[รีวิว] ซีรีส์จีน ฉากรักวัยฝัน (Love Scenery) เอาใจคนอยากมีแฟนเป็นเด็ก สุดโรแมนติก

วันนี้เราจะขอเอาใจคนอยากมีแฟนเด็กหรืออยากรู้ว่ามีแฟนเด็กดีอย่างไรด้วยการแนะนำซีรีส์จีนอย่าง “ฉากรักวัยฝัน (Love Scenery)” ค่ะ ฉากรักวัยฝันเป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายเรื่อง Bright Guns Are Easy to Hide, Secret Love is Hard to Prevention ที่เขียนโดย Qiao Yao นิยายเรื่องนี้เป็นภาษาจีนที่ยังแปลเป็นภาษาอังกฤษไม่มากนัก ด้วยกระแสฮือฮาในนวนิยายเรื่องนี้ แฟน ๆ หลายคนจึงคาดหวังในเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ถึงแม้พล็อตเรื่องจะนำเสนอเรื่องราวของนักแสดงนำหญิงอยู่ในวงการบันเทิงและนักแสดงนำชายอยู่ในสายวิทยาศาสตร์ซึ่งเคยมีหลายเรื่องทำไว้แล้วแต่เรื่องนี้แตกต่างออกไปเพราะจะเน้นเรื่องการร้องเพลงและเล่นเกมมากกว่านั่นเอง

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่หลายคนให้ความสนใจมากเพราะเป็นการกลับมาของหนุ่มหล่ออย่างหลินอีซึ่งหนุ่มคนนี้ก็เคยฝากผลงานไว้แล้วในเรื่องอุ่นไอในใจเธอ (Put Your Head on My Shoulder) ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นหลินอีในบทบาทที่โตขึ้นกว่าเดิมมากและเราจะได้เห็นฉากที่ร้อนแรงของเขาในวันที่เขาโตขึ้นด้วย

โดยในซีรีส์เรื่องนี้นักแสดงหนุ่มอย่างหลินอีได้มาประกบคู่กับนักแสดงสาวอย่างสวี๋ลู่ และเป็นซีรีส์ที่ตัวละครผู้หญิงจะต้องมีอายุมากกว่าผู้ชาย ผู้เขียนขอชมเลยว่าผู้กำกับและทีมงานเลือกตัวละครได้ดีและเหมาะสมมากค่ะ หากคนเป็นคนชอบซีรีส์ที่มีเพลงเพราะและมีเรื่องราวที่เกี่ยวกับเกมและการร้องเพลงซีรีส์เรื่องนี้จะตอบโจทย์คุณเป็นอย่างดีค่ะ

เรื่องย่อ ฉากรักวัยฝัน (Love Scenery)

ฉากรักวัยฝัน (Love Scenery) เป็นซีรีส์สุดโรแมนติกที่บอกเล่าเรื่องราวของเหลียงเฉิน (สวี๋ลู่) เหลียงเฉินเป็นนักร้องสาวชื่อดังที่เพิ่งได้รับรางวัลจักจั่นทองคำและรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยมซึ่งเป็นรางวัลดังที่ใช้บ่งบอกว่าศิลปินนั้นได้รับความน่าเชื่อถือและมีความสามารถในการร้องเพลง ในวันที่ประกาศรางวัยเหลียงเฉินได้เจอกับมรสุมอย่างนักเพราะแฟนของเธอแอบไปมีความสัมพันธ์กับนักร้องอย่างหมิ่งหลันจือ (ตู่อวี่เฉิน) ซึ่งเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของเธอ ภายในงานประกาศรางวัลหมิ่งหลันจือได้สบประมาทเหลียงเฉินว่าเหลียงเฉินไม่มีวันได้รางวัลเพราะเธอจะแย่งรางวัลนี้ แต่ผลไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดเพราะเหลียงเฉินสามารถกวาดรางวัลไปได้ถึง 2 รางวัลซึ่งทำให้หมิ่งหลันจือเสียหน้ามาก

