่า 4.5 ลิตร (ความคิดเห็นส่วนตัว)
- เชื่อมั่นในมาตรฐานความปลอดภัยได้
- หม้อร้อนเร็วมาก
- มีคู่มือภาษาไทยมาให้
- ถอดตะแกรงออกลำบากนิดหน่อย
ความจุ | 4.5 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 1400 วัตต์ |
ตั้งเวลาสูงสุด | 60 นาที |
ตั้งอุณหภูมิสูงสุด | 200 องศาเซลเซียส |
ตะแกรงถอดได้ | ![]() |
สั่งงานระบบสัมผัส | ![]() |
ฟังก์ชันเมนูอาหาร | ![]() |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เปรียบเทียบความแตกต่าง หม้อทอดไร้น้ำมัน Analog VS Digital
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าหม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อกและแบบดิจิทัลคืออะไร ? มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง ? หากคุณต้องการซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันมาใช้ครั้งแรกแบบไหนจะเหมาะกับคุณมากกว่ากัน วันนี้เราได้รวบรวมคำตอบต่าง ๆ มาใหคุณได้อ่านกันแล้วค่ะ
หม้อทอดไร้น้ำมัน Analog
|
หม้อทอดไร้น้ำมัน Digital
|
ความแตกต่างหลักระหว่าง
หม้อทอดไร้น้ำมันแอนะล็อก VS ดิจิทัล
อยู่ที่แผงควบคุมการใช้งานความปลอดภัย หม้อทอดไร้น้ำมันแอนะล็อก – ดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันแบบไหนไปใช้งาน ในเรื่องของความปลอดภัยนั้นขอให้คุณสบายใจได้เลยค่ะ เพราะว่าหม้อทอดไร้น้ำมันทุกประเภทจะได้รับการออกแบบมาให้มีระบบปิดอัตโนมัติ อาทิเช่น ในกรณีที่คุณดึงฝาเปิดเครื่องออกทันทีเพื่อดูความสุกของอาหาร (ในขณะที่เครื่องกำลังทำงาน) หรือจะเป็นในกรณีที่คุณใช้งานหม้อติดต่อกันจนอุณหภูมิสูงเกินไป ไม่ว่าจะมีสัญญาณอะไรก็ตามที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวผู้ใช้ ระบบจะหยุดทำงานให้อัตโนมัติทันทีเลยค่ะ
1. หม้อทอดไร้น้ำมันระบบแอนะล็อก / แมนนวล
1.1 การใช้งานง่าย-ราคาประหยัด
หม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อกหรือที่เรียกว่าหม้อทอดไร้น้ำแบบแมนนวล จะมีปุ่มหมุนสำหรับควบคุมเวลาและอุณหภูมิเพียง 2 ปุ่มเท่านั้น การใช้งานง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่คุณหมุนไปทางซ้ายขวาไปตามทิศทางของตัวเลขที่คุณต้องการ
หม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อกจะไม่มีฟังก์ชันอัจฉริยะใด ๆ นอกจากการปรับเพิ่มเวลาและความร้อน เนื่องจากผู้ผลิตต้องการตอบสนองลูกค้าที่มองหาหม้อทอดไร้น้ำมันราคาถูก เน้นใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนที่ low-tech หรือผู้ที่ไม่ถนัดใช้ระบบหน้าจอสัมผัสนั่นเองค่ะ
1.2 การดูแลรักษา-ซ่อมบำรุงง่าย
นอกจากนี้ในขั้นตอนล้างทำความสะอาดหม้อ หรือแม้แต่ตอนที่คุณเช็ดทำความสะอาดภายนอกตัวหม้อก็ไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะเผลอทำน้ำกระเด็นเข้าแผงวงจรจนเกิดความเสียหายด้วยนะคะ เพราะว่าหม้อทอดไร้น้ำมันระบบแอนะล็อกจะมีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่าแบบดิจิทัล แถมยังหาร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ง่ายกว่าและมีค่าซ่อมที่ถูกกว่าด้วยค่ะ
1.3 ไม่มีสเกลการตั้งค่าที่ละเอียดและแม่นยำ
