นอกจากใบหน้าแล้วสิ่งที่สำคัญรองลงมานั่นก็คือเส้นผม ทุกคนย่อมอยากให้ตัวเองดูดีและสมบูรณ์แบบที่สุด เลยมักจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีให้กับเส้นผมไม่ว่าจะเป็นแชมพู เซรั่มและน้ำมันบำรุงผม ครีมนวดผมรวมไปถึงทรีตเมนต์บำรุงผม แต่ถ้าผมหรือหนังศีรษะของคุณมี “รังแค” การเลือกผลิตภัณฑ์ก็จะยิ่งยากขึ้น อีกทั้งยังทำให้คนที่มีรังแคสูญเสียความมั่นใจมาก ๆ ด้วย เพราะนอกจากรังแคจะหลุดร่วงออกมาเป็นสะเก็ดขาว ๆ แล้วยังทำให้มีอาการคันหนังศีรษะร่วมด้วยอีก เมื่อเราเริ่มคันหนังศีรษะสิ่งที่เราต้องทำนั่นคือการเกานั่นเอง แต่ยิ่งเการังแคก็จะยิ่งหล่นลงมาใส่ปกเสื้อของเรา ทำให้สูญเสียความมั่นใจไปอีก เห้ออ คุณอาจจะกลุ้มใจว่าจะต้องทำยังไง แต่อย่ากังวลมากไปนะคะ บทความนี้จะสามารถช่วยคุณได้อย่างแน่นอน
หากคุณเคยพบว่ามีรังแคบนเส้นผม หนังศีรษะและเสื้อผ้าของคุณ เราคิดว่าคุณคงรู้ว่าสิ่งนี้น่าอายและน่าอึดอัดแค่ไหน โชคดีสำหรับคุณการใช้ “แชมพูขจัดรังแค”ที่ถูกต้องพร้อมเทคนิคการสระผมที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณลดปัญหานี้ได้ รังแคเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพทั่วไปที่เราต้องเผชิญ ในความเป็นจริงมันเป็นเรื่องธรรมดามากที่ไม่ควรทำให้เกิดความยุ่งยากเมื่อเราต้องทนทุกข์และเผชิญกับมัน ไม่ว่าคุณจะมีอาการไม่รุนแรงหรือรุนแรงมาก การรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณควบคุมรังแคได้ง่าย ในคำแนะนำของเราด้านล่างเราจะบอกคุณอย่างชัดเจนถึงวิธีการเลือกและใช้แชมพูขจัดรังแคที่ถูกต้อง
รังแค คืออะไร ?
รังแค (Dandruff) มีลักษณะเป็นสะเก็ดสีขาวหรือสีเหลืองและมักจะขึ้นตามเส้นผมหรือหนังศีรษะ รังแคสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งสภาพหนังศีรษะที่แห้งและหนังศีรษะมัน รังแคจะทำให้มีอาการคันตามมาและก่อให้เกิดความรำคาญต่อผู้ที่เป็น เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนรังแคก็ร่วงได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังต้องใช้เวลานานในการรักษา รังแคเป็นภาวะที่พบบ่อยที่สามารถทำให้ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะหลุดลอก มันไม่ใช่โรคติดต่อหรือร้ายแรงแต่อาจเป็นเรื่องน่าอายและยากที่จะรักษา หากคุณเป็นรังแคเพียงเล็กน้อย คุณสามารถรักษาได้ด้วยแชมพูที่อ่อนโยน หากไม่ได้ผลการใช้แชมพูยาอาจช่วยได้ สัญญาณและอาการของรังแคอาจรวมถึง

- มีสะเก็ดผิวหนังบนหนังศีรษะ เส้นผม คิ้ว เคราหรือหนวด
- คันที่หนังศีรษะ
- หนังศีรษะลอก ตกสะเก็ดและเป็นขุย
อาการที่แสดงอาจรุนแรงขึ้นหากคุณเครียดและมักจะมีอาการรุนแรงขึ้นในฤดูหนาวและอากาศแห้งแล้ง
ความแตกต่างของรังแคและเซิบเดิร์ม
เซิบเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) คืออาการอักเสบเรื้อรังของผิวหนังที่พบได้บ่อย จะมีลักษณะเป็นปื้นแดง คันและอาจจะเป็นสะเก็ดรังแคบนหนังศีรษะซึ่งจะมีลักษณะเหมือนรังแคมาก ๆ และอาจจะเกิดขึ้นได้ตามร่างกายเช่นกัน เช่น ใบหน้า หลัง หน้าอกหรือส่วนที่มีความมัน แต่เซิบเดิร์มไม่ได้เป็นโรคติดต่อจึงสามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเป็นปกติ วิธีสังเกตเซิร์บเดิมกับรังแคคือ เซิร์บเดิมจะมีลักษณะแดงเป็นจ้ำและมีการการคันมาก อีกทั้งยังมีสะเก็ดที่รอบ ๆ หูและท้ายทอยและมีลักษณะที่หนากว่ารังแค
ประโยชน์ของ แชมพูขจัดรังแค
ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมนี้ช่วยขจัดรังแคที่คุณมีอยู่ก่อนที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้บางส่วนยังช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ทุกวันโดยไม่มีข้อยกเว้น ยิ่งไปกว่านั้นแชมพูขจัดรังแคที่มีคุณภาพยังช่วยให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพดี นุ่มสลวยและชุ่มชื้นอีกด้วย สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าในกรณีที่มีรังแครุนแรงคุณต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เนื่องจากคุณอาจต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์เพิ่มเติมนอกเหนือจากการใช้แชมพูเป็นประจำ อย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่ได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากผลิตภัณฑ์แชมพูนี้ แชมพูขจัดรังแคมีประโยชน์มากเพราะช่วยขจัดผิวลอก, ฟื้นฟูการผลัดเซลล์อย่างรวดเร็ว, ให้ความชุ่มชื้นหนังศีรษะของคุณและลดอาการคันและระคายเคือง

