Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » อิเล็กทรอนิกส์ » 7 เมาส์ไร้สาย ราคาไม่เกิน 1000 บาท รุ่นไหนดี ปี 2022

7 เมาส์ไร้สาย ราคาไม่เกิน 1000 บาท รุ่นไหนดี ปี 2022

Palm PN โดย Palm PN
November 19, 2022
ใน Macbook
รีวิว เมาส์ไร้สาย ราคาไม่เกิน 1000 บาท รุ่นไหนดี
Share on FacebookShare on Twitter

ถ้าหากเพื่อน ๆ ชื่นชอบการจัดโต๊ะคอมฯ หรือโต๊ะทำงาน ให้ดูเรียบร้อย ไม่มีภาพของสายไฟที่พันกันระโยงระยาง แน่นอนครับว่า สายไฟที่เพื่อน ๆ สามารถเอาออกได้ง่าย ๆ ก็คือ สายไฟของคีย์บอร์ด และเมาส์ ครับ ซึ่งจริงอยู่ครับว่าในอดีตเมาส์ไร้สาย ยังทำงานได้ไม่ดีพอ เมื่อเทียบกับเมาส์แบบมีสาย อีกทั้งอายุการใช้งานของเมาส์ไร้สายก็ไม่มากพอ แต่ทุกวันนี้ด้วยเทคโนโลยีที่มี ทำให้เมาส์ไร้สายรุ่นใหม่ ๆ มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับเมาส์แบบมีสายมากครับ ซึ่งถ้าเราสังเกตุในตลาดเมาส์เกมมิ่งทุกวันนี้จะเห็นเลยครับว่า มีหลาย ๆ แบรนด์ รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำอย่าง Logitech ก็เริ่มทำเมาส์เกมมิ่งแบบไร้สายออกมามากขึ้น ทำให้ในปัจจุบัน มีเกมเมอร์หลาย ๆ คนที่หันมาใช้เมาส์ไร้สายกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

เมื่อพูดถึง เมาส์ไร้สาย ในตลาดปัจจุบัน แน่นอนครับ เรามีตัวเลือกอยู่เยอะมาก ๆ ดังนั้นในการเลือกซื้อเมาส์ไร้สาย ที่เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่สุด มันขึ้นอยู่กับว่าเพื่อน ๆ จะนำเมาส์ไปใช้อย่างไร? เมาส์บางตัวเราสามารถใช้งานได้นานหลายเดือน โดยไม่จำเป็นต้องชาร์จใหม่เลย หรือบางตัวก็มีประสิทธิภาพที่สูงมาก ๆ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จนเราสามารถนำไปใช้เพื่อการแข่งขันได้

เพราะฉะนั้นเพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ในวันนี้เราได้คัดเมาส์ไร้สายมารีวิวหลายรุ่นหลายราคาเลยล่ะครับ โดยทุกรุ่นจะอยู่ในงบไม่เกิน 1,000 บาทครับ และเราจะสรุปให้เพื่อน ๆ ด้วยครับว่าเมาส์แต่ละตัวได้คะแนนการใช้งานด้านต่าง ๆ มากน้อยขนาดแค่ไหน ? หากพร้อมกันแล้วตามไปดูกันเลยครับ

เมาส์ไร้สายราคาไม่เกิน 1000 บาท ยี่ห้อไหนดี?

  • เมาส์เกมมิ่งไร้สาย ที่คุ้มค่าที่สุด : EGA Type M8 เล่นเกมก็ดี พกพาไปใช้งานทั่วไปก็ได้
  • เมาส์สุขภาพไร้สาย ที่คุ้มค่าที่สุด : Rapoo EV250 เมาส์แนวตั้งให้ท่าทางการจับเมาส์ที่สบายที่สุด
  • เมาส์ทำงานไร้สาย ที่คุ้มค่าที่สุด : Xiaomi Dual Mode Silent Edition มีฟังก์ชันเยอะ ครอบคลุมหลายอุปกรณ์
  • เมาส์ไร้สาย ที่ดีที่สุด : Logitech G304 Lightspeed ที่รวดเร็ว แม่นยำ ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน และเล่นเกม
  • เมาส์ทำงานไร้สาย ที่พกพาง่าย : Logitech Pebble M350 สไตล์น่ารัก มินิมอล บางเบา พกพาสะดวกที่สุด
  • เมาส์กึ่งแนวตั้งไร้สาย ที่จับสบาย : Bewell Semi-vertical ที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องปรับตัวเยอะ
  • เมาส์ไร้สาย ที่มีคุณภาพ ราคาเบา ๆ : Logitech M330 Silent Plus) ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดี

วิธีเลือก เมาส์ไร้สาย ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณที่สุด 

เชื่อว่าหลาย ๆ คนอยากจะเปลี่ยนมาใช้ เมาส์ไร้สาย แต่ก็ยังไม่มั่นใจ กลัวว่ามันจะตอบสนองช้า และแบตฯ หมดระหว่างใช้งาน อีกทั้งหลาย ๆ คนก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหน ? และควรจะเลือกอย่างไรดี ? ดังนั้นเพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เมาส์ได้ที่มีคุณภาพ มีสเปกที่ตรงตามการใช้งานมากที่สุด เราจึงมีคำแนะนำดี ๆ ในการเลือกเมาส์ไร้สาย เพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการเลือกซื้อสิ่งที่คุ้มค่าและดีที่สุดสำหรับเพื่อน ๆ ครับ

1. เลือกจากประเภทของการเชื่อมต่อ

ในปัจจุบัน เมาส์ไร้สาย จะมีประเภทการเชื่อมต่ออยู่ 2 แบบ หลัก ๆ ดังต่อไปนี้ครับ

เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth
เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth

1. เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth

เป็นการเชื่อมต่อที่สะดวกมาก และสามารถใช้ร่วมกับหลาย ๆ อุปกรณ์ได้ ขอแค่อุปกรณ์นั้นรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth

ดังนั้นทั้ง มือถือ, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, คอมฯ หรือแม้กระทั่งสมาร์ททีวี ก็สามารถใช้งานกับเมาส์ประเภทนี้ได้ครับ ถึงแม้ว่าอุปกรณ์นั้น ๆ จะไม่มีพอร์ต USB มาให้ก็ตาม

สรุป เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานร่วมกับหลาย ๆ อุปกรณ์

เชื่อมต่อผ่านตัวรับสัญญาณ USB
เชื่อมต่อผ่านตัวรับสัญญาณ USB

2. เชื่อมต่อผ่านตัวรับสัญญาณ USB

เชื่อมต่อด้วยตัวรับสัญญาณ USB : เป็นประเภทการเชื่อมที่ง่ายกว่าครับ ซึ่งจะเหมือนกับเมาส์ทั่ว ๆ ไปเลย เพียงแต่มันจะมีแค่หัว USB ไม่มีสายไฟเหมือนเมาส์ทั่วไป

ซึ่งวิธีใช้เพื่อน ๆ ก็แค่นำหัว USB มาเสียบเข้ากับอุปกรณ์ มันก็จะมีการจับคู่กันเองอัตโนมัติครับ ดังนั้นหมายความว่า การเชื่อมต่อแบบนี้ สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB เท่านั้น

