ความนิยมดื่มกาแฟในยุคปัจจุบันนั้นขอบอกว่าเป็นอะไรที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่จริง ๆ ค่ะ เพราะผู้คนในสมัยนี้นิยมดื่มกาแฟกันมากขึ้นเนื่องจากต้องการเติมความกระปรี้กระเปร่าในแต่ละวัน รวมถึงความชอบส่วนบุคคลที่หลงไหลในรสชาติของกาแฟ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมยอดขายของเครื่องชงกาแฟถึงได้พุ่งสูงมากขึ้นในแต่ละปี โดยเครื่องชงกาแฟที่ผู้คนนิยมชื้อกันก็มีทั้งเครื่องชงกาแฟ French Press, เครื่องชงกาแฟแบบดริป, หม้อต้มกาแฟ Moka Pot, เครื่องชงกาแฟแคปซูล และยังมีเครื่องชงกาแฟสดราคาประหยัดที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียวค่ะ

แต่การชงกาแฟให้มีรสชาติอร่อยถูกใจนั้น ไม่ได้มีปัจจัยมาจากครื่องชงกาแฟอย่างเดียวเท่านั้น แต่ “เมล็ดกาแฟ” ที่ใช้ชงก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญและขาดไม่ได้เลยเช่นกันค่ะ
ในวันนี้เราจึงมี ‘เมล็ดกาแฟ อาราบิก้า & โรบัสต้า’ มาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกัน ซึ่งเราก็ได้คัดมาทั้งเมล็ดกาแฟสายแมสและเมล็ดกาแฟสายอินดี้ขวัญใจคอกาแฟกันด้วยนะคะ
นอกจากนี้เรายังมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเมล็ดกาแฟ วิธีเลือกซื้อเมล็ดกาแฟและวิธีการเก็บรักษามาบอกเล่ากันอีกด้วยค่ะ หากพร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะว่าเมล็ดกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้าแบรนด์ไหนน่าสนใจบ้าง?
เมล็ดกาแฟ ยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะกับเรา
- กาแฟโรบัสต้าสำหรับผสมนมโดยเฉพาะ รสหอมเข้มทะลุนม: Catimore เมล็ดกาแฟโรบัสต้าชุมพรแท้ 100% เข้มทะลุนม Italian Roast
- เมล็ดกาแฟ สำหรับสายกาแฟนม : Milkster Brazil Signature Blend S เมล็ดกาแฟ CRAFT สำหรับสายกาแฟนม
- กาแฟโรบัสต้า คั่วเข้มพิเศษถูกใจสายเข้ม: Espresso Pure by NLCOFFEE กาแฟโรบัสต้า 100% เข้ม หนักแน่น สไตล์กาแฟไทย
- กาแฟอาราบิก้า รสชาติ และกลิ่มหอมแบบเอกลักษณ์: The Summer Coffee Company เมล็ดกาแฟ Mr.Rum Raisin
- กาแฟอาราบิก้าสายประกวด ดีกรีแชมป์ประเทศไทย และแชมป์โลก: Nana Coffee Roasters : Moonstone เมล็ดกาแฟอาราบิก้าคั่วอ่อน
ทำความรู้จักกับ เมล็ดกาแฟ คืออะไร ?
เมล็ดกาแฟสีน้ำตาลที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้นั้น หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าที่จริงเป็นผลไม้ในตระกูลเชอร์รี่ในวงศ์ Coffea ซึ่งผลกาแฟที่สุกแล้วตอนที่อยู่บนต้นจะมีผลเป็นสีแดง ก่อนจะนำเข้าไปสู่กระบวนการแปรรูปต่าง ๆ เริ่มด้วยการปอกเปลือกออกจากนนั้นนำไปตากแห้ง ก่อนที่จะนำไปเข้าสู่กระบวนการคั่วกาแฟ จนออกมาเป็นกาแฟเมล็ดสีน้ำตาลที่เราคุ้นตากันอยู่ทุกวันนี้

