หากพูดถึงการลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมแล้วละก็ การออกกำลังกายและการทานอาหารควบคู่ไปด้วยกันก็เป็นคำตอบที่อยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน เพราะมันเป็นเทรนสุขภาพที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่จริง ๆ ค่ะ คุณสามารถดูเมนูอาหารคลีนเป็นตัวอย่างได้มากมายตามเพจ Facebook หรือ ตาม Hashtag (#) ใน Instagram ที่บอกเลยว่าน่าทานสุด ๆ ค่ะ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถควบคุมความอยากทานอาหารและมีวินัยในการลดน้ำหนักจนทำแล้วได้ผลจริง ๆ ? เพราะอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะคะ ว่าการทานอาหารคลีนนั้นจะต้องมีวินัยในการรับประทานที่จริงจัง และต้องมีความรู้ในเรื่องของการปรุงอาหาร รวมถึงความรู้เกี่ยวกับหลักโภชนาการอยู่พอสมควร เพราะหากคุณไม่ได้มีความรู้พื้นฐานในการทำอาหารคลีนที่ถูกต้อง คุณอาจจะต้องใช้เวลาในการลดน้ำหนักนานกว่าการทานอาหารปกติ ดังนั้นสำหรับวันนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะมาอธิบายให้คุณเข้าใจว่าอาหารคลีนคืออะไร ต้องทานอย่างไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง มาแล้วดูกันนะคะว่าความหมายของอาหารคลีนสำหรับคุณนั้นจะตรงกับเราหรือไม่ 🙂
อาหารคลีน คืออะไร
อาหารคลีนที่ไม่ได้หมายถึงอาหารที่สะอาดตามชื่อนะคะ 😛 แต่มันเป็นอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติที่น้อยที่สุด หรือแทบจะไม่ปรุงแต่งรสชาติใด ๆ เลย มันเป็นอาหารที่เน้นการปรุงที่สดใหม่และผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
เริ่มทานอาหารคลีนต้องรู้อะไรบ้าง
1. เน้นทานผักและผลไม้มากขึ้น
วิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์นั้น เป็นเส้นใยที่มีอยู่ในผักและผลไม้ทุกชนิด สารอาหารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย พวกมันช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายที่ดี และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคบางโรค อย่างโรคหัวใจและโรคมะเม็งบางชนิดได้อีกด้วย (1)
แต่ก็ต้องระวังอย่าเผลอไปทานผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงมี (รสชาติหวานเกินไป) เข้านะคะ อาทิเช่น มะม่วงสุก, ทุเรียน, ลำใย, เงาะ, มังคุด และขนุน เป็นต้น แต่หากคุณมีความต้องการอยากทานจริง ๆ เราแนะนำให้ทานในปริมาณที่น้อยมาก ๆ เอาแค่ให้พอรับรู้รสชาติค่ะ สำหรับผลไม้ที่คุณสามารถทานได้โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของน้ำตาลนั้นก็จะมี พวกแอปเปิ้ลเขียว, แก้วมังกร, กี่วี, สตรอว์เบอรี, ผลไม้ตระกูลเบอรี่ต่าง ๆ หรืออาโวคาโด เป็นต้น สำหรับผักที่จัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตสูงโดยคุณจะต้องระมัดระวังในเรื่องของปริมาณในการรับประทานในแต่ละมื้อ ได้แก่ มันฝรั่ง, ข้าวโพด หรือเผือก แม้ว่าผักเหล่านี้จะมีคาร์โบไฮเดรตสูงแต่ก็มีวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ มากมายเช่นกันโดยเฉพาะมันฝรั่ง ดังนั้นเราไม่ได้บอกว่าห้ามทาน แต่จงเลือกทานในปริมาณที่พอเหมาะนะคะ 🙂

ผักและผลไม้สดเหมาะสำหรับการรับประทานแบบสด ๆ ดังนั้นอย่าลืมที่จะล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทานด้วยนะคะ เพราะปัจจุบันนี้ต้องยอมรับว่าการใช้สารเคมีในอุตสาหกรรมการเกษตรนั้นมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นแล้วเราแนะนำว่าคุณควรจะแช่ผักและผลไม้ด้วยเบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชูที่ผสมกับน้ำสะอาด เพื่อล้างสารพิษออกก่อนที่จะรับประทานนะคะ
2. ไขมันดี
น้ำมันบางชนิดมีกรดไขมันไลโนเลอิกโอเมก้า 6 ในระดับสูง ที่อาจจะไปเพิ่มน้ำหนักและและความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ (2) พยายามเลือกใช้น้ำมันและไขมันที่ผ่านกระบวนการแปรรูปน้อยที่สุด ดังนั้นคุณควรจะเลือกทานแต่ไขมันดี อย่างการทาน อาโวคาโด, ทานเนื้อปลา (แซลมอน), ถั่ว (อัลมอนด์) หรือใช้น้ำมันมะกอก-น้ำมันดอกทานตะวัน แทนน้ำมันพืช

