ลูกน้อยของเราต้องการดูแลอย่างพิถีพิถันค่ะ เพราะตอนที่พวกเขาเกิดมา พวกเขามีผิวบอบบางเป็นอย่างมาก ดังนั้นของทุกอย่างที่เราจะต้องใช้กับเด็กน้อยต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กเท่านั้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแชมพูสำหรับเด็ก สบู่เหลวอาบน้ำสำหรับเด็กรวมไปถึงโลชั่นสำหรับเด็ก แต่อีกหนึ่งอย่างที่เราขาดไม่ได้เลยก็คือการซื้อผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับเด็กค่ะ
เพราะเสื้อผ้าของลูกน้อยจะต้องสะอาดและปราศจากสิ่งสกปรกเสมอ แต่เราไม่สามารถใช้ผงซักฟอกทั่วไปกับเด็กได้เพราะผิวของเด็กมีความบอบบาง ฉะนั้นการใช้ผงซักฟอกทั่ว ๆ ไปอาจจะทำให้ผิวของเด็กได้รับการระคายเคืองและเกิดอาการคันได้ ดังนั้นน้ำยาซักผ้าสำหรับเด็กจึงเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
แต่ผู้ปกครองหลายคนต้องการให้เสื้อผ้าของลูกน้อยมีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้นและต้องการลดความยับของผ้าด้วยแต่ไม่แน่ใจว่าจะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มได้หรือไม่ ขอบอกเลยนะคะว่าผู้ปกครองไม่สามารถใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไปกับเด็ก ๆ ได้นะคะเพราะอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่าง หากต้องการจะใช้จริง ๆ ต้องซื้อ “น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก” เท่านั้น เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กผ่านการออกแบบมาอย่างดีและสามารถใช้กับเด็กได้โดยไม่เกิดผลข้างเคียง หากตอนนี้คุณพร้อมแล้วก็ไปเลือกซื้อสินค้ากันเลยค่ะ
น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี?
- น้ำยาปรับผ้านุ่มออร์แกนิก ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติปลอดภัยต่อผิว: Pipper Standard น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
- ใช้โปรตีนไหมทองคำ เหมาะสำหรับเสื้อผ้าเด็กอ่อน: Enfant Extra Care Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
- น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมยาวนาน 14 วัน ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่: Baby Mild Baby Fabric Softener Violet Blossom น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
- น้ำยาปรับผ้านุ่มลดกลิ่นอับ แบบรีฟิลใช้งานได้นาน: Kodomo Baby Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
- น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นฮิต มาในรูปแบบแกลอนใช้งานได้นาน: D-nee Night Wash น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
- น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมทนนาน เด็กใช้ได้ผู้ใหญ่ใช้ดี: Comfort Pure Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กคืออะไร ควรใช้หรือไม่ ?
น้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไปมักจะมีสารประกอบควอเทอร์นารีแอมโมเนียมซึ่งส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยให้เสื้อผ้าเรียบลื่นและนุ่มสบาย แต่ในบางครั้งน้ำยาปรับผ้านุ่มอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังได้และยังทำลายเสื้อผ้าของลูกน้อยได้อีกด้วย ปกติแล้วทารกแรกเกิดมีความเสี่ยงเป็นพิเศษต่อสารเคมี สีหรือกลิ่นอื่น ๆ
น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง แต่แม้ว่าจะเป็นสัญญาณเชิงบวกแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กปลอดภัยเสมอไป น้ำยาปรับผ้านุ่มหลายยี่ห้อมีสารเคมีที่ทำให้เกิดโรคหอบหืดได้ ดังนั้นควรอ่านฉลากให้ละเอียดก่อนซื้อเพื่อความปลอดภัย เราขอแนะนำให้ซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่มีป้ายออร์แกนิกหรือได้รับการทดสอบว่าปลอดภัยแล้วเท่านั้นค่ะ
Enfant Extra Care Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
ราคา 100 บาท*
Enfant Extra Care Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีสารลดแรงตึงผิวตามธรรมชาติที่ได้มาจากข้าวโพดตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับเสื้อผ้าทารกแรกเกิด นอกจากนี้ยังสารให้ความหอมทำให้เสื้อผ้าหอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางแบรนด์ใช้เทคโนโลยี Air Flow System ลดเหงื่อได้และยังมี Silky Touch Aroma ทำให้กลิ่นหอมติดผ้านานด้วยค่ะ