อย่างไรก็ตามในข้อดีก็มีข้อที่ควรพิจารณาเช่นกันค่ะ เพราะว่าหม้อทอดไร้น้ำมันระบบแอนะล็อกนั้นจะไม่ค่อยแม่นยำในเรื่องของตัวเลขค่ะ อาทิเช่น หากคุณต้องการอุ่นอาหารประมาณ 3-5 นาที (ซึ่งถือว่าเป็นการตั้งค่าเวลาที่สั้นมาก ๆ) ในส่วนนี้ต้องบอกเลยว่าหม้อทอดไร้น้ำมันระบบแอนะล็อกไม่สามารถให้ความแม่นยำแก่คุณได้ หรือในกรณีที่คุณต้องการปรุงอาหารชนิดที่ต้องใช้อุณหภูมิความร้อนตรงตามสูตรเป๊ะ ๆ ก็เป็นยากเรื่องเช่นกันค่ะ เพราะว่าการหมุนปุ่มด้วยมือนั้นจะไม่แม่นยำเท่ากับการกดตัวเลขแบบดิจิทัลค่ะ
2. หม้อทอดไร้น้ำมันระบบดิจิตอล / ทัชสกรีน
2.1 การใช้งานง่ายดาย ใช้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ในทางกลับกัน หม้อทอดทอดไร้น้ำมันแบบดิจิตอลจะมีจอแสดงผล LED หน้าจอควบคุมเป็นระบบสัมผัส สามารถตั้งค่าล่วงหน้าได้, กำหนดการปรุงอาหารที่เป็นเมนูเฉพาะเจาะจงได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว เพราะคุณสามารถเลือกเวลาและอุณหภูมิในการปรุงสำหรับอาหารประเภทต่าง ๆ จากโปรแกรมที่เครื่องกำหนดมาให้ วิธีนี้จะทำช่วยให้คุณทำอาหารได้ง่ายขึ้น เนื่องจากคุณไม่ต้องมานั่งจำว่าเมนูนี้ต้องใช้อุณหภูมิที่เท่าใดและต้องใช้เวลานานแค่ไหนนั่นเองค่ะ
2.2 โปรแกรมเมนูทำอาหารมาให้อัตโนมัติ
หม้อทอดไร้น้ำมันแบบจิตอลจะมีฟังก์ชันทำอาหารสำเร็จรูปมาให้แล้ว ซึ่งตัวหม้อจะเซตค่าต่าง ๆ มาให้อัตโนมัติ นั่นก็คือระยะเวลาในการทอดและอุณหภูมิความร้อนที่ใช้ในแต่ละเมนู อาทิเช่นหากเป็นเนื้อสัตว์ก็ต้องใช้เวลาและอุณหภูมิมากกว่าผักเป็นต้น โดยแต่ละรุ่นอาจจะมีมาให้ประมาณ 6-8 โปรแกรม ซึ่งเป็นโปรแกรมแบบเริ่มต้นเท่านั้น อย่างเช่น ทำเฟรนช์ฟรายส์, เนื้อไก่, เนื้อหมู, เนื้อวัว, ขนมปัง เป็นต้น ซึ่งบางยี่ห้อก็อาจมีการเพิ่มลูกเล่นให้แก่แบรนด์ตัวเองโดยอาจมีโปรแกรมเมนูอาหารให้เลือกเยอะขึ้น
2.3 สามารถปรับเวลาและอุณหภูมิได้เองอย่างแม่นยำ
อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ต้องการใช้ฟังก์ชันปรุงอาหารอัตโนมัติเหล่านี้ ก็สามารถเลือกปรับเวลาและอุณหภูมิได้ด้วยตัวเองตามต้องการ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เกือบ 90% ของหม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิทัลที่เราได้ทดสอบมาจะมีสเกลการปรับค่าที่เท่ากัน นั่นก็คือ หากเป็นเวลาก็จะเพิ่มลดได้ครั้งละ 1 นาที และหากเป็นอุณหภูมิสามารถเพิ่มลดได้ครั้งละ 5-10 องศาเซลเซียส (โดยส่วนใหญ่จะเป็น 5 องศาเซลเซียส)
2.4 มีฟังก์ชันพิเศษ
หม้อทอดไร้น้ำมันระบบดิจิทัลส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับฟังก์ชันพิเศษ อาทิเช่น แจ้งเตือนให้เขย่า, แจ้งเตือนให้พลิกกลับด้าน, ทำให้อาหารของคุณอุ่นอยู่เสมอ และบางรุ่นก็อาจมีโหมดทำความสะอาดตัวเองได้ด้วยนะคะ นอกจากนี้หากทางแบรนด์ต้องการเพิ่มจุดขายก็อาจจะทำให้คุณสมารถควบคุมหม้อทอดไร้น้ำมันผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วย โดยจะเชื่อมต่อด้วยระบบ Wi-Fi ดังนั้นจึงทำให้เราสามารถสั่งงานได้จากระยะไกลนั่นเองค่ะ
2.5 ราคาสูง การดูแลรักษายาก
แม้ว่าหม้อทอดไร้น้ำมันระบบดิจิทัลจะมีข้อดีอยู่หลายข้อ แต่อย่างไรก็ตามคุณภาพที่ดีและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ย่อมมาพร้อมกับราคาที่สูงกว่าเสมอ อีกทั้งพวกแผงวงจรดิจิทัลส่วนใหญ่จะมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ หากโดนน้ำเพียงเล็กน้อยหรือโดนแรงกระแทกแรง ๆ จากการกดปุ่มเดิมซ้ำ ๆ ก็อาจทำให้ปุ่มพังได้ง่ายค่ะ ทั้งนี้ในส่วนของค่าซ่อมบำรุงนั้นก็จะแพงกว่าแบบแอนะล็อกด้วยนะคะ
ทำไม ราคาหม้อทอดไร้น้ำมัน ถึงต่างกันหลายบาท ?