เพราะทานอาหารคลีนไม่ใช่การงดหรือตัดไขมันออกไป แต่เป็นการเลือกทานแต่ไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อสร้างความสมดุลให้แก่ร่างกายค่ะ
3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ถือว่าเป็นอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นสารพิษต่อร่างกาย เชื่อว่าทุกคนคงทราบดีอยู่แล้ว การดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำและมีความอยากทานอาหารมากกว่าปกติ ดังนั้นโปรดจงรู้ไว้ว่าแอลกอฮอล์ไม่ใช่เพื่อนแท้ของคนที่พยายามลดน้ำหนักแน่นอนค่ะ 🙂 ทั้งยังมีแคลอรี่สูงอีกด้วยนะคะ เนื่องจากเป็นสารอาหารที่มีพลังงานสูงเป็นอันดับสองรองจากไขมันเลยก็ว่าได้ค่ะ (3)
4. ลดน้ำตาลหรือความหวาน
คุณควรควบคุมความหวานหรือปริมาณการรับประทานน้ำตาลในระดับที่เหมาะสมนั่นคือไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน สำหรับพวกของหวาน, เครื่องดื่มหวาน ๆ หรือขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ คุณจะต้องงดไปเลย ถ้าหากคุณอยากมีสุขภาพที่ดี
อย่าง “โยเกิร์ต“ ที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปนั้น เหมือนจะเป็นเมนูยอดฮิตของสาว ๆ ที่พยายามอยากจะลดน้ำหนัก แต่เชื่อว่าหลาย ๆ คน ไม่เคยอ่านฉลากข้างหลังเลยว่าใน 1 ถ้วยนั้น ให้น้ำตาลสูงถึง 13-19 กรัม (เป็นอย่างต่ำ) แนะนำว่าหากคุณอยากลดน้ำหนักจริง ๆ คุณจะต้องฝึกเป็นคนที่พยายามอ่านฉลากอยู่เสมอก่อนเลือกซื้ออาหารอะไรก็ตาม
หากคุณอยากทานโยเกิร์ตจริง ๆ เราแนะนำให้คุณทำโยเกิร์ตทานเองจะดีที่สุดค่ะ เลือกโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติน้ำตาลน้อยเป็นหัวเชื้อและใช้นมไขมันต่ำหรือแบบที่ไม่มีน้ำตาลมาเป็นตัวเจือปนในการทำโยเกิร์ต (วิธีทำโยเกิร์ตไว้สำหรับทานกินเองง่าย ๆ) แค่นี้ก็จะทำให้ได้โยเกิร์ตที่น้ำตาลน้อยกว่าที่ขายทั่วไปแล้วค่ะ สำหรับเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลเราขอแนะนำเป็น กาแฟดำ, ชาสมุนไพร และน้ำเปล่าเป็นต้น



5. ลดโซเดียม หรือ เกลือ
เกลือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญ เพราะเราควรทานเกลือในปริมาณที่เหมาะสมนั่นคือไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือแค่ประมาณ 1 ช้อนชาเท่านั้นค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วอาหารที่แม้ว่าจะไม่ผ่านการปรุงรสใด ๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะมีโซเดียมปะปนอยู่ได้เช่นกัน อย่างมะเขือเทศ 100 กรัม มีโซเดียม 10 มิลลิกรัม, เนื้อกุ้งสุก 30 กรัม มีโซเดียม 200 มิลลิกรัม เป็นต้น อาหารเหล่านี้ให้โซเดียมมาโดยที่เราไม่ต้องเติมแต่งใด ๆ หากเราจะต้องปรุงรสที่มีโซเดียมเข้าอีกก็จะยิ่งเพิ่มปริมาณโซเดียมในแต่ละวันให้เพิ่มขึ้น จนอาจทำให้คุณได้รับโซเดียมเยอะเกินไป

ซึ่งก็มีอาหารที่เราทานเป็นประจำทุกวันโดยที่เราไม่เคยเฉลียวใจเลยว่าอาหารพวกนี้มีโซเดียมที่สูงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน อาทิเช่น ไส้กรอก, แฮม, ปูอัด, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือแม้แต่ปลากระป๋อง อาหารพวกนี้ไม่ถือว่าเป็นอาหารคลีนนะคะ เพราะเป็นอาหารแปรรูปอย่างหนึ่งที่มีสารกันบูด สารปรุงแต่งบางชนิด รวมถึงน้ำตาลและประมาณโซเดียมที่สูงมาก ทั้งยังขาดคุณค่าทางสารอาหารที่ควรจะมีอีกด้วย
6. ควบคุม คาร์โบไฮเดรต
แม้ว่าคาร์โบไฮเดรตจะเป็นแหล่งพลังงานที่สูง จนทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะตัดคาร์โบไฮเดรตออกจากมื้ออาหาร แต่ก็เป็นมันแหล่งพลังงานหลักที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ (รวมไขมันและโปรตีน) เช่นกัน (6) เราควรทานคาร์โบไฮเดรตที่ไม่มีการแปรรูปหรือแปรรูปน้อยที่สุด แนะนำให้เน้นทานคาร์โบไฮเดรตจากผักและผลไม้ผสมรวมในมื้อาหารด้วย (6) หากเป็นประเภทข้าว แนะนำให้เป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่หรือข้าวกล้องที่ไม่มีการขัดสีใด ๆ หรือหากเป็นพวกแป้งขนมปัง แนะนำเป็นให้ทานขนมปังโฮลวีตแท้ ๆ ที่มีธัญพืชผสมอยู่หรือที่เรียกว่า “โฮลเกรน” เพราะไฟเบอร์ที่พบได้ในแป้งธัญพืชนั้นดีต่อสุขภาพ(6) จากการศึกษาพบว่าคนผู้ที่บริโภคธัญพืชส่วนใหญ่มีโอกาสน้อยมากที่จะมีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่บริเวณหน้าท้องเมื่อเทียบกับผู้ที่ทานคาร์โบไฮเดรตแบบปกติ (4)

