คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 9.0 เต็ม 10
|
|
สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในซีรีส์ C ของ Realme มาพร้อมการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวสวยงาม มีประสิทธิภาพที่ทรงพลังและคุณสมบัติล้ำสมัยอีกมากมายในราคาที่ประหยัด ไม่ว่าจะเป็น การชาร์จเร็ว, คุณภาพกล้อง 64MP หรือจะเป็นลูกเล่น Mini Capsule บนหน้าจอที่ดูเหมือนทางแบรนด์จะได้แรงบันดาลใจมาจาก Dynamic Island ของ iPhone 14 Pro
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการรีวิวแบบภาพรวม หากคุณอยากรู้ว่า realme C55 มีความคุ้มค่าคุ้มราคา ควรจะซื้อดีรึไม่ ? มาอ่านรีวิวทดลองใช้งานจริงกันเลยดีกว่าค่ะ !!!
คำตัดสินโดยรวม
realme C55 มีการออกแบบที่สวยงาม โปรเซสเซอร์ที่ใช้เป็น MediaTek Helio G88 SoC มาพร้อมกับ GPU Mali-G52 2EEMC2 โดยรวมถือว่าค่อนข้างเป็นชิปเซตที่น่าประทับใจ แรมขนาด 6GB พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องสูงสุด 128GB สามารถขยายได้ด้วยการ์ด micro SD อีก 1TB
หน้าจอแสดงผลเป็น Full HD+ IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว มีอัตราการรีเฟรช 90Hz ให้ความสว่างคมชัด สีสันสดใส และตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดี น้ำหนักโทรศัพท์เบามาก ทำให้พกพาได้สะดวก
กล้องหลักและกล้องเซลฟี่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางวัน มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการสแกนใบหน้าและลายนิ้วมือ โดยมี UI ของตัวเองที่ใช้งานง่ายและทำงานบน Android 13 เวอร์ชันล่าสุด
คลิปรีวิว สมาร์ทโฟน Realme C55 (ลองใช้งานจริง)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
![]() |
อุปกรณ์ภายในกล่อง
สเปกทั่วไป
|
ดีไซน์การออกแบบของ realme C55
สีที่เราเลือกมาจะเป็นสี Sunshower หรือสีทองที่มีดีไซน์สุดเก๋ไก๋ แม้ว่าโครงสร้างจะเป็นพลาสติก แต่มีรูปลักษณ์และผิวสัมผัสในระดับพรีเมียมเลยค่ะ พื้นผิวด้านหลังเป็นดูอัลโทนที่เน้นความมันวาว ทั้งยังให้การจับที่สะดวกสบายอีกด้วย ตัวเครื่องเมื่ออยู่ในที่ร่มจะเป็นเงินเลื่อม ๆ แต่เมื่อออกแดดจะกลายเป็นสีทองเหลืองที่มีความเป็นประกายแวววาว ด้านหลังตัวเครื่องมีโมดูลกล้อง 2 ตัว ความละเอียดกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล ส่วนกล้อง Depth (กล้องหน้าชัดหลังเบลอ / ถ่ายโบเก้) 2 ล้านพิกเซล ขนาดของกล้องทั้ง 2 ดูสวยงามและสอดคล้องกับตัวบอดี้ของเครื่องมากค่ะ

รอบ ๆ มุมโทรศัพท์เป็นขอบเรียบแบนมาพร้อมกับความโค้งมนเล็กน้อย ซึ่งทำให้พอดีกับฝามือ ช่วยให้หยิบจับง่ายขึ้น สามารถถือเป็นเวลานาน ๆ ได้โดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า เพราะตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 189.5 กรัม และบางเฉียบแค่ 8 มิลลิเมตร ดีไซน์โดยรวมนับว่าสวยงามเกินราคาไปไกลมากเลยค่ะ
ที่ด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมีลำโพง, ช่องเสียบสายชาร์จ USB Type-C, ไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังหัวแจ็คขนาด 3.5 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตรอบ ๆ ตัวเครื่องแล้ว เราพบว่าในส่วนของไมค์ตัดเสียงรุ่นนี้ไม่มีค่ะ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของสมาร์ทโฟนที่มีราคาประมาณนี้ เพราะหลาย ๆ แบรนด์ก็ไม่ได้ใส่มาให้เช่นกัน ในส่วนของหน้าจอจะมีขนาดหน้าจอ 6.72 นิ้ว และได้รับการติดฟิมล์กันรอยมาให้จากโรงงาน กล้องหน้าเป็นแบบเจาะรูที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

ด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่องซึ่งจะเป็นปุ่มที่ใช้สำหรับสแกนลายนิ้วมือในตัวได้ด้วย ตำแหน่งของปุ่มทั้งสองอยู่ในระยะที่นิ้วโป้งสามารถเอื้อมถึง ส่วนด้านซ้ายจะมีถาดใส่ซิม 3 สล็อต โดยสามารถใส่เมมโมรี่การ์ดเสริมและใส่ซิมได้อีก 2 ซิม
realme C55 มีให้เลือก 2 สี คือ Sunshower และ RainyNight สำหรับสาว ๆ เราคิดว่าสี Sunshower จะเหมาะกับพวกคุณมากกว่า เพราะจะให้ความรู้สึกสดใส ส่วนหนุ่ม ๆ สี RainyNight จะให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหาค่ะ โดยทั้งสองสีต่างก็มีพื้นผิวที่เหมือนกันนั่นคือเมื่อมีแสงตกกระทบมันจะเปลี่ยนเป็นอีกสีทันทีค่ะ
หน้าจอแสดงผลของ realme C55
คำตัดสินหน้าจอแสดงผล
realme C55 มีหน้าจอความละเอียด Full HD+ 90Hz มีขนาด 6.72″ ความสูงสุด 680 nits ถือว่าเป็นจอที่สู้แสง หน้าจอสีสันสดใส สามารถให้รายละเอียดได้ดี โดยรวมดูแล้วสบายตา มีความไหลลื่นสมูทดีมาก ให้การตอบสนองที่รวดเร็ว ค่อนข้างเหมาะสมกับราคา
realme C55 มีหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว พร้อมรูเจาะตรงกลางขนาดเล็ก ๆ สำหรับใส่กล้องเซลฟี่ หน้าจอมีอัตราการรีเฟรช 90Hz ส่วน Touch Sampling Rate 180Hz แม้ว่าสเปกโดยรวมของหน้าจอจะดูเหมือนหน้าจอสมาร์ทโฟนราคาประหยัดทั่วไป แต่ความละเอียดที่สูงถึง Full HD+ หรือ 1080 x 2400 พิกเซล จะช่วยชดเชยในส่วนนี้ได้ มันทำให้คุณสนุกสนานขณะเล่นเกมหรือจะเป็นตอนสตรีมรายการทีวีและภาพยนตร์ ซีรีส์ต่าง ๆ สีสันและรายละเอียดโดยรวมดูสบายตา ส่วนความสว่างของหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ 680 นิต ซึ่งถือว่าให้ความสว่างในระดับกำลังดี เมื่ออยู่ในพื้นที่กลางแจ้งหรือแสงแดดแรงจ้าก็ยังสามารถมองเห็นหน้าจอได้ในระดับหนึ่งค่ะ

ในส่วนของขอบจอมีความหนากลาง ๆ ไม่ได้กินพื้นที่หน้าจอมากเกินไป ดูสมดุลบาลานซ์กันดีค่ะ จริง ๆ แล้วหากเทียบขอบจอของไอโฟนก็หนาประมาณนี้เหมือนกัน แต่ในส่วนของขอบด้านล่างของ realme C55 นั้นอาจจะดูหนากว่าขอบด้านอื่น ๆ เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานใด ๆ ค่ะ
ยูสเซอร์อินเตอร์เฟซโดยรวมของ realme C55
คำตัดสิน Realme UI
realme C55 ถือว่ามี UI ที่ใช้งานง่าย ไม่มีความซับซ้อนอะไรมากมาย สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งมีคำสั่งลัดมาพร้อมกับแถบด้านข้างอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
ในด้านซอฟต์แวร์ realme C55 ทำงานบน Realme UI 4 เวอร์ชันล่าสุดที่ใช้ Android 13 ซึ่งเราสามารถปรับรูปแบบและขนาดของไอคอนได้ตามความต้องการ พร้อมทั้งเลือกโครงสร้างที่สะดวกต่อการใช้งาน คุณสามารถปรับรูปแบบทรานสิชั่นได้เอง โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปดาวน์โหลดแอปใด ๆ ให้ยุ่งยาก

นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกวอลเปเปอร์เพิ่มเติมได้อีกด้วย โดยจะมีทั้งแบบฟรีและแบบจ่ายเงินค่ะ ในส่วนของตัวหนังสือนั้นมีสีเข้มและคมชัด ตัวฟอนต์พื้นฐานที่มากับเครื่องค่อนข้างอ่านง่าย แต่คุณสามารถเลือกฟอนต์แบบอื่น ๆ ที่น่ารักเพิ่มเติมได้ค่ะ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20-40 บาท แต่สามารถทดลองใช้งานฟรีได้ก่อน นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนขนาดให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงได้ตามต้องการอีกด้วยนะคะ
ด้านการใช้งานของระบบนั้น…เราสามารถเลือกรูปแบบได้เองเลยค่ะ ถ้าใครถนัดใช้งานแบบปุ่มให้เลือกแบบปุ่มค่ะ ส่วนใครถนัดใช้แบบระบบนำทางให้เลือกแบบนำทาง ในส่วนนี้เราขออนุญาตเลือกแบบระบบนำทางนะคะ เพราะจะได้ดูความสมูทของหน้าจอไปด้วยในตัว ซึ่งจากที่ทดลองเล่น ๆ ดู เราพบว่าหน้าจอมีความไหลลื่นดีมาก ให้การตอบสนองที่รวดเร็ว ไม่มีอาการหน่วงหรือดีเลย์เลยค่ะ
นอกจากนี้ ขณะที่หน้าจอปิดหรือล็อกอยู่ เราสามารถเรียกใช้งานกล้องถ่ายรูปและไฟฉายได้ด้วยการการลากนิ้วบนหน้าจอล็อกด้วยนะคะ
- ต้องการเปิดกล้องให้หมุนเป็นรูปตัว O
- ต้องการเปิดไฟฉายให้ลากนิ้วเป็นรูปตัว V
ด้านความสะดวกในการใช้งานยังไม่หมดเพียงเท่านี้ คุณสามารถแคปหน้าจอได้ง่าย ๆ โดยการใช้นิ้ว 3 นิ้ว กดค้างไว้ หรือจะกด 3 นิ้วค้างแล้วลากเพื่อแคปหน้าจอเฉพาะบางส่วนก็ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครต้องการซื้อเครื่องนี้มาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะ เราขอแนะนำให้คุณกดปิดระบบการใช้ 3 นิ้ว ไปก่อน มันจะช่วยให้คุณเล่นเกมได้ไหลลื่นมากกว่า
หมายเหตุ : การเปิดใช้งานครั้งแรกจะมีการติดตั้งแอปหลายตัวที่แฝงมาด้วย ซึ่งอาจเป็นแอปที่เราไม่ได้ใช้งานเลยด้วยซ้ำ (Bloatware) ดังนั้นคุณสามารถลบแอปเหล่านั้นออกได้ เพื่อจะได้ประหยัดพื้นที่หน่วยความจำในเครื่อง
การใช้งานแอปต่าง ๆ ของ realme C55
คำตัดสิน ประสิทธิภาพการใช้งานของ realme C55
หัวใจหลักของ realme C55 คือ ชิปเซต MediaTek Helio G88 SoC ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 และได้มีการนำมาใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ หลายรุ่นเลยค่ะ แม้ว่าชิปเซตรุ่นนี้จะทำงานได้ในระดับกลาง ๆ แต่ก็ไม่ได้ล้าหลังจนทำให้เครื่องหน่วงหรือช้าเช่นกัน กล่าวอีกนัยหนึ่งประสิทธิภาพของ realme C55 นั้น ยังสามารถเทียบเท่ากับคู่แข่งได้สบาย ๆ

ต้องขอบคุณ Helio G88 ที่ทำให้โทรศัพท์รุ่นนี้สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย ช่วยมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นโดยอาจมีอาการแลคหรือกระตุกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ว่าโทรศัพท์จะไม่เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก ๆ แต่ก็สามารถเล่นเกมอย่าง Subway Surfer หรือ RoV ได้โดยไม่สร้างความร้อนให้แก่เครื่องมากนัก
