การแต่งหน้าจะช่วยเติมเต็มใบหน้าของเราให้ดูดีขึ้น ปัจจุบันมีเครื่องสำอางเยอะมากที่เราสามารถนำมาแต่งหน้าได้ แต่ไอเทมอย่างรองพื้น, บลัชออน, ลิปสติก, ดินสอเขียนคิ้วและมาสคาร่าเป็นไอเทมพื้นฐานที่ทุกคนต้องใช้ค่ะ ผู้เขียนมองว่าขั้นตอนในการแต่งหน้าสำคัญหมดทุกขั้นตอนเลย แต่ขั้นตอนการปกปิดสำคัญที่สุดเพราะมันจะเป็นตัววัดความสมบูรณ์แบบในการแต่งหน้า ซึ่งไอเทมที่จะใช้ในการปกปิดได้ดีที่สุดคือผลิตภัณฑ์รองพื้นค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนไม่ชอบใช้รองพื้นเลยค่ะเพราะมองว่ามันหนักผิวไปหน่อยเลยชอบที่จะใช้ “คุชชั่น” มากกว่าเพราะมันใช้งานง่ายกว่าและบางเบากว่าค่ะ วันนี้ผู้เขียนเลยถือโอกาสมาแนะนำคุชชั่นกันค่ะ
ใครที่ชอบใช้หรืออยากลองคุชชั่นก็ห้ามพลาดเลยเพราะรีวิวของเราเป็นรีวิวจริงค่ะ มีสินค้า 3 แบรนด์ที่เราทดลองใช้และถือเป็นคุชชั่นตัวโปรดของผู้เขียนด้วย หากตอนนี้พร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ

คุชชั่น (Cushion) คืออะไร เหมาะกับใคร ?
คุชชั่น (Cushion) เป็นรองพื้นเนื้อบางเบาที่บรรจุในตลับที่มีฟองน้ำค่ะ ในแพ็กเกจของคุชชั่นจะมีพัฟมาให้ด้วยเป็นพัฟที่ออกแบบมาให้เข้ากับเนื้อคุชชั่นทำให้เราใช้งานได้ง่ายมากขึ้นและถามจะไม่ต้องใช้มือในการเกลี่ยเลย สำหรับเรื่องของการปกปิดคุชชั่นให้การปกปิดบางเบาถึงปานกลางค่ะ ซึ่งจะออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่มีผิวแห้งกร้านเพราะคุชชั่นอัดแน่นไปด้วยส่วนผสมบำรุงผิว ในบางยี่ห้อมีการเติมมอยส์เจอไรเซอร์หลากหลายชนิดลงไปเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น หากคุณชอบแต่งหน้าลุคธรรมชาติหรือชอบสไตล์การแต่งหน้าแบบเมคอัพโนเมคอัพ (Makeup No Makeup) คุชชั่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และเหมาะสำหรับคุณแน่นอนค่ะ

หลายอาจจะสงสัยว่าคุชชั่นนั้นแตกต่างจากรองพื้นชนิดน้ำยังไง? แน่นอนว่าคำถามนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ เราขอตอบเลยว่าคุชชั่นมีลักษณะเกือบจะคล้ายกับรองพื้นชนิดน้ำเลยค่ะยกเว้นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ เพราะคุชชั่นจะมาในแพ็กเกจตลับขนาดกะทัดรัดส่วนรองพื้นชนิดน้ำมาในรูปขวดเป็นหลัก ส่วนเรื่องที่แตกต่างกันอีกหนึ่งอย่างคือประสิทธิภาพในการปกปิดค่ะ คุชชั่นจะให้การปกปิดบางเบาถึงปานกลางแต่รองพื้นชนิดน้ำจะให้การปกปิดแบบเต็มขั้นค่ะ
คุชชั่น แบรนด์ไหนดี เหมาะกับผิวคุณ?
Laneige Neo Cushion Matte คุชชั่น

ราคา 1,120 บาท*
Laneige Neo Cushion Matte เป็นคุชชั่นลูกรักของผู้เขียนเลยค่ะ ขออวยหน่อยเพราะใช้มาหลายตลับมาก อาจจะเปลี่ยนใจไปใช้แบรนด์อื่นบางแต่ก็กลับมาซื้อซ้ำอยู่ตลอดเลยค่ะเพราะขอเขาดี คุชชั่นจากลาเนจให้การปกปิดดีมากค่ะสามารถปกปิดริ้วรอยและจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากใช้งานแล้วจะทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เนื้อคุชชั่นมีความบางเบาสามารถระบายอากาศได้ดีและกันเหงื่อได้ ผู้เขียนมองว่าคุชชั่นตลับนี้เหมาะกับสภาพอากาศในไทยได้ดีเลยค่ะเพราะสามารถทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนและชื้นได้

คุณสมบัติที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุดเลยคือมันเป็นเนื้อแมตต์และเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันค่ะ แม้ว่าจะมีเหงื่อออกตลอดทั้งวันก็ยังเอาอยู่ ความดีงามของคุชชั่นที่หลายคนเกิดความประทับใจคือทุกอย่างเป็นไปตามคำเคลมของทางแบรนด์ พัฟผ่านการออกแบบมาอย่างดีเลยค่ะทำให้เราเกลี่ยคุชชั่นได้ง่าย ส่วนในเรื่องสีมีให้เลือกทั้งหมด 6 สีนะคะ แอบเลือกสีได้ยากนิดหน่อย ผู้เขียนเองก็ไปดูรีวิวจากยูทูปมาหลายคลิปก่อนซื้อจริงกลัวว่าใช้แล้วหน้าจะลอยเพราะสีค่อนไปทางขาวค่ะ
ผู้เขียนได้ซื้อ Laneige Neo Cushion Matte เบอร์ 21N มาใช้ค่ะเพราะเป็นสีที่เข้ากับผู้เขียนมากที่สุดต้องขออภัยในความเยินของคุชชั่นด้วยเพราะใช้บ่อยมากสภาพเลยไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ค่ะ ตอนซื้อผู้เขียนซื้อตอนโปรได้ทั้งตลับจริง รีฟิลและของแถมมากมายคุ้มมากเลยค่ะ หลังจากทาแล้วจะเห็นได้ว่าเป็นเนื้อแมตต์จริง ๆ แต่ผิวดูไม่แห้งเลย คุชชั่นสามารถปิดรอยกระและรอยสิวของผู้เขียนได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ หากทาเพิ่มก็สามารถปกปิดได้เพิ่มค่ะ แต่หากช่วงไหนที่ผิวลอกผู้เขียนไม่แนะนำนะคะเพราะมันเห็นขุยชัดมากต้องเติมความชุ่มชื้นอย่างหนักก่อนทาค่ะ
คลิปวีดีโอทดลองใช้จากเบสท์รีวิว
ข้อดี
- เนื้อคุชชั่นบางเบาทาแล้วไม่หนักผิวและให้การปกปิดได้ดี
- คุชชั่นกันเหงื่อได้และติดทนนานมาก ๆ เหมาะสำหรับคนผิวมันเยิ้ม
- คุชชั่นเป็นเนื้อแมตต์แต่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมาก
- พัฟคุชชั่นนุ่ม บรรจุภัณฑ์น่ารักและสามารถเปลี่ยนรีฟิลได้โดยไม่ต้องซื้อตลับใหม่
ข้อควรพิจารณา
- ไม่แนะนำสำหรับคนที่มีผิวแห้งหรือลอกเป็นขุย
- ยังคงมีส่วนผสมของน้ำหอม
ปริมาณ | 15 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 6 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF 42 PA+++ |
4U2 Skin Soft Matte Cushion คุชชั่น