ทำไมคุณจึงไม่ควรตัดคาร์โบไฮเดรตออกไป? เหตุผลก็เพราะว่าคาร์โบไฮเดรตสามารถเปลี่ยนเป็นกลูโคส ที่เป็นพลังงานกระตุ้นกิจกรรมของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือการหายใจ แต่ในทางกลับกันหากมีกลูโคสมากเกินไป มันก็สามารถจัดเก็บในรูปของไกลโคเจนซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นไขมันได้ ดังนั้นแล้วทางที่ดีคุณควรจะบริโภคแต่พอเหมาะ ไม่ควรตัดออกจากมื้ออาหารและไม่ควรทานในปริมาณที่สูงเกินไปเช่นเดียวกัน (6)
7. เน้นทาน โปรตีน
โปรตีนนั้นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นต่อการทานอาหารคลีน อาหารที่อุดมด้วยโปรตีนสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกอิ่ม คุณควรเลือกทานโปรตีนที่ดีไม่ติดไขมันอย่างเนื้อหมูสามชั้นหรือหนังไก่ พวกนี้ตัดออกไปได้เลยค่ะ

คุณควรเลือกทานโปรตีนที่มีไขมันต่ำอย่าง อกไก่, ไข่, เนื้อไม่ติดมัน หรืออาหารทะเล (ที่เป็นไขมันดี) เป็นต้น เพราะเนื้อสัตว์เหล่านี้เป็นแหล่งของสารอาหารพวก โปรตีน, วิตามิน, และแร่ธาตุที่ดี รวมถึง เหล็ก, สังกะสี,และวิตามินบี นอกจากนี้แล้วยังเป็นหนึ่งในแหล่งสารอาหารหลักของวิตามินบี 12 อีกด้วย การทานโปรตีนนั้นจะเป็นการเข้าไปช่วยเสริมสร้างหรือซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายของเราได้เป็นอย่างดี (7)
แนะนำการทานอาหารคลีนสำหรับผู้เริ่มต้น
สำหรับใครที่อยากจะเริ่มหันมาดูแลรักษาสุขภาพอย่างจริงจังนั้น การทานอาหารคลีนควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นอีกวีธีที่นิยมและเห็นผลจริงที่เราอยากแนะนำ แต่จะให้หักดิบมาทานอาหารคลีนเลยถ้าใจไม่แข็งมากพอ ดูท่าจะไม่ไปรอดแน่นอนค่ะ อันนี้ที่กล้าพูดเพราะเอามาจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนเองเลย 🙂 สิ่งแรกที่ต้องออกตัวออกก่อนนั่นคือต้องยอมรับว่าการทานอาหารคลีนแบบคลีนแท้ 100% นั้น มันอาจจะรู้สึกผะอืดพะอมจนกินไม่ได้ เพราะด้วยโปรตีนจากอกไก่ที่แห้งและไร้รสชาติ บวกกับเป็นคนที่ไม่ชอบทานผักเลย จึงทำให้ภารกิจลดน้ำหนักต้องล้มเลิกไปปริยายแบบครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะเคยชินกับการทานอาหารรสชาติถูกปากที่ต้องปรุงแต่งเป็นประจำมากกว่า

แต่หลังจากที่ศึกษาและหาข้อมูลมาอยู่นานจนเจอทางออกสำหรับผู้ที่เริ่มต้นกินอาหารคลีนเพื่อสุขภาพนั่นก็คือการใช้ “เครื่องปรุงอาหารคลีน” ที่ช่วยให้รสชาติของอาหารออกมาอร่อยไม่แพ้เครื่องปรุงแบบปกติ อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพร่างกายด้วยนะคะ คุณอาจจะเสริมด้วยสมุนไพรหรือเครื่องเทศหอม ๆ อย่าง ขมิ้น, กระเทียม, รากผักชี, พริกไทย, พริกแห้ง, ยี่หร่า, พาร์สลีย์, โหระพา, โรสแมรี่ และผงออริกาโนในส่วนผสมของอาหารแต่ละมื้อเป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะทำให้อาหารของคุณมีรสชาติและกลิ่นที่โดดเด่นชวนน่าทานกว่าเดิม
หมายเหตุ: แม้ว่าเครื่องปรุงอาหารคลีนนั้นจะช่วยให้เราทานอาหารสุขภาพได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงเป็นการใช้เครื่องปรุงในปริมาณที่เหมาะสมเช่นเดิมนะคะ ไม่ใช่เห็นว่าเป็นเครื่องปรุงอาหารคลีนแล้วจะใส่ไปเท่าไหร่ก็ได้ 🙂

