คำตัดสินโดยรวม
Disney F9 เป็นหูฟังไร้สายราคาประหยัดที่สามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Android รวมไปถึงแท็บแล็ตและแล็ปท็อปด้วยเช่นกัน โดยจะใช้วิธีเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ด้านคุณภาพเสียงจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีตามช่วงราคา เสียงที่ได้จะเหมาะสำหรับฟังเพลงชิล ๆ ท่วงทํานองสบาย ๆ ไม่ได้เน้นเสียงเบสหนัก ๆ
ในส่วนของอายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 4-5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หูฟัง Disney F9 ถือว่ามีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่าย ทุกอย่างจะควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่ตัวหูฟัง การเปิด-ปิดจะทำงานผ่านฝาเคสชาร์จ เมื่อคุณต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใด ๆ ก็ตามเพียงแค่เปิดฝาเคสออกหูฟังก็จะเชื่อมต่อกับตัวอุปกรณ์ล่าสุดที่เราใช้งานให้อัตโนมัติทันที จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของหูฟัง Disney F9 ก็คือดีไซน์ที่น่ารัก ๆ แถมยังมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบามาก เหมาะสำหรับพกพาออกไปนอกสถานที่มากค่ะ

คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 9.2 เต็ม 10
![]() |
|
รีวิวแกะกล่องหูฟังไร้สาย Disney F9 มีอะไรมาให้บ้าง ?
ภายในกล่องจะประกอบไปด้วยเคสชาร์จ, หูฟัง (ที่อยู่ภายในเคสชาร์จ), สายชาร์จ USB To Type-C และคู่มือการใช้งานค่ะ ในส่วนของกล่องบรรจุภัณฑ์จะเป็นสีขาวล้วนด้านหน้ากล่องเป็นลายการ์ตูนน่ารัก ๆ เนื้อกระดาษที่ใช้ทำกล่องไม่ได้แข็งแรงมากนัก ดังนั้นจึงมีโอกาสที่กล่องอาจจะเสียรูปทรงระหว่างขนส่งได้ค่ะ

แต่สำหรับหูฟังที่เราได้นำมารีวิวในวันนี้เป็นสินค้าที่ส่งมาจากประเทศจีนเลยค่ะ สภาพกล่องที่มาถึงไทยก็จัดว่าอยู่ในสภาพดี 100% ไม่มีส่วนไหนยุบสลายสักนิด 😊 ตัวกล่องจะมีการซีลพลาสติกใสมาให้อีกชั้น ภายในกล่องเป็นหลุมพลาสติกสำหรับใส่เคสชาร์จและสายชาร์จมาให้ โดยจะแบ่งพื้นที่จัดเก็บอย่างชัดเจนเลยค่ะ

ที่ตัวเคสชาร์จจะมีถุงพลาสติกนิ่ม ๆ สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนมาให้อีกหนึ่งชั้น ส่วนสายชาร์จก็เป็นสีขาวที่มีความยาวพอประมาณ ใต้กล่องจะมีคู่มือมาให้ด้วยนะคะ ตอนแรกที่เราดูรอบ ๆ กล่องจะเห็นว่าเป็นภาษาจีนหมดเลย ทำให้เราเริ่มรู้สึกหวั่นใจหน่อย ๆ ว่าคู่มือจะมีแต่ภาษาจีนหรือไม่ ? แต่โชคดีค่ะที่มีคู่มือมีภาษาอังกฤษมาให้ด้วย (สำหรับคนที่ไม่ถนัดคุณสามารถกดอ่านวิธีใช้และคำสั่งระบบสัมผัส Disney F9 ฉบับภาษาไทยจากเว็บ Best Review ได้จากลิ้งก์ที่เราใส่ไว้ได้เลยค่ะ)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
|
![]() |
ข้อมูลจำเพาะ Disney F9
|
รีวิว ดีไซน์การออกแบบ หูฟังบลูทูธ Disney F9
เมื่อแกะถุงพลาสติกที่หุ้มเคสชาร์จออก เราต้องขอชมเลยว่าสีจริงสวยมากค่ะ เราเลือกลาย Strawberry Bear B ซึ่งเป็นสีชมพูเข้ม งานสกรีนที่เป็นลายหมีที่ไม่ได้ละเอียดมากนัก ตัววัสดุที่ใช้ทำเคสชาร์จเป็นพลาสติกที่แข็งแรงพอประมาณ พื้นผิวของเคสภายนอกแวววาวและเป็นรอยง่ายมาก แนะนำให้ซื้อเคสซิลิโคนที่ทางแบรนด์ขายแยกต่างหากมาด้วย จะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนหรือพวกรอยขนแมวเส้นบาง ๆ ได้เยอะเลยค่ะ

