อุปกรณ์ทำความสะอาดเป็นไอเทมที่ควรจะต้องมีติดบ้านอยู่แล้ว ทั้งนี้เมื่อพูดถึงอุปกรณ์ทำความสะอาด หลายคนก็คงจะนึกถึง ไม้กวาด, ไม้กวาดไฟฟ้า, ไม้ถูพื้น, หุ่นยนต์ทำความสะอาด, เครื่องดูดไรฝุ่น และอีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้เลยคือ ‘เครื่องดูดฝุ่น’ เพราะตัวเครื่องทำคอยทำหน้าที่ในการดูดเอาสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามพื้นและซอกมุมต่าง ๆ รวมไปถึงยังดูดทำความสะอาดได้แม้กระทั่ง ที่นอน, พรม หรือโซฟาตัวโปรดของเราได้อีกด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นแบรนด์ที่ผลิตและวางขายเครื่องดูดฝุ่นในท้องตลาดก็มีให้เลือกอยู่มากมาย แต่เชื่อว่ามีอยู่แบรนด์หนึ่งที่ถ้าหากพูดถึงหลายก็ก็จะต้องร้อง “อ่อ..” กันอย่างแน่นอนนั่นคือ ‘เครื่องดูดฝุ่น Dyson’ เนื่องจากมันจะมีฟังก์ชันและระบบพลังไซโคลน ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดฝุ่นรวมไปถึงสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ ได้แบบราบคาบ ทำให้คุณทำความสะอาดง่ายยิ่งขึ้นและบ้านของคุณก็จะสะอาดมากกว่าที่เคยเป็นอย่างแน่นอน
ประวัติของแบรนด์ ไดสัน (Dyson)
จุดเริ่มต้นของการคิดค้นและผลิตเครื่องดูดฝุ่นอย่างไดสัน (Dyson) คือในปี 1974 เจมส์ ไดสัน (James Dyson) ได้ซื้อเครื่องดูดฝุ่นประเภทหนึ่งในประเทศอังกฤษมาใช้งาน แต่เมื่อเขานำมันมาใช้ในการดูดกระดาษทิชชู่บนพื้น กลับเกิดปัญหาคือพลังดูดของเครื่องไม่เพียงพอที่จะสามารถดูดกระดาษทิชชู่เข้าไปได้ อีกทั้งเมื่อเปิดถังเก็บฝุ่นก็พบเจอเข้ากับตัวกรองที่เต็มไปด้วยฝุ่นจำนานมาก ซึ่งปัญหาตรงนี้ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ระบบและพลังการดูดฝุ่นของเครื่องควรจะต้องมีประสิทธิภาพมากกว่านี้

ดังนั้นเขาจึงได้เริ่มต้นคิดค้นนวัฒกรรมและเทคโนโลยีที่จะมาเติมเต็มในส่วนนี้ จนในที่สุดเขาก็ทำระบบชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ‘ไซโคลน’ ซึ่งเพิ่มพลังการดูดได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นหรือสิ่งของต่าง ๆ ก็สามารถดูดเข้าไปในถังเก็บได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญคือตัวกรองเองก็มีประสิทธิภาพ ไม่เกิดปัญหาฝุ่นติดอยู่บนตัวกรองอย่างแน่นอน โดยระบบไซโคลนของทางไดสัน ทำให้มีลูกค้าทั่วโลกเลือกที่จะซื้อเพื่อนำไปใช้งานภายในบ้าน จนทางบริษัทยอดขายกว่า 8.2 พันล้านดอลลาร์ และกำไรประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020
ฟังก์ชันของเครื่องดูดฝุ่น Dyson ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง ?
Dyson เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบด้ามจับนั้นมีประสิทธิภาพและมียอดขายมาเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการเลยครับ เพราะการใช้งานที่ง่ายและฟังก์ชันที่ทำให้การทำความสะอาดง่ายกว่าเดิม โดยฟังก์ชันและคุณสมบัติที่น่าสนใจของ Dyson จะมีดังนี้
- การออกแบบให้เป็นเครื่องดูดฝุ่นด้ามจับ ทำให้มันมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ
- มีหัวทำความสะอาดที่ดี ช่วยให้สามารถทำความสะอาดได้กับพื้นทุกประเภท
- ถังเก็บฝุ่นดีไซน์ออกมาให้ ‘ถูกสุขลักษณะ’ ทำให้ล้างถังเก็บฝุ่นได้ง่าย
- ตั้งค่าพลังงานของเครื่องได้ 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็น Eco (12AW), Auto (23AW) และ Boost (150AW)
นอกจากนี้เครื่องดูดฝุ่น Dyson รุ่น V11 Absolute และ V15 Detect ยังมีฟังก์ชันพิเศษอย่าง
- หน้าจอ LCD ซึ่งคอยบอกสถานะของเครื่องและแบตเตอรี่ภายในเครื่อง
- หัวของเครื่องดูดฝุ่นจะปรับพลังการดูดบนพื้นได้แบบอัตโนมัติ
- ตรวจจับฝุ่นด้วยเลเซอร์ (มีเฉพาะในเรื่อง V15)
- เครื่องดูดฝุ่นสามารถบอกได้ว่าคุณดูดฝุ่นไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว

เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V8 Slim™ Fluffy+ Cord-Free Vacuum Cleaner

ราคา 15,900 บาท*
ขนาด | 114.4 x 25 x 21 เซนติเมตร |
---|---|
กำลังดูด | 115 Air Watts |
มีสาย / ไร้สาย | ไร้สาย |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 0.54 ลิตร |
ตัวกรองฝุ่น | HEPA |
อุปกรณ์เสริม | หัวดูด 5 แบบ, ที่ชาร์จ และแท่นชาร์จ |
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Omni glide Cord-Free Vacuum Cleaner

ราคา 17,900 บาท*
ขนาด | 107.7 x 20.6 x 9.1 เซนติเมตร |
---|---|
กำลังดูด | 50 Air Watts |
มีสาย / ไร้สาย | ไร้สาย |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 0.2 ลิตร |
ตัวกรองฝุ่น | HEPA |
อุปกรณ์เสริม | หัวดูดฝุ่น 2 แกน, สายชาร์จ และแท่นชาร์จ |
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim Fluffy (Nickel/Nickel) Cord-Free Vacuum Cleaner

ราคา 21,900 บาท*
ขนาด | 110 x 25 x 25 เซนติเมตร |
---|---|
กำลังดูด | 100 Air Watts |
มีสาย / ไร้สาย | ไร้สาย |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 0.3 ลิตร |
ตัวกรองฝุ่น | HEPA |
อุปกรณ์เสริม | หัวดูดหลัก 1 ชิ้น, หัวดูดเสริม 5 แบบ, สายชาร์จ และแท่นชาร์จ |
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim ™ Fluffy Cordless Vacuum Cleaner

ราคา 24,090 บาท*
จุดเด่น
- มอเตอร์หมุนได้ในระดับ 125,000 รอบ กำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกชิ้นให็ได้ทั้งหมด
- มีเซนเซอร์ที่หัวดูดซึ่งชื่อว่า Slim FluffyTM ทำให้ตรวจจับฝุ่นอย่างละเอียด
- มีโหมดการทำความสะอาดให้เลือกกว่า 3 แบบ สามารถทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ขนาด | 123.4 x 25.2 x 25 เซนติเมตร |
---|---|
กำลังดูด | 150 Air Watts |
มีสาย / ไร้สาย | ไร้สาย |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 0.35 ลิตร |
ตัวกรองฝุ่น | HEPA |
อุปกรณ์เสริม | หัวดูด 5 แบบ, ข้อต่อดูดใต้เตียง, คลิปต่อท่อ, สายชาร์จ และแท่นยึดติดผนัง |
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11™ Fluffy Cord-Free Vacuum Cleaner

ราคา 24,900 บาท*
ขนาด | 128 x 26.1 x 25 เซนติเมตร |
---|---|
กำลังดูด | 185 Air Watts |
มีสาย / ไร้สาย | ไร้สาย |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 0.54 ลิตร |
ตัวกรองฝุ่น | HEPA |
อุปกรณ์เสริม | หัวดูดหลัก 1 ชิ้น, หัวดูดเสริม 4 แบบ, สายชาร์จ และแท่นชาร์จ |
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11™ Fluffy (Click in battery) Cord-Free Vacuum Cleaner

ราคา 24,900 บาท*
ขนาด | 128.6 x 26.1 x 25 เซนติเมตร |
---|---|
กำลังดูด | 185 Air Watts |
มีสาย / ไร้สาย | ไร้สาย |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 0.54 ลิตร |
ตัวกรองฝุ่น | HEPA |
อุปกรณ์เสริม | หัวดูดหลัก 1 ชิ้น, หัวดูดเสริม 4 แบบ, สายชาร์จ และแท่นชาร์จ |
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11™ Absolute+ Cord-Free Vacuum Cleaner