สรุป เหมาะกับคนที่เน้นใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB

2. เลือกเซ็นเซอร์ที่ใช้

ในตลาดปัจจุบัน เมาส์ มีหลายรุ่น หลายราคามาก ๆ ครับ ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ก็เป็นเพราะว่า เมาส์แต่ละรุ่น มีการเลือกใช้เซ็นเซอร์ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เมาส์แต่ละรุ่นมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นเพื่อให้เมาส์สามารถจะตอบสนองความต้องการของเพื่อน ๆ ได้ดีที่สุด ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ กันก่อนครับ

โดยในปัจจุบันเมาส์จะใช้เซ็นเซอร์อยู่ 2 แบบด้วยกัน นั่นก็คือ Laser Sensor และ Optical Sensor ครับ ซึ่งความแตกต่างหลัก ๆ จะเป็นเรื่องของค่า DPI หรือค่าความไวเมาส์ ครับ ส่งผลให้มีข้อดีข้อเสียต่างกันดังนี้

  • Laser Sensor : เป็นเซ็นเซอร์ที่จะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อใช้งานบนพื้นผิวเรียบ ๆ อย่าง แผ่นรองเมาส์ แต่หากเราใช้งานบนที่ผิวอื่น ๆ มันก็จะมีความแม่นยำลดลงครับ พูดง่าย ๆ ว่า ยิ่งไม่เรียบ มันก็จะยิ่งมีปัญหา ใช้งานไม่ได้ครับ โดยปัญหาที่เราจะเจอก็คือ เมาส์จะขาดความแม่นยำ เช่น เราลากเมาส์ไปแล้ว แต่เคอร์เซอร์ในจอไม่ไปตามนั่นเอง

จุดเด่น : มีราคาประหยัด หาซื้อง่าย

จุดด้อย : การตอบสนอง และความแม่นยำน้อยกว่า อีกทั้งยังจำเป็นต้องใช้งานบนพื้นผิวที่เรียบเท่านั้น

  • Optical Sensor : มันก็จะสามารถทำงานได้หลากหลายเช่นกันครับ แต่มันจะมีการตอบสนองที่ไว และแม่นยำกว่า อีกทั้งการใช้งานบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ และมีความขรุขระ มันก็ยังคงใช้งานได้อย่างแม่นยำครับ เนื่องจากเซ็นเซอร์มีการตรวจจับที่ดีกว่า ช่วยให้การเคลื่อนไหว มีความเสถียรเป็นอย่างมาก แต่แน่นอนครับว่า เซ็นเซอร์ตัวนี้ก็จะต้องแลกมา ด้วยราคาที่สูงกว่า

จุดเด่น : มีการตอบสนองที่รวดเร็ว และมีความแม่นยำมาก สามารถใช้งานได้ทุกพื้นผิว ต่อให้ไม่เรียบก็ใช้งานได้

จุดด้อย : มีราคาสูง

3. เลือกจากแหล่งพลังงาน

แน่นอนครับว่าอุปกรณ์ไร้สายทุกประเภท จะมีการใช้แหล่งพลังงานอยู่ 2 แบบ นั่นก็คือ แบบแบตเตอรี่ในตัว (ชาร์จไฟ) และแบบใส่ถ่าน ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ มันก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไปครับ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของเพื่อน ๆ เลย

  • เมาส์ไร้สายแบบชาร์จไฟ เราก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อถ่านอยู่เรื่อย ๆ ให้สิ้นเปลือง เมื่อใช้จนแบตฯ หมดเราก็สามารถนำสายชาร์จมาเสียบชาร์จได้ทันที ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้สาย USB-C เป็นพื้นฐานกันหมดแล้ว ทำให้ไม่ต้องพกสายชาร์จไปเพิ่มเลย
  • เมาส์ไร้สายแบบใส่ถ่าน เวลาถ่านหมดเราก็สามารถซื้อถ่านมาเปลี่ยนได้ทันที โดยไม่ต้องรอชาร์จให้เสียเวลาเลย

เพื่อน ๆ ก็ลองชั่งน้ำหนักดูครับว่า สะดวกแบบไหน ?

4. เลือกดีไซน์ และขนาดของเมาส์ ที่เหมาะกับมือของเราที่สุด

ใช่ครับ ดีไซน์ และขนาดของเมาส์ไร้สาย แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน รวมทั้งสรีระของฝ่ามือกับความถนัดของเพื่อน ๆ แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นในการเลือก มันจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของเพื่อน ๆ ล้วน ๆ ครับ ซึ่งเพื่อความง่ายขอแนะนำให้ลองดูขนาดของเมาส์ที่เพื่อน ๆ ใช้อยู่ รวมไปถึงท่าทางการจับเมาส์ของเพื่อน ๆ โดยในปัจจุบัน มีท่าทางในการจับเมาส์ ที่เป็นไปตามหลักสรีรศาสตร์ 3 ท่า หลัก ๆ ซึ่งในแต่ละท่าจับ ก็จะมีจุดเด่น-จุดด้อยที่แตกต่างกันออกไปดังต่อไปนี้ครับ

ท่าจับด้วยปลายนิ้ว (Fingertip Grip)
ท่าจับด้วยปลายนิ้ว (Fingertip Grip)

1. Fingertip Grip

คือท่าทางการจับเมาส์ ด้วยปลายนิ้วเพียงส่วนเดียว ส่วนอื่น ๆ จะลอย ไม่ได้แนบกับตัวเมาส์ ซึ่งข้อดีของจับแบบนี้ก็คือ ช่วยให้ขยับเมาส์ได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำครับ ดังนั้นคนที่ต้องการความแม่นยำ อาจจะติดท่านี้ แต่ข้อเสียก็คือ เราต้องเกร็งมืออยู่ตลอดเวลา ทำให้อาจเสี่ยงเกิดอาการมือชาได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรจับแบบนี้ต่อเนื่องนาน ๆ ครับ

ใครที่ชอบจับเมาส์ด้วยปลายนิ้ว ขนาดของเมาส์ที่เหมาะสมที่สุด ก็คือ เมาส์ที่มีขนาดกะทัดรัดครับ ซึ่งจะทำให้เราเกร็งมือน้อยลง แต่ถ้าหากเราใช้เมาส์ขนาดใหญ่ เราก็จะต้องเกร็งมือมากขึ้นนั่นเองครับ

ท่าจับเมาส์ด้วยอุ้งมือ (Palm Grip)
ท่าจับเมาส์ด้วยอุ้งมือ (Palm Grip)

2. Palm Grip

คือท่าการจับเมาส์ที่เราปล่อยทั้ง นิ้วมือ, อุ้งมือ, ข้อมือ และท่อนแขนไปตามธรรมชาติเลย ทำให้ทุกส่วนแนบไปกับเมาส์ และโต๊ะเลย ดังนั้นคนส่วนใหญ่ จึงมักจะติดท่านี้เยอะเป็นพิเศษ เพราะข้อดีก็คือ ช่วยลดการปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี แต่ข้อเสียคือ เราจะขยับเมาส์ได้ยาก เพราะข้อมือ และท่อนแขน วางแนบไปกับโต๊ะ ทำให้มันอาจจะช้าและขาดความแม่นยำไปบ้างครับ

ใครที่ชอบจับเมาส์ด้วยอุ้งมือ ขนาดของเมาส์ที่เหมาะสมที่สุด ก็คือ เมาส์ที่มีขนาดพอดีมือครับ ดังนั้นถ้ามีมือใหญ่ ก็ต้องเลือกเมาส์ที่มีขนาดใหญ่ แต่ถ้ามีมือเล็ก ก็ต้องเลือกเมาส์ที่มีขนาดเล็กตามครับ

ท่าจับแบบกรงเล็บสัตว์ (Claw Grip)
ท่าจับแบบกรงเล็บสัตว์ (Claw Grip)

3. Claw Grip

คือท่าที่อยู่ตรงกลาง ระหว่าง 2 ท่าแรกครับ พูดง่าย ๆ คือ การจับด้วยปลายนิ้ว แต่ถูกปรับให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยการวางข้อมือแนบไปกับโต๊ะได้เลย ช่วยให้ข้อดีก็คือ สามารถยกข้อมือขึ้นได้เลย หากต้องการความเร็ว และความแม่นยำ แต่ถ้าต้องการความสบาย ก็สามารถปล่อยมือตามสบายได้เลย ช่วยให้ท่านี้เป็นท่าที่ เกมเมอร์เลือกใช้กันเยอะมากครับ

ดังนั้นหากใครชอบจับเมาส์แบบกรงเล็บ ขนาดเมาส์ที่เหมาะสมที่สุดก็คือ ตัวเมาส์ที่มีขนาดพอดีมือเช่นกันครับ แต่อาจจะเลือกค่อนไปทางเล็กสักหน่อย เพื่อให้เวลาจะเปลี่ยนไปจับเมาส์ด้วยปลายนิ้ว สะดวกขึ้น

5. เลือกจากค่าความไวของเมาส์

โดยเมาส์ทุก ๆ รุ่นไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่า หรือรุ่นใหม่ มันจะมีค่าค่ามาตรฐานในการวัดความไวเมาส์คือค่า Dots Per Inch หรือเรามักจะพบคำว่า DPI อยู่หน้ากล่อง โดยค่าความไวเมาส์นี้ จะขึ้นอยู่กับการใช้งานของเพื่อน ๆ เลยครับ ยิ่งมีตัวเลขสูงเท่าไหร่ เมาส์ก็จะไวขึ้นเท่านั้น ทำให้เวลาเราขยับเมาส์แค่นิดเดียว แต่เคอร์เซอร์มันไปถึงขอบหน้าจอแล้ว

เช็กโปรโมชั่น Lazada  ลดราคาสินค้าครึ่งปี วันที่ 6 เดือน 6เช็กโปรโมชั่น Lazada  ลดราคาสินค้าครึ่งปี วันที่ 6 เดือน 6เช็กโปรโมชั่น Lazada  ลดราคาสินค้าครึ่งปี วันที่ 6 เดือน 6

สรุปง่าย ๆ นะครับว่าถ้าเพื่อน ๆ มองหาเมาส์ไปเล่นเกม เมาส์ที่มีค่า DPI สูง ๆ มันสามารถให้การตอบสนองที่รวดเร็ว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเพื่อน ๆ มองหาเมาส์ไปใช้ทำงานทั่ว ๆ ไป เมาส์ที่มีค่า DPI 800 – 1600 ก็เพียงพอต่อการใช้งานทัว ๆ ไปแล้วครับ

Shopeeโปรโมชันลดราคาช้อปปี้ครึ่งปี เดือนมิถุนายน 66Shopeeโปรโมชันลดราคาช้อปปี้ครึ่งปี เดือนมิถุนายน 66Shopeeโปรโมชันลดราคาช้อปปี้ครึ่งปี เดือนมิถุนายน 66

EGA Type M8 Wireless Gaming Mouse เชื่อมได้ทั้ง ไร้สาย และมีสาย

EGA Type M8 Wireless Gaming Mouse เชื่อมได้ทั้ง ไร้สาย และมีสาย
รูปภาพจาก egazone.com

ราคา 689 บาท*

มาเอาใจชาวเกมเมอร์กันบ้าง กับ EGA TYPE-M8 เมาส์เกมมิ่งไร้สาย สุดคุ้ม ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพเกินราคา ตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม ตัวเมาส์มาในดีไซน์สไตล์เรียบหรู ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีขนาด และน้ำหนัก ที่กำลังดี ช่วยให้เพื่อน ๆ ใช้งานอย่างสบายมือ โดยความพิเศษของรุ่นนี้คือ การเชื่อมต่อที่รองรับได้ทั้ง ไร้สาย และใช้สาย ฉะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องแบตหมดเลย ด้านการทำงาน รุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ตเซนเซอร์เกมมิ่งโดยตรง อย่าง PMW3325DB ซึ่งเป็น Optical Gaming Sensor ชิปที่ออกแบบมาเพื่อเกมแนว FPS โดยเฉพาะครับ ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ตัวสวิตซ์ใช้เป็น Huano Switch ที่รองรับการคลิกได้มากถึง 30 ล้านครั้ง ดังนั้นมันรองรับการเล่นเกมของเพื่อน ๆ ได้อย่างแน่นอน

โดยรุ่นนี้มีทั้งหมด 7 ปุ่มครับ และสามารถปรับค่า DPI ได้ตั้งแต่ 800, 1200, 2000, 3200, 5000 และเข้าไปปรับที่ซอฟต์แวร์ได้สูงสุดถึง 10,000 DPI เลยทีเดียว ทำให้ไม่ว่าเกมไหน ๆ เมาส์ตัวนี้ก็รองรับได้สบาย ๆ เพิ่มความเป็นเกมมิ่ง ด้วยไฟ Spectrum LED Lighting ที่ปรับได้หลากหลาย ส่วนอายุการใช้งาน ให้แบตในตัวความจุ 900 mAh มอบอายุการใช้งานได้ ตั้งแต่ 40 ชม. ไปจนถึงสูงสุด 70 ชม. (ในโหมด ECO) และต่อให้แบตหมด เราสามารถนำสายมาเชื่อมต่อ เพื่อใช้งานต่อได้ทันที ส่วนการชาร์จ เพื่อน ๆ แค่เสียบสาย USB-C มันสามารถชาร์จ จาก 10% ถึง 100% ได้ในระยะเวลาแค่ 2 ชม. เท่านั้นครัล ดังนั้นใครกำลังมองหาเมาส์เกมมิ่งไร้สาย ราคาเบา ๆ แต่มีฟีเจอร์ครบ ๆ สเปกคุ้ม ๆ ตอบโจทย์การเล่นเกมแบบมือโปร รุ่นนี้คุ้มมาก ๆ

จุดเด่น

  • ดีไซน์เกมมิ่งแบบเรียบ ๆ มีขนาด และน้ำหนัก กำลังดี
  • เมาส์ถูกออกแบบมาเพื่อ eSports Gaming Pro โดยเฉพาะ
  • ใช้ Optical Gaming Sensor สำหรับการเล่นเกมโดยตรง และใช้ได้ทุกพื้นผิว
  • มีดีเลย์ต่ำมาก เมื่อเทียบกับเมาส์ไร้สายในราคาระดับเดียวกัน
  • มีปุ่มให้ 7 ปุ่ม และใช้สวิตซ์ Huano Switch ที่ทนทาน
  • ในซอฟต์แวร์มีฟังก์ชันให้ปรับเยอะ ทั้ง ค่า DPI แบบ Custom และไฟ Spectrum LED Lighting
  • รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง แบบใช้สาย และแบบไร้สาย
  • มีโหมดประหยัดงาน ECO Mode ช่วยเพิ่มอายุการใช้งาน

ข้อควรพิจาราณา

  • ขนาดค่อนข้างใหญ่ คนที่มือเล็ก ๆ อาจจะไม่คุ้นชินในช่วงแรก ๆ
  • มีอายุการใช้งานสูงสุดถึง 70 ชม. ในโหมด ECO ถือว่า ค่อนข้างน้อย (แต่ใช้สายเชื่อมต่อได้)
ท่าจับที่เหมาะสม Palm Grip/ Claw Grip
เซ็นเซอร์ Optical Gaming Sensor
จำนวนปุ่ม 7 ปุ่ม
การปรับแต่งปุ่ม
การเชื่อมต่อ
  • Wireless USB-A
  • สาย USB-A
ขนาด / น้ำหนัก 126 × 66 × 40 มม. / 118 ก.
อายุการใช้งาน 70 ชม. (เมื่อเปิดโหมด ECO)
แบตเตอรี่ ในตัว 900mAh ชาร์จเต็มใน 2 ชม.
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Rapoo EV250 Silent Wireless Ergonomic Mouse เมาส์ไร้สาย แนวตั้ง เพื่อสุขภาพ

Rapoo EV250 Silent Wireless Ergonomic Mouse เมาส์ไร้สาย แนวตั้ง เพื่อสุขภาพ
รูปภาพจาก rapoo-eu.com

ราคา 419 บาท*

มาต่อกันที่ Rapoo EV250 Silent เมาส์ไร้สายแนวตั้ง ที่มีการดีไซน์มาเป็นพิเศษครับ โดยมีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ด้วยรูปทรงแนวตั้ง 60 องศา ที่สามารถรองรับกับสรีระมือได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ท่าทางการจับของมือเรา ยาวไปถึงข้อมือ จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีครับ ไม่ฝืนธรรมชาติ ทำให้จับได้สบายกว่าเมาส์แบบปกตินั่นเอง ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถใช้งานได้นานยิ่งขึ้น โดยแทบไม่รู้สึกปวดเมื่อยเลย และความพิเศษของรุ่นนี้คือ ขนาดที่พอเหมาะครับ ส่งผลให้สาว ๆ ที่มีสรีระของมือเล็กก็สามารถใช้งานได้ แถมน้ำหนักยังเบากว่าเมาส์ทั่วไปบางรุ่นอีกด้วย ทำให้สามารถพกพาได้สะดวกขึ้นครับ

ในส่วนของการทำงานรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Optical Sensor ที่รวดเร็ว และแม่นยำครับ มาพร้อมปุ่มทั้งหมด 6 ปุ่ม ถูกออกแบบให้มีเสียงคลิกที่เงียบ ไม่รบกวนการทำงาน แถมสามารถปรับ DPI ได้ถึง 4 ระดับ (800/ 1000/ 1200 และสูงสุด 1600 DPI) เชื่อมต่อไร้สาย ด้วยสัญญาณ Wireless 2.4GHz ผ่านดองเกิล USB-A ซึ่งให้ระยะการเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร ในพื้นที่โล่ง และมีความพิเศษอีกอย่างก็คือ อายุการใช้งานที่ยาวนานครับ โดยมันสามารถจะใช้งานได้นานถึง 9 เดือน ด้วยถ่าน AAA 2 ก้อน ดังนั้นใครที่ใช้งานเมาส์ทั่วไปแล้วรู้สึกปวดเมื่อย และมือชาเป็นประจำ เราขอแนะนำเจ้ารุ่นนี้เลยครับ

จุดเด่น

  • ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์แนวตั้ง 60 องศา เพื่อให้ท่าทางการจับที่เป็นธรรมชาติ
  • ช่วยลดอาการปวดเมื่อยมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีขนาดพอเหมาะ คนที่มือค่อนข้างเล็ก ก็สามารถใช้งานได้
  • เทคโนโลยี Optical Sensor ที่มีความรวดเร็ว และแม่นยำ ใช้งานได้ทุกพื้นผิว
  • ถูกออกแบบมาให้มีเสียงคลิกที่เบามาก ๆ
  • มีปุ่มทั้งหมด 6 ปุ่ม และปรับ DPI ได้ 4 ระดับ (สูงสุด 1600DPI)
  • มีอายุการใช้งานยาวนานสุด ประมาณ 9 เดือน

ข้อควรพิจาราณา

  • ดีไซน์แนวตั้ง 60 องศา อาจจะใช้งานไม่ถนัดในช่วงแรก
  • ไม่มีตัวเลือกการปรับแต่งใด ๆ ทั้งสิน
  • เชื่อมต่อผ่านดองเกิล USB-A แบบเดียว มันจึงรองรับเฉพาะอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB เท่านั้น
ท่าจับที่เหมาะสม Palm Grip
เซ็นเซอร์ Optical Sensor
จำนวนปุ่ม 6 ปุ่ม
การปรับแต่งปุ่ม
การเชื่อมต่อ Wireless (dongle USB)
ขนาด / น้ำหนัก 117 × 76 × 69 มม. / 89 ก.
อายุการใช้งาน 9 เดือน
แบตเตอรี่ ถ่าน AAA 2 ก้อน
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Xiaomi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition เม้าส์บลูทูธ สลับ 2 เครื่องได้

Xiaomi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition เม้าส์บลูทูธ สลับ 2 เครื่องได้
รูปภาพจาก mi.com

ราคา 385 บาท*

มาเอาใจคนที่ต้องการใช้เมาส์ไร้สายกับหลาย ๆ อุปกรณ์กันบ้างครับ กับ Xiaomi Dual Mode เมาส์บลูทูธไร้สาย จากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Xiaomi หรือ Mi ที่มาในสไตล์เรียบหรู ดูพรีเมี่ยม ด้วยรูปแบบโค้งมน รับกับขนาดของมือ ทำให้รู้สึกจับสบายมือ แถมยังมีขนาดเล็ก และเบา ช่วยให้หยิบไปนั่งทำงานตามที่ต่าง ๆ ได้สบาย ๆ ในส่วนปุ่มต่าง ๆ ให้มาทั้งหมด 6 ปุ่ม ครับ และไม่ต้องกลัวจะรบกวนคนรอบข้างเลย เพราะรุ่นนี้ออกแบบปุ่มมามีเสียงคลิกที่เงียบมาก ๆ ครับ ส่วนการเชื่อมต่อสามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ 2 รูปแบบ ทั้ง สัญญาณ Wireless 2.4GHz ผ่านดองเกิล USB-A และเชื่อมต่อไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อมทั้งสามารถสลับการเขื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ 2 เครื่องได้อย่างอิสระ ช่วยให้มันสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลายมาก ๆ

เมาส์ไร้สาย Xiaomi Mi Dual Mode Silent Edition ทำงานด้วยเซ็นเซอร์ Optical Sensor ที่ใช้งานได้บนพื้นผิวหลายประเภท สามารถจะใช้ได้ทั้ง บนโต๊ะ หรือแม้กระทั่งบนที่นอน แถมยังให้ทั้ง ความเร็ว และความแม่นยำ โดยมีความแม่นยำสูง 1300 DPI ช่วยให้การย้ายตำแหน่งทำได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้อง ตอบโจทย์ทุก ๆ การใช้งาน ด้านอายุการใช้งานทางแบรนด์เครมไว้นานถึง 12 เดือน ด้วยถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อน ครับ ใช้จนลืม แบตก็ยังไม่หมด ดังนั้นเพื่อน ๆ ถ้าคนไหน ต้องการเมาส์ที่สามารถจะครอบคลุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หมด พกพาง่าย มีเสียงเงียบ แถมยังมีราคาประหยัดสุด ๆ รุ่นนี้คือคำตอบครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์เรียบหรู มีความโค้งมน จับสบายมือ
  • ขนาดเล็ก และบางเบา พกพาสะดวก
  • เทคโนโลยี Optical Sensor ไม่จำเป็นต้องใช้งานบนแผ่นรองเมาส์
  • มีปุ่มให้ทั้งหมด 6 ปุ่ม
  • รองรับการเชื่อมต่อ 2 เครื่องพร้อมกับ และสามารถสลับได้ง่าย ๆ โดยการกดปุ่มควบคุมโหมด
  • มีเสียงคลิกที่เงียบมาก ๆ
  • รองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้ทั้ง 2 แบบ ครอบคลุมการเชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์
  • แบตเตอรี่ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 12 เดือน

ข้อควรพิจาราณา

  • ไม่มีตัวเลือกการปรับแต่งใด ๆ ทั้งสิน เน้นใช้งานธรรมดา ๆ
ท่าจับที่เหมาะสม Palm Grip / Claw Grip
เซ็นเซอร์ Optical Sensor
จำนวนปุ่ม 6 ปุ่ม
การปรับแต่งปุ่ม
การเชื่อมต่อ
  • Wireless (dongle USB)
  • Bluetooth
ขนาด / น้ำหนัก 110 × 57 × 23.6 มม. / 82 ก.
อายุการใช้งาน 12 เดือน
แบตเตอรี่ ถ่าน AAA 2 ก้อน
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Logitech G304 Lightspeed Wireless Gaming Mouse เมาส์เกมมิ่งไร้สาย ยอดนิยม

Logitech G304 Lightspeed Wireless Gaming Mouse เมาส์เกมมิ่งไร้สาย ยอดนิยม
รูปภาพจาก logitech.com

ราคา 1,270 บาท*

Logitech G304 Lightspeed เมาส์เกมมิ่งไร้สาย สุดคุ้ม ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ครับ อัดแน่นด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ในราคาที่ย่อมเยา ทำให้รุ่นนี้ตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีดีไซน์เกมมิ่งแบบเรียบ ๆ ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีขนาด และน้ำหนักที่เหมาะมือ รองรับการจับเมาส์ได้หลายแบบ และสามารถพกพาได้ง่าย ๆ เชื่อมต่อด้วยสัญญาณ 2.4GHz Wireless ผ่านยดองเกิล USB-A ให้การเชื่อมต่อไร้สายที่มีให้ประสิทธิภาพไม่ต่างจากแบบมีสายเลย โดยทำงานด้วยไมโครโปรเซสเซอร์ ARM 32bit คู่กับเซ็นเซอร์ HERO ซึ่งเป็น Optical Gaming Sensor ที่ออกแบบโดย Logitech G เอง ช่วยให้ทั้ง ความแม่นยำ และความสม่ำเสมอ โดยสามารถปรับค่า DPI ได้ตั้งแต่ 200-12,000DPI พร้อมทั้งสามารถบันทึกโปรไฟล์ได้ถึง 5 โปรไฟล์ ช่วยให้มันมีประสิทธิภาพที่สูงมาก และยังประหยัดแบตได้มากขึ้นถึง 10 เท่า อีกด้วย

ซึ่งรุ่นนี้มีปุ่มทั้งหมด 6 ปุ่ม โดยปุ่มหลัก (คลิกซ้าย และขวา) รองรับการคลิกได้ถึง 10 ล้านคลิกเลย พร้อมมีปุ่มปรับ DPI และปุ่มด้านข้าง 2 ปุ่ม ที่สามารถตั้งค่าได้ตามใจชอบ ผ่านซอฟต์แวร์ Logitech G HUB ทำให้ไม่ว่าจะเล่นเกมไหน เมาส์ตัวนี้ก็สามารถปรับให้เข้ากับเกมนั้น ๆ ได้สบาย ๆ ส่วนอายุการใช้งาน รุ่นนี้จะใช้ถ่าน AA เพียง 1 ก้อน เท่านั้น แต่มอบอายุการใช้งานได้สูงสุด 250 ชม. และยังสามารถปรับให้ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 9 เดือน ด้วยการใช้งานในโหมด Endurance ครับ ให้เพื่อน ๆ ใช้งานกันจนลืมไปเลย โดยราคาของเจ้ารุ่นนี้ถึงแม้จะเกินงบที่เราตั้งไว้ไปหน่อย แต่ประสิทธิภาพที่จะได้เพิ่มขึ้นมา ถือว่ามันคุ้มค่ากับการลงทุนมาก ๆ ครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์เกมมิ่งแบบเรียบ ๆ แต่ดูแพง
  • มีขนาด และน้ำหนัก กำลังดี เหมาะมือ แถมพกพาง่าย
  • เมาส์ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมระดับโปร
  • ใช้ HERO Optical Gaming เซ็นเซอร์เกมมิ่ง ระดับสูง ที่ใช้ได้บนทุกพื้นผิว
  • รองรับการบันทึกโปรไฟล์ได้สูงสุดถึง 5 โปรไฟล์
  • เทคโนโลยีเชื่อมต่อ Lightspeed ช่วยให้มีดีเลย์ต่ำมาก ๆ จนแทบไม่รู้สึก
  • มีปุ่มให้ 6 ปุ่ม ปรับ DPI ได้สูงสุด 12,000DPI
  • ปุ่มเชิงกล ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงที่ใช้ในการคลิก ทำให้คลิกได้อย่างแม่นยำ
  • ในซอฟต์แวร์มีฟังก์ชันให้ปรับเยอะ สามารถตั้งมาโครได้
  • มีโหมดประหยัดงาน Endurance Mode ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้นานถึง 9 เดือน

ข้อควรพิจาราณา

  • เชื่อมต่อผ่านดองเกิล USB-A แบบเดียว มันจึงรองรับเฉพาะอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB เท่านั้น
  • มีราคาเกิน 1,000 บาท (สามารถหาซื้อในราคาโปรโมชั่นต่ำกว่า 1 พันบาทได้)
ท่าจับที่เหมาะสม Palm Grip/ Claw Grip / Fingertip Grip
เซ็นเซอร์ HERO Optical Sensor
จำนวนปุ่ม 6 ปุ่ม
การปรับแต่งปุ่ม
การเชื่อมต่อ Wireless (dongle USB)
ขนาด / น้ำหนัก 116.6 × 62 × 38 มม. / 99 ก.
อายุการใช้งาน 250 ชม.
แบตเตอรี่ ถ่าน AA 1 ก้อน
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Logitech Pebble M350 Wireless Mouse เมาส์ไร้สาย ไร้เสียง สไตล์มินิมอล

Logitech Pebble M350 Wireless Mouse เมาส์ไร้สาย ไร้เสียง สไตล์มินิมอล
รูปภาพจาก logitech.com

ราคา 729 บาท*

มาเอาใจเพื่อน ๆ สายทำงานกันบ้างกับ Logitech Pebble M350 เมาส์ไร้สาย สไตล์มินิมอลที่ออกแบบมาน่ารักมาก ๆ พร้อมมีสีสันที่สดใส แถมยังมีขนาดเล็ก และบางพอที่เพื่อน ๆ จะใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อแล้วพาไปนั่งทำงานที่ร้านกาแฟได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนคนรอบข้าง เพราะรุ่นนี้มีการลดเสียงลงไปถึง 90% โดยรุ่นนี้มีปุ่มให้ 3 ปุ่ม และสามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ 2 รูปแบบ ทั้ง สัญญาณ Wireless 2.4GHz ผ่านดองเกิล USB-A และเชื่อมต่อไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth ทำให้มันสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลายมาก ๆ ครับ ขอแค่มีพอร์ต USB หรือ Bluetooth อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้

ในส่วนของการทำงาน เจ้ารุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ Optical Sensor ซึ่งติดตามได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก ๆ สามารถจะใช้ได้ทั้ง บนโต๊ะ หรือแม้กระทั่งผ้าคลุมที่นอน โดยให้ความละเอียดของเซ็นเซอร์ที่ 1000 dpi ส่วนอายุการใช้งานทางแบรนด์ได้เครมไว้นานถึง 18 เดือน ด้วยถ่าน AA เพียง 1 ก้อน เท่านั้นครับ เรียกได้ว่าใช้จนลืมกันเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่อยู่ในวัยเรียน วัยทำงาน หรือใครก็ตามที่กำลังมองหาเมาส์สักตัว ไว้เอาออกไปทำงานนอกบ้าน เน้นเสียงเงียบ เชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ แถมยังมีราคาประหยัดมาก ๆ รุ่นนี้ตอบโจทย์มาก ๆ ครับ

จุดเด่น

  • ดีไซน์เรียบหรู มีหลายสีให้เลือก
  • ขนาดกะทัดรัด และบางเบา พกพาสะดวก
  • เทคโนโลยี Optical Sensor ไม่จำเป็นต้องใช้งานบนแผ่นรองเมาส์
  • มีเสียงเงียบมาก ๆ
  • รองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้ทั้ง 2 แบบ ครอบคลุมการเชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์
  • แบตเตอรี่ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 18 เดือน

ข้อควรพิจาราณา

  • ดีไซส์แบบแบนราบ ทำให้อาจจะไม่คุ้นชินในช่วงแรก ๆ
  • มีปุ่มให้ 3 ปุ่ม เท่านั้น
  • ไม่มีตัวเลือกการปรับแต่งใด ๆ ทั้งสิน เน้นใช้งานธรรมดา ๆ
ท่าจับที่เหมาะสม Fingertip Grip
เซ็นเซอร์ Optical Sensor
จำนวนปุ่ม 3 ปุ่ม
การปรับแต่งปุ่ม
การเชื่อมต่อ
  • Wireless (dongle USB)
  • Bluetooth
ขนาด / น้ำหนัก 107 × 59 × 26.5 มม. / 100 ก.
อายุการใช้งาน 18 เดือน
แบตเตอรี่ ถ่าน AA 1 ก้อน
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

Bewell Semi-vertical Ergonomic mouse เมาส์ไร้สาย กึ่งแนวตั้ง ลดอาการปวดเมื่อย

Bewell Semi-vertical Ergonomic mouse เมาส์ไร้สาย กึ่งแนวตั้ง ลดอาการปวดเมื่อย
รูปภาพจาก bewellstyle.com

ราคา 790 บาท*

ใครที่ใช้งานเมาส์แล้วรู้สึกปวดเมื่อยที่มือบ่อย ๆ ขอแนะนำเจ้า Bewell Semi-vertical เมาส์ไร้สายกึ่งแนวตั้ง ที่มีการดีไซน์มาเป็นพิเศษ ตรงตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้การจับเมาส์ของมือเป็นไปตามธรรมชาติที่สุด ทำให้จับได้อย่างสบายนั่นเอง เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถใช้งานได้นานขึ้น โดยแทบไม่รู้สึกปวดเมื่อยเลย แต่ด้วยดีไซน์แบบนี้ทำให้มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ ดังนั้นใครที่มีมือเล็ก ๆ มองข้ามรุ่นนี้ไปได้เลย ในส่วนของปุ่ม รุ่นนี้มีปุ่มให้ 6 ปุ่ม ครับ และยังมีไฟ RGB 7 สี ช่วยให้มันดูเป็นเมาส์เกมมิ่งมากขึ้น

ด้านการทำงาน รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Laser Sensor ที่รวดเร็ว และแม่นยำ ถูกออกแบบให้มีเสียงคลิกที่ดัง แถมสามารถปรับ DPI ได้ถึง 6 ระดับ เลยทีเดียว (800/ 1200/ 1600/ 2400/ 3600 และสูงสุด 4800) ใช้การเชื่อมต่อไร้สาย ด้วย สัญญาณ Wireless 2.4GHz ผ่าน USB-A ทำให้มันมีระยะการเชื่อมต่อที่ไกลถึง 10 เมตร (ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม) ขอแค่อุปกรณ์มีพอร์ต USB ในตัว รุ่นนี้ก็เชื่อมต่อใช้งานได้ครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวที่อึด ถึก ทนอีกด้วย สามารถใช้งานได้นานถึง 72 ชม. หรือประมาณ 9 วันครับ โดยที่ชาร์จเป็นสายชาร์จ Type-C ซึ่งรวดเร็วแน่นอน

จุดเด่น

  • ดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อลดอาการปวดเมื่อย
  • เทคโนโลยี Laser Sensor ที่รวดเร็ว และแม่นยำ
  • มีปุ่มทั้งหมด 6 ปุ่ม
  • สามารถปรับ DPI ได้ 6 ระดับ
  • ตกแต่งด้วยไฟ RGB 7 สี
  • แบตเตอรี่ในตัว มีอายุการใช้งานประมาณ 9 วัน

ข้อควรพิจาราณา

  • ขนาดค่อนค้างใหญ่ (คนที่มีสรีระมือเล็ก ๆ อาจจะไม่เหมาะ)
  • ถูกออกแบบมาให้มีเสียงคลิกที่ค่อนข้างดัง (สำหรับคนที่ชื่นชอบ นี่อาจจะเป็นข้อดี)
  • ไม่มีตัวเลือกการปรับแต่งใด ๆ ทั้งสิน
  • เชื่อมต่อผ่านดองเกิล USB-A แบบเดียวเท่านั้น มันจึงรองรับเฉพาะอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB
ท่าจับที่เหมาะสม Palm Grip
เซ็นเซอร์ Laser Sensor
จำนวนปุ่ม 6 ปุ่ม
การปรับแต่งปุ่ม
การเชื่อมต่อ USB-A
ขนาด / น้ำหนัก 122.3 × 83.7 × 48 มม. / 105 ก.
อายุการใช้งาน 72 ชม.
แบตเตอรี่ ในตัว (สายชาร์จ Type-C)
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Logitech M330 Silent Plus Wireless Mouse เมาส์ทำงานยอดนิยม ไร้สาย ไร้เสียง

Logitech M330 Silent Plus Wireless Mouse เมาส์ทำงานยอดนิยม ไร้สาย ไร้เสียง
รูปภาพจาก logitech.com

ราคา 445 บาท*

มาต่อกันกับเมาส์ทำงาน ราคาประหยัด รุ่นยอดนิยม กับ Logitech M330 Silent Plus เมาส์ไร้สายที่ได้รับการออบแบบมาเพื่อการทำงานโดยเฉพาะ มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย ออกแบบมาโดยให้ความสบายสำหรับมือขวาโดยเฉพาะ ด้วยขนาดกำลังดี พอหมาะมือ ช่วยให้สามารถจับด้วยท่าทางต่าง ๆ ได้ทั้งหมด แถมยังมีน้ำหนักเบา ช่วยให้การพกพาไม่เป็นปัญหาเลยครับ และรุ่นนี้ยังมีการลดเสียงคลิกลงไปถึง 90% ดังนั้นเพื่อน ๆ ไม่ต้องกลัวว่า มันจะรบกวนคนที่นั่งทำงานข้าง ๆ เลย โดยรุ่นนี้ มีปุ่มให้ 3 ปุ่ม ครับ เชื่อมต่อไร้สายด้วยสัญญาณ Wireless 2.4GHz ผ่านดองเกิล USB-A ที่มีดีเลย์ต่ำมาก ๆ