เมื่อเหลียงเฉินได้รับรางวัลความนิยมของเธอก็เพิ่มขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอดังมากคือนักสตรีมมิ่งเกมที่ชื่อว่าเฮอร์แมนได้นำเพลงของเธอไปเปิดเมื่อสตรีมมิ่งเกมนั่นเอง โดยไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้ชื่อเฮอร์แมนนั้นเขาจะเป็นนักศึกษาหัวกะทิที่ชื่อว่าลู่จิ่ง (หลินอี) ลู่จิ่งชอบเหลียงเฉินมาตั้งแต่เขายังเรียนมัธยมเพราะทั้งสองได้เจอกันโดยความบังเอิญโดยในตอนนั้นเหลียงเฉินยังไม่ได้เป็นนักร้อง แต่ความบังเอิญนี้ก็ติดตาและติดใจลู่จิ่งมาเสมอ เมื่อเฮอร์แมนนำเพลงของเหลียงเฉินไปเปิดในเกมทำให้เหลียงเฉินต้องโปรโมทเกมนี้ซึ่งเกมนี้เป็นเกมบิวตี้ฟูลโซลแนวการต่อสู้ ทำให้เหลียงเฉินต้องฝึกเล่นเกมตอนแรกเหลียงเฉินได้วานให้ซุนปินอวี้ (หูอวิ๋นหาว) เพื่อนสนิทของเธอที่เล่นเกมนี้เป็นคนสอนแต่ซุนปินอวี้ไม่อยากสอนเหลี่ยงเฉินเพราะเหลียงเฉินทำให้เขาต้องตายและเสียคะแนนในเกมหลายครั้ง ซุนปินอวี้เลยไปขอให้ลู่จิ่งสอนแทนเพราะลู่จิ่งเป็นเพื่อนบ้านของเขา ในตอนแรกลู่จิ่งก็ไม่อยากสอนเพราะเขาไม่อยากสอนผู้หญิงแต่ต่อมาก็ทนความตื้อของซุนปิ้นอวี้ไม่ไหวเลยต้องยอมสอน อย่างไรก็ตามเพื่อปกปิดตัวตนของเหลียงเฉินไว้เป็นความลับ เหลียงเฉินเลยใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าเธอเป็นใคร ดังนั้นลู่จิ่งก็เลยไม่รู้ว่าคนที่เขาสอนเล่นเกมจะเป็นเหลียงเฉินคนที่เขาชอบ

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Love Scenery : ฉากรักวัยฝัน

ทำไมต้องดู ฉากรักวัยฝัน (Love Scenery) ?

1. มีนักแสดงนำที่น่าสนใจ

ซีรีส์เรื่องนี้มีตัวละครไม่เยอะมาก แต่ตัวละครแต่ละตัวก็มีความโดดเด่นมากเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าพล็อตซีรีส์ไม่ได้แปลกใหม่มากนักแต่การมีนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทก็สามารถทำให้เรามองข้ามเรื่องพล็อตเรื่องออกไปได้ ต่อไปเราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงตัวละครแต่ละตัวกันค่ะ

• ลู่จิ่ง (หลินอี) หลินอีเป็นนักศึกษาที่ Nanze University เขาเรียนเอกคอมพิวเตอร์ หน้าตาดี ฉลาด เก่งทุกอย่างและสามารถทำได้ทุกอย่างที่เขาอยากที่ทำ นอกเหนือจากการเรียนแล้ว ลู่จิ่งยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นอันดับต้น ๆ ในเกม Beautiful Soul อีกทั้งเขายังเป็นนักสตรีมเกมยอดนิยมที่มีชื่อ ในวงการว่าเฮอร์แมน (Herman) ด้วย ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาลู่จิ่งเป็นแฟนบอยตัวยงของเหลียงเฉิน สำหรับหลินอีผู้เขียนมองว่าเขาเป็นนักแสดงนำชายที่สมบูรณ์แบบมาก ผู้เขียนชอบบุคลิกของเขา ไม่ว่าหลินอีจะแต่งตัวแบบไหนเขาก็หล่อและดูดีไปหมดเพราะเขาเป็นหนุ่มที่หน้าตาดีและสูง ความสูงของหลินอีทำให้สวี๋ลู่ดูเป็นคนตัวเล็กตัวน้อยไปเลยทีเดียว ในเรื่องนี้หลินอีจะดูโตขึ้นกว่าตอนแสดงซีรีส์เรื่องอุ่นไอในใจเธอ (Put Your Head on My Shoulder) มาก