ราคา 27,900 บาท*
จุดเด่น
- ทำงานได้ต่อเนื่องกว่า 4.5 ชั่วโมง เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมมีความอึดทน
- ระบบการดูดจะแรงในระดับไซโคลน ทำให้ดูดกำจัดฝุ่นได้อย่างละเอียด
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ขนาด | 128.6 x 26.1 x 25 เซนติเมตร |
---|---|
กำลังดูด | 185 Air Watts |
มีสาย / ไร้สาย | ไร้สาย |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 0.54 ลิตร |
ตัวกรองฝุ่น | HEPA |
อุปกรณ์เสริม | หัวดูดหลัก 2 ชิ้น, หัวดูดเสริม 6 แบบ, สายชาร์จ และแท่นชาร์จ |
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim ™ Total Clean Cordless Vacuum Cleaner

ราคา 28,500 บาท*
ขนาด | 123.4 x 25.2 x 25 เซนติเมตร |
---|---|
กำลังดูด | 150 Air Watts |
มีสาย / ไร้สาย | ไร้สาย |
ความจุถังเก็บฝุ่น | 0.35 ลิตร |
ตัวกรองฝุ่น | HEPA |
อุปกรณ์เสริม | หัวดูด 8 แบบ, ข้อต่อสำหรับดูดใต้เตียง, คลิปติดท่อ, สายชาร์จ และแท่นชาร์จ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เครื่องดูดฝุ่น Dyson (ไดสัน) รุ่นไหนดี มีคุณภาพ ดูดแรง เสียงเบา ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V8 Slim™ Fluffy+ Cord-Free Vacuum Cleaner |
| |||
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Omni glide Cord-Free Vacuum Cleaner |
| |||
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Digital Slim Fluffy (Nickel/Nickel) Cord-Free Vacuum Cleaner |
| |||
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim ™ Fluffy Cordless Vacuum Cleaner |
| |||
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11™ Fluffy Cord-Free Vacuum Cleaner |
| |||
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11™ Fluffy (Click in battery) Cord-Free Vacuum Cleaner |
| |||
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V11™ Absolute+ Cord-Free Vacuum Cleaner |
| |||
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12 Detect Slim ™ Total Clean Cordless Vacuum Cleaner |
|
วิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่น Dyson รุ่นไหนดีที่สุด
1. ประเภทของเครื่องดูดฝุ่น
การเลือกประเภทของเครื่องดูดฝุ่นจะต้องเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และวิธีการทำความสะอาดของเรา แต่โดยปกติแล้ว Dyson จะออกแบบเครื่องดูดฝุ่นมาในสไตล์ของด้ามจับอยู่แล้ว ซึ่งข้อดีของเรื่องดูดฝุ่นด้ามจับคือการจับที่ค่อนข้างสะดวก เพราะด้วยความสูงที่กำลังพอดี รวมไปถึงถังเก็บที่ใหญ่ รวมไปถึงสามารถเข้าไปทำความสะอาดได้แบบทุกซอกทุกมุม
2. เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสายและไร้สาย
เครื่องดูดฝุ่นที่วางขายในปัจจุบันจะมีให้เลือกทั้งแบบมีสายและไร้สาย โดยทั้งสองอย่างนี้จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป อย่างถ้าเป็นเครื่องดูดฝุ่นมีสาย ข้อดีของมันคือการทำความสะอาดที่ล้ำลึก มีพลังการดูดที่ดีเยี่ยม รวมไปถึงถังเก็บฝุ่นที่ใหญ่ก็ทำให้มันหย่นระยะเวลาในการทำความสะอาดถังไปได้อีกนานเลยครับ ในขณะที่เครื่องดูดฝุ่นไร้สายจะโดดเด่นในเรื่องของการเคลื่อนตัวที่ค่อนข้างอิสระ ทั้งนี้ถึงแม้ว่าความจุของถังเก็บฝุ่นจะน้อยกว่าแบบมีสาย แต่ก็ถือว่าใหญ่เพียงพอที่จะรองรับฝุ่นได้เยอะครับ
3. เลือกให้เหมาะกับประเภทของพื้น
โดยปกติแล้วเครื่องดูดฝุ่น Dyson สามารถทำความสะอาดกับพื้นได้เกือบทุกประเภท จะบอกว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่น “All Around” เนื่องจากหัวของเครื่องจะปรับเข้ากับพื้นได้แบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ลูกกลิ้งขนอ่อนที่อยู่บริเวณหัวเครื่องดูดฝุ่นก็ทำหน้าที่กำจัดสิ่งสกปรกได้ดี ทั้งพื้นแบบกระเบื้อง, ลามิเนต และไม้ ที่สำคัญคือมันยังมีความสามารถในการดูดฝุ่นบนพรม เพื่อกำจัดเศษขยะ, สิ่งสกปรก รวมไปถึงผมอีกด้วย ซึ่งถ้าหากบ้านของคุณมีพื้นหลายประเภท ผมก็แนะนำให้เลือกเครื่องดูดฝุ่นรุ่นที่เป็นแบบไร้สายและสามารถที่จะเปลี่ยนหัวดูดได้ครับ

