กรรไกรเป็นอุปกรณ์ที่ส่วนใหญ่แล้วทุกบ้านจะมีอย่างน้อยสัก 1 ชิ้น ไว้สำหรับการตัดสิ่งของต่าง ๆ ทั้งนี้กรรไกรก็มีการออกแบบและดีไซน์ออกมาในหลากหลายประเภทตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น กรรไกรตัดผม, กรรไกรตัดขนจมูก, กรรไกรตัดขนคิ้ว, กรรไกรสำหรับงานครัว, กรรไกรตัดแต่งกิ่งไม้, กรรไกรตัดหญ้า, กรรไกรตัดเล็บ, กรรไกรตัดกระดาษ รวมไปถึงกรรไกรที่เราจะพูดถึงวันนี้ นั่นคือ ‘กรรไกรตัดผ้า’
โดยเมื่อพูดถึงการตัดผ้า หลายคนคงอาจจะคิดว่ากรรไกรตัดกระดาษ หรือ กรรไกรสำหรับงานครัว ก็สามารถนำไปใช้ในการตัดผ้าได้เช่นเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นความคิดที่ผิดครับ เพราะนอกจากผ้าที่ตัดจะออกไม่สวยหรือตัดได้ยากแล้ว มันยังเป็นการลดประสิทธิภาพของกรรไกรไปด้วยในตัว
จึงไม่ต้องแปลกใจเลยครับว่าทำไมช่างตัดผ้ามืออาชีพทุกคนถึงใช้กรรไกรตัดผ้าโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดีกรรไกรตัดผ้านั้นมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกเยอะมาก ซึ่งหลายคนก็คงไม่แน่ใจว่าจะเลือกอย่างไรดี ดังนั้นวันนี้ผมจึงอยากมาแนะนวิธีการเลือก รวมไปถึงแนะนำกรรไกรตัดผ้ามาฝากกันในบทความนี้ครับ
กรรไกรตัดผ้า แบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
- กรรไกรตัดผ้าซิงเกอร์ : กรรไกรตัดผ้าซิงเกอร์ Singer
- กรรไกรตัดผ้า solo : กรรไกรตัดผ้า SOLO กรรไกรด้ามทอง
- กรรไกรตัดผ้าไฟฟ้า: IMAX กรรไกรตัดผ้าไฟฟ้า กรรไกรแบตเตอรี่อเนกประสงค์ 3.6V
- กรรไกรตัดผ้า 8 นิ้ว: กรรไกรตัดผ้า แสตนเลส 8 นิ้ว Heavy Duty by Rhino
- กรรไกรตัดผ้า 10 นิ้ว : กรรไกรตัดผ้า ด้ามทอง รุ่น 3M
- กรรไกรตัดผ้า 12 นิ้ว : กรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดหนัง 8-12 นิ้ว ยี่ห้อ PIN
กรรไกรตัดผ้า vs กรรไกรธรรมดา
จุดประสงค์ในการใช้งานของกรรไกรทั้ง 2 ชนิดนี้จะแตกต่างกันครับ อย่างกรรไกรอเนกประสงค์หรือกรรไกรธรรมดาจะออกแบบมาเพื่อใช้ในการตัดกระดาษหรือสิ่งของต่าง ๆ ส่วนกรรไกรตัดผ้าจะดีไซน์สำหรับการตัดเนื้อผ้าชนิดต่าง ๆ ดังนั้นความคมและองศาของใบมีดมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย โดยเพื่อให้การตัดผ้ามีประสิทธิภาพมากที่สุด เราก็ควรจะต้องใช้กรรไกรตัดให้เหมาะและตรงกับวัสดุนั้น ๆ ครับ
กรรไกรตัดผ้าไฟฟ้า คืออะไร ?