น้ำยาปรับผ้านุ่มประกอบด้วยสารสกัดจากเมล็ดฝ้ายและโปรตีนไหมทองส่งผลให้เสื้อผ้ามีความนุ่มน่าสัมผัส มาในภาชนะขนาด 1,000 มล. สามารถใช้งานได้นานมาก น้ำยาปรับผ้านุ่มปลอดภัยกับผิวกับเด็กมาก อ่อนโยนต่อผิวเด็กและผู้ใหญ่ ใครที่กำลังหาซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มอยู่แนะนำเลยค่ะ Enfant Extra Care Fabric Softener รับรองว่าจะไม่ผิดหวัง
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ช่วยให้ผ้านุ่ม รีดง่ายและลดไฟฟ้าสถิตได้เป็นอย่างดี
| รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุง |
|---|---|
| ปริมาณ | 1,000 มล |
| ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ✔ |
Absorba น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
ราคา 145 บาท*
Absorba น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่เหมาะกับเด็กแรกเกิดค่ะ เมื่อใช้แล้วน้ำยาปรับผ้านุ่มจะทำให้เสื้อผ้าของคุณนุ่มและลดการเกาะตัวของไฟฟ้าสถิตได้ดีมาก น้ำยาปรับผ้านุ่มสามารถละลายน้ำได้ดี ในการใช้งานคุณยังสามารถใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับเสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ได้เพราะปลอดภัยกับผ้าทุกชนิดเลยค่ะ น้ำยาปรับผ้านุ่มสามารถใช้งานได้กับผ้าส่วนใหญ่ รวมทั้งผ้าปูที่นอนหรือแม้แต่ผ้าเช็ดตัว
ส่วนผสมหลักของน้ำยาปรับผ้านุ่มคือดอกทานตะวันและน้ำมันมะพร้าวที่ช่วยสามารถปรับผ้าให้นุ่มขึ้นมากกว่าเดิม น้ำยาปรับผ้านุ่มผ่านการทดสอบมาอย่างดีทำให้ปลอดภัยกับทุกสภาพผิวและจะไม่ระคายเคืองกับผิวที่แพ้ง่ายค่ะ ผลิตภัณฑ์มาในรูปแบบแกลลอนสามารถใช้งานได้นานมากค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ปลอดภัยและไม่ระคายเคืองผิว
- สามารถใช้ได้กับเด็กแรกเกิดและทุกคนในครอบครัวเลย
- ใช้งานทั้งแบบซักมือและแบบซักด้วยเครื่องซักผ้า
| รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | แกลลอน |
|---|---|
| ปริมาณ | 1,000 มล |
| ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ✔ |
Baby Mild Baby Fabric Softener Violet Blossom น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
ราคา 162 บาท*
Baby Mild Baby Fabric Softener Violet Blossom น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่หลาย ๆ คนอาจจะต้องเคยใช้ค่ะเพราะมีหลายสูตรมาก แต่สูตรที่เราอยากแนะนำคือ Violet Blossom ที่จะให้กลิ่นหอมสดชื่นทั้งวัน สูตรของน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ผสมด้วยสารสกัดจากแมกโนเลียซึ่งเป็นเทคโนโลยีพิเศษที่สามารถขจัดกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผ้ามีกลิ่นหอมตลอดทั้งวัน
น้ำยาปรับผ้านุ่มมาในรูปแบบถุงจะทำให้เสื้อผ้าของคุณนุ่ม มีกลิ่นหอมและปลอดภัยอย่างแน่นอน ทางแบรนด์เคลมมาว่าการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มของทางแบรนด์จะทำให้เสื้อผ้ารีดง่ายและไม่มีไฟฟ้าสถิต อีกทั้งยังสามารถทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมยาวนานถึง 14 วันอีกด้วย สำหรับเรื่องของความปลอดภัยสูตรของน้ำยาปรับผ้านุ่มยังปราศจากสารอันตรายอย่างพาราเบนทำให้ไม่อันตรายต่อผิวค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- น้ำยาปรับผ้านุ่มมีกลิ่นหอมทำให้กลิ่นหอมติดทนนาน 14 วัน
- ช่วยลดกลิ่นอับบนเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
- ลดการระคายเคืองบนเสื้อผ้าได้ดีไม่ทำให้มีอาการคันเมื่อใช้งาน
| รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุง |
|---|---|
| ปริมาณ | 1,500 มล |
| ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ✔ |
D-nee Happy Baby น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
ราคา 175 บาท*
D-nee Happy Baby น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่เหมาะสำหรับทุกคนค่ะ เราได้แนะนำสูตร Night Wash ไปแล้วค่ะ รอบนี้ขอแนะนำกลิ่น Happy Baby กันบ้าง น้ำยาปรับผ้านุ่มมีกลิ่นหอมมากและติดผ้าได้อย่างยาวนาน สูตรของน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นสูตรออร์แกนิกสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังผ่านการทดสอบแล้วว่าปลอดภัยต่อผิวค่ะ
