สำหรับสาว ๆ ปัญหาเรื่องผมเป็นปัญหาที่ใหญ่และมักกวนใจอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าบางคนผมเสีย แห้งและแตกปลาย จากการใช้สารเคมีและความร้อน ไม่ว่าจะเป็น ดัด ยืด ไดร์ หรือย้อมผม การกระทำข้างต้นทำให้ผมของเราขาดความชุ่มชื่น แห้งฟู ไม่มีน้ำหนักและจัดทรงได้ยาก การสระผมแล้วใช้แชมพูและครีมนวดผมอย่างเดียวก็คงจะไม่พอ เพราะครีมนวดมีเนื้อบางเบาเกินไปไม่สามารถปกปิดเกล็ดผมได้ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปหากคุณมี “ทรีตเมนต์หมักผม” ดี ๆ สักตัวนั่นเองค่ะ หลายคนอาจสงสัยว่าทรีตเมนต์ไม่เหมือนกับครีมนวดผมยังไง เราขอตอบเลยว่าทรีตเมนต์มีเนื้อที่หนักและช่วยให้ผมของคุณดูนุ่ม สลวย เป็นเงางาม แต่หากคุณยังไม่มีทรีตเมนต์ดี ๆ ในใจ เราจะขอเป็นกูรูให้คำแนะนำกับคุณเองค่ะ
หากผมของคุณแห้งและชี้ฟูก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะการทำให้ผมชุ่มชื้นมันง่ายมาก ๆ เพราะผมของคุณก็เหมือนพืช ยิ่งคุณรดน้ำมากเท่าไรก็ยิ่งเติบโตมากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าการใช้น้ำมันบำรุงผมเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมแต่การใช้ทรีตเมนต์บำรุงผมจะช่วยบำรุงผมตั้งแต่โคนจรดปลาย ดังนั้นหากคุณต้องการรักษาเส้นผมของคุณให้เร็วที่สุดคุณต้องดูแลผมด้วยทรีตเมนต์หมักผมค่ะ นอกเหนือจากการลงทุนในเครื่องมือไฟฟ้าจัดแต่งทรงผมและสเปรย์สำหรับจัดแต่งทรงผมแล้ว ทรีตเมนต์บำรุงผมยังเป็นมาตรฐานของกิจวัตรการดูแลเส้นผมที่จำเป็น ทรีตเมนต์ที่เหมาะสมจะช่วยควบคุมผมชี้ฟู บำรุงผมแห้งเสียและยังช่วยยืดสีผมให้ดูมันวาวและมีสุขภาพดีได้นานขึ้น หากวันนี้คุณต้องการเลือกทรีตเมนต์ดี ๆ สักตัวเราก็มีมาแนะนำค่ะไปดูกันเลย
ทรีตเมนต์หมักผม แบรนด์ไหนดี ช่วยลดปัญหาผมแห้ง ชี้ฟู ?
ทรีตเมนต์ผม คืออะไร และทำงานอย่างไร?
ทรีตเมนต์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อมอบการบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับผมอย่างเข้มข้น ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่น ๆ ที่มักจะดูแลแค่ชั้นนอกของเส้นผม ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้เมื่อคุณพยายามบำรุงและดูแลเส้นผม ทรีตเมนต์อุดมด้วยส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผมที่มีศักยภาพ เนื่องจากทรีตเมนต์มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้อยู่บนรูขุมขนได้นานกว่าแชมพูหรือครีมนวดผมจึงมีเวลาในการแช่ตัวและเข้าถึงแกนกลางของเส้นผมแต่ละเส้นมากกว่าค่ะ