กรรไกรตัดผ้าไฟฟ้าจะมีแบตเตอรี่อยู่ภายในเพื่อให้พลังงานกับตัวเครื่องสำหรับการควบคุมใบมีด ทั้งนี้ใบมีดของมันจะเหมือนกับกรรไกรตัดผ้าทั่วไปครับ สามารถตัดผ้าหนา, ผ้าบาง หรือ กระดาษได้แทบจะทุกชนิด โดยข้อดีของกรรไกรตัดผ้าไฟฟ้าคือการใช้งานที่ง่ายและสะดวกสบาย เพราะใบมีดจะทำงานเองแบบอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องง้างมือหรือนิ้วให้ปวด อีกทั้งความคมของมันก็สูงมาก ใช้เวลาในการตัดผ้าอย่างรวดเร็วกว่าหลายเท่าหากเปรียบกับกรรไกรตัดผ้าทั่วไป
วิธีการเลือกกรรไกรตัดผ้าคุณภาพ
1. ดีไซน์ออกมาให้จับได้ถนัดมือ
กรรไกรที่ดีควรดีไซน์แบบ Egonomic หรือออกแบบตามสรีรศาสตร์มือของเราเพื่อที่จะให้การตัดผ้าง่ายและใช้เวลาในการตัดเร็วยิ่งขึ้น หลายคนอาจมองข้ามในจุดนี้ แต่อย่าลืมนะครับว่าหากคุณจำเป็นต้องใช้งานบ่อย ๆ วันละหลายชั่วโมง การเลือกกรรไกรตามสรีรศาสตร์จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันการปวดข้อมือและนิ้วโป้ง นอกจากนี้หากกรรไกรออกแบบมาไม่ค่อยดีหรือจับไม่ถนัดมือ แน่นอนว่าการตัดผ้าก็จะยากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั่นเองครับ
2. คุณภาพของใบมีด (คาร์บอน vs สแตนเลส)
กรรไกรตัดผ้าในท้องตลาดจะมีให้เลือกอยู่หลัก ๆ 2 ชนิด นั่นคือ กรรไกรคาร์บอน และ กรรไกรสแตนเลส
- กรรไกรคาร์บอน เหมาะสำหรับช่างหรือคนที่ต้องนำไปใช้ในการตัดเย็บเสื้อผ้าแบบมืออาชีพ เนื่องจากใบมีดจะมีความแข็งและคมเป็นพิเศษ นอกจากนี้อายุการใช้งานก็ยาวนานอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกรรไกรคาร์บอนก็มีข้อเสียเช่นกันคือ น้ำหนักของมันค่อนข้างเยอะ และมีราคาแพงกว่ากรรไกรสแตนเลสครับ
- กรรไกรสแตนเลส เป็นกรรไกรที่ใช้กันมานานกว่า 40 – 50 ปี ซึ่งกระบวนการผลิตของมันคือการนำเอาคาร์บอนเข้าไปอบในอุณหภูมิที่มีความร้อนสูง จากนั้นก็ขึ้นรูปให้สแตนเลสเกิดความแหลมคมเป็นใบมีด โดยข้อดีของสแตนเลสคือน้ำหนักจะเบา ทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น แต่หากพูดถึงในเรื่องของความทนทานก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ดีเท่ากับกรรไกรคาร์บอนครับ
3. ขนาดและความยาวของกรรไกร
ข้อนี้ถือว่าสำคัญเช่นกันครับ เพราะการเลือกขนาดให้เหมาะสมกับชนิดของผ้าหรือความหนาของผ้า แน่นอนว่าการตัดก็จะง่ายขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ขนาดพื้นฐานของกรรไกรตัดผ้าควรจะมีขนาดตั้งแต่ 8 ไปจนถึง 12 นิ้ว แต่ถ้ามากกว่าหรือเล็กกว่านี้ ผมไม่แนะนำให้ซื้อครับ เนื่องจากการหยิบจับจะยากและอาจทำให้ตัดผ้าได้ไม่ดีเท่าที่ควร
4. น้ำหนักของกรรไกร
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าด้ามจับของกรรไกรในแต่ละตัวนั้นแตกต่างกัน โดยในบางรุ่นอาจจะเป็นเหล็กและในบางรุ่นอาจจะเป็นพลาสติก ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้งสองอย่างนี้มีคุณภาพดีเหมือนกัน เพียงแต่ตัวจับแบบเหล็กมีน้ำหนักที่มากกว่าพลาสติกเล็กน้อย ดังนั้นตรงจุดนี้คุณก็จะต้องเลือกครับว่าแบบไหนถนัดหรือเหมาะกับคุณมากกว่ากัน ยิ่งใครที่ต้องใช้ระยะเวลานานหลายชั่วโมง ข้อนี้ถือว่าเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ
5. แบรนด์กรรไกร
แบรนด์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่บ่งบอกถึงคุณภาพของสินค้าได้เช่นเดียวกันครับ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วแบรนด์ติดตลาดหรือเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง อย่างเช่น SOLO หรือ Singer จะมีการใช้สแตนเลสอย่างดีสำหรับการผลิตใบมีด อีกทั้งการดีไซน์ก็ทำออกมาได้ดี ทำให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้นถ้าหากเป็นไปได้และมั่นใจว่าเราจะได้สินค้าคุณภาพ ผมแนะนำให้เลือกแบรนด์สินค้าที่รู้จักกันเป็นอย่างดีครับ
กรรไกร กรรไกรตัดผ้า ยี่ห้อ JINJIAN
ราคา 34 บาท*
Jinjian เป็นอีกหนึ่งแบรนด์จากประเทศจีนที่น่าสนใจมากครับ เพราะตัวใบมีดค่อนข้างจะคมสามารถนำไปตัดได้ทั้งผ้าและหนัง ทั้งนี้เมื่อใช้ไปในระยะเวลานานแล้วรู้สึกว่าความคมลดลง คุณก็สามารถนำไปลับคมได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องกังวลว่าใบมีดจะเกิดการพัง ส่วนบริเวณด้ามจับผลิตจากยาง ดังนั้นการจับหรือออกแรงในการตัดจะนุ่มสบายมือ ใช้ไปนานหลายชั่วโมงก็ไม่รู้สึกปวดมืออย่างแน่นอน
จุดเด่น
- ใบมีดมีความคมสูง ตัดได้ทั้งผ้าและหนัง
- ด้ามจับผลิตจากยาง มีความนิ่มและไม่ปวดมือในระหว่างการตัด
- สามารถลับให้คมขึ้นได้
| ขนาด | 7 นิ้ว / 7.5 นิ้ว / 8 นิ้ว |
|---|---|
| ประเภท | กรรไกรตัดผ้าทั่วไป |
| ใบมีด | สแตนเลส |
Deli 6010 Scissors Stainless กรรไกรสแตนเลส กรรไกรตัดผ้า
ราคา 65 บาท*
Deli รุ่น 6010 มาในขนาด 8 นิ้ว ซึ่งเหมาะสำหรับการตัดผ้าเป็นอย่างมาก ทั้งนี้กรรไกรจะดีไซน์ให้ใบมีดมีด้านคมที่เป็นลักษณะฟันปลา ดังนั้นระยะเวลาการใช้งานของมันยาวนานกว่าแบบเรียบทั่วไป ส่วนช่องใส่นิ้วและด้ามจับก็มีความนุ่มมือ ขนาดกำลังพอดี ทำให้การตัดผ้านั้นง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยทีเดียว
จุดเด่น
- ดีไซน์ด้ามมีดเป็นฟันปลา ช่วยเพิ่มความทนทานและระยะเวลานานการใช้งาน
- ขนาด 8 นิ้ว เหมาะสำหรับการตัดผ้า
- ด้ามจับและช่องใส่นิ้วออกแบบดี หยิบจับได้สะดวก
| ขนาด | 8 นิ้ว |
|---|---|
| ประเภท | กรรไกรตัดผ้าทั่วไป |
| ใบมีด | สแตนเลส |
กรรไกรตัดผ้า ด้ามทอง รุ่น 3M
ราคา 165 บาท*
กรรไกรตัดผ้าด้ามทองรุ่น 3M จะมีสินค้าให้ทั้งหมด 2 ชิ้นนั่นคือ กรรไกรตัดผ้า และ กรรไกรสำหรับตัดเส้นด้ายเหมือนกับ ‘กรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดหนัง 8-12 นิ้ว ยี่ห้อ PIN’ โดยคุณสมบัติของกรรไกรจะมีข้อดีอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ความคมของใบมีดที่คมแบบยาวนาน การดีไซน์แบบ Ergonomic ซึ่งช่วยให้จับได้อย่างถนัดมือ และการดูแลรักษาที่ง่ายมาก มีอายุการใช้งานยาวนานหลายปี
จุดเด่น
- ดีไซน์แบบ Ergonomic จับได้ถนัดมือ
- ความคมของใบมีดยาวนาน
- แถมกรรไกรตัดเศษเส้นด้ายให้
- ดูแลรักษาง่าย
| ขนาด | 8 นิ้ว / 9 นิ้ว / 10 นิ้ว / 11 นิ้ว / 12 นิ้ว |
|---|---|
| ประเภท | กรรไกรตัดผ้าทั่วไป |