เมื่อใช้งานแล้วน้ำยาปรับผ้านุ่มจะทำให้ผ้านุ่มฟู รีดง่าย ไม่ยับและไม่มีไฟฟ้าสถิต รูปแบบของน้ำยาปรับผ้านุ่มมาในรูปแบบแกลลอนทำให้ใช้งานได้นานมากเพราะแกลลอนมีปริมาณถึง 2,800 มล. เลยทีเดียวค่ะ สำหรับช่วงวัยในการใช้งานน้ำยาปรับผ้านุ่ม D-nee Happy Baby สามารถใช้ได้กับเด็กแรกเกิดค่ะใครที่ไม่เคยลองใช้แนะนำเลยค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- สูตรน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นสูตรออร์แกนิกปลอดภัยกับเด็ก
- เมื่อใช้แล้วผ้าจะนุ่มฟู กลิ่นหอมยาวนานมากเป็นพิเศษ
- รูปแบบของน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นแกลลอนใช้งานได้นานและคุ้มค่ามาก
| รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | แกลลอน |
|---|---|
| ปริมาณ | 2,800 มล |
| ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ✔ |
D-nee Night Wash น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
ราคา 175 บาท*
D-nee Night Wash น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่ฮิตมาก ๆ ค่ะเพราะนอกจากเด็กจะใช้ได้แล้ว คนทั่วไปก็ยังสามารถใช้งานได้อีกด้วย สารปรับผ้านุ่มของทางแบรนด์มีความเข้มข้นมาก จึงสามารถทำให้ผ้านุ่มขึ้นได้แม้ว่าคุณจะใช้ในปริมาณเล็กน้อยก็ตาม กลิ่นที่เราอยากแนะนำให้ซื้อเลยก็คือกลิ่น Night Wash ค่ะ เป็นกลิ่นที่ไม่ฉุนมากเกินไปและติดทนบนผ้าได้นานค่ะ
ไฟฟ้าสถิตและริ้วรอยเป็นปัญหาของเนื้อผ้าที่คุณแม่หลายคนไม่ชอบเลย ซึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มสามารถลดรอยยับและไฟฟ้าสถิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้เสื้อผ้าอยู่ในสภาพดีเป็นเวลานาน น้ำยาปรับผ้านุ่มมีกลิ่นหอมที่น่าพึงพอใจสามารถใช้งานได้เป็นประจำ รูปแบบของน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นแบบแกลลอน 2,800 มล. ใช้งานได้นานมากและคุ้มค่ากับการลงทุนค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- สูตรน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นสูตรสำหรับกลางคืนและตากในร่มได้
- กลิ่นหอมสดชื่น ติดทนนานสามารถใช้ได้เป็นประจำ
- รูปแบบของน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นแกลลอนใช้งานได้นาน
| รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | แกลลอน |
|---|---|
| ปริมาณ | 2,800 มล |
| ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ✔ |
Comfort Pure Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
ราคา 509 บาท*
Comfort Pure Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มที่เหมาะสำหรับเด็กค่ะ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าคอมฟอร์ทได้ออกแบบน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้กับเด็กได้ด้วย ปกติแล้วผิวของทารกก็บอบบางกว่าผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังผลิตภัณฑ์ที่อาจสัมผัสกับผิวหนังของทารกแรกเกิด ซึ่งรวมถึงน้ำยาปรับผ้านุ่มด้วย เราเลยอยากขอเสนอผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก Comfort Pure Fabric Softener ที่คิดค้นขึ้นเป็นพิเศษสำหรับผิวบอบบางของทารก
ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติโดยไม่มีสารเคมีอันตราย เพื่อให้แน่ใจว่าผิวบอบบางของเด็กน้อยได้รับการปกป้องอย่างดี น้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นสูตรที่ปลอดภัย อ่อนโยนและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ น้ำยาปรับผ้านุ่มไม่เพียงแต่เป็นมิตรกับผิวแต่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ใช้สารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมดไร้สารเคมีและปลอดภัยต่อผิว
- ผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวมาก
- น้ำยาปรับผ้านุ่มมีกลิ่นหอมละมุนและติดผ้านานอย่างแน่นอน
| รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุง |
|---|---|
| ปริมาณ | 1,300 มล |
| ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ✔ |
Pipper Standard น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
ราคา 520 บาท*
