แม้ว่าตู้เย็นจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างหนึ่งที่ทุกครอบครัวต้องมีอยู่แล้ว เพราะว่ามันจะช่วยถนอมอาหารให้มีอายุยาวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้ หรือเมนูที่เหลือจากการทำอาหารในแต่ละมื้อ แต่เวลาที่คุณอยากจะแช่แข็งอาหาร เช่น ไอศครีม, น้ำนมแม่, น้ำแข็ง อาหารสดหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อาจทำให้ช่องฟรีซในตู้เย็นทั่ว ๆ ไปนั้นมีขนาดเล็กเกินไป และให้ความเย็นไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นคุณเลยจำเป็นต้องมี “ตู้แช่แข็ง” ไว้ภายในบ้านด้วยค่ะ

เนื่องจากตู้แช่แข็งสามารถปรับความเย็นได้แบบชนิดที่ติดลบกันเลยทีเดียว ซึ่งความเย็นในระดับนี้จะทำให้อาหารสดต่าง ๆ อยู่ได้อย่างยาวนาน ที่สำคัญตู้แช่แข็งยังใช้ได้ทั้งในบ้านและร้านค้าที่ต้องการคงความสดใหม่ของอาหารเพื่อนำไปปรุงอาหารหรือขายให้กับลูกค้าค่ะ
ตู้แช่แข็ง คืออะไร
ตู้แช่แข็งมีลักษณะการทำงานคล้าย ๆ กับตู้เย็น แต่จะเก็บความเย็นได้ดีกว่า เพราะมีระบบทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพ และรักษาถนอมอายุของอาหารได้นานกว่าโดยที่อาหารไม่ไม่เสียรสชาติหรือ Texture (รสสัมผัส) ไปแม้แต่น้อย นั้นเพราะตู้แช่แข็งมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งหรือต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ถนอมอาหารในระยะยาว หากเก็บถูกวิธีก็จะสามารถรักษา สี รส กลิ่นและคุณค่าทางอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อันที่จริงตู้แช่แข็งนั้น มีรูปทรงที่หลากหลายมากค่ะ มีทั้งแบบทรงต่ำ หรือทรงสูง (ทรงตั้ง) แต่ในประเทศไทยที่เรามักเห็นกันอยู่บ่อย ๆ จะเป็นตู้แช่แข็งทรงต่ำเสียส่วนใหญ่ จึงทำให้เราคิดว่าตู้แช่แข็งมีแต่แบบเตี้ย ๆ สูงระดับเอวเท่านั้น
ตู้แช่แข็ง รุ่นไหนดี เหมาะกับคุณ
- ตู้แช่แข็ง Sharp แข็งแรงทนทาน มีปุ่มทำความเย็นแบบเร่งด่วน: Sharp ตู้แช่แข็ง รุ่น SJ-C415TH
- ตู้แช่แข็ง Haier แช่อาหารสดได้ 2 ระบบ เป็นได้ทั้งตู้แช่แข็งและตู้เย็น: Haier ตู้แช่แข็ง รุ่น HCF-228C
- ตู้แช่แข็งขนาดเล็กเหมาะสำหรับ 1 คน: SONAR ตู้แช่แข็ง รุ่น BD-41L
- ตู้แช่แข็งอาหารสดขนาดกลาง ประหยัดพื้นที่ใช้สอย: Hisense ตู้แช่แข็ง รุ่น 142L BD-144
- ตู้แช่แข็งอาหารสดขนาดใหญ่มาก ทำความเย็นได้ต่อเนื่อง 52 ชั่วโมง: Sanden ตู้แช่แข็ง รุ่น SCF-0615
![]() Sharp ตู้แช่แข็ง รุ่น SJ-C415TH | ![]() Haier ตู้แช่แข็ง รุ่น HCF-228C | ![]() SONAR ตู้แช่แข็ง รุ่น BD-41L | ![]() Hisense ตู้แช่แข็ง รุ่น 142L BD-144 |
เคล็ดลับการใช้ตู้แช่แข็ง
1. ตรวจสอบอุณหภูมิ
คุณควรแน่ใจว่าตู้แช่แข็งและตู้เย็นของคุณตั้งไว้ที่อุณหภูมิที่ค่าถูกต้อง นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้อาหารของคุณ ที่จะยังคงความสดใหม่และปลอดภัยสำหรับการบริโภคอยู่เสมอ คุณสามารถใช้เทอร์โมมิเตอร์ขนาดเล็กวัดอุณหภูมิ เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในอุณหภูมิที่ถูกต้องแล้ว
2. กรณีไฟฟ้าดับทำอย่างไรให้ตู้ยังคงความเย็น
การทำน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ โดยใส่แช่ในถุงพลาสติก และนำถุงน้ำแข็งเหล่านั้นไปในตู้แช่แข็งพร้อมอาหารของคุณ วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีไฟฟ้าดับ เพราะถุงน้ำแข็งที่ยังมีความเย็นอยู่นั้นจะช่วยให้อาหารของคุณอยู่คงในสภาพดั้งเดิมได้นานยิ่งขึ้น
3. แบ่งอาหารใช้ถุงซิปล็อค หรือภาชนะเป็นมื้อ ๆ
ใส่อาหารในถุงซิปล็อคควรแบ่งอาหารที่ต้องแช่แข็งเป็นส่วนย่อย ๆ ให้มีความพอดีในการบริโภคในแต่ละครั้ง อย่าเอาแช่ในก้อนเดียวกัน เพราะเวลาจะใช้คุณจะต้องใช้เวลาในการละลายน้ำแข็งนานพอสมควร ดังนั้นควรแบ่งใส่ถุงพลาสติกหรือกล่องภาชนะที่มีฝาปิด อาหารแช่แข็งส่วนใหญ่ควรเก็บไว้ไม่เกิน 3 เดือน คุณรู้หรือไม่ หากสำหรับการใช้ถุงซิปล็อค คุณสามารถเก็บไว้ได้นานสูงสุด 2-3 เดือน หรือจะให้เครื่องซิลช่วยอีกแรงเพื่อถนอมอาหารให้นานยิ่งขึ้นก็ได้เช่นกัน
วิธีละลายอาหารจากตู้แช่แข็ง
แนะนำให้คุณนำอาหารที่ต้องการใช้ ออกมาวางในตู้เย็นก่อนล่วงหน้า 1 คืน หรือประมาณ 12 – 24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารของคุณ เมื่อตื่นมาตอนเช้าของอีกวัน คุณจะพบว่าอาหารของคุณนั้นอยู่ในสภาพที่พร้อมปรุงแล้ว โดยที่ไม่สูญเสีย รสชาติ กลิ่น หรือสารอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะนำมานึ่งบนหม้อหุงข้าวหรือจะนำมาอุ่นในไมโครเวฟก็ได้ ประหยัดเวลาสุด ๆ แน่นอนว่าคุณไม่ควรนำอาหารจากตู้แช่แข็งวางไว้ในอุณหภูมิห้องและให้มันละลายไปเอง อีกทั้งยังไม่ควรนำอาหารไปแช่น้ำ เพราะจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางสารอาหาร รสชาติ รสสัมผัสไปได้

Sharp ตู้แช่แข็ง รุ่น SJ-C415TH

ราคา 14,390 บาท*
ตู้แช่แข็งที่มีอายุการใช้งานทนทานจากแบรนด์ Sharp รุ่นนี้มีหลายขนาดมากเลยค่ะ จุดเด่นที่ผู้เขียนรู้สึกชอบมาก ๆ ก็คือมีปุ่ม Fast Freezing สำหรับทำความเย็นแบบเร่งด่วนมาให้ด้วย ชนิดที่เอาไปแช่ปุ๊บก็สามารถหยุดความสดไว้ปั๊บ 😀 โดยเจ้าปุ่มนี้จะใช้ในกรณีที่คุณต้องการลดอุณภูมิภายในตู้แช่อย่างเร่งด่วนเท่านั้น ซึ่งมันอาจจะทำให้กินไฟไปบ้าง ไม่แนะนำให้ใช้ปุ่มนี้บ่อย ๆ ค่ะ เพราะจะได้ปาดเหงื่อตอนบิลค่าไฟมาแทน ในส่วนของความเย็นนั้นทาง Sharp ควบคุมอุณหภูมิความเย็นด้วยเทอร์โมสตาร์ท แม้จะไม่กำหนดเป็นตัวเลขแต่หลัก ๆ แล้วเราสามารถเลือกระดับได้ 3 แบบ คือ Min, Mid และ Max

ข้อดี
- มาพร้อมกับระบบไฟสัญญาณเตือนในกรณีที่เปิดประตูไม่สนิท หรือใส่อาหารมากเกินไป
- มีตะกร้าแถมมาให้อีก 3 ตะกร้า
- ไฟส่อง LED ช่วยให้เห็นสินค้าได้ง่าย
- มีล้อเลื่อน กุญแจล็อก มือจับ
- รับประกันคอมเพรสเซอร์ 5 ปี
- มีปุ่ม Fast Freezing
- จุได้เยอะมาก เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่

ข้อควรพิจารณา
- ฝาเปิด-ปิดเป็นฝาเดียวแนวยาว ไม่ได้แยกออกเป็น 2 ฝาเหมือน Sanden ทำให้ไอความเย็นไหลออกได้ง่าย
ความจุ | 14.4 Queue / 410 L |
---|---|
ขนาด | 141 x 71 x 84 cm. |
อุณหภูมิ | น้อยกว่า -18 °C |
น้ำหนัก | 54 kg |
ระดับความเย็น | Min, Mid, Max |
CHiQ ตู้แช่แข็ง รุ่น CCF199

ราคา 6,199 บาท*
สำหรับรุ่นนี้นอกจากจะมีขนาดที่จุอาหารได้เยอะแล้ว ระบบการทำความเย็นก็ยังตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้ด้วย เพราะในบางครั้งเราก็ไม่ได้ต้องการแช่อาหารให้แข็งในทันที บางทีคุณอาจจะต้องการนำอาหารสดออกมาใช้งานในเช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้ ดังนั้นอุณหภูมิความเย็นของ CHiQ รุ่นนี้จึงค่อนข้างอะลุ่มอล่วยมากค่ะ เพราะสามารถใช้เป็นตู้แช่แข็งก็ได้หรือจะใช้เป็นตู้แช่เย็นแบบธรรมดาก็ดี ส่วนใครที่กังวลว่ารุ่นนี้จะทำความเย็นได้ช้า ขอให้คุณสบายใจได้เลยค่ะ!! เพราะว่าแบรนด์ออกแบบให้ทำความเย็นได้ 4 มิติ ดังนั้นอุณหภูมิก็จะไหลวนเวียนกระจายอยู่รอบ ๆ ภายในเครื่องอย่างสม่ำเสมอกัน หมดปัญหาเรื่องทำความเย็นช้าไปเลย ที่สำคัญระบบสถานะการทำงานของไฟก็แยกมาให้เป็น 2 สี ดังนั้นระหว่างที่เครื่องหยุดทำงานก็ยังคงแสดงถสถานะของไฟเหมือนเดิมจ้า

ข้อดี
- มีช่วงอุณหภูมิที่กว้างเป็นพิเศษ ใช้งานได้หลากหลาย โดยระดับที่ 1 คือ 0-5 °C เหมาะสำหรับแช่ผักและผลไม้สด
- มีมือจับที่ประตูใช้งานง่าย
- มีไฟสถานะมี 2 สี
- ให้ความเย็นที่สม่ำเสมอ
ข้อควรพิจารณา
- โครงสร้างขนาดใหญ่ ตัวเครื่องโดยรวมค่อนข้างหนัก ต้องใช้อย่างน้อย 2 คนที่ในการเคลื่อนย้ายตู้แช่แข็ง
ความจุ | 7 Queue / 199 L |
---|---|
ขนาดภายนอก | 83.0 x 56.0 x 84.0 cm. |
อุณหภูมิ | -24 ถึง 5 °C |
น้ำหนัก | 50 kg. |
ระดับความเย็น | 7 ระดับ |
Haier ตู้แช่แข็ง รุ่น HCF-228C

ราคา 8,799 บาท*
เมื่อสักครู่เราเพิ่งแนะนำตู้แช่แข็งที่สามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นตู้เย็นทั่วไปได้ใช่มั้ยคะ ? แน่นอนค่ะว่าตู้แช่จากแบรนด์ Haier ก็มีช่วงอุณหภูมิที่กว้างมากพอจะเปลี่ยนตัวเองให้ตู้เย็นได้เช่นกัน อีกทั้งไฟที่คอยแจ้งเตือนสถานะการทำงานจะมีด้วย 2 สีเหมือนกันค่ะ อันที่จริงแล้วทั้งแบรนด์ Haier และ CHiQ ต่างก็มีขนาดที่เท่ากันนั่นก็คือ 7 Queue แต่อย่างไรก็ตามหากเทียบขนาดภายนอกแล้ว ดูเหมือนว่าของ Haier จะยาวกว่าเล็กน้อย และก็มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบากว่า 10 kg.

โดยรุ่นนี้อาจจะมีราคาที่แพงกว่ายี่ห้อ CHiQ แต่จะมีไฟ LED ที่ฝาเปิด-ปิด ทำให้ช่วยส่องแสงสว่างตอนที่คุณเปิดตู้แช่แข็งมาให้ด้วย แม้ว่าช่วงอุณหภูมิจะไม่ค่อยยืดหยุ่นมากนักเมื่อเทียบกับ CHiQ แต่สำหรับผู้เขียนแล้วมองว่าช่วงอุณหภูมิที่เปลี่ยนเป็นตู้เย็นไม่ได้สำคัญค่ะ เพราะจริง ๆ จุดประสงค์หลักคือเราซื้อมาเพื่อแช่แข็ง!! ดังนั้นหากคุณเป็นแฟนคลับแบรนด์ไหนก็เลือกซื้อแบรนด์ที่ตัวเองชอบได้เลยค่ะ
ข้อดี
- มีช่วงอุณหภูมิที่กว้างเป็นพิเศษ ใช้งานได้หลากหลาย
- มีมือจับที่ประตูใช้งานง่าย
- มีไฟสถานะมี 2 สี
- ให้ความเย็นที่สม่ำเสมอ
- มีหลอดไฟ LED ที่ฝาตู้ ช่วยให้คุณหาของที่ต้องการง่ายขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- โครงสร้างขนาดใหญ่ แต่น้ำหนักเบากว่ายี่ห้อ CHiQ
ความจุ | 7 Queue / 198 L |
---|---|
ขนาด | 94 x 56 x 85 cm. |
อุณหภูมิ | -26 ถึง 10 °C |
น้ำหนัก | 40 kg. |
ระดับความเย็น | 7 ระดับ |
SONAR ตู้แช่แข็ง รุ่น BD-41L

ราคา 3,590 บาท*

ข้อดี
- ขนาดโดยรวมค่อนข้างเล็ก เหมาะสำหรับใช้งานคนเดียว
- เสียงการทำงานของเครื่องไม่ดังมาก อยู่ในเกณฑ์เงียบ
- มีหลอดไฟ LED ที่ฝาตู้ ช่วยให้คุณหาของที่ต้องการง่ายขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- หากคุณชอบซื้ออาหารมากักตุนไว้เยอะหน่อยประมาณ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป หรือต้องการสำหรับซื้อมาใช้งานสำหรับเก็บอาหารไว้บริโภค 1-2 คน เราขอแนะนำให้เปลี่ยนเป็นขนาด 63 L จะเหมาะสมกว่าค่ะ แม้ว่าราคาจะสูงขึ้นมาอีกนิด แต่รับรองว่าการใช้งานคุ้มค่ามากกว่า
ความจุ | 1.4 Queue / 41 L |
---|---|
ขนาดภายนอก | 45 x 41 x 68 cm. |
อุณหภูมิ | -4 ถึง -20 °C |
น้ำหนัก | 1.2 kg. |
ระดับความเย็น | 7 ระดับ |
Hisense ตู้แช่แข็ง รุ่น 142L BD-144

ราคา 5,290 บาท*
สำหรับใครที่กำลังช่างใจเลือกความจุไม่ถูกว่าจะซื้อในปริมาณเท่าไหร่ดีระหว่าง 100 L หรือ 200 L ? แนะนำให้มาพบกันคนละครึ่งทางด้วยความ 150 L หรือประมาณ 5.3 Queue ค่ะ โดยรุ่นนี้จะมากจากแบรนด์ Hisense เป็นรุ่นที่เปิดตัวเมื่อปี 2021 แม้ว่าจะนานสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับปริมาณความจุและราคาผู้เขียนคิดว่าเป็นอีกรุ่นที่ยังคงน่าลงทุนเหมือนเดิมค่ะ

ตัวเครื่องมีขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่หรือเล็กไป มาพร้อมกับแผงควบคุมภาษาไทยใช้งานง่าย ที่ฝามีมือจับและที่ล็อกสำหรับเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้ นอกจากนี้ดานในยังติดตั้งไฟ LED ไว้คอยช่วยเพิ่มความสว่างภายในตู้ทำให้คุณหาของที่ต้องการง่ายขึ้น สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกชอบมาก ๆ คือทั้งภายนอกและภายในตู้แช่แข็งของ Hisense เป็นสีขาวล้วนทำให้ลักษณ์โดยรวมดูสะอาดตามาก ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากตกแต่งบ้านสายมินิมอล

ข้อดี
- ขนาดกลาง ๆ กำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่ไป
- สามารถปรับระดับความเย็น 8 ระดับ
- มีหลอดไฟ LED ที่ฝาตู้ ช่วยให้คุณหาของที่ต้องการง่ายขึ้น
- มีมือจับที่ฝาเปิด-ปิด ช่วยให้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น
- มีไฟสถานะมี 2 สี
- สามารถคงคุณภาพความเย็นได้นาน 135 ชั่วโมงหลังจากปิดเครื่อง
ข้อควรพิจารณา
- โครงสร้างขนาดใหญ่ ค่างข้างสูง ด้วยความลึกเป็นพิเศษทำให้อาจหยิบของที่อยู่ด้านล่างสุดลำบาก
- ไม่ได้ระบุช่วงอุณหภูมิทำความเย็น
ความจุ | 5.3 Queue / 150 L |
---|---|
ขนาด | 63 x 56 x 86 cm. |
อุณหภูมิ | ต่ำสุด -30°C |
น้ำหนัก | 27 kg. |
ระดับความเย็น | 8 ระดับ |
CANDY ตู้แช่แข็ง รุ่น CCF-105

ราคา 4,250 บาท*
สำหรับตู้แช่แข็งจากแบรนด์ CANDY ดูจากรูปทรงจะเน้นไปทางสูงเพรียว ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ติดตั้ง มาพร้อมกับความจุภายในที่สามารถใส่อาหารสดได้มากถึง 105 L เรียกว่าเหมาะสำหรับ 1-2 คนต่อการกักตุนอาหาร 1-2 สัปดาห์ หรือจะใช้สำหรับในร้านอาหารขนาดเล็ก ๆ ก็ยังได้เลยค่ะ

ข้อดี
- มีหลอดไฟ LED ที่ฝาตู้ ช่วยให้คุณหาของที่ต้องการง่ายขึ้น
- มีมือจับที่ฝาเปิด-ปิด ช่วยให้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น
- มีล็อกสำหรับป้องกันผู้อื่นเปิดตู้แช่แข็งของคุณ
- การออกแบบมีขนาดความจุเยอะ แต่ขนาดโดยรวมไม่กินพื้นที่ใช้สอย
- ตัวเครื่องทำความเย็นได้เร็วมาก
- ความจุเยอะกว่า 3.5 Queue ของยี่ห้ออื่น
ข้อควรพิจารณา
- ด้วยรูปทรงที่เน้นความสูงเป็นพิเศษ ซึ่งจะสูงเลยช่วงเอวของคุณผู้ชายไปอีกค่ะ ทำให้เวลาเหล่าแม่บ้านหรือผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะหยิบอาหารที่อยู่ด้านล่างสุดมีความลำบากเล็กน้อย
ความจุ | 3.7 Queue / 105 L |
---|---|
ขนาด | 55 x 55 x 85 cm. |
อุณหภูมิ | -10 ถึง -25 °C |
น้ำหนัก | 24 kg. |
ระดับความเย็น | 7 ระดับ |
Sanden ตู้แช่แข็ง รุ่น SCF-0615

ราคา 16,290 บาท*
สำหรับใครที่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่หรือมีสมาชิกภายในบ้านไม่ต่ำกว่า 5 คน แนะนำให้ซื้อเป็นตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ที่สุดไปเลยค่ะ อารมณ์คุณแม่บ้านออกซื้ออาหารสดเข้าบ้านนาน ๆ ทีหรือถ้าคุณอยู่ติดทะเลและมักได้อาหารทะเลสด ๆ มาบ่อย เราคิดว่าตู้แช่แข็งขนาดความจุ 21.2 Queue หรือประมาณ 600 L น่าจะตอบโจทย์ด้านความต้องการของคุณมากที่สุด

นอกจากนี้ยังมีการแบ่งฝาเปิดออกเป็น 2 ช่อง ทำให้เวลาจะเปิดใช้งานแต่ละครั้งไม่ต้องกลัวว่าความเย็นจะออกมาเยอะเกินไป และที่เห็นเครื่องใหญ่โตอลังการขนาดนี้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าคอมเพรสเซอร์จะทำงานหนักหรือทำความเย็นได้ช้าเลยนะคะ เพราะว่า Sanden ได้ใช้ระบบควบคุมความเย็นแบบ Super Freezing ที่ให้ความเย็นต่อเนื่อง 52hr. สลับกับระบบปกติแบบอัตโนมัติ
ข้อดี
- มีฝาเปิด-ปิด 2 ช่อง พร้อมกับมือจับใช้งานง่าย
- มีหลอดไฟ LED ที่ฝาตู้ ช่วยให้คุณหาของที่ต้องการง่ายขึ้น
- มีล้อเลื่อน เพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
- การรับประกันคอมเพรสเซอร์ 5 ปี (ส่วนใหญ่สุงสุดแค่ 3 ปี)
- ขนาดใหญ่มาก เหมาะสำหรับธุรกิจร้านอาหารหรือครอบครัวขนาดใหญ่
- มีไฟสถานะมี 2 สี
ข้อควรพิจารณา
- โครงสร้างขนาดใหญ่ ตัวเครื่องโดยรวมค่อนข้างหนัก
- มีฝาเปิด-ปิด 2 ช่อง แต่ภายในตัวตู้ทำความเย็นไม่ได้แยกออกจากกัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะแช่อาหารคาวหรือหวาน กลิ่นทั้งหมดจะรวมอยู่ภายตู้เดียวกัน ประโยชน์ของฝาเปิด-ปิด 2 ช่องเพื่อป้องกันไม่ให้ความเย็นไหลออกมามากเกินไป
ความจุ | 21.2 Queue / 600 L |
---|---|
ขนาด | 164 x 70 x 85 cm. |
อุณหภูมิ | -18 ถึง -24 °C |
น้ำหนัก | 75 kg. |
ระดับความเย็น | 7 ระดับ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีเลือกซื้อตู้แช่แข็งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
1. ความจุของตู้แช่แข็ง
ความจุเป็นสิ่งแรกที่คุณต้องให้ความสำคัญก่อนตัดสินใจในซื้อตู้แช่แข็งค่ะ โดยความจุนี้จะเป็นปริมาณที่คุณสามารถบรรจุอาหารสดใส่ในตู้แช่แข็งได้ค่ะ อย่างไรก็ตามโปรดทำความเข้าใจว่าความจุและขนาด (ขนาดภายนอก) เป็นคนละเรื่องกัน จากประสบการณ์โดยตรงผู้เขียนเคยซื้อตู้แช่แข็งที่ดูจากขนาดภายนอกเป็นหลัก ทำให้ทราบว่าจริง ๆ แล้วตู้ที่ซื้อมานั้นจุอาหารได้น้อยมาก ๆ จนต้องซื้อตู้แช่ตัวใหม่มาแทน ในกรณีที่หากคุณไม่รู้ว่าตัวเองต้องการความจุมากน้อยแค่ไหน ผู้เขียนจะขอไกด์ไลน์ให้เล็กน้อยตามนี้ค่ะ
- หากอยู่คนเดียวเลือกตู้แช่แข็งขนาด 1-3 Queue ก็น่าเพียงพอต่อการเก็บกักตุนอาหาร
- หากคุณอาศัยอยู่ 2 คน แนะนำให้เลือกตู้แช่แข็งขนาด 5-7 Queue
- ส่วนในกรณี 10 Queue ขึ้นไป จะเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่หรือธุรกิจร้านอาหารค่ะ
ทั้งนี้ก็เป็นเพียงแค่ไกด์ไลน์เท่านั้นนะคะ จริง ๆ แล้วนอกจากจำนวนสมาชิกคุณจะต้องดูด้วยว่าคุณมีนิสัยในการออกไปซื้ออาหารเช่นไร ? หาครอบครัวของคุณมีสมาชิกมากกว่า 5 คน แต่คุณชอบออกไปซื้อาหารสดเข้าครัวบ่อย ๆ ทุกอาทิตย์ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ก็ได้ค่ะ ในทางกลับกันหากคุณอยู่กันเพียงแค่ 2 คน แต่พวกคุณชอบออกไปซื้ออาหารเข้าบ้านเดือนละครั้งหรืออาจจะ 2 เดือนครั้งเราแนะนำให้ซื้อตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ไปเลยจะดีกว่าค่ะ

หมายเหตุ : ตู้แช่แข็งทุกรุ่นจะมีการติดตั้งคอมเพรสเซอร์หรือเครื่องทำความเย็นอยู่ภายในตู้แช่แข็ง ดังนั้นขนาดที่คุณเห็นภายนอกไม่ได้หมายความว่ามันจะจุได้ตามที่คุณเห็นจริง ๆ เพราะคุณยังต้องเพื่อเหลือพื้นที่ไว้สำหรับตัวคอมเพรสเซอร์ด้วยค่ะ หากจะซื้อตู้แช่แข็งขนาดเล็ก ๆ ต้องทำใจไว้ก่อนเลยนะคะว่าความจุจะต้องลดลงจากที่เห็นภายนอกแน่นอนค่ะ
2. โครงสร้าง รูปทรง ประตู
ตู้แช่แข็งควรจะทำจากวัสดุอย่างดี แข็งแรงและทนทาน ภายในอลูมิเนียม 100% ฝาตู้ควรจะมีระบบความปลอดภัยที่ดี และมีตัวล็อกที่แน่นหนา หรือหากไม่มีตัวล็อกก็ต้องตรวจสอบยางที่ใช้กักความเย็นว่าเป็นวัสดุมีคุณภาพหรือไม่ อีกทั้งควรเลือกตู้แช่แข็งแบบทรงต่ำ หรือทรงที่มีประตูแบบปิดลงในแนวตั้งจะดีที่สุด เพราะจะช่วยให้ตัวยางมีการซีลให้หนาแน่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ประตูแบบปิดลงแนวตั้ง ไม่จำเป็นต้องมีตัวล็อคอัตโนมัติก็ได้ เพราะด้วยน้ำหนักของประตูก็สามารถมั่นใจได้ว่าปิดอย่างสนิทแน่นอน

3. ฉนวนกันความร้อน
ฉนวนกันความร้อนที่คุณภาพดี เพื่อใช้ในการป้องกันอากาศภายนอกที่ร้อนกว่าเข้ามาในตู้แช่แข็ง หากเราเลือกฉนวนกันความร้อนดี ก็จะช่วยเราประหยัดพลังงาน
4. การละลายน้ำแข็ง
เลือกตู้แช่แข็งที่ใช้เวลานานในการละลายน้ำแข็งไม่นานเกินไป หรือเลือกแบบที่ละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ แต่โดยส่วนใหญ่ที่เรารีวิวในวันนี้จะเป็นการละลายน้ำแข็งแบบแมนนวลหรือกดด้วยตัวเองมากค่ะ ดังนั้นหากคุณพบว่าน้ำแข็งเริ่มเกาะตัวรอบ ๆ ขอบตู้หนาแล้วก็ให้ทำการละลายน้ำแข็งทันทีค่ะ โดยปิดการใช้งานประมาณ 1-2 วัน อย่าลืมมเปิดเช็กบ่อย ๆ ด้วยนะคะ จากนั้นก็เปิดจุกระบายน้ำออกค่ะ
5. ประหยัดพลังงาน
อย่างทราบว่าตู้แช่แข็งของคุณนั้น ทำงานตลอดเวลา เพื่อให้อาหารของคุณสดอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะเลือกตู้แช่แข็งที่ประหยัดพลังงาน แต่เอาแบบความจริงไม่โกหกเลยนะคะ ต่อให้คุณเลือกตู้แช่แข็งที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 มาแล้ว มันก็ยังกินไฟอยู่ดีค่ะ อย่างน้อย ๆ ก็ประมาณ 400-500 บาทต่อเดือน (จากประสบการที่ใช้ตู้แช่แข็งขนาด 3 Queue) นอกจากนี้การที่ตู้แช่แข็งจะกินไฟมากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราด้วยค่ะ ยิ่งใส่อาหารไว้เยอะ และยิ่งปรับอุณหภูมิให้ต่ำลงก็ยิ่งกินพลังงาน นอกจากนี้ตู้แช่แข็งจะมีระบบการทำงานเหมือนแอร์ ดังนั้นมันจะทำงานติด ๆ ดับ ๆ ตลอดเวลา ในกรณีที่อุณหภูมิคงที่ตามที่เรากำหนดไว้แล้วเครื่องก็จะหยุดทำงานไปเลยทันที แลจะกลับมาทำงานใหม่อีกครั้งเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น
6. เสียงรบกวน
ตู้แช่แข็งจะมีการทำงานตลอดเวลา ซึ่งในขณะที่มันทำงานจริง ๆ แล้วเสียงก็ไม่ได้ดังมากค่ะ หากเทียบกับตู้เย็นแล้วเสียงอาจดังพอ ๆ กัน บางรุ่นอาจจะมีเสียงเบากว่าตู้เย็นเสียด้วยซ้ำค่ะ แต่อย่างไรก็ตามในกรณีที่ตู้แช่แข็งหยุดทำงาน ระบบตัดไฟมันจะดัง “ติ๊ด” เพื่อบอกให้เราทราบ ซึ่งอาจสร้างเสียงรบกวนได้หากคุณติดตั้งตู้แช่แข็งในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน
7. ความปลอดภัย
ตู้แช่ที่คุณเลือกอาจจะต้องมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อเครื่องเริ่มทำงานแบบผิดปกติ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างไฟดับ โปรดเลือกตู้แช่แข็งที่สามารถคงอุณหภูมิภายในได้แม้จะไม่มีพลังงานก็ตาม โดยเลือกให้สามารถคงอุณหภูมิภายในประมาณ 24 ชั่วโมง เป็นอย่างต่ำ
8. ฟังก์ชันต่าง ๆ
เทคโนโลยีการแช่แข็งอย่างรวดเร็ว จะช่วยลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็ว บางรุ่นยังมีไฟเตือนที่บอกคุณ หากอุณหภูมิภายในสูงเกินไป สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเก็บอาหารไว้ในสภาพดีเยี่ยม นอกจากนี้ไฟภายในตู้แช่แข็งเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์ เนื่องจากช่วยให้ง่ายต่อการจัดเรียงอาหาร หรือง่ายต่อการค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับคำแนะนำในการเลือกซื้อที่เราได้มอบให้คุณในวันนี้ เราหวังว่าทุกท่านคงจะได้ควาามรู้และนำวิธีที่เราได้บอกไปเลือกซื้อสินค้าที่ถูกใจกันนะคะ และอย่าลืมว่าควรมองหาสินค้าที่มีการรับประกันสินค้าด้วยนะคะ เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดในการขนส่งหรือการใช้งานเราก็จะสามารถส่งสินค้าไปเคลมได้นั่นเองค่ะ
วิธีดูแลรักษาตู้แช่แข็ง
1. การละลายน้ำแข็งสำหรับตู้แช่แข็ง
|
อย่าลืมการละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากกระบวนการละลายน้ำแข็งอาจต้องใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นควรละลายน้ำแข็งอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อยืดอายุการใช้งานตู้แช่แข็งของคุณ
การละลายน้ำแข็งจะช่วยให้คุณได้พื้นที่ภายในตู้กลับคืนมา เพราะหากปล่อยให้น้ำแข็งเกาะจนเต็มตู้ พื้นที่บรรจุอาหารของคุณก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ ช่วยให้เครื่องจะทำงานหนักจนเกินไป ยังทำให้ง่ายต่อการรักษาอุณหภูมิอีกด้วย การละลายน้ำแข็งสำหรับตู้แช่แข็งที่ไม่มีฟังก์ชันละลายน้ำแข็งอัตโนมัตินั้นเริ่มต้นจากถอดปลั๊กให้เรียบร้อย แล้วรอให้ช่องแช่แข็งละลายน้ำแข็ง โดยเปิดประตูออกให้กว้าง คุณอาจจะใช้พัดลมในการเร่งระยะเวลาช่วยอีกแรง เพราะอากาศจากพัดลมนั้น จะช่วยให้คุณสามารถขูดน้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย ด้วยมีดทื่อ ๆ หรือมีดขูดน้ำแข็งโดยเฉพาะก็ได้ค่ะ |
2. การทำความสะอาดสำหรับตู้แช่แข็ง
วิธีทำความสะอาดหลังละลายตู้แช่แข็งแล้ว ให้คุณใช้ผ้าชุบน้ำที่ผสมน้ำยาทำความสะอาดป้องกันแบคทีเรีย (ระวังน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน) แล้วเช็ดคราบสกปรกต่าง ๆ ออกให้เรียบร้อย จากนั้นใช้ผ้าขนหนูแห้งเช็ดตู้แช่ภายในให้สะอาด เพื่อไล่ความชื้น สิ่งสกปรกตกที่ค้าง และกำจัดกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์ออก จากนั้นจึงเสียบปลั๊กใหม่อีกครั้ง รอให้อุณหภูมิของตู้แช่แข็งเย็นจนถึงจุดที่เหมาะสมก่อน แล้วจึงค่อยนำอาหารลงไปแช่ภายหลัง

ความแตกต่างระหว่าง ตู้แช่แข็งทรงต่ำ กับ ตู้แช่แข็งทรงตั้ง
1. ตู้แช่แข็งทรงต่ำ

ข้อดี
|
ข้อพิจารณา
|
2. ตู้แช่แข็งทรงตั้ง หรือ ตู้แช่แข็งทรงสูง

ข้อดี
|
ข้อพิจารณา
|
ประโยชน์ของตู้แช่แข็ง
แต่ตู้เย็นที่คุณมีอยู่อาจจะไม่เพียงพอต่อการเก็บอาหารต่าง ๆ ทั้งยังไม่สามารถเก็บอาหารได้ในระยะยาวโดยที่ยังคงความสด และสารอาหารได้อย่างครบถ้วน แต่หากคุณมีตู้แช่แข็งซักเครื่องคุณจะหมดปัญหานี้ไปเลย เพราะตู้แช่แข็งมีประโยชน์มากมาย ทั้งยังเหมาะสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินนี้เป็นอย่างยิ่ง
- สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกสามารถแช่แข็งน้ำนมไว้ให้ลูกดื่มได้เป็นเวลา 3-6 เดือน หรือนานกว่านั้น
- ตู้แช่แข็งสามารถเก็บอาหารสดได้นาน อีกทั้งยังเก็บอาหารได้ทุกประเภท โดยที่คุณไม่ต้องกลัวเลยว่าอาหารจะเสื่อมสภาพหรือรสชาติและกลิ่นที่เปลี่ยนไป เพราะตู้แช่แข็งนั้นจะยังคงคุณภาพของอาหารไว้เหมือนเดิมทุกประการ รวมถึงสารอาหารต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน แต่คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะเก็บอาหารในตู้แช่แข็งอย่างถูกวิธี
- หากเกิดไฟดับตู้แช่แข็งที่มีอาหารอยู่เต็มนั้นสามารถเก็บรักษาความเย็นของอาหารต่อไปได้อีก 1 – 2 วัน ดังนั้นคุณหมดหวดเรื่องนี้ไปได้เลยค่ะ ไฟฟ้าคงไม่ดับนานขนาดนั้นอย่างแน่นอน แต่คุณมั่นใจด้วยว่าคุณพยายามเปิดตู้แช่แข็งเท่าที่จำเป็นที่สุดแล้วขณะที่ไฟดับ เพราะไม่เช่นนั้นความเย็นจะกระจายออกจากตู้แช่ทุกครั้งที่คุณเปิดมันออก
- อาหารที่ผ่านการแช่แข็งนั้น ไม่ได้ทำให้ปริมาณสารอาหารลดลงแต่อย่างใด หากถูกปรุงด้วยวัตถุดิบและส่วนประกอบที่มีคุณภาพ รวมทั้งผ่านกรรมวิธีการเก็บรักษาที่ถูกต้อง ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วงเรื่องสารอาหารที่คุณจะได้รับ เพราะยังคงคุณภาพไว้อย่างแน่นอน
เห็นไหมคะว่าตู้แช่แข็งมีประโยชน์อย่างมากเพราะสามารถจุอาหารได้จำนวนมากและยังให้ความเย็นได้ดีกว่าตู้เย็น จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการยืดอายุของอาหารได้ดีกว่าเช่นกัน ดังนั้นตู้แช่แข็งจะช่วยให้คุณอิ่มท้องได้ถึงแม้ว่าคุณไม่สามารถออกจากบ้านเป็นเวลาหลายวัน
บทสรุป
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับรีวิวและเนื้อหาข้อมูลต่าง ๆ ที่เราได้รวบรวมมาให้คุณได้อ่าน ที่ไม่ว่าจะเป็นประเภทของตู้แช่แข็ง ข้อดีข้อเสีย เคล็ดลับการใช้งาน และการคงสภาพของอาหารให้สดใหม่เสมอ รวมถึงวิธีการเลือกซื้อและการดูแลรักษาตู้แช่แข็ง เห็นถึงความสำคัญขนาดนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คน ก็คงเริ่มมีความรู้สึกว่าตู้แช่แข็งนั้นมีความจำเป็นขึ้นมาไม่มากก็น้อยนะคะ อย่าลืมว่าตู้แช่แข็งนั้นสามารถสามารถจุอาหารได้จำนวนมาก จึงทำให้คุณอิ่มท้อง แม้เกิดเหตุกรณีฉุกเฉินที่ไม่สามารถออกไปซื้ออาหารได้หลาย ๆ วัน