สำหรับสาว ๆ การนอนดึกนั้นเป็นเรื่องปกติมากเพราะเวลากลางคืนที่เงียบสงบเป็นเวลาเหมาะสมสำหรับการหาความสุขให้ตัวเอง แน่นอนว่ากิจกรรมที่เรามักจะทำในเวลากลางคืนมักจะเป็นการเล่นเกม ช้อปปิ้งออนไลน์ แชตกับเพื่อน ๆ ผ่านออนไลน์หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข แต่บางวันคุณอาจจะต้องตื่นมาพร้อมกับความตกใจเพราะการนอนดึกเกินไปจนทำให้ผิวของคุณเกิดความโทรมและหมองคล้ำได้ แน่นอนค่ะว่ากับใบหน้าเราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ง่ายเพราะมีสกินแคร์และมาสก์มากมายให้เราได้เลือก แต่ในส่วนของรอยคล้ำใต้ดวงตาที่ดูคล้ายเหมือนหมีแพนด้านั้นต้องใช้ “อายครีม (Eye Cream)” เท่านั้นค่ะ

อายครีมหรือครีมบำรุงรอบดวงตาถือเป็นไอเทมที่ดีที่สุดเลย เพราะถูกออกแบบมาเพื่อปรนนิบัติผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ หลายคนคงอาจจะไม่เคยสังเกตว่าผิวรอบดวงตามีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกับผิวส่วนอื่นของใบหน้า ผิวส่วนนี้จะบอบบางละเอียดอ่อนและเกิดริ้วรอยได้ง่ายมาก ดังนั้นการใช้อายครีมจึงจำเป็นมากเลยทีเดียวค่ะเพราะหากใช้อย่างต่อเนื่องจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ สำหรับใครที่กำลังมองหาอายครีมดี ๆ อยู่ก็ห้ามพลาดเพราะเราจะแนะนำอายครีมกันถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย
อัปเดตปี 2023 : ในปีนี้เราได้ทำการอัปเดตความรู้เรื่องอายครีมใหม่ ๆ อัปเดตคำแนะนำในการเลือกซื้อและทำการอัปเดตสินค้า โดยสินค้าที่เราเลือกมาใหม่จะมีตั้งแต่ราคาถูก ราคากลาง ๆ ไปจนถึงอายครีมระดับไฮเอนด์เพื่อให้ผู้อ่านได้มีแนวทางในการเลือกซื้อที่มากยิ่งขึ้น โดยทางเราได้ทำการเปรียบเทียบ บอกข้อดีและข้อควรพิจารณาของสินค้าแต่ละชิ้นเพื่อช่วยในการตัดสินใจของทุกคน หากมีอะไรเพิ่มเติมทางเราจะมาอัปเดตกันอีกครั้ง
อายครีม (Eye Cream) หรือครีมทารอบดวงตา คืออะไร ?
อายครีมเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งที่มีหลากหลายรูปแบบให้เราได้เลือกทั้งรูปแบบน้ำ เนื้อครีม เนื้อเจล ฯลฯ โดยผลิตภัณฑ์นี้ออกแบบมาเพื่อใช้ทาเพื่อแก้ไขปัญหารอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาถุงใต้ตา, รอยคล้ำใต้ดวงตา, ริ้วรอย และเส้นริ้วต่าง ๆ เมื่อใช้แล้วจะช่วยทำให้ผิวรอบ ๆ ดวงตาดูดีขึ้นได้ แต่แน่นอนว่าเราจำเป็นที่จะต้องใช้อย่างต่อเนื่องและเป็นประจำเพื่อให้อายครีมสามารถทำงานอย่างเต็มที่นั่นเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่าเราสามารถใช้ครีมสำหรับใบหน้าทารอบดวงตาได้หรือไม่ ? เราขอบอกว่าสามารถทาได้แต่ไม่สามารถทำให้ผิวรอบดวงตาดูดีขึ้นเพราะอายครีมจะมีส่วนผสมเฉพาะออกแบบมาเพื่อบำรุงผิวรอบดวงตาเท่านั้นค่ะ
เราควรเริ่มใช้อายครีม เมื่อไหร่ดี ?
ไม่มีการกำหนดเวลาสำหรับการเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงรอบตาค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละคน อย่างที่ทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตานั้นมีหลากหลายยี่ห้อมาก ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกซื้อแบบไหนค่ะ
ส่วนเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะของอายครีม ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ครีมลดเลือนริ้วรอยมักจะมีคำแนะนำให้ใช้ในช่วงอายุ 25 ปี ขึ้นไป เพราะในช่วงอายุนี้เรามักจะเห็นสัญญาณแรกของริ้วรอยที่กำลังเริ่มต้นขึ้น ซึ่งปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญด้านผิวจะแนะนำให้เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก่อนที่ริ้วรอยจะเกิดขึ้น นั่นเป็นเพราะว่าการป้องกันง่ายกว่าการแก้ไขนั่นเองค่ะ
สำหรับครีมทารอบดวงตาก็เช่นกัน หากคุณเล็งเห็นถึงปัญหาว่าผิวใต้ดวงตาเริ่มคล้ำหรือมีถุงใต้ตาขึ้น คุณก็สามารถใช้ได้เลย แต่อย่าลืมสังเกตตัวเองอยู่ตลอดเพราะบางครั้งปัญหาผิวรอบดวงตานั้นอาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว
อายครีม (Eye Cream) สูตรไหนดี เหมาะกับผิวรอบดวงตาของคุณ ?
