[รีวิว] ซีรีส์จีน Go Go Squid & Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time (นายเย็นชากับยัยปลาหมึก ซีซั่น 1-2)

ซีรีส์จีนเรื่อง “Go Go Squid (นายเย็นชากับยัยปลาหมึก)” นั้นได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2019 โดยซีรีส์ Go Go Squid ถูกสร้างขึ้นจากนวนิยาย Stewed Squid with Honey ที่เขียนโดย Mo Bao Fei Bao ซีรีส์เรื่องนี้สามารถดึงดูดผู้ชมและแฟน ๆ ได้อย่างล้นหลามตลอดเวลาในการออกอากาศ คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับซีรีส์เรื่องนี้มักจะได้รับความนิยมใน Weibo ทุกตอน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความนิยมอย่างสูงในประเทศจีนด้วยยอดเข้าชมมากกว่า 8,080 ล้านวิว นอกจากจะประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศจีนแล้วยังสร้างความฮือฮาในหมู่แฟน ๆ ต่างประเทศอีกด้วย เมื่อประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ทางก็เลยเอาใจแฟน ๆ โดยการส่งไม้ต่อให้กับ “Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time (นายเย็นชากับนายปลาหมึก2)” ที่ได้ปูเรื่องราวเล็กน้อยไว้แล้วในซีซั่นแรก ซึ่งเรื่องนี้นั้นได้ถูกสร้างขึ้นมาจากนวนิยายเรื่อง Fish Playing While Trapped in a Secret Room ที่เขียนโดย Mo Bao Fei Bao เช่นกัน

ซีซั่นแรก Go Go Squid

โดยในซีซั่นแรกทางซีรีส์ได้นำเสนอเรื่องราวของหานซางเหยียนที่เป็นไอดอลในวงการอีสปอร์ต เมื่อก่อนเขาเป็นสมาชิกของทีมโซโล่ซึ่งเป็นทีมที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศจีน แต่ต่อมาเขาก็ออกจากทีมมาตั้งสโมสรของตัวเองที่มีชื่อว่า K&K เขาได้เจอกับถงเหนียนโดยบังเอิญแต่ถงเหนียนนั้นแอบรักเขาตั้งแต่แรกพบจึงจำเป็นต้องทำภารกิจละลายใจหานซางเหยียนหนุ่มเย็นชาให้ได้

ซีซั่นที่สอง Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time

ส่วนในซีซั่นที่ 2 ทางซีรีส์ได้นำเสนอเรื่องราวของอู๋ไป๋ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหานซางเหยียน เขาแอบรักอ้ายฉิงหนึ่งในสมาชิกสาวของทีมโซโล่มานานมากและเธอก็เป็นแรงบันดาลใจให้เขาได้มายืนอยู่ในโลกไซเบอร์ ในซีซั่นนี้ได้เปลี่ยนการแข่งขันจากความปลอดภัยทางไซเบอร์ (CTF) มาเป็นการแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู้ ในเรื่องนี้อู๋ไป๋ต้องเอาชนะใจของอ้ายฉิงที่มีอายุมากกว่าเขาให้ได้ ขอบอกเลยว่าซีรีส์ทั้ง 2 เรื่องนี้น่าดูมาก หากคุณไม่ได้ดูถือว่าพลาดมาก วันนี้เราก็เลยได้จัดทำรีวิวเหตุผลที่คุณต้องดู Go Go Squid และ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time โดยเราจะรีวิวแยกส่วนเพื่อให้ทุกคนที่ติดตามให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ

เรื่องย่อ Go Go Squid (2019)

Go Go Squid นำเสนอเรื่องราวความโรแมนติกสุดแสนน่ารักระหว่างไอดอลนักร้องสาวสุดน่ารักที่แอบชอบผู้ชายที่เย็นชาเกินกว่าจะเข้าหา ถงเหนียน (หยางจื่อ) เด็กสาวอัจฉริยะได้พบกับหานซางเหยียน (หลี่เซียน) ชายหนุ่มผู้หลงใหลในอีสปอร์ต เขาเป็นเจ้าของทีม K&K ที่ได้อุทิศชีวิตตัวเองและพยายามจะทำทุกอย่างเพื่อคว้าแชมป์โลกให้กับประเทศจีน แม้ว่าหานซางเหยียนจะมีความรับผิดชอบต่อเพื่อนร่วมทีมแต่เขาก็มีปัญหาในการสื่อสารและแสดงอารมณ์ เขาจึงเป็นที่เย็นชามาก ๆ แต่ถงเหนียนกลับคิดว่าเขาเป็นคนที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ถงเหนียนเป็นคนกล้าแสดงออกและมีผู้ติดตามหลายหมื่นคนจากการร้องเพลงคัฟเวอร์ออนไลน์แต่เมื่อเจอกับหานซางเหยียนเธอถึงกับไปไม่เป็น เธอต้องพยายามทุกอย่างเพื่อจีบหานซางเหยียนจนได้เป็นแฟนกันในที่สุด แต่เรื่องราวก็ไม่ได้สวยงามมากนักเพราะมีเรื่องวุ่นวายเข้ามาทั้งเรื่องราวของมิตรภาพ ครอบครัวและความสัมพันธ์

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Go Go Squid : นายเย็นชากับยัยปลาหมึก

ทำไมต้องดู Go Go Squid (2019)

1. เคมีระหว่างคู่พระนางนั้นดีมาก

ซีรีส์ Go Go Squid ได้นักแสดงมือทองอย่างหยางจื่อที่มารับบทเป็นถงเหนียนและหลี่เซียนที่รับบทเป็นหานซางเหยียน ทั้งหยางจื่อและหลี่เซียนนั้นมีเคมีที่เข้าด้วยกันมากจนแฟน ๆ อยากให้ทั้งคู่ออกเดตกันในชีวิตจริง หลี่เซียนนั้นเหมาะกับบทบาทหานซางเหยียนมาก ในเรื่องเขาเป็นผู้ชายที่เงียบ ๆ แต่แอบซ่อนจิตใจที่แสนดีเอาไว้ ส่วนหยางจื่อนั้นเธอเริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงเด็กและได้แสดงในซีรีส์ยอดนิยมหลายเรื่องเช่น Ashes Of Love และ Legend of the Dragon Pearl เรียกได้ว่าหยางจื่อนั้นเป็นนักแสดงเคมีสาธารณะเพราะไม่ว่าจะแสดงกับใครก็ชวนจิ้นไปหมด

ในเรื่องเราจะได้เห็นถงเหนียนตามหานซางเหยียนไปทั่ว เพราะเธอนั้นเชื่อมั่นและรักในตัวเขา ไม่ว่าจะมีปัญหาเรื่องครอบครัวของเธอที่ไม่ชอบหานซางเหยียนเธอก็ยืนหยัดที่จะอยู่ข้างเขา ถงเหนียนนั้นเป็นแฟนสาวในฝันที่หลายคนอยากได้เป็นแฟนเพราะเธอเล่นเกมได้ เอาใจเก่งและเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เมื่อคุณได้ดูซีรีส์คุณจะเห็นว่าทั้งคู่ซัพพอร์ตกันตลอดเวลา ถึงแม้จะมีเรื่องที่ผิดใจกันอยู่บ้างแต่ทั้งคู่ก็ฝ่าฟันปัญหาร่วมกันเสมอ

2. นำเสนอบทเรียนชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง

แม้ว่า Go Go Squid จะเป็นซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวความโรแมนติกแต่ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ เช่น มิตรภาพ ความผูกพันในครอบครัวและการไล่ตามความฝัน การตามหาความฝันและอุปสรรคระหว่างทางของหานซางหยานเป็นสิ่งที่เราทุกคนจะต้องเจอในชีวิต นั่นเป็นเพราะทุกคนมีความฝันและเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องพบกับความท้าทายในขณะที่เราไล่ตามความฝัน ความพากเพียรของหารซางหยานสอนบทเรียนอันล้ำค่าแก่ผู้ชมว่า “อย่ายอมแพ้ในสิ่งที่คุณเชื่อ”

นอกจากนี้เราจะได้เห็นมิตรภาพและความรักของแต่ละตัวละคร ในเรื่องเราจะเห็นว่าสมาชิกทีมโซโล่นั้นได้แยกออกไปเพราะปัญหาของอ้ายฉิงและหวังเฮ่า หวังเฮ่าเคยเป็นแฟนของอ้ายฉิงมาก่อนและเขาทั้งสองก็เป็นสมาชิกของทีมโซโล่ร่วมกับหานซางเหยียน จุดเริ่มต้นที่ทำให้ต้องยุบทีมเพราะว่าหวังเฮ่านั้นแอบไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นจนมีลูก ทำให้อ้ายฉิงรับไม่ได้และตัดสินใจออกจากทีม หานซางเหยียนนั้นโกรธหวังเฮ่ามากและตัดสินใจออกจากทีมไปตั้งสโมสร K&K ของตัวเองแทน ส่วนหวังเฮ่าก็ไปตั้งสโมสร S&P แทน เราจะเห็นได้ว่าทั้ง S&P และ K&K นั้นต่อสู้กันมาตลอด แต่ความพ่ายแพ้และการปรับความเข้าใจกันทำให้หานซางเหยียน หวังเฮ่าและอ้ายฉิงผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน มิตรภาพของทีมโซโล่นั้นไม่มีวันหายไป

3. มีการดำเนินเรื่องราวที่ต่อเนื่องและน่าประทับใจ

โดยทั่วไปแล้วซีรีส์จีนจะมีมากกว่า 30 ตอนซึ่งถือว่ายาวเมื่อเทียบกับซีรีส์เกาหลี ญี่ปุ่นหรือไต้หวัน ซีรีส์จีนบางเรื่องไม่สามารถทำให้พล็อตน่าสนใจได้และเริ่มเรตติ้งตกลงกลางคันด้วยเหตุนั้น ซีรีส์บางเรื่องไม่ได้พูดถึงปัญหาทั้งหมดในซีรีส์ก่อนตอนสุดท้ายทำให้ผู้ชมรู้สึกค้างคาและไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม Go Go Squid นั้นเป็นซีรีส์ที่ดีมาก มีการดำเนินเรื่องที่สอดคล้องกันมีการเว้นจังหวะอย่างพอดีตลอด 41 ตอนและจบลงพร้อมบทสรุปที่ดีทำให้ผู้ชมพึงพอใจ

Go Go Squid ไม่มีเรื่องราวดราม่ามากนักทำให้ผู้ชมดูแล้วรู้สึกผ่อนคลายใจไม่น้อย หลายคนอาจจะเบื่อเรื่องราวระหว่างหานซางเหยียนและแม่ของถงเหนียนอยู่บ้าง เพราะเธอไม่ต้องการให้ลูกสาวไปคบกันหานซางเหยียนที่ดูไม่มีอนาคต แต่เราต้องเปิดใจหน่อยค่ะแม่ของถงเหนียนนั้นห่วงลูกสาวจริง ๆ สุดท้ายก็จบได้สวยค่ะ อีกเรื่องนึงที่เราประทับใจก็คือเรื่องราวของหวังเฮ่าและเสี่ยวอ้ายลูกสาวของเขา ถึงแม้ว่าหวังเฮ่าไม่ได้รักแม่ของเสี่ยวอ้ายแต่เราจะเห็นการต่อสู้ของเขาที่ต้องการทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้ตัวเองเป็นพ่อที่ดีของเสี่ยวอ้าย อีกทั้งหวังเฮ่าและแม่ของเสี่ยวอ้ายก็ยังเลี้ยงดูเด็กร่วมกันถึงแม้ว่าจะจบความสัมพันธ์กันไปแล้ว

นอกจากนี้ผู้เขียนยังรู้สึกซาบซึ้งที่เสี่ยวอ้ายสามารถสร้างความสงบสุขให้กับพ่อแม่ได้แม้ว่าครอบครัวจะไม่สมบูรณ์แบบมากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นและพยายามทำทุกอย่างเพื่อเสี่ยวอ้าย

เรื่องย่อ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time (2021)

Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time นำเสนอเรื่องราวของ Dt.หรืออู๋ไป๋ (หูอี้เทียน) และ Appledog หรืออ้ายฉิง (หลี่อี้ถง) ด้วยความสามารถที่เก่งกาจของอู๋ไป๋เขาจึงกลายเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่อายุน้อยที่สุดของการแข่งขันหุ่นยนต์ระดับประเทศ เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งทีม K&K และเข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขันบนเวทีเดียวกันกับอ้ายชิงคนที่เขาตกหลุมรัก อู๋ไป๋เป็นลูกพี่ลูกน้องของหางซางเหยียน ส่วนอ้ายฉิงก็เป็นเพื่อนของหานซางเหยียนเช่นกัน เรื่องราวของทั้งสองดูเหมือนจะราบรื่นแต่หวังเฮ่าผู้ก่อตั้ง S&P นั้นเคยเป็นแฟนเก่าของอ้ายฉิงและตัวอ้ายฉิงเองก็ต้องไปรับตำแหน่งผู้จัดการทีมให้กับ S&P ด้วย ทั้ง S&P และ K&K นั้นเป็นคู่แข่งกันมาตลอด ทำให้ทั้งสองต้องตัดสินใจว่าจะเลือกทีมหรือเลือกรักษาความสัมพันธ์ ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้สนุกมากเราจะได้เห็นคนคลั่งรักแบบเต็มรูปแบบค่ะ

หมายเหตุ : ซีรีส์ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time ตัวละครบางตัวไม่เหมือนกับซีซันแรกแต่ยังใช้ชื่อเดิมอยู่ เรื่องราวในซีซัน 2 นั้นจะนำเสนอโลกของการแข่งขันหุ่นยนต์ต่อสู้ไม่ใช่การแข่งขันจากความปลอดภัยทางไซเบอร์ (CTF)

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time : นายเย็นชากับยัยปลาหมึก 2

ทำไมต้องดู Go Go Squid Dt.Appledog’s Time (2021)

1. การปูเรื่องไว้ในซีซั่นแรก

ใน Go Go Squid ซีซั่นแรกเราจะได้เห็นว่าซีรีส์มีการเฉลยออกมาเล็กน้อย ถึงความสัมพันธ์ของอ้ายฉิงและอู๋ไป๋ อู๋ไป๋นั้นแอบชอบและมีความสนใจในอ้ายฉิงมากเพราะเธอเป็นไอดอลของเขามานานและตัวเธอก็เป็นเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้เขาเข้าร่วม CTF (การแข่งขันจากความปลอดภัยทางไซเบอร์) ในซีรีส์ซีซั่นแรกเราจะไม่ได้เห็นโมเมนต์ของทั้งคู่มากนัก เพราะเรื่องราวจะเน้นไปที่ถงเหนียนและหานซางเหยียนมากกว่า ส่วนใหญ่เราเห็นฉากที่อู๋ไป๋มักจะชวนอ้ายฉิงไปดื่มกาแฟกับเขาแต่เธอปฏิเสธตลอดเพราะไม่อยากเปิดทางให้อู๋ไป แต่เราจะได้เห็นสายตาของอู๋ไปที่มีต่ออ้ายฉิงในทุกเกมของการแข่งขัน ในฉากที่เริ่มจะคลี่คลายความสัมพันธ์เราจะเห็นว่าอู๋ไป๋ชวนอ้ายฉิงมาให้มาดื่มกาแฟกับเขาอีกครั้ง และเธอก็ตอบตกลงทันที ถือเป็นการปิดฉากความสัมพันธ์ของในซีซั่นแรกได้ดี คนดูหลายคนมักจะให้ความสนใจเรื่องความสัมพันธ์ของอู๋ไป๋ที่มีต่ออ้ายฉิง เพราะอู๋ไปเป็นผู้แข่งขัน CTF ที่กำลังมาแรงซึ่งครองอันดับโลกและอ้ายฉิงก็เป็นตำนาน CTF ด้วย ขอบอกเลยว่าทั้งคู่เหมาะสมกับมากและเราก็ดีใจมากที่มีการสร้าง Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time ขึ้นมาถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวละครไปบ้างก็ตาม