ฝาเคสชาร์จเปิดปิดได้ง่ายเนื่องจากมีแม่เหล็กช่วยดูดเข้าหากันทำให้การเปิดปิดแต่ละครั้งลงล็อกและปิดได้สนิทโดยไม่ต้องออกแรงกดใด ๆ ส่วนไฟแสดงสถานะบนเคสชาร์จค่อนข้างเล็กมากจนเราแทบจะไม่ได้สังเกตในตอนแรกเลยค่ะ ยังแอบนึกอยู่เลยว่าเคสชาร์จไม่มีสถานะไฟบอกสักหน่อยเหรอ…. 😝
วิธีใช้ หูฟังไร้สาย Disney F9
วิธีใช้หูฟัง Disney F9 (ในครั้งแรก) เปิดฝาเคสชาร์จออกเพื่อเป็นการเปิดใช้งานหูฟัง จากนั้นก็ค้นหาชื่อ Bluetooth บนอุปกรณ์ที่ต้องการจับคู่โดยจะมีชื่อว่า “Disney-F9” เมื่อจับคู่อุปกรณ์เสร็จสมบูรณ์แล้ว เพื่อน ๆ จะได้ยินเสียงภาษาจีนที่บอกถึงสถานะต่าง ๆ ของหูฟังค่ะ (โดยในส่วนนี้เราต้องขออภัยด้วยที่ไม่สามารถแปลข้อความได้ 😅 แต่หากถามว่ามีผลต่อการใช้หูฟังมากหรือไม่ ? ตอบเลยว่าไม่มีผลค่ะ 😉 !!!)

ส่วนการใช้งานในครั้งถัดไปนั้น เมื่อเพื่อน ๆ เปิดฝาเคสชาร์จออกเมื่อใดก็ตาม ตัวหูฟังก็จะทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่จับคู่ล่าสุดให้อัตโนมัติทันที โดยที่เพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ Bluetooth ใหม่ แต่ในกรณีที่เพื่อน ๆ ต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์เชื่อมต่อเป็นตัวอื่น (ตัวอย่าง ต้องการเปลี่ยนจากโทรศัพท์มือถือเป็นแล็ปท็อป) เพื่อน ๆ จะต้องเข้าไปยกเลิกการเชื่อมต่อหูฟัง Disney F9 กับอุปกรณ์ตัวเก่าก่อนนะคะ จากนั้นจึงสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวใหม่ได้
การใช้งานหูฟัง Disney F9 ระบบสัมผัส |
|
ไม่รับสายการโทรเข้า | กดหูฟังซ้ายหรือขวาค้างไว้ 2 วินาที |
รับสายโทรเข้า | กด 2 ครั้งติดกันที่หูฟังซ้ายหรือขวา |
หยุดเพลงชั่วคราว / เล่นเพลงต่อ | กด 1 ครั้งที่หูฟังซ้ายหรือขวาก็ได้ |
เล่นเพลงก่อนหน้า | กด 2 ครั้งติดกันที่หูฟังซ้าย |
เล่นเพลงถัดไป | กด 2 ครั้งติดกันที่หูฟังขวา |
ลดเสียง | กด 3 ครั้งที่หูฟังซ้าย |
เพิ่มเสียง | กด 3 ครั้งที่หูฟังขวา |
เปิด Voice Assistant | กดหูฟังซ้ายหรือขวาค้างไว้ 2 วินาที |
วิธี ชาร์จแบตเตอรี่ หูฟังไร้สาย Disney F9 |
|
สถาะไฟขณะชาร์จแบต ฯ | ให้เพื่อน ๆ ใส่หูฟังกลับไปในเคสชาร์จ จากนั้นก็ปิดฝาเคส แล้วจึงเสียบสายชาร์จตามปกติ ในกรณีกำลังชาร์จแบตฯ ไฟสถานะจะเป็นสีเขียวกระพริบ ซึ่งหมายความว่ายังชาร์จไม่เต็ม 100% ค่ะ แต่หากแบตฯ เต็ม 100% แล้ว ไฟสถานะจะเป็นสีเขียวแบบไฟนิ่ง ส่วนกรณีที่แบตเตอรี่ต่ำเกินไปตัวเครื่องจะส่งเสียง Beep แจ้งเตือนให้เราทราบ |
รีวิว หลังใช้งานหูฟังไร้สาย Disney F9 (ทดลองใช้จริง)
การเชื่อมต่อ Bluetooth
การเชื่อมต่อด้วย Bluetooth อาจไม่ได้เสถียรมากนัก บางครั้งก็สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว แต่ในบางครั้งเราก็จะต้องกดเชื่อมต่อที่ตัวอุปกรณ์หลายต่อหลายครั้งกว่าที่หูฟัง Disney F9 จะเชื่อมต่อได้สำเร็จ แต่อย่างหนึ่งที่เราค่อนข้างชอบฟังก์ชันของหูฟัง Disney F9 ก็คือในกรณีที่ก่อนหน้านี้เราเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอยู่แล้วและมีการเปิดแอปเล่นเพลงค้างไว้ (ประมาณว่าเราไม่ได้ใช้งานแอปนี้ แต่ก็ไม่ได้ปิดแอปค่ะ แค่เปิดค้างไว้เฉย ๆ อยู่ในโหมดเตรียมพร้อมใช้งาน) เมื่อเราใส่หูฟังก็จะเล่นเพลงให้ทันที
การควบคุมด้วยระบบสัมผัส