- อายครีมจากอินเดีย ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ได้รับความนิยมสูง: Himalaya Herbals Under Eye Cream ครีมทาใต้ตา
- อายครีมเกาหลีช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทาได้ทั้งใต้ตาและลำคอ: AHC Premier Ampoule In Eye Cream อายครีม
- อายครีมตัวดังใน Tiktok ลดบวมและลดความหมองคล้ำได้ดี : Plantnery Cica Centella Ceramide Eye Cream อายครีม
- อายครีมสูตรพรีเมียม มีสารสกัดจากสาหร่ายทะเลน้ำลึก ช่วยยกกระชับผิวรอบดวงตา : La Mer The Eye Concentrate ครีมบำรุงรอบดวงตา
- อายครีมเพิ่มความชุ่มชื้นขั้นสุด ใต้ตาอิ่มฟู เห็นผลเร็ว: Biotherm Life Plankton™ Eye Cream ครีมบำรุงรอบดวงตา
![]() Himalaya Herbals Under Eye Cream ครีมทาใต้ตา | ![]() AHC Premier Ampoule In Eye Cream อายครีม | ![]() Plantnery Cica Centella Ceramide Eye Cream อายครีม | ![]() La Mer The Eye Concentrate ครีมบำรุงรอบดวงตา |
Himalaya Herbals Under Eye Cream ครีมทาใต้ตา

ราคา 108 บาท*
Himalaya Herbals Under Eye Cream เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ทุกคนควรมีค่ะเพราะดังมากและได้รับความนิยมมากด้วย ด้วยส่วนผสมหลักที่สกัดจากธรรมชาติล้วน ๆ ช่วยบำรุงผิวรอบดวงตาให้ดูดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ดวงตาดูชุ่มชื่นมากขึ้นอีกด้วย จุดที่ผู้เขียนชอบคือมันสามารถช่วยให้ใต้ดวงตาดูกระจ่างใสขึ้นหากเราได้ใช้งานเป็นประจำ ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยไม่มากนักหรือต้องการป้องกันริ้วรอยก่อนวัยค่ะ แต่ถ้าใครมีริ้วรอยอยู่แล้วตัวนี้ไม่เหมาะค่ะแนะนำ Lancome Advanced Genifique Youth Activating Concentrate จะดีกว่าค่ะเพราะออกแบบมาเพื่อริ้วรอย
จุดที่น่าประทับใจคือ Himalaya Herbals Under Eye Cream เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาถูกมาและหาซื้อได้ง่าย แค่ขอบอกก่อนเลยว่าอายครีมตัวนี้ไม่ได้ให้ผลในทันทีต้องใช้เป็นประจำต่อเนื่องประมาณ 1 เดือนขึ้นไปกว่าจะเห็นผลค่ะ หากใครที่รีบไม่แนะนำเหมาะสำหรับคนที่อยากทดลองใช้อายครีมไปเรื่อย ๆ ใครที่กำลังหาซื้ออายครีมตัวแรกอยู่แนะนำเลยค่ะรับรองว่าจะไม่ผิดหวังแน่
ข้อดี
- หากใช้งานเป็นประจำจะสามารถช่วยลดเลือนความหมองคล้ำใต้ตาได้เป็นอย่างดี
- ช่วยปกป้องผิวบริเวณใต้ตาจากแสงแดดและความหมองคล้ำ
- เนื้อครีมบางเบาซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายมาก ๆ และไม่ทิ้งคราบเอาไว้
ข้อควรพิจารณา
- หลายคนไม่ชอบที่อายครีมไม่ได้ให้ความสดชื่นหลังจากการทา
ปริมาณ | 15 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Cipadessa baccifera และ Winter Begonia |
เหมาะสำหรับ | ผิวที่มีปัญหารอยคล้ำรอบดวงตา |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
AHC Premier Ampoule In Eye Cream อายครีม

ราคา 109 บาท*
AHC Premier Ampoule In Eye Cream อายครีมที่เพิ่งเปิดตัวใหม่หมาด ๆ จาก AHC ค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับอายครีมหลอดดำของทางแบรนด์แต่บอกเลยว่าอายครีมสีทองของทางแบรนด์ก็ดีไม่แพ้กัน โดยจุดประสงค์หลักของอายครีมคือช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณรอบดวงตา เมื่อผิวบริเวณนั้นชุ่มชื้นปัญหาอย่างริ้วรอยหรือความแห้งกร้านก็จะหายไปค่ะ จุดเด่นของอายครีมของทางแบรนด์คือนอกจากจะสามารถทารอบดวงตาได้แล้วยังใช้ทาใบหน้าและทาบริเวณลำคอได้อีกด้วยค่ะ ถือว่าครบวงจรมากเลยทีเดียว
ส่วนผสมหลักของอายครีมคือคอลลาเจนนะคะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูผิวบริเวณรอบดวงตาได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติหลากหลายชนิดและกรดไฮยาลูโรนิกเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เนื้อครีมมีความคล้ายเจล สามารถเกลี่ยได้ง่ายและซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว เมื่อทาแล้วจะรู้สึกถึงความชุ่มชื้นทันที ในเรื่องของราคาก็ไม่ได้แพงเลยค่ะพอ ๆ กับ Plantnery Cica Centella Ceramide Eye Cream แต่ปริมาณเยอะกว่า
ข้อดี
- สามารถให้ความชุ่มชื้นได้ดีและช่วยปรับปรุงการสร้างเมลานินใต้ตาลดความหมองคล้ำ