ราคา 299 บาท*
4U2 Skin Soft Matte Cushion คุชชั่นเนื้อแมตต์แบรนด์ไทยที่กำลังมาแรงในโซเชียลค่ะ สำหรับข้อมูลที่ทางแบรนด์ให้มาคือตัวคุชชั่นเป็นคุชชั่นที่ปกปิดรอยสิว รอยดำและริ้วรอยได้ดี หลังจากใช้แล้วคุชชั่นจะปรับผิวให้กระจ่างใสมากขึ้นพร้อมกับช่วยให้ผิวเรียบเนียนค่ะ เฉดสีของคุชชั่นมีทั้งหมด 3 สีสามารถเลือกสีได้ตามสภาพผิวของตัวเองเลยค่ะ หลายคนบอกว่าเฉดสีน้อยแต่ผู้เขียนขอบอกเลยค่ะว่ากำลังพอดีเพราะสีที่ออกมาเหมาะกับสีผิวคนไทยมาก ๆ

คุชชั่นมาพร้อมกับ SPF50/PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดี เนื่องจากเนื้อคุชชั่นเป็นแบบแมตต์จึงเหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมันมากที่สุด คำเคลมที่ทำให้ผู้เขียนประทับใจมากคือคุชชั่นเขาเป็นสูตรวีแก้นค่ะ ไม่มีน้ำหอม พาราเบนและแอลกอฮอล์ แพ็กเกจก็น่ารักมินิมอลน่าใช้งานมาก ๆ
4U2 Skin Soft Matte Cushion เป็นคุชชั่นที่ผู้เขียนแกะกล่องรีวิวให้ดูกันเลยค่ะ เบอร์ที่ผู้เขียนเลือกคือ No.01 Ivory Matte นะคะเพราะเป็นคนที่มีผิวค่อนข้างขาว ตอนแรกทาไปแล้วผู้เขียนตกใจค่ะเพราะมันขาวมากจนผู้เขียนคิดว่ามันต้องเทาแน่ ๆ แต่พอเกลี่ยไปเกลี่ยมามันโอเคเลย สีผิวไม่ได้ลอยนะคะแต่อย่าลืมทาคอด้วย ในเรื่องการปกปิดสามารถปกปิดได้ดีเลยค่ะ ส่วนตัวแล้วมองว่าปกปิดได้ดีกว่า Laneige Neo Cushion Matte เลยแต่มันอาจจะดูหนากว่าลาเนจค่ะ คุชชั่นสามารถกันน้ำและเหงื่อได้ดีเลยค่ะ หากถามว่าคุชชั่นเหมาะกับใครมากที่สุดตอบเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่ต้องการการปกปิดและต้องการให้ผิวเรียบเนียนค่ะ
คลิปวีดีโอทดลองใช้จากเบสท์รีวิว
ข้อดี
- สามารถปกปิดจุดบกพร่องของผิวได้ดีมากเหมาะสำหรับคนที่มีรอยสิว
- ผิวแมตต์แต่ไม่ได้แห้งเลยและทำให้ผิวเรียบเนียนกว่าเดิม
- สามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- สีของคุชชั่นจะขาวมากในตอนแรกแต่จะค่อยกลมกลืนกับผิวเมื่อเกลี่ย
ปริมาณ | 10 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 3 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF50/PA+++ |
SASI With BT21 Shining Star Smooth Matte Cushion คุชชั่น

ราคา 199 บาท*
SASI With BT21 Shining Star Smooth Matte Cushion เป็นคุชชั่นราคาไม่แพงแต่แพ็กเกจน่ารักมากค่ะ บอกเลยว่าผู้เขียนขอให้คะแนนแพ็กเกจภายนอก 10 เต็ม 10 เลยเพราะเป็นคอลเลกชัน BT21 นั่นเองค่ะ ฟินิชลุคของคุชชั่นเป็นเนื้อแมตต์ค่ะเหมาะกับคนที่ผิวมันมาก ๆ สีของคุชชั่นมีให้เลือก 2 สีค่ะเป็นสีที่เหมาะกับคนที่มีผิวขาวเหลือง มาพร้อมกับค่ากันแดดที่ SPF 50 PA++++ ถือว่าสามารถปกป้องแสงแดดได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

นอกจากแพ็กเกจจะโดดเด่นแล้วสารบำรุงผิวที่มีในคุชชั่นก็ปังมากเหมือนกันค่ะเพราะมีไฮยาลูรอน 8 ชนิดที่ให้ความชุ่มชื้นและมีน้ำมันทีทรีเพื่อลดความมันของผิวค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าคุชชั่นจะติดทนนานและสามารถควบคุมความมันได้นาน 24 ชม. ผู้เขียนชอบคุชชั่นของศศิพอ ๆ กับ 4U2 Skin Soft Matte Cushion เลยค่ะ เมื่อเปรียบเทียบสีและเนื้อของคุชชั่น ผู้เขียนมองว่าเนื้อคุชชั่นของศศิบางกว่าและสีจะออกเหลืองกว่าด้วย แต่แน่นอนว่ามันปกปิดได้น้อยกว่า 4U2 ค่ะ
SASI With BT21 Shining Star Smooth Matte Cushion เป็นคุชชั่นที่แพ็กเกจน่ารักมาก ๆ เลยค่ะและราคาก็ไม่ได้แพงด้วย เราลองซื้อเบอร์ 01 Beige มาเพราะเบอร์ 2 อาจจะเข้มเกินไปสำหรับผู้เขียนค่ะ ตอนเปิดคุชชั่นออกมาแอบตกใจนิดหน่อยค่ะเพราะสีของฟองน้ำมันเข้มมาก แต่เมื่อทาแล้วก็โอเคค่ะแต่สีของคุชชั่นจะออกขาวเหลืองแต่ผู้เขียนมีผิวขาวอมชมพูค่ะเลยทาแล้วไม่เหมาะเท่าไหร่ เนื้อคุชชั่นมีความบางเบามาก ๆ เลยนะคะสามารถปกปิดได้ในระดับปานกลางแต่หากทาเพิ่มก็สามารถปกปิดได้เพิ่มค่ะ คุชชั่นกันน้ำได้ดีค่ะใครที่ผิวขาวเหลืองสามารถใช้ได้นะคะเพราะเหมาะมากและแมตต์ดีด้วย แต่พัฟเป็นสีขาวนะคะทุกคนอาจจะสกปรกง่ายหน่อย
คลิปวีดีโอทดลองใช้จากเบสท์รีวิว
ข้อดี
- คุชชั่นปรับการปกปิดได้ตามปริมาณในการใช้
- สามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้อย่างดีเหมาะสำหรับอากาศในไทย
- ควบคุมความมันได้ดีมากเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน
- เฉดสีของคุชชั่นเหมาะสำหรับสีผิวคนไทยมาก
ข้อควรพิจารณา
- พัฟที่แถมมาให้เป็นสีขาวสกปรกได้ง่ายและต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ
ปริมาณ | 10 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 2 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมัน |
ค่า SPF/PA | SPF50/PA++++ |
Jungsaemmool Essential Skin Nuder Longwear Cushion คุชชั่น

ราคา 1,350 บาท*
Jungsaemmool Essential Skin Nuder Longwear Cushion คุชชั่นเกาหลีที่ดังมาก ๆ และยังคงได้รับความนิยมในหมู่บล็อกเกอร์และเหล่าเมคอัพอาร์ตติสค่ะ สำหรับข้อมูลที่ทางแบรนด์ให้มาคือคุชชั่นเป็นเนื้อแมตต์แต่แมตต์แบบสุขภาพดี โดยรุ่นนี้จะตอบโจทย์กับอากาศในไทยและเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันและผิวผสมค่ะ ส่วนผสมหลักของคุชชั่นคือ Full Blooming Powder ที่สามารถช่วยควบคุมความมันได้ดีมาก ๆ และช่วยให้ผิวดูสวยมากขึ้นค่ะ

นอกจากจะมีส่วนผสมดังกล่าวแล้วคุชชั่นยังมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นอีกหลายชนิดซึ่งจะช่วยให้ผิวไม่แห้งระหว่างใช้คุชชั่นค่ะ คุชชั่นเนื้อเนียนนุ่มสามารถเกลี่ยและใช้งานได้ง่ายมากค่ะ ตลับของคุชชั่นมีความหรูหราสวยงามและน่าใช้งาน ใครที่ชอบคุชชั่นผิวสวยห้ามพลาดนะคะเพราะดีมาก
Jungsaemmool Essential Skin Nuder Longwear Cushion เป็นคุชชั่นระดับไฮเอนด์ที่เราอยากแนะนำค่ะ ถึงแม้ราคาจะสูงไปหน่อยแต่คุณภาพดีมากเลยค่ะบางคนถึงกับซื้อแล้วซื้อแล้วซื้ออีกค่ะ ผู้เขียนเองซื้อมาใช้แล้วค่ะคุชชั่นเนื้อแน่นนะคะปกปิดได้ดีเลยไม่ว่าจะเป็นรอยสิว รอยแดงหรือรอยดำก็เอาอยู่หมดค่ะ คุชชั่นติดทนได้ดีเลยไม่ติดแมสก์ด้วย ใครที่ชอบคุชชั่นเนื้อแน่นจากแบรนด์ดังแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- คุชชั่นใช้งานได้ง่าย ผิวสวยและไม่ระคายเคืองผิว
- ติดทนนานไม่เลอะแมสก์และควบคุมความมันได้ดีมาก
- พัฟฟองน้ำมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจับได้อย่างถนัดมือและเกลี่ยได้ง่าย
- เหมาะสำหรับอากาศในไทยมากและสามารถใช้ได้ทุกวัน
ข้อควรพิจารณา
- ราคาอาจจะสูงสักเล็กน้อย
ปริมาณ | 14 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 4 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF50+ /PA +++ |
Jovina Everyday Perfecting Cushion คุชชั่น

ราคา 619 บาท*
Jovina Everyday Perfecting Cushion คุชชั่นแบรนด์ไทยอีกหนึ่งแบรนด์ที่ปังเหมือนกันค่ะ เจ้าของแบรนด์คุชชั่นคือคุณแก้ม กชวรรณ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “แก้มกี้” สำหรับคุชชั่นตัวนี้คือดังมากนะคะในโลกโซเชียลบล็อกเกอร์รีวิวกันเยอะค่ะแต่ประสิทธิภาพคือเป็นที่ยอมรับค่ะ ฟินิชลุคของคุชชั่นเป็นแบบกึ่งแมตต์ค่ะ ดังนั้นเมื่อใช้แล้วหน้าจะไม่มันและไม่แห้งอย่างแน่นอน เทคโนโลยีที่ทางแบรนด์ใช้ Blurring Effect ค่ะ ช่วยเบลอผิวและเบลอรูขุมขนเมื่อใช้ทำให้ผิวดูสวยมากขึ้น
เนื้อคุชชั่นมีความบางเบาสามารถเกลี่ยได้ง่ายมากและไม่จับตัวเป็นก้อนค่ะ ภายในคุชชั่นมีสารให้ความชุ่มชื้นที่สามารถให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี ใครที่แพ้ง่ายสามารถใช้งานได้นะคะเพราะไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอม เฉดสีของคุชชั่นมีให้เลือก 6 สีค่ะและเป็นสีที่เหมาะกับผิวสาวไทยจริง ๆ ใครที่อยากผิวสวยผิวปังและอยากลองใช้คุชชั่นแบรนด์ไทยห้ามพลาดเลยนะคะ
Jovina Everyday Perfecting Cushion เป็นคุชชั่นที่ผู้เขียนไม่เคยซื้อมาใช้นะคะแต่ดูรีวิวบ่อยมาก ๆ เพราะเป็นคุชชั่นแบรนด์ไทยที่คนไทยชอบใช้ค่ะ จากรีวิวมากมายพบว่าคุชชั่นเนื้อฉ่ำมากให้ความแมตต์โกลว์เหมือนผิวสวยและสุขภาพดีเหมือนบำรุงมาอย่างดีเลยค่ะ ในเรื่องของการปกปิดคุชชั่นปกปิดได้ดีมาก ๆ ค่ะรอยสิวรอยแดงอะไรก็เอาอยู่หมดเลย แพ็กเกจก็น่ารักมีน้ำหนักเบาและพกพาง่ายด้วยห้ามพลาดเลยนะคะ
ข้อดี
- คุชชั่นให้การปกปิดได้ดีแต่ยังคงให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
- หลังจากทาแล้วสบายผิวมาก ๆ และทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น
- มีสารบำรุงผิวหลายชนิดให้ผิวแมตต์แต่ไม่แห้งกร้าน
- ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์คนที่แพ้ง่ายสามารถใช้งานได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวลอกหรือแห้งมาก
ปริมาณ | 15 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 6 เฉดสี |
ฟินิชลุค | กึ่งแมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF25/PA+++ |
RAN Bright Touch Cushion by Pom Vinij คุชชั่น

