แนะนำ ผลงานที่ ‘กงยู’ (공유, Gong yoo) แสดง หนัง/ซีรีย์ [อัปเดต พ.ย. 63]

กราบสวัสดีมิตรรักแฟนเพลงชาวติ่งเกาหลีทุกคนค่ะ มาเจอกันแล้วกับช่วงแนะนำเหล่าอบป้าเกาหลีที่เรารัก คราวที่แล้วเราก็ได้แนะนำสมบัติของชาติอย่างหนุ่มฮยอนบินกันไปแล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำผลงานของชายผู้ที่ได้รับฉายาว่า “ลมหายใจแห่งภาคพื้นเอเชีย” กันบ้าง ทายกันถูกไหมคะว่าเป็นใครกันเอ่ย? แน่นอนว่าไม่มีใครทายไม่ถูกเพราะหนุ่มที่ว่านั่นก็คือ “กงยูอปป้า” นั่นเองค่ะ ขอบอกเลยว่าสำหรับคนคนนี้ความหล่อและออร่าของเขาไม่เคยแผ่วเลยค่ะ ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งหล่อขึ้น ๆ เรื่อย ๆ ไม่ว่าเราจะดูรูปเซ็ตไหนก็ต้องตาลุกวาวอย่างแน่นอน และวันนี้เราจะพาทุกคนไปแนะนำซีรีส์และภาพยนตร์ที่หนุ่มกงยูแสดงกัน แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับหนุ่มกงยูกันก่อนค่ะ

ทำความรู้จักกับ กงยู

“กงจีชอล” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อว่า “กงยู” เป็นนักแสดงชาวเกาหลีใต้ เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาการละครที่มหาวิทยาลัยคยองฮี กงยูเริ่มต้นอาชีพการแสดงในฐานะนักจัดรายการวิดีโอทางช่อง Mnet ในปี 2000 และเดบิวต์ในฐานะนักแสดงในซีรีส์ทางทีวีเรื่อง School 4 ในปี 2001 หลังจากนั้นกงยูมีบทบาทสนับสนุนหลายอย่างในซีรีส์และภาพยนตร์และยังเป็นพิธีกรรายการเพลง รายการ Music Camp ในปี 2004 จากนั้นกงยูก็ได้รับบทนำในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ทางช่อง MBC ชื่อเรื่อง Coffee Prince ซึ่งกลายเป็นบทบาทที่โดดเด่นของเขาในช่วงข้ามคืน ความโด่งดังของละครเรื่องนี้ไม่เพียงแต่ทำให้สถานะของเขาเป็นนักแสดงที่โดดเด่น แต่ยังทำให้เขากลายเป็นดาราฮันรยูอีกด้วย (ดาราฮันรยูก็คือดาราที่โด่งดังไปทั่วทั้งในและประเทศ) จากนั้นกงยูเข้ารับราชการในวันที่ 14 มกราคม 2008 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 8 ธันวาคม 2009 เขารับราชการในแนวหน้า 8 เดือนในชอร์วอนและถูกย้ายไปประจำสำนักงานสื่อกลาโหม ซึ่งเขารับราชการในแผนกประชาสัมพันธ์และได้เป็นดีเจของสถานีวิทยุกองทัพบกอีกด้วย ถือว่าพระเอกสุดหล่อกงยูของเรามีความสามารถที่ดีงามมากพอ ๆ กับความหล่อ แน่นอนว่าหากใครได้เห็นใบหน้าและการแสดงของเขาจะต้องคลั่งไคล้และหลงรักเขาอย่างแน่นอน เราขอนั่งยันนอนยันและยืนยันเลยค่ะ หากพร้อมกันแล้วเราไปดูซีรีส์และภาพยนตร์ที่เป็นผลงานที่ดีที่สุดของอปป้ากงยูกันค่ะ