• เหลียงเฉิน (สวี๋ลู่) เหลียงเฉินเป็นนักร้องสาวชื่อดังที่สำเร็จการศึกษาจาก Nanze University ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเธอจริงมีศักดิ์เป็นรุ่นพี่ของลู่จิ่ง แม้ว่าเธอจะมีบุคลิกที่ขี้เล่น แต่เธอก็รักการร้องเพลงมากและทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเสียงดนตรี แต่ด้วยความที่เธอมีความสามารถด้านดนตรี มากเธอเลยขาดทักษะการเล่นคอมพิวเตอร์ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่เน้นถึงอาชีพนักร้องของเธอ มีหลายครั้งที่เธอร้องเพลงและแม้ว่าเพลงจะติดหูและน่าฟัง แต่ก็ไม่มีเพลงใดที่สวี๋ลู่ร้องเองจริง ๆ และเพื่อให้เรื่องซับซ้อนยิ่งขึ้น เพลงต่าง ๆ ถูกร้องโดยนักร้องซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เรื่องความสามารถของสวี๋ลู่นั้นแทบจะไม่ต้องพูดเลยเพราะเธอได้แสดงซีรีส์มาหลายเรื่องมาก โดยซีรีส์เรื่องล่าสุดก็คือซีรีส์เรื่องรักกันเมื่อวันฟ้าใส (Sunshine Of My Life) ค่ะ

• ติงเจียอวิ้น (หูปิง) ติงเจียอวิ้นเป็นเพื่อนสนิทของซุนปินอวี้และเหลียงเฉิน เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ในบริษัทแห่งหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการแสดง เขาแอบรักเหลียงเฉินและพร้อมช่วยเหลือเธอเสมอ ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่ผู้เขียนไม่ค่อยชอบนัก ผู้เขียนมองว่าตัวเรื่องน่าจะออกแบบให้ตัวละครนี้เป็นอย่างอื่นแทนที่จะเป็นคนที่ชอบเหลียงเฉินเพราะในเรื่องหูปิงต้องรับบทเป็นคนที่อายุเยอะกว่าเหลียงเฉินหลายปีมาก แน่นอนว่าหูปิงในวัยนี้หล่อมากแต่ในบทเขาดูแก่เกินไปสำหรับเหลียงเฉินอย่างแน่นอน มีช่องว่างอายุระหว่างพวกเขาเพราะหูปิงโตพอที่จะเป็นพ่อของเธอแล้ว อีกทั้งการเลือกเสื้อผ้าในตอนแสดงเขาดูเหมือนผู้ชายไม้เลื้อยมากกว่าเป็นสุภาพบุรุษที่โดดเด่น พล็อตเรื่องและบุคลิกของตัวละครในตัวนี้เป็นสิ่งที่เห็นบ่อยมากในหนังรักของจีน (ไม่ว่าจะในรูปแบบหนังสือหรือภาพยนตร์) ซึ่งแม้จะถูกปฏิเสธโดยผู้หญิงแล้ว ผู้ชายก็ยังคงแสดงท่าทีเอาแต่ใจกับผู้หญิงต่อไปถึงขั้นทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกับนางเอก ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะไม่ชอบตัวละครนี้แต่ขอบอกเลยว่าเขาหล่อมาก

ในจุดนี้ผู้เขียนขอไม่พูดถึงซุนปินอวี้และหม่าซานชานเพราะสองตัวละครนี้ไม่ค่อยมีบทบาทมากนักผู้เขียนมองว่าตัวละครเหล่านี้ถูกใช้ในเรื่องมากเกินไปและพวกเขาไม่ได้ทำให้บทเปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่แน่นอนว่ามีเลิฟไลน์ของนักแสดงทั้งสองตัวหากคุณชอบนักแสดงนี้ก็สามารถดูได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องข้าม