- บรรจุภัณฑ์ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายปลายหลอดเล็กช่วยถนอมเนื้อครีมไว้ด้านในได้ดี
- เนื้อครีมมีความนุ่ม เกลี่ยง่ายและซึมซาบเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของน้ำหอมอาจไม่เหมาะกับคนที่แพ้น้ำหอมหรือผิวบอบบาง
ปริมาณ | 40 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดไฮโดรไลซ์คอลลาเจน, กรดไฮยาลูโรนิก, น้ำมันจากธรรมชาติ ฯลฯ |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่มีความแห้งกร้านและมีริ้วรอย |
ปราศจากน้ำหอม | ✘ |
Plantnery Cica Centella Ceramide Eye Cream อายครีม

ราคา 229 บาท*
Plantnery Cica Centella Ceramide Eye Cream เป็นอายครีมที่ไม่มีใครไม่รู้จักเลยค่ะเพราะดังมากในโซเชียลและเป็นหนึ่งในอายครีมราคาประหยัดด้วย ส่วนผสมหลักของอายครีมคือเซราไมด์ สารสกัดจากใบบัวบกและคาเฟอีน เน้นในเรื่องลดความหมองคล้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการบวมรอบดวงตาค่ะ เนื้อครีมมีความบางเบาและเกลี่ยได้ง่าย เมื่อทาแล้วไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องคราบหรือเรื่องระคายเคืองเลย เพราะอายครีมของเขาไม่มีน้ำหอมและไม่มีแอลกอฮอล์ด้วยถือว่าปังมากเลยทีเดียวค่ะ
ผู้เขียนค่อนข้างชอบการออกแบบแพ็กเกจ ถึงแม้จะมาในแบบหลอดเหมือนกับ AHC Premier Ampoule In Eye Cream ก็จริง แต่ที่ปลายของหลอดเขาแถมตัวทามาให้ด้วย สามารถใช้ช่วยนวดบริเวณรอบดวงตาได้ซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่มีประโยชน์มากเลยทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาอายครีมราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพแนะนำเลย
ข้อดี
- เนื้อครีมมีความเข้มข้น แต่เกลี่ยได้ง่ายและซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว
- มีประสิทธิภาพในการลดอาการบวมและความหมองคล้ำ
- ปราศจากสารอันตรายหลากหลายชนิดใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้เป็นประจำและต่อเนื่องเพื่อให้ได้เห็นผลอย่างชัดเจน
ปริมาณ | 15 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | เซราไมด์ สารสกัดจากใบบัวบกและคาเฟอีน |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่หมองคล้ำและบวม |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
La Mer The Eye Concentrate ครีมบำรุงรอบดวงตา

ราคา 1,750 บาท*
La Mer The Eye Concentrate เป็นผลิตภัณฑ์อายครีมที่มาในรูปแบบกระปุก แม้ว่ามันจะเป็นกระปุกเล็ก ๆ ราคาแพง แต่ก็คุ้มค่าค่ะเพราะเราใช้แค่นิดเดียวเท่านั้น จุดเด่นของอายครีมคือมีความเข้มข้นสูงทางแบรนด์เคลมมาว่าอายครีมสามารถให้ความชุ่มชื้นบริเวณรอบดวงตาและช่วยยกกระชับผิวรอบดวงตาได้จริง เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องคุณจะเห็นว่าผิวรอบดวงตายกกระชับขึ้น ส่วนผสมหลักของอายครีมคือาหร่ายซีเคลป์และสารสกัดจาก Miracle Active Gold เป็นส่วนผสมที่มีคุณภาพและผ่านการทดลองมาแล้วว่าเห็นผลได้จริงค่ะ
แน่นอนว่า La Mer The Eye Concentrate เป็นผลิตภัณฑ์ไฮเอนด์เช่นเดียวกับ Estee Lauder Advanced Night Repair Eye แต่ราคาจะสูงกว่ามาก หากถามว่าอายครีมจากลาแมร์เหมาะกับใครตอบเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากได้อายครีมที่มีประสิทธิภาพในการลดความหมองคล้ำและเหมาะสำหรับคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากลาแมร์เป็นประจำอยู่แล้ว จุดที่น่าประทับใจอีกหนึ่งอย่างคืออายครีมให้ความเย็นสบายผิวทุกครั้งที่ทา
ข้อดี
- อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพผิวรอบดวงตา
- เนื้อครีมมีความเข้มข้นแต่ไม่เหนียวเห็นผลได้อย่างรวดเร็วหากใช้งานเป็นประจำ
- มีหลายไซซ์ให้เลือกซื้อตามงบประมาณที่มี สามารถใช้งานได้โดยไม่ระคายเคืองผิวรอบดวงตา
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้
ปริมาณ | 5 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สาหร่ายซีเคลป์และสารสกัดจาก Miracle Active Gold |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่หมองคล้ำและมีริ้วรอย |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
