คำพูดที่ว่าลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่นั้นคือความจริงที่ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบหรือหาหลักฐานใด ๆ เพื่อมาพิสูจน์เลยค่ะ เพราะตั้งแต่วันแรกที่เจ้าหนูน้อยลืมตาดูโลกคุณพ่อคุณแม่ก็คอยดูแลและคอยประคบประหงมเลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอยจนเจ้าหนูค่อย ๆ เติบโตขึ้น ซึ่งในแต่ละช่วงอายุคุณพ่อและคุณแม่ก็จำเป็นที่จะต้องคอยดูแลและให้การส่งเสริมสิ่งต่าง ๆ รอบด้าน อย่างในเรื่องของการนอนหลับเองก็เช่นเดียวกัน
การนอนหลับถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเด็ก เนื่องจากมันจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจโดยตรง ซึ่งจากผลการศึกษาก็พบอีกค่ะว่าเด็ก ๆ ที่นอนหลับพักผ่อนเพียงพอเป็นประจำจะมีสมาธิ, พฤติกรรม, การเรียนรู้, ความจำ, สุขภาพจิตและร่างกายโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (1-3) แต่ก็ต้องย้อนกลับไปที่การจะให้เด็ก ๆ นอนหลับหลับได้เต็มอิ่มนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องเกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่นำมาประกอบกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อมภายในห้องนอน, เวลาเข้านอน, กิจกรรมที่เด็ก ๆ ทำในแต่ละวัน, การดูแลเอาใจใส่ของผู้ปกครอง รวมถึงความสบายในการนอนก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน
สำหรับเรื่องของความสบายตัวนั้นแน่นอนค่ะว่าหมอนเองก็ถือว่ามีความสำคัญมาก ๆ เช่นกันค่ะ แต่ในบางครั้งด้วยความรักและความหวังดี คุณพ่อคุณแม่เลยเลือกหมอนราคาแพงที่นุ่มสบายสำหรับผู้ใหญ่มาใช้งานกับเด็ก ๆ โดยหวังจะให้เด็ก ๆ ได้นอนหลับฝันดีเช่นเดียวกันกับที่ผู้ปกครองรู้สึก แต่ผลลัพธ์ที่ได้มากลับออกมาตรงกันข้าม เพราะหมอนของผู้ใหญ่นั้นไม่เหมาะกับการใช้งานของเด็ก อาจเนื่องมาจากขนาดที่ใหญ่เกินไป หมอนอาจจะแข็งหรือนิ่มไปก็เป็นได้
ดังนั้นแล้วการเลือกหมอนให้เจ้าหนูของคุณนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกหมอนที่ออกแบบมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ ซึ่งในวันนี้เราเลยอยากจะชวนคุณพ่อคุณแม่ทุก ๆ คนมาเลือกซื้อหมอนให้เด็ก ๆ ในบ้านกันค่ะ โดยหมอนเด็กที่เราเลือกมาในวันนี้ก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 10 ยี่ห้อที่คัดเอาแต่ยี่ห้อที่ดีที่สุดมาฝากกันค่ะ ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่พร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยดีกว่านะคะ ไปค่ะ!
หมอนนอนสำหรับเด็ก แบบไหนดีที่สุด
- หมอนนอน ให้การซัพพอร์ตสรีระได้อย่างดีเยี่ยม: Clevamama ClevaFoam หมอนเด็กโต
- หมอนนอน ผลิตจากวัสดุออร์แกนิค 100%: JOHN N TREE Organic หมอนสำหรับเด็กวัยหัดเดิน
- หมอนนอนยางพารา อายุใช้งานยาวนานที่สุด: SiamLatex หมอนยางพาราเด็กเพื่อสุขภาพ
- หมอนนอน สีสันสดใส ใช้สีที่ปลอดภัยที่สุด: GraceKids X Disney หมอนหนุนเด็ก Size M
- หมอนนอนเมมโมรี่โฟม ราคาถูกที่สุด: Baby-boo หมอนเมมโมรี่โฟมสำหรับเด็ก
ทำไมถึงควรหลีกเลี่ยงการใช้หมอนผู้ใหญ่กับเด็ก ?
