กิจกรรมในยามเช้าหลังจากตื่นนอนและอาบน้ำคงจะหนีไม่พ้นการรับประทานอาหารเช้า ไม่ว่าจะเป็น เมนูข้าวต้ม หรือ อาหารเช้า ที่ทำให้อิ่มท้องได้ง่าย อย่าง ขนมปังนุ่ม, แพนเค้ก หรือ วัฟเฟิล ถ้าให้ดีก็อาจจะมีเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดความสดชื่นและตื่นตัวอย่างกาแฟสุดกลมกล่อม เช่น กาแฟแคปซูล, กาแฟสด, กาแฟกระป๋อง หรือกาแฟซอง อีกทั้งยังมีอีกเครื่องดื่มหนึ่งที่นิยมไม่แพ้กันคือ ชาประเภทต่าง ๆ อย่าง ชาคาโมมายล์, ชาอู่หลง, ชาไทย, ชาเอิร์ลเกรย์, ชาดำ หรือชาสมุนไพร ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป

แต่การที่จะดื่มกาแฟหรือชาเราก็จะต้องมีอุปกรณ์ในการชงให้เพรียบพร้อม ถ้าหากเป็นกาแฟก็อาจจะต้องซื้ออุปกรณ์เสริม เช่น เครื่องชงกาแฟแบบดริป, หม้อต้มกาแฟ, เครื่องบดกาแฟมือหมุน, เครื่องบดเมล็ดกาแฟ, เครื่องชงกาแฟแคปซูล หรือ เครื่องชงกาแฟสด ในขณะเดียวกันเครื่องดื่มอย่างชาก็ต้องมีอุปกรณ์เฉพาะเช่นเดียวกันนั่นคือ “กาแก้วชงชา“ ที่เพิ่มความสะดวกในการชงได้มากขึ้นกว่าเดิม เพียงแค่ใส่ชาลงไปในตัวกรอง หลังจากนั้นเทน้ำร้อนลงไป รอประมาณ 1 – 3 นาที เพียงแค่นี้ก็พร้อมสำหรับการดื่มแล้ว อย่างไรก็ดีการเลือกกาแก้วชงชาก็ควรจะต้องเช็กสเปคในหลายอย่าง เพื่อให้เราได้แก้วที่ตรงต่อความต้องการและมีคุณภาพมากที่สุด วันนี้ผมจึงอยากจะเขียนวิธีการเลือกและสินค้าดี ๆ มาฝากให้เลือกซื้อกัน
ข้อดีของกาแก้วชงชา
- ชงชาได้หลากหลาย ด้วยความใสของกาแก้วชงชาจะทำให้เราสามารถสังเกตน้ำด้านในได้ตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้จะทำให้เราสามารถกะสีและรสชาติความเข้มข้นตามที่เราต้องการได้พอดี เพราะชาหรือสมุนไพรจะต้องการสีและความเข้มข้นที่แตกต่างกันออกไปครับ
- เทได้อย่างสะดวก การดีไซน์ของแก้วชานั้นทำออกมาให้เราสามารถเทน้ำชาได้อย่างสะดวกและไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังใช้งานได้ง่ายอีกด้วย
- คงทนแข็งแรง แก้วที่ใช้ผลิตสำหรับการชงชาจะมีความทนทานที่มากกว่าแก้วทั่วไปครับ อย่างแรกเลยคือทนทั้งความร้อนและความเย็น นอกจากนี้หากไม่ทำตกหรือกระแทกอะไรแรง ๆ ระยะเวลาการใช้งานของมันจะยาวนานมาก
- ชงชาได้ง่ายกว่าเดิม ผลิตภัณฑ์นี้ออกแบบมาเพื่อสำหรับชงชาโดยเฉพาะ ซึ่งภายในแก้วจะมีตัวกรองชา เพียงแค่คุณใส่ชาลงไปในตัวกรอง จากนั้นเทน้ำร้อนลงไปในชั้นนอกและรอเพียงไม่นาน น้ำชาของเราก็พร้อมที่จะดื่มแล้วครับ
วิธีการเลือกแก้วชงชา
1. คุณภาพของแก้ว
แก้วที่ใช้ในการผลิตควรจะมีความหนาและทดทานต่อความร้อน หากแก้วไม่มีมาตรฐานมันอาจเกิดอันตรายในระหว่างชงหรือเทน้ำร้อนเข้าไปได้ เพราะแก้วจะเกิดการแตก จนอาจเกิดอุบัติเหตุซึ่งทำให้เกิดการบาดมือหรือผิวหนังของเราจนเลือดออกได้ ดังนั้นคุณควรจะต้องเช็กคุณภาพของแก้วให้ดีซะก่อนครับ
2. ทนความร้อนและเย็นได้มากแค่ไหน ?
ด้วยคุณภาพของแก้วในแต่ละแบรนด์จะไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าความทนทานของแก้วชงชาในแต่ละตัวก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งตรงนี้ผมอยากจะให้ทุกคนลองเช็กรายละเอียดให้ดีครับว่าแก้วที่เราจะซื้อนั้นสามารถทนทั้งความร้อนและความเย็นได้เท่าไหร่ เพื่อที่เราจะได้นำไปใช้งานได้อย่างปลอดภัย ถ้าหากแก้วทนความร้อนได้ในระดับที่มากกว่า 100 องศา คุณจะสามารถนำเข้าไปในไมโครเวฟหรือใช้ร่วมเตาไฟฟ้าและเตาแก๊สได้ครับ
3. ความจุของแก้วชงชา
![]() |
![]() |
การเลือกซื้อแก้วชงชาผมแนะนำว่าคุณจะต้องพิจารณาจากคนที่ดื่มชาภายในบ้านครับ โดยขนาดของแก้วควรจะสามารถเสิร์ฟชาให้เพียงพอกับทุกคนได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ความจุของแก้วจะเริ่มต้นที่ประมาณ 200 มิลลิลิตรไปจนถึงหลัก 2,000 มิลลิลิตรครับ ดังนั้นคุณก็จะต้องพิจารณาดูครับว่าขนาดไหนเหมาะสำหรับบ้านเรามากที่สุด
4. ควรจะทำความสะอาดได้ง่าย
จริง ๆ แล้ววัสดุอย่างแก้วเป็นอะไรที่ทำความสะอาดได้ค่อนข้างจะง่ายอยู่แล้วครับ แต่มันอาจยุ่งยากเล็กน้อยตรงที่เราจะต้องถอดอุปกรณ์ส่วนต่าง ๆ ออกจากแก้ว เช่นตัวรองชาหรือฝาครอบ ซึ่งถ้าหากเป็นไปได้ควรเลือกแก้วที่ถอดแยกชิ้นไปทำความสะอาดได้ค่อนข้างง่าย รวมไปถึงเช็กด้วยว่าแก้วของเราสามารถนำไปล้างกับเครื่องล้างจานได้หรือไม่ เพื่อความสะดวกสบายของเราครับ
5. ปลอดภัยในการใช้งาน

ความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญครับ โดยสิ่งที่ผมอยากให้ทุกคนพิจารณาก่อนซื้อก็คือส่วนที่เป็นตัวจับหรือด้ามจับกา ซึ่งวัสดุในส่วนนี้ควรจะเป็นพลาสติกหรือเรซิน เนื่องจากคุณสมบัติของมันคือการไม่สะสมความร้อน เมื่อเราไปจับในทุกครั้งจะไม่เกิดอุบัติเหตุจากความร้อนที่ทำให้เกิดแผลหรืออาการมือพองนั่นเอง
6. ตัวกรองชา
ส่วนใหญ่แล้วตัวกรองชาจะมาพร้อมกับแก้วชงชาครับ โดยสิ่งที่คุณจะต้องเช็กคือวัสดุที่ใช้ผลิตตัวกรองชานั้นทำมาจากอะไร ? และสามารถทนความร้อนได้หรือไม่ ? เพราะตัวกรองเป็นส่วนที่จะต้องสัมผัสกับน้ำร้อนเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นไปได้อยากจะแนะนำให้เลือกตัวกรองชาที่ทำมาจากสแตนเลสหรือแก้วคุณภาพดี เนื่องจากทั้งสองอย่างนี้ทนต่อความร้อนและกรองชาได้ค่อนข้างดี
7. ฟังก์ชันการเทน้ำ
แก้วหลายชนิดออกแบบและดีไซน์ออกมาดี ทำให้เราสามารถเปิดและปิดฝาได้อย่างสะดวก เช่น บางตัวเพียงแค่กดฝาด้านบน คุณก็สามารถนำกาแก้วชงมาเทน้ำชาใส่ในแก้วได้ทันที หากเทเสร็จเรียบร้อยก็เพียงแค่กดฝาอีกรอบเพื่อปิดและป้องกันไม่ให้น้ำชากระเด็นออกมา ซึ่งสาเหตุที่ให้ดูก็เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่ถ้าหากใครไม่ได้ต้องการฟังก์ชันในส่วนนี้ ก็ไม่เป็นไรครับ ขอเพียงแค่แก้วชงชานั้นตอบโจทย์ในเรื่องของการชงและความปลอดภัยในการใช้งาน เพียงเท่านี้ก็โอเคแล้ว
กาแก้วชงชาพร้อมมีที่กรองชา CJ001

ราคา 58 บาท*
ความจุ | 500 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | ไม่ระบุ |
ตัวกรองชา | สแตนเลส |
กาชงชา กาต้มน้ำร้อน กาชงชาแก้วใส

ราคา 149 บาท*
ความจุ | 2,000 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | ไม่ระบุ |
ตัวกรองชา | สแตนเลส |
กาแก้วชงชาแบบกด TP-120 อุปกรณ์ชงชา

ราคา 220 บาท*
ความจุ | 200 - 1,000 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | 150 องศา |
ตัวกรองชา | สแตนเลส |
แก้วชงชา แก้วชงชาพร้อมถ้วยกรองกากชาในตัว

ราคา 249 บาท*
ความจุ | 450 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | 150 องศา |
ตัวกรองชา | แก้ว |
กาแก้วชงชา แบบเหลี่ยม มีที่กรองใบชาแสตนเลส

ราคา 300 บาท*
ความจุ | 350 มิลลิลิตร / 750 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | 100 องศา |
ตัวกรองชา | สแตนเลส |
กาแก้วชงชา เกรดพรีเมียม พร้อมกรองใบชา

ราคา 350 บาท*
ความจุ | 500 มิลลิลิตร / 650 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | ไม่ระบุ |
ตัวกรองชา | แก้ว |
ขวดแก้วชงชา แยกชาถ้วยกรองชาแก้ว

ราคา 385 บาท*
ความจุ | 400 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | ไม่ระบุ |
ตัวกรองชา | แก้ว |
เหยือกแก้วชงชาและชงกาแฟสด ระบบ Frensh Press รุ่น 1864

ราคา 445 บาท*
ความจุ | 1,000 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | ไม่ระบุ |
ตัวกรองชา | สแตนเลส |
กาชงชาแบบแก้วใส จาก สามม้า 3in1

ราคา 449 บาท*
ความจุ | 500 มิลลิลิตร |
---|---|
ทนความร้อน | ไม่ระบุ |
ตัวกรองชา | สแตนเลส |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว กาแก้วชงชา คุณภาพดี ทนความร้อนสูง ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
ทริคการดูและทำความกาแก้วชงชา
ทริคการทำความสะอาด
- เมื่อดื่มชาเสร็จแล้วเรียบร้อยให้คุณทำการเทน้ำชาและผงชาออกทันที เพื่อป้องกันให้มันเกิดคราบเกาะแน่นบนแก้ว แต่หากทิ้งไว้นานหรือลืมเทออกจนทำให้เกิดคราบ การจัดการก็ไม่ได้ยาก เพียงแค่คุณนำเบคกิ้งโซดามาละลายกับน้ำร้อน จากนั้นก็นำไปล้างภายในแก้ว คราบทั้งหมดก็จะหลุดออกไปอย่างง่ายดาย
- ให้คุณล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน น้ำร้อน จากนั้นขัดด้วยแปรงหรือจะเป็นฟองน้ำล้างจานธรรมดาก็ได้
- หากกาแก้วชงชาทนความร้อนสูงหรือได้รับการรองรับว่าสามารถล้างกับเครื่องล้างจานได้ ก็สามารถนำไปล้างได้เพื่อประหยัดเวลาและกำลังของเรา แต่อย่างไรก็ดีถ้าหากไม่ขี้เกียจมากจนเกินไป ผมอยากจะให้ล้างด้วยมือครับ เพราะป้องกันการแตกของแก้ว
- บริเวณรางน้ำหรือที่เรียกว่าพวยกา ควรจะซื้อแปรงขัดขนาดเล็กมาถูครับ เพราะบริเวณนั้นจะค่อนข้างเล็กและแคบ ทำให้ฟองน้ำทั่วไปไม่สามารถเข้าไปถูได้
- หลังจากขัดทำความสะอาดแล้ว ควรล้างด้วยน้ำเปล่าจนมั่นใจแล้วว่าไม่เหลือคราบสบู่หลงเหลืออยู่ เพราะนอกจากจะไม่ดีต่อร่างกายแล้ว มันยังทำให้รสชาติของชาเปลี่ยนไปด้วย
- เพื่อป้องกันไม่ให้แก้วชงชาเกิดคราบน้ำหลังจากล้างทำความสะอาด ให้นำผ้านุ่มหรือผ้าขนหนูมาเช็ดจนแห้ง
ทริคการดูแล
- ห้ามนำกาแก้วชงชาที่มีความร้อนไปวางไว้บนพื้นผิวที่มีความเย็น
- ไม่ควรให้กาแก้วชงชาที่ยังมีน้ำร้อนไปสัมผัสกับความเย็น เพราะมันอาจทำให้เกิดการแตกได้
- หากนำกาแก้วชงชาไปต้มกับเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า คุณควรจะค่อย ๆ ปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นไปตามลำดับ ไม่ควรตั้งความร้อนสูงตั้งแต่ไว้ตั้งแต่แรก เพราะมันอาจทำให้แก้วปรับอุณหภูมิไม่ทัน