อีกอย่างที่อยากแนะนำมาก ๆ เลยก็คือ เราไม่จำเป็นต้องทานอาหารประเภทต้มหรือนึ่งเสมอไปนะคะทุกคน สำหรับอาหารที่ดีต่อสุขภาพนั้นขอเพียงแค่ที่ไม่ใช่อาหารที่ทอดด้วยน้ำมันพืชหรือปรุงด้วยรสจัดจ้าน ก็ถือว่าช่วยให้คุณลดน้ำหนักไปได้เยอะแล้วค่ะ หากคุณจำเป็นต้องใช้น้ำมันจริง ๆ เราแนะนำเป็นน้ำมะกอกในการประกอบอาหารจะดีกว่า แต่ต้องดูประเภทให้ดีด้วยนะคะ ว่าเป็นประเภทแบบทนความร้อนหรือไม่
![]() |
![]() |
นอกจากนี้เราอยากจะแนะนำอีกอย่างคือวิธีที่ใช้ในปรุงอาหารอย่าง หม้ออบลมร้อนหรือหม้อทอดไร้น้ำมัน ไว้ทางเลือกในการคิดเมนูที่แปลกใหม่ที่จะช่วยให้คุณได้สนุกไปกับการทำอาหารทานเองง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ซ้ำซากและจำเจอีกต่อไป โดยคุณสามารถอ่านบทความ “หม้อทอดไร้น้ำมัน ดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่” และ “หม้ออบลมร้อน VS หม้อทอดไร้น้ำมัน อย่างไหนดีกว่ากัน” ไว้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อกันได้นะคะ

สำหรับที่ไม่ชอบทานผักและผลไม้เลย เราแนะนำเป็นเครื่องสกัดน้ำผักและผลไม้แบบแยกกาก ที่จะช่วยให้คุณได้ทานผักและผลไม้ได้ง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องฝืน อีกทั้งคุณยังได้น้ำผักและผลไม้ที่สดใหม่และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ล้ำค่าอีกด้วยนะคะ
เครื่องปรุงอาหารคลีน ลดน้ำหนัก อย่างไร
คุณรู้หรือไม่ว่าเครื่องปรุงรสต่าง ๆ นั้น สามารถนับแคลอรี่ได้เช่นกัน อย่างซอสมะเขือเทศที่ดูจะไม่มีอะไรนั้น ในความจริงแล้วปริมาณ 100 กรัม ให้แคลอรี่ถึง 111.6 แคลอรี่ หรือจะเป็นน้ำตาลตัวร้ายที่เรามักจะใส่ลงในทั้งอาหารคาวและอาหารหวานอยู่เสมอนั้น ในปริมาณน้ำตาล 100 กรัมเองก็ให้แคลอรี่สูงถึง 386.7 แคลอรี่เลยทีเดียว บางคนอาจจะบอกว่าแล้วเกลือละ? “เกลือไม่มีแคลอรี่แน่นอน ทานเค็มก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนแน่ ๆ” ขอบอกเลยว่าเป็นความผิดที่มากค่ะ เพราะการทานเกลือมาก ๆ ก็ทำให้ตัวบวมได้เช่นกัน จะเห็นว่าหลายคนที่พยายามลดน้ำหนัก อาจจะสงสัยว่าน้ำหนักลดลงแล้วแต่ทำไมยังดูบวมอยู่เลย คำตอบคือนั่นอาจจะเป็นเพราะเกลือก็เป็นไปได้ค่ะ หากคุณยังนึกภาพไม่ออก เราอยากให้คุณลองนึกถึงคนไข้ที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล การให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด (เพื่อให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล ไม่ขาดน้ำ สารอาหาร และเกลือแร่) ก็สามารถทำให้ตัวบวมได้ชั่วคราวเช่นกัน แถมการทานเกลือหรืออาหารที่มีรสเค็มมาก ๆ ก็จะส่งผลต่อโรคไตได้อีกด้วย (7) ดังนั้นการที่เราอยากทานอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ เราจะต้องใช่เครื่องปรุงอาหารแต่ละมื้อน้อยให้ที่สุด และต้องผ่านการแปรรูปที่น้อยที่สุดเช่นกัน ซึ่งการหันมาใช้เครื่องปรุงสำหรับอาหารคลีนโดยเฉพาะนั้นจะเป็นการลดจำนวนแคลอรี่ในเครื่องปรุงและเป็นการตัดแคลอรี่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ออกไป เพราะการรับประทานที่ดีต่อสุขภาพยังหมายถึงการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือและน้ำตาลในปริมาณสูงนั่นเองค่ะ
แคร์ช้อยส์ ผงปรุงรสเพื่อสุขภาพ