Biotherm Life Plankton™ Eye Cream ครีมบำรุงรอบดวงตา

ราคา 2,200 บาท*
Biotherm Life Plankton™ Eye Cream ครีมบำรุงรอบดวงตาที่หลายคนชื่นชอบ เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าจะช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์นี้ก็สามารถลดการปรากฏของริ้วรอยและรอยย่น ใครที่มีปัญหาถุงใต้ตาก็ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะผลิตภัณฑ์นี้สามารถลดอาการบวม ถุงใต้ตาและรอยคล้ำได้ ความพิเศษของผลิตภัณฑ์นี้คือทางแบรนด์เคลมมาว่าภายใน 8 วัน ผิวรอบดวงตาของคุณจะนุ่มขึ้นและช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าได้อย่างดีเยี่ยม หากอยากรู้ว่าจริงหรือไม่ต้องลองใช้เท่านั้นค่ะ ผู้เขียนเคยลองใช้สกินแคร์ของไบโอเธิร์มมาก่อนค่ะบอกเลยว่าประสิทธิภาพดีมากแต่อายครีมยังไม่เคยใช้ อยากลองอยู่เหมือนกันค่ะแต่ติดตรงที่ว่าราคาแอบแรง
ส่วนผสมหลักของ Biotherm Life Plankton™ Eye Cream คือสารสกัดจากแพลงก์ตอนซึ่งเป็นสารสกัดจากทะเลน้ำลึก ในจุดนี้แอบคล้ายกับ La Mer The Eye Concentrate อยู่ค่ะเพราะเขาก็ใช้สารสกัดจากทะเลน้ำลึกเหมือนกัน แต่จุดมุ่งหมายของทางแบรนด์จะแตกต่างเพราะไบโอเธิร์มจะเน้นเติมความชุ่มชื้นส่วนลาแมร์จะเน้นเรื่องริ้วรอยค่ะ ใครที่อยากลองใช้สกินแคร์คุณภาพดีแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- หากใช้งานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวใต้ตากระชับขึ้นกว่าเดิมและช่วยบำรุงผิวด้วย
- อายครีมสามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ทันทีคนที่มีใต้ตาแห้งก็สามารถใช้ได้
- ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผิวบริเวณใต้ตาได้อย่างรวดเร็ว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 15 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดจากแพลงก์ตอน |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่มีความแห้งกร้านและมีถุงใต้ตา |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
Origins Ginzing Refreshing Eye Cream to Brighten and Depuff อายครีม

ราคา 1,260 บาท*
Origins Ginzing Refreshing Eye Cream to Brighten and Depuff เป็นอายครีมที่ฮิตไม่แพ้กับแบรนด์อื่นเลยค่ะ โดยจะเหมาะสำหรับการทาก่อนแต่งหน้าหรือทาในตอนเช้า เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าอายครีมจะช่วยปลุกผิวรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับทุก ๆ สภาพผิว สามารถให้ความชุ่มชื่นได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวใต้ดวงตาให้ดูกระจ่างใสขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อใช้เป็นประจำ ส่วนผสมหลักของเมล็ดกาแฟ สารสกัดจากแมกโนเลียและโสมที่มีประสิทธิภาพสามารถให้ความสดชื่นได้ดี ช่วยลดการปรากฏของถุงใต้ตาและอาการบวมได้ดีมาก
ประสิทธิภาพในการเพิ่มความกระจ่างใสของอายครีมค่อนข้างโดดเด่นเลยค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกับ Himalaya Herbals Under Eye Cream ประสิทธิภาพดีกว่ามากค่ะ แต่ด้วยราคาที่แตกต่างกันและส่วนผสมที่เหนือกว่าจะเห็นผลเร็วกว่าก็ไม่แปลกค่ะ ผู้เขียนเห็น Origins Ginzing Refreshing Eye Cream to Brighten and Depuff เปลี่ยนแพ็กเกจบ่อยมากค่ะเรียกได้ว่าลืมไปแล้วว่าเมื่อก่อนแพ็กเกจเป็นแบบไหน แต่ประสิทธิภาพยังดีเหมือนเดิม ใครที่อยากลดความบวมและถุงใต้ตาแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- อายครีมสามารถคืนความสดใสให้กับดวงตาที่เหนื่อยล้าทันที
- เนื้อสัมผัสมีความบางเบามาก ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วเหมาะกับทุกสภาพผิว
- ปราศจากสารอันตรายทุกชนิดสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ข้อควรพิจารณา
- เน้นให้ความชุ่มชื้นมากกว่าลดริ้วรอย
ปริมาณ | 15 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ส่วนผสมจากเมล็ดกาแฟ สารสกัดจากโสมและสารสกัดแมกโนเลียและออพติกส์ |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่หมองคล้ำและมีถุงใต้ตา |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
Estee Lauder Advanced Night Repair Eye Supercharged Gel-Creme ครีมบำรุงรอบดวงตา