ก่อนอื่นสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มขนาดแรม เราสามารถขยายแรมเพิ่มได้อีก 6GB รวมเป็น 12GB ค่ะ (โดยให้ไปที่ การตั้งค่า -> เกี่ยวกับอุปกรณ์ -> ขยายแรม) วิธีนี้จะช่วยทำให้เปิดใช้งานแอปหลาย ๆ ตัวได้อย่างสบาย ๆ หน้าจอมีความสมูทมากขึ้น ทำงานรวดเร็ว ไม่ติดขัด และไม่กระตุก หากเป็นแอปที่เปิดใช้งานอยู่แล้ว รุ่นนี้ก็จะเปิดแอปได้เร็วมาก แต่ในบางแอปก็เปิดได้ช้าและมีความดีเลย์เล็กน้อย ในส่วนของการเปิดใช้งานแอปครั้งแรกจะโหลดนานสักหน่อยค่ะ อย่างไรก็ตามระยะเวลาในการเปิดแอปจะขึ้นอยู่กับสเปกของแอปแต่ละตัวด้วยค่ะ
ทดลองใช้ realme C55 กับแอปฯ โซเชียลทั่วไป
![]() |
ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter หรือ TikTok คุณสามารถเล่น realme C55 ได้อย่างราบรื่น รวมถึงไถ่หน้าจอเลื่อนฟีดได้อย่างง่ายดาย (ลื่นปื้ด ๆ เป็นสไลด์เดอร์เลยค่ะ) โดยคุณจะเปิดใช้งานพร้อมกันได้หลาย ๆ แอปก็ได้ เพราะจากที่ทดลองใช้ก็ไม่มีอาการหน่วงหรือหน้าจอกระตุกใด ๆ ดังนั้นหากคุณเป็นสายโซเชียลเน็ตเวิร์คก็ไม่จำเป็นต้องปิดการทำงานของแอปใดแอปหนึ่งเลยค่ะ รุ่นนี้สามารถเปิดใช้งานแอปหลาย ๆ แอป ค้างไว้ได้อย่างสบาย ๆ อีกทั้งยังสามารถเปิดแบบแบ่งหน้าจอ 2 แอปพร้อมกันได้ด้วย |
ทดลองใช้ realme C55 กับแอปฯ สตรีมมิ่ง สำหรับดูหนัง ดูซีรีส์
เรามาเริ่มกันที่แอปง่าย ๆ อย่าง YouTube กันก่อนเลยค่ะ รุ่นนี้ในแอป YouTube มีรองรับความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมเรทด้วยนะคะ เรามาทดสอบกันดีกว่าค่ะว่าจะให้ภาพที่ไหลลื่นมากน้อยแค่ไหน
![]() |
|
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะทดลอง เราก็พอจะทราบอยู่แล้วว่าชิปเซตที่รุ่นนี้น่าเหมาะสำหรับความละเอียดที่ 1080p มากกว่า แต่เพราะว่าเราอยากให้เพื่อน ๆ ได้พิจารณากันแบบให้เห็นภาพจริง ๆ จึงทดสอบความละเอียด 4K และ 2K มาด้วย แต่เอาจริง ๆ นะคะ พวกหนังหรือซีรีส์ในแอปสตรีมมิ่งทั้ง TrueID, Netflix, Viu, WeTv, Disney+ หรือ Prime Video โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีความละเอียดสูงสุดก็แค่ 1080p เท่านั้น ดังนั้นเจ้า realme C55 ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการรับชมความบันเทิงค่ะ สบายใจได้เลย 🙂

ในส่วนของระบบเสียงนั้น realme C55 มีเสียงดังมาก สามารถปรับความดังเสียงได้สูงสุด 200% แต่เสียงที่ได้จะเป็นเสียงบาง ๆ ใส ๆ ไม่มีความแน่นสักเท่าไหร่ โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนก็ไม่ได้ชอบฟังเพลงมากนักจึงอธิบายเป็นภาษาดนตรีไม่ถูกเหมือนกันค่ะ 🙁 รู้แต่ว่าเสียงจะไปโทนแหลม ๆ ไม่ทุ้ม ฟังแล้วไม่รู้สึกถึงความนุ่มนวลสักเท่าไหร่ ขนาดผู้เขียนที่ไม่ได้ถนัดสายดนตรีก็พอจะทราบได้เลยว่า “ระบบเสียงของ realme C55 ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบฟังเพลงมากนัก”
แต่สำหรับคนที่ชอบดูหนังหรือดูซีรีส์ โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนคิดว่าไม่ได้มีปัญหาหรือรู้สึกติดขัดขณะรับชมอะไรนะคะ ยังพอรับได้ ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะเคยใช้มือถือที่มีระบบเสียงดีมาก ๆ มาก่อน คุณจะรู้สึกได้ทันทีว่ามันต่างกันมาก แนะนำให้คุณซื้อหูฟังเสริมมาสำรองไว้ได้เลยค่ะ จะเป็นแบบหูฟังที่ครอบหูอย่าง Lenovo thinkplus TH10 เสียงดีมีความสมูท เบาใส่สบาย ก็ดีค่ะ หรือจะเป็นแบบหูฟังอินเอียร์อย่าง ANKER Soundcore Life U2i เชื่อมต่อง่าย ไม่มีสะดุด ก็ได้ค่ะ ทั้งสองแบรนด์นี้ได้ผ่านทดสอบใช้งานจริงแล้ว คุณสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดรีวิวเพิ่มเติมได้จากลิ้งก์ที่ใส่ไว้ได้เลยค่ะ
![]() | Lenovo Thinkplus TH10 TWS หูฟังครอบหูบลูทูธ ระบบเสียง Hi-Fi สเตอริโอ | |
![]() | หูฟัง ANKER Soundcore รุ่น Life U2i |
ทดลองใช้ realme C55 เล่นแอปฯ เกมที่มีสเปกกลาง ๆ
ก่อนอื่นเรามาดูกันสักหน่อยว่าระหว่างเล่นเกมเราสามารถทำอะไรได้บ้าง อย่างแรกคือการเลือกประสิทธิภาพของโหมดระหว่างเล่นเกมได้ ไม่ว่าจะเป็น โหมดใช้พลังงานต่ำ, โหมดสมดุล และโหมดโปรเกมเมอร์ นอกจากนี้ในขณะที่เล่นเกมคุณยังสามารถเลือกโหมดโฟกัสเกมโดยเฉพาะได้ ซึ่งจะทำให้การโทรเข้าหรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ ถูกปิดทั้งหมด อีกทั้งคุณยังเลือกโชว์สถานะการทำงานของระบบในขณะที่เล่นเกมได้ด้วย ซึ่งมันบอก อัตราเฟรมเรท, GPU และ CPU ที่ใช้ขณะนั้นได้ค่ะ

วันนี้เรามาทดลองเล่นเกม RoV กันนะคะ ผลลัพธ์โดยรวมแล้วภาพสมูทไหลลื่น มีการตอบสนองที่ดี เอฟเฟคสวยงาม แม้ว่าในบางช่วงอาจรู้สึกขัดใจไปบ้าง (เพียงเล็กน้อย) แต่ภาพรวมสำหรับสมาร์ทโฟนในเรทราคานี้ถือว่าช่วยมอบประสบการณ์เล่นเกมได้ยอดเยี่ยมมากค่ะ จริง ๆ แล้ว โดยส่วนตัวเราไม่ได้คาดหวังว่า realme C55 จะรองรับการเล่นเกมเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว
ระบบกล้องของ realme C55
คำตัดสินกล้อง realme C55
ประสิทธิภาพของกล้อง realme C55 ในช่วงกลางวันนั้นน่าประทับใจมาก เพราะเซ็นเซอร์ 64MP จะคอยจับภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้ดี พร้อมกับมอบสีสันที่สดใสและลงไฮไลท์รอบ ๆ แสงและเงาได้รับการจัดการอย่างดี เช่นเดียวกันสำหรับกล้องหน้า แม้ว่าจะมีแค่ 8MP แต่ก็ให้ภาพเซลฟี่ที่เหมาะสมสวยงาม มาพร้อมโทนสีผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับถ่ายรูปในสภาพแสงจ้า
ทดลองใช้กล้องหน้า realme C55
อย่างที่บอกไปแล้วว่ากล้องหน้าของ realme C55 มีความละเอียดเพียง 8 ล้านพิกเซล แม้ว่าอาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ เพราะว่าสามารถให้ภาพที่สวยคมชัด เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ดี เป็นภาพเซลฟี่ที่คุณสามารถโพสต์ลงโซเชียลได้ทันที ในส่วนของการปรับแสงสีขาวก็ไม่ได้ดูเกินจริง นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดถ่ายภาพบุคคลหรือโบเก้ ซึ่งก็คือการถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอด้วยนะคะ โดยคุณสามารถปรับระดับความเบลอได้ตั้งแต่ 0-100% เลยค่ะ (ในรูปด้านขวาเป็นโบเก้ระดับ 60%)