ส่วนของการทำงาน เจ้ารุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ Logitech Advanced Optical Tracking ที่สามารถควบคุม ขยับ และเลื่อนได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และเที่ยงตรง โดยมีล้อเลื่อนยางที่ให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดี สามารถจะใช้บนพื้นผิวต่าง ๆ ได้ โดยมีความละเอียดของเซ็นเซอร์อยู่ที่ 1000DPI ครับ ส่วนอายุการใช้งาน รุ่นนี้ได้มีการเครมเอาไว้นานถึง 24 เดือน เลยทีเดียวครับ โดยใช้แค่ถ่าน AA 1 ก้อน เท่านั้น ซึ่งใครกำลังมองหาเมาส์ประหยัด ๆ สักตัวไว้ทำงาน เน้นความเร็ว ความแม่นยำ และเสียงที่เงียบ รุ่นนี้คือคำตอบครับ

จุดเด่น

  • ขนาดกะทัดรัด เหมาะมือ รองรับการจับได้หลายท่าทาง
  • เทคโนโลยี Logitech Advanced Optical Tracking ที่รวดเร็ว และแม่นยำ
  • ออกแบบมาให้มีเสียงคลิกที่เงียบเป็นพิเศษ
  • มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 24 เดือน

ข้อควรพิจาราณา

  • ดีไซส์เหมือนเมาส์สำนักงานทั่ว ๆ ไป
  • มีปุ่มให้ 3 ปุ่ม พื้นฐาน เท่านั้น
  • ไม่มีตัวเลือกการปรับแต่งใด ๆ ทั้งสิน เน้นใช้งานธรรมดา
  • รองรับใช้งานกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB เท่านั้น
ท่าจับที่เหมาะสม Palm Grip / Claw Grip / Fingertip Grip
เซ็นเซอร์ Logitech Advanced Optical Tracking
จำนวนปุ่ม 3 ปุ่ม
การปรับแต่งปุ่ม
การเชื่อมต่อ Dongle USB-A
ขนาด / น้ำหนัก 105.4 × 68 × 38.4 มม. / 91.0 ก.
อายุการใช้งาน 24 เดือน
แบตเตอรี่ ถ่าน AA 1 ก้อน
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

ตารางเปรียบเทียบ 7 เมาส์ไร้สาย ราคาไม่เกิน 1000 บาท รุ่นไหนดี ปี 2022

ยี่ห้อ/รุ่นสินค้าคุณสมบัติดูเพิ่มเติม

EGA Type M8 Wireless Gaming Mouse เชื่อมได้ทั้ง ไร้สาย และมีสาย

รูปภาพจาก egazone.com

EGA Type M8 Wireless Gaming Mouse เชื่อมได้ทั้ง ไร้สาย และมีสาย

  • ท่าจับที่เหมาะสม : Palm Grip/ Claw Grip
  • เซ็นเซอร์ : Optical Gaming Sensor
  • จำนวนปุ่ม : 7 ปุ่ม
  • การปรับแต่งปุ่ม :
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wireless USB-A
    • สาย USB-A
  • ขนาด / น้ำหนัก: 126 × 66 × 40 มม. / 118 ก.
  • อายุการใช้งาน : 70 ชม. (เมื่อเปิดโหมด ECO)
  • แบตเตอรี่ : ในตัว 900mAh ชาร์จเต็มใน 2 ชม.
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Rapoo EV250 Silent Wireless Ergonomic Mouse เมาส์ไร้สาย แนวตั้ง เพื่อสุขภาพ

รูปภาพจาก rapoo-eu.com

Rapoo EV250 Silent Wireless Ergonomic Mouse เมาส์ไร้สาย แนวตั้ง เพื่อสุขภาพ

  • ท่าจับที่เหมาะสม : Palm Grip
  • เซ็นเซอร์: Optical Sensor
  • จำนวนปุ่ม : 6 ปุ่ม
  • การปรับแต่งปุ่ม :
  • การเชื่อมต่อ : Wireless (dongle USB)
  • ขนาด / น้ำหนัก : 117 × 76 × 69 มม. / 89 ก.
  • อายุการใช้งาน : 9 เดือน
  • แบตเตอรี่ : ถ่าน AAA 2 ก้อน
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Xiaomi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition เม้าส์บลูทูธ สลับ 2 เครื่องได้

รูปภาพจาก mi.com

Xiaomi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition เม้าส์บลูทูธ สลับ 2 เครื่องได้

  • ท่าจับที่เหมาะสม : Palm Grip / Claw Grip
  • เซ็นเซอร์ : Optical Sensor
  • จำนวนปุ่ม : 6 ปุ่ม
  • การปรับแต่งปุ่ม :
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wireless (dongle USB)
    • Bluetooth
  • ขนาด / น้ำหนัก : 110 × 57 × 23.6 มม. / 82 ก.
  • อายุการใช้งาน : 12 เดือน
  • แบตเตอรี่ : ถ่าน AAA 2 ก้อน
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

Logitech G304 Lightspeed Wireless Gaming Mouse เมาส์เกมมิ่งไร้สาย ยอดนิยม

รูปภาพจาก logitech.com

Logitech G304 Lightspeed Wireless Gaming Mouse เมาส์เกมมิ่งไร้สาย ยอดนิยม

  • ท่าจับที่เหมาะสม : Palm Grip/ Claw Grip / Fingertip Grip
  • เซ็นเซอร์ : HERO Optical Sensor
  • จำนวนปุ่ม : 6 ปุ่ม
  • การปรับแต่งปุ่ม :
  • การเชื่อมต่อ : Wireless (dongle USB)
  • ขนาด / น้ำหนัก : 116.6 × 62 × 38 มม. / 99 ก.
  • อายุการใช้งาน : 250 ชม.
  • แบตเตอรี่ : ถ่าน AA 1 ก้อน
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

Logitech Pebble M350 Wireless Mouse เมาส์ไร้สาย ไร้เสียง สไตล์มินิมอล

รูปภาพจาก logitech.com

Logitech Pebble M350 Wireless Mouse เมาส์ไร้สาย ไร้เสียง สไตล์มินิมอล

  • ท่าจับที่เหมาะสม: Fingertip Grip
  • เซ็นเซอร์: Optical Sensor
  • จำนวนปุ่ม : 3 ปุ่ม
  • การปรับแต่งปุ่ม :
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wireless (dongle USB)
    • Bluetooth
  • ขนาด / น้ำหนัก: 107 × 59 × 26.5 มม. / 100 ก.
  • อายุการใช้งาน: 18 เดือน
  • แบตเตอรี่: ถ่าน AA 1 ก้อน
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

Bewell Semi-vertical Ergonomic mouse เมาส์ไร้สาย กึ่งแนวตั้ง ลดอาการปวดเมื่อย

รูปภาพจาก bewellstyle.com

Bewell Semi-vertical Ergonomic mouse เมาส์ไร้สาย กึ่งแนวตั้ง ลดอาการปวดเมื่อย

  • ท่าจับที่เหมาะสม : Palm Grip
  • เซ็นเซอร์ : Laser Sensor
  • จำนวนปุ่ม : 6 ปุ่ม
  • การปรับแต่งปุ่ม :
  • การเชื่อมต่อ : USB-A
  • ขนาด / น้ำหนัก: 122.3 × 83.7 × 48 มม. / 105 ก.
  • อายุการใช้งาน : 72 ชม.
  • แบตเตอรี่ : ในตัว (สายชาร์จ Type-C)
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Logitech M330 Silent Plus Wireless Mouse เมาส์ทำงานยอดนิยม ไร้สาย ไร้เสียง