4. ความจุของถังเก็บฝุ่น
ความจุของถังเก็บฝุ่นเป็นอีกหนึ่งข้อที่แนะนำว่าให้พิจารณากันให้ดี เพราะยิ่งเครื่องดูดฝุ่นมีถังที่ใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ นั่นก็หมายความว่าเราจะสามารถทำความสะอาดได้อย่างต่อเนื่องนานขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลามาจัดการกับฝุ่นในถังเก็บบ่อย ๆ ทั้งนี้ถังเก็บฝุ่นของ Dyson โดยส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มต้นที่ 0.2 ลิตรขึ้นไป
5. ฟิลเตอร์หรือตัวกรองฝุ่น
ฟิลเตอร์ของทาง Dyson ค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพอยู่แล้วครับ เพราะทางแบรนด์จะใช้ HEPA ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกรองได้แบบ 99.97 เปอร์เซ็นต์ สามารถที่จะกรองฝุ่นได้ในอนุภาคที่เล็กขนาด 0.3 ไมครอนได้อย่างหมดจด แต่อย่างไรก็ดีผมก็อยากจะให้เช็กเพื่อความมั่นใจว่าเครื่องดูดฝุ่นที่เราซื้อ มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นได้อย่างยอดเยี่ยม
6. อุปกรณ์เสริมของเครื่องดูดฝุ่น
Dyson ถือว่าเป็นแบรนด์ที่พรีเมียม ดังนั้นนอกจากที่ฟังก์ชันการใช้งานและคุณสมบัติของเครื่องที่ดีแล้ว อีกอย่างหนึ่งซึ่งดีไม่แพ้กันเลยคือ มันจะแถมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น หัวดูดแบบ 2in1, หัวดูดแบบมอเตอร์ขนาดเล็ก, หัวดูดแบบปากแคบ หรือหัวดูดฝุ่นที่นอน เพื่อให้คุณได้ปรับใช้สำหรับการทำความสะอาดให้เหมาะกับพื้นที่นั้น ๆ ฉะนั้นแนะนำว่าให้อ่านรายละเอียดส่วนนี้ให้ดี
การทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson
การทำความสะอาดถังเก็บฝุ่น
- เครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย ให้ทำการกดปุ่มเพื่อดึงถังเก็บออกมา จากนั้นนำไปเทฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ลงไปในถังขยะให้เรียบร้อย แล้วจึงค่อยกดปุ่มและเพื่อใส่ถังเก็บกลับเข้าไปอีกครั้ง
- เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สาย กดปุ่มสีแดงเพื่อดึงถังเก็บฝุ่นออกจากเครื่อง หลังจากนั้นให้กดปุ่มแดงอีกครั้งเพื่อเปิดถังและกำจัดฝุ่นทั้งหมดออกไป
คำเตือน : ถ้าเป็นไปได้คุณควรที่จะกำจัดฝุ่นออกจากถังเก็บทันทีเมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วเรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ถังเก็บเต็มมากเกินไปจนเกินปัญหาขึ้นในอนาคต
การทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่น
- ฟิลเตอร์ ส่วนใหญ่แล้ว Dyson รุ่นใหม่จะติดตั้งฟิลเตอร์หรือตัวกรองไว้ส่วนบน ซึ่งผมแนะนำให้ทุกคนนำไปทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง ด้วยการแช่ไว้ในน้ำอุ่นและปล่อยให้ฟิลเตอร์แห้งเองโดยธรรมชาติ สามารถนำไปตากไว้ใกล้พัดลมหรือหน้าต่างที่ถ่ายเทอากาศได้สะดวก
- แถบแปรง สำหรับใครที่อยู่บ้านร่วมกับสัตว์เลี้ยงหรือคนที่มีผมค่อนข้างยาว อาจทำให้แถบแปรงบริเวณหัวเครื่องดูดฝุ่นเกิดการพันกันได้ ซึ่งตรงนี้จะทำให้พลังในการดูดลดลงตามไปด้วย ดังนั้นการที่จะแก้ไขปัญหาได้คือการดึงผมหรือขนสัตว์ออกทุกครั้งหลังจากทำความสะอาด เพื่อป้องกันปัญหาการพันบนแถบแปรง