Pipper Standard น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่อ่อนโยน ทำให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและทำให้เสื้อผ้าของเด็ดมีกลิ่นหอมสดชื่น น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรจากพืชที่ออกแบบมาสำหรับทารกทำให้ได้ผ้าที่นุ่มและมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ น้ำยาปรับผ้านุ่มไม่มีส่วนผสมของสารกันบูดจึงปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้นยังปราศจากซิลิโคน สีย้อมและสารแต่งสี อีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดคราบบนเสื้อผ้าสีขาวเพื่อทำให้ผ้าใหม่เอี่ยมอยู่เสมอ
น้ำยาปรับผ้านุ่มมีขนาดแกลลอนขนาดใหญ่และกลิ่นหอมอ่อน ๆ คุณจึงไม่ต้องกังวลกับการซื้อหลายครั้ง เมื่อใช้แล้วจะช่วยให้เสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นหอม ในการซื้อเราอยากแนะนำให้ใช้ Pipper Standard เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มย่อยสลายได้ทางชีวภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ ใครที่อยากซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มออร์แกนิกแนะนำเลยค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- สูตรน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นสูตรออร์แกนิกสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- กลิ่นหอมสดชื่นจากธรรมชาติ ช่วยให้ผ้ารีดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- ใช้ปริมาณที่น้อยแต่ให้ความหอมและให้ความสดชื่นได้ยาวนาน
| รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | แกลลอน |
|---|---|
| ปริมาณ | 900 มล |
| ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ✔ |
Kodomo Baby Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
ราคา 600 บาท*
Kodomo Baby Fabric Softener น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก 3 ขวบขึ้นไป น้ำยาปรับป้านุ่มมีความเข้มข้น จึงทำให้เนื้อผ้านุ่มกว่าและมีกลิ่นหอมค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอนและผ้าเนื้อ ๆ ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก นอกเหนือจากความนุ่มนวลแล้วน้ำยาปรับผ้ายังมีประสิทธิภาพในการลดความยับและลดการเกิดไฟฟ้าสถิตได้ดี เสื้อผ้าของลูกน้อยจึงนุ่มและน่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก
เมื่อเทียบกับน้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไป Kodomo Baby Fabric Softener เป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มจะเพิ่มความสดให้กับเสื้อผ้าของคุณมากขึ้น ซึ่งความสดใสจะคงอยู่ได้ยาวนานกว่า ในการใช้งานเราไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในปริมาณมากเกินไปเพราะกลิ่นหอมมาก รูปแบบของน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นถุงรีฟิลค่ะประหยัดและคุ้มค่ามาก ๆ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- น้ำยาปรับผ้านุ่มเหมาะสำหรับเด็กที่อายุ 3 ขึ้นไปและใช้งานได้นานมาก
- ใช้สารสกัดจากธรรมชาติเพื่อลดแบคทีเรียและกลิ่นอับบนเสื้อผ้า
- ลดไฟฟ้าสถิต รอยยับและปรับให้ผ้านุ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
| รูปแบบของบรรจุภัณฑ์ | ถุง |
|---|---|
| ปริมาณ | 600 มล |
| ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
1. เลือกสูตรที่ปราศจากน้ำหอม
นอกจากจะทำให้เสื้อผ้านุ่มแล้วน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมยังช่วยกลบกลิ่นที่เกิดจากการรวมตัวกันของควัน เหงื่อและน้ำมันที่สะสมจากมลภาวะได้ แต่เด็ก ๆ ไม่ได้เผชิญกับสภาวะมากนักดังนั้นการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่มีน้ำหอมจึงอาจไม่จำเป็น เพราะสารประกอบน้ำหอมเป็นเคมีค่ะซึ่งอาจระคายเคืองผิวได้ ทางเลือกที่ดีคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมจากส่วนผสมจากธรรมชาติค่ะ แต่แน่นอนว่าเราสามารถสัมผัสได้ถึงความนุ่มของเสื้อผ้าโดยไม่ต้องเติมน้ำหอม อีกทั้งยังมีน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กอีกหลายแบรนด์ที่ไม่มีน้ำหอมให้เราเลือกซื้อ แต่ราคาอาจจะสูงกว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กแบบมีกลิ่นหอมค่ะ
2. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบทางผิวหนังเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง
แม้ว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มส่วนใหญ่จะมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ผ้านุ่ม แต่ในการเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กจะต้องเลือกแบรนด์ที่ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญค่ะ หลายคนถามว่ามันจำเป็นจริงเหรอขอบอกว่าจำเป็นมากค่ะแตกต่างจากน้ำยาซักผ้าอย่างสิ้นเชิง เพราะเราต้องล้างน้ำยาซักผ้าออกหลังจากรอบการซัก แต่น้ำยาปรับผ้านุ่มจะเกาะอยู่บนเส้นใยผ้าเพื่อตลอดเวลาค่ะ น้ำยาปรับผ้านุ่มจะประกอบด้วยสารปรับสภาพ อิมัลซิไฟเออร์และน้ำหอมที่อาจระคายเคืองผิวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่เราซื้อจะต้องได้รับอนุมัติจากแพทย์ผิวหนัง น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่ผ่านการทดสอบทางผิวหนังจะระบุได้ว่าลูกน้อยจะสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยค่ะ
3. กลิ่นและประสิทธิภาพ
น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กทั้งหมดที่คุณจะพบในท้องตลาดนั้นสามารถทำให้ผ้านุ่มได้ แต่อย่างไรก็ตามมีน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กสูตรเข้มข้นกว่าบางสูตรที่มีคุณสมบัติพิเศษในการทำให้ผ้านุ่มและคุณจะต้องใช้ในปริมาณน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรทั่วไป ส่วนในเรื่องของกลิ่นไม่ว่าจะเป็นผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ทั้งหมดจะให้กลิ่นหอมแก่เนื้อผ้าอยู่แล้วค่ะ ซึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ดีจะให้ความสดชื่นและกลิ่นหอมยาวนาน นอกจากนี้เราอยากแนะนำให้เลือก น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กที่ลดไฟฟ้าสถิตและลดความยับของเสื้อผ้าได้เพื่อให้เราได้รับประโยชน์เต็มที่จากน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็กค่ะ
4. แนะนำให้ซื้อภาชนะพลาสติกที่ใช้ถุงเติมรีฟิลเพื่อลดขยะพลาสติก
ภาชนะบรรจุแบบเติมจะมีประโยชน์มาก ๆ กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่มเพราะเราสามารถเติมลงในขวดได้เรื่อย ๆ เมื่อมองแวบแรกน้ำยาปรับผ้านุ่มในขวดพลาสติกอาจจะดูแพงและไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่จริง ๆ แล้วภาชนะแบบขวดนั้นถูกหลักสรีรศาสตร์มากกว่า ทนทาน ง่ายต่อการจัดเก็บและประหยัดในระยะยาว นอกจากนี้ยังสามารถเติมรีฟิลได้ซึ่งช่วยลดขยะพลาสติก ประโยชน์ที่สำคัญอีกประการของบรรจุภัณฑ์เหล่านี้คือมีฝาปิดขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือวัดปริมาตรของน้ำยาปรับผ้านุ่มที่จะใช้ แน่นอนว่าวัสดุที่เป็นพลาสติกแข็งทำให้เราสามารถรีไซเคิลขวดน้ำยาปรับผ้านุ่มเหล่านี้เป็นกระติกน้ำ กระปุกออมสิน และอื่น ๆ ได้
วิธีการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก
กลิ่นหอมเย้ายวนของน้ำยาปรับผ้านุ่มทำให้คุณแม่ส่วนใหญ่เติมน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มากเกินไปกับเสื้อผ้าของลูกน้อง แน่นอนว่าการทำเช่นนี้อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี เช่น อาจจะทำให้สีผ้าเปลี่ยนและเกิดการอุดตันของเครื่องซักผ้าได้ ปกติแล้วปริมาณของการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มไม่ได้มีการวัดที่แน่นอนในการใช้งาน เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มมีความแตกต่างกันไปตามยี่ห้อส่งผลให้มีความเข้มข้นต่างกันด้วย โชคดีที่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มาพร้อมกับวิธีการใช้งานซึ่งรวมถึงปริมาณในการใช้งานซึ่งมักจะเขียนไว้บนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ การมีป้ายกำกับจะช่วยให้คุณทราบว่าต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเท่าไหร่ในการซักผ้าแต่ละครั้ง
สำหรับการแช่เสื้อผ้าในน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ต้องอ่านตามฉลากเหมือนกันค่ะ เพราะการแช่ผ้าในเวลาที่นานเกินอาจทำให้เส้นใยเสื้อผ้าเสียหายได้ ตามหลักการแล้วแช่ผ้าสัก 2 ถึง 3 นาทีก็เพียงพอที่จะทำให้ผ้านุ่มและมีกลิ่นหอมสดชื่นแล้วค่ะ ก่อนจากกันต้องจำไว้นะคะว่าแม้น้ำยาปรับผ้านุ่มบางสูตรจะมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรียที่ช่วยกำจัดแบคทีเรีย แต่ก็ไม่สามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ หากต้องการทำความสะอาดผ้าให้ใช้น้ำยาซักผ้าเท่านั้นค่ะ