ราคาของหม้อทอดไร้น้ำมันในตลาดปัจจุบันนี้ มีช่วงราคาดังนี้ :
- หม้อทอดไร้น้ำมัน ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 – 1,000 บาทปลาย ๆ จะเป็นสำหรับแบรนด์ไทย และแบรนด์ที่นำเข้ามาจากจีนค่ะ
- หากเป็นยี่ห้อดังและเป็นยอมรับทั่วโลก อาทิเช่นยี่ห้อ PHILIPS หรือ TEFAL ราคาจะเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ปลาย ๆ ไปจนถึง 10,000 บาท เลยค่ะ แนะนำให้ซื้อตอนช่วงโปรโมชั่นนะคะ รับรองคุ้มกว่าแน่นอนค่ะ 😊
![]() หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9270/91 | ![]() หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9200/91 | ![]() หม้อทอดไร้น้ำมัน TEFAL รุ่น EY2018 | ![]() หม้อทอดไร้น้ำมัน TEFAL รุ่น EY501866 | ![]() หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9100/20 |
฿5590.00* | ฿3490.00* | ฿2490.00* | ฿3299.00* | ฿2990.00* |
|
|
|
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณความจุของตัวหม้อด้วยค่ะ หม้อที่มีขนาดความจุมากกว่า มักจะมีราคาแพงกว่าตัวหม้อที่มีขนาดความจุเล็ก
หม้อทอดไร้น้ำมันราคาถูก พังง่ายจริงไหม ?
ต้องบอกก่อนว่า จริง ๆ แล้ว “ราคา” ของหม้อทอดไร้น้ำมันจะมีผลเกี่ยวกับคุณภาพอย่างแน่นอนค่ะ อย่างน้อย ๆ วัสดุที่ใช้, เทคโนโลยีเฉพาะของแต่ละแบรนด์ และการบริการหลังการขายก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้หม้อทอดไร้น้ำมันมีราคาสูง
แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าคุณจะซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันราคาเท่าไหร่ หากคุณซื้อไปแต่ไม่ใช้งานเลยก็เปล่าประโยชน์ ในขณะเดียวกันหากคุณใช้งานเกินความจำเป็นก็อาจทำให้เกิดความเสื่อมสภาพเร็วได้
ดังนั้นราคาจึงไม่ได้การันตีคุณภาพความคงทนของเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเสมอไปค่ะ แต่เป็นพฤติกรรมการใช้งานของเราและการดูแลรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ ด้วย หากใช้งานโดยที่ไม่ศึกษาวิธีการใช้และวิธีการดูแลรักษาหม้อทอดน้ำมันก่อน ก็จะทำให้ตัวหม้อทอดเสื่อมสภาพเร็วขึ้นค่ะ
สรุปควรซื้อ “หม้อทอดไร้น้ำมันระบบแอนะล็อก” หรือไม่?