ราคา 399 บาท*
RAN Bright Touch Cushion by Pom Vinij เป็นอีกหนึ่งคุชชั่นที่กระแสกำลังมาค่ะและประสิทธิภาพก็ดีด้วย คุชชั่นแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ไทยเหมือนกับ Jovina Everyday Perfecting Cushion นะคะแต่แบรนด์ RAN จะเป็นแบรนด์ของเมคอัพอาร์ตติสชื่อดังอย่าง “คุณป้อม วินิจ” ตอนนี้ก็มี ไบร์ท นรภัทร เป็นพรีเซนเตอร์ค่ะ สำหรับข้อมูลที่ทางแบรนด์ให้มาคือคุชชั่นเป็นเนื้อแมตต์นะคะแต่ไม่แห้ง เมื่อใช้แล้วจะสบายผิวไม่หนักหน้าด้วยค่ะ
คุชชั่นจะโดดเด่นเพราะมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนจากเกาหลี 3 ชนิดที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว อีกทั้งทางแบรนด์ยังเคลมมาว่าคุชชั่นคุมมันได้นานและช่วยเบลอรูขุมขนให้ผิวเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น แพ็กเกจของคุชชั่นน่ารักมากนะคะและพกพาได้ง่ายมาก ๆ ด้วย ใครที่อยากได้คุชชั่นผิวสวยแบบไม่ต้องเซตแป้งเพิ่มแนะนำเลยค่ะ
สำหรับ RAN Bright Touch Cushion by Pom Vinij เป็นคุชชั่นที่ทางเราเคยซื้อแบบซองมารีวิวนะคะโดยสามารถไปรีวิวแบบเต็มได้ที่บทความคุชชั่นแบบซองเซเว่น (7-11) ค่ะ สำหรับประสิทธิภาพของคุชชั่นคือดีเลยค่ะเพราะเม็ดสีแน่น ปกปิดได้ปานกลางและบางเบาไม่หนักผิวเมื่อใช้เลย แต่คุชชั่นสามารถบิวท์สีเพิ่มได้เพื่อให้ได้การปกปิดที่มากขึ้นค่ะ ในเรื่องความมันคุชชั่นสามารถคุมมันได้ดีจริง ๆ ค่ะ ผิวไม่เยิ้มไม่มันระหว่างวันแน่นอน สาวไทยห้ามพลาดนะคะ
ข้อดี
- เนื้อสัมผัสของคุชชั่นบางเบา ไม่หนักผิวและปกปิดได้ในระดับกลาง ๆ
- มีส่วนผสมบำรุงผิวให้ความแมตต์แต่หน้าไม่แห้ง
- คุชชั่นมีเฉดสีโทนเหลืองทำให้เหมาะสำหรับผิวของสาวไทย
ข้อควรพิจารณา
- กันน้ำและเหงื่อได้ไม่ดีนักแต่หากไม่ทำกิจกรรมทางน้ำเลยก็สามารถใช้ได้ค่ะ
ปริมาณ | 15 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 3 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF 30/PA++++ |
Innisfree No-Sebum Powder BB Cushion คุชชั่น

ราคา 656 บาท*
Innisfree No-Sebum Powder BB Cushion คุชชั่นเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากในขณะนี้ค่ะ โดยความนิยมได้มาจากการที่แป้งมิเนอรัลลดความมันของอินนิสฟรีขายดีมากทำให้หลายคนอยากลองใช้คุชชั่นด้วย แน่นอนว่าคุชชั่นไม่ทำให้ผิดหวังค่ะโดยออกแบบมาให้เหมาะสำหรับผิวมัน จุดเด่นของคุชชั่นคือเป็นคุชชั่นบีบีแบบ No-Sebum ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ โดยทางแบรนด์ได้เคลมมาว่าสามารถปกปิดผิวและให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ได้ยาวนาน 48 ชั่วโมง
สำหรับคำเคลมเพิ่มเติมคือคุชชั่นสามารถดูดซับความมันส่วนเกินเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวมัน ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยผลิตภัณฑ์ได้รับการประเมินทางการแพทย์ผิวหนังแล้วและพบว่าอ่อนโยนต่อผิว ใครที่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ อีกทั้งในคุชชั่นยังมีส่วนผสมของน้ำชาเขียวสดและแพนทีนอลเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในขณะที่ให้การปกปิดแบบแมตต์อย่างเต็มที่ด้วยค่ะ
Innisfree No-Sebum Powder BB Cushion เป็นคุชชั่นที่ผู้เขียนชอบพอ ๆ กับ Laneige Neo Cushion Matte เลยค่ะ แต่ทั้ง 2 แบรนด์เป็นแบรนด์ย่อยของ Amorepacific เหมือนกันค่ะคุณภาพเลยคล้าย ๆ กัน ผู้เขียนมองว่าอินนิสฟรีสามารถควบคุมความมันได้นานกว่าลาเนจเล็กน้อย แต่ผู้เขียนชอบลาเนจมากกว่าเพราะบางเบากว่า ค่ากันแดดมากกว่าและให้ความธรรมชาติกว่าหน่อยค่ะ การออกแบบแพ็กเกจของทางแบรนด์คล้ายกันมากนะคะแต่ตลับของอินนิสฟรีจะเป็นแบบกลมค่ะ จุดที่อินนิสฟรีเหนือกว่าลาเนจคือมีสีให้เลือกมากกว่า 1 เฉดสีและเป็นสูตรที่ไม่มีน้ำหอมในขณะที่ลาเนจยังคงมีน้ำหอมอยู่ค่ะ หากถามว่าคุชชั่นอินนิสฟรีเหมาะกับใครมากที่สุดผู้เขียนว่าเหมาะกับคนที่มีผิวมันขั้นสุดค่ะเพราะคุมมันได้นานจริง ๆ
ข้อดี
- คุชชั่นคุมมันได้ดีมากและไม่ค่อยเป็นคราบระหว่างวัน
- มาพร้อมสารสกัดจากชาเขียวซิกเนเจอร์ของแบรนด์เพื่อบำรุงผิวไปในตัว
- คุชชั่นติดทนนานมากพร้อมล็อกผิวให้แมตต์ตลอดทั้งวัน
ข้อควรพิจารณา
- ตัวพัฟกินเนื้อคุชชั่นไปเยอะมากทำให้ค่อนข้างเปลือง
ปริมาณ | 14 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 7 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมัน |
ค่า SPF/PA | SPF29 PA++ |
Rom&nd Nu Zero Cushion คุชชั่น

ราคา 559 บาท*
Rom&nd Nu Zero Cushion คุชชั่นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจค่ะ จากข้อมูลที่ทางแบรนด์ให้มาคือคุชชั่นให้การปกปิดที่ดีมาก หลังจากใช้งานแล้วจะช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนค่ะ สูตรของคุชชั่นมีความติดทนนาน เนื้อสัมผัสมีความเป็นธรรมชาติและยังคงความเรียบเนียนเอาไว้โดยไม่ต้องทาซ้ำหลาย ๆ รอบค่ะ ผู้เขียนชอบแพ็กเกจมากค่ะเพราะเรียบ ๆ น่ารักดีตัวพัฟก็ออกแบบมาให้คล้ายกับหยดน้ำ ซึ่งตัวหยดน้ำที่ด้านบนทำให้สามารถทาบริเวณใต้ตาและร่องจมูกได้ง่ายมากขึ้น
เนื้อของคุชชั่นมีความบางเบาและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายมาก ฟินิชลุคของคุชชั่นเป็นแบบกึ่งแมตต์ค่ะ แทนที่จะทำให้ผิวดูฉ่ำวาวคุชชั่นของทางแบรนด์จะให้ผิวดูโกลว์สุขภาพดีและเป็นธรรมชาติมากกว่าค่ะ ในแง่ของการปกปิดคุชชั่นจะให้การปกปิดระดับบางเบาถึงระดับปานกลาง สามารถปกปิดจุดด่างดำได้ประมาณหนึ่งและช่วยเบลอรูขุมขนด้วยค่ะ ใครที่ชอบคุชชั่นที่ให้ความเป็นธรรมชาติต้องห้ามพลาดนะคะ
Rom&nd Nu Zero Cushion เป็นคุชชั่นคู่ใจของใครหลาย ๆ คนค่ะ ผู้เขียนชอบซื้ออายแชโดว์จาก Rom&nd แต่ไม่เคยซื้อคุชชั่นมาใช้ค่ะ จุดเด่นของคุชชั่นคือให้ฟินิชแบบกึ่งแมตต์ผิวดูเป็นธรรมชาติ เฉดสีมีให้เลือก 5 สีค่ะตัวสีจะค่อนไปทางขาวค่ะ แต่ก็มีสีแทนให้เราได้เลือกด้วยค่ะตอบโจทย์คนที่มีผิวสองสีได้ดีเลยทีเดียวค่ะ สำหรับสารบำรุงผิวในคุชชั่นมีกรดไฮยาลูโรนิกให้ความชุ่มชื้นด้วยนะคะคนที่มีผิวผสมสามารถใช้ได้เลย
ข้อดี
- มีสารบำรุงผิวเพื่อให้ความชุ่มชื้น ผิวผสมและผิวมันสามารถใช้ได้
- พัฟคุชชั่นเป็นพัฟรูปทรงหยดน้ำเข้าถึงบริเวณร่องลึกได้ง่าย
- ให้ความเป็นธรรมชาติกับผิวได้ดีมาก ๆ ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- สีของคุชชั่นจะดรอปลงในระหว่างวัน
ปริมาณ | 15 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 5 เฉดสี |
ฟินิชลุค | กึ่งแมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF24/PA+++ |
Sulwhasoo Perfecting Cushion คุชชั่น

ราคา 2,070 บาท*
Sulwhasoo Perfecting Cushion เป็นคุชชั่นที่ตีคู่มากับ Jungsaemmool Essential Skin Nuder Longwear Cushion เลยค่ะเพราะขายดีเหมือนกันและเป็นแบรนด์เกาหลีระดับไฮเอนด์เหมือนกันด้วย สำหรับคุชชั่นจากโซลวาซูเป็นตัวเลือกระดับคุชชั่นระดับพรีเมียมค่ะเพราะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ผลลัพธ์ที่ได้รับก็ให้ความคุ้มค่ากับผู้ใช้ได้ดีเลย คุชชั่นจากทางแบรนด์เป็นคุชชั่นบำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มและบางเบาซึ่งจะไม่หนักผิวจนเกินไปเมื่อใช้งาน
ถึงแม้คุชชั่นจะบางเบามากแต่ก็ให้การปกปิดที่มีคุณภาพ หลังจากใช้ผิวจะเนียนกริบเหมือนไม่เคยมีรอยสิวหรือกระมาก่อนเลยค่ะ อันนี้ผู้เขียนขอการันตีเลยว่าปังจริง ๆ เนื้อคุชชั่นสามารถซึมซาบสู่ผิวได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เมคอัพติดทนตลอดวัน คุชชั่นมาใน 5 เฉดสีที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับผิวคนเอเชียโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันด้วย
Sulwhasoo Perfecting Cushion เป็นคุชชั่นที่ปรับปรุงมาจากรุ่น Sulwhasoo Snowise Brightening Cushion ค่ะ ผู้เขียนเคยใช้ Snowise มาก่อนแต่รุ่นนี้ดีกว่า Snowise มากเพราะสีธรรมชาติมากกว่าและให้การปกปิดที่ดีกว่า ฟินิชลุคของคุชชั่นรุ่นที่เรารีวิวจะแมตต์นะคะแต่แมตต์ไม่แห้งเลยผิวยังสวยอยู่ คุชชั่นสามารถกันน้ำและเหงื่อได้ดีมาก ๆ เลยและตัวสีของคุชชั่นจะไม่ดรอประหว่างวันด้วย แต่ถึงแม้ทางแบรนด์จะเคลมมาว่าเป็นคุชชั่นที่เหมาะกับอากาศร้อนของเอเชียแต่ทางแบรนด์น่าจะอิงจากเกาหลีเป็นหลักค่ะ เพราะระหว่างวันยังคงมันอยู่ต้องทัชอัพบ้างค่ะ
ข้อดี
- เนื้อคุชชั่นบางเบาให้ความรู้สึกสบายผิวทุกครั้งที่ใช้
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมออย่างเป็นธรรมชาติและให้การปกปิดปานกลางขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้
- ฟินิชลุคเป็นกึ่งแมตต์ทำให้ผิวดูสวยและดูสุขภาพดี
ข้อควรพิจารณา
- มีส่วนผสมของน้ำหอม
- อาจรู้สึกเหนียวเล็กน้อยหลังจากทาควรจะเซตด้วยแป้ง
ปริมาณ | 15 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 5 เฉดสี |
ฟินิชลุค | กึ่งแมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF 50+/PA+++ |
Etude House Double Lasting Cushion Glow คุชชั่น

ราคา 801 บาท*
Etude House Double Lasting Cushion Glow เป็นคุชชั่นเกาหลีที่ดังมานานแล้วค่ะและเป็นแบรนด์แรก ๆ เลยที่ผลิตคุชชั่นออกมา คุชชั่นมีฟินิชลุคแบบโกลว์นะคะเหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งและคนที่อยากมีผิวฉ่ำแบบกระจกค่ะ ทางแบรนด์เคลมมานะคะว่าเมื่อทาแล้วคุชชั่นจะทำให้ผิวเรียบเนียน ฉ่ำวาวแต่ไม่มีความมันพร้อมการปกปิดแบบเต็มพิกัด โดดเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยี Double-fix ทำให้คุชชั่นติดทนนานตลอดทั้งวันค่ะ
เนื้อสัมผัสของคุชชั่นถือว่าโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่น ๆ ค่ะเพราะมี Triple Moisture Complex โดยจะมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก เซราไมด์ ละแพนทีนอลเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เนื้อคุชชั่นมีความบางเบาเหมือนไม่ได้ทาเลยค่ะ ตลับคุชชั่นน่ารักมากเป็นสีชมพู ใครที่ผิวแห้งห้ามพลาดเลยนะคะเพราะคุชชั่นมีสารบำรุงจัดเต็มจริง ๆ
Etude House Double Lasting Cushion Glow เป็นคุชชั่นแบบโกลว์เพียงตัวเดียวในรายการของเราค่ะ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อนคนไทยจึงนิยมใช้คุชชั่นเนื้อแมตต์มากกว่าผู้เขียนเลยไม่ได้แนะนำคุชชั่นแบบโกลว์นัก แต่คุชชั่นรุ่นนี้เป็นคุชชั่นที่ใช้ได้ในไทยค่ะเพราะเป็นเนื้อโกลว์ที่มีความมันน้อยมาก เนื้อคุชชั่นเกลี่ยเข้าสู่ผิวได้ง่ายแต่คุชชั่นให้การปกปิดได้น้อยนะคะเหมาะสำหรับคนที่ชอบลุคแบบเมคอัพโนเมคอัพค่ะ หากถามว่าคุชชั่นจากทางแบรนด์เหมาะกับใครผู้เขียนมองว่าเหมาะกับคนผิวแห้งและผิวผสมค่ะ หากใครที่มีผิวมันอาจจะเลือกรุ่นแมตต์แทนหรือจะใช้ Innisfree No-Sebum Powder BB Cushion ก็ได้ค่ะเพราะเหมาะกับผิวมันมากกว่า
ข้อดี
- คุชชั่นมาพร้อมสารให้ความชุ่มชื้นเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง
- ฟินิชลุคของคุชชั่นเป็นแบบฉ่ำวาวให้ผิวสวยดูโกลว์สุขภาพดีเมื่อใช้
- มาพร้อมค่ากันแดด SPF50+/PA+++ สามารถป้องกันแสงแดดได้ดีมาก
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของน้ำหอม
ปริมาณ | 15 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 7 เฉดสี |
ฟินิชลุค | โกลว์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF50+/PA+++ |
Barenbliss True Beauty Inside Cushion คุชชั่น

ราคา 439 บาท*
Barenbliss True Beauty Inside Cushion คุชชั่นน้องใหม่ที่ขายดีมากเหมือนกันค่ะ ผู้เขียนชอบแพ็กเกจมากค่ะเพราะดูน่ารักน่าใช้งาน สำหรับคุณสมบัติตามข้อมูลที่ทางแบรนด์มให้มาคือคุชชั่นให้ลุคแมตต์ หลังทาแล้วผิวจะเรียบเนียนและติดทนนาน ตัวคุชชั่นไม่เพียงแค่ปกปิดปัญหาผิวหน้าเท่านั้น เพราะผลิตภัณฑ์ยังมีส่วนผสมบำรุงผิวอย่าง Korean Miracle Bloom™ Essence โดยมีสารสกัดจากดอกไม้เกาหลี 5 ชนิด ได้แก่ดอกชบา, ดอกแมกโนเลีย, ดอกคาโมมายล์, ดอกคามิเลียและดาวเรืองค่ะ
ดอกไม้ทั้ง 5 ชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อปกป้องและบำรุงผิว สำหรับใครที่ชอบให้ผิวดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ คุชชั่นตัวนี้ก็คุ้มค่าที่จะเลือกซื้อค่ะ จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างคือคุชชั่นมีความสามารถในการกันเหงื่อและกันน้ำทำให้เมคอัพไม่หลุดลอกง่ายแม้เหงื่อออก ราคาคุชชั่นไม่ได้แพงมากนะคะมีสีให้เลือก 7 สีเป็นสีที่เหมาะกับคนเอเชียอย่างเรา ๆ ค่ะ
Barenbliss True Beauty Inside Cushion เป็นคุชชั่นแบบ ผ่านการทดสอบอาการแพ้ (Dermatologist) และ ไม่ทดสอบกับสัตว์ (Cruelty Free) ที่ทุกคนต้องลองใช้ค่ะ เนื้อของคุชชั่นมีความบางเบามากและเกลี่ยง่าย จุดที่ผู้เขียนชอบเลยก็คือพัฟที่ทางแบรนด์ให้มาค่ะเพราะออกแบบมาได้ดีมากสามารถเกลี่ยคุชชั่นได้ทุกมุมของใบหน้าค่ะ เนื้อคุชชั่นมีความแมตต์ก็จริงแต่ไม่ทำให้ผิวแห้งเลย สำหรับการปกปิดคุชชั่นปกปิดได้ในระดับกลาง ๆ นะคะทำให้ได้งานผิว ใครที่ชอบให้ผิวแมตต์แบบสวย ๆ ต้องห้ามพลาดค่ะ
ข้อดี
- คุชชั่นติดทนนานตลอดทั้งวัน สามารถกันน้ำและเหงื่อได้ดีมาก
- มีส่วนผสมบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้นกับผิวในระหว่างการทาคุชชั่น
- คุชชั่นมีกลิ่นหอม แพ็กเกจสวยทำให้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น
- พัฟออกแบบมาเป็นอย่างดีนุ่มและเกลี่ยคุชชั่นเข้าผิวได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ปกปิดได้น้อยเหมาะสำหรับคนที่ชอบลุคธรรมชาติ
ปริมาณ | 12 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 7 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF 45/PA+++ |
Cute Press Bye Bye Oil Cushion Foundation คุชชั่น