ราคา 25 บาท*
แคร์ช้อยส์ ผงปรุงรสเพื่อสุขภาพตัวช่วยที่จะช่วยเนรมิตให้อาหารคลีนธรรมดากลายมาเป็นอาหารที่มีรสชาติที่เข้มข้นและหอมรัญจวนใจ มีหลากหลายสูตรให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสูตรดั้งเดิม สูตรเห็ดหอม หรือถ้าหากใครที่อยากได้รสชาติที่แซ่บขึ้นหน่อยจะเลือกเป็นสูตรลาบ/น้ำตกก็มีให้เลือกเช่นกัน ส่วนผสมทั้งหมดมาจากธรรมชาติ ไม่มีผงชูรสและสารกันเสีย โดยแต่ละสูตรนั้นทางผู้ผลิตก็ได้ปรับลดปริมาณโซเดียมลงเพื่อให้ตอบโจทย์และเหมาะสำหรับสายคลีนมากที่สุด
ปริมาณ | 30 กรัม |
---|---|
ไม่มีผงชูรส |
DRAG พริกแกงสดสายคลีนพร้อมปรุง

ราคา 35 บาท*
DRAG พริกแกงสดสายคลีนที่มาพร้อมกับเครื่องแกงหลากหลายประเภทให้คุณได้เลือกไม่ว่าจะเป็นเรื่องแกงเขียวหวาน, แกงเผ็ด, เครื่องต้มยำรสแซ่บและอื่น ๆ อีกเพียบ รสชาติเครื่องแกงจะมีความจัดจ้านเข้มข้นและหอมแต่มาในคอนเซปต์อาหารคลีน เน้นการปรุงที่ง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องปรุงอะไรเพิ่มเติม แต่ตัวพริกแกงนั้นต้องบอกก่อนว่าอาจจะไม่ได้คลีนจ๋า 100% เพราะยังมีปริมาณโซเดียมอยู่บ้างเล็กน้อย ดังนั้นแล้วแนะนำให้ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ หรือหากใครสายคลีนจริง ๆ ก็ใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าปกติก็ได้ค่ะ
ปริมาณ | 50 กรัม |
---|---|
เหมาะสำหรับ | 1 - 2 คนทาน /ซอง |
ดีปลี เครื่องแกงปักษ์ใต้

ราคา 35 บาท*
สำหรับใครที่ชอบรสชาติที่เผ็ดร้อนและกลิ่นที่หอมเครื่องเทศสมุนไพรจัดเต็มก็ต้องเครื่องแกงดีปลี เครื่องแกงปักษ์ใต้ขนานแท้ที่ปรับสูตรมาให้เหมาะกับทั้งสายคลีนและสายคีโตโดยเฉพาะ โดยจะเน้นส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ไม่ใส่น้ำตาล ผงชูรส รวมถึงวัตถุกันเสีย แต่สายคลีนต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพริกแกงตัวนี้ยังคงมีโซเดียมอยู่ประมาณ 7 - 8% ดังนั้นแล้วขอแนะนำให้ใช้งานในปริมาณน้อยเท่านั้น หรือใครที่เป็นสายคลีนจ๋าจะลดปริมาณลงอีกก็ได้เช่นกันค่ะ
ปริมาณ | 80 กรัม |
---|---|
เหมาะสำหรับ | 2 - 3 คนทาน /ซอง |
Goodlife (กู๊ดไรฟ์) น้ำจิ้มสุกี้ สูตรลดโซเดียม 25% และ ลดน้ำตาล 40%

ราคา 45 บาท*
สำหรับใครที่เป็นสายกินสุกี้ในบางครั้งก็ต้องมีอารมณ์อยากทานสุกี้ร้อนกับน้ำจิ้มอร่อย ๆ กันบ้างจริงมั้ยคะ? แม้ว่าสูตรนี้จะเป็นการลดโซเดียมลงแค่ 25% (ใช้เกลือโปแตสเซียมแทนโซเดียม) และลดน้ำตาลลงไป 40% อ่านแล้วดูเหมือนจะลดโซเดียมลงไปไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่ายังดีกว่าการทานน้ำจิ้มสุกี้แบบทั่วไปนะคะ ถือว่าเป็นเครื่องปรุงทางเลือกสำหรับคนที่อยากทานสุกี้แบบนาน ๆ ครั้งแล้วค่ะ คุณสามารถทานน้ำจิ้มสุกี้ได้โดยไม่ต้องกังวลหรือรู้สึกผิด หากคุณทานในปริมาณที่เหมาะสมเพียงแค่เล็กน้อยเอาแค่พอรู้รสชาติพอนะคะ 🙂
ปริมาณ | 200 มิลลิลิตร |
---|---|
สูตร | ลดโซเดียม 25% |
Goodlife (กู๊ดไรฟ์) ซีอิ๊ว สำหรับอาหารสุขภาพ

ราคา 56 บาท*
ปริมาณ | 500 มิลลิลิตร |
---|---|
สูตร | ลดโซเดียม 40% |
Goodlife (กู๊ดไรฟ์) ซอสหอยนางรม สำหรับสายสุขภาพ

ราคา 60 บาท*
ปริมาณ | 500 มิลลิลิตร |
---|---|
สูตร | ลดโซเดียม 60% |
เครื่องหมายฮาลาล | ✓ |
Goodlife (กู๊ดไรฟ์) น้ำปลาแท้ เครื่องปรุงโลโซเดียม

ราคา 61 บาท*
ปริมาณ | 500 มิลลิลิตร |
---|---|
สูตร | ลดโซเดียม 40% |
Naturel น้ำมันคาโนล่าผ่านกรรมวิธี100%

ราคา 75 บาท*
ใครว่าทานคลีนแล้วจะทานอาหารที่ใช้น้ำมันไม่ได้ จริง ๆ แล้วก็ได้นะคะแต่สายคลีนก็แค่เปลี่ยนมาใช้เป็นน้ำมันคาโนลาเท่านั้นเอง น้ำมันคาโนลามีทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3, 6, 9 และมีไขมันอิ่มตัวเพียงแค่ 7% ซึ่งก็ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่เป็นสาเหตุของอาการไขมันอุดตันเส้นเลือดได้ นอกจากนี้แล้วก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินอีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
น้ำมันคาโนสามารถนำมาใช้ในการปรุงอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้งการผัด ทอด ทำน้ำสลัด หรืออบขนม เพราะกลิ่นนั้นหอมและไม่ทำให้เกิดกลิ่นแปลกปลอมในอาหาร สำหรับสายคลีนที่มองหาน้ำมันสำหรับทำอาหารเราจึงอยากจะแนะนำเป็นตัวนี้เลยค่ะ
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ทนความร้อน | ได้สูงถึง 246 °C |
เหมาะสำหรับ | ผัดหรือทอด |
101 Plus ซอสหอยนางรม สูตรโซเดียมต่ำ

ราคา 80 บาท*
ซอสหอยนางรมถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องปรุงค่ะที่ขาดจะขาดไปไม่ได้ ซึ่งสำหรับสายคลีนแล้วละก็จะต้องเลือกเป็นซอสหอยนางรมจากแบรนด์ 101 Plus ซอสหอยนางรมที่คิดสูตรโดยแพทย์เฉพาะทางมีการปรับลดโซเดียมให้ต่ำลงถึง 70% รสชาติไม่เค็มมากถือว่ากลมกล่อมกำลังดีและเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ทั่วไปแล้วถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่ไม่ใช่จะมีประโยชน์แค่สำหรับสายคลีนเท่านั้นแต่ยังเป็นประโยชน์ต่อทุก ๆ คนเลยค่ะ
ปริมาณ | 280 กรัม |
---|---|
สูตร | ลดโซเดียม 70% |
Kimjijoo โคชูจังสูตรคีโตและสายคลีน

ราคา 91 บาท*
Kimjijoo โคชูจังเนื้อเน้นเข้มข้นสำหรับสายคีโตและสายคลีนที่แท้ทรู หลาย ๆ เสียงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยและสามารถนำไปปรุงได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะหมักเนื้อ ปรุงรส หรือทำน้ำจิ้มก็ไม่มีผิดหวังแถมยังคงความอร่อยได้ในแบบฉบับเกาหลีอีกด้วยค่ะ โคชูจังกระปุกนี้นอกจากจะอร่อยแล้วก็ยังดีงามเพราะว่ามันให้พลังงานที่ต่ำ มีโซเดียมน้อย และยังไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล, ผงชูรส รวมถึงวัตถุกันเสีย ซึ่งนี่แหละเครื่องปรุงสำหรับสายคลีนที่หลาย ๆ คนกำลังตามหา
ปริมาณ | 180 กรัม |
---|---|
สูตร | เนื้อแน่น |
หญ้าหวานกรีนสวีท สวีทเอฟ ธรรมชาติ100%

ราคา 97 บาท*
มาถึงทางด้านของรสชาติหวานที่หลาย ๆ คนโปรดปรานกันบ้าง ในส่วนนี้แทนที่เราจะใช้น้ำตาลแบบเดิมก็แค่เปลี่ยนมาใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ผลิตมาจากหญ้าหวานแทนเท่านั้นเองค่ะ ซึ่งในเรื่องของรสชาติหวานนั้นก็ต้องบอกเลยว่าไม่ต่างอะไรกันมาก แต่ส่วนที่แตกต่างอย่างชัดเจนนั่นก็คือเรื่องของประโยชน์เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้นปราศจากแคลลอรี่หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแคลลอรี่เป็น 0 นั่นเอง แถมยังมีใยอาหารอินนูลินแก่นตะวันที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายอีกด้วย ใครที่เป็นสายสุขภาพหรือมีปัญหาในเรื่องของเบาหวานก็แนะนำเป็นตัวนี้เลยนะคะ
สารทดแทนความหวาน | |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 45 กรัม (30 ซอง) |
ลักษณะ | ผง (บรรจุซองแยก) |
Tip น้ำปลาร้าปรุงรสพาสเจอร์ไรส์

ราคา 104 บาท*
คนไทยกับน้ำปลาร้าย่อมเป็นอะไรที่แยกกันไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ซึ่งถ้าหากว่าคุณกำลังทานคลีนก็ยังสามารถปรุงอาหารโดยใช้น้ำปลาร้าได้ แต่แค่แนะนำให้ใช้เป็น Tip น้ำปลาร้าปรุงรสพาสเตอร์ไรส์ เนื่องจากทางแบรนด์ปรับลดโซเดียมลง 10% ซึ่งดูเหมือนไม่เยอะใช่ไหมคะแต่ในทางสุขภาพแล้วถือว่าเยอะเลยทีเดียว แถมยังมีการเปลี่ยนมาใช้เกลือหิมาลัยแทนเกลือธรรมดา และใช้สารให้ความหวานดอิริตและสตีเวียแทนน้ำตาลธรรมดาอีกด้วยค่ะ รับรองว่ายังคงความนัวอร่อยเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
ปริมาณ | 300 กรัม |
---|---|
สูตร | ลดโซเดียม 10% |
McCormick แม็คคอร์มิค เกลือหิมาลายัน (ฝาบด)