รูปภาพจาก logitech.com

Logitech M330 Silent Plus Wireless Mouse เมาส์ทำงานยอดนิยม ไร้สาย ไร้เสียง

  • ท่าจับที่เหมาะสม : Palm Grip / Claw Grip / Fingertip Grip
  • เซ็นเซอร์ : Logitech Advanced Optical Tracking
  • จำนวนปุ่ม : 3 ปุ่ม
  • การปรับแต่งปุ่ม :
  • การเชื่อมต่อ : Dongle USB-A
  • ขนาด / น้ำหนัก : 105.4 × 68 × 38.4 มม. / 91.0 ก.
  • อายุการใช้งาน : 24 เดือน
  • แบตเตอรี่ : ถ่าน AA 1 ก้อน
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

ปัญหาที่อาจจะพบได้ของเมาส์ไร้สาย พร้อมวิธีการแก้ไข

หลาย ๆ คนที่เคยใช้ Mouse Wireless มา อาจจะเจอปัญหานี้มาบ้างแล้ว นั่นก็คือ เมื่อเราเสียบ USB หรือเชื่อมต่อเมาส์ไปแล้ว แต่เมาส์ไม่สามารถใช้งานได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่สามารถเลื่อนเคอร์เซอร์เมาส์บนหน้าจอแสดงผลได้ วิธีแก้ไขเบื้องต้น เพื่อน ๆ สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้ครับ

1. อันดับแรกให้เพื่อน ๆ เช็ตเบื้องต้นก่อนครับ โดยสังเกตหาปุ่ม Power หรือ ปุ่มเปิด-ปิด ก่อน เพราะเมาส์ไร้สาย จะมีปุ่มเปิด-ปิดอยู่ด้วย เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ ซึ่งเพื่อน ๆ บางคนอาจจะลืมเปิด เพราะเคยชินกับเมาส์แบบมีสาย

2. แต่เมื่อเมาส์ถูกเปิดไว้อยู่แล้ว ถ้าเป็นเมาส์ USB ให้เพื่อน ๆ ลองเปลี่ยนพอร์ต USB ดูครับ และถ้าใครเสียบผ่าน USB Hub อยู่ก็ให้ลองเสียบเข้าพอร์ต USB ของอุปกรณ์โดยตรงครับ ส่วนถ้าใครใช้เมาส์ Bluetooth ให้ลองไปปิด Bluetooth สักแปปนึง แล้วเปิด เพื่อเชื่อมต่อใหม่ดูครับ เพราะการเชื่อมต่อครั้งแรกอาจไม่สมบูรณ์

3. หากยังใช้งานไม่ได้ ถัดมาให้มาดูที่แบตเตอรี่กันต่อครับ ซึ่งถ้าเป็นเมาส์ที่มีแบตเตอรี่ในตัวให้เพื่อน ๆ ลองนำไปชาร์จดูใหม่ แล้วสังเกตว่า ขณะชาร์จมีไฟเข้ารึเปล่า ? ถ้าพบว่า ชาร์จไม่เข้า ให้เพื่อน ๆ ลองนำสายชาร์จของอุปกรณ์อื่นมาชาร์จดูครับ ถ้าไฟยังไม่เข้าอีกก็อาจจะสันนิษฐานได้เลยครับว่า ตัวเมาส์อาจจะมีปัญหา แต่ถ้าห่ากเมาส์ของเพื่อน ๆ ใช้ถ่าน ให้ลองถอดออก ละใส่เข้าไปใหม่ หรือเปลี่ยนถ่านใหม่ก็ได้ครับ เพราะบางครั้งอาจจะเป็นแค่ ถ่านหลวม หรือถ่านหมดนั่นเอง

4. ถ้าทำทั้ง 3 วิธีข้างต้นแล้ว เมาส์ของเพื่อน ๆ ยังใช้งานไม่ได้ ให้นำเมาส์ไร้สายของเพื่อน ๆ ไปลองต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ดูครับ ถ้าหากยังใช้งานไม่ได้เหมือนเดิม มันก็จะหมายความว่า ตัวเมาส์อาจจะมีปัญหา ครับ ดังนั้นถ้ายังอยู่ในระยะประกัน ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ส่งเคลมได้เลย

บทส่งท้าย

เมาส์ จัดเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่มีความสำคัญมาก ๆ ครับ เพราะมันสามารถช่วยให้การทำงานของเพื่อน ๆ ง่ายดายยิ่งขึ้น สามารถควบคุมสั่งงานได้ดั่งใจ ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ติดขัด โดยเฉพาะกับ เมาส์ไร้สาย (Wireless Mouse) ที่ถึงแม้จะมีมานานแล้วแต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน มันจึงถูกพัฒนาไปไกลมากครับ สามารถแก้ปัญหาได้ทั้ง อาการดีเลย์ และอายุการใช้งาน ช่วยให้การใช้งานไม่ต่างจากเมาส์มีสายเลย ดังนั้นเรามองว่า การลงทุนไปกับเมาส์ไร้สายสักรุ่นเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ ใช้งานดี มีประสิทธิภาพ แถมยังพกพาง่าย ใครที่กำลังมองหาเมาส์ไร้สายอยู่ เราก็หวังว่า เมาส์ไร้สาย ที่เราเลือกมารีวิวในวันนี้ จะมีสักรุ่นนะครับ ที่ตรงตามความต้องการของเพื่อน ๆ ที่สุด

Previous Post

กระเป๋าใส่ไม้ปิงปอง ยี่ห้อไหนดี ปี 2022

Next Post

10 ลูกพรุนอบแห้ง ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด ปี 2023

Palm PN

Palm PN

I with a bachelor degree in Computer Science from Songkhla Rajabhat University. I live in Songkhla. I like to write articles about in IT products and motorcycle accessories.

Next Post
รีวิว ลูกพรุนอบแห้ง ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด

10 ลูกพรุนอบแห้ง ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด ปี 2023

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

รีวิว เคส Macbook สวย ๆ กันกระแทก และกันน้ำได้อย่างดีเยี่ยม ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2021
Macbook

รีวิว เคส Macbook ยี่ห้อไหนดีที่สุด สวย ๆ กันกระแทก และกันน้ำได้ ปี 2022

July 29, 2022

Recent Posts

  • 10 เชดด้าชีส ยี่ห้อไหนอร่อย รสชาติดี เหมาะสำหรับทำอาหาร ปี 2023
  • รีวิว แฮร์พีช แบบไหนดี ใส่แล้วผมหนาสวย เสกฟาร์มผมได้ในพริบตา ปี 2023
  • 9 พาเมซานชีส (Parmesan Cheese) ยี่ห้อไหนอร่อย ปี 2023
  • รีวิว เสื้อเชิ้ตสีขาวผู้หญิง แบบไหนดี ใส่แล้วสวย แมทช์ได้หลายสไตล์ ปี 2023
  • 10 น้ำมันพริกจีน ยี่ห้อไหนอร่อย รสชาติไหนดี ปี 2023

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ

© 2022 Best Review Asia