2. ฉากโรแมนติกและเคมีระหว่างนักแสดงดีมาก

ขอบอกเลยว่าเรื่องเคมีระหว่างหลินอีและสวี๋ลู่นั้นดีและร้อนแรงมาก ผู้ชมจำนวนมากต่างชื่นชมเคมีที่ยอดเยี่ยมระหว่างนักแสดงสองคน แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพราะจุดขายของซีรีส์โรแมนติกมักจะอยู่ที่เคมีของนักแสดงนำมากกว่าพล็อต สำหรับผู้เขียนแล้วเคมีของพวกเขาร้อนแรงมากในบางฉาก โดยเฉพาะฉากจูบ ในเรื่องเห็นได้ชัดว่าสวี๋ลู่แก่กว่าหลินอีซึ่งก็โอเคสำหรับผู้เขียนมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้เขียนสามารถนั่งดูจนจบเรื่องได้ แต่ถ้าคุณไม่ชอบซีรีส์ที่ผู้หญิงที่อายุมากกว่าผู้ชาย Love Scenery เป็นซีรีส์ที่อาจไม่เหมาะกับคุณโดยเฉพาะเมื่อหลินอีเรียกสวี๋ลู่ว่ารุ่นพี่ในซีรีส์ นี่เป็นคุณสมบัติทางเคมีบางอย่างซึ่งการเรียกนางเอกว่ารุ่นพี่ทำให้เคมีมันหายไปเล็กน้อย ใครที่อยากดูฉากหวานของซีรีส์เรื่องนี้ขอบอกว่ามีให้ดูแน่นอน อีกทั้งยังหวานมากเสียด้วย ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ

3. ตอบโจทย์คนที่มีแฟนเด็กหรืออยากมีแฟนเป็นเด็ก

ซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นตำนานแห่งการกินเด็กเลยก็ว่าได้ค่ะ ในเรื่องนางเอกต้องมีอายุห่างกับพระเอก 5 ปี แต่คุณคงไม่รู้ว่าความจริงแล้วหลินอีก็มีอายุน้อยกว่าสวี๋ลู่ 5 ปีด้วยเช่นกัน ในเรื่องลู่จิ่งเป็นแฟนบอยของเหลียงเฉิน ลู่จิ่งเคยพบเหลียงเฉินก่อนที่เธอเดบิวต์ ในช่วงนั้นพวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันเล็กน้อยเพราะเหลียงเฉินกำลังร้องไห้และลู่จิ่งก็ได้ก็ยื่นทิชชู่ให้เธอ ในตอนนั้นลู่จิ่งได้สนับสนุนให้เหลียงเฉินร้องเพลงต่อไปและอย่ายอมแพ้ ดังนั้นลู่จิ่งจึงเป็นแฟนบอยที่ซื่อสัตย์ของเหลียงเฉินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ต่อมาในลู่จิ่งได้กลายเป็นนักศึกษาใรระดับมหาวิทยาลัยและเขาก็เป็นนักศึกษาชั้นแนวหน้าของแผนกวิทยาการคอมพิวเตอร์ ลู่จิ่งยังเป็นนักสตรีมเกมชั้นนำที่มีชื่อผู้ใช้ว่า “เฮอร์แมน (Herman)” ขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ได้นำเสนออีกด้านนึงของการมีแฟนเด็ก หลายคนอาจจะคิดว่าการมีแฟนเด็กนั้นไม่มีข้อดีเพราะเด็กส่วนใหญ่นั้นงี่เง่า ยังไม่มีประสบการณ์ในเรื่องความรัก แต่เรื่องนี้สาว ๆ จะมองแฟนเด็กเปลี่ยนไปค่ะ เพราะในเรื่องลู่จิ่งของเราดีมาก เอาใจใส่ มีความคิดที่โตกว่าเหลียงเฉินนางเอกเสียอีก อีกทั้งยังสนับสนุนอาชีพและเส้นทางความฝันของเหลียงเฉินได้ดีอีกด้วย