วิธีเลือกแชมพูขจัดรังแคให้เหมาะกับสภาพหนังศีรษะของคุณ
การเลือกแชมพูให้เหมาะกับสภาพหนังศีรษะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะหากคุณเลือกผิดอาจจะส่งผลกระทบต่อหนังศีรษะในระยะยาวได้ แชมพูขจัดรังแคเป็นแชมพูที่มีตัวยาหลายประเภทผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียว บางยี่ห้ออาจจะผสมตัวยาที่แรงเกินไป แต่ก็เพื่อคงประสิทธิภาพให้รักษารังแคได้ดียิ่งขึ้น
1. ประเภทของเส้นผม
เป็นเวลาหลายปีที่หลายคนเชื่อว่ารังแคสามารถรักษาได้ด้วยแชมพู ตอนนี้เรารู้แล้วว่านี่ไม่ใช่อย่างนั้นเลย ผู้ผลิตใช้ความพยายามอย่างมากในการจัดการกับสภาพเส้นผมนี้และซ่อมแซมความเสียหายที่รังแคทำให้หนังศีรษะเสียหาย การซื้อแชมพูขจัดรังแคคุณควรวิเคราะห์ว่าแชมพูประเภทใดที่เหมาะกับคุณเนื่องจากแบรนด์ต่าง ๆ ได้สร้างผลิตภัณฑ์สำหรับผมแห้ง ผมมันเยิ้มและผมที่ผ่านการย้อม หากแพทย์ของคุณคิดว่าคุณต้องการการรักษาแบบพิเศษอย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
2. เลือกตามประเภทของรังแค
รังแคมี 2 ประเภทคือรังแคแบบศีรษะแห้งและรังแคแบบหนังศีรษะมัน เช่นเดียวกับประเภทผมของคุณ คุณจะพบแชมพูที่แตกต่างกันสำหรับรังแคทั้งสองชนิดนี้ เพื่อให้ทราบว่าคุณต้องการแชมพูแบบไหนแนะนำให้ตรวจสอบสภาพของรังแคหากมีสะเก็ดบนหนังศีรษะ (รังแคแบบมัน) หรือหากมีเกล็ดสีขาวบนไหล่ของคุณ (รังแคแบบแห้ง) อย่าลืมอ่านฉลากอย่างละเอียดและเลือกตามความต้องการ

3. ส่วนผสมของแชมพูขจัดรังแค
- Zinc Pyrithione แชมพูที่มีส่วนผสมของ Zinc Pyrithione จะสามารถต้านแบคทีเรียและเชื้อราและช่วยขจัดรังแคได้ดี อีกทั้งยังมีประสิทธิในการรักษาเซิบเดิร์มได้อีกด้วย
- น้ำมันดิน น้ำมันดินจะช่วยชะลอเซลล์ผิวให้ตายช้ามากยิ่งขึ้น แต่น้ำมันดินก็มีข้อเสียคือ จะทำให้ศีรษะของคุณไวต่อแสงมากขึ้น
- ถ่านหรือชาร์โคล ถ่านหรือชาร์โคล สามารถดูดซับสิ่งสกปรกและ ทำความสะอาดหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี
- Ketoconazole เป็นสารต้านเชื้อรา ที่สามารถขจัดปัญหาเรื่องรังแคได้ดีที่สุดแต่จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งานตัวยาตัวนี้
ในการเลือกแชมพูขจัดรังแคคุณต้องสังเกตก่อนว่า บนหนังศีรษะของคุณเป็นรังแคหรือเซิบเดิร์มกันแน่ ซึ่งถ้าหากคุณไม่แน่ใจก็ให้ไปปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อที่จะทำให้คุณได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องและเหมาะกับสภาพผิวบนหนังศีรษะของคุณ วันนี้เราก็มีแชมพูขจัดรังแคมาแนะนำทุก ๆ คน เพื่อทุกคนจะได้เลือกซื้อกันตามความชอบ รับรองว่าคุณจะไม่มีทางผิดหวังแน่นอน
selsun selenium sulfide 2.5 เซลซั่นแชมพูสระผม ลดการคันหนังศีรษะ

