ในฐานะที่ผู้เขียนเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่มีทักษะหรือพรสวรรค์ใด ๆ เกี่ยวกับการทำอาหารเลยสักนิด ดังนั้นเรื่องที่จะให้ซื้ออุปกรณ์ชุดเครื่องครัวแบบจัดเต็มเรียกว่าเป็นเหมือนฝันที่ไกลเกินเอื้อมไปเลยค่ะ ลำพังขอแค่ให้ผู้เขียนสามารถทอดไข่ดาว ต้มมาม่า หรืออุ่นโจ๊กได้ก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ และจากที่ผู้เขียนได้ทดลองซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอำนวยความสะดวกในห้องครัวมาหลายอย่างมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระทะไฟฟ้า, หม้อทอดไฟฟ้า, หม้อทอดไร้น้ำมัน, เตาปิ้งย่างไฟฟ้า หรือหม้อทำชาบูไฟฟ้าก็มีนะคะ แต่ก็ต้องบอกว่าสินค้าทุกอย่างมีจุดประสงค์การใช้งานที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งเราไม่สามารถเอากระทะไฟฟ้ามาทำเมนูปิ้งย่างได้ หรือจะเอาเตาปิ้งย่างไฟฟ้ามาต้มน้ำซุปร้อน ๆ ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นจึงเป็นที่มาของ “หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์“ ที่สามารถทำงานได้แบบมัลติฟังก์ชัน เรียกว่า “สวยจบครบในหม้อเดียว” ซื้อมาแค่ 1 ชิ้นก็ช่วยประหยัดเงินและประหยัดพื้นที่ใช้สอยในครัวไปได้เยอะเลยค่ะ สามารถนำประกอบอาหารได้หลายเมนูทั้งผัด, ทอด, อุ่น, ต้ม, หุงข้าว และนึ่งอาหารร้อน ๆ ได้ในคราวเดียวกัน ทั้งยังตอบโจทย์สายรักสุขภาพอีกด้วย เพราะว่ามีการเคลือบสารกันติดที่หม้อมาให้ เราจึงสามารถทำอาหารแบบไม่ต้องใช้น้ำมันก็ได้ค่ะ 🙂

หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ คืออะไร ?

หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จะเป็นหม้อที่มีความก้ำกึ่งระหว่างหม้อต้มไฟฟ้า หม้อนึ่งไฟฟ้า และกระทะไฟฟ้า ซึ่งรูปทรงของหม้อประเภทนี้จะมีความลึกพอประมาณ แต่ก็ไม่ได้ลึกมากพอที่จะทำต้มซุปในปริมาณมาก ๆ ได้ ในขณะเดียวกันก็จะมีความกว้างและแบนในตัวด้วยค่ะ เพื่อให้สะดวกต่อการทำอาหารประเภทของทอด
ทั้งนี้ตัวหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จะมาพร้อมกับด้ามจับยาว ๆ ที่เหมือนกระทะสำหรับผัดทอดทั่วไป และส่วนใหญ่ก็จะติดตั้งตำแหน่งเบ้าเสียบปลั๊กให้มาอยู่ที่ปลายด้ามจับเพื่อป้องกันความเสียหายขณะที่ล้างทำความสะอาดหม้อ ทั้งนี้บางยี่ห้อก็จะเพิ่มจุดขายเข้ามา โดยการแถมชั้นนึ่งมาให้ด้วยเพื่อให้การใช้งานมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่ารีวิววันนี้โนสปอนเซอร์อีกเช่นเคยค่ะ หากเพื่อน ๆ พร้อมกันแล้วก็ตามมาอ่านรีวิวข้างล่างนี้กันเลยจ้าา!!!
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ ยี่ห้อไหนดี?
- คุณภาพดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด: หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ HAFELE รุ่น ECOM-310
- ร้อนเร็วที่สุด เดือดนานที่สุด ล้างทำความสะอาดง่ายที่สุด: หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Gaabor รุ่น GR-N15D
- ด้ามจับยาวที่สุด ดีไซน์มินิมอลที่สุด: หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Simplus รุ่น DZGH002
- ปุ่มควบคุมเป็นระบบสัมผัส มีฟังก์ชันทำอาหาร 6 โหมด: หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ KONIG
- ปุ่มควบคุมความร้อนอยู่ที่ปลายด้ามจับ ดีไซน์ทรงสี่เหลี่ยมแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร: หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ ZOLELE รุ่น ZC306
![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ HAFELE รุ่น ECOM-310 | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Gaabor รุ่น GR-N15D | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Simplus รุ่น DZGH002 | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ KONIG |
฿990.00* | ฿399.00* | ฿389.00* | ฿399.00* |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
คำแนะนำในการเลือกซื้อหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์
1. เลือกดีไซน์โดยรวมของหม้อ
อันดับแรกเราจะต้องเลือกหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ในรูปแบบที่เรารู้สึกชอบก่อนถูกต้องไหมคะ ? อาทิเช่น บางรุ่นก็จะมาในธีมสีขาวล้วนสไตล์มินิมอลที่ดูสะอาดสะอ้าน ไม่ว่าจะเป็น ฝาหม้อ, หูหม้อ, ตัวหม้อ, ด้ามจับ, ชั้นนึ่ง หรือแม้แต่สีของสายปลั๊กไฟก็ยังเป็นสีขาวเช่นกัน
ในขณะที่บางคนอาจชอบให้มีความมินิมอลผสมกับความเป็นธรรมชาติหน่อย ๆ เราแนะนำให้เลือกหม้อไฟฟ้ารุ่นที่มีหูจับเป็นลายไม้ก็จะดูสวยงามเป็นธรรมชาติไปอีกแบบค่ะ
นอกจากนี้รูปทรงก็เป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่เราจะต้องเลือกให้ดี แต่โดยส่วนใหญ่แล้วหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่เรารีวิวในวันนี้จะมาในรูปทรงแบบกลมเกือบทั้งหมด จะมีแค่ของแบรนด์ ZOLELE รุ่น ZC306 เท่านั้นที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมค่ะ

2. ความจุของหม้อ
ต่อมาให้คุณตรวจสอบความต้องการในการใช้งานของตัวเองว่าต้องการนำไปใช้เพียงคนเดียว หรืออยากจะใช้เป็นครอบครัว หากคุณจะซื้อใช้สำหรับทำอาหารทานคนเดียวแนะนำขนาดไม่เกิน 1 ลิตรค่ะ อาทิเช่น ZOLELE รุ่น ZC001
แต่หากคุณต้องการปรุงอาหารทาน 2-3 คนแนะนำเป็น 1.5-2 ลิตร อาทิเช่น HAFELE รุ่น ECOM-310, Gaabor รุ่น GR-N15D, Simplus รุ่น DZGH002 หรือ KASHIWA รุ่น KW-209
และสุดท้ายคือการทำอาหารทานกันหลาย ๆ คนพร้อมกัน (4-5 คน) อย่างเช่นการทำหม้อไฟ ชาบู หรือสุกียากี้ ก็ให้เลือกขนาดความจุที่ 3 ลิตรขึ้นไป อย่าง ZOLELE รุ่น ZC306 เป็นต้นค่ะ
3. ขนาดโดยรวมของหม้อ
เชื่อหรือไม่คะ ว่าจริง ๆ แล้วขนาดโดยรวมของหม้อบางยี่ห้อที่ดูเหมือนจะเท่ากัน แต่ความจุกลับต่างกันมาก อาทิเช่น ZOLELE รุ่น ZC001 ที่มีขนาด 31x20x14 เซนติเมตร แต่มีความจุเพียง 0.6 ลิตรเท่านั้น ในขณะที่ KASHIWA รุ่น KW-209 มีขนาด 31x19x11 เซนติเมตร กลับมีความจุถึง 2 ลิตรเลยค่ะ

นอกจากขนาดโดยรวมแล้ว คุณต้องอย่าลืมดูด้วยว่าหม้อที่คุณจะซื้อนั้นเน้นรูปทรงแบบไหน อาทิเช่น ต้องการเน้นความลึกเพื่อใช้สำหรับทำอาหารประเภทต้ม แกง หรือซุป ในขณะที่บางรุ่นก็เน้นไปที่ความกว้างและแบน ซึ่งจะเหมาะสำหรับอาหารประเภททอดและผัดมากกว่า โดยเฉพาะกับเมนู แพนเค้ก, ไข่เจียว, ไข่ดาว หรือแม้แต่การทำขนมปังกริลล์
แต่โดยส่วนใหญ่ขนาดความสูงที่เราระบุมาให้เป็นความสูงโดยรวมที่นับฐานหม้อและแผงวงจรใต้หม้อไปด้วย ดังนั้นเพื่อความมั่นใจแนะนำให้คุณตรวจสอบรายละเอียดกับทางร้านอีกครั้งด้วยนะคะ
4. กำลังวัตต์สูงสุด และ การปรับระดับความร้อน
หากหม้อไฟฟ้ารุ่นไหนมีความจุน้อยแต่มีกำลังวัตต์สูง ๆ ก็จะช่วยทำให้หม้อตัวนั้นร้อนเร็วยิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่นไหนมีความจุเยอะ ๆ แต่กลับกำลังวัตต์น้อยก็จะทำให้ตัวหม้อร้อนช้าได้ค่ะ
นอกจากนี้หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์เกือบทุกตัวที่เรารีวิวในวันนี้ก็ยังสามารถเลือกระดับความร้อนได้เอง โดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 2 ระดับ ซึ่งหากเป็นระดับเบาจะมีกำลังไฟอยู่ที่ 300-350 วัตต์ ส่วนระดับแรงมากจะมีกำลังไฟที่ 600-700 วัตต์ค่ะ การที่หม้อสามารถปรับระดับความร้อนได้นั้นจะช่วยให้คุณปรุงอาหารได้สะดวกและหลากหลายเมนูมากยิ่งขึ้นค่ะ

5. ระบบตัดไฟ
คุณเคยมีประสบการณ์ทำอาหารแบบยังไม่ทันจะสุกดี แต่หม้อไฟฟ้ากลับตัดไฟเสียก่อนไหมคะ ? หากคุณเคยมีประสบการณ์เช่นนั้น ขอบอกเลยว่าเราเป็นเพื่อนกันค่ะ!!!
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้วพวกข้อมูลละเอียดของหม้อแต่ละยี่ห้อมักจะระบุมาแค่ว่ามีระบบป้องกันอุณหภูมิสูง หรือป้องกันในกรณีที่น้ำในหม้อแห้งก็จะหยุดการทำงานทันที

แต่ละยี่ห้อไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าจะตัดการทำงานที่อุณหภูมิสูงสุดที่เท่าไหร่ ? ดังนั้นบางครั้งที่เราเห็นว่าทำไมยี่ห้อนี้ยังไม่ตัดไฟสักทีก็อาจเป็นเพราะมีการตั้งค่า Max ที่ต่างกันก็เป็นไปได้ค่ะ
แต่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนเป็นคนที่ชอบทำอาหารแล้วยืนควบคุมทุกขั้นตอน ดังนั้นหากหม้อไฟฟ้ารุ่นไหนที่ตัดไฟช้าหน่อยหรือไม่ตัดไฟเลยก็จะถูกใจผู้เขียนเป็นพิเศษ 🙂 เพราะมันเหมาะสำหรับทำอาหารเมนูที่สุกยาก ๆ
ในขณะเดียวกันหากคุณเป็นคนที่ชอบหลงลืมบ่อย ๆ มีนิสัยที่ชอบทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน เราแนะนำให้ซื้อหม้อไฟฟ้าที่มีระบบตัดไฟถี่ ๆ ไปเลยค่ะ วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดหม้อไหม้ได้ค่ะ

6. ขนาดความยาวของด้ามจับ
โดยปกติแล้วหากคุณมีทักษะในการทำอาหารมากพอก็ขอให้ข้ามในข้อนี้ไปได้เลยค่ะ เพราะว่าความยาวของด้ามจับไม่ได้มีผลกระทบใด ๆ สำหรับบุคคลกลุ่มนี้
แต่ทว่า…หากคุณเป็นแม่ครัวมือใหม่ที่กลัวการกระเด็น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืช น้ำซุป หรือน้ำแกง ต่าง ๆ แนะนำให้เลือกหม้อไฟฟ้าที่มีด้ามจับยาว ๆ หน่อยนะคะ อาทิเช่นหม้อของ Simplus นี่ถือว่ามีด้ามที่ยาวมากเลยค่ะ ยิ่งรุ่นไหนที่มีปุ่มควบคุมอยู่บริเวณปลายด้ามจับยิ่งดีค่ะ เพราะว่าคุณจะไม่ต้องเอื้อมมือไปเสี่ยงให้ใกล้ตัวหม้อเลยสักนิดค่ะ

7. ตำแหน่งเบ้าเสียบปลั๊กไฟ
หากจะให้แนะนำจากประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียนแล้ว ต้องบอกว่าการที่เบ้าเสียบปลั๊กไฟอยู่ตำแหน่งปลายด้ามจับจะช่วยให้คุณล้างทำความสะอาดหม้อได้สะดวกมากขึ้น เพราะไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะกระเด็นเข้าไปในเบ้าปลั๊กไฟจนเกิดความเสียหาย
ในกรณีที่ตำแหน่งเบ้าเสียบปลั๊กไฟอยู่บริเวณข้างตัวหม้อก็จะมีโอกาสที่คราบอาหาร น้ำยาล้างจาน หรือน้ำจะเข้าไปในแผงวงจรได้ค่ะ ซึ่งมันจะทำให้อายุการใช้งานของหม้อสั้นลง หากคุณพบว่าหม้อรุ่นไหนที่มีตำแหน่งเบ้าเสียบปลั๊กไฟอยู่ข้างตัวหม้อแนะนำให้เลือกยี่ห้อที่ออกแบบฝาปิดเบ้ามาให้ด้วยจะดีมากค่ะ อาทิเช่น ZOLELE รุ่น ZC306 เป็นต้น

8. รูปแบบปุ่มควบคุมความร้อน
รูปแบบปุ่มควบคุมความร้อนจะมีด้วยกัน 3 ชนิดคือแบบสไลด์ขึ้น-ลง แบบหมุนไปมาซ้าย-ขวา และสุดท้ายแบบระบบสัมผัส หากจะให้แนะนำจริง ๆ จากใจและจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง เราขอแนะนำเป็นแบบสไลด์ขึ้น-ลงจะสะดวกมากที่สุดค่ะ
ในขณะเดียวกันแบบหมุนซ้าย-ขวานั้นก็มีความสะดวกนะตะ แต่จะน้อยกว่าแบบสไลด์ขึ้น-ลงเพราะว่าเราจะต้องวางมือที่จับด้ามจับหม้อเพื่อไปปรับระดับความร้อนแทน
ส่วนแบบระบบสัมผัสนั้นเป็นปุ่มกดที่ใช้งานง่ายก็จริง แต่ก็เสี่ยงที่จะพังได้ง่ายด้วยเช่นกัน ยิ่งในกรณีที่โดนน้ำเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้หม้อไฟฟ้าตัวนั้นใช้งานไม่ได้อีกเลย ดังนั้นใครที่จะซื้อรุ่นระบบสัมผัสต้องล้างทำความสะอาดหม้อย่างระมัดระวังด้วยนะคะ
9. การทำความสะอาด
หลายคนอาจคิดว่าขั้นตอนการทำความสะอาดหม้อก็เหมือน ๆ กัน ทำไมเราจะต้องพิจารณาในจุดนี้ด้วย ? บอกเลยค่ะว่าตอนแรกผู้เขียนก็คิดแบบนี้ แต่เมื่อได้ทดลองใช้งานจริงพบว่าหม้อบางรุ่นที่ออกแบบมาให้มีรอยเชื่อมหรือร่องลึก ๆ จะทำความสะอาดได้ยากมาก
ในขณะเดียวกันหากหม้อที่เราที่ใช้เป็นวัสดุที่ไร้การเชื่อมต่อ (วัสดุเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหม้อ) จะล้างทำความสะอาดง่ายกว่าค่ะ อย่างไรก็ดีบางยี่ห้อที่เห็นรูปทรงภายนอกเป็นร่องลึก ๆ ก็อาจจะออกแบบมาดีมากจนทำให้พวกคราบน้ำมันไม่สามารถเข้าไปติดได้เลย อย่างเช่น HAFELE รุ่น ECOM-310 ก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกเซอร์ไพรส์มากค่ะ เพราะว่าเห็นเป็นเส้นรอบขอบปากหม้อแบบนี้แต่กลับไม่มีคราบอาหารใด ๆ เข้าไปติดได้เลย

10. ชั้นนึ่ง
สำหรับใครที่ต้องการความคุ้มค่าคุ้มราคาอยากได้หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ตามชื่อจริง ๆ เราแนะนำให้คุณเลือกรุ่นที่มีชั้นนึ่งมาด้วยนะคะ เพราะว่าคุณจะได้ทำอาหารได้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ไข่ตุ๋น, ห่อหมก, นึ่งอาหารเช้าพวกซาลาเปา ขนมจีบ ต่าง ๆ นานา

11. ฐานกันลื่น
เชื่อหรือไม่คะ ว่าฐานกันลื่นมีความสำคัญมาก ๆ ไม่ต่างจากข้ออื่น ๆ ที่เราแนะนำไปเลย เพราะจากประสบการณ์โดยตรงของผู้เขียน เผลอเกี่ยวสายปลั๊กไฟทำให้หม้อเคลื่อนที่ตามไปด้วย แต่โชคดีที่หม้อรุ่นนั้นมีฐานกันลื่นมาให้ ทำให้ตอนที่เราขยับตัวลากสายไฟ มันจะมีอาการฝืด ๆ เหมือนติดอะไรสักอย่าง ซึ่งช่วยทำให้น้ำแกงในหม้อไม่หกเลอะเทอะสักนิดค่ะ 🙂
12. ปลั๊กไฟ
สำหรับข้อนี้จะว่าเป็นข้อที่ต้องพิจารณาด้วยหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับนิสัยของคุณค่ะ หากคุณเป็นคนที่ชอบให้ทุกอย่างอยู่ในโทนเดียวกัน แนะนำว่าควรเลือกปลั๊กไฟที่เป็นสีขาว แต่หากคุณไม่อยากให้ในอนาคตเกิดปัญหาปลั๊กเป็นคราบสกปรกง่าย หรือเปลี่ยนเป็นสีเหลือง แนะนำให้ซื้อปลั๊กไฟที่เป็นสีดำ
สำหรับความยาวของปลั๊กไฟนั้นส่วนมากก็จะมาในขนาดที่เท่า ๆ กัน หากจะต่างกัน ก็ไม่เยอะค่ะ แต่จุดที่สำคัญคือหากคุณอยากได้ความปลอดภัยด้วย ควรเลือกปลั๊กไฟที่มี 3 ขา (ขากราวด์) เพื่อที่จะช่วยเซฟอุบัติเหตุเมื่อเกิดไฟรั่วได้ค่ะ
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ HAFELE รุ่น ECOM-310

ราคา 990 บาท*
สำหรับหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จากแบรนด์ HAFELE หลายท่านอาจคิดว่ายี่ห้อนี้มีราคาที่สูงกว่าหม้อไฟฟ้าทั่วไปมากเกินไปหรือเปล่า ? แต่ก็เชื่อถือค่ะว่าแลกมากับคุณภาพและความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ก็ถือว่าคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น วัสดุต่าง ๆ ระบบตัดไฟในกรณีที่น้ำในหม้อแห้งแล้วหากมีการเติมน้ำเข้าไปก็กลับมาทำงานทันที อีกทั้งในด้านเวลาทำความร้อนก็ถือว่าทำได้เร็วมาก ๆ และทำได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยในการทดสอบต้มน้ำร้อนที่มีปริมาณน้ำเท่ากันจากแบรนด์ Gaabor, Simplus ผลปรากฏว่า HAFELE มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด ตัวหม้อร้อนไว หากน้ำในหม้อไม่แห้งสนิทระบบไฟก็จะไม่ตัดเลยค่ะ

ในส่วนของดีไซน์นั้นก็มาในโทนสีขาวทั้งหมดรวมถึงสายไฟด้วย น้ำหนักหม้อถือว่ากำลังดี จับถือผัดทอดได้ถนัดมือ ด้ามจับมีความยาวเหมาะสม มาพร้อมกับปุ่มปรับความแรงของไฟได้ 2 ระดับ การออกแบบของฝาปิดก็ดีเพราะเราสามารถวางหงายได้โดยไม่ล้ม ตรงขอบฝามียางแบบถอดออกล้างได้ ที่สำคัญคือเป็นปลั๊กไฟแบบ 3 ขามีสายกราวด์ในตัว เอาเป็นว่าใครที่จะซื้อแบรนด์นี้ก็ให้มั่นใจในตัวแบรนด์ได้เลยค่ะ ยอมเสียเงินแพงหน่อยแต่ได้ความสบายใจ แถมยังดูแลรักษาความสะอาดได้ง่าย เส้นร่องตามปากหม้อที่เห็นคราบน้ำมันไม่สามารถเข้าไปติดได้

สรุป
- ร้อนเร็วมาก เลือกระดับความร้อนได้ 2 ระดับ
- ขนาดเหมาะสำหรับ 1-2 คน
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้ามจับหม้อ
- มีชั้นนึ่ง
- ไฟสถานะมองเห็นชัดเจนมากที่สุด
- ดูแล เก็บรักษา และทำความสะอาดง่ายมาก
- ภายนอกเป็นสีขาวล้วนดูสะอาดตา
- มีระบบตัดไฟ
- ปลั๊กเป็นแบบ 3 ขามีสายดินในตัว
- ขอบฝาหม้อเป็นยางที่ถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้
อ่านรีวิวทดลองใช้หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ HAFELE ทำเมนูต่าง ๆ ได้ตามลิ้งก์ที่เราใส่ไว้ให้ได้เลยค่ะ
ความจุ | 1.5 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 700 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบสไลด์ |
ระดับความร้อน | 2 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 34x20x10 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | N/A |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Gaabor รุ่น GR-N15D

ราคา 399 บาท*
สำหรับใครที่อยากได้หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ชนิดเดือดพลุ่งพล่านอย่างต่อเนื่อง!! เอาแบบที่สามารถนั่งทานหม้อไฟชาบูพร้อมกับเพื่อน ๆ ได้เป็นชั่วโมง ๆ เราขอแนะนำหม้อไฟฟ้าจากแบรนด์จาก Gaabor เลยค่ะ

เพราะจากที่เราได้ทดสอบต้มน้ำในปริมาณที่เท่ากันพร้อมกับหม้อยี่ห้อ Simplus และ HAFELE แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือ Gaabor ชนะขาดลอย เดือดเร็วสุด ๆ เดือดนาน เดือดแรง เดือดเหมือนโกรธใครมา!! หากให้เปรียบเทียบกับฮีโร่ใน Marvel ก็ต้องเป็น The Hulk มนุษย์เขียวจอมพลังเลยค่ะ

แต่ก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกันเพราะว่าน้อง Gaabor จะเดือดแบบไม่ตัดไฟเลย หรือว่าอาจจะตัดไปแล้ว แต่ผู้เขียนก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ เพราะได้ยินเสียงเหมือนมีการตัดไฟดังเป็นระยะ ๆ แต่สถานะของไฟกลับทำงานตลอด บวกกับระดับความเดือดของน้ำก็ไม่มีแผ่ว!! เลยคิดว่าหม้อ Gaabor คงไม่มีระบบตัดไฟ (เป็นความคิดส่วนตัวนะคะ)

ดังนั้นหากคุณอยากจะซื้อหม้อ Gaabor มาใช้แนะนำว่าต้องอยู่เฝ้าหน้าหม้อตลอดเวลานะคะ ห้ามทิ้งหม้อไปทำอย่างอื่นเด็ดขาด เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์หม้อไหม้ได้ค่ะ

ในส่วนของการทำความสะอาดนั้นก็ต้องยกมงให้ Gaabor เช่นกันค่ะ เพราะว่าไม่มีขอบหรือร่องลึกใด ๆ ที่จะทำให้คราบน้ำมันหรือเศษอาหารเข้าไปติดได้เลย แถมตรงฐานหม้อก็มียางกันลื่นมาให้ด้วย

และที่ผู้เขียนชอบสุด ๆ ก็คือการควบคุมความร้อนผ่านปุ่มแบบสไลด์ บอกเลยว่าใช้ง่ายมาก ๆ ค่ะ เราสามารถใช้มือจับด้ามจับหม้อไปด้วยและเปิด-ปิดไฟของหม้อได้ในเวลาเดียวกัน จะเสียดายนิดหน่อยก็ตรงที่ไม่เราสามารถเลือกความระดับความร้อนได้ ซึ่งเป็นเพียงแบรนด์ในรีวิววันนี้ด้วยค่ะ
สรุป
- ร้อนเร็วมากที่สุด ร้อนต่อเนื่องเหมาะสำหรับอาหารที่สุกยาก แต่เลือกระดับความร้อนไม่ได้
- ขนาดเหมาะสำหรับ 1-2 คน
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้ามจับหม้อ
- ไม่มีชั้นนึ่ง
- ไฟสถานะมองเห็นไม่ชัดเจน
- หม้อลึกมาก ก้นหม้อไม่กว้าง
- ดูแล เก็บรักษา และทำความสะอาดง่ายมาก
- ภายนอกเป็นสีขาวล้วนดูสะอาดตา ส่วนด้านในเป็นลายหินอ่อนสีดำดูมินิมอลและโมเดิร์นในตัว
- ไม่มีระบบตัดไฟ
อ่านรีวิวทดลองใช้หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Gaabor ทำเมนูต่าง ๆ ได้ตามลิ้งก์ที่เราใส่ไว้ให้ได้เลยค่ะ
ความจุ | 1.5 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 600 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบสไลด์ |
ระดับความร้อน | 1 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 37x12x13 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.3 กิโลกรัม |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Simplus รุ่น DZGH002

ราคา 389 บาท*
Simplus เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนที่นิยมมากที่สุดในขณะนี้ เนื่องจากตัวสินค้าที่มีราคาไม่แพง แถมยังมีดีไซน์ที่สวยน่ารักถูกใจวัยรุ่นอีกด้วย อย่างหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นที่นิยมมาก ๆ ถึงกับมียอดขายในแอปฯ Shopee ที่สูงถึง 52.3K และใน Lazada อีก 4.7K เลยค่ะ

สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากซื้อรุ่นนี้ เพราะจุดประสงค์หลักของคุณคือการตกแต่งห้องสไตล์มินิมอล บอกได้คำเดียวว่ารุ่นนี้ถูกใจใช่เลย!!! เพราะดีไซน์ของ Simplus เป็นมินิมอลจ๋าขั้นสุด คุมโทนตั้งแต่ตัวหม้อภายนอก สารเคลือบกันติดภายใน ไปจนถึงฝาปิด ในส่วนของด้ามจับนั้นบอกเลยว่ายาวมากค่ะ รับรองว่าจับถนัดมือ ไม่ต้องกลัวอาหารกระเด็นใส่ มาพร้อมกับปุ่มหมุนควบคุมความร้อนที่เลือกได้ 2 ระดับคือ 300 และ 600 วัตต์ และอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกชอบเป็นพิเศษในหม้อของ Simplus รุ่นนี้ก็คือฝาหม้อที่ออกมาแบบมาให้ลงล็อก ปิดได้พอดีเป๊ะ Bravo!!!
ส่วนของเรื่องการใช้งานนั้น หลังจากที่เราทดลองใช้จริง ๆ มาสักระยะก็ต้องบอกตามตรงว่าหม้อรุ่นนี้ค่อนข้างจะร้อนช้าไปสักหน่อยนะคะ เพราะจากที่เราได้ทดสอบต้มน้ำในปริมาณที่เท่ากันเพื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์ Gaabor และ HAFELE แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือของ Simplus ใช้เวลาในการทำให้น้ำเดือดนานที่สุด อีกทั้งตรงก้นหม้อก็ไม่ได้ให้ความร้อนที่กระจายสม่ำเสมอกัน ดังนั้นอาหารพวก พิซซ่าญี่ปุ่น, ไข่เจียว หรือแพนเค้ก อาจจะสุกไม่ทั่วถึงได้ค่ะ (สังเกตได้จากฟองน้ำที่เป็นรูปตัว C)

ส่วนการล้างทำความสะอาดนั้น หากเป็นตัวหม้อด้านในถือว่าทำความสะอาดได้ง่ายมาก ๆ แต่ในส่วนของฝาแก้วตรงขอบค่อนข้างขัดเอาคราบออกยากสักหน่อยนะคะ เนื่องจากร่องฝาลึกทำให้มีคราบน้ำมันหรือเศษอาหารเข้าไปติดอยู่ในนั้นได้ รวมถึงหากเพื่อน ๆ ล้างเสร็จแล้วแต่ไม่ตากลมหรือเช็ดให้แห้งสนิท ก็จะทำให้เกิดคราบสนิมที่ตัวน๊อตและบริเวณร่องขอบปากหม้อได้ง่ายมากค่ะ

สรุป
- ร้อนเร็วกลาง ๆ ปรับได้ 2 ระดับ
- ขนาดสำหรับ 1-2 คน
- สีขาวล้วนดูสะอาดตา
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้ามจับหม้อ
- มีชั้นนึ่ง และการออกแบบเป็นหลุมให้สามารถตั้งไข่ได้ด้วย
- ฝาแก้วปิดครอบตัวหม้อได้อย่างสนิท
- ด้ามจับหม้อยาวมาก
- ไฟสถานะมองเห็นชัดเจน
- หม้อไม่ค่อยลึก
- ดูแล เก็บรักษา และทำความสะอาดลำบาก
อ่านรีวิวทดลองใช้หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Simplus ทำเมนูต่าง ๆ ได้ตามลิ้งก์ที่เราใส่ไว้ให้ได้เลยค่ะ
ความจุ | 1.5 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 600 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบหมุน |
ระดับความร้อน | 2 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 39x23x14 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.5 กิโลกรัม |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ KONIG

ราคา 399 บาท*
สำหรับใครที่เป็นสายมินิมอลแต่ก็อยากได้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความไฮเทคด้วย คุณจะต้องชอบหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จากแบรนด์ KONIG อย่างแน่นอนค่ะ เพราะว่ารุ่นนี้ตรงปุ่มกดควบคุมจะเป็นระบบสัมผัส ซึ่งคุณไม่เพียงแต่ปรับระดับความร้อนได้เองค่ะ แต่ยังสามารถเลือกฟังก์ชันการทำอาหารได้ถึง 6 โหมด ซึ่งแต่ละโหมดก็จะมีการตั้งค่าความร้อนและระยะเวลาที่ต่างกันไป อาทิเช่น 1, 2 หรือ 3 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อครบตามที่เวลากำหนดเครื่องก็จะหยุดทำงานทันที อย่างไรก็ตามหากคุณกังวลว่าระหว่างทำงานจะไม่มีระบบตัดความร้อนในกรณีที่อุณหภูมิสูงเกินไปหรือน้ำในหม้อแห้งขอด ก็ขอให้สบายใจในส่วนนี้ เพราะว่ามีระบบรักษาความปลอดมาให้ครบถ้วนค่ะ

แม้ว่าแผงควบคุมจะใช้งานง่าย แต่ผู้เขียนอยากให้คุณสอบถามทางร้านอีกครั้งว่าสินค้าที่ส่งมาให้เป็นเมนูภาษาอะไร EN/CN ? เพราะว่าหากเป็นภาษาจีน บอกเลยว่างานเข้าจัง ๆ ค่ะ คุณต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองนานพอสมควร เนื่องจากไม่มีคู่มือภาษาไทยมาให้ และสำหรับคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนโลว์เทคกลัวว่าจะใช้ไม่เป็นก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะว่าช่วงแรก ๆ ตัวผู้เขียนเองก็งง ๆ สับสนเหมือนกันค่ะ แต่พอเริ่มจับทางได้ก็สนุกค่ะเพราะรุ่นนี้มีฟังก์ชันให้เลือกเล่นเยอะ หนึ่งในนั้นคือหุงข้าวได้ด้วยนะคะ
โดยอีกหนึ่งความชอบที่ผู้เขียนสัมผัสได้ก็คือรุ่นนี้หม้อร้อนเร็วมาก แม้ว่าจะมีน้ำหนักอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ปวดข้อมือใด ๆ ตัวหม้อมีขนาดกว้างสามารถทำอะไรได้เยอะ แต่อย่างไรก็ตามจากที่ทางแบรนด์ระบุไว้ว่าขนาด 2 ลิตรนั้น ผู้เขียนคิดว่าไม่ถึงค่ะ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.7-1.8 ลิตรเท่านั้น
สรุป
- ร้อนเร็วมาก ปรับความร้อนได้หลายระดับ มีโหมดการปรุงอาหารหลายเมนู
- ขนาดสำหรับ 1-2 คน (ขนาดเล็กกว่าที่ระบุไว้ 2 ลิตร)
- แผงควบคุมเป็นระบบสัมผัส ให้ความรู้สึกเรียบหรู แต่ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังอย่าให้โดนน้ำ
- ปลั๊กไฟเสียบเป็นแบบประเทศจีนจะต้องซื้อหัวแปลงปลั๊กมาต่อก่อน
- ฝาหม้อสวยมาก เป็นรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร มีความเล่นลายความโค้ง
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้ามจับหม้อ
ความจุ | 2 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 600 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | ระบบสัมผัส |
ระดับความร้อน | N/A |
ขนาด (ยxกxส) | 37x20x10 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | N/A |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ KASHIWA รุ่น KW-209

ราคา 339 บาท*
สำหรับไฟฟ้าอเนกประสงค์จาก KASHIWA มีความน่ารักมาในขนาดเล็กตะมุตะมิมากเลยค่ะ เหมาะสำหรับทำทานครั้งละ 1-2 คน ดีไซน์ของหม้อจะออกไปทางสีครีม ๆ ไม่เชิงเป็นสีขาวล้วน ช่วยให้ความรู้สึกอบอุ่นสบายดวงตามาก ส่วนหูจับก็ออกแบบมาสวยงาม เป็นหูจับทรงสูงที่ทำจากไม้ ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่มีชั้นนึ่งมากให้ แต่ด้วยราคานี้ก็ขอให้คุณมมั่นใจได้เลยว่าเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพแน่นอนค่ะ เนื่องจากมีการตัดอุณหภูมิบ่อยมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบลืม ไม่ต้องกังวลเลยว่าหม้อจะไหม้ระหว่างทำอาหารหรือไม่