ซึ่งขั้นตอนการคั่วเมล็ดกาแฟนั้นเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เมล็ดกาแฟมีกลิ่นที่หอมและรสชาติกาแฟที่ดี เพราะจริง ๆ แล้วเมล็ดกาแฟดิบนั้นมีกลิ่นที่ออกจะเหม็นเขียวแบบกลิ่นผลพืชปกติเลยค่ะ โดยการคั่วเมล็ดกาแฟนั้นจะทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีมากมายภายในเมล็ดกาแฟ จนทำให้เกิดรสหวาน, รสเปรี้ยว และกลิ่นหอมจากตัวเมล็ดกาแฟออกมา อีกทั้งยังทำให้เม็ดกาแฟมีกลิ่นและรสที่ไม่เหมือนกันจากระดับการคั่วเมล็ดกาแฟที่ต่างกัน อาทิเช่น ถ้าหากนำไปคั่วอ่อนก็จะได้รสชาติอย่างหนึ่ง แต่ถ้านำไปคั่วเข้มก็จะได้รสชาติเปลี่ยนไปอีกอย่างหนึ่ง
เมล็ดกาแฟมีอยู่กี่ชนิด กาแฟสายพันธุ์ไหนนิยมมากที่สุด ?

ในความเป็นจริงแล้ว บนโลกของเราใบนี้มีพันธุ์กาแฟอยู่มากมายหลากพันธุ์หลายชนิด แต่ที่เรารู้จักกันโดยทั่วไปจะมีอยู่ 4 สายพันธุ์ คือ กาแฟอราบิก้า (Arabica), กาแฟโรบัสต้า (Robusta), กาแฟเอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa) และกาแฟลิเบอริก้า (Liberica) แต่กาแฟพันธุ์เอ็กซ์เซลซ่าและลิเบอริก้าจะไม่ค่อยนิยมนำมาปลูกเพื่อการค้าเพราะมีรสชาติที่ไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกกันและมีผู้คนดื่มกันเยอะก็จะเป็นสายพันธุ์อาราบิก้า และโรบัสต้าที่มีรสชาติที่ดีกว่านั้นก็คือนั่นเองค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง เมล็ดกาแฟ อาราบิก้า VS โรบัสต้า
อาราบิก้า (Arabica) มีรสชาติอย่างไร ?
อาราบิก้า (Arabica) เป็นสายพันธุ์กาแฟที่นิยมปลูกและบริโภคกันมากที่สุด เพราะกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้านี้ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพและมีปริมาณสารกาแฟชั้นดี ที่ทั้งมีกลิ่นและรสชาติดีที่สุด ซึ่งเมล็ดกาแฟอาราบิก้านั้นจะมีรูปร่างค่อนข้างเรียวผอม มีรอบผ่าตรงกลางเมล็ดลักษณะคล้ายตัว S เมื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการคั่วกาแฟแล้วก็จะได้เมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นหอมหวานอบอวล ให้กลิ่นและรสที่มีความซับซ้อนเฉพาะตัว คล้ายกับกลิ่นช็อกโกแลต ดอกไม้ และรสชาติที่นุ่มละมุน
พื้นที่เพาะปลูก : กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้านั้นเป็นพืชที่ชอบความเย็น จึงเจริญเติบโต และให้ผลผลิตได้ดีในพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เช่น ในจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ตาก, น่าน, แม่ฮ่องสอน และลำปางค่ะ

โรบัสต้า (Robusta) มีรสชาติอย่างไร ?
โรบัสต้า (Robusta) เป็นสายพันธุ์กาแฟที่มีรสชาติแตกต่างกับอาราบิก้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีรสชาติที่ขมกว่า มีความเปรี้ยว และฝาดมากกว่า แต่ในด้านความเข้มข้นนั้นกาแฟพันธุ์โรบัสต้าก็จะมีมากกว่าเช่นกัน ซึ่งคุณสามารถรับรู้ได้ในเวลาที่ดื่ม โดยส่วนใหญ่แล้วเมล็ดกาแฟชนิดนี้มักจะถูกนำมาผลิตเป็นกาแฟซองสำเร็จรูปหรือนำไปผสมกับเมล็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้า เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติที่กลมกล่อมขึ้น โดยเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้านั้นจะมีลักษณะอวบอ้วน ตรงด้านหลังมีความนูนขึ้นเป็นหลังเต๋า รอยผ่าตรงกลางเมล็ดกาแฟจะค่อนข้างตรง เมื่อผ่านการคั่วแล้วเมล็ดกาแฟสายพันธุ์นี้จะให้กลิ่นที่ไม่หอมหวาน ไม่มีความซับซ้อน และมีรสชาติที่ฝาดมากกว่าพันธุ์อาราบิก้าค่ะ
พื้นที่เพาะปลูก : กาแฟพันธุ์โรบัสต้านั้นเป็นกาแฟต้องการความชุ่มชื้นสูง แต่สามารถปลูกได้ง่ายและให้ผลผลิตในปริมาณมาก จึงนิยมปลูกกันมากในทวีปแอฟริกาและเอเชