เราเชื่อว่ามีคุณแม่ลูกอ่อนหลายทานกำลังตัดสินใจอยู่ว่าตัวเองจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้หรือไม่ บอกเลยนะคะว่าคุณแม่ทำได้ค่ะ อย่างไรก็ดี การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณแม่แต่ละคนในหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสถานภาพของครอบครัว, การศึกษา, อายุ, ทัศนคติ, วัฒนธรรม หรือแม้แต่ความเชื่อมั่น ปัจจัยเหล่านี้มักมีผลต่อการตัดสินใจทั้งสิ้นค่ะ เช่นคุณแม่ที่ตัดสินใจเลี้ยงลูกเต็มเวลา คุณแม่ก็อาจจะมีเวลาให้นมลูกจากเต้าได้ตลอดเวลา แต่บางครั้งเมื่อครบกำหนดลาคลอดคุณแม่ก็ต้องกลับไปทำงานตามเดิมแล้วใช่มั้ยคะ ดังนั้นคุณแม่อาจจะมีปัญหาตรงที่ไม่สามารถให้นมลูกจากเต้าได้เหมือนเมื่อก่อน แต่ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้เรามีตัวช่วยที่จะตอบสนองความต้องการของคุณแม่ที่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มาฝากกันค่ะ
ก่อนอื่นเลย เรามาลองดูประโยชน์ที่จะลูกน้อยของเราจะได้รับจากนมแม่กันก่อนนะคะ หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกันมาอยู่แล้วว่า ในน้ำนมแม่นั้นมีสารอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก ซึ่งจะมีสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมเหล่านั้นจะส่งผลให้เด็กทารกมีระบบย่อยที่ดีหรือย่อยได้ง่ายนั่นเองค่ะ และยังมีอีกสิ่งที่สำคัญก็คือมันจะช่วยประหยัดเงินค่าใช้จ่ายในเรื่องของนมผงไปได้เยอะมาก ๆ ประมาณเดือนละ 4,000-5,000 บาท หรือ ถ้าคิดเป็นต่อปีก็จะประหยัดได้ถึงประมาณ 48,000-60,000 บาทเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของทารกที่ยังต้องกินนมเป็นอาหารหลักก่อนจะเริ่มอาหารเสริมนั่นเองค่ะ เห็นตัวเลขเหล่านี้แล้วคงมีคุณแม่หลาย ๆ คนตัดสินใจจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างแน่นอนใช่ละคะ 🙂 เพราะเราสามารถจะนำค่าใช้จ่ายตรงนี้มาใช้สอยในด้านอื่น ๆ ของลูกต่อไปค่ะ
สำหรับคุณแม่บางท่านที่มีน้ำนมเยอะจนตู้เย็นที่มีอยู่อาจจะเล็กเกินไป การลงทุนซื้อตู้แช่แข็ง ก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่จะสามารถเก็บรักษา ยืดอายุนมแม่ของเราเพื่อให้ลูกกินได้อีกเป็นปี ๆ เลยนะคะ และไม่ต้องกังวลว่าสารอาหารในน้ำนมจะหายไป เพราะหากคุณแม่เก็บรักษาด้วยตู้แช่แข็งอย่างถูกวิธีสารอาหารต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่ครบถ้วนแน่นอนค่ะ
คุณแม่หลาย ๆ ท่าน อาจจะมีประสบการณ์การใช้เครื่องปั๊มนมกันมาบ้าง หรือเครื่องปั๊มนมที่ใช้อยู่อาจจะยังไม่ตอบโจทย์มากนัก บางท่านอาจยังไม่เคยลองใช้ หรือกำลังตัดสินใจเลือกซื้ออยู่ หากคุณแม่มีปัญหาในการเลือกเครื่องปั๊มนมอยู่นั้น วันนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ มาแบ่งปัน ซึ่งจะช่วยให้คุณแม่หลาย ๆ ท่าน เลือกเครื่องปั๊มนมได้ตามเป้าหมายและความต้องการ เพราะการเลือกเครื่องปั๊มนมที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ คุณแม่ต้องมั่นใจว่าเราเลือกแล้วจะตอบสนองกับความต้องการของเราหรือไม่ เพราะคุณแม่แต่ละคนอาจจะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป และที่สำคัญคือเครื่องปั๊มนมนั้น ๆ จะช่วยเพิ่มน้ำนมให้เราอย่างสูงสุดหรือไม่ อีกทั้งยังต้องช่วยถนอมเต้านมของเราไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองด้วยจริงมั้ยล่ะคะ การเลือกเครื่องปั๊มนมจึงมีปัจจัยต่าง ๆ ประกอบกันที่เราจำเป็นต้องพิจารณาดังต่อไปนี้ค่ะ
วิธีเลือกซื้อ เครื่องปั๊มนม (7)
1. วางแผนการให้นมลูก
ตั้งคำถามเลยค่ะว่าคุณแม่วางแผนที่จะใช้ปั๊มอย่างไร จะใช้ปั๊มนอกเหนือจากการป้อนนมจากเต้านมหรือไม่ คุณแม่วางแผนที่จะปั๊มและเก็บนมน้ำนม เพื่อทำสต๊อคให้ลูกน้อยมากแค่ไหน คุณแม่จะกลับไปทำงานใช่หรือเปล่า หรือคุณแม่จะต้องอยู่ห่างจากลูกน้อยเป็นเวลากี่วัน การตั้งคำถามเหล่านี้เองค่ะที่จะทำให้คุณแม่เลือกเครื่องปั๊มนมได้อย่างตรงความต้องการของคุณแม่ค่ะ
2. เวลาในการปั๊มนม
คุณแม่มีเวลาในการปั๊มนมนานเท่าไหร่ บางคนอาจใช้เวลา 10-15 นาที แต่บางคนก็อาจจะกินเวลาไปถึง 30 นาที ระยะเวลาที่ใช้ในการปั๊มนมก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งเครื่องปั๊มนมบางประเภทอาจใช้งานง่ายกว่าและสามารถดึงน้ำนมได้เร็วขึ้น หากคุณแม่วางแผนที่จะปั๊มในที่ทำงานหรือไม่มีเวลามากในการปั๊มนม คุณแม่อาจต้องพิจารณาแบตเตอรี่หรือที่ปั๊มน้ำนมด้วยไฟฟ้าและควรเป็นแบบปั๊มคู่ ซึ่งจะช่วยปั๊มน้ำนมจากเต้านมทั้งสองเต้าได้ในเวลาเดียวกัน มันจะช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในการปั๊มได้มากเลยค่ะ เนื่องจากเต้านมทั้งสองสามารถเทได้พร้อมกันนั่นเอง
3. คำแนะนำของเครื่องปั๊มนมต้องเข้าใจง่าย
หากเป็นไปได้แม่อยากจะให้เลือกเครื่องปั๊มที่มาพร้อมคำแนะนำที่อ่านเข้าใจง่าย เพราะคุณแม่ค่ะ เครื่องปั๊มนมแต่ละแบรนด์ต่างก็มีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ถ้าหากคุณแม่เข้าใจถึงขั้นตอนการประกอบตัวเครื่อง, การใช้งาน และการทำความสะอาดอย่างถ่องแท้ก็จะดีมากค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องปั๊มที่ผลิตในต่างประเทศอาจไม่มีคู่มือการใช้งานภาษาไทยเลย ฉะนั้นแล้วคุณแม่ก็ต้องตรวจสอบกันอย่างละเอียดกันหน่อยนะคะ แต่ถ้าเกิดว่าคุณแม่กำลังซื้อปั๊มจากหน้าร้านก็ควรสอบถามพนักงานขายว่าร้านนั้นมีเครื่องปั๊มนมให้ดูเป็นตัวอย่างหรือไม่ เพื่อให้คุณแม่สามารถฝึกประกอบและแยกปั๊มที่แตกต่างกันออกไปก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนะคะ
4. เครื่องปั๊มนมที่ไหน ?
ถ้าเป็นเครื่องปั๊มนมแบบใช้มือและแบบใช้แบตเตอรี่สามารถขนย้ายและใช้งานได้ง่ายในพื้นที่ขนาดเล็ก ในขณะที่ปั๊มไฟฟ้าจำเป็นจะต้องมีเต้ารับเพื่อการใช้งานในการปั๊ม ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นและน้ำหนักมากขึ้น คุณแม่บางคนอาจพบว่ามีการพกพาที่ไม่สะดวก
โปรดทราบว่า…เครื่องปั๊มนมแบบไฟฟ้าต้องมีการวางแผนกันอย่างดีทีเดียวค่ะ สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อไม่สามารถใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่เสริมได้ หากไม่มีการเลี้ยงลูกด้วยนมอุปกรณ์เสริมและหรือปั๊มสำรองด้วยมือ อาจจะทำให้คุณแม่ไม่สามารถรักษาตารางการปั๊มน้ำนมได้ในกรณีฉุกเฉิน
5. สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย หรือพกพา
หากคุณแม่เป็นคนที่เดินทางบ่อยหรือวางแผนที่จะปั๊มนมในที่ทำงาน ควรจะพิจารณาซื้อเครื่องปั๊มนมที่มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย หรืออาจมีกระเป๋าใส่เครื่องปั๊มนมและอุปกรณ์ที่สามารถพกพาสะดวกค่ะ แต่ถ้าหากคุณแม่วางแผนที่จะปั๊มในสถานที่เดียวกันทุกครั้ง คุณแม่ก็อาจไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความสะดวกและง่ายในการพกพาค่ะ
6. แผ่นป้องกันเต้านม พอดีกับคุณเต้านมหรือไม่?
อันนี้สำคัญมากนะคะ คุณแม่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเปิดแผ่นป้องกันเต้านมเป็นขนาดที่ถูกต้องสำหรับคุณแม่ ซึ่งแผ่นป้องกันเต้านมควรจะสามารถวางจุกนมไว้ที่กึ่งกลางด้านในของแผ่นป้องกันเต้านมและควรพิจารณาดูว่าคุณแม่สามารถหาซื้อหรือเปลี่ยนแผ่นป้องกันเต้านมตามขนาดหรือพื้นผิวที่แตกต่างกันและสะดวกสบายสำหรับคุณแม่ได้หรือไม่ด้วยนะคะ
7. ฟังก์ชันของเครื่องปั๊มนม ควรมีมากน้อยแค่ไหน?
คุณแม่อาจจำเป็นจะต้องพิจารณาในการเลือกเครื่องปั๊มนมที่มีฟังก์ชันเสริมเพื่อช่วยในการกระตุ้นเต้านม ซึ่งฟังก์ชันเสริมเหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่สามารถปรับระดับความหนักเบาในการปั๊มได้ ไปจนถึงการเลียนแบบการดูดนมของเด็กทารก ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้เต้านมของคุณแม่ถูกกระตุ้นและมีน้ำนมไหลออกมาได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ เพราะบางครั้ง เต้านมของคุณแม่จะยังไม่สามารถปล่อยน้ำนมให้ไหลออกมาอย่างทันทีทันใด หรือยังได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นเครื่องปั๊มนมที่มีโหมดกระตุ้นเต้านมจึงเป็นฟังก์ชันเสริมที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก
เมื่อพิจารณาถึงความต้องการและความเหมาะสมกันถี่ถ้วนแล้ว คุณแม่ก็อาจจะแอบสงสัยว่าแล้วเราจะไปหาเครื่องปั๊มนมดี ๆ ได้ที่ไหน วันนี้เราเลยนำเครื่องปั๊มนมหลากหลายยี่ห้อ ราคา และฟังก์ชันที่แตกต่างมาให้คุณแม่พิจารณกันค่ะ
เครื่องปั๊มนมแบบใช้มือ เนเจอร์ รุ่น MN-3

ราคา 332 บาท*
ประเภท | เครื่องปั๊มนมคันโยกแบบสุญญากาศ |
---|---|
ขนาดเครื่อง | N/A |
น้ำหนัก | 0.6 kgs |
วัสดุที่ใช้ | Polypropylene (pp) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free |
แรงดูดกระตุ้น | 370 mmHg |
แรงดูดปกติ | 370 mmHg |
ฟังก์ชั่นอื่นๆ | N/A |
เครื่องปั๊มนมแบบมือกด Medela Harmony

ราคา 1,990 บาท*
ประเภท | เครื่องปั๊มนมแบบมือกด |
---|---|
ขนาดเครื่อง | 3x11x21cm |
น้ำหนัก | 0.907 kg |
วัสดุที่ใช้ | Polypropylene (pp) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free ทั้งตัวขวดนม |
แรงดูดกระตุ้น | มีการเลียนแบบการดูดของเด็กตามธรรมชาติเพื่อกระตุ้นให้หลั่งน้ำนม |
แรงดูดปกติ | แรงดูดจะช้าลงแต่แรงขึ้นเมื่อมีการหลั่งน้ำนมแล้ว |
ฟังก์ชั่นอื่นๆ | N/A |
Youha เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า รุ่น YH8004 ปี 2021

ราคา 2,490 บาท*
มาต่อกันที่เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าจาก Youha เช่นเคยนะคะ แต่รุ่น YH8004 รุ่นนี้ก็จะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2021 มีวางจำหน่าย 2 สีค่ะคือสีเขียวมิ้นต์และสีชมพูแคนตาลูป สิ่งที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนหน้านี้ก็คือวัสดุที่ใช้ผลิตนั่นเองค่ะ โดยรุ่นนี้จะเปลี่ยนจากพลาสติก PP มาใช้เป็น Polyphenylsulfone (PPSU) แทน ซึ่งพลาสติก PPSU ถือเป็นวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูง สีขวดจะมีสีชาหรือสีน้ำตาลอ่อน ทนต่อการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนได้สูงสุดถึง 180 องศา และที่สำคัญคือปลอดภัย ปราศจาก BPA และยังได้รับการการันตีความปลอดภัยจาก FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตัวเครื่องมาพร้อมกับการทำงาน 3 โหมด ได้แก่ โหมดกระตุ้น, ปั๊มปกติ และปั๊มกรณีท่อน้ำนมอุดตัน โดยแต่ละโหมดจะสามารถปรับได้มากถึง 6 ระดับ รวมทั้งสิ้น 18 แบบ หน้าจอ LCD จะมีตัวเลขบอกเวลาในการปั๊มที่ชัดเจน และเพื่อไม่ให้คุณแม่เกิดความสับสน หน้าจอก็จะมีการเปลี่ยนสีไปตามโหมดนั้น ๆ ทำให้การใช้งานในตอนค่ำจะสามารถสังเกตได้ง่ายขึ้น การทำงานถือว่าค่อนข้างเงียบเลยทีเดียวค่ะ ไม่มีเสียงดังรบกวนระหว่างใช้งานอย่างแน่นอน ปุ่ม pause กดหยุดชั่วคราวแล้วสามารถกลับมาเริ่มใหม่ได้ทันทีและนอกจากนี้คุณแม่ก็ยังสามารถตั้ง memory โหมดที่ชอบได้ เพื่อเป็นการกำหนดให้เครื่องทำงานในโหมดนั้นทันทีโดยที่ไม่ต้องไปปรับให้เสียเวลา
ประเภท | เครื่องปั๊มนมคู่ไฟฟ้า |
---|---|
ขนาดเครื่อง | 11 x 9 x 5 cm |
น้ำหนัก | 0.24 kg |
วัสดุที่ใช้ | Polyphenylsulfone (PPSU) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free |
แรงดูดกระตุ้น | รอบดูด 20-120 ครั้ง/นาที แรงดูดสูงสุด 350 mmHg |
แรงดูดปกติ | ไม่ระบุ |
ฟังก์ชั่นอื่นๆ | ใช้งานได้ระบบไฟฟ้าบ้านและแบตเตอรี่ (แบตเตอรี่ลิเที่ยมภายในตัวเครื่อง), ชาร์จเต็มสามารถใช้งานได้ 3 ชั่วโมง |
NATUR เครื่องปั๊มนมไฟฟ้ามอเตอร์คู่ รุ่น D-5

ราคา 2,572 บาท*
เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าจากแบรนด์ Natur รุ่น D-5 จะมี 2 มอเตอร์ สามารถแยกการทำงานซ้าย / ขวา หรือทั้งสองข้างได้อยากอิสระ มีโหมดในการทำงานให้เลือก 2 โหมดนั่นก็คือ โหมดปั๊มและโหมดกระตุ้นน้ำนมที่สามารถช่วยกระตุ้นเค้นเอาน้ำนมออกมาได้ กรวยปั๊มได้ออกแบบมาให้กระชับ แนบสนิทรับกับเต้านมของคุณแม่ได้อย่างพอดิบพอดีและใช้การกระตุ้นด้วยสัมผัสที่นุ่มนวล สบายตัว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
มอเตอร์คู่แรงดีไม่มีแผ่ว ทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ โดยคุณแม่สามารถปรับระดับการกระตุ้นแบบแยกข้างได้ถึง 9 ระดับ แรงดูดสูงสุดอยู่ที่ 99 ครั้ง/นาที พร้อมมีปุ่มหยุดชั่วคราวได้ถึง 5 นาที การสั่งงานทุกอย่างจะผ่านการสัมผัสหน้าจอแบบทัชสกรีนที่สะดวกและรวดเร็ว จอแสดงผล LED มีสัญลักษณ์และตัวเลขแสดงการทำงานที่ชัดเจน เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน และถ้าหากแม่ ๆ คนไหนที่ใช้ขวดนมคอกว้างก็ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะทางแบรนด์ก็ได้มีข้อต่อเกลียวคอกว้าง เพื่อการปรับใช้ร่วมกับขวดนมคอกว้างตระเตรียมมาให้ในเซตแล้วเรียบร้อย
ประเภท | เครื่องปั๊มนมคู่ไฟฟ้า |
---|---|
ขนาดเครื่อง | ไม่ระบุ |
น้ำหนัก | 0.4 kg |
วัสดุที่ใช้ | Polypropylene (pp) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free ทั้งตัวขวดนม |
แรงดูดกระตุ้น | รอบดูด 99 ครั้ง/นาที แรงดูดสูงสุด 330 mmHg |
แรงดูดปกติ | ไม่ระบุ |
ฟังก์ชันอื่นๆ | ใช้งานแบตเตอรี่ลิเที่ยมภายในตัวเครื่อง, ชาร์จเต็มสามารถใช้งานได้ 2 ชั่วโมง, ใช้กับตัวแปลงไฟฟ้าหรือพาวเวอร์แบงก์ได้ |
เครื่องปั๊มนม Youha 8804+ Original breast pump โฉมใหม่

ราคา 2,950 บาท*
ประเภท | เครื่องปั๊มนมคู่ไฟฟ้า |
---|---|
ขนาดเครื่อง | 11 x 9 x 5 cm |
น้ำหนัก | 0.24 kgs |
วัสดุที่ใช้ | Polypropylene (pp) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free |
แรงดูดกระตุ้น | รอบดูด 20-120 ครั้ง/นาที แรงดูดสูงสุด 350 mmHg |
แรงดูดปกติ | ไม่ระบุ |
ฟังก์ชั่นอื่นๆ | ใช้ได้ทั้งไฟฟ้า และ แบตเตอรี่ ใช้แบตเตอรี่ลิเที่ยมอย่างดี (ไม่ใช่ถ่านธรรมดา) และสามารถชาร์จเต็มได้ถึง 3 ชั่วโมง (นับเฉพาะช่วงที่ปั๊ม), ตั้งหน่วยความจำในการปั๊มนมได้ |
Pureen เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบ 2 มอเตอร์

ราคา 2,970 บาท*
ประเภท | เครื่องปั๊มนมคู่ไฟฟ้า |
---|---|
ขนาดเครื่อง | 15 x 31.5 x 25 cms |
น้ำหนัก | 1 kg |
วัสดุที่ใช้ | Polypropylene (pp) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free |
แรงดูดกระตุ้น | แรงดูดสูงสุด 300 mmHg ได้ 9 ระดับ |
แรงดูดปกติ | มีหมุดหนวดเลียนแบบการดูดอย่างเป็นธรรมชาติของทารก |
ฟังก์ชั่นอื่นๆ | มีช่องเสียบ USB และ Adapter AC Power, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 150 นาทีต่อการชาร์จ |
PIGEON เครื่องปั๊มน้ำนมไฟฟ้า รุ่น GoMini

ราคา 3,850 บาท*
ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่มือใหม่หรือคุณแม่มากฝีมือ แม่คิดว่าทุกคนคงจะรู้จักกับแบรนด์ PIGEON เป็นอย่างดีแน่นอน สำหรับรุ่น GoMini ก็จะเป็นรุ่นที่แม่อยากจะแนะนำสำหรับคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาเพราะจะต้องออกไปทำงานหรือปฏิบัติภารกิจนอกบ้านเป็นประจำ การที่คุณแม่เลือกรับเซตไว้นี้รับรองอุ่นใจได้ค่ะเพราะคุณแม่จะสามารถปั๊มนมได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ ซึ่งในเซตก็จะมีทั้งอุปกรณ์ที่ครบครันทั้ง เครื่องปั๊มนม, ขวดนม, ขวดเก็บน้ำนม และถุงเก็บน้ำนมแพ็ครวมมาให้ในกระเป๋าอเนกประสงค์ที่พร้อมเดินทางไปกับคุณแม่ทุกเมื่อ
ตัวมอเตอร์ขนาดเล็กพอดีกับการใช้งานด้วยมือข้างเดียว แถมยังมีน้ำหนักเบาพกพาสะดวก แต่เห็นจะมีขนาดเล็กจิ๋วแต่ก็มีแรงปั๊มแรงดูดสูงสุด คือ 260 mmHg มาพร้อมกับการทำงาน 2 โหมด ได้แก่ โหมดกระตุ้นน้ำนมและโหมดปั๊มน้ำนมที่ปั๊มได้เกลี้ยงเต้าด้วยการดูดที่นุ่มนวล โดยที่ไม่ทำร้ายหัวนมของคุณแม่ค่ะ และไม่เพียงเท่านี้นะคะเพราะเครื่องปั๊มแบบพกพารุ่นนี้ก็ยังสามารถปรับความแรงได้ถึง 5 ระดับเช่นเดียวกับเครื่องขนาดใหญ่เลยค่ะ สำหรับบ้านไหนที่เดิมทีคุณแม่ใช้ขวดนมของ PIGEON อยู่แล้วแม่ก็ยิ่งแนะนำค่ะ เพราะตัวนี้จะมีฝาเกลียวสำหรับใส่กับขวดนมคอกว้างและขวดนม Pigeon รุ่นอื่น ๆ ได้ทุกรุ่นเลยค่ะ
ประเภท | เครื่องปั๊มนมไฟฟ้า |
---|---|
ขนาดเครื่อง | ไม่ระบุ |
น้ำหนัก | 0.143 kg |
วัสดุที่ใช้ | Polypropylene (pp) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free |
แรงดูดกระตุ้น | ไม่ระบุ |
แรงดูดปกติ | 32 - 85 รอบ/นาที แรงดูดสูงสุด 260 mmHg |
ฟังก์ชันอื่นๆ | มีช่องเสียบใช้ได้กับปลั๊กและมีสาย USB ใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ในรถยนต์ และพาวเวอร์แบงค์ได้, ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง |
Spectra S1+ เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบปั๊มคู่

ราคา 9,900 บาท*
ประเภท | เครื่องปั๊มนมคู่ไฟฟ้า |
---|---|
ขนาดเครื่อง | ไม่ระบุ |
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
วัสดุที่ใช้ | Polypropylene (pp) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free |
แรงดูดกระตุ้น | 70 รอบ/นาที แรงดูดต่ำสุด 50 mmHg แรงดูดสูงสุด 320 mmHg |
แรงดูดปกติ | 38 - 54 รอบ/นาที |
ฟังก์ชั่นอื่นๆ | ใช้งานได้ระบบไฟฟ้าบ้านและแบตเตอรี่ (แบตเตอรี่ลิเที่ยมภายในตัวเครื่อง), มี memory จำการใช้งานครั้งล่าสุด |
เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบคู่ Medela Freestyle

ราคา 15,900 บาท*
ประเภท | เครื่องปั๊มนมคู่ไฟฟ้า |
---|---|
ขนาดเครื่อง | ไม่ระบุ |
น้ำหนัก | 0.4 kgs |
วัสดุที่ใช้ | Polypropylene (pp) แบบ 0% BPA หรือ BPA Free |
แรงดูดกระตุ้น | 120 รอบ/นาที แรงดูดสูงสุด 250 mmHg ปรับได้ 9 ระดับ |
แรงดูดปกติ | 60 รอบ/นาที |
ฟังก์ชั่นอื่นๆ | ปุ่ม Memory บันทึกแรงดูดและรอบที่เหมาะสม, ทำงานด้วยแบตเตอรี่ โดยสามารถชาร์จไฟได้ปั๊มไปได้ด้วยได้ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ แนะนำ เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
นอกจากนี้ประโยชน์ของนมแม่ไม่เพียงจะส่งผลดีกับทารกเท่านั้นนะคะ ยังส่งผลดีต่อคุณแม่ด้วยค่ะ งั้นเราไปดูกันเลยนะคะว่าประโยชน์ที่ว่ามีอะไรบ้างค่ะ
ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับทารก
1. น้ำนมแม่ให้สารอาหารที่เหมาะสำหรับทารก
หน่วยงานด้านสุขภาพส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นองค์การอนามัยโลก (WHO), กระทรวงสาธารณสุข, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน และมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทยก็ออกมาแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน รวมถึงแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งปี (1)
ดังนั้นคุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายด้วยนะคะ เนื่องจากอาหารต่าง ๆ เหล่านี้จะก็จะถูกถ่ายทอดให้เป็นอาหารของลูกน้อยของเรา เพราะน้ำนมแม่นั้นมีสารอาหารทุกอย่างที่ทารกต้องการในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิตตามสัดส่วนที่ถูกต้อง องค์ประกอบของมันยังเปลี่ยนไปตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของทารกโดยเฉพาะในช่วงเดือนแรกของชีวิตอีกด้วย
ในช่วงวันแรกหลังคลอดนั้น เต้านมจะสร้างของเหลวที่หนาและสีเหลืองที่เรียกว่าคอลอสตรัม ซึ่งมีโปรตีนสูงแต่น้ำตาลต่ำและเต็มไปด้วยสารประกอบที่มีประโยชน์ คอลอสตรัมเป็นนมแรกที่จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของทารกแรกเกิด หลังจากสองสามวันแรกเต้านมเริ่มผลิตน้ำนมในปริมาณที่มากขึ้น เมื่อกระเพาะอาหารของทารกโตขึ้น
2. น้ำนมแม่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของลูก
กล่าวคือน้ำนมแม่เต็มไปด้วยภูมิต้านทานที่ช่วยให้ลูกน้อยของคุณต่อสู้กับไวรัสและแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำนมเหลืองนมแรก หรือ คอลอสตรัมที่ให้ปริมาณ “อิมมูโนโกลบูลินเอ หรือ IgA” (2, 3) ซึ่งเป็นโปรตีนที่ร่างกายของเราจะสร้างขึ้นมา เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันไว้ต่อสู้กับเชื้อโรค, แบคทีเรีย, ไวรัส, เชื้อรา และมะเร็ง ซึ่งจะพบมากบนเยื่อเมือกโดยเฉพาะเยื่อเมือกของทางเดินหายใจ, ทางเดินอาหาร, ช่องคลอด, น้ำตา และน้ำลาย ซึ่งภูมิคุ้มกันนี้เองจะช่วยป้องกันร่างกายจากสิ่งแวดล้อม เมื่อแม่สัมผัสกับไวรัสหรือแบคทีเรีย ร่างกายก็จะเริ่มผลิตภูมิคุ้มกัน และภูมิคุ้มกันเหล่านี้เองจะถูกหลั่งลงในน้ำนมแม่และส่งผ่านไปยังทารกในระหว่างการให้อาหาร
ดังนั้นอิมมูโนโกลบูลินเอ หรือ IgA จึงช่วยปกป้องทารกจากการป่วยโดยสร้างชั้นป้องกันในจมูกคอและระบบย่อยอาหารของทารกนั่นเองค่ะ อย่างไรก็ตามคุณแม่ก็ควรฝึกสุขอนามัยที่เข้มงวดอยู่เสมอ ล้างมือบ่อย ๆ และพยายามหลีกเลี่ยงการติดเชื้อในลูกน้อยค่ะ
เชื่อหรือไม่? การศึกษาจำนวนมากของประเทศสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่าทารกที่ไม่ได้กินนมแม่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเช่น ปอดบวม ท้องเสียและการติดเชื้อ (4)
3. การเลี้ยงลูกด้วยนม อาจลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ
การให้นมลูกนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และยังช่วยลดความเสี่ยงในหลายๆ เรื่อง อาทิเช่น
-
- การติดเชื้อที่หูชั้นกลาง
- การติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
- โรคหวัด ทารกที่กินนมแม่อย่างเดียวเป็นเวลา 6 เดือน จะช่วยลดความเสี่ยงได้ถึง 63% ในการเป็นหวัดและการติดเชื้อที่หูหรือคอ (4)
- การติดเชื้อในลำไส้ รู้มั้ยคะว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในลำไส้ได้ถึง 64% (4) ซึ่งจะเห็นได้นานถึง 2 เดือนหลังจากคุณแม่หยุดให้นมลูก ทั้งนี้ยังช่วยป้องกันความเสียหายของเนื้อเยื่อลำไส้ การให้นมทารกที่คลอดก่อนกำหนดจึงช่วยลดความเสี่ยงประมาณ 60% (4) ของภาวะลำไส้เน่าอักเสบ (6) (Necrotizing Enterocolitis: NEC) หรือจะอธิบายง่าย ๆ นั่นก็คือ การที่ทารกจะมีภาวะตรงเนื้อเยื่อของระบบทางเดินอาหารตายซึ่งมีสาเหตุมาจากการอักเสบของลำไส้จนกระทั่งจะมีภาวะการขาดเลือด และรู้หรือไม่คะ ว่าภาวะลำไส้เน่าอักเสบนี้มักจะเกิดขึ้นบริเวณลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่โดยเฉพาะทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่ามาตรฐาน และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต หรือทุพพลภาพของทารกแรกเกิดที่พบได้มากที่สุดเลยทีเดียวเลยล่ะค่ะ
- ทารกเสียชีวิตอย่างกะทันหัน (SIDS) การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงถึง 50% หลังจาก 1 เดือนและความเสี่ยงนี้จะลดลง 36% ในปีแรกด้วยค่ะ (4)
- โรคภูมิแพ้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 3-4 เดือน จะลดความเสี่ยงของโรคหอบหืด โรคผิวหนังภูมิแพ้ และกลากได้ประมาณ 27-42% (4)
- โรคช่องท้อง ทารกที่ได้รับนมแม่ในช่วงที่มีการสัมผัสกลูเตนครั้งแรกนั้นมีความเสี่ยงลดลงถึง 52% ในการเป็นโรคช่องท้อง (4)
- โรคลำไส้อักเสบ ทารกที่ได้รับนมแม่ อาจมีโอกาสน้อยที่จะพัฒนาโรคลำไส้อักเสบในวัยเด็กได้ประมาณ 30% (4)
- โรคเบาหวาน การเลี้ยงลูกด้วยนมอย่างน้อย 3 เดือน จะช่วยลดความเสี่ยงที่ลดลงของโรคเบาหวานประเภท 1 สูงสุด 30%และโรคเบาหวานประเภท 2 สูงสุด 40% (4)
- โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็ก การเลี้ยงลูกด้วยนมเป็นเวลา 6 เดือนหรือนานกว่านั้นจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในวัยเด็กได้ประมาณ 15-20% (4)
4. นมแม่ช่วยให้ลูกมีน้ำหนักดี
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงช่วยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและช่วยป้องกันโรคอ้วนในวัยเด็กได้อย่างน่ามหัศจรรย์เลยทีเดียวค่ะ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าอัตราโรคอ้วนลดลง 15-30% ในทารกที่กินนมแม่เมื่อเทียบกับทารกที่เลี้ยงด้วยนมผง (4) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นระยะเวลาการให้นมลูกก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันนะคะ เนื่องจากการให้นมบุตรในแต่ละเดือนจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วนในอนาคตได้ 4% (4) นี่อาจเป็นเพราะการพัฒนาของแบคทีเรียในลำไส้ที่แตกต่างกัน
5. การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจทำให้เด็กฉลาดขึ้น
การศึกษาบางอย่างชี้ให้เห็นเลยนะคะว่าอาจมีความแตกต่างในการพัฒนาสมองระหว่างทารกที่กินนมแม่และทารกที่ได้รับนมผง ความแตกต่างนี้อาจเกิดจากความใกล้ชิดทางกายภาพการสัมผัสและการสัมผัสทางดวงตาที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อีกทั้งการศึกษาระบุว่าทารกที่กินนมแม่มีคะแนนสติปัญญาสูงขึ้นและมีโอกาสน้อยที่จะพัฒนาปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมและการเรียนรู้เมื่อพวกเขาโตขึ้นด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตามผลกระทบที่เด่นชัดที่สุดพบได้ในทารกที่คลอดก่อนกำหนดซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าในเรื่องของพัฒนาการ การวิจัยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยนะคะว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นจะมีผลในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาสมองในระยะยาวของลูกน้อยค่ะ
เป็นไงบ้างคะ สำหรับประโยชน์ของนมแม่ที่จะส่งผ่านสิ่งดี ๆ ให้กับลูกน้อยของเรา แต่ไม่หมดแค่นี้นะคะ เพราะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังส่งผลดีกับตัวคุณแม่เองด้วยค่ะ จะเป็นเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปอ่านกันเลยค่ะ
ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สำหรับคุณแม่
1. การให้นมลูกอาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้
ถึงแม้ว่าในขณะที่คุณแม่บางคนดูเหมือนจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นในระหว่างการให้นม แต่บางคนก็ดูเหมือนจะลดน้ำหนักอย่างง่ายดาย แม้ว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเพิ่มความต้องการพลังงานของแม่ประมาณ 500 แคลอรี่ต่อวัน (4)
แต่ความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายนั้นแตกต่างจากปกติมาก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้ คุณแม่ที่ให้นมลูกนั้นจะมีความอยากอาหารเพิ่มขึ้นและอาจมีแนวโน้มที่ร่างกายนั้นจะสะสมไขมันสำหรับการผลิตนม ในช่วง 3 เดือนแรกหลังคลอด คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจลดน้ำหนักได้น้อยกว่าคุณแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่และพวกเขาอาจเพิ่มน้ำหนักได้
แต่อย่างไรก็ตามหลังจาก 3 เดือนของการให้นม คุณแม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการเผาผลาญไขมันเริ่มตั้งแต่ประมาณ 3-6 เดือนหลังคลอดค่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะได้ลดน้ำหนักได้มากกว่าแม่ที่ไม่ได้ให้นมลูกค่ะ
สิ่งสำคัญที่ต้องจำ!! ถึงแม้การให้นมลูกจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณแม่สามารถลดน้ำหนักได้ แต่อาหารและการออกกำลังกายยังคงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่กำหนดว่าคุณจะลดน้ำหนักลงได้มากน้อยเพียงใดไม่ว่าจะให้นมลูกด้วยนะคะ
2. การให้นมบุตรช่วยให้มดลูกหดตัว
ในระหว่างตั้งครรภ์มดลูกของคุณจะเติบโตอย่างมากโดยขยายจากขนาดของลูกแพร์ไปจนถึงการเติมเต็มช่องท้องของคุณแม่ เพราะหลังคลอดนั้น มดลูกของคุณแม่จะต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่าการมีส่วนร่วมซึ่งจะช่วยให้มันกลับไปสู่ขนาดเดิม ซึ่งเกี่ยวข้องกับออกซิโตซินฮอร์โมน (Oxytocin Hormones) หรือ ฮอร์โมนที่ถูกผลิตขึ้นจากไฮโปทาลามัส หรือต่อมใต้สมองของเรา (5) ซึ่งเป็นส่วนที่จะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย
โดยฮอร์โมนตัวนี้เองแหละค่ะคุณแม่จะหลั่งออกมาตอนที่ผู้หญิงคลอดลูก จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทำให้มีคุณแม่มีแรงเบ่ง และสร้างอีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความผูกพันให้กับแม่และลูก หลังจากคลอดลูกแล้วฮอร์โมนตัวนี้ยังมีผลต่อการให้นมลูก เพราะมันจะช่วยกระตุ้นการหลั่งของน้ำนมให้เพียงพอต่อลูกน้อย การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นี่แหละค่ะ ที่จะไปช่วยเพิ่มการผลิตออกซิโตซินฮอร์โมน (Oxytocin Hormones) ที่จะทำให้คุณแม่ลดการสูญเสียเลือดหลังคลอดและช่วยให้มดลูกกลับไปมีขนาดเล็กลงก่อนหน้านี้
3. ลดความเสี่ยงเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดน้อยกว่าไม่ให้นมลูก
มารดาที่เลี้ยงลูกด้วยนมมีความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า (Postpartum depression and the baby blues) ในระดับต่ำ ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเป็นภาวะซึมเศร้าชนิดหนึ่งที่สามารถพัฒนาได้หลังคลอดบุตร ซึ่งมีผลถึง 15% ของมารดา (4)
แต่คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดูเหมือนว่ามีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับแม่ที่หย่านมเร็วหรือไม่ให้นมลูก คุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงมีโอกาสน้อยที่จะพัฒนาภาวะซึมเศร้าหลังคลอด จะมีปริมาณออกซิโตซินเพิ่มขึ้นในระบบของคุณแม่ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการดูแลผ่อนคลายและผูกพันระหว่างแม่และเด็กนั่นเองค่ะ
4. การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงของโรค
อีกทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งและโรคภัยไข้เจ็บในระยะยาว เวลาทั้งหมดที่ผู้หญิงใช้ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นจะทำให้ความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ลดลงอีกด้วย ซึ่งคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากกว่า 12 เดือน จะมีความเสี่ยงลดลงถึง 28% ของมะเร็งเต้านมและรังไข่ (4) และยังมีการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ระบุด้วยว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจช่วยป้องกันกลุ่มอาการเมตาบอลิก (metabolic syndrome) ซึ่งเป็นกลุ่มของเงื่อนไขที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้อีกด้วย และคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเวลา 1-2 ปี จะลดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง, โรคไขข้อ, ไขมันในเลือดสูง, โรคหัวใจ, เบาหวานประเภท 2 และยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคโลหิตจาง 10–50% อีกด้วยค่ะ (4)
5. การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจป้องกันการมีประจำเดือน
การให้นมบุตรอย่างต่อเนื่องยังทำให้การตกไข่และการมีประจำเดือนหยุดชั่วคราว การระงับรอบประจำเดือนนี้เองค่ะที่อาจจะเป็นวิธีธรรมชาติที่ทำให้มั่นใจได้ว่ามีช่วงเวลาคุมกำเนิดได้ คุณแม่บางคนใช้จึงใช้วิธีนี้เป็นตัวคุมกำเนิดในช่วงสองสามเดือนแรกหลังคลอดนั่นเองค่ะ อย่างไรก็ตามการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อาจไม่ใช่วิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์นะคะ
6. ช่วยประหยัดเวลาและเงิน
อย่างที่คุณแม่หลาย ๆ คนทราบกันดีอยู่แล้วนะคะว่า การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือฟรีและต้องใช้ความพยายามน้อยมาก ๆ เมื่อเลือกที่จะให้นมลูกคุณจะไม่ต้องใช้เงินไปกับนมผงซึ่งลูกน้อยของคุณต้องการดื่มทุกวัน อีกทั้งคุณแม่ยังประหยัดเวลาโดยไม่ต้องไปวิ่งหาซื้อนมผงให้วุ่นวายอีกด้วยค่ะ
เห็นประโยชน์นานัปการของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่แบบนี้ คงมีคุณแม่หลาย ๆ คนตัดสินใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กันอย่างแน่นอนเลยใช่มั้ยคะ แต่ก็เชื่อว่ามีคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะมีปัญหาหรือภาระหน้าที่ ซึ่งอาจทำให้คุณแม่ไม่สะดวกในการให้นมแม่จากเต้า ปัญหาเหล่าจะไม่ส่งผลกระทบกับคุณแม่อีกแล้วล่ะค่ะ เพราะเรามีเทคโนโลยีหนึ่งที่จะสามารถทำให้คุณแม่ที่มีความตั้งใจจะเลี้ยงลูกน้อยด้วยนมแม่ให้มีความสะดวกสบาย และง่ายขึ้น แถมลูกน้อยก็ยังมีนมแม่อร่อย ๆ และคงคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนด้วยเทคโนโลยีที่ว่าก็คือ “เครื่องปั๊มนม” นั่นเองค่ะ