4. มีการเล่าเรื่องสลับกับการเล่นเกม

ซีรีส์เรื่องฉากรักวัยฝัน (Love Scenery) มีการเล่าเรื่องราวสลับกับการเล่นเกมในช่วงแรก ๆ เพราะเป็นฉากที่นางเอกต้องหัดเล่นเกมเพื่อรับงานโปรโมทเกมบิวตี้ฟูลโซล สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนสะดุดใจเมื่อได้ดูซีรีส์เรื่องฉากรักวัยฝัน (Love Scenery) คือตัวเรื่องมีความคล้ายคลึงกับซีรีส์เรื่องยิ้มนี้โลกละลาย (Love O2O) โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น ซีรีส์ทั้งสองเรื่องมีธีมของเกมและวิธีการนำเสนอเกมก็เหมือนกันแทนที่จะแสดงให้ผู้ชมเห็นคอมพิวเตอร์กราฟิก ตัวเรื่องจะใช้ตัวละครจริงและจำลองฉากในเกมแบบเสมือนจริงแทน ดังนั้นจึงมีความสนุกสนานและได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเกม เกมที่นักแสดงในเรื่องเล่นคือเกมบิวตี้ฟูลโซลซึ่งเป็นเกมต่อสู้คล้าย ๆ กับเกมยิงคู่ต่อสู้ที่บ้านเรา ซึ่งฉากในเกมนั้นเหมือนจริงมากมีความสวยงามทุกกระเบียดนิ้วเลยทีเดียว โดยส่วนตัวแล้วการนำเสนอเรื่องราวแบบนี้น่าสนใจมากถ้าคุณชอบเรื่องราวเหมือนซีรีส์ Love 020 คุณก็คงจะชอบซีรีส์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าคุณไม่ชอบฉากเล่นเกมคุณก็สามารถเลื่อนข้ามฉากนี้ไปได้เพราะมันไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมาก แต่ฉากเล่นเกมออนไลน์จะเป็นฉากที่จะเปิดโปงว่าเบื้องหลังของยูเซอร์ที่พระเอกสอนเล่นเกมคือใครกันแน่

5. เพลงประกอบซีรีส์ดีมาก

เนื่องจากซีรีส์เรื่องฉากรักวัยฝัน (Love Scenery) เป็นซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องเกมและเรื่องการร้องเพลง เพลงประกอบซีรีส์จึงมีหลายเพลงมากโดยเพลงแรกที่เราจะได้ฟังกันเลยก็คือเพลงที่มีชื่อไทยว่า “ตามสายลม (Favorable Wind)” ซึ่งเพลงนี้จะเป็นเพลงที่ลู่จิ่งใช้เปิดหลังจากสตรีมเมอร์เกมเสร็จแล้ว ขอบอกเลยว่าเพลงนี้เพราะมากและมีความหมายดีมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเพลงอีกหลายสไตล์ให้เราได้ฟังทั้งเพลงป๊อป เพลงร็อคและเพลงทั่ว ๆ ไป ซึ่งแต่ละเพลงก็มีจังหวะที่ไพเราะมากเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือเพลงทั้งหมดไม่ได้ขับร้องโดยสวี๋ลู่ซึ่งเป็นนางเอกของเรื่องข้อนี้ผู้เขียนก็ไม่ทราบว่าทำไมสวี๋ลู่ไม่ร้องเพลงเองหรืออาจจะมีเพลงที่สวี๋ลู่ร้องแต่ผู้เขียนไม่ทราบก็เป็นได้ แต่ผู้เขียนขอบอกเลยว่าแต่ละเพลงนั้นเข้ากับตัวซีรีส์แทบจะทุกเพลง คุณสามารถโหลดเพลย์ลิสต์ของเพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้มาฟังได้ผ่าน Youtube ค่ะ