ราคา 570 บาท*
Estee Lauder Advanced Night Repair Eye Supercharged Gel-Creme ครีมบำรุงใต้ดวงตาที่เน้นมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังใต้ดวงตาที่แห้งมาก ๆ ประสิทธิภาพคล้ายกับ Biotherm Life Plankton™ Eye Cream เลยและเป็นแบรนด์ไฮเอนด์เหมือนกันด้วย แต่อายครีมเอสเต้จะเจาะกลุ่มคนที่ทำงานหนักหรือนอนดึกเป็นประจำ เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อใช้แล้วจะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ดวงตาดูมีชีวิตชีวาและกระชับมากยิ่งขึ้นค่ะ เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องสามารถช่วยฟื้นฟูผิวใต้ดวงตาให้ดูกระจ่างใส
สำหรับคนที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวว่าใช้ดีมาก ๆ ทำให้ใต้ตาดูดีขึ้นสุด ๆ ค่ะ อีกทั้งผลิตภัณฑ์ยังได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วว่าสามารถรักษาและฟื้นฟูบริเวณรอบดวงตาอย่างเห็นได้ชัด ช่วยล็อกความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี เนื้อสัมผัสของครีมบำรุงรอบดวงตานี้มีความบางเบา เนื้อไหมและเหมือนครีมเจลทำให้เกลี่ยเข้าสู่ผิวได้ง่าย ใครที่กำลังหาซื้ออายครีมระดับไฮเอนด์อยู่แนะนำเลยรับรองว่าเมื่อใช้แล้วจะไม่ผิดหวัง
ข้อดี
- มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในการลดความแห้งกร้านและการขาดน้ำของผิวบริเวณรอบดวงตา
- เนื้อเจลครีมมีความหนาเล็กน้อยแต่เกลี่ยง่ายและซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วมาก
- ผ่านการทดสอบโดยจักษุแพทย์ ไม่มีพาราเบน, พทาเลท, ซัลไฟต์, ซัลเฟต, ดรายแอลกอฮอล์, มิเนอรัลออยล์, พาราฟิน ฯลฯ
ข้อควรพิจารณา
- คนที่แพ้ง่ายอาจจะต้องทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้เพราะมีสารสกัดจากธรรมชาติหลายอย่างที่สามารถกระตุ้นอาการแพ้ได้
ปริมาณ | 5 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | วิตามินอี, กรดไฮยาลูโรนิก, สารสกัดจากยีสต์, สาหร่าย, เปปไทด์, คาเฟอีน ฯลฯ |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่แห้งกร้านและหมองคล้ำ |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
Lancome Advanced Genifique Yeux Eye Cream อายครีม

ราคา 379 บาท*
Lancome Advanced Genifique Yeux Eye Cream ครีมบำรุงรอบดวงตาระดับไฮเอนด์เหมือนกับ Estee Lauder Advanced Night Repair Eye Supercharged Gel-Creme เลยค่ะและเราก็แนะนำเป็นไซซ์ทดลองเหมือนกันด้วย จุดเด่นของอายครีมคือเป็นเนื้อเจล ส่วนผสมหลักของอายครีมคือไบฟิโดแบคทีเรียม แอสคอร์บิลกลูโคไซด์และกรดแลคติก โดยทางแบรนด์เคลมมาว่าช่วยฟื้นฟูบริเวณรอบดวงตาที่บอบบางด้วยการให้ความชุ่มชื้นและบำรุงอย่างล้ำลึก ถึงแม้ราคาจะสูงแต่ก็มีประสิทธิภาพมาก
ตัวเจลสามารถผสมผสานเข้ากับผิวได้อย่างง่ายดายเพื่อเพิ่มความกระจ่างใสและทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นนั้นลดลง อีกทั้งอายครีมยังช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและปกป้องผิวบอบบางรอบดวงตา ด้วยเทคโนโลยีออพติคอลขั้นสูงช่วยขจัดสัญญาณแห่งวัยที่มองเห็นได้ชัด เช่น รอยคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ เนื้ออายครีมมีความบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย อีกทั้งยังได้รับการทดสอบทางจักษุวิทยาและทางผิวหนังแล้วว่าสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ข้อดี
- มีประสิทธิภาพในการลดเลือนความหมองคล้ำของผิว
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตาได้ดีหากใช้แล้วจะทำให้ใต้ตาฟูขึ้น
- เนื้ออายครีมทาง่ายเพราะมีความบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- หลายคนไม่ชอบบรรจุภัณฑ์แบบกระปุกเพราะปนเปื้อนได้ง่าย
ปริมาณ | 5 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ไบฟิโดแบคทีเรียม, แอสคอร์บิลกลูโคไซด์, กรดแลคติก, สารสกัดจากยีสต์, กลีเซอรีน ฯลฯ |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่มีริ้วรอยและหมองคล้ำ |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
Kiehl’s Creamy Eye Treatment With Avocado อายครีม