2. นำเสนอเรื่องราวที่ต่างไปจากเดิม

Go Go Squid 2019 นั้นจะนำเสนอเรื่องราวในโลกการแข่ง CTF (การแข่งขันจากความปลอดภัยทางไซเบอร์) แต่ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time จะนำเสนอโลกของการแข่งหุ่นยนต์ต่อสู้ซึ่งสร้างรูปแบบ CG ที่สวยงามมาเลยทีเดียว หลายคนอาจจะงงเมื่อดูในตอนแรกแต่ไม่มีการแข่งขันแบบเดิม ผู้เขียนนั้นมีความคิดเห็นว่า Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time นั้นเปรียบเสมือนโลกคู่ขนาดของ Go Go Squid 2019 เพราะเรื่องราวในซีซั่น 2 ดำเนินเรื่องตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นสโมสร K&K เสียอีก ส่วน Go Go Squid 2019 นั้นนำเสนอเรื่องราวหลังจากการตั้งสโมสร K&K แล้ว ในส่วนนี้ทำให้คนดูงงเล็กน้อยแต่เมื่อดูไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ได้แย่ค่ะ อาจจะต้องลบภาพเก่าจาก Go Go Squid 2019 ออกไปนิดนึง

นอกจากในเรื่องของการแสดงแล้ว นักแสดงในซีซั่นที่ 2 ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เราจะทำลิตส์ตัวละครที่เปลี่ยนไปค่ะ ไปดูกันเลย

ยกตัวอย่างตัวละครที่เปลี่ยนไปจากซีซั่นแรก

สำหรับคนที่มีคำถามว่าถ้าไม่ได้ดู Go Go Squid ซีซั่นแรกจะเข้าใจ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time ไหม เราขอบอกเลยว่าเข้าใจค่ะเหมือนเปิดเรื่องในโลกใหม่ แต่แนะนำให้ดูดีกว่าเพราะเราจะได้เห็นถงเหนียน (หยางจื่อ) และหานซางเหยียน (หลี่เซียน) มาร่วมแสดงด้วย ถึงแม้เรื่องราวจะไม่ต่อเนื่องจากซีซั่นแรกมากแต่ก็มีเรื่องราวที่เราจะต้องรับชมเพื่อให้ได้อรรถรสค่ะ ดังนั้นแนะนำให้ชมซีซั่นแรกมาก่อนค่ะ

3. เราจะได้เห็นพระเอกคลั่งรัก

สำหรับ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time ได้บอกเล่าเรื่องราวของอู๋ไป๋ที่แอบชอบอ้ายฉิงมาหลายปี กล่าวได้ว่าแอบชอบมาตั้งแต่ตัวเองยังเด็กเลย ในซีซั่นแรกและซีซั่นสอง อู๋ไป๋มักจะได้ยินหานซางเหยียนเตือนสติตัวเองว่า “อ้ายฉิงเป็นแฟนโซโล่ (หวังเฮ่า)” แต่แน่นอนค่ะอู๋ไป๋ไม่เคยยอมแพ้ เพราะเขาคิดว่าในอนาคตแฟนของอ้ายฉิงก็ต้องเป็นเขา อู๋ไป๋ไม่เคยไปแทรกแซงความสัมพันธ์ของอ้ายฉิงและหวังเฮ่า เขารอเวลาที่เหมาะสมก่อนเสมอ ในเรื่องเราจะได้เห็นช่วงเวลาที่อ้ายฉิงเปิดทางให้กับอู๋ไป๋ตลอด แต่เขาก็ไม่ได้รุกอย่างจริงจังเสียที แต่เรื่องนี้ก็มีเหตุผลค่ะ เพราะอู๋ไป๋ตั้งเป้าหมายที่จะชนะการแข่งขัน 300 รายการ (เพื่อให้มากกว่าสถิติของหวังเฮ่าที่ชนะการแข่งขัน 299 รายการ) เมื่อเขาทำสำเร็จ 300 รายการแล้วเขาก็คิดว่าตัวพร้อมที่จะออกเดตกับอ้ายฉิงอย่างเป็นทางการ

ในช่วงที่จีบกันคือหวานมาก คลั่งรักมาก ตามติดอ้ายฉิงจนแทบจะสิงเขาเลยค่ะ เมื่อมีคนมาชอบอ้ายฉิงก็ส่งสายตาพิฆาตตลอด แหม ! พ่อคุณน่าเอ็นดูมากทีเดียว ความแอบรักคนแก่กว่าอะเนาะ อิอิ นอกจากเป็นคนคลั่งรักแล้ว อู๋ไป๋ยังเป็นหนุ่มน้อยสายเปย์อีกด้วย ในซีซั่นแรกเราจะเห็นได้ว่าอู๋ไป๋รวยมากจนทำให้หานซางเหยียนมาขอยืมเงินบ่อย ๆ ในซีซั่นนี้ก็เหมือนเดิมค่ะความรวยยังมีอยู่ คิดจะซื้อรถไปรับสาวก็ซื้อทันทีที่คิดได้ ไม่ว่าคนที่ชอบอยากได้อะไรก็พร้อมเปย์มาก ในจุด ๆ นี้ผู้เขียนอยากเป็นแฟนอู๋ไป๋สักหนึ่งวันค่ะคุณขาาา !