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นค่ะว่าบางครั้งผู้ใหญ่แบบเราอาจจะเผลอหยิบหมอนที่นอนหลับสบายสำหรับเรานั้นไปให้เด็ก ๆ ได้ เพียงเพราะอยากให้ลูกได้รู้สึกสบายตัวเหมือนกัน แต่ในความจริงแล้วนั้นการกระทำเช่นนี้อาจเป็นอันตรายมากกว่าผลดีเสียอีก เหตุผลหลักเลยก็คือ หมอนผู้ใหญ่ออกแบบมาเพื่อรองรับศีรษะและคอของผู้ใหญ่จึงมีขนาดที่ใหญ่และหนากว่าหมอนเด็ก ซึ่งการนำมาใช้งานกับเด็กที่มีสัดส่วนที่เล็กกว่านี่เองก็อาจทำให้ท่านอนของเด็กผิดปกติได้ โดยอาจจะทำให้คอเอียงทำมุมผิดธรรมชาติ จึงมีความเสี่ยงที่จะทำให้เด็กหายใจไม่ออกได้เลยทีเดียว
ตามหลักแล้วหมอนสำหรับผู้ใหญ่ไม่ควรนำมาใช้กับเด็กที่มีอายุ 10 ขวบหรือเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 10 ขวบค่ะ และขอย้ำอีกครั้งว่าหากจะนำมาใช้งานก็จะต้องใช้กับเด็กที่โตแล้วเท่านั้นนะคะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ผู้ปกครองต้องพึ่งระลึกไว้เสมอว่าหมอนผู้ใหญ่นั้นทำมาเพื่อใช้งานกับผู้ใหญ่อย่างเรา หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการที่จะช่วยให้ลูกน้อยของคุณนอนหลับสบายตลอดคืน แนะนำว่าควรเลือกหมอนขนาดเล็กที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะก็จะเหมาะกว่านะคะ
วิธีการเลือกซื้อหมอนสำหรับเด็กที่ดีที่สุด
ก่อนที่จะไปดูกันว่ามีหมอนเด็กยี่ห้อไหนบ้างที่น่าสนใจนั้น คุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องทราบวิธีการเลือกซื้อหมอนสำหรับเด็กกันก่อนนะคะ เนื่องจากการเลือกซื้อหมอนให้กับเจ้าตัวเล็กนั้นต่างการเลือกซื้อหมอนสำหรับผู้ใหญ่อยู่จุดเลยค่ะ อย่างน้อย ๆ เราสามารถที่จะรับรู้ได้ค่ะว่าต้องการหมอนแบบไหนกันแน่ที่ตอบโจทย์สไตล์การนอนของเราได้ ทั้ง หมอนสูง หมอนต่ำ จะนิ่มหรือแข็ง แต่สำหรับเด็ก ๆ แล้วพวกเขาอาจจะยังไม่สามารถที่จะอธิบายได้ค่ะว่าแบบไหนที่ใช่ที่สุด หมอนแบบไหนนอนสบายที่สุด ดังนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่คือคนที่จะต้องเลือกให้กับเค้านะคะ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าการเลือกซื้อนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้ปกครองจะต้องนำมาพิจารณาก็ได้แก่
1. ขนาดของหมอนเด็ก
ขนาดของหมอนถือว่าสำคัญมาก ๆ อย่างแรกเลยคือหมอนสำหรับเด็กจะต้องไม่มีขนาดที่ใหญ่เกินไป ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ใช่หมอนขนาดมาตรฐาน (สำหรับผู้ใหญ่) เราขอแนะนำให้คุณพยายามเลือกหมอนขนาดเล็กที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งขนาดที่แต่ละร้านได้ผลิตออกมาก็จะต่างกันไป เนื่องจากการใช้งานกับเด็กในช่วงวัยที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนของขนาดเราก็ได้มีการสรุปไว้ในตารางสเปคสินค้าให้คุณแล้วซึ่งก็จะช่วยให้การเลือกขนาดหมอนเป็นไปได้ง่ายขึ้นค่ะ
- หมอนขนาด 13 x 18 นิ้ว เป็นขนาดที่แนะนำสำหรับเด็กวัยหัดเดินในช่วงอายุ 2 – 3 ขวบ
- หมอนขนาด 16 x 22 นิ้ว ก็จะเหมาะสำหรับเด็กในวัย 4 – 5 ขวบ
- หมอนขนาด 18 x 24 นิ้ว ก็จะเหมาะสำหรับการใช้งานกับเด็กที่มีอายุ 6 – 12 ปี
- หมอนขนาด 20 x 26 นิ้ว หรือหมอนขนาดมาตรฐาน จะเหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่มีอายุ 13 ปีหรือมากกว่านั้น
- สำหรับในวัยแรกถึง 12 เดือน แนะนำให้เลือกหมอนป้องกันหัวแบนสำหรับเด็ก (หัวทุย)
2. ไส้หมอนสำหรับเด็ก
เพื่อให้แน่ใจค่ะว่าคอและศีรษะของลูกได้นอนในระดับองศาที่ถูกต้องเหมาะสม โดยที่นอนหลับสบายไม่เมื่อยคอ คุณจำเป็นต้องพิจารณาจากไส้หมอนด้วยเช่นกันค่ะ โดยไส้หมอนจะต้องไม่แข็งและไม่นิ่มจนไป เนื่องจากหมอนที่นิ่มจะไม่ให้การซัพพอร์ตส่วนใดส่วนหนึ่งเลย แถมยังมีแนวโน้มที่จะเข้าไปปิดจมูกและปากของเด็กขณะนอนหลับด้วยได้
ดังนั้นไส้หมอนที่ดีจะต้องอยู่กึ่งกลางระหว่างความแข็งและนิ่ม และจะต้องคงรูปได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือไม่ยุบตัวหลังจากที่มีการใช้งานด้วยค่ะ ซึ่งปัจจุบันก็มีวัสดุที่หลากหลายในการนำมาทำไส้หมอน ไม่ว่าจะเป็น หมอนเมมโมรี่โฟม, หมอนใยสังเคราะห์, หมอนจากยางพารา และอื่น ๆ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเลือกหมอนที่มีคุณสมบัติที่กล่าวไว้ข้างต้น และต้องอย่าลืมดูด้วยค่ะว่าเจ้าตัวน้อยของคุณนั้นมีอาการแพ้พวกวัสดุเหล่านี้หรือไม่
3. หมอนปลอดสารก่อภูมิแพ้และไรฝุ่น
สืบเนื่องมาจากข้อก่อนหน้านี้ที่เราได้มีการกล่าวถึงอาการแพ้ต่าง ๆ ไม่ว่าเป็นอาการคัน ปัญหาที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และอาการแพ้อื่น ๆ ที่อาจทำให้ลูกของคุณนอนไม่หลับในตอนกลางคืนก็เป็นได้ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยที่ผู้ปกครองจะต้องเลือกซื้อหมอนที่มีการระบุว่าปราศจากสารก่อภูมิแพ้และไรฝุ่น
ในความจริงแล้วหมอนประเภทนี้ไม่ใช่แค่จะเหมาะกับเด็ก ๆ ที่เกิดอาการแพ้ง่ายอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังเหมาะกับเด็ก ๆ ทุก ๆ คนเลยนะคะ เนื่องจากเด็ก ๆ มีโอกาสได้รับสารก่อภูมิแพ้หลายชนิดในบ้านได้ง่าย ตั้งแต่ไรฝุ่น, จุลินทรีย์, เชื้อรา ไปจนถึงแบคทีเรียก็สามารถมีส่วนเข้าไปทำลายสุขภาพของเจ้าตัวน้อยได้เช่นกัน หมอนประเภทนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อลดหรือยับยั้งแบคทีเรียและเชื้อรา ฉะนั้นแล้วการเลือกซื้อหมอนที่ปราศจากสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ใด ๆ ก็ตามถือเป็นการป้องกันที่ดีเยี่ยมค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาใช้เครื่องดูดไรฝุ่นให้มาทำความสะอาดหมอนทุก ๆ สัปดาห์
4. ปลอกหมอนสำหรับเด็ก
นอกจากไส้หมอนด้านในแล้ว ปลอกหมอนก็มีความสำคัญไม่เป็นสองรองใครเลยค่ะเพราะปลอกหมอนนั้นจะสัมผัสกับผิว ใบหน้า และส่วนต่าง ๆ ของเด็กโดยตรง ดังนั้นจะต้องเลือกวัสดุที่ดีที่สุด ซึ่งปลอกหมอนที่เราอยากจะแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เรียกนั่นก็คือผ้าฝ้ายค่ะ ฝ้ายหรือคอตตอนนั้นเป็นเส้นใยที่มาจากธรรมชาติ ปราศจากวัสดุสังเคราะห์จึงค่อนข้างที่จะเป็นมิตรกับผิวโดยเฉพาะผิวที่บอบบางแพ้ง่ายอย่างผิวเด็ก อีกทั้งคอตตอนยังสามารถระบายอากาศได้ดีกว่าผ้าใยสังเคราะห์ทั่ว ๆ ไป ทำให้มันจึงคงความเย็นสบายกับผิวหนังได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
5. การดูแลรักษา
ไหนจะเรื่องงานบ้าน เตรียมทำกับข้าว แล้วก็ยังต้องทำงานของตัวเองอีก คุณพ่อคุณแม่อาจจะไม่ได้มีเวลาว่างมากใช่ไหมล่ะค่ะ ดังนั้นแล้วเราขอแนะนำให้มองหาหมอนสำหรับเด็กที่ซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ และไม่ต้องการดูแลที่เป็นพิเศษอะไรมากก็จะช่วยให้ผู้ปกครองสะดวกในการใช้งานมากขึ้นค่ะ และถ้าหากเป็นในกรณีของหมอนเมมโมรี่โฟมหรือหมอนยางพาราก็ให้มองหาซองซิปที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายก็ดีมาก เพราะการเลือกทำความสะอาดปลอกหมอนนั้นทำได้ง่ายกว่าการซักหมอนทั้งใบอีกนะคะ
PAPA BABY หมอนหนุนใยสังเคราะห์ ลายหมี
ราคา 125 บาท*
PAPA BABY หมอนหนุนสำหรับเด็กราคาประหยัดเหมาะสำหรับผู้ปกครองที่กำลังมองหาหมอนหนุนราคาไม่แพงมาก ผลิตจากใยสังเคราะห์ที่มีความเบาสบาย คืนตัวได้ดี และดูแลรักษาง่าย หุ้มด้วยปลอกหมอนคอตตอนชั้นนอก ซึ่งก็จะค่อนข้างที่จะระบายอากาศได้ดี แถมยังแห้งไว ไม่ก่อให้เกิดการอับชื้นจึงสามารถสัมผัสกับผิวของเจ้าหนูโดยตรงได้ โดยปราศจากอาการแพ้ คัน หรือระคายเคืองผิว ขนาดของหมอนรุ่นนี้ถือว่าเหมาะสำหรับเด็ก ๆ มาก ๆ ทั้งความกว้าง ความยาว รวมถึงความสูงก็มาในขนาดที่พอเหมาะ ให้การซัพพอร์ตที่ดีเยี่ยม สีสันและลวดลายค่อนข้างที่จะเรียบ ดูไม่มากไป โดยรุ่นนี้ก็จะมีทั้งหมด 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีฟ้า, สีชมพู และสีเทาค่ะ
จุดเด่น
- ราคาถูก
- หมอนมีขนาดกว้างยาวรวมถึงระดับสูงต่ำที่กำลังดี
- ดูแลรักษาง่าย
| ขนาด | 43 x 24 ซม. |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✔ |
| วัสดุ (ปลอก) | ผ้าคอตตอน |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | ใยสังเคราะห์ |
| เหมาะสำหรับ | เด็ก 1 ขวบขึ้นไป |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ไม่ระบุ |
Baby-boo หมอนเมมโมรี่โฟมสำหรับเด็ก
ราคา 149 บาท*
เริ่มต้นกันด้วยหมอนเมมโมรี่โฟมจาก Baby-boo กันเลยแล้วกันนะคะ โดยหมอนใบนี้มีขนาดกับความหนาที่กำลังดีด้วยขนาด เหมาะสำหรับเด็กอายุ 2 - 10 ปี หมอนเมมโมรีโฟมจะช่วยโอบรับในส่วนของศีรษะ คอ และรองรับส่วนโค้งของกระดูกสันหลังของเด็กให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและเป็นไปตามกลไกของธรรมชาติในทุก ๆ ท่วงท่าของการเคลื่อนไหว การซัพพอร์ตและกระจายน้ำหนักได้ยอดเยี่ยมสำหรับหมอนประเภทนี้ค่ะ อีกทั้งยังช่วยระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้รู้สึกร้อนขณะเจ้าหนูนอนหลับอีกด้วย ในส่วนของปลอกหมอนชั้นนอกสุดก็ทำมาจากผ้าฝ้ายคุณภาพดีที่ง่ายต่อการดูแลรักษา สกรีนลวดลายสวยงามทันสมัย เนื้อผ้าจะคล้าย ๆ กับผ้ายืดเลยค่ะ เนื้อนิ่มเนียนละเอียดและตัดเย็บเก็บรายละเอียดดีเลยค่ะ ตัวปลอกหมอนเป็นซิปที่เปิดปิดถอดออกง่าย
จุดเด่น
- มีราคาถูก
- ตัวหมอนนิ่มมาก ซึ่งพิสูจน์แล้วโดยคุณแม่หลาย ๆ ท่าน
- น้ำหนักเบาพกพาไปไหนมาไหนสะดวก
| ขนาด | 45 x 25 x 6 ซม. และหนา 4 ซม. |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✔ |
| วัสดุ (ปลอก) | ผ้าฝ้าย |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | โพลีเอสเตอร์ เมมโมรี่โฟม |
| เหมาะสำหรับ | เด็ก 2 - 10 ปี |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ไม่ระบุ |
GraceKids X Disney หมอนหนุนเด็ก Size M
ราคา 176 บาท*
สำหรับหมอนเด็กจาก GraceKids รุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นคอลเลกชันพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจคุณหนู ๆ โดยเฉพาะ โดยจะหยิบเอาตัวละครดังจากทางฝั่งของดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็นหมีพูร์ มินนี่ มิกกี้เมาส์ และเหล่าฝองเพื่อนอีกมากมายจะถูกนำมาพิมลงบนหมอนด้วยลวดลายและสีสันที่สดใสสวยงาม แต่เป็นสีที่ปลอดภัย ไร้สารตกค้างและใช้สำหรับการออกแบบสินค้าสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ปลอกหมอนด้านนนอกสุดผลิตมาจากผ้าฝ้ายที่ขึ้นชื่อเรื่องในเรื่องของความนุ่ม การระบายอากาศได้ และเป็นมิตรกับผิวเด็กโดยที่ไม่ก่อให้เกิดอาการคันหรือระคายเคือง ไส้หมอนจะเป็นใยสังเคราะห์คุณภาพดีมีความฟูและมีน้ำหนักเบา ซึ่งในส่วนนี้ผู้ปกครองหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันค่ะว่านิ่มสบายมาก ๆ และที่สำคัญอีกอย่างคือหมอนไส้ใยสังเคราะห์นั้นมีราคาถูกและยังง่ายต่อการทำความสะอาดอีกด้วย
จุดเด่น
- ลวดลายลิขสิทธิ์แท้ สวยงามและมีหลากหลายเหมาะสำหรับเด็กที่สุด
- หมอนนิ่ม ให้สัมผัสที่สบาย
- ไส้นวมฟูนุ่ม ยุบได้ยาก
- ปลอกคอตตอนเป็นมิตรแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย
| ขนาด | 12 x 18 นิ้ว |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✔ |
| วัสดุ (ปลอก) | ผ้าฝ้าย |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | ใยสังเคราะห์ |
| เหมาะสำหรับ | 1 ขวบขึ้นไป |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ไม่ระบุ |
Phurinn หมอนไมโครเจลสำหรับเด็กโต
ราคา 199 บาท*
สำหรับหมอนใบต่อมาก็จะมาจากแบรนด์ไทยและมีแหล่งผลิตในไทยนะคะ โดยแบรนด์นี้จะมีชื่อว่า Phurinn เป็นหมอนไมโครเจลสำหรับเด็กหรือหมอนขนห่านเทียมที่อัดแน่นไปด้วยเส้นใยไมโครเจลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือจะนิ่ม ฟู หนานุ่ม ไม่มีกลิ่น แถมยังปลอดภัยไร้สารก่อภูมิแพ้และไรฝุ่น เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นขนห่านเทียมแต่ก็มีคุณสมบัติและสัมผัสที่ไม่ต่างจากของจริงเลยสักนิด ไส้หมอนเมื่อถูกบรรจุเข้าไปด้านในแล้วจะให้สัมผัสที่นุ่มราวกับเจ้าหนูนอนอยู่บนปุยเมฆเลยทีเดียว แถมยังคืนตัวได้ดี หุ้มด้วยผ้าคอตตอนแท้ เนื้อผ้าเนียนละเอียด กันน้ำ และระบายอากาศได้ดีมาก ๆ เลยด้วยค่ะ
นอกจากหมอนแล้วก็จะมีปลอกหมอนด้วยเช่นกัน โดยปลอกหมอนนี้ก็มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายลายและหลากสี ซึ่งแต่ละลายก็ออกแบบมาให้ดูน่ารักสมวัย การตัดเย็บละเอียด แรก ๆ อาจจะมีแข็ง ๆ บ้างแต่ซักไปเรื่อย ๆ ก็จะค่อย ๆ นิ่มขึ้นและให้สัมผัสที่ละมุนมากขึ้นค่ะ
จุดเด่น
- หมอนเนื้อนุ่มละมุนแตกต่างจากแบบทั่ว ๆ ไป
- ผ้าหุ้มไส้หมอนสามารถกันน้ำ อย่างเช่น น้ำลายตอนนอนหลับได้
- ขนาดค่อนข้างใหญ่เหมาะสำหรับสรีระของเด็กโต
- ลวดลายสวยงาม ตรงปก
| ขนาด | 30 x 50 ซม. และสูง 12 ซม. |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✔ |
| วัสดุ (ปลอก) | คอตตอน |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | ขนห่านเทียม |
| เหมาะสำหรับ | เด็ก 4 - 10 ปี |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ✔ |
Phurinn หมอนยางพาราสำหรับเด็ก
ราคา 299 บาท*
Phurinn หมอนยางพาราสำหรับเด็กวัย 1 - 3 ขวบ ที่ช่วยให้การซัพพอร์ตที่เหมาะสมนั่นคือตัวหมอนจะไม่แข็งและไม่นิ่มเกินไป ซึ่งการซัพพอร์ตจะไม่ใช่แค่ในส่วนของศีรษะอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในส่วนของบ่า และต้นคอด้วยเช่นกัน คุณสมบัติด้านอื่น ๆ ของหมอนใบนี้คือสามารถระบายอากาศได้ ไม่อับชื้นและไม่ร้อนต้นคอ หมอนคืนตัวได้เร็วมาก ๆ หมอนเด้งนุ่ม ไม่ยุบง่าย โดยทางแบรนด์ได้เคลมไว้ว่าสามารถใช้งานได้นานถึง 5 ปีเลยทีเดียว
หมอนยางพารา Phurinn ผลิตจากยางพาราแท้ ซึ่งจะคัดเอาแต่ยางพาราเกรดคุณภาพ ไม่มีสารฟอร์มาลีนหรือสารอันตรายอื่น ๆ ผสม ดังนั้นจึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ และสำหรับเด็ก ๆ แล้วทางแบรนด์ก็ได้ผลิตลวดลายออกมาหลากหลาย ซึ่งเป็นลายที่น่ารักและดูมินิมอลคิคุมาก ๆ แล้วก็ยังทำมาจากคอตตอนที่เป็นมิตรต่อผิวเด็กที่สุดค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากยางพาราแท้ ให้สัมผัสที่นิ่มสบาย
- หมอนไม่สูงหรือต่ำและกว้างกำลังดี รองรับขนาดตัวเด็กได้พอดี
- กลิ่นยางไม่แรงมาก
- มีลวดลายที่หลากหลายให้เลือก
- ราคาสมเหตุสมผล
- ใช้งานได้นาน
| ขนาด | 50 x 29 x 5/7 ซม. |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✔ |
| วัสดุ (ปลอก) | คอตตอน |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | ยางพารา |
| เหมาะสำหรับ | เด็ก 1 - 3 ขวบ |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ✔ |
SANTAS หมอนหนุนเด็ก รุ่น DACRON HOLLOFIL
ราคา 316 บาท*
หมอนหนุนสำหรับเด็กจากยี่ห้อ SANTAS รุ่นนี้จะเป็นรุ่น Dacron Hollofil ที่ออกแบบให้มีขนาดและความสูงที่พอเหมาะสำหรับเด็กในวัย 2 - 5 ขวบ หมอนจะช่วยประคับประคองให้ศีรษะและต้นคออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพของการนอน โดยที่จะช่วยให้เด็ก ๆ หลับได้เต็มตื่นมากขึ้น ความพิเศษของหมอนจาก SANTAS คือวัสดุที่ใช้ในการผลิตจะถูกออกแบบมาค่อนข้างที่จะจำเพาะ
ไส้หมอนจะถูกบรรจุด้วยเส้นใย Dacron Hollofil ที่มาพร้อมกับรูระบายอากาศ ทำให้ไม่ร้อนเลยค่ะ เส้นใยค่อนข้างที่จะแน่นและฟูเสมอกัน ทั้งยังคงรูปเดิมได้ดีเยี่ยม ในส่วนของปลอกหมอนก็จะผลิตมาจากเส้นใยคอตตอนธรรมชาติที่ใช้เทคโนโลยี ไมโครแบนช่วยยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรีย รวมถึงลดการเกิดไรฝุ่น ไม่เพียงเท่านั้นนะคะเพราะในรุ่นนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยี Sof-Touch ที่ทำให้เนื้อผ้านิ่ม ให้สัมผัสนุ่มขึ้นก็ยิ่งเป็นการมอบความสบายขั้นสุดให้ลูกน้อย ช่วยให้พวกเขานอนหลับอย่างเต็มอิ่มตลอดคืน
จุดเด่น
- ใช้วัสดุที่เป็นมิตรและปลอดภัย สามารถใช้งานได้กับเด็กทุกคน
- แถมปลอกหมอน (คละสี)
- หมอนมีความนิ่มและให้สัมผัสที่สบายตัวมากเป็นพิเศษ
- สามารถซักกับเครื่องซักผ้าได้
| ขนาด | 12 x 20 นิ้ว |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✘ |
| วัสดุ (ปลอก) | คอตตอนผสม microban |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | เส้นใย Dacron |
| เหมาะสำหรับ | เด็ก 2 - 5 ขวบ |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ✔ |
SiamLatex หมอนยางพาราเด็กเพื่อสุขภาพ
ราคา 379 บาท*
หากจะเลือกหมอนยางพาราคุณภาพดีจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงแล้วล่ะก็ต้องหมอนยางพาราจากยี่ห้อสยามลาเท็กซ์เท่านั้น ซึ่งหมอนยางพาราเด็กอันนี้เองก็ทำมาจากยางพาราจากธรรมชาติออร์แกนิคแบบ 100% ไม่ผ่านการผสมสารเคมีอันตราย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการใช้งานกับเด็กมากที่สุด ในส่วนของปลอกก็จะมีความพิเศษคือยี่ห้อนี้จะหุ้มให้หนาขึ้นเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นผ้าซับช่วยกับฝุ่น ไร พวกเชื้อราแบคทีเรีย ส่วนชั้นนอกสุดที่จะต้องสัมผัสกับผิวเด็กก็จะเป็นคอตตอนออร์แกนิคแบบนิ่มที่มาพร้อมกับลวดลายสวยงามหลากหลายแบบ
ตัวหมอนยางพาราด้านในนั้นสามารถที่จะนำมาซักทำความสะอาดได้ตามปกติ ซึ่งใครที่คิดว่าดูแลลำบากคงจะต้องคิดใหม่แล้วล่ะค่ะ เพราะหมอนยางพารามาจากยางธรรมชาติแท้จึงมีคุณสมบัติในการคืนตัวที่สูง ไม่ยุบหรือเสียทรงง่ายพร้อมปรับให้เข้ากับทุกท่าทางการเคลื่อนไหวได้ดี มาพร้อมรูระบายอากาศที่ลดความอับชื้น เรียกว่าตอนซักตากก็แห้งไว ตอนใช้งานก็ให้ความรู้สึกที่สบาย ไม่อมความร้อน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเภทค่ะที่ต้องยอมรับว่าให้การซัพพอร์ตได้ดี แถมยังเติมเต็มประสบการณ์ในการพักผ่อนที่ดีเยี่ยมอีกด้วย
จุดเด่น
- ใช้งานได้นานเป็นสิบปีถือว่าคุ้มค่าแก่การลงทุน
- ผลิตจากยางพาราแท้ ปลอดภัย และได้คุณภาพเยี่ยม
- ซัพพอร์ตดีและให้ความรู้สึกที่สบายตัว
- ปลอกหมอนหนาถึง 2 ชั้น
- การระบายอากาศทำได้ไม่ทำให้รู้สึกร้อนขณะใช้งาน
- กลิ่นของยางไม่แรงมาก
| ขนาด | S / M / L |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✔ |
| วัสดุ (ปลอก) | ผ้าซับและคอตตอน (2 ชั้น) |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | ยางพารา |
| เหมาะสำหรับ | เด็ก 2 - 14 ปี |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ✔ |
JOHN N TREE Organic หมอนสำหรับเด็กวัยหัดเดิน
ราคา 1,190 บาท*
ต่อมาก็จะเข้าสู่หมอนเด็กในงบประมาณหลักพัน โดยหมอนใบแรกก็เริ่มในราคาพันต้น ๆ เป็นหมอนจากแบรนด์ JOHN N TREE แบรนด์ที่ผลิตสินค้าที่เน้นไปทางสินค้าออร์แกนิค ดีต่อโลกแถมยังดีต่อใจคุณแม่หลาย ๆ ท่านด้วยเช่นกัน จุดขายและถือเป็นจุดเด่นของหมอนใบนี้เลยก็คือการผลิตที่มาจากวัสดุออร์แกนิคล้วน ไม่มีสารเคมีผสม ไม่มีสารที่เป็นอันตรายอย่างแน่นอนค่ะ ไส้หมอนด้านในนั้นจะเป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่คัดสรรคุณภาพมาเป็นอย่างดี มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของความนิ่ม การยืดหยุ่นและคงรูปที่ดีเยี่ยม ให้การรองรับและกระจายน้ำหนักเป็นเลิศ
ในส่วนของปลอกหมอนก็มาจากผ้าฝ้ายออร์แกนิค 100% ซึ่งในเรื่องของความปลอดภัยก็เบาใจหายห่วง ปราศจากสารฟอกขาว ไม่ใส่สีย้อมผ้า นอกจากนี้แล้วก็ยังผ่านการรับรองอีกหลาย ๆ สถานบันในระดับสากล ดังนั้นต้องขอยกให้เป็นอีกหนึ่งสินค้าเป็นมิตรกับผิวเด็กที่สุดเลยค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากวัสดุออน์แกนิคแท้ทำให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล
- สินค้าได้มาตรฐานเชื่อถือได้
- มาในขนาดมาตรฐานสำหรับเด็กวัยหัดเดินโดยเฉพาะ
| ขนาด | 13 x 18 นิ้ว |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✘ |
| วัสดุ (ปลอก) | คอตตอนออร์แกนิค |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | เส้นใยโพลีเอสเตอร์ |
| เหมาะสำหรับ | เด็กวัยหัดเดิน |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ✔ |
IFLIN BABY หมอนหนุนพร้อมปลอกหมอนใยไผ่
ราคา 1,490 บาท*
IFLIN BABY ถือเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในเรื่องของเนื้อผ้าใยไผ่ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่มหรือผ้าอ้อมจะออกมากี่แบบต่อกี่แบบก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของคุณแม่ยุคนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งในด้านของหมอนเด็กเองทางแบรนด์ก็ทำออกมาได้น่าสนใจไม่แพ้กัน ซึ่งในเซตนี้ก็จะมีทั้งหมอนและปลอกหมอนใยไผ่ มาดูที่หมอนกันก่อนเลย โดยตัวหมอนนั้นผลิตจากเส้นใยไมโครไฟเบอร์เกรดพรีเมียมคุณภาพดี 100% นุ่มเด้ง ไม่แฟบง่าย เน้นใช้งานได้ยาว ๆ
ปลอกหมอนก็จะเป็นปลอกหมอนใยไผ่ที่ให้สัมผัสที่พิเศษ แตกต่างจากผ้าแบบอื่น ๆ ผิวสัมผัสค่อนข้างเย็นสบายเพราะว่ามีช่องว่างเล็ก ๆ ในเนื้อผ้า อีกทั้งปลอกหมอนใยไผ่เองก็ยังหนา แข็งแรง ทนทานและมีโอกาสขาดน้อยมาก ๆ รูปทรงของหมอนรวมถึงขนาดเองก็ได้รับการออกแบบและทดสอบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้แน่ใจว่าให้การซัพพอร์ตที่เต็มที่และให้ความรู้สึกสบายตัวสำหรับเด็ก 1 ขวบขึ้นไปได้เป็นอย่างดี ดังนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็สบายใจได้เลยค่ะ
จุดเด่น
- วัสดุปลอดภัยเป็นมิตรกับผิว
- ซักได้ทั้งซักมือและซักเครื่องจึงค่อนข้างสะดวก
- หมอนใบใหญ่และค่อนข้างยาวเหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่ชอบกลิ้งไปกลิ้งมา
- หมอนนิ่มฟูสบายตัว
- เนื้อผ้าให้ความรู้สึกที่เย็นผิวเมื่อสัมผัส
| ขนาด | 14 x 25 นิ้ว |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✘ |
| วัสดุ (ปลอก) | ใยไผ่ |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | เส้นใยไมโครไฟเบอร์ |
| เหมาะสำหรับ | เด็ก 1 ขวบขึ้นไป |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ✔ |
Clevamama ClevaFoam หมอนเด็กโต
ราคา 1,890 บาท*
และสำหรับหมอนเด็กจากยี่ห้อสุดท้ายในวันนี้ก็คือหมอนจาก Clevamama ซึ่งอย่างแรกที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดนั่นก็คือราคาค่ะ ขอออกตัวก่อนเลยว่าราคาที่เห็นกับคุณสมบัติของหมอนรุ่นนี้ถือว่าสมเหตุสมผลมาก ๆ ค่ะ โดยหมอนนั้นผลิตมาจากโฟมชนิดพิเศษ ความหนาแน่นสูงเพื่อให้การรองรับศีรษะ คอ และไหล่ได้สมบูรณ์แบบและล็อกให้อยู่ในตำแหน่งและระดับที่เหมาะสมตลอดคืน ตัวโฟมสามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยมเพราะมีการดีไซน์ตัวโฟมให้มาพร้อมรูระบายอากาศจำนวนมาก ไม่ว่าเด็ก ๆ จะเป็นคนขี้ร้อนหรือไม่ก็ตาม หมอนใบนี้ก็จะช่วยให้นอนหลับสนิทตลอดคืน
อีกหนึ่งความพิเศษของหมอนใบนี้ก็คือกลิ่นค่ะ เพราะในตัวโฟมนั้นก็จะผสมด้วยเอสเซ้นส์ลาเวนเดอร์ ที่มักจะใช้สำหรับการพักผ่อนและการนอนหลับค่ะ จากผลการศึกษานั้นพบว่ากลิ่นลาเวนเดอร์ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เจ้าหนูน้อยของคุณหลับสนิทอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับโดยรวมให้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ กลิ่นลาเวนเดอร์ในหมอนก็จะเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ รับรองว่าไม่ฉุนจมูกแน่นอนค่ะ ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยก็ต้องยกให้แบรนด์นี้เลยเพราะว่าไม่ว่าเนื้อผ้าหรือโฟมที่ใช้ผลิตนั้นต่างก็ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ มีค่า pH ที่สมดุล และไม่มีสารพิษเจือปน ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ และเด็ก ๆ ทุกคนค่ะ
จุดเด่น
- ให้การซัพพอร์ตสรีระได้อย่างดีเยี่ยม
- มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้หลับสบายและผ่อนคลายมากขึ้น
- สามารถใช้งานได้นานในระยะยาว
- มีคุณภาพและความปลอดภัย
- เป็นแบรนด์ที่ความน่าเชื่อถือในระดับสากล
| ขนาด | 60 x 40 ซม. และหนา 6 ซม. |
|---|---|
| หลากหลายสี/ลวดลาย | ✘ |
| วัสดุ (ปลอก) | - |
| วัสดุ (ไส้หมอน) | โฟม |
| เหมาะสำหรับ | เด็ก 3 - 10 ขวบขึ้นไป |
| กันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว หมอนเด็ก แบบไหนที่ดีที่สุด ปี 2023 | ||||
|---|---|---|---|---|
| ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
|
|   | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
|  | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
หมอนแบบไหนที่ผู้ปกครองควรระวัง?
1. ใช้หมอนที่ใหญ่เกินไป สูง หรือหนาเกินไป
หมอนที่มีลักษณะต่าง ๆ เหล่านี้อาจเพิ่มความเสี่ยงให้ลูกน้อยของคุณหายใจไม่ออกได้ อีกทั้งยังอาจส่งผลทำให้ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่ปวดคอได้เช่นกัน
2. หมอนนิ่มเกินไป
ถ้าหากหมอนสำหรับเจ้าตัวน้อยนุ่มเกินไปก็ไม่ดีเช่นกันค่ะ หมอนที่นิ่มเกินไปอาจทำให้เด็ก ๆ หายใจได้ลำบากมากขึ้นในขณะนอนหลับค่ะ ตามหลักแล้วในเรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถทำการทดสอบได้ค่ะ คือให้กดนิ้วลงบนหมอน หมอนที่นิ่มพอดีจะกลับคืนสู่สภาพเดิมภายในไม่กี่วินาที แต่หากใช้เวลามากกว่า 10 วินาทีหรือไม่กลับคืนสภาพเลย ก็เท่ากับว่าหมอนใบนั้นไม่สามารถรองรับคอและกระดูกสันหลังส่วนบนได้อย่างเพียงพอนั่นเอง
3. หมอนที่แข็งเกินไป
นอกจากหมอนที่นิ่มเกินไปแล้วหมอนที่แข็งเกินไปก็อาจทำให้คุณภาพการนอนหลับไม่ดีได้เช่นกัน หมอนที่มีความแข็งอาจจะเหมาะสำหรับเด็กโต แต่กว่าจะถึงวัยนั้นคุณก็คงต้องการหมอนเด็กที่ให้การรองรับและความสบายก่อนนะคะ ซึ่งการทดสอบหมอนว่าแข็งเกินไปหรือไม่นั้นก็ให้คุณพ่อหรือคุณแม่ทดลองบีบหมอน หากยุบตัวน้อยหรือไม่มีเลย เห็นได้ชัดว่าหมอนนั้นแข็งเกินกว่าที่จะใช้กับเด็ก ๆ ค่ะ
4. หมอนที่ผลิตจากวัสดุไส้หมอนที่เป็นอันตราย
หมอนบางประเภทนั้นทำมาจากวัสดุราคาถูกและไม่มีความปลอดภัยในการใช้งานสำหรับเด็ก เช่น เราอาจจะเคยเห็นหมอนที่หมอนที่ทำมาจากเม็ดโฟมเม็ดเล็ก ๆ (เรามักจะพบได้ในเก้าอี้เม็ดโฟม Beanbag) ซึ่งนั่นแหละค่ะที่อาจเป็นอันตรายทำให้เด็ก ๆ เกิดการสำลักได้ ในกรณีที่หมอนเกิดขาดหรือชำรุดขณะใช้งาน
5. หมอนที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้
สารเคมีที่อยู่ในหมอนบางชนิดสามารถทำให้จมูกหรือผิวหนังที่บอบบางเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้ ดังนั้นควรระวังกันให้ดี ๆ นะคะในส่วนนี้
การทำความสะอาดหมอนเด็ก
ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่เมื่อเขาโตขึ้นก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้หมอนทุกวัน ซึ่งหมอนของเจ้าหนูเองแน่นอนว่ามักจะเปียกโชกไปด้วยน้ำลายเอย เหงื่อเอย หรือในบางครั้งอาจจะเปื้อนด้วยคราบน้ำมันหรืออาหารก็เป็นได้ค่ะ แต่เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเด็ก ๆ แล้วหมอนนั้นจำเป็นที่จะต้องสะอาดอยู่เสมอ เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้ลูกของคุณแม่หลับสบายขึ้นอย่างเดียวเท่านั้น แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการแพ้และการเกิดผื่นคันด้วยค่ะ ดังนั้นแล้วคุณพ่อหรือคุณแม่เองจะต้องหมั่นทำความสะอาดหมอนของเจ้าตัวน้อยเสมอ ๆ ซึ่งวิธีในการจัดการกับคราบสกปรกและความเหม็นอับให้อยู่หมัดจะมีวิธีอย่างไรบ้าง ก็ตามมาหาคำตอบกันได้ด้านล่างนี้เลยค่ะ
- หมั่นนำไปผึ่งแดดอยู่เสมอ : เพื่อให้หมอนของเจ้าหนูนิ่มฟู อยู่ในรูปทรงเดิม และกำจัดฝุ่นรวมถึงกลิ่นก็ให้หมั่นนำหมอนของเด็ก ๆ หลังจากใช้งานแล้วไปแขวนไว้กลางแจ้งหรือวางไว้บนราวตากผ้าสักประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็จะช่วยได้
- การซักหมอนขนเป็ด : โดยส่วนใหญ่แล้วหมอนขนเป็ดนั้นก็สามารถซักในเครื่องซักผ้าได้เช่นเดียวกัน แต่เราขอแนะนำให้ใช้น้ำเย็นและผงซักฟอกที่มีฤทธิ์อ่อน ๆ หรืออาจใช้พวกสบู่เด็กอ่อนหรือน้ำยาซักผ้าเด็ก แล้วก็นำไปตากให้แห้งในที่ที่ความร้อนต่ำ อย่าตากแดดที่ร้อนจัดเพราะอุณหภูมิที่สูงมาก ๆ สามารถสร้างความเสียหายให้กับหมอนของเจ้าหนูได้
- การซักหมอนยางพาราและหมอนเมมโมรี่โฟม : การที่คุณนำหมอนทั้งสองประเภทนี้ไปซักด้วยเครื่องซักผ้าอาจทำให้โฟมแตกหรือเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นแล้วหมอนเหล่านี้อาจจำเป็นต้องซักด้วยมือค่ะ แนะนำว่าก่อนอื่นเลยให้ดูดฝุ่นออกจากหมอนก่อน จากนั้นก็ทำความสะอาดด้วยการนำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ และผสมน้ำยาซักผ้าอ่อน ๆ ปริมาณเล็กน้อยค่อย ๆ ทำความสะอาด จากนั้นก็ให้ตากให้แห้งเพียงเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วค่ะ
- การซักหมอนโพลีเอสเตอร์ : การซักหมอนประเภทนี้แนะนำให้ซักด้วยน้ำอุ่นในรอบที่อ่อนโยน ไม่รุนแรงมาก และควรซักหมอนพร้อม ๆ กันประมาณ 2-3 ใบในแต่ละครั้งเพื่อให้สมดุลของน้ำหนัก โดยแนะนำว่าให้ซักทำความสะอาดโดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ไม่รุนแรงมากผสมลงไปด้วย จากนั้นก็ล้างทำความสะอาดและตากตามปกติ
เมื่อไหร่ที่ผู้ปกครองควรจะเริ่มมองหาหมอนใบใหม่ให้ลูกน้อย ?
หมอนใบเก่าหากมีการใช้งานไปนาน ๆ ก็อาจจะเกิดการยุบตัว เสียทรงเดิม หมอนจะกลายเป็นรูปทรงที่แบนราบในบางจุดและอาจใช้งานแล้วรู้สึกไม่สบายตัวได้ ซึ่งลักษณะเหล่านี้มันมักจะเกิดจากหมอนที่ทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์เสียส่วนใหญ่ การที่คุณจะเปลี่ยนหมอนใบใหม่ให้เจ้าหนูนั้น ควรที่จะต้องเปลี่ยนหมอนทุก 2-3 ปี แต่หมอนบางประเภทอย่างเช่นหมอนยางพารานั้นมีอายุการใช้งานยาวนานจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ ก็ได้ค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วระยะเวลาในการเปลี่ยนหมอนใบใหม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพและโครงสร้างของวัสดุที่ผลิตด้วยเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่อาจต้องเปลี่ยนเมื่อปลอกด้านในมีคราบจากน้ำมันหรือเหงื่อปรากฏขึ้นแบบถาวร ไม่สามารถซักออกได้ หรือไส้ในเริ่มยุบตัวไม่สม่ำเสมอกัน
แต่อย่างไรก็ตามแทนที่จะทิ้งหมอนใบเก่า คุณสามารถนำมันไปรีไซเคิลได้ค่ะ อย่างบ้านใครที่มีน้องหมาก็ส่งต่อให้น้องหมาได้ โดยเปลี่ยนจากหมอนมาเป็นเบาะรองนอนนิ่ม ๆ ที่ให้ความอบอุ่นในช่วงหน้าหนาวหรือในช่วงกลางคืนได้เป็นอย่างดี นอกจากจะช่วยประหยัดเงินในการหาซื้อเบาะนอนน้องหมาแล้ว ก็ยังถือเป็นการช่วยลดการสร้างขยะได้อีกแรงด้วยค่ะ
References :