จริง ๆ แล้วรูปจะมีความละเอียดมากกว่านี้นะคะ แต่เนื่องจากได้มีการบีบอัดไฟล์รูปภาพเพื่อใช้ลงเว็บไซต์ จึงแสดงรายละเอียดตามที่เห็นค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดบิวตี้มาให้คุณได้เข้าไปปรับรายละเอียดแบบเจาะลึกทั้งใบหน้า คาง ดวงตา และอื่น ๆ อีกมากมาย ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายเซฟฟี่มาก ๆ แต่แนะนำว่าให้ใช้แค่การปรับความละเอียดของผิวก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะว่าพวกฟังก์ชัน เพิ่มตาโต จมูกโด่ง บลัชออนแก้ม หรือทาลิปสติก จะออกมาดูเกินจริงไปสักหน่อย ส่วนตัวแล้วเรารู้สึกว่าภาพออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ค่ะ (โดยเฉพาะรูปด้านขวาเกินจริงไปเยอะเลยค่ะ)

จริง ๆ แล้วรูปจะมีความละเอียดมากกว่านี้นะคะ แต่เนื่องจากได้มีการบีบอัดไฟล์รูปภาพเพื่อใช้ลงเว็บไซต์ จึงแสดงรายละเอียดตามที่เห็นค่ะ
สำหรับการบันทึกวิดีโอกล้องหน้ามีให้เลือกแบบ 1080p และ 720p ที่ 30 เฟรมเรท คลิปมีความคมชัด สามารถมองเห็นจุดบกพร่องบนใบหน้าหมดเลยค่ะ 😀 เนื่องจากการถ่ายวิดีโอกล้องหน้าไม่มีโหมดบิวตี้มาให้ แต่จะมีฟิลเตอร์ให้เลือกแทน ซึ่งมันก็ยังทดแทนกัน “ม่ายด้ายยยยยย” อยู่ดีค่ะ 🙁 แอบเสียใจเล็กน้อย อยากให้วิดีโอกล้องหน้ามีโหมดบิ้วตี้จริง ๆ ค่ะ
อย่างไรก็ตามหลายคนอาจคิดว่า 8 ล้านพิกเซลนั้นดูน้อยเกินไป แต่ทว่าในปัจจุบันนี้ก็ยังมีหลาย ๆ บริษัทที่ผลิตสมา์รทโฟนราคา 5,000-6,000 บาท แต่ยังคงใช้กล้องหน้าเพียง 5 ล้านพิกเซลเท่านั้น ดังนั้น realme C55 ในราคาที่ถูกเช่นนี้ก็ถือว่า 8 ล้านพิกเซล ก็เป็นกล้องเซลฟี่ที่ดีมากแล้วค่ะ !!!
ทดลองใช้กล้องหลัง realme C55
สำหรับการถ่ายรูปด้วยกล้องเซ็นเซอร์ขนาด 64 ล้านพิกเซล ผลลัพธ์ที่ได้เป็นภาพที่คมชัดละเอียดสุด ๆ แต่เป็นเลนส์กล้องที่ซูมไม่ได้นะคะ เหมาะการถ่ายรูปวิวทิวทัศน์, อาหาร, ดอกไม้, ท้องฟ้า หรือคนเป็นอย่างมากค่ะ เพราะมันให้เฉดสีสดชัดเจนสวยงาม แต่หากคุณไม่ชอบความสดของสีโทนสามารถกดปิดโหมดเพิ่มเฉดสีได้ค่ะ
ในส่วนของภาพรวมนั้น เราคิดว่าโทนภาพมีความสว่างกำลังดี สีไม่หม่นหมอง ถือว่าเป็นกล้อง 64 ล้านพิกเซล ที่มีคุณภาพเหมาะสมกับราคามากค่ะ




จริง ๆ แล้วรูปจะมีความละเอียดมากกว่านี้นะคะ แต่เนื่องจากได้มีการบีบอัดไฟล์รูปภาพเพื่อใช้ลงเว็บไซต์ จึงแสดงรายละเอียดตามที่เห็นค่ะ
สำหรับรูปถ่ายที่ใช้กล้องธรรมดาก็จะมี AI ไว้คอยรีทัชหรือก็คือโหมดบิวตี้มาให้เหมือนกล้องหน้าเลยค่ะ แต่ว่าเป็นการปรับโหมดบิวตี้แบบรวมยอดทีเดียว ซึ่งก็คือปรับเป็นเปอร์เซ็นจาก 0-100% ในส่วนของภาพบุคคลหรือการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ เราไม่สามารถเข้าไปปรับโหมดบิ้วตี้ได้เลยค่ะ สำหรับการถ่ายภาพซูมที่กล้องธรรมดานั้นบอกเลยว่า “ไม่คาดหวังก็จะไม่ผิดหวัง” ค่ะ เพราะในราคาที่ถูกเช่นนี้ การจะทำให้รูปซูมออกมาชัดคมกริบได้นั้นยากมากกกก