ส่วนตัวหม้อนั้นค่อนข้างออกไปทางกว้างและตื้นมากค่ะดังนั้นจึงเหมาะกับอาหารประเภทผัดหรือทอด ในส่วนของปุ่มควบคุมความร้อนนั้นเป็นรูปแบบสไลด์ขึ้นลง แต่ระยะห่างของตัวเลือกค่อนข้างชิดกันมากทำให้คุณอาจสับสนในตอนเลือกระดับความร้อนได้ค่ะ รอยเชื่อมในการประกอบตัวหม้อค่อนข้างมีเส้นขอบที่ลึก รวมถึงฝาหม้อก็มีขอบที่เล่นระดับความตื้นลึกด้วย ซึ่งอาจทำให้คราบน้ำมันอาหารเข้าไปติดได้
สรุป
- ร้อนเร็วปานกลาง ปรับได้ 2 ระดับ
- ขนาดสำหรับ 1-2 คน
- สีขาวครีม ดูอบอุ่นสบายตา
- หูจับฝาทำจากไม้ ตัดกับสีขาว ดูสวยงาม
- ไม่มีชั้นนึ่ง
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้ามจับหม้อ
- มีระบบตัดอุณหภูมิบ่อย ๆ
ความจุ | 1.5 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 700 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบสไลด์ |
ระดับความร้อน | 2 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 31x19x11 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.6 กิโลกรัม |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Lecon

ราคา 380 บาท*
สำหรับหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จากแบรนด์ Lecon รุ่นนี้จะมีความมินิมอลที่หรูหราหน่อย ๆ เพราะว่าหูจับฝาหม้อของน้องมาในสีโรสโกลด์สุดแวววาว ซึ่งเป็นรูปดอกไม้ที่น่ารักมาก ๆ ตรงฝาหม้อจะมีรูระบายไอน้ำขนาดใหญ่ถึง 3 รูช่วยป้องกันการเดือดได้ดี ส่วนชั้นนึ่งก็มีหลุมวางไข่มาให้ด้วย ช่วยให้คุณต้มไข่ได้สะดวกขึ้น มาพร้อมกับฐานหม้อที่สูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนการประกอบตัวหม้อนั้นเราจะเห็นว่ามีรอยต่อค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นที่ฝาหม้อ ชั้นนึ่ง หรือขอบหม้อ และฐานหม้อเองก็มีเส้นเล็ก ๆ ตัดอยู่รอบตัวหม้อเสมอ ซึ่งจะทำให้คราบสกปรกจากอาหารเข้าไปติดได้ค่ะ ต้องล้างทำความสะอาดอย่างดี

สำหรับรูปทรงของหม้อรุ่นนี้ หากดูจากภายนอกอาจดูเหมือนว่าเป็นหม้อต้มที่ความลึกพอประมาณ แต่จริง ๆ แล้วภายในหม้อไม่ลึกมากค่ะ เน้นที่ความกว้างมากกว่า น้ำหนักหม้อกำลังดี ไม่ปวดข้อมือ และตรงปลายด้ามจับยังมีรูเล็ก ๆ สำหรับแขวนหม้อมาให้ด้วยนะคะ ในส่วนของระดับความร้อนนั้นเราสามารถเลือกได้ระหว่าง 350 และ 700 วัตต์ค่ะ
สรุป
- ร้อนเร็วดี ปรับได้ 2 ระดับ
- ขนาดสำหรับ 2-3 คน
- ด้ามจับมีรูสำหรับแขวนขนาดเล็ก
- น้ำหนักเบาไม่ปวดข้อมือ
- หม้อไม่ค่อยลึก
- ไฟสถานะมองเห็นชัดเจน
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้ามจับหม้อ
- มีชั้นนึ่ง และการออกแบบเป็นหลุมให้สามารถตั้งไข่ได้ด้วย
ความจุ | 2 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 700 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบสไลด์ |
ระดับความร้อน | 2 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 39x23x14 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 2 กิโลกรัม |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ ZOLELE รุ่น ZC306

ราคา 459 บาท*
ผู้เขียนเชื่อว่าต้องมีหลายคนในที่นี้รู้สึก "Fall In Love" กับดีไซน์ของหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จากแบรนด์ ZOLELE รุ่น ZC306 อย่างแน่นอนค่ะ เพราะน้องมาในรูปทรงสี่เหลี่ยม มีความสวยแปลกใหม่และทันสมัยในตัว แถมยังมีการตัดเฉดสีด้วยลายไม้สีเข้ม ทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมของหม้อออกมาเป็นสายมินิมอลแบบธรรมชาติ ๆ มีความเอิร์ธโทนหน่อย ๆ นอกจากนี้การที่เป็นทางแบรนด์ออกแบบหม้อมาให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมก็จะช่วยให้เราเก็บหม้อเข้ามุมได้ง่าย ดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นค่ะ

ในส่วนของด้ามจับต้องบอกเลยว่าผู้เขียนชอบมากกกกค่ะ เพราะมีขนาดความยาวกำลังดี ตรงปุ่มควบคุมความร้อนมี 2 ระดับเป็นแบบหมุน ซึ่งทำจากโลหะโดยจะที่อยู่ตรงปลายด้ามจับเลยค่ะ ทำให้เหมาะสำหรับมือใหม่มาก ๆ เพราะไม่ต้องคอยเอื้อมมือเข้าไปใกล้ ๆ ขณะที่ปรุงอาหาร นอกจากนี้ก็ยังออกแบบขาตั้งให้สูงขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยระบายความร้อนที่ใต้ฐานได้ดี ทั้งยังป้องกันพื้นผิวบนเคาน์เตอร์ไม่ให้สัมผัสกับความร้อนโดยตรงอีกด้วย
สรุป
- ร้อนเร็วดี ปรับได้ 2 ระดับ
- ขนาดสำหรับ 4-5 คน
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้านข้างหม้อ แต่มีฝาปิดขณะล้างทำความสะอาดมาให้ด้วย
- ด้ามจับหม้อและหูจับฝาทำจากไม้ ตัดกับสีขาว ดูสวยงาม
- รูปทรงสีเหลี่ยมจัดเก็บเข้ามุมง่าย
- ชั้นนึ่งสามารถวางไข่ได้ เพราะมีการออกแบบหลุมไข่ด้วย
ความจุ | 3 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 1,000 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบหมุน |
ระดับความร้อน | 2 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 39x21x11 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.5 กิโลกรัม |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ WANMI

ราคา 595 บาท*
คุณจะหมดปัญหา หาที่ตั้งฝาหม้อไม่ได้ไปทันทีหากคุณเลือกซื้อหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จากแบรนด์ WANMI เพราะจุดเด่นของรุ่นนี้คือฝาหม้อทรงหางปลาที่ทำให้สามารถวางแบบแนวตั้งได้ (เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน) ในส่วนของชั้นนึ่งนั้นก็เป็นพลาสติกเกรดอาหารที่เป็นสีใส ช่วยทำให้มองเห็นได้ง่าย สำหรับด้ามจับมีขนาดความยาวกำลังดี ตรงปุ่มควบคุมจะเป็นแบบสไลด์ใช้งานง่ายมาก ๆ โดยมีให้เลือก 2 ระดับความร้อนเลยค่ะ อย่างไรก็ตาม ช่วงแรก ๆ คุณอาจจะต้องก้มลงไปมองตัวเลือกระดับความร้อนบ่อย ๆ เพราะว่าปุ่มควบคุมจะอยู่ตรงด้านข้างของที่จับไม่ได้อยู่ด้านบน (ทำให้มองไม่เห็น) แต่หากคุณใช้ไปนาน ๆ ก็จะชินไปเองค่ะ

นอกจากนี้ตรงปุ่มควบคุมก็จะเป็นภาษาจีนด้วยนะคะ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานแต่อย่างไร เพราะมีฟังก์ชันการทำงานไม่ซับซ้อนค่ะ สำหรับการทำความร้อนนั้น ตัวหม้อค่อนข้างร้อนไวในระดับที่น่าพอใจ ไม่ถึงกับต้องรอช้าจนเกินไป ส่วนตรงฐานหม้อก็มียางกันลื่นมาให้ ช่วยลดอุบัติเหตุได้เยอะเลยค่ะ สำหรับรอยเชื่อมจากการประกอบตัวหม้อนั้นอาจมีบางจุดที่เป็นขอบเส้นเล็ก ๆ ซึ่งทำให้คราบน้ำมันเข้าไปติดได้ง่ายค่ะ ดังนั้นต้องระวังในตอนล้างทำความสะอาดให้ดี และสุดท้ายคือสายปลั๊กเป็นสีขาวคุมโทนเหมือนตัวหม้อ หัวปลั๊กจะเป็นแบบของประเทศจีนซึ่งร้านค้าที่เราแนะนำไปจะมีตัวแปลงหัวเสียบมาให้ด้วย แต่อย่างไรก็ดี เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบอีกครั้งว่ามีหัวแปลงปลั๊กแถมมาให้ด้วยไหมก่อนซื้อด้วยนะคะ
สรุป
- ร้อนเร็วปานกลาง ปรับได้ 2 ระดับ
- ขนาดสำหรับ 1-2 คน
- สีขาวล้วนดูสะอาดตา
- ฝาหม้อทรงหางปลา ตั้งได้
- ชั้นนึ่งเป็นพลาสติกสีใส มองเห็นอาหารข้างในได้ง่าย
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้ามจับหม้อ
- หัวปลั๊กเสียบเป็นแบบประเทศจีน
- เมนูคำสั่งเป็นภาษาจีน
ความจุ | 1.5 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 700 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบสไลด์ |
ระดับความร้อน | 2 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 34x19x10 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.5 กิโลกรัม |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ ZOLELE รุ่น ZC001

ราคา 239 บาท*
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ในราคาไม่ถึง 300 บาทจาก ZOLELE (โซเลเล่) รุ่นนี้มาในธีมสีทูโทนขาว-ดำ แม้ว่าจะไม่ได้ดูเป็นนิมิมอลเหมือนรุ่นอื่น ๆ แต่การที่ตัดขอบสีดำนั้นจะช่วยทำให้เราดูแลรักษาหม้อง่ายขึ้นค่ะ เพราะสีดำเป็นเฉดสีที่มองเห็นสิ่งสกปรกได้ยาก ในส่วนฟังก์ชันที่น่าสนใจของรุ่นนี้คือทางแบรนด์เขามีรูสำหรับแขวนหม้อที่ปลายด้ามจับมาให้ด้วย ดังนั้นเมื่อคุณล้างทำความสะอาดเสร็จก็สามารถแขวนตากลมไว้ได้เลยค่ะ ส่วนสวิตช์การควบคุมต่าง ๆ จะอยู่ที่ด้ามจับเช่นกัน โดยเราสามารถปรับระดับความร้อนได้ที่กำลังไฟ 230 และ 600 วัตต์

ตัวหม้อภายนอกดูเหมือนจะมีความลึกมาก แต่จริง ๆ แล้วจุได้เพียง 0.6 ลิตร ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับการใช้คนเดียวมากกว่า และด้วยขนาดหม้อที่เล็กมากแต่มีกำลังไฟที่สูงจึงส่งผลให้หม้อรุ่นนี้ร้อนเร็วมาก ซึ่งคุณก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายใด ๆ นะคะ เพราะว่าเขามีระบบป้องกันอาหารแห้งและอุณหภูมิสูงเกินไปมาให้ด้วยค่ะ ส่วนข้อควรระวังของรุ่นนี้ก็คือตรงที่เบ้าเสียบปลั๊กจะติดตั้งอยู่บริเวณขอบด้านข้างของหม้อแทนปลายด้ามจับ ซึ่งเวลาที่เราล้างทำความสะอาดก็ควรระวังน้ำเข้าวงจรได้ค่ะ ในส่วนของที่จับฝาหม้อก็มีขนาดใหญ่มากเกินไป ทำให้เวลาจะจับใช้งานจริง ๆ ไม่ถนัดและมักหลุดมือบ่อย ๆ
สรุป
- ร้อนเร็วมาก ปรับได้ 2 ระดับ
- ขนาดสำหรับ 1 คน
- ขอบสีดำทำให้ดูแลรักษาง่าย ไม่ค่อยสกปรก
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้านข้างหม้อ ต้องระวังตอนล้าง
- ไม่มีชั้นนึ่ง
- ที่จับฝาหม้อขนาดใหญ่เกินไป
- ก้นหม้อไม่ได้ลึกและไม่ได้เรียบแบนทั่วทั้งใบ
ความจุ | 0.6 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 600 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบหมุน |
ระดับความร้อน | 2 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 31x20x14 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 1.2 กิโลกกรัม |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Koala

ราคา 213 บาท*
สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกชอบมาก ๆ ในหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์จาก Koala (โคอะลา) และไม่เห็นว่าจะมีแบรนด์ไหนทำเลยนั่นก็คือหูจับอีกด้านของตัวหม้อค่ะ ย้ำว่าที่ตัวหม้อนะคะไม่ใช่ชั้นนึ่ง ซึ่งหลาย ๆ คนอาจคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น แต่เอาจริง ๆ นะคะ เวลาที่เราทำอาหารบางชนิด หากเราไม่มีที่จับอีกด้านไว้ก็ทำอาหารไม่สะดวกเลยค่ะ เผลอ ๆ อาจเอามือไปจับขอบหม้อจนได้แผลกลับมาอีกค่ะ ดังนั้นการที่ทางแบรนด์ออกแบบหูจับเพิ่มมาให้เพื่อให้เกิความสะดวกกับผู้ใช้ ซึ่งเป็นจุดเล็ก ๆ ที่สามารถป้องกันอันตรายจากการปรุงอาหารด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ค่ะ