ราคา 112 บาท*
ปริมาณ | 70 กรัม |
---|---|
ประเภทของเกลือ | เกลือหิมาลัย |
เจี๊ยะ แจ่วมะขามคั้นสด (สูตรคลีน)

ราคา 112 บาท*
หากว่าเมนูอาหารคลีนจะจืดไปก็แนะนำให้ลองหาน้ำจิ้มมาช่วยชูรสชาติทำให้ทานง่ายมากขึ้น ซึ่งน้ำจิ้มที่อยากแนะนำนี้ก็คือเจี๊ยะ แจ่วมะขามคั้นสดสูตรพิเศษสำหรับสาว ๆ หนุ่ม ๆ สายคลีน โดยมีการปรับลดน้ำตาลและโซเดียมลงถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะเพราะรสชาตินั้นยังคงเปรี้ยวอมหวานอร่อยจิ้มกับอะไรก็เพลินจนแทบจะไม่รู้สึกว่าต้องฝืนเลยค่ะ โดยในหนึ่งช้อนโต๊ะนั้นให้พลังงานเพียงแค่ 13 แคลเท่านั้นเอง
ปริมาณ | 215 กรัม |
---|---|
ลดน้ำตาล | 50% |
ลดโซเดียม | 50% |
น้ำมันมะกอก Bertolli เอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น โอลีฟ ออยล์

ราคา 135 บาท*
ปริมาณ | 250 มิลลิลิตร |
---|---|
ประเภทของน้ำมันมะกอก | Extra Virgin Olive Oil |
บรรจุภัณฑ์ | ขวดแก้วใส |
ผงไนซ NIZE ผงปรุงรสอาหารคลีน สูตรต้นตำรับ ลดโซเดียม 70%

ราคา 160 บาท*
ปริมาณสุทธิต่อกระปุก | 150 กรัม |
---|---|
ลักษณะ | ผงละเอียด |
Equal Stevia หญ้าหวานคีโต

ราคา 206 บาท*
Equal Stevia สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่สกัดมาจากหญ้าหวานธรรมชาติ 100% ไม่มีสารพิษที่เป็นอันตราย มันสามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มรสชาติอาหารได้ทั้งเมนูคาวหวานให้กลมกล่อมละมุนยิ่งขึ้น ด้วยพลังงานที่เป็น 0 แคลอรี่ และยังปราศจากไขมัน น้ำตาล และโซเดียม เรียกว่าใช้งานได้แทนน้ำตาลได้เลยแต่กลับให้ประโยชน์ที่มากกว่าหลายเท่า โดยในหนึ่งซองใหญ่ก็จะบรรจุซองแยกจำนวน 100 ซอง โดยแต่ละซองก็จะมีปริมาณ 2 กรัมด้วยกัน
สารทดแทนความหวาน | |
---|---|
จำนวน | 100 ซอง |
ลักษณะผง | บรรจุซองแยก |
Apple Cider Vinegar Organic Spectrum Brand (Raw - Unfiltered ) น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลออร์แกนิค

ราคา 298 บาท*
ปริมาณ | 473 มิลลิลิตร |
---|---|
น้ำส้มสายชู | หมักจากแอปเปิ้ล |
LaRambla Apple Cider Vinegar แอปเปิ้ลไซเดอร์ เวเนก้า

ราคา 349 บาท*
ข้อแนะนำ
- แนะนำให้ใช้ 1-2 ช้อนชา โดยเจือจางด้วยน้ำสะอาดก่อนทานทุกครั้ง (ไม่ควรทานเพียว ๆ นะคะ)
ปริมาณ | 1 ลิตร x 2 ขวด |
---|---|
น้ำส้มสายชู | หมักจากแอปเปิ้ล |
Goodlife (กู๊ดไรฟ์) ชุดเครื่องปรุงอาหารคลีน ลดโซเดียม