ทรีตเมนต์มีบทบาทสำคัญมากกับเส้นผมของคุณ เนื่องจากเส้นผมของคุณต้องสัมผัสกับมลภาวะภายนอกที่ทำลายโครงสร้างของเส้นผมทุกวัน ทรีตเมนต์จึงได้รับการออกแบบมาเพื่อคืนความชุ่มชื้นและบำรุงเส้นผมเพื่อลดความเสียหายที่เกิดจากองค์ประกอบต่าง ๆ
ทรีตเมนต์ผมไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องเส้นผมของคุณจากความเสียหายภายนอก เช่น ความเย็นจัดหรือความเสียหายจากแสงแดดด้วย สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดทรีตเมนต์ผมยังมีประโยชน์เล็กน้อยอื่น ๆ เช่น การทำให้ผมของคุณมีกลิ่นหอม ยิ่งไปกว่านั้นความสม่ำเสมอของเนื้อครีมที่เรียบเนียนทำให้สามารถใช้ในระหว่างการทำสปาเพื่อการผ่อนคลายได้ด้วยค่ะ
วิธีเลือกทรีตเมนต์ให้เข้ากับสภาพผม
1. ประเภทของเส้นผม
- ผมแห้ง คนที่มีผมแห้งควรเลือกทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมที่สามารถให้ความชุ่มชื้นกับเส้นผมได้ โดยอาจจะเป็นน้ำมันบำรุงผมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าว โจโจ้บาออยล์ น้ำมันมะกอกหรือจากน้ำมันอาร์แกนก็จะช่วยให้ผมดูชุ่มชื้นมากขึ้นนั่นเองค่ะ
- ผมขาดหลุดร่วง ควรเลือกส่วนผสมที่มีกรดไฮยาลูรอนิกหรือสาร Lipidure ส่วนผสมเหล่านี้มักจะมีอยู่ในแชมพูรักษาผมร่วงเพราะสารเหล่านี้จะช่วยลดผมขาดหลุดร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ
- ผมแตกปลาย ควรเลือกทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมของเคราตินเข้มข้น เพราะเคราตินจะช่วยให้ผมกลับมาแข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง
- ผมหรือหนังศีรษะแพ้ง่าย ควรเลือกทรีตเมนต์ที่ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคนเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายค่ะ

2. รูปแบบของทรีตเมนต์
คุณสามารถพบผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์ได้หลายรูปแบบ ในการพิจารณาว่าทรีตเมนต์ตัวไหนเหมาะกับคุณให้พิจารณาประเภทผมของคุณและสิ่งที่คุณต้องการได้รับจากการใช้ทรีตเมนต์หมักผม ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังมองหาการดูแลและบำรุงแบบดั้งเดิมให้เลือกใช้ทรีตเมนต์ที่ให้ความชุ่มชื้น ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับผมที่แห้งเสียและจัดการยากคุณอาจลองใช้ทรีตเมนต์สำหรับการอบไอน้ำแทน เพราะสิ่งเหล่านี้จะให้การแทรกซึมที่เส้นผมอย่างเข้มข้น เนื่องจากความร้อนจะเปิดรูขุมขนของเส้นผมทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงชั้นลึกของเส้นผมได้
3. สูตรของทรีตเมนต์
สูตรของทรีตเมนต์ที่คุณเลือกมีความสำคัญด้วยเหตุผล 2 ประการ ประการแรกเป็นการกำหนดคุณสมบัติและหน้าที่ของผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์ ซึ่งหมายความว่าคุณควรเลือกสูตรทรีตเมนต์โดยขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของคุณและผลลัพธ์ที่คุณกำลังมองหา ตัวอย่างเช่น หากคุณมีผมแห้ง คุณจะต้องการความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยน้ำมันและสารอาหารที่ให้ความชุ่มชื้น สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าส่วนผสมบางอย่างในทรีตเมนต์ที่มีนั้นสามารถทำให้คุณเกิดอาการแพ้ได้หรือไม่ ดังนั้นคุณต้องตรวจสอบรายการส่วนผสมอยู่เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณรู้ว่าคุณมีอาการแพ้หรือมีสภาพผิวเป็นใช่ไร
4. ผลลัพธ์ที่ต้องการ

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ผลลัพธ์ที่ต้องการจากการหมักผมจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรซื้อทรีตเมนต์ผมแบบใด ตัวอย่างเช่นหากคุณต้องการลดความเสียหายบนผมที่แห้งเสียให้เลือกทรีตเมนต์ที่ซ่อมแซมผมสูตรเข้มข้น เพราะมันจะมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่หากสำหรับผมเสียมากเกินไปให้เลือกทรีตเมนต์พร้อมการอบไอน้ำ ในทางกลับกันคุณอาจต้องการเพิ่มความเงางามและรักษาผมทำสี ในกรณีนี้ทรีตเมนต์เพิ่มความชุ่มชื้นและมีสารป้องกันจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด อย่าลืมว่าเมื่อต้องการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้เลือกให้ตรงกับปัญหาที่คุณมี
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีเลือกทรีตเมนต์ของเรา ก่อนอื่นนะคะคุณต้องสำรวจตัวเองและจับดูสภาพเส้นผมว่าสภาพผมของคุณเป็นอย่างไร เพื่อช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผมของคุณค่ะ เพราะถ้าหากเลือกไม่ตรงกับสภาพผม ทรีตเมนต์ตัวนั้นก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดค่ะ พร้อมไปเลือกสินค้ากันหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันได้เลยค่ะ
Lolane Natura Hair Treatment ทรีตเมนต์