ราคา 1,670 บาท*
Kiehl’s Creamy Eye Treatment With Avocado ครีมบำรุงรอบดวงตาที่ให้ความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางแบรนด์เขาเคลมมาแล้วว่าอายครีมของเขาได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์มาแล้วว่าสามารถลดอาการบวมและทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตากระจ่างใสขึ้นหากใช้งานเป็นประจำ ส่วนผสมหลักของครีมบำรุงผิวรอบดวงตาคือน้ำมันอะโวคาโด เบต้าแคโรทีนและเชียบัตเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังเคลมว่าผลิตภัณฑ์สามารถช่วยปกป้องดวงตาจากความล้าของดวงตาที่เกิดจากแสงสีน้ำเงินที่ปล่อยออกมาจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย
จุดที่หลาย ๆ คนหลงรักคือเนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นน้ำทันทีเมื่อสัมผัสกับผิวหนังทำให้มีความเย็นสดชื่นค่ะ ผู้เขียนชอบความเย็นสดชื่นของอายครีมตัวนี้พอ ๆ กับ Origins Ginzing Refreshing Eye Cream to Brighten and Depuff เลยค่ะและชอบที่มันซึมซาบเร็วด้วย ในการใช้งานแนะนำให้วอร์มอายครีมด้วยปลายนิ้วก่อนทาให้ทั่วเพราะจะช่วยให้ความชุ่มชื้นและทำให้อายครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ลึกยิ่งขึ้น ใครที่อยากลองใช้อายครีมจากคีลส์แนะนำเลยค่ะ
ข้อดี- ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมากและสามารถลดผิวแห้งรอบดวงตาได้
- เนื้อสัมผัสบางเบา แต่ไม่ได้เหลวมากจนเกินไปซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
- ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังและจักษุแพทย์ว่าปลอดภัยในการใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้งานเป็นประจำและต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ปริมาณ | 14 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันอะโวคาโด เบต้าแคโรทีนและเชียบัตเตอร์ |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่มีถุงใต้ตาและขาดความชุ่มชื้น |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
Olay Ultimate Eye Cream อายครีม

ราคา 499 บาท*
Olay Ultimate Eye Cream เป็นอายครีมคุณภาพสูงมากๆ และเป็นแบรนด์ที่สาวไทยหลายคนชอบค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าอายครีมจะช่วยเติมความสดใสให้ผิวรอบดวงตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำงานเพื่อช่วยลดความหมองคล้ำ ริ้วรอยและร่องลึกได้อย่างง่ายดาย เมื่อใช้เป็นประจำจะใช้ให้ผิวรอบดวงตาดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่นั้นนะคะเพราะอายครีมสามารถใช้เป็นคอนซีลเลอร์ได้และเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวได้อีกด้วย ผู้เขียนค่อนข้างประทับใจในประสิทธิภาพเลยค่ะเพราะดีจริงไม่อยากให้เลือกขายเลย
จุดเด่นของอายครีมคือสามารถให้ความชุ่มชื่นได้ดี เรื่องความชุ่มชื้นเหนือกว่า Himalaya Herbals Under Eye Cream ค่ะแต่ราคาแอบสูงกว่า หากใช้เป็นประจำจะทำให้ผิวรอบดวงตารู้สึกนุ่มมากยิ่งขึ้น อายครีมมีความสม่ำเสมอและเกลี่ยได้ง่าย หากใช้เป็นประจำจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนมาก ๆ แพ็กเกจของอายครีมเป็นกระปุกและพกพาได้ง่ายด้วย แต่ขอบอกนิดนึงว่าอายครีมอาจจะไม่เหมาะสำหรับใช้ในช่วงฤดูร้อนมากนักเพราะอาจจะทำให้ผิวมันเยิ้ม
ข้อดี
- อายครีมมีสีสามารถใช้แทนคอนซีลเลอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ช่วยลดความแห้งของผิวรอบดวงตาและทำให้ผิวชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- เฉดสีของอายครีมอาจจะสว่างหรือคล้ำเกินไปสำหรับบางคน
ปริมาณ | 15 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | โปรเรตินอล, ไนอะซินาไมด์, กลีเซอรีน, อะมิโนเปปไทด์ ฯลฯ |
เหมาะสำหรับ | ผิวรอบดวงตาที่หมองคล้ำและขาดความชุ่มชื้น |
ปราศจากน้ำหอม |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้ออายครีม
1. เลือกอายครีมที่ให้ความชุ่มชื้นเสมอ