ระบบสัมผัสของรุ่นนี้ตอบสนองได้เร็ว ช่วยให้ควบคุมการใช้งานง่ายมาก ๆ แต่ต้องอาศัยการจับจังหวะให้ชินมือก่อนนะคะ เนื่องจากพื้นที่ที่ให้นิ้วไปสัมผัสค่อนข้างน้อยมาก ๆ แถมยังอยู่ด้านในอีกด้วยค่ะ (ดูรูปประกอบเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น) เพราะปกติแล้วพื้นที่สัมผัสของหูฟังไร้สายมักอยู่ด้านนอกเพื่อช่วยให้ผู้ใช้แตะนิ้วได้ง่ายขึ้น แต่ของ Disney F9 จะอยู่ด้านในแทน ซึ่งเราคิดว่าทางแบรนด์อาจต้องการป้องกันการสัมผัสแบบไม่ตั้งใจค่ะ
การบอกสถานะแบตเตอรี่

สำหรับรุ่นนี้จะไม่มีการบอกสถาะของแบตเตอรี่ที่ตัวเคสชาร์จค่ะ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนขีดหรือจะเป็นรูปแบบเปอร์เซ็นต์ตัวเลขก็ไม่มี ทำให้ผู้ใช้อย่างเราวางแผนการใช้งานได้ยากมาก นอกจากว่าเราจะเข้าไปดูสถานะของแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่เท่านั้น ซึ่งต้องบอกว่าโทรศัพท์บางรุ่นก็สามารถดูสถานะของแบตเตอรี่ได้นะคะ แต่บางรุ่นก็ดูไม่ได้ ตัวอย่างจากที่เราทดสอบกับ iPhone 14 Pro Max ไม่มีการบอกเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่เลยค่ะ ในทางกลับกันเมื่อเชื่อมต่อกับ Macbook กลับพบว่ามีสถานะของแบตเตอรี่บอกเป็นเปอร์เซ็นต์มาให้ด้วย
ความสบายในการสวมหูฟัง

ตัวหูฟังรุ่นนี้เป็นแบบ Ear Buds (เอียบัด) ที่สวมใส่ในระยะเวลานาน ๆ ก็ไม่เจ็บหูค่ะ สามารถใส่เพื่อฟังเพลงหรือดูหนังดูซีรีส์แบบต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมงได้สบาย ๆ มาก ต่างจากแบบ In Ear ที่เป็นจุกยาง ซึ่งเป็นหูฟังที่ป้องกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดี แต่ว่าเมื่อใส่ไปนาน ๆ จะเกิดอาการปวดหูได้ นอกจากนี้ก็ยังต้องหาจุกยางขนาดที่เหมาะสมกับรูหูของเราด้วย เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เมื่อสวมไปนาน ๆ หูฟังแบบ In Ear จะค่อย ๆ หลุดออกมาเอง โดยส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยใช้หูฟังแบบ In Ear สักเท่าไหร่ ดังนั้นเราจึงประทับใจมากที่หูฟังของ Disney F9 เป็นแบบ Ear Buds ค่ะ 🙂
ความสะดวกในการพกพา
ขนาดโดยรวมถือว่าค่อนข้างเล็กกะทัดรัด ทำให้สะดวกต่อการพกพา จะใส่ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าสตางค์ก็ได้ค่ะ ทั้งตัวหูฟังและเคสชาร์จน้ำหนักรวมเบามาก ไม่สร้างปัญหาระหว่างเดินทางไปนอกสถานที่แน่นอนจ้า