4. มีคู่พระรองและนางรองที่แซ่บกว่าคู่เอก

นอกจากจะมีคู่ของอ้ายฉิงและอู๋ไป๋แล้ว ซีรีส์ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time ยังนำเสนอเรื่องราวของเสิ่นเจ๋อ (กรันต์) และอ้ายจิ้งด้วย เสิ่นเจ๋อเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม K&K และเป็นเพื่อนของอู๋ไป๋ เขาเป็นคนที่มีความสามารถมากแต่มีนิสัยที่ใจร้อน ความรักของเขานั้นเริ่มก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่ใน Ep. แรก ๆ โดยเขาได้เจออ้ายจิ้ง (พี่สาวของอ้ายฉิง) ด้วยความบังเอิญ เรียกได้ว่าเป็นรักแรกพบเลย ขอบอกเลยว่าคู่นี้แซ่บมากในช่วงแรก ๆ ที่ความสัมพันธ์ของคู่เอกยังไม่พัฒนาแต่คู่รองนั้นพัฒนาไปไกลมาก ถึงแม้จะมีความต่างในเรื่องอายุก็ไม่ได้เป็นปัญหากับทั้งสองคนค่ะ เราจะได้เห็นฉากคิสซีนเยอะมาก ร้อนแรงกันทั้งคู่ ขอชมหน่อยว่าหวังอันอวี้ (เสิ่นเจ๋อ) นั้นแสดงได้ดีมากเป็นผู้ชายที่แซ่บมาก ๆ จริง ๆ ค่ะคุณขา

บทสรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับรีวิว Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time ที่เรานำเสนอไป เราขอบอกเลยว่าต้องดู จากฟีดแบ็คที่ดูมามีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบค่ะ หลายคนชอบที่จะดู Go Go Squid ในซีซั่นแรกมากกว่าเพราะเห็นว่าเคมีของหยางจื่อและหลี่เซียนนั้นดีกว่ามาก สำหรับผู้เขียนก็คิดว่าเคมีของซีซั่นแรกนั้นดีกว่าจริง ๆ แต่ในซีซั่นสองก็มีเรื่องราวที่เราได้คิดตาม ถ้าถามว่าหลี่อี้ถงเหมาะกับบทบาทนี้มั้ย? ผู้เขียนก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าเหมาะแต่มันอาจจะขาดเคมีระหว่างพระนางไปบ้างอาจจะเป็นความต่างในเรื่องของอายุก็เป็นได้ เพราะในซีซั่นแรกนั้นหยางจื่อและหลี่เซียนเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนก่อนที่จะมาแสดงซีรีส์ร่วมกัน ดังนั้นความสัมพันธ์และการเล่นนอกบทของพวกเขาจะมีอยู่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

แต่สำหรับคนที่ชอบซีรีส์แนวพระเอกคลั่งรัก นางเอกฉลาดเราขอบอกเลยว่า Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time เหมาะสำหรับคุณมากค่ะ แต่ก่อนจะดูแนะนำให้ไปดู Go Go Squid ซีซั่นแรกก่อนเพื่อรับรู้เรื่องราวคร่าว ๆ อีกทั้งในซีซั่น 2 ทั้งหยางจื่อและหลี่เซียนจะมาเป็นนักแสดงรับเชิญด้วยค่ะ ตอนนี้ซีรีส์ Go Go Squid 2 Dt.Appledog’s Time ยังไม่จบสามารถติดตามได้ผ่าน แอป iQIYI และ WeTV ค่ะ สำหรับคนที่เป็นสมาชิกพรีเมี่ยม VIP ของ iQIYI สามารถดูซีรีส์จนจบได้ก่อนใครเพื่อนค่ะ อย่าลืมไปดูกันนะคะทุกคน