ผิวรอบดวงตาของเรามีความบางมากและได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้ง่าย ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตามเมื่อละเลยการบำรุงผิวรอบดวงตาก็จะเกิดริ้วรอยได้ง่ายเพราะความแห้งกร้านค่ะ ดังนั้นความชุ่มชื้นถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงรอบดวงตา หากคุณกำลังอยู่ในช่วงอายุ 20 – 30 ปี คุณอาจต้องการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรความชุ่มชื้นสูง เช่น สควาเลน และกรดไฮยาลูโรนิกเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น แต่สำหรับคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไปคุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีหรือเลือกอายครีมที่มีส่วนผสมต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอีและโคเอนไซม์ Q10 ค่ะ แต่อย่าลืมนะคะให้จำไว้เสมอว่าสารให้ความชุ่มชื้นนั้นจำเป็นมาก ๆ เพราะความแห้งกร้านเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวทุกอย่างเลย
2. หากผิวใต้ตามีความหมองคล้ำให้เลือกอายครีมสูตรไวท์เทนนิ่ง
ความหมองคล้ำใต้ตาสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภทและมีสาเหตุที่แตกต่างกัน เพื่อการดูแลที่ถูกต้องทางเราอยากแนะนำให้รักษาตามประเภท ตัวอย่างเช่น หากคุณโดนแสงแดดมากเกินไปหรือใช้เครื่องสำอางที่ระคายเคืองอาจทำให้เกิดรอยคล้ำได้ ในกรณีนี้ครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง เช่น อาร์บูตินและอนุพันธ์ของวิตามินซีจะเหมาะสมเพราะสามารถช่วยทำให้รอยคล้ำจางลงได้ แต่หากคุณมีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อยจนเกิดความหมองคล้ำ การใช้อายครีมอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ผล ทางเราอยากแนะนำให้ปรับปรุงการไหลเวียนของหลอดเลือดและน้ำเหลืองด้วยการนวดและการประคบร้อนไปพร้อม ๆ กับการใช้อายครีมค่ะ ต่อไปนี้เป็นประเภทของความหมองคล้ำที่พบบ่อยรอบดวงตาเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกซื้ออายครีมได้ง่ายขึ้น
- รอยคล้ำจากพันธุกรรม : เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมปัญหาแบบนี้จะทำให้ผิวหนังรอบดวงตามีสีคล้ำมาก น่าเสียดายที่รอยคล้ำประเภทนี้ยากต่อการกำจัด อาจจะต้องปรึกษาแพทย์และทำหัตถการโดยตรง
- รอยคล้ำจากการไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดี ปัญหานี้พบได้บ่อยในคนที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ โดยจะส่งผลให้เกิดรอยคล้ำหลายเฉดและมักมีถุงใต้ตาร่วมด้วย ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
- รอยคล้ำจากแสงแดด รอยคล้ำประเภทนี้จะเกิดจากการโดนแสงแดดมากเกินไปหรือการใช้เครื่องสำอางที่มีฤทธิ์รุนแรง เราสามารถปรับปรุงได้ด้วยการเลือกอายครีมที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง
- รอยคล้ำใต้ตาแบบผสม รอยคล้ำประเภทนี้เกิดจากผลรวมของปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้น และจำเป็นต้องได้รับการรักษาแยกกันเพื่อการดูแลที่ตรงจุด
3. หากผิวใต้ตามีริ้วรอยเลือกอายครีมที่ออกแบบมาเพื่อปัญหาริ้วรอยโดยเฉพาะ
สำหรับคนที่มีปัญหาริ้วรอยให้เลือกอายครีมที่มีส่วนผสมของนิโคตินาไมด์ค่ะเพราะส่วนผสมนี้มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงริ้วรอยและปรับสภาพผิว นอกจากนี้ผู้ผลิตบางรายยังทดลองนำโบท็อกซ์มาใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อปรับปรุงริ้วรอยต่าง ๆ ด้วย แต่นอกจากนิโคตินาไมด์แล้วก็ยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่สามารถปรับปรุงริ้วรอยได้โดยมีรายชื่อส่วนผสมดังต่อไปนี้
- วิตามินซี : มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดความเสียหายจากอนุมูลอิสระต่อผิวหนังและส่งเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจน
- กรดไฮยาลูโรนิก : สามารถให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติช่วยให้ผิวเติมเต็มความชุ่มชื้นและลดการปรากฏของริ้วรอย
- คอลลาเจน : คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของผิวหนัง เมื่อใช้งานเป็นประจำจะสามารถปรับปรุงริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและปัญหาอื่น ๆ ได้
- สควาเลน : เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ที่ได้มาจากธรรมชาติ สามารถให้ความชุ่มชื้นได้ดีมากและสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ได้