| ใบมีด | สแตนเลส |
กรรไกรตัดผ้า SOLO กรรไกรด้ามทอง
ราคา 189 บาท*
SOLO ออกแบบมาเพื่อตัดผ้าโดยเฉพาะ ทั้งนี้ด้วยขนาดความยาว 10 นิ้ว ก็ถือว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดี สามารถใช้ตัดผ้าบางและหนาได้ทั้งหมด ทั้งนี้ใบมีดจะผลิตมาจากสแตนเลสอย่างดี ถึงแม้ว่าใช้ไปในระยะเวลานานก็จะไม่มีปัญหาสนิมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และหากใครต้องการกรรไกรความคมสูง ๆ ต้องลองใช้กรรไกรตัวนี้เลยครับ รับรองว่าติดใจอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- ความยาว 10 นิ้ว ตัดได้ทั้งผ้าบางและหนา
- ใบมีดสแตนเลสมีความคมสูง
- สนิมไม่ขึ้น
| ขนาด | 10 นิ้ว |
|---|---|
| ประเภท | กรรไกรตัดผ้าทั่วไป |
| ใบมีด | สแตนเลส |
กรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดหนัง 8-12 นิ้ว ยี่ห้อ PIN
ราคา 206 บาท*
ไม่ว่าผ้าที่ตัดจะเป็นชนิดไหน จะบางหรือหนาสักแค่ไหนกรรไกรตัดผ้าของ PIN ก็เอาอยู่ทั้งหมดครับ เพราะกระบวนการผลิตใบมีดค่อนข้างดีและการใช้สแตนเลสก็ช่วยเพิ่มความคมได้มากกว่าเดิม สามารถตัดหนังโดยไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย ทำให้การตัดผ้าใช้เวลาน้อยลง นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังแถมกรรไกรตัดเศษด้ายอีกด้วย ดังนั้น PIN ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวที่คุ้มค่าแก่การลงทุนครับ
จุดเด่น
- ใบมีดผลิตจากสแตนเลส ตัดผ้าได้เกือบทุกชนิด
- แถมกรรไกรตัดเศษด้าย
| ขนาด | 8 นิ้ว / 9 นิ้ว / 10 นิ้ว / 11 นิ้ว / 12 นิ้ว |
|---|---|
| ประเภท | กรรไกรตัดผ้าทั่วไป |
| ใบมีด | สแตนเลส |
กรรไกรตัดผ้า แสตนเลส 8 นิ้ว Heavy Duty by Rhino
ราคา 220 บาท*
Rhino จะผลิตจากสแตนเลสเกรดพรีเมียมทั้งชิ้นครับ โดยจุดเด่นของสินค้าจะอยู่ตรงใบมีด เพราะเวลาตัดผ้าจะมีความลื่นเป็นพิเศษ เนื่องจากบริเวณใบมีดสแตนเลสผ่านขึ้นตอนการขัดทรายมาแล้ว ช่วยให้ผิวของมันมีความเงางามและลื่น ลดแรงในการใช้งานไปได้เยอะ ในขณะเดียวกันมันยังมีความทนทานและคมมาก ๆ ตัดผ้าง่ายโดยไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย
จุดเด่น
- ใบมีดผ่านการขัดทราย ทำให้ตัดได้ลื่นสบายมือ
- ผลิตจากสแตนเลสทั้งด้าม มีความทนทานแข็งแรงสูง
| ขนาด | 8 นิ้ว |
|---|---|
| ประเภท | กรรไกรตัดผ้าทั่วไป |
| ใบมีด | สแตนเลส |
IMAX กรรไกรตัดผ้าไฟฟ้า กรรไกรแบตเตอรี่อเนกประสงค์ 3.6V
ราคา 570 บาท*
ความเร็วหรือรอบตัดของกรรไกรไฟฟ้า IMAX อยู่ที่ 10,000 ครั้งต่อนาที ซึ่งถือว่าเยอะมาก เพียงแค่คุณวางมุมหรือองศาที่ต้องการ กรรไกรก็จะทำการตัดเองแบบอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องออกแรงกดอะไรให้ปวดมือ ส่วนความคมของมันก็ดีมาก สามารถตัดได้ทั้งไนลอน, ลูกฟูก, เสื่อ, พรม, เรซิน หรือแม้แต่ความแข็งระดับแผ่นอลูมิเนียมและไม้อัดก็ตัดง่ายมาก ทั้งนี้แบตเตอรี่ก็เป็นลิเธียมใช้งานได้นาน รวมไปถึงชาร์จให้เต็มได้ภายใน 3 ชั่วโมงเพียงเท่านั้น
จุดเด่น
- รอบในการตัดสูงถึง 10,000 ครั้ง / นาที