ราคา 591 บาท*
ปริมาณ | เครื่องปรุงและซอส 500 มล /สารแทนความหวานและเกลือ 250 กรัม |
---|---|
สูตร | ลดโซเดียม |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เครื่องปรุงอาหารคลีน สำหรับคนรักสุขภาพ หรือกำลังลดน้ำหนัก ที่ดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
Goodlife (กู๊ดไรฟ์) น้ำจิ้มสุกี้ สูตรลดโซเดียม 25% และ ลดน้ำตาล 40% |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
Apple Cider Vinegar Organic Spectrum Brand (Raw - Unfiltered ) น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลออร์แกนิค |
| |||
| ||||
|
ประโยชน์ของการกินอาหารคลีน
1. ช่วยลดน้ำหนัก (1, 6)
การลดน้ำหนักสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้อาทิเช่น โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, เกี่ยวกับความหนาแน่นของกระดูก และมะเร็งบางชนิด ซึ่งหากคุณอยากมีสุขภาพที่ดี คุณต้องการลดน้ำหนักโดยการลดปริมาณแคลอรี่ที่กินไม่ให้เกินในปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน ดังนั้นผักและผลไม้จึงดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดี เพราะมีแคลอรี่ต่ำและแทบไม่มีคอเลสเตอรอล แถมยังสารอาหาร, วิตามิน และแร่ธาตุมากมาย แต่เมื่อเทียบอาหารแปรรูปแล้วนั้นถือว่าผักและผลไม้ย่อมเป็นอาหารสุขภาพที่ดีกว่าแน่นอนค่ะ อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่คอยช่วยควบคุมความหิวโดยทำให้คนรู้สึกอิ่มนานขึ้นอีกด้วย และก็ยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย
อีกทั้งผักและผลไม้ยังถือเป็นอาหารที่มีปริมาณน้ำสูง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิว แล้วก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายของคุณจากความเสียหายต่อเซลล์ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
2. สุขภาพดีขึ้น (1)
จากที่กล่าวไปแล้วในข้อแรก ว่าการทานอาหารคลีนที่ถูกต้องจะช่วยลดน้ำหนักได้ การมีภาวะน้ำหนักเกินนั้นส่งผลให้คุณมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, ความดันโลหิต, เกี่ยวกับความหนาแน่นของกระดูก, มะเร็งบางชนิด
การหลีกเลี่ยงอาหารทอดที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์สูง เน้นทานผักและผลไม้ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด ได้แก่ เบต้าแคโรทีนไลโคปีนและวิตามิน A, C และ E ไฟโตเคมีคอลจำนวนมากที่พบในผลไม้ผักถั่วและพืชตระกูลถั่ว ซึ่งจะช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่อาจทำให้เกิดมะเร็ง (มะเร็งในระบบทางเดินอาหารส่วนบน, โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่, โรคมะเร็งตับ) อีกทั้งวิตามิน E อาจป้องกันไม่ให้เลือดอุดตัน ซึ่งสามารถนำไปสู่อันตรายที่อาจะเกิดขึ้นกับหัวใจได้ค่ะ
อาหารคลีนดีต่อสุขภาพเสมอไป จริงหรือไม่?
การทานอาหารคลีนย่อมเป็นผลดีต่อสุขภาพเสมอ แต่สำหรับบางคนนั้น ก็มีความกังวลกับการเลือกทานอาหารคลีนมากเกินไปหรือที่เรียกว่า Orthorexia Nervosa (5) ซึ่งเป็นคนที่มีทัศนคติต่อการทานอาหารคลีนแบบที่เคร่งมาก พวกเขามักตัดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายบางอย่างออกไป อาทิเช่น “คาร์โบไฮเดรตและไขมัน” จนทำใหเ้ร่างกาย มีอาการผิวแห้ง, ตาแห้ง, รู้สึกหนาวตลอด, ผมแห้งหรือผมร่วง, รู้สึกหิวตลอดเวลา เพราะคาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ร่างกายของคุณจะใช้โปรตีนและไขมันเป็นพลังงาน หากคุณไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ ถึงแม้ว่าแป้งกับไขมันถึงจะเป็นตัวการที่ทำให้อ้วนได้ง่าย แต่ร่างกายของเราก็ยังจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำอยู่ดี ดังนั้นการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่เลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ อย่างการทานไขมันดีและแป้งหรือข้าวแบบไม่ขัดสี จะเป็นการทานอาหารคลีนที่ดีต่อสุขภาพมากกกว่านะคะ (6)
บทสรุป
เนื่องจากมีวิธีการมากมายในลดหนักที่ไม่ใช่เพียงแต่การรับประทานอาหารคลีน แต่ยังมี “วิธีลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว: 3 ขั้นตอนง่ายๆตามหลักวิทยาศาสตร์” , “ลดน้ำหนักด้วย Keto คีโต” , “วิธีลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารแบบ 16:8” , “วิธีแก้ปัญหาโรคอ้วนในวัยเด็ก ข้อแนะนำให้เด็กทานผักและผลไม้” ,”10 วิธีในการฟิตหุ่น กู้ร่างพังง่าย ๆ สำหรับคนขี้เกียจ” การทานอาหารเสริมต่าง ๆ ที่ออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเช่น อาหารเสริมลดน้ำหนัก, อาหารเสริมไฟเบอร์เป็นต้น ที่อาจจะเป็นทางเลือกอื่นที่เหมาะกับคุณมากกว่า เพราะไม่มีการศึกษาวิจัยเฉพาะทางที่บ่งบอกว่าอาหารคลีนดีกว่าวิธีการลดน้ำหนักแบบอื่น ๆ สำหรับคนที่มีความกังวลมากเกินไปการมุ่งเน้นไปที่การทานอาหารคลีนที่ดีที่สุดมันจะทำให้คุณ หมดสนุกในการการรับประทานอาหารและอาจจะสร้างความเครียดมาแทนที่ได้