ซื้อเลย
- หากคุณมีงบจำกัด หม้อทอดไร้น้ำมันแบบแมนนวลอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
- หากคุณไม่ชอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ คุณอาจพบว่าหม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อกนั้นใช้งานง่ายกว่า
- หากคุณวางแผนที่จะซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันเป็นของขวัญให้ผู้สูงอายุ บอกเลยว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก ๆ
- หากคุณต้องการความอะลุ่มอล่วยในการทำอาหาร คุณสามารถตั้งอุณหภูมิที่ต้องการและเวลาในการปรุงอาหารให้เร็วขึ้นบนหม้อทอดไร้น้ำมันแบบแอนะล็อกได้ตลอดเวลาจนกว่าคุณจะพอใจ
- หากคุณต้องการหม้อทอดไร้น้ำมันที่ทนทาน เนื่องจากระบบแบบแมนนวลจะมีฟังก์ชันการทำงานที่น้อยกว่า จึงมีส่วนประกอบที่อาจแตกหักได้น้อยตามไปด้วย อีกทั้งค่าซ่อมของหม้อทอดไร้น้ำมันประเภทนี้ก็จะถูกกว่าด้วยนะคะ
อย่าซื้อ
- ไม่มีฟังก์ชันอัจฉริยะ อาทิเช่น เตือนให้อุ่นซ้ำหรือเตือนให้เขย่าอาหาร
- ไม่ทราบสถานะที่แท้จริงของกระบวนการทำอาหาร เนื่องจากมันไม่มีจอแสดงผล ทำได้เพียงแต่เปิดดูเป็นระยะ ๆ เท่านั้น
- ไม่มีความแม่นยำสำหรับการปรุงอาหาร เพราะการควบคุมการระดับของอุณหภูมิและเวลากว้างเกินไป หากคุณวางแผนที่จะอบเค้กหลาย ๆ ชิ้นในหม้อทอดไร้น้ำมัน คุณควรพิจารณาหม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิทัลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สรุปควรซื้อ “หม้อทอดไร้น้ำมันระบบดิจิทัล” หรือไม่ ?
ซื้อเลย
- หากคุณต้องการปรุงอาหารที่มีความแม่นยำด้านอุณหภูมิและเวลา เนื่องจากคุณจะได้เห็นตัวเลขที่แน่นอนบนหน้าจอแสดงผลไม่ใช่การกะประมาณด้วยสายตา
- หากคุณมีสูตรเฉพาะที่สามารถบันทึนค่าไว้ในโปรแกรม เพราะมันจะช่วยให้คุณตั้งเวลาทำอาหารได้เร็วขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องจำตัวเลขเหล่านั้นด้วยตัวเอง
- หากคุณต้องการหม้อทอดไร้น้ำมันที่มีฟังก์ชันอัจฉริยะ เช่น การแจ้งเตือน หรือการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi
- หากคุณเป็นคนชอบความสมบูรณ์ (Perfectionist) คุณอาจชอบหม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิตอล เพราะว่าการออกแบบต่าง ๆ จะดูสะอาดสะอ้าน ดูหรูหรา และเป็นรุ่นใหม่กว่า
- หากคุณอยากรู้สถานะของอาหารภายในหม้อ หม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิตอลจะมีจอแสดงผลในตัว ซึ่งคุณสามารถดูสถานะปัจจุบันของความคืบหน้าในการทำอาหารของคุณได้
![]() หม้อทอดไร้น้ำมัน PHILIPS รุ่น HD9270/91 | ![]() หม้อทอดไร้น้ำมัน HAFELE รุ่น ดิจิตอล 5.7 ลิตร | ![]() หม้อทอดไร้น้ำมัน Gaabor รุ่น GA-E45A01 / E45A02 |
฿5590.00* | ฿2490.00* | ฿999.00* |
|
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
อย่าซื้อ
- ราคาสูง โดยปกติแล้วหม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิตอลจะมีราคาแพงกว่าแบบแอนะล็อกหลายร้อยหรืออาจเป็นหลักพัน
- ไม่เหมาะสำหรับผู้สุงอายุ เนื่องจากฟังก์ชันที่มากขึ้นทำให้หม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิตอลอาจสร้างความสับสนให้กับผู้สูงอายุได้
- ค่าซ่อมที่แพงกว่า ในกรณีของการซ่อม หม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิตอลจะมีราคาสูงกว่า
- ขนาดใหญ่และหนักมาก เนื่องจากหม้อทอดไร้น้ำมันแบบดิจิตอลมีส่วนประกอบพวกแผงวงจรต่าง ๆ มากกว่า จึงมักจะหนักและใหญ่กว่าหม้อทอดไร้น้ำมันแบบแมนนวล