4. หลีกเลี่ยงการใช้อายครีมที่มีแอลกอฮอล์หรือน้ำหอมเพราะอาจระคายเคืองผิวที่บอบบาง
อายครีมเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราต้องทาและนวดรอบดวงตาค่ะ ดังนั้นจึงอาจทำให้เผลอสัมผัสดวงตาได้ ดังนั้นผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ส่วนผสม เช่น แอลกอฮอล์ สีสังเคราะห์และน้ำหอมเพราะอาจทำให้ผิวแพ้ง่ายระคายเคืองได้ นอกจากนี้ครีมบำรุงรอบดวงตาบางชนิดยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบค่ะ หากไม่มีโอกาสได้ทดลองให้เลือกแบบไม่มีกลิ่นแทนเพื่อความปลอดภัยค่ะ นอกจากส่วนผสมระคายเคืองผิวแล้วเนื้อสัมผัสก็ต้องเช็กค่ะ เพราะอายครีมส่วนใหญ่มีความหนาและให้ความชุ่มชื้นจึงเหมาะกับการบำรุงผิวตอนกลางคืนมากกว่า หากต้องการใช้อายครีมก่อนแต่งหน้าให้เลือกอายครีมมีเนื้อสัมผัสบางเบาและเกลี่ยง่าย ในการใช้งานสามารถใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาในปริมาณที่เหมาะสมแล้ววอร์มก่อนใช้ จากนั้นจึงนวดเบา ๆ รอบดวงตาเพื่อเร่งการดูดซึมค่ะ
5. เช็กราคาและบรรจุภัณฑ์
ครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นสูตรที่มีส่วนผสมหลักเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ เช่น กลีเซอรีนซึ่งมีความคล้ายกับมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้า ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องซื้ออายครีมที่แพงเกินไป สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีราคาสมเหตุสมผลและเหมาะกับเงินที่มีค่ะ นอกจากนี้ความจุและบรรจุภัณฑ์ก็จำเป็นค่ะเพราะเครื่องสำอางมักจะค่อย ๆ ออกซิไดซ์หลังจากเปิดใช้ ดังนั้นคุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความจุปานกลางเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายในเวลาที่เหมาะสม ในการเลือกบรรจุภัณฑ์สามารถเลือกได้ตามความชอบเลยค่ะแต่เอาที่เราสะดวก บรรจุภัณฑ์ของอายครีมอาจจะเป็นกระปุก เป็นหลอด ส่วนบางแบรนด์อาจจะจะมาพร้อมลูกกลิ้งหรืออุปกรณ์ทาครีม ถ้าคุณชอบการนวดคุณสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์แบบนี้ได้ แต่หากคุณให้ความสำคัญกับความคงตัวของครีมให้เลือกแบบหลอดหรือแบบกระปุกค่ะ
แต่ก่อนจะเลือกอายครีมเราขอบอกเลยว่าการเลือกสูตรเจลจะดีกว่าเนื้อครีม เพราะเบากว่าและดูดซึมได้ง่ายกว่า แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดคุณควรใช้ด้วยความระมัดระวัง หากคุณมีอาการผื่นแดงระคายเคืองและบวมอย่างรุนแรงคุณควรหยุดใช้ทันที ตอนนี้เรารู้วิธีเลือกอายครีมกันแล้ว ก็ถึงเวลาไปเลือกสินค้าที่เราได้หามาให้คุณกันเลย อย่าลืมหาสินค้าที่เหมาะกับงบประมาณและสภาพผิวของคุณ เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะ
อย่าลืมเลือกอายครีมที่แตกต่างกันสำหรับ “กลางวันและกลางคืน”
แม้ว่าครีมบำรุงรอบดวงตาส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะเคลมมาว่าเหมาะสำหรับใช้ในตอนเช้าและตอนกลางคืน แต่หากคุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันตามเวลาที่ใช้ได้คุณจะได้ผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น ปกติแล้วตอนเช้าเราจะแต่งหน้าอยู่บ่อย ๆ ค่ะหากเลือกอายครีมชนิดที่มีส่วนผสมบำรุงผิวเยอะและมีเนื้อครีมเกินไปก็อาจทำให้ผิวรอบดวงตามันเยิ้มและส่งผลต่อการแต่งหน้าในภายหลังได้ นอกจากนี้ส่วนผสมบางอย่างในอายครีมอาจจะทำปฏิกิริยากับรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดได้ เมื่อเราใช้จะทำให้ผิวเกิดความเสียหาย
ทางเราเลยอยากแนะนำให้ลองใช้วิธีการดูแลผิวแบบ “morning C and evening A” ค่ะ ซึ่งหมายถึงการทาอายครีมที่มีวิตามินซีในตอนเช้า ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถต้านทานรังสีอัลตราไวโอเลตและสารต้านอนุมูลอิสระเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ส่วนในตอนเย็นให้ใช้อายครีมชนิดที่มีวิตามินเอเพราะสามารถซ่อมแซมผิวที่แก่ก่อนวัยได้ (วิธีนี้ใช้ได้กับสกินแคร์ทั่วไปเหมือนกัน) นอกจากนี้ขณะใช้วิธีการดูแลผิวที่กล่าวมาข้างต้น อย่าลืมทาครีมกันแดดอย่างเพียงพอด้วยนะคะ