ราคา 315 บาท*
Cute Press Bye Bye Oil Cushion Foundation คุชชั่นที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่เปิดตัวค่ะ ปีนี้ปี 2023 แล้วคุชชั่นก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ค่ะ คุชชั่นจากทางแบรนด์เป็นสูตรควบคุมความมัน มาพร้อม SPF 50 PA+++ ที่นอกจากคุมมันแล้วยังสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบีได้ด้วย การออกแบบคุชชั่นของทางแบรนด์คือออกแบบมาเพื่อเอาใจสาว ๆ และสภาพอากาศในเมืองไทยเป็นที่สุด คุชชั่นจากทางแบรนด์เหมาะสำหรับคนผิวมันโดยตรงเพราะสามารถกันเหงื่อและกันน้ำได้
ทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อใช้แล้วจะทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและสวยอย่างเป็นธรรมชาติ เนื้อคุชชั่นของทางแบรนด์มีความบางเบา เกลี่ยง่าย แห้งเร็วและให้ผิวสวยเรียบเนียนได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ใครที่อยากรู้ว่าจริงไหมต้องลองเท่านั้นนะคะ สำหรับเฉดสีคุชชั่นมีให้เลือกถึง 4 เฉดสีสามารถเลือกตามสีผิวของแต่ละคนเลยค่ะ
Cute Press Bye Bye Oil Cushion Foundation เป็นคุชชั่นที่ตลับสวยและน่ารักมาก ๆ ค่ะ แน่นอนว่าคิวท์เพรสเป็นเครื่องสำอางที่คนไทยชอบซื้อมาเพราะประสิทธิภาพดีและมีราคาไม่แพงค่ะ แน่นอนว่าคุชชั่นก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมค่ะ คุชชั่นสามารถปกปิดรอยได้ดีมากเลยทีเดียวค่ะ แต่เนื้ออาจจะหนาไปนิดจึงตอบโจทย์คนที่ต้องการปกปิดได้ดีค่ะ เฉดสีที่มีให้เลือกเป็นเฉดสีที่เหมาะกับผิวสาวไทยมากห้ามพลาดเลยค่ะ
ข้อดี
- เนื้อคุชชั่นสามารถปกปิดรอยสิวและรอยแดงได้ดี
- สามารถควบคุมความมันได้นานและทำให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น
- คุชชั่นหนึ่งตลับใช้งานได้นานพอสมควรเพราะในแต่ละครั้งใช้คุชชั่นน้อยมาก
ข้อควรพิจารณา
- ยังไม่มีรีฟิลคุชชั่นไว้เปลี่ยน
ปริมาณ | 12 กรัม |
---|---|
เฉดสีที่มี | 4 เฉดสี |
ฟินิชลุค | แมตต์ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ค่า SPF/PA | SPF 50 /PA+++ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้อคุชชั่นให้เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง
1. ฟินิชลุค (Finish look)
ปกติแล้วคุชชั่นจะมีฟินิชลุคให้เลือก 3 แบบค่ะ ในการเลือกซื้อนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของตัวคุณเองว่าคุณต้องการลองให้ผิวเป็นรูปแบบไหน ซึ่งฟินิชลุคทั้ง 3 แบบก็คือแบบโกลว์ (Glow) ธรรมชาติ (Natural) และแบบแมตต์ (Matte) โดยทางเราได้รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วค่ะว่าทั้ง 3 แบบแตกต่างกันอย่างไร ต่อไปเราไปดูความแตกต่างของฟินิชลุคแต่ละประเภทกันเลยค่ะ
|
โกลว์หรือดิวอี้ (Glow / Dewy)สำหรับใครที่ผิวแห้งหรือไม่ชอบลุคแต่งหน้าที่แมตต์ ทางเราขอแนะนำดิวอี้ฟินิช (Dewy Finish) ค่ะ เพราะหลังจากใช้แล้วผิวจะดูสวย เงางามและไม่รู้สึกแห้งตึง นอกจากนี้ดิวอี้ฟินิชยังช่วยให้เรามีผิวฉ่ำน้ำ แม้จะทาทั้งวันทั้งคืนผิวหน้าก็ยังดูชุ่มชื่นอยู่เสมอค่ะ หากใครติดตามวงการการแต่งหน้าของเกาหลีจะรู้ว่าลุคแบบดิวอี้ฟินิชได้รับความนิยมมาก แต่สภาพอากาศบ้านเขามันค่อนข้างแห้งค่ะทำให้คุชชั่นแบบดิวอี้ฟินิชเหมาะกับผิวของคนเกาหลี ส่วนตัวแล้วผู้เขียนคิดว่าดิวอี้ฟินิชจะทำให้ผิวดูชุ่มชื้นและดูอ่อนเยามากขึ้น แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีผิวมันและไม่เหมาะกับอากาศบ้านเราเท่าไหร่ แต่หากทำงานในห้องแอร์ไม่ได้ออกไปไหนเลยผู้เขียนว่าก็สามารถใช้ได้อยู่ค่ะ |
|
ธรรมชาติหรือกึ่งแมตต์ (Natural / Semi-Matte)ฟินิชลุคแบบธรรมชาติหรือกึ่งแมตต์ (Natural / Semi-Matte) เป็นฟินิชลุคที่อยู่ระหว่างโกลว์และแมตต์ค่ะ แน่นอนว่าฟินิชลุคแบบนี้ได้รับความนิยมมาก ๆ แต่ยังมีขายแค่ไม่กี่แบรนด์ค่ะ เพราะส่วนใหญ่คนไทยจะชอบใช้แบบแมตต์มากกว่า ฟินิชลุคแบบธรรมชาติหรือกึ่งแมตต์จะใช้ได้กับเกือบทุกคนและทุกสภาพผิวเลยค่ะ แต่จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดาและผิวผสมมากที่สุด |
|
แมตต์ (Matte)คุชชั่นเนื้อแมตต์เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมาก ๆ และเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับใครก็ตามที่ต้องการหลีกเลี่ยงความมันวาวหรือมันเยิ้มค่ะ โดยคุชชั่นเนื้อแมตต์จะค่อนข้างติดทนนานและลดความมันบนผิวได้ดี ด้วยเหตุผลนี้คุชชั่นเนื้อแมตต์จึงกลายเป็นไอเทมที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีผิวมัน แต่จะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งเพราะคุชชั่นเนื้อแมตต์อาจจะไปเน้นผิวที่แห้งและทำให้เกิดขุยที่ผิวค่ะ |
2. เช็กประเภทของผิวของตัวเอง
ก่อนการซื้อคุชชั่นเราจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ประเมินประเภทผิวของตัวเองแล้ว แน่นอนว่าประเภทผิวนั้นมีหลายประเภทค่ะแต่ประเภทผิวหลัก ๆ ได้แก่ผิวมัน ผิวแห้งและผิวผสมค่ะ เรามาเริ่มที่ผิวมันกันก่อนผิวมันเป็นสภาพผิวที่มักจะมีรูขุมขนกว้าง (โดยเฉพาะบริเวณทีโซน) ตัวผิวจะมีความมันตลอดทั้งวัน ส่วนคนที่มีผิวแห้งจะมีรูขุมขนที่เล็กจนแทบมองไม่เห็น ผิวของคนผิวแห้งจะไม่มันวาวเลยแต่มักจะลอกได้ง่าย ส่วนผิวผสมนั้นจะมีผิวแห้งบริเวณกรอบนอกของหน้าแต่ที่บริเวณทีโซนผิวจะมันมากค่ะและเป็นประเภทผิวที่เลือกซื้อคุชชั่นได้ยากที่สุด
ตามที่เราได้บอกไว้ค่ะคุชชั่นส่วนใหญ่ออกแบบมาเพื่อผิวที่แห้งและมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่มาก สำหรับคนที่มีผิวเอนเอียงไปทางผิวมันเราขอแนะนำให้เลือกคุชชั่นแบบแมตต์หรือกึ่งแมตต์ ส่วนผิวแห้งให้เลือกคุชชั่นแบบโกลว์เพื่อเติมความชุ่มชื้นค่ะ สำหรับผิวผสมอันที่จริงสามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบค่ะแต่ต้องเช็กสภาพผิวดี ๆ หน่อยโดยอาจจะเลือกเป็นแบบกึ่งแมตต์ก็ได้เพราะจะช่วยควบคุมความมันและไม่ทำให้ผิวแห้งด้วย
3. เลือกเฉดสีของคุชชั่นให้เข้ากับสีผิว
ในการเลือกคุชชั่นสิ่งสำคัญคือต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสีใกล้เคียงกับสีผิวที่ใบหน้าของเราค่ะ สีของคุชชั่นที่สว่างเกินไปจะทำให้หน้าขาวและดูลอยขึ้น ในทางกลับกันหากเลือกคุชชั่นที่มีสีเข้มเกินไปมักจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำค่ะ แน่นอนว่าการจับคู่สีมีผลอย่างมากต่อการแต่งหน้า ดังนั้นให้เลือกสีของคุชชั่นอย่างระมัดระวัง สิ่งสำคัญเลยก็คือควรจับคู่สีรองพื้นให้เข้ากับสีผิวของตัวคุณเองโดยเฉพาะผิวบริเวณขอบระหว่างใบหน้าและลำคอค่ะ ในการซื้อคุชชั่นควรหลีกเลี่ยงการเทสสีคุชชั่นที่แขนหรือหลังมือเพราะสีจะเพี้ยนได้ง่าย เราแนะนำให้ลองทาคุชชั่นที่ลำคอแล้วรอให้คุชชั่นเซตตัว หากไม่สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างผิวคอจริงกับส่วนที่ทาคุชชั่นแปลว่าสีของคุชชั่นสีนั้นแหละค่ะที่เหมาะกับคุณ
4. ประสิทธิภาพในการกันน้ำและกันแดด
คุณสมบัติการกันน้ำและเหงื่อสำคัญมากในการเลือกซื้อคุชชั่นค่ะเพราะมันจะส่งผลต่อความคิดทนในการแต่งหน้า คุชชั่นที่เคลมมาว่ากันน้ำ กันเหงื่อและกันความมันจะมีประสิทธิภาพดีมากและติดทนนานค่ะ หากถามว่าเราจะเช็กได้ยังไงว่าคุชชั่นที่ซื้อกันน้ำไหม ? ทางเราอยากแนะนำให้อ่านรายละเอียดผลิตภัณฑ์ให้ละเอียดถี่ถ้วน นอกจากนี้ยังสามารถดูรีวิวสินค้าจากผู้ซื้อคนก่อน ๆ ได้อีกด้วยค่ะ

นอกจากการกันน้ำแล้วควรเลือกคุชชั่นที่มีกันแดดในตัวด้วยค่ะ เพราะจะช่วยปกปิดพร้อมป้องกันแดดได้ในผลิตภัณฑ์อันเดียว แต่หากคุณต้องการประสิทธิภาพในการกันแดดเพิ่มก็สามารถทาครีมกันแดดก่อนใช้คุชชั่นได้ ขอบอกเลยว่าค่า SPF เป็นสิ่งที่สำคัญมากปกติแล้วผลิตภัณฑ์ความงามทั่วไปมักจะให้ความสำคัญกับการปกป้องผิว คุชชั่นที่มีค่ากันแดดสามารถทำให้ผิวของคุณกระจ่างใสขึ้นพร้อมทั้งปกป้องรังสี UV ไปพร้อม ๆ กันได้ ในการเลือกค่ากันแดดให้ปรับค่า SPF/PA ของคุชชั่นให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF/PA สูงไว้ก่อนเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหมองคล้ำค่ะ
เคล็ดลับในการใช้คุชชั่นและวิธีทำความสะอาดพัฟคุชชั่น
คุชชั่นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ง่ายมากค่ะและมีวิธีการที่ไม่ซับซ้อน แต่เพื่อรักษาสภาพผิวเอาไว้เราควรใช้สกินแคร์ก่อนลงคุชชั่นทุกครั้ง โดยอาจจะใช้สกินแคร์พื้นฐาน เช่น โทนเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์ก็พอเพราะไอเทมทั้งสองอย่างนี้จะทำให้รองพื้นติดทนนานบนผิวนั่นเองค่ะ สำหรับใครที่ยังเป็นมือใหม่อยู่ด้านล่างนี้เราจะอธิบายวิธีใช้คุชชั่นกันค่ะ
- หลังจากเตรียมผิวหน้าแล้วให้ใช้พัฟกดคุชชั่นเบา ๆ
- ใช้นิ้วแตะพัฟเพื่อจัดตำแหน่งมือ จากนั้นให้นำคุชชั่นไปแตะที่หลังฝาพัฟก่อนค่ะ วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้คุชชั่นจับตัวเป็นก้อน
- ตบพัฟเบา ๆ บนใบหน้าวิธีนี้จะทำให้คุชชั่นยึดติดกับผิวได้ดีขึ้นและทำให้เมคอัพติดทนนาน
- หลังจากทาคุชชั่นแล้วไม่จำเป็นต้องทาแป้งผสมรองพื้นเพิ่ม แต่ให้ทาแป้งโปร่งแสงเพื่อเซตผิวให้เข้าที่ก็พอค่ะ หลังจากนั้นก็แต่งหน้าขั้นตอนต่อไปได้เลย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับวิธีใช้คุชชั่นง่ายมากเลยใช่ไหมคะ แต่หลังจากใช้คุชชั่นไปแล้วเราก็ควรจะเปลี่ยนหรือทำความสะอาดพัฟที่ใช้ทาคุชชั่นเป็นประจำ เพราะปริมาณน้ำของรคุชชั่นจะซึมเข้าไปในพัฟและฟองน้ำทำให้แบคทีเรียเกิดขึ้นได้ ทางเราอยากแนะนำให้ทำความสะอาดฟองน้ำและพัฟสัปดาห์ละครั้งแล้วเช็ดให้แห้งค่ะ แต่หากใครที่ไม่อยากทำความสะอาดก็สามารถซื้อพัฟอันใหม่ได้ตามสะดวกนะคะแต่บางแบรนด์ไม่ได้มีขายพัฟแยกนะคะ การซื้อพัฟที่ไม่ใช่ของแบรนด์คุชชั่นเป็นทางเลือกที่ไม่ดีเลยค่ะเพราะอาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการปกปิดน้อยลง ปกติแล้วพัฟที่แต่ละแบรนด์ออกแบบมาจะเป็นพัฟที่ผ่านการคิดค้นมาแล้วว่าเหมาะที่จะใช้กับคุชชั่นและทำให้คุชชั่นมีประสิทธิภาพมากที่สุด