ผลงานด้านภาพยนตร์ของกงยู

1. Kim Ji-young, Born 1982

Kim Ji-young, Born 1982 ติดอันดับภาพยนตร์เกาหลียอดนิยมประจำปี 2019 ภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับพลวัตทางเพศในสังคมเกาหลีและได้สร้างความคิดเห็นและวาทกรรมทางการเมืองที่ดุเดือดมากกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ นอกจากนี้นวนิยายเรื่องนี้ยังขายดีที่สุดอีกด้วย เริ่มต้นในปี 1982 มีผู้หญิงที่ชื่อคิมจียอง (จองยูมี) คิมเป็นชื่อหญิงยอดนิยมสำหรับเด็กทารกชาวเกาหลีที่เกิดในปี 1982 ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกสถานะของเธอในฐานะ “ผู้หญิงทุกคน” ภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินไปอย่างเชื่องช้าติดตามชีวิตของเธอในฐานะแม่ธรรมดา ๆ ระหว่างทางยังแสดงให้เห็นถึงความขุ่นเคืองในชีวิตประจำวันที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานในสภาพแวดล้อมทางอาชีพสาธารณะและครอบครัวเนื่องจากเรื่องทางเพศแบบอนุรักษนิยม ซึ่งในเรื่องนี้กงยูได้รับบทเป็นชองแดฮยอน (กงยู) ผู้เป็นสามีของคิมจียองตัวหลักของเรื่องนั่นเองค่ะ ผู้หญิงเกาหลีหลายล้านคนพบว่าภาพของคิมจียองเกี่ยวกับความรักชาติมีความสัมพันธ์กัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดอันดับบ็อกซ์ออฟฟิศของเกาหลีเมื่อออกฉายอีกด้วย ซึ่งคนดูส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง เราอยากแนะนำให้ดูเพราะมันจะสามารถเปิดโลกของคุณได้

2. Train To Busan

Train to Busan พิสูจน์ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีไม่เพียงแต่ยึดติดกับ K-Drama เพียงอย่างเดียวเพื่อให้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก แต่แนวสยองขวัญ – ระทึกขวัญของเกาหลียังเป็นที่ต้องการของผู้คนทั่วโลก ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงซอมบี้ที่เกี่ยวข้องกับตัวละครหลัก ซอกวู (กงยู) ที่วางแผนจะไปปูซานกับลูกสาวของเขา ที่ชื่อว่าซูอัน (คิมซูอัน) โดยนั่งรถไฟ KTX ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงของเกาหลีใต้ หนึ่งในผู้โดยสารรถไฟได้รับการติดเชื้อและกลายเป็นผีดิบหรือที่เรียกว่าซอมบี้ ตั้งแต่นั้นมาผู้โดยสารรถไฟส่วนใหญ่ก็กลายเป็นซอมบี้ ซอกวูต้องปกป้องลูกสาวและตัวเองท่ามกลางรถไฟโดยสารที่ผู้คนกลายเป็นซอมบี้ รวมถึงผู้คนที่สถานีต่าง ๆ ก็ได้รับเชื้อจากการระบาดของซอมบี้นี้แล้ว พวกเขาต้องเอาชีวิตรอดเพื่อไปปูซานซึ่งเป็นสถานที่เดียวที่ปลอดจากการติดเชื้อไวรัสซอมบี้ บอกเลยว่าเรื่องนี้ให้ข้อคิดที่ดีมากโดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของครอบครัวและการเสียสละ ใครที่ไม่น้ำตาแตกถือว่าอึดมาก

3. The Age of Shadows

หากคุณได้เห็นกงยูใส่เสื้อผ้าในยุค 1920 คุณจะไม่สามารถต้านทานความหล่อนี้ได้อย่างแน่นอนและไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นกงยูในละครย้อนยุค กงยูได้แสดงภาพยนตร์ในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีเขารับบทเป็นนักสู้ที่มีความสามารถมาก ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นถึงส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์เกาหลี คุณจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไปพร้อมกับความบันเทิง เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของลีจุงคูล (ซงคังโฮ)ในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลีใต้ ครั้งหนึ่งลีจุงคูลเคยเป็นสมาชิกของขบวนการเรียกร้องเอกราชของเกาหลี แต่ตอนนี้เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของญี่ปุ่น เขาได้รับคำสั่งให้โค่นล้มกลุ่มเอกราชของเกาหลีซึ่งเป็นกลุ่มภราดรภาพที่ ต่อมาลีจุงคูลได้เจอกับพ่อค้างานศิลปะคิมวูจิน (กงยู) และแสร้งทำเป็นว่าสนใจงานศิลปะเกาหลีของเขา ในความเป็นจริงคิมวูจินเป็นผู้นำระดับภูมิภาคของกลุ่มภราดรภาพที่ชอบธรรม ทั้งสองคนตระหนักดีถึงตัวตนและความตั้งใจที่แท้จริงของกันและกัน แต่เข้าใกล้กันมากขึ้นเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม กลุ่มภราดรภาพที่รู้ว่ามีสายลับอยู่ในกลุ่มของพวกเขาและพยายามที่จะจับในไม่ช้าตัวตนของกลุ่มภราดรภาพแห่งความชอบธรรมก็รั่วไหลและพวกเขาก็หนีไปเซี่ยงไฮ้ประเทศจีน เรื่องนี้มันส์มากถือเป็นหนังแอคชั่นที่ดีเลยทีเดียว