ราคา 119 บาท*
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Selenium Sulfide |
สารซิลิโคน | ✘ |
Nizoral Shampoo แชมพูขจัดรังแค

ราคา 229 บาท*
ปริมาณ | 100 มิลลิลิตร |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Ketoconazole |
สารซิลิโคน | ✘ |
CLEAR Shampoo Botanique Nourished & Healthy

ราคา 355 บาท*
ปริมาณ | 450 มล. x 2 ขวด |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | 5 เอสเซนเชียลออยล์จากธรรมชาติ |
สารซิลิโคน | ✘ |
Head & Shoulders Cool Menthol Shampoo

ราคา 377 บาท*
ปริมาณ | 850 มิลลิเมตร x 2 ชิ้น |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Zinc Pyrithione |
สารซิลิโคน | ✔ |
แชมพูขจัดรังแค Neutrogena T/Gel

ราคา 379 บาท*
ปริมาณ | 125 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Neutar®Solubilized |
สารซิลิโคน | ✘ |
Eucerin DermoCapillaire Anti-Dandruff Shampoo

ราคา 495 บาท*
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | PIROCTONE OLAMINE |
สารซิลิโคน | ✘ |
Yves Rocher BHC Anti Dandruff Treatment Shampoo

ราคา 858 บาท*
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | Gave Fructans, Pomegranate Peel Extract |
สารซิลิโคน | ✘ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ แนะนำ แชมพูขจัดรังแค ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
selsun selenium sulfide 2.5 เซลซั่นแชมพูสระผม ลดการคันหนังศีรษะ |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
วิธีรักษาและป้องกันปัญหารังแค
- ใช้แชมพูยาขจัดรังแค ควรสระผมเป็นประจำและเลือกใช้แชมพูยาที่เหมาะกับหนังศีรษะของคุณซึ่งเราได้บอกไว้แล้วในข้างต้น
- หลังสระผมควรเช็ดผมให้แห้งทุกครั้ง โดยใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดค่อย ๆ ซับให้ผมแห้ง หรือปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติก็ได้ แต่ห้ามนอนขณะผมเปียกเด็ดขาดเพราะจะทำให้หนังศีรษะมีความชื้นและเกิดรังแคได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับหนังศีรษะ งดเว้นการทำสี การยืด การดัดผม ไปซักระยะเพราะสารเคมีอาจจะทำให้เกิดรังแค และเมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจสะสมกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้
ความรู้ก่อนใช้แชมพูขจัดรังแค
- กำจัดสะเก็ดออก : วิธีนี้จะทำให้แชมพูของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- สลับระหว่างแชมพูขจัดรังแคกับแชมพูธรรมดา : ในตอนแรกคุณควรใช้แชมพูขจัดรังแคถ้าเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามแชมพูอาจสูญเสียประสิทธิภาพหลังจากนั้น ดังนั้นคุณควรใช้แชมพูทั้งสองอย่างในระหว่างสัปดาห์
- ล้างแชมพูอย่างถูกต้อง : แชมพูบางชนิดจะต้องทิ้งไว้บนหนังศีรษะประมาณ 5 นาทีและการล้างแชมพูเร็วเกินไปจะทำให้ส่วนผสมไม่มีมีเวลาออกฤทธิ์ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ควรล้างออกทันที ปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์เสมอ
- หยุดใช้ในกรณีที่มีอาการระคายเคือง : ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อเลือกแชมพูที่เหมาะสม หากคุณมีอาการติดเชื้อ เช่น รอยแดงหรืออาการบวม
- ระวังหากคุณเป็นโรค : ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเนื่องจากเอชไอวีหรือเอดส์ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับรังแคทุกประเภท
- ให้ความชุ่มชื้น : ถึงแม้จะเป็นรังแคก็ควรให้ความชุ่มชื้นกับหนังศีรษะด้วยครีมนวดผมเสมอ สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้แชมพูทางการแพทย์ เช่น แชมพูที่มีกรดซาลิไซลิก
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมัน : หากแชมพูมีน้ำมันเพิ่มเติมจะทำให้สภาพผิวหนังอักเสบและรังแคแย่ลง
หากคุณทำตามคำแนะนำที่เราได้ให้ไปรับรองว่าคุณจะห่างไกลไร้รังแคแน่นอน แต่วิธีที่กล่าวมานั้นเป็นวิธีรักษาแค่ภายนอกเท่านั้น สิ่งที่คุณควรทำคือหมั่นดูแลตัวเอง ออกกำลังกายเป็นประจำ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าลืมสระผมให้สะอาดทุกครั้งหลังจากผ่านกิจกรรมต่าง ๆ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเส้นผมและหนังศีรษะของคุณด้วย