ราคา 75 บาท*
ข้อดี
- ใช้เวลาในการหมักผมน้อยแค่ 5 นาทีผมก็นุ่มแล้ว
- ผมหอมสไตล์โลแลน ติดผมค่อนข้างนาน
- ช่วยให้ผมนุ่มลื่นและจัดทรงง่ายมากยิ่งขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- ถึงแม้จะมีกลิ่นหอมแต่หลายคนไม่ชอบกลิ่นเพราะรู้สึกเวียนหัว
ปริมาณ | 250 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันโจโจบา โปรตีนจากไหมและกลีเซอรีน |
สภาพผม | ผมแห้งเสีย ชี้ฟู ไร้น้ำหนัก |
Dove Treatment Mask Intense Repair Dark Blue ทรีตเมนต์

ราคา 159 บาท*
ข้อดี
- มีส่วนผสมของเคราตินสูตรพิเศษช่วยบำรุงลึกถึงแกนผม
- ช่วยป้องกันการแตกหักของเส้นผมได้ดีมาก
- หากใช้งานเป็นประจำจะช่วยบำรุงผมให้แข็งแรง
ข้อควรพิจารณา
- ห้ามใช้กับบริเวณโคนผมเพราะจะทำให้ผมขาดร่วงได้
ปริมาณ | 180 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | เคราติน |
สภาพผม | ผมแห้งเสีย |
Green Bio Super Treatment ทรีตเมนต์เคราติน

ราคา 155 บาท*
ข้อดี
- หลังจากใช้งานแล้วผมจะนุ่มขึ้นทันที
- เนื้อสัมผัสนุ่ม มีกลิ่นหอมมากลบกลิ่นสารเคมีได้ดี
- สามารถใช้แทนการอบไอน้ำได้เพราะผมจะสวยเหมือนไปอบไอน้ำมาเลย
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะล้างออกได้ยากต้องใช้เวลาล้างผมนาน ๆ
ปริมาณ | 30 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | เคราติน |
สภาพผม | ผมแห้งเสียหลังจากการยืดหรือย้อมผม |
Kerastase Hair Masque มาสก์บำรุงสำหรับผมเสีย

ราคา 1,515 บาท*
ข้อดี
- ช่วยปิดผนึกผมที่แห้งและแตกปลายได้ดีมาก
- เนื้อสัมผัสค่อนข้างเข้มข้นแต่แทรกซึมลึกเข้าไปในเส้นผม
- ช่วยให้ผมนุ่ม ลื่นขึ้นและสามารถจัดทรงได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 75 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดอะมิโน 6 ชนิด |
สภาพผม | ผมแห้งเสียและแตกปลาย |
Lolane Intense Care Keratin Repair Mask ทรีตเมนต์มาสก์เคราติน

ราคา 90 บาท*
ข้อดี
- หลังจากใช้งานแล้วผมจะหอมและนุ่มมาเป็นพิเศษ
- ทรีตเมนต์เนื้อบางเบา แทรกซึมเข้าสู่เส้นผม
- อัดแน่นไปด้วยสารบำรุงผมสูตรเข้มข้น ดีต่อผมมาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- กลิ่นหอมแต่หลายคนไม่ชอบเพราะหอมจนฉุน
ปริมาณ | 200 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | เคราติน |
สภาพผม | ผมแห้งเสียที่เกิดจากความร้อนต่าง ๆ |
L'oreal Paris Elseve Keratin Smooth Perfecting Mask มาสก์บำรุงเส้นผม

ราคา 199 บาท*
ข้อดี
- เนื้อครีมมีความเข้มข้นสูงมาก บำรุงได้ลึกถึงแกนผม
- ช่วยลดผมที่ชี้ฟูได้ดีมาก ทำให้ทรงผมเรียบเนียน
- มีกลิ่นหอมมากเป็นพิเศษ ติดผมได้อย่างยาวนาน
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะล้างออกได้ยากสักเล็กน้อย
ปริมาณ | 200 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | เคราตินและน้ำมันดอกกุหลาบ |
สภาพผม | ผมแห้งเสียและชี้ฟู |
Tsubaki Premium Repair Mask ทรีตเมนต์มาสก์