4. Silenced

เราขอเตือนเลยว่าภาพยนตร์ Silenced เรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ขี้กลัว เป็นภาพยนตร์ที่สร้างความสะเทือนใจจากเหตุการณ์จริง กงยูรับบทเป็นครูที่เปิดเผยความจริงอันดำมืดและเผยเบื้องหลังโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน อีกครั้งกงยูพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถรับมือกับบทบาทที่น่าทึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างชำนาญ แม้ว่าเนื้อหาของภาพยนตร์จะทำให้คุณตกใจ แต่ก็เป็นเรื่องราวที่ทรงพลังที่จะอยู่กับคุณแม้หลังจากมันจบลง เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของคังอินโฮ (กงยู) เป็นครูที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ในโรงเรียนสำหรับผู้พิการทางการได้ยินในเมืองมูจิน ระหว่างทางไปทำงานใหม่เขามีอุบัติเหตุทางรถยนต์เล็กน้อยและนำรถไปที่ร้านซ่อมรถ ผู้หญิงที่ได้ชนเขาได้ชื่อว่ายูจิน (จองยูมี) ยูจินเป็นพนักงานของ Mujin Human Rights Center ในวันแรกอินโฮได้พบกับอาจารย์ใหญ่และผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของโรงเรียน พวกเขาเป็นฝาแฝดที่เหมือนกัน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารขอสินบนจำนวน 50 ล้านวอนจากเขาเพื่อทำงานที่โรงเรียนของพวกเขา แต่สถานการณ์ทางการเงินของอินโฮอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี เพราะเขาต้องเลี้ยงลูกสาวและแม่ของเขาที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด ซึ่งภรรยาของเขาก็เสียชีวิตแล้ว แต่เขาก็ทำทุกทางเพื่อหาเงินมาให้ได้แต่เมื่อเข้าไปในโรงเรียนแล้วเขาก็พบกับเรื่องราวมากมายที่ไม่ได้คาดคิด

5. Finding Mr. Destiny

ในเรื่องนี้กงยูรับบทที่แตกต่างออกไปแทนที่จะรับบทเป็นซีอีโอที่ร่ำรวยและมีจิตใจที่ดื้อรั้น แต่ตัวละครของกงยูใน Finding Mr. Destiny นั้นดูสมจริงกว่ามาก เขารับบทเป็นจีจุนผู้รักความสมบูรณ์แบบ การจับคู่ของเขากับนางเอกที่ดูแตกต่างอย่างจีอูทำให้คู่นี้เป็นคู่ที่มีพลังในการแสดงมาก เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของผู้หญิงชื่อซอจีอู (อิมซูจอง)เดินทางไปอินเดียและได้พบกับคิมจองอ๊กรักแท้ครั้งแรกของเธอ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจีอูก็ไม่สามารถลืมรักแรกของเธอได้ จากนั้นเธอก็หันไปหาบริษัท “Finding Your First True Love Company” เพื่อช่วยติดตามคิมจองอ๊กที่หายไป ฮันกีจุน(กงยู) เป็นผู้เริ่มต้นและทำโครงการ “Finding Your First True Love Company” และรับหน้าซอจีอูเป็นลูกค้ารายแรกของบริษัท ทั้งคู่เดินทางไปทั่วเกาหลีเพื่อค้นหารักแรกของซอจีอูและในกระบวนการฮันกีจุนก็พบว่าตัวเองตกหลุมรักลูกค้ารายแรกของเขา เรื่องนี้สนุกมากแนะนำให้ดูค่ะ