ในส่วนของตัวหม้อก็จะเน้นไปที่ความกว้างมากกว่าที่จะลึกนะคะ โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 20 เซนติเมตร ทำให้เราทอดไข่เจียวหรือทำแพนเค้กได้ง่ายยิ่งขึ้น ระบบการทำความร้อนของรุ่นนี้ก็ถือว่าค่อนข้างร้อนเร็วมากค่ะ อีกทั้งยังสามารถเลือกได้ว่าจะใช้กำลังไฟที่ 300 หรือ 600 วัตต์ ในด้านความปลอดภัยก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ เพราะหากพบว่าตัวหม้อมีอุณหภูมิสูงเกินไปหรือน้ำในหม้อแห้งก็จะหยุดทำงานทันที
สรุป
- ร้อนเร็วดี ปรับได้ 2 ระดับ
- ขนาดสำหรับ 2-3 คน
- สีขาวล้วนดูสะอาดตา
- เบ้าเสียบปลั๊กอยู่ที่ด้ามจับหม้อ
- มีชั้นนึ่ง และการออกแบบเป็นหลุมให้สามารถตั้งไข่ได้ด้วย
ความจุ | 2 ลิตร |
---|---|
กำลังไฟ | 600 วัตต์ |
ปุ่มควบคุม | แบบหมุน |
ระดับความร้อน | 2 ระดับ |
ขนาด (ยxกxส) | 39x23x14 เซนติเมตร |
น้ำหนัก | 2 กิโลกรัม |
พร้อมชั้นนึ่ง | ![]() |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ทดสอบหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ โดยการต้มน้ำในปริมาณที่เท่ากัน
ก่อนที่ทำการทดสอบเกี่ยวกับความสามารถในการทำความร้อนและตรวจเช็กด้านความปลอดภัยกันนั้น เรามาดูข้อมูลจำเพาะของหม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์แต่ละแบรนด์กันก่อนดีกว่าค่ะว่ามีสเปกที่เหมือนหรือต่างกันมากน้อยขนาดไหน ?
![]() HAFELE
|
![]() Gaabor
|
![]() Simplus
|
จากในตารางเพื่อน ๆ จะเห็นว่าความจุของทั้ง 3 แบรนด์มีขนาดเท่ากันหมดก็คือ 1.5 ลิตร แต่ความกว้างของหม้อนั้นจะต่างกันเพราะว่าของ Gaabor ค่อนข้างแคบและมีความลึกมากที่สุด ส่วนของ HAFELE และ Simplus จะเน้นไปที่ความกว้างและแบนมากกว่า ดังนั้นความสามารถในการกระจายความร้อนก็จะต่างไปด้วยนะคะ
ในส่วนของกำลังไฟสูงสุดของแต่ละรุ่นก็มีค่าวัตต์ที่ใกล้เคียงกันคือประมาณ 600-700 วัตต์ ดังนั้นในการทดลองเราจะเลือกระดับความร้อนที่สูงสุดของแต่ละรุ่น โดยได้ทำการตวงน้ำเปล่าสำหรับต้มในปริมาณที่เท่ากันและเริ่มจับเวลาไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ผลปรากฏว่าหม้อของ Gaabor ใช้เวลาไม่นานในการที่ทำให้น้ำเดือด (เรียกว่าเดือดมาก ๆ) รองลงมาก็จะเป็นของแบรนด์ HAFELE ที่เดือดกลาง ๆ (เดือดกำลังดี ไม่น่ากลัวเกินไป) และสุดท้ายคือของ Simplus ที่ค่อนข้างเดือดช้าที่สุด ส่วนในระหว่างที่ต้มน้ำอยู่นั้นก็ไม่มีของแบรนด์ไหนที่มีการตัดไฟหรือหยุดทำงานเลยค่ะ แม้ว่าน้ำจะมีอุณหภูมิเดือดที่สูงที่สุดแล้วก็ตาม สาเหตุเป็นเพราะว่าน้ำในหม้อแต่ละใบยังไม่ได้แห้งขอด ดังนั้นแต่ละแบรนด์จึงทำความร้อนต่อไปเรื่อย ๆ นั่นเองค่ะ

หลังจากที่เราได้ลองเทน้ำออกให้เหลือก้นหม้อ (เทออกในปริมาณที่เท่ากัน) พบว่าของ HAFELE น้ำจะเริ่มแห้งเร็วที่สุด ต่อมาก็จะเป็นของ Gaabor และสุดท้ายเป็นของแบรนด์ Simplus
เมื่อน้ำที่ต้มเริ่มแห้งขอดจนเกิดเป็นคราบไหม้เราพบว่ามีเพียง HAFELE เท่านั้นมีระบบตัดความร้อนหยุดทำงานทันที อีกทั้งตรงไฟสถานะก็ไม่แสดงผลใด ๆ ส่วนอีก 2 แบรนด์จะได้ยินเสียงคล้ายกับตัดไฟแต่ทว่าตัวหม้อก็ยังคงทำงานและไฟสถานะก็ยังแสดงเป็นสีแดงอยู่เช่นเดิม ทั้งนี้เมื่อเราได้ลองเติมน้ำในหม้อของ HAFELE อีกครั้ง (เติมเพียงเล็กน้อย) ตัวหม้อก็กลับมาทำงานต่อในทันทีเลยค่ะ

ในส่วนของการเช็ดคราบน้ำที่แห้งติดก้นหม้อนั้น ถือว่าของ HAFELE และ Gaabor ค่อนข้างใช้กระดาษชำระเช็ดออกง่ายมาก ส่วน Simplus จะมีความฝืดเล็กน้อยต้องหยดน้ำเพื่อช่วยขัดคราบรอยไหม้ออกค่ะ ในส่วนของไฟแสดงสถานะการทำงานนั้นเราขอยกให้ HAFELE ที่มองเห็นได้ชัดเจนง่ายที่สุด รองมาคือ Simplus และสุดท้ายคือของ Gaabor ที่แทบจะมองไม่เห็นไฟสีแดงตอนทำงานเลยค่ะ
เปรียบเทียบ 10 หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ต้ม ผัด ทอด อุ่น ได้ในใบเดียว
![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ HAFELE รุ่น ECOM-310 | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Gaabor รุ่น GR-N15D | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Simplus รุ่น DZGH002 | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ KONIG | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ KASHIWA รุ่น KW-209 | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Lecon | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ ZOLELE รุ่น ZC306 | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ WANMI | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ ZOLELE รุ่น ZC001 | ![]() หม้อไฟฟ้าอเนกประสงค์ Koala |
฿990.00* | ฿399.00* | ฿389.00* | ฿399.00* | ฿339.00* | ฿380.00* | ฿459.00* | ฿595.00* | ฿239.00* | ฿213.00* |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า