สำหรับการใช้งานโหมดกลางคืนนั้น ภาพถ่ายออกมายังไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ มีความสว่างน้อยเกินไป และเรายังแอบเห็นนอยส์ในรูปเล็กน้อย โดยส่วนตัวเราคิดว่ามือถือราคานี้จะไม่เหมาะสำหรับถ่ายกลางคืนอยู่แล้วค่ะ แต่ในกรณีที่เราลองถ่ายภาพในพื้นที่แสงน้อยซึ่งเป็นช่วงเวลากลางวัน ภาพที่ได้ก็ยังคงสวยคมชัดอยู่นะคะ (ภาพด้านขวา) แต่อาจจะต้องใช้เวลาประมวลผลนานสักหน่อย

แม้ว่าวิดีโอกล้องหลังไม่มีระบบกันสั่น (หากคุณเดินไปด้วยและถ่ายคลิปไปด้วย รับรองว่าคุณดูคลิปของคุณจะต้องมีอาการเวียนหัวตาลายแน่นอนค่ะ) แต่อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเลือกความละเอียดได้ 1080p หรือ 720p ส่วนอัตราเฟรมมีเลือก 30 และ 60 เฟรมเรทได้ ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิด ในราคานี้มันสามารถบันทึกอัตราเฟรมเรดที่ 60 เฟรมเรทได้ ซึ่งผลลัพธ์ในการถ่ายวิดีโอมีออโต้โฟกัส บางครั้งก็ทำงานได้เร็ว บางครั้งก็จะดีเลย์ไปหน่อยค่ะ ในส่วนของเฉดสีสวยสดชัดเจนมาก ๆ
แบตเตอรี่และการชาร์จของ realme C55
คำตัดสิน แบตฯ และการชาร์จ realme C55
อายุแบตเตอรี่ยาวนานใช้งานได้ตลอดทั้งวัน รองรับการชาร์จไว 33W ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงในการชาร์จจาก 0-100%
เวลาที่เราเสียบสายชาร์จ ตัวฟีเจอร์มินิแคปซูลบนหน้าจอก็จะแสดงลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้เราได้ชมกัน นับว่าเป็นอีกหนึ่งความก้าวที่สำคัญ เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตฟีเจอร์มินิแคปซูลตัวนี้อาจทำได้มากกว่าการบอกสถานะในการชาร์จก็ได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม เวลาในการชาร์จให้เต็ม 100% นั้นค่อนข้างเร็วมาก โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 50 นาทีเท่านั้น
ด้านอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เราได้ทดลองดูซีรีส์ออนไลน์แบบต่อเนื่อง ในหน้าจอสว่างสูงสุด ความละเอียดคมชัดสุด ปรากฏว่าในการทดสอบนั้นเราใช้เวลาดูแบบติดต่อกันถึง 10 ชั่วโมงเลยค่ะ ที่สำคัญคือเครื่องไม่ร้อนเลยสักนิด
แต่ในหากคุณใช้เล่นเกมหรือเปิดกล้องอันนั้นเครื่องร้อนแน่นอนค่ะทำใจได้เลย
ระบบความปลอดภัยของ realme C55
คำตัดสิน การสแกนใบหน้า & ลายนิ้วมือ
รุ่นนี้ปลดล็อกใบหน้าเร็วมากกกกกก แบบมากที่สุดดดดค่ะ เรียกว่า realme C55 ค่อนข้างสร้างความประทับใจให้เราในส่วนนี้จริง ๆ มันมีความเร็วเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงเลยก็ว่าได้ค่ะ ส่วนการสแกนลายนิ้วมือก็เร็วเช่นกัน แต่บางครั้งก็อาจจะมีการดีเลย์บ้างเล็กน้อย แนะนำว่าให้คุณใช้แบบสแกนใบหน้าจะสะดวกมากกว่าค่ะ
ความคุ้มค่าในการซื้อ realme C55
![]() |
![]() |
คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 9 เต็ม 10
สรุปข้อดี – ข้อควรพิจารณา ของ realme C55
→ ข้อดี
- สเปกโดยรวม เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีในช่วงราคานี้
- ดีไซน์สวยงาม
- ประสิทธิภาพเครื่องอยู่ในระดับปานกลาง
- หน้าจอใหญ่ ทัชสกรีนไหลลื่น ละเอียดคมชัด สีสดสวย
- คุณภาพกล้องดีมาก ในช่วงราคานี้
- Realme UI ใช้งานง่าย
- อายุใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสม
- มีคุณสมบัติชาร์จไว
- น้ำหนักเบาและบางเฉียบ
- สแกนใบหน้าเร็วมาก
→ ข้อที่ควรพิจารณา
- คุณภาพลำโพงต้องปรับปรุง
- กล้องไม่เหมาะบันทึกวิดีโอ & ใช้โหมดกลางคืน
- มี Bloatware & โฆษณา
ซื้อเลย – ถ้าหาก
- ซื้อเลยถ้าหาก…คุณต้องการใช้งานทั่วไป อย่างเช่น เล่นโซเชียลมีเดีย ถ่ายรูป ดูหนัง ดูซีรีส์
- ซื้อเลยถ้าหาก…คุณต้องการสมาร์ทโฟนในระดับกลางแต่มีสเปกแรง ราคาไม่แพง
- ซื้อเลยถ้าหาก…คุณอยากได้มือถือที่มีอายุแบตเหมาะสม ใช้งานได้ทั้งวัน แถมยังชาร์จไวอีกด้วย
- ซื้อเลยถ้าหาก…คุณอยากได้มือถือที่มีน้ำหนักเบา จอใหญ่ ใช้งานง่ายถนัดมือ
อย่าซื้อ – ถ้าหาก
- อย่าซื้อถ้าหาก…คุณต้องการสมาร์ทโฟนที่เปิดลำโพงฟังเพลงได้อย่างเต็มที่ เนื่องระบบเสียงของลำโพงค่อนข้างแย่
- อย่าซื้อถ้าหาก…คุณต้องการสมาร์ทโฟนสำหรับถ่ายคลิปวิดีโอ (ที่ต้องมีการเคลื่อนไหวตลอด) เนื่องจากรุ่นนี้ไม่มีระบบกันสั่น
- อย่าซื้อถ้าหาก…คุณต้องการสมาร์ทโฟนที่รองรับสัญญาณ 5G ในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เนื่องจากรุ่นนี้รองรับแค่ 4G เท่านั้น
- อย่าซื้อถ้าหาก…คุณต้องการสามร์ทโฟนที่ไม่มีการติดตั้ง Bloatware & โฆษณาแฝง ส่วนใหญ่แล้วมือถือระบบ Android จะเป็นแบบนี้เกือบทั้งหมด
- อย่าซื้อถ้าหาก…คุณคาดหวังว่าฟีเจอร์ Mini Capsule จะทำงานได้ครอบคลุมเหมือน Dynamic Island ของ iPhone เพราะว่ามันไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากแสดงสถานะของแบตเตอรี่ตอนที่เสียบสายชาร์จเท่านั้น
สรุป realme C55 ราคา 5,990 บาท คุ้มไหมที่จะซื้อ ?
โดยรวมถือว่า realme C55 ถือว่ามีสเปกดี ใช้ชิปเซต MediaTek Helio G88 ที่จัดอยู่ในระดับที่โอเคเลยค่ะ ขนาดของรอมและแรมเหมาะสมต่อการใช้งานทั่วไป หน้าจอคมชัด สว่างสดใส ระบบกล้องโดยรวมสวยงาม ไม่ได้แย่เลยสักนิด คุณภาพวิดีโออาจมีหลุดโฟกัสไปบ้าง ส่วนโหมดถ่ายภาพกลางคืนและการซูมนั้นเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วค่ะ เพราะในราคาที่ถูกเช่นนี้เป็นเรื่องที่ยากมากที่เราจะนำไปเปรียบเทียบกับมือถือรุ่นเรือธง

ส่วนด้านความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกมหรือดูหนังก็ถือว่าอยู่ในระดับที่สร้างความสนุกและเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี เพราะคุณเล่นเกมที่มีสเปกกลาง ๆ ได้ไม่ติดขัด หรือจะดูซีรีส์ยาว ๆ ตลอดทั้งวันก็ยังไหว แต่ในส่วนของระบบเสียงอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบฟังเพลง แต่คุณสามารถเปลี่ยนไปใช้หูฟังแทนได้นะคะ
สำหรับเทคโนโลยีการรองรับสัญญา 5G นั้น รุ่นนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ แต่เราหวังว่ารุ่นหน้าทาง realme จะต้องมีแบบ 5G ออกมาให้พวกเราได้เชยชมสักหน่อยนะคะ ที่สำคัญราคาต้องดีงามแบบนี้ด้วยจ้าา
โดยรวมแล้วใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่มีราคา 5000-6000 บาท สเปกดี ๆ มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ครอบคลุม เราขอแนะนำ realme c55 รุ่นนี้ค่ะ