ผลงานซีรีย์ของกงยู

1. Goblin ก็อบลิน คำสาปรักผู้พิทักษ์วิญญาณ (Guardian : The Lonely and Great God)

Guardian : The Lonely and Great God เป็นเรื่องที่ดีมากรับรองว่าคุณจะต้องร้องไห้ออกมามากกว่าหนึ่งครั้งในขณะที่ดู การเดินทางที่สวยงามและน่าเศร้าของคิมชินและอึนทัก กงยูพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นสุดยอดนักแสดงอย่างแท้จริง ด้วยการแสดงที่คู่ควรกับก็อบลินผู้โดดเดี่ยวและเป็นอมตะ เขาไม่เพียงแต่มีเคมีที่น่าทึ่งกับนักแสดงนำหญิงคิมโกอึนแต่การแสดงร่วมกับลุงยมหรือกริมกรีปเปอร์ (อีดงอุค) จะทำให้คุณต้องหัวเราะออกมา เรื่องนี้ดำเนินเรื่องราวในอดีตของคิมชิน(กงยู) เป็นแม่ทัพที่เก่งมากแต่กษัตริย์หนุ่ม(คิมมินแจ) อิจฉาคิมชินและต้องการฆ่าเขา คิมชินกลายเป็นก็อบลินซึ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะ เขาใช้ชีวิตมายาวนานถึง 900 ปีแล้วโดยเขาจะตายต่อเมื่อมีเจ้าสาวที่เป็นมนุษย์มาดึงดาบที่ติดหน้าอกของเขาไป คืนหนึ่งเขาช่วยหญิงตั้งครรภ์ที่กำลังจะตายในขณะเดียวกัน Grim Reaper (อีดงอุก) ไม่พบศพหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิต ผู้หญิงคนนี้ให้กำเนิดทารกเพศหญิงชื่อจีอึนทัก(คิมโกอึน)และเธอนั่นเองที่กลายเป็นเจ้าสาวของก็อบลิน เรื่องนี้สนุกมากแต่ก็เศร้ามากเช่นกันต้องไม่พลาดค่ะ

2. รุ่นไหน หัวใจก็จะรัก : Big

Big เป็นซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกคอมเมดี้สุดคลาสสิกอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด เราจะได้เห็นด้านที่สนุกสนานและตลกของกงยูมากขึ้น บทบาทของเขาในเรื่องในเด็กฐานะเด็กอายุ 18 ปีที่ตื่นขึ้นมาในร่างของหมออายุ 30 ปี การได้เห็นการต่อสู้ของตัวละครของเขากับการปรับตัวให้เข้ากับโลกของผู้ใหญ่ เรื่องนี้เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญของคังคยองจุน( ชินวอนโฮ) วัย18 ปีที่พบว่าตัวเองอยู่ในร่างของ ซอยุนแจ (กงยู) วัย 30 ปี ซอยุนแจเป็นแพทย์ที่ประสบความสำเร็จและได้หมั้นกับครูมัธยมปลายกิลดารัน (ลีมินจอง) และกิลดารันก็เป็นครูของคังคยองจุนด้วย ซึ่งเมื่อคังคยองจุนอยู่ในร่างซอยุนจอเขาก็ได้ตกหลุมรักผู้หญิงอีกคนนั่นก็คือจางมารี (แบบซูจี) เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่ตลกและเฮฮามาก ไม่อยากให้พลาด

3. รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ : Coffee Prince

ซีรีส์ Coffee Prince นี้ได้ผลักดันให้กงยูเป็นดาราระดับนานาชาติหลังจากฉายรอบปฐมทัศน์ สำหรับซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่องนี้ ทำให้เราได้เห็นการแสดงของกงยูที่มีความซับซ้อนอย่างน่าประหลาดใจ ละครเรื่องนี้โด่งดังจากตัวละครและพล็อตที่แปลกใหม่ กงยูรับบทเป็นฮันกียุลเจ้าของร้านกาแฟที่หลงรักอึนชานผู้หญิงที่แกล้งเป็นผู้ชาย ตัวละครของเขาสับสนเกี่ยวกับเรื่องเพศและยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขารู้ว่าอึนชานเป็นผู้หญิงจริง ๆ เขาจะทำอย่างไร ? แท้จริงแล้ว Coffee Prince’s Flagship Store เป็นทีวีซีรีส์ที่เล่าถึงชีวิตรักและความฝันของหนุ่มสาว 4 คนที่พบกันที่ร้านกาแฟ ฮันกียุล(กงยู) เป็นชายหนุ่มที่ฉลาดและเกลียดที่จะต้องเข้าร่วมธุรกิจของครอบครัว เขาจึงได้รับคำสั่งจากคุณยายของเขาให้จัดการร้านกาแฟ เขาเองไม่สามารถที่จะฝ่าฝืนคุณย่าของเขาได้ เขาจึงต้องรับภาระรับผิดชอบในการบริหารร้านกาแฟอย่างไม่เต็มใจและเริ่มเข้าสู่ธุรกิจกาแฟรสเลิศ วันหนึ่งเขาได้พบกับอึนจัง (ยุนอึนเฮ) เด็กสาวร่าเริงที่ปลอมตัวมาเป็นผู้ชายเพื่อทำงานที่ร้านและเขาก็ได้เรียนรู้ความหมายของรักแท้