ราคา 490 บาท*
ข้อดี
- ทำให้ผมนุ่มและช่วยเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม
- กลิ่นหอมมากและเหมาะสำหรับหนังศีรษะมัน
- หลังจากใช้งานแล้วผมจะไม่พันกันอย่างแน่นอน
ข้อควรพิจารณา
- หากใช้กับโคนผมจะทำให้ผมลีบแบนได้
ปริมาณ | 180 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันคาเมลเลียและนมผึ้ง |
สภาพผม | ผมแห้งเสีย |
L'oreal Professionnel Hair Spa Deep Nourishing Creambath ทรีตเมนต์มาสก์

ราคา 590 บาท*
- ช่วยให้ผมนุ่มสลวยเป็นเงางามมากเป็นพิเศษ
- กลิ่นหอมละมุนและติดผมนานหลายวัน
- ช่วยให้ผมสวยหนานุ่มเหมือนออกจากร้านสปามาใหม่ ๆ
ข้อควรพิจารณา
- อาจใช้ไม่ได้กับทุกสภาพเส้นผม
ปริมาณ | 1000 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดจากดอกบัว (Water Lily) |
สภาพผม | ผมแห้งเสียมาก |
Pantene Gold Perfection Mask Treatment ทรีตเมนต์

ราคา 229 บาท*
Pantene Gold Perfection Mask Treatment ทรีตเมนต์มาสก์บำรุงผมที่ผสานด้วยคุณค่าของโปรวิตามินและคอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียและฟื้นฟูเส้นผมจากมลภาวะต่าง ๆ ช่วยให้ผมนุ่มลื่น หวีง่าย ไม่พันกัน โดยเนื้อทรีตเมนต์จะเป็นเนื้อที่เข้มข้นพิเศษพร้อมให้สารบำรุงอย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับคนที่ผมแห้งเสียมาก ๆ ค่ะ ทรีตเมนต์สามารถใช้ได้ทุกวันเมื่อใช้แล้วเส้นผมจะเปล่งประกายเงางาม แต่ว่าล้างออกค่อนข้างยากค่ะดังนั้นอย่าลืมล้างให้สะอาดนะคะ คำแนะนำอีกอย่างหนึ่งของเราก็คือแนะนำให้ใช้ร่วมกับแชมพูและครีมนวดผมจากแพนทีนค่ะ รับรองว่าผมนุ่มลื่นสลวยสวยเก๋แน่นอนค่ะ
ข้อดี
- เป็นทรีตเมนต์มาสก์บำรุงผมสูตรเข้มข้น ใช้แล้วผมจะนุ่มลื่นในทันที
- สามารถใช้แทนครีมนวดผมได้และมีประสิทธิภาพมากกว่าด้วย
- ช่วยให้เส้นผมชี้ฟูน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับผมมันเพราะบางคนใช้แล้วผมมันกว่าเดิม
ปริมาณ | 160 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | โปรวิตามินและคอลลาเจน |
สภาพผม | ผมแห้งเสีย |
Sunsilk Treatment Damage Restore Orange ทรีตเมนต์

ราคา 165 บาท*
Sunsilk Treatment Damage Restore Orange ทรีตเมนต์ที่โด่งดังและมีมานานแล้วค่ะ โดยทรีตเมนต์ก็ได้พัฒนามาจากครีมนวดผมสีส้มค่ะ ส่วนผสมหลักของทรีตเมนต์คือแคลเซียมและเคราติน เมื่อใช้งานแล้วจะทำให้เส้นผมรู้สึกสุขภาพดีและนุ่มลื่นมากขึ้น ทรีตเมนต์จะช่วยเพิ่มความเงางามและช่วยลดการชี้ฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อสัมผัสของทรีตเมนต์เนียนนุ่มและไม่จับตัวเป็นก้อนทำให้เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ติดทนนานมากเป็นพิเศษค่ะ ใครที่อยากให้เส้นผมนุ่มลื่นในระยะเวลาอันรวดเร็วแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- กลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยให้ผมนุ่มลื่นและดูสุขภาพมากยิ่งขึ้น
- ช่วยไม่ให้ผมพันกันและขาดหลุดร่วงน้อยลง
- เนื้อบางเบาไม่ทิ้งคราบมันเยิ้มไว้หลังจากการใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- เกิดคราบได้ง่ายเพราะตัวเครื่องเป็นสีขาว ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ
ปริมาณ | 200 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | แคลเซียมและเคราติน |
สภาพผม | ผมแห้งเสีย |
BSC Hair Care Glossy Hair Treatment Wax ทรีตเมนต์แว็กซ์