- กรรไกรตัดเองอัตโนมัติ โดยไม่ต้องออกแรงตัดเลยแม้แต่น้อย
- ตัดผ้าและหนังได้ทุกชนิด
- ใช้งานได้นานและชาร์จแบตเตอรี่ค่อนข้างเร็ว
| ขนาด | ไม่ระบุ |
|---|---|
| ประเภท | กรรไกรตัดผ้าไฟฟ้า |
| ใบมีด | สแตนเลส |
กรรไกรตัดผ้าซิงเกอร์ Singer
ราคา 919 บาท*
กรรไกรตัดผ้าของ Singer เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่นิยมใช้กันทั่วโลกเลยครับ เนื่องจากเทคโนโลยีและคุณภาพของมันเป็นมาตรฐานระดับนานาชาติ และด้วยใบมีดซึ่งมีความคมมาก ๆ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องออกแรงกดอะไรมากมาย เพียงแค่กดลงไปอย่างเบามือผ้าก็ขาดออกจากกันแล้ว สามารถใช้ตัดได้ทั้งผ้าบางและหนา มีขนาดกรรไกรให้เลือกอยู่ 2 ขนาดนั่นคือ 8 นิ้วและ 9 นิ้ว
จุดเด่น
- ใบมีดมีความสูง ไม่ต้องออกแรงกดเยอะ
- ตัดได้ทั้งผ้าบางและผ้าหนา
- ขนาดของกรรไกรกำลังดี ตัดผ้าง่ายยิ่งขึ้น
| ขนาด | 8 นิ้ว / 9 นิ้ว |
|---|---|
| ประเภท | กรรไกรตัดผ้าทั่วไป |
| ใบมีด | สแตนเลส |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว กรรไกรตัดผ้า แบบไหน/ยี่ห้อไหนใช้ดี ปี 2023 | ||||
|---|---|---|---|---|
| ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
|
|   | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
วิธีการดูแลรักษาให้กรรไกรตัดผ้าให้ใช้ได้นาน
แม้ว่ากรรไกรตัดผ้าจะมีราคาไม่ได้แพงอะไรมากมาย แต่การดูแลรักษาให้มันใช้ได้นานยิ่งขึ้นก็ถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับเราได้ไม่มากก็น้อย ทั้งนี้การดูแลรักษาก็คือการพยายามทำให้ความคมของใบมีดยังคงอยู่ เพราะยิ่งกรรไกรคมมากเท่าไหร่ นั่นหมายความว่ามันก็ตัดผ้าได้ง่ายขึ้นมากเท่านั้น
- เช็ดทำความสะอาดใบมีด ให้คุณนำผ้าสะอาดสะอาดไปเช็ดใบมีดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามใบมีดออกไป เป็นการคงความคมของใบมีดเอาไว้
- เก็บไว้อย่างเป็นที่เป็นทาง กรรไกรตัดผ้าในบางรุ่นจะมีการแถมกล่องสำหรับใส่กรรไกร โดยถ้าหากใช้เสร็จแล้วเรียบร้อยก็ให้คุณนำไปเก็บไว้ในกล่องตามเดิม แต่สำหรับในรุ่นที่ไม่มีกล่องแถมมา ก็แนะนำให้นำไปใส่ในกล่องหรือลิ้นชักให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการตกหล่นจนเกิดการหักผิดรูป
- ใช้อย่างระมัดระวัง พยายามอย่าให้กรรไกรตัดผ้าตกบ่อยจนเกินไปครับ เนื่องจากการกระแทกในแต่ละครั้งอาจทำให้ใบมีดบิดงอและมีความคมที่น้อยลง หากโชคร้ายสักหน่อยอาจจำเป็นต้องซื้อใหม่ครับ
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ หากโดนน้ำบ่อย ๆ กรรไกรอาจเกิดสนิมขึ้น ซึ่งตรงนี้ละครับที่ทำให้ประสิทธิภาพของใบมีดลดลงไปเยอะ ดังนั้นไม่ควรทำหล่นน้ำหรือทำความสะอาดด้วยน้ำโดยเด็ดขาด
- ระวังตัดโดนเข็มเย็บผ้า การตัดโดนเข็มเย็บผ้าอาจส่งผลเสียต่อใบมีดของกรรไกรได้ครับ ดังนั้นก่อนจะตัดผ้าคุณควรสังเกตให้ดีก่อนในทุกครั้ง
- ใช้ในการตัดผ้าเท่านั้น ไม่แนะนำให้ใช้ไปตัดกระดาษ, อาหาร หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่ผ้า ใช้กรรไกรในการตัดผ้าเพียงเท่านั้น