4. ขอรอรักด้วยหัวใจ : One Fine Day

แม้ว่าซีรีส์ประโลมโลกเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยความคิดโบราณและวัฒนธรรมของละครเกาหลี แต่ก็ควรค่าแก่การรับชมหากคุณต้องการเห็นกงยูที่สวมเสื้อสีแทนเป็นคนใช้ชีวิตเพลย์บอยในออสเตรเลีย ซีรีส์เรื่องนี้มีทุกอย่างตั้งแต่เรื่องรักต้องห้าม พี่น้องไปจนถึงรักสามเส้า แต่กงยูทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจมากพอที่จะทำให้คุณลงทุนเวลาดูได้ One Fine Day เป็นซีรีส์เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่ทำงานในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในฐานะนักเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งได้พบกับพี่ชายของเธอซึ่งเธอถูกแยกจากกันไป 15 ปี ซีรีส์เรื่องนี้แตกต่างจากซีรีส์เรื่องอื่น ๆ เรื่องนี้ถ่ายทำในออสเตรเลียทำให้มีสถานที่ใหม่ ๆ ที่สวยงามมากมายให้ดู เนื่องจากเป็นการแนะนำอาชีพรูปแบบใหม่ที่เรียกว่านักเลี้ยงสัตว์น้ำโดยใช้เทคนิคการถ่ายทำใต้น้ำหลายแบบ เทคนิคใหม่เหล่านี้ใช้กล้อง HD ซึ่งดึงดูดผู้ชมด้วยภาพที่ยอดเยี่ยมมาก

5. ครูเซี้ยว..นักเรียนแสบ : Biscuit Teacher and Star Candy

Biscuit Teacher and Star Candy ถือเป็นบทบาทนำครั้งแรกของกงยูในซีรีส์ เขาได้แสดงประกบนักแสดงหญิงยอดนิยมกงฮโยจิน เขารับบทเป็นแทอิน เด็กมัธยมจอมดื้อรั้นที่ชอบแกล้งครูของเขา มันน่าขบขันที่ได้เห็นกงยูในแง่นี้เพราะเขามักจะแสดงบทบาทที่ซับซ้อนและเป็นผู้ใหญ่ นอกจากนี้ซีรีส์ยังมีความโรแมนติกต้องห้ามที่เกิดขึ้นในพล็อตเมื่อแทอินและอาจารย์ของเขาตกหลุมรักกัน นาโบรี (กงฮโยจิน) เคยเป็นนักเรียนแห่งตำนานในโรงเรียนมัธยมเพราะเธอเป็นตัวก่อปัญหา แต่ตอนนี้เธออายุ 25 ปีแล้วและทำงานเป็นครู วันหนึ่งเธอถูกไล่ออกจากโรงเรียนเนื่องจากถูกใส่ร้ายว่ามีส่วนร่วมในการทะเลาะวิวาท หลังจากเอาชนะความยากลำบากมากมายเธอได้งานใหม่เป็นครูที่โรงเรียนมัธยมเก่าของเธอ เธอรู้สึกตื่นเต้นกับการที่เธอจะได้พบกับอาจารย์เก่าของเธอ จีฮยอนวู (คิมดาฮยอน ) ซึ่งเธอชอบมานานหลายปี ต่อมาเธอได้เจอกับพัคแทอิน (กงยู) แทอินเป็นนักเรียนที่ฉลาดและเป็นนักกีฬา จากมุมมองของแทอิน เขาไม่ชอบโบรีเลยเพราะเธอไม่ฉลาด แต่ในขณะเดียวกันก็มีนิสัยเอาแต่ใจ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเขากับอาจารย์ของเขาเปลี่ยนไปในทางที่เลวร้ายที่สุดเขาก็ค่อย ๆ ดึงดูดเธอผ่านเหตุการณ์ที่ซับซ้อน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับผลงานของหนุ่มกงยู ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีผลงานถ่ายแบบให้เราได้เห็นกันมาเรื่อย ๆ พอได้ชื่นใจค่ะ หากใครเป็นแฟนตัวยงของหนุ่มกงยูก็ห้ามพลาดกับผลงานภาพยนตร์และซีรีส์ที่เราได้แนะนำกันไปวันนี้ หากคุณอยากติดตามซีรีส์เพิ่มเติมก็สามารถไปดูได้ที่ 20 ซีรีส์เกาหลีเก่าๆ, ซีรีส์เกาหลีพากย์ไทย,ซีรีส์เกาหลีเกี่ยวกับกฎหมาย, ซีรีส์เกาหลีแบบย้อนยุค, ซีรีส์เกาหลีเกี่ยวกับการทำอาหาร, ซีรีส์เกาหลีแนวการแพทย์, ซีรีส์เกาหลียอดฮิต 2020, ซีรีส์เกาหลีแนวไฮสคูลและซีรีส์เกาหลีแนวแฟนตาซี ที่เราได้แนะนำไปก่อนหน้านี้แล้วค่ะ