วิธีดูแลรักษาและทำความสะอาดหม้อทอดไร้น้ำมัน
วิธีทำความสะอาดตัวหม้อ
- ถอดปลั๊กไฟของหม้อทอดไร้น้ำมันออกก่อนทุกครั้งก่อนทำความสะอาด ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเครื่องเย็นตัวแล้ว
- ดึงตะแกรงออก นำหม้อไปแช่น้ำที่ผสมเบคกิ้งโซดาในอัตราส่วน 1:1 จากนั้นทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง
- หากคุณไม่มีเวลามากพอขนาดนั้น อาจจะนำหม้อที่มีน้ำกับเบคกิ้งโซดาผสมอยู่ไปใส่ในเครื่อง 15 นาที ใช้ความร้อนที่ 200 องศา เมื่อเสร็จแล้วให้ถอดปลั๊กออก
- ใช้ฟองน้ำกับน้ำเปล่าขัดถูคราบสกปรก
- ขจัดคราบมันด้วยน้ำยาล้างจานกับฟองน้ำอีกรอบ และล้างน้ำให้ความสะอาดให้เรียบร้อย
- ใช้ผ้าเช็ดจานหรือกระดาษอเนกประสงค์เช็ดหม้อทั้งภายในและภายนอกให้แห้งสนิท จากนั้นวางผึ่งลมไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก


วิธีทำความสะอาดตัวหม้อทอดหม้อ และวิธีเช็ดคอยล์ทำความร้อนและพัดลมของหม้อทอดไร้น้ำมันยี่ห้อ Philips รุ่น HD9200/91
การทำความสะอาดภายในตัวเครื่อง
- ถอดปลั๊กไฟของหม้อทอดไร้น้ำมัน
- ใช้ผ้าชุบน้ำหรือฟองน้ำชุบน้ำ เช็ดทำความสะอาดภายในเครื่อง อาจจะใช้เป็นน้ำอุ่นเพื่อให้คราบสกปรกออกง่ายขึ้น
- กรณีที่มีเศษอาหารติดให้ใช้แปรงขนนุ่มหรือแปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้ว ขัดอย่างเบา ๆ
- หลังทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดใช้งานเครื่องโดยที่ไม่ต้องนำอาหารไปใส่ สัก 2-3 นาที เพื่อไล่สิ่งสกปรกที่ตกค้างออกมาอีกรอบ
กินอาหารทอดยังไงให้ไม่อ้วน
หม้อทอดไร้น้ำมันเป็นอีกหนึ่งไอเท็มเด็ดที่สายรักสุขภาพต้องมีติดบ้าน เพราะนอกจากทำอาหารให้กรอบโดยไม่ต้องใช้น้ำมันได้แล้วเจ้าหม้อทอดยังสามารถลดปริมาณไขมันที่อยู่ในอาหารให้น้อยลงได้อีกด้วย เมื่อไขมันน้อยลงอาหารก็จะดีต่อสุขภาพและสามารถรับประทานได้อย่างมั่นใจมากขึ้นนั่นเองค่ะ หากคุณสงสัยว่าระหว่างการทอดด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันและการทอดด้ววยน้ำมันท่วม ๆ วิธีไหนจะดีต่อสุขภาพมากกว่ากันก็สามารถไปหาคำตอบได้ที่บทความ หม้อทอดไร้น้ำมัน ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ?


เราได้ทดลองทำทาร์ตไข่ & หมูกรอบจากหม้อทอดไร้น้ำมัน
แน่นอนว่าเมื่อทราบถึงประโยชน์ของ “หม้อทอดไร้น้ำมัน” แล้ว ก็พูดได้เต็มปากว่ามันมีประโยชน์มากเลยทีเดียว เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณควรมีในยุคปัจจุบัน ด้วยความสะดวกและความคุ้มค่า มันจะทำให้อาหารมื้อพิเศษของคุณดูง่ายไปในพริบตา อีกทั้งมันจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย เพียงแค่คุณลดหรือหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำมันเท่ากับคุณได้ดูแลสุขภาพไปในตัว และด้วยความพิเศษของหม้อทอดไร้น้ำมันที่ออกแบบให้เป็นได้ทั้งหม้อ กระทะ เตาอบและไมโครเวฟ มันจะทำให้คุณรู้สึกสนุกกับการทำอาหารมากยิ่งขึ้น
หากคุณกำลังมองหาสูตรเมนูอาหารจากหม้อทอดไร้น้ำมันเราก็มีสูตรดี ๆ มาแนะนำเช่นเดียวกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เมนูขนมปังหน้าหมู, ชีสเค้กหน้าไหม้, แซนด์วิชชีสยืด, บราวนี่ หรือเมนูสุขภาพ สามารถเลือกเมนูได้ตามชอบเลยค่ะ สุดท้ายนี้เราขอแนะนำคือ เคล็ดลับการทอดอาหารจากหม้อทอดไร้น้ำมัน สำหรับใครที่ยังไม่มีประสบการณ์ มาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเจ้าทอดไร้น้ำมันตัวนี้ทำอะไรได้บ้าง ?