บทสรุป
เป็นไงกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลที่นำมาฝากกันในวันนี้ คุณแม่หลาย ๆ คนที่ยังคิดตัดสินใจว่า จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ดีหรือไม่ เมื่อได้รู้ถึงประโยชน์มากมายที่ลูกน้อยจะได้รับจากนมแม่ ไม่ว่าจะเรื่องของสารอาหารที่บอกเลยว่าลูกน้อยจะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อย ลดอัตราการเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่โลกของเราประสบปัญหาการระบาดหนักของโรคโควิด-19 การที่ลูกน้อยได้รับนมแม่ก็จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับลูกน้อยได้นะคะ สุขภาพที่แข็งแรงของลูกน้อยสร้างได้ด้วยนมแม่ ไม่อย่างนั้นคุณหมอและผู้เขี่ยวชาญหลาย ๆ ท่าน คงไม่สนับสนุนให้คุณแม่ในยุคปัจจุบันหันมาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จริงมั้ยคะ? เพราะ “นมแม่ดีที่สุด” นั่นเองค่ะ
หวังว่าคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ ท่านจะคลายสงสัย และมีข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจที่จะเลือกเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ง่ายขึ้นนะคะ เพราะต่อให้คุณแม่หลาย ๆ ท่านจะต้องกลับไปทำงานก็ยังมีนวัตกรรมที่เรียกว่า “เครื่องปั๊มนม” ที่จะทำให้คุณแม่สามารถมีน้ำนมจากอกอุ่น ๆ ที่คงคุณค่าทางสารอาหารไว้ให้กับลูกน้อยได้ตราบนานเท่าที่คุณแม่ต้องการเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งคุณแม่สามารถเลือกเครื่องปั๊มนมตามข้อมูลข้างต้นให้ตรงตามความต้องการและใช้งานตามที่คุณแม่สะดวกสบายได้เลยค่ะ หรือสำหรับคุณแม่ที่อาจจะมีปัญหาการให้นมลูกจากเต้า เครื่องปั๊มนมก็ยังเป็นอีกหนี่งตัวช่วยง่าย ๆ ที่ทำให้คุณแม่สามารถจะปั๊มนมให้ลูกดื่มได้ไม่ว่าจะใช้ภาชนะในรูปแบบต่าง ๆ ตามที่คุณแม่เห็นสมควรได้อีกด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ที่อยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ก็ไม่ต้องมีปัญหาให้รบกวนหรือกังวลใจอีกต่อไปแล้วนะคะ เพราะนวัตกรรมของเครื่องปั๊มนมที่จะเป็นเป็นตัวตอบโจทย์ให้กับคุณแม่ลูกอ่อนยุคใหม่ ที่จะทำให้ชีวิตคุณแม่สะดวกสบาย ถือเป็นเครื่องทุ่นแรงให้คุณแม่ได้เยอะขึ้น
ดังนั้นเครื่องปั๊มนมใครว่าไม่จำเป็น เพราะตราบใดที่คุณแม่ยังมีน้ำนม การใช้เครื่องปั๊มนมก็ถือเป็นเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ ที่อาจจะเป็นอุปกรณ์อีกตัวที่ต้องตามติดชีวิตคุณแม่ไปอีกนาน โดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงาน การปั๊มนมเก็บไว้เป็นสต็อคให้กับลูกน้อยก็จะช่วยให้คุณแม่ประหยัดทั้งเวลา และที่สำคัญประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วยล่ะค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นนะคะคุณแม่ เครื่องปั๊มนมถือเป็นของใช้ส่วนตัวที่คุณแม่ไม่ควรใช้ร่วมกับใคร ก่อนและหลังใช้ก็ควรหมั่นดูแลความสะอาด ล้างมือก่อนคุณแม่จะปั๊มนม เพื่อสุขลักษณะอนามัยที่ดีทั้งต่อตัวคุณแม่เองและลูกน้อยนะคะ และสำหรับการใช้ขวดนมหรือการล้างขวดนมนั้นก็ต้องเลือกใช้น้ำยาล้างขวดนมสูตรอ่อนโยน แปรงทำความสะอาดก็ควรจะเป็นแปรงที่ใช้กับขวดนมโดยเฉพาะ รวมถึงควรจะมีที่คว่ำขวดนมและเครื่องนึ่งขวดนมหรือเครื่องอบรังสียูวีขวดนมไว้สำหรับฆ่าเชื้อโรคเชื้อแบคทีเรียที่อาจจะเกิดจากการล้างไม่สะอาดมากพอ เพราะสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้เองค่ะที่จะเป็นตัวช่วยป้องกันลูกน้อยของคุณจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้เสมอ และสุดท้ายก่อนที่จะจากกันวันนี้แม่ก็ขอฝากไว้อีกนิดนะคะ เนื่องด้วยสถานการ์ณตอนนี้แล้วขอให้คุณแม่หมั่นดูแลรักษาสุขภาพ ล้างมือให้สะอาดและสวมหน้ากากอนามัยอยู่เสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด 19สำหรับคุณแม่เองนะคะ แต่ถ้าเกิดว่าคุณแม่เริ่มรู้สึกเหมือนไม่สบายหรือมีอาการที่เข้าข่ายก็ให้รีบไปตรวจเพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพราะถึงแม้จะมีข้อมูลระบุว่าเชื้อไวรัสไม่สามารถแพร่ผ่านน้ำนมแม่ได้และยังมีการระบุอีกว่าคุณแม่ที่ติดเชื้อจะยังสามารถให้นมบุตรได้ก็จริง แต่การที่คุณแม่มีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดโรคก็เป็นอะไรที่ดีกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวลูกน้อยคุณแม่ต้องดูแลรักษาตัวเองให้ดีนะคะ 🙂
References:
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) : ‘7องค์กร’ ลงนาม MOU จัดมุมนมแม่ในที่ทำงาน
- Immunoglobulin A
- Biochemistry, Immunoglobulin A (IgA)
- 11 Benefits of Breastfeeding for Both Mom and Baby
- The physiological basis of breastfeeding หัวข้อ Hormonal control of milk production
- ภาวะลำไส้เน่าอักเสบ Necrotizing Enterocolitis (NEC)
- องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา : Choosing a Breast Pump