รีวิว คุณภาพเสียง & การโทรคุย หูฟัง Disney F9
เสียงที่ได้จาก Disney F9 ค่อนข้างซอฟต์ ๆ มีความนุ่มนวลมากค่ะ เหมาะสำหรับฟังเพลงชิล ๆ สบายหูมากกว่าเพลงแนวร็อค โดยเฉพาะกับผู้ที่เน้นเสียงเบสหนัก ๆ เราไม่แนะนำเลยจริง ๆ ค่ะ เพราะว่า Disney F9 จะไม่ให้อรรถรสในการเล่นแนวนี้อย่างแน่นอน 🫠 (เตือนแล้วน๊าาา) แต่โดยรวมแล้วเราค่อนข้างประทับใจมากค่ะ เพราะว่า Disney F9 เป็นหูฟังที่มีราคาไม่แพง แต่สามารถให้คุณภาพเสียงได้ขนาดนี้ ถือว่าเกินมาตรฐานที่ตั้งไว้เยอะเลยค่ะ
สำหรับคุณภาพการโทรคุยนั้นเสียงทั้งปลายทางและต้นทางมีความคมชัด ไม่มีสัญญาณรบกวนใด ๆ แต่ทั้งนี้คุณภาพการโทรก็ขึ้นอยู่กับสัญญาณหรือรูปแบบที่เราใช้สื่อสารด้วยนะคะ หากโทรผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอาจมีเสียงดีเลย์ เสียงขาดหาย หรืออาจตัดสายไปเสียดื้อ ๆ ได้ค่ะ แต่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดจากความเสถียรของอินเทอร์เน็ตเท่านั้น หากอินเทอร์เน็ตที่คุณใช้สัญญาณแรงก็ไม่มีปัญหาในส่วนนี้ค่ะ
รีวิว อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และการชาร์จ หูฟัง Disney F9
ต้องบอกก่อนว่าในคู่มือของแบรนด์ระบุมาอย่างชัดเจนว่าระยะเวลาในการชาร์จหูฟังและการชาร์จเคสอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตาม…สินค้าตัวเราได้มานั้นสัญญาณไฟขณะที่ชาร์จดูเหมือนจะไม่ได้ทำงานตรงตามที่แจ้งไว้ (ไฟกระพริบกำลังชาร์จอยู่ / นิ่งแบตเตอรี่เต็ม) เพราะว่าไฟกระพริบตลอดเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จนเรารู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงชาร์จไม่เต็มสักที เลยลองเชื่อมต่อหูฟังกับ Macbook เพื่อดูจำนวนแบตเตอรี่ที่แท้จริงก็พบว่าสถานะของแบตเตอรี่ขึ้น 100% เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนนี้เราไม่อาจตอบได้ชัดเจนว่า Disney F9 จะเป็นแบบนี้ทุกตัวไหม ? หรือว่าเป็นเพราะเราบังเอิญได้สินค้าที่หลุด QC มา

ในส่วนของอายุการใช้งานนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีมากค่ะ สามารถฟังเพลงได้นานหลายชั่วโมง ซึ่งทางแบรนด์เคลมมาว่ารุ่นนี้ฟังพลงนี้ได้ต่อเนื่องนาน 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระดับความดังของเสียงที่เราเลือกใช้ด้วยนะคะ ซึ่งจากที่เราทดสอบนั้นใช้ระดับเสียงดังสุดผลลัพธ์คือมีอายุใช้งานประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า ๆ จริงค่ะ
ความคุ้มค่าในการซื้อ หูฟัง Disney F9
![]() |
![]() |
คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 9.2 เต็ม 10
ข้อดี – ข้อควรพิจารณา หูฟัง Disney F9
ข้อดี
|
ข้อควรพิจารณา
|
ซื้อเลย – ถ้าหาก
- ซื้อเลยถ้าหาก…คุณอยากได้หูฟังไร้สายในราคาไม่แพงและมีดีไซน์สวยน่ารัก
- ซื้อเลยถ้าหาก…คุณอยากได้คุณภาพเสียงหูฟังโดยรวมระดับกลางที่เหมาะกับราคา
- ซื้อเลยถ้าหาก…คุณอยากเคสหูฟังไร้สายที่มีพอร์ตชาร์จ USB-C ที่ทันสมัยและรวดเร็ว
- ซื้อเลยถ้าหาก…คุณอยากได้หูฟังไร้สายที่รองรับ Bluetooth 5.2 ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้
อย่าซื้อ – ถ้าหาก
- อย่าซื้อถ้าหาก…คุณต้องการเคสชาร์จที่สามารถบอกสถานะของแบตเตอรี่ได้อย่างแม่นยำ
- อย่าซื้อถ้าหาก…คุณต้องการหูฟังที่เน้นคุณภาพเสียงเบส