ราคา 149 บาท*
ข้อดี
- กลิ่นหอมติดผมมากเหมาะสำหรับคนที่อยากให้ผมหอม
- ให้ความชุ่มชื่นกับเส้นผมได้ดีมากและช่วยทำให้ผมนุ่ม
- เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มแทรกซึมลึกเข้าไปแกนผม
ข้อควรพิจารณา
- ล้างออกค่อนข้างยากต้องใช้เวลาพอสมควร
ปริมาณ | 450 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันซึบากิ โปรตีนจากข้าวบาร์เลย์และมอยส์เจอไรเซอร์ |
สภาพผม | ผมแห้งเสียมาก |
X Cute Me Hair Treatment ทรีตเมนต์

ราคา 79 บาท*
ข้อดี
- กระปุกใหญ่เป็นพิเศษสามารถใช้งานได้นานมาก
- เนื้อสัมผัสนุ่มมาก แทรกซึมลึกถึงแกนผม
- กลิ่นหอมมาก ๆ หอมจนเปลี่ยนไปใช้แบรนด์อื่นไม่ได้เลย
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะล้างออกได้ยากสักเล็กน้อย
ปริมาณ | 450 กรัม |
---|---|
ส่วนผสมที่สำคัญ | ไฮยารูลอนและน้ำมันจากดอกซึบากิ |
สภาพผม | ผมแห้งเสียและจัดทรงยาก |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการใช้ทรีตเมนต์หมักผม
- สระผมให้สะอาด สระผมด้วยแชมพูที่ดีที่สุดสำหรับผมของคุณ หากคุณมีผมตรงให้สระผมสองครั้ง ถ้าคุณมีผมหยิกมากให้สระผมเพิ่มอย่างน้อยอีกหนึ่งครั้งเป็น 3 ครั้งค่ะเพื่อความสะอาด
- เช็ดผมให้แห้งหมาด ๆ อย่างอ่อนโยน คุณควรเช็ดผมก่อนแต่ให้ทิ้งความชุ่มชื้นไว้เพื่อให้เส้นผมสามารถดูดซับทรีตเมนต์ได้ง่าย หลังจากนั้นให้ใช้ทรีตเมนต์เคลือบเส้นผมของคุณและนวดผมเบา ๆ หากมีหมวกอบไอน้ำก็สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยหมักไว้ประมาณ 15 – 30 นาที
- ล้างออกให้สะอาด หลังจากครบเวลาที่กำหนดให้ล้างออกให้สะอาด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการสะสมของทรีตเมนต์ที่เหลืออยู่บนผมของคุณเพราะอาจจะทำให้เกิดรังแคได้
ทรีตเมนต์มาสก์มีความเข้มข้นสูง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันก็ได้ค่ะ เพราะอาจจะทำให้ผมมันเร็วได้ อาจจะใช้สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้งและหากต้องการดูแลผมให้ดีอยู่เสมอ ควรใช้เซรั่มหรือน้ำมันบำรุงผม เพื่อให้ผมดูเงางามมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ หากสาว ๆ คนไหนยังไม่มีเซรั่มหรือไม่รู้จะใช้ตัวไหนเราขอแนะนำให้คุณไปเลือกได้ที่ เซรั่มและน้ำมันบำรุงผม ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? เพราะในบทความนี้เราได้แนะนำเซรั่มบำรุงผมที่ดีที่สุดไว้แล้วค่ะ ทรีตเมนต์มีประโยชน์ต่อผมของเรามากจริง ๆ นะคะ นอกจากจะช่วยดูแลรักษาผมเสียแล้วยังช่วยให้ผมนุ่มลื่น มีน้ำหนักไม่พันกันอีกด้วยค่ะ แต่เวลาหมักผมควรระมังระวังไม่ให้โดนโคนผมมากนักเพราะจะทำให้ผมมันและเป็นรังแคได้ หากใครที่ไม่ทันระวังทำให้เกิดรังแคแล้วก็สามารถรักษาได้ด้วยแชมพูขจัดรังแคซึ่งหาไอเท็มได้ที่ แชมพูขจัดรังแค ค่ะ รับรองว่าคุณจะหมดปัญหาการเรื่องรังแคกวนใจแน่นอนค่ะ สำหรับวันนี้ขอลากันไปก่อนคราวหน้าจะนำเสนอสินค้าอะไรกันต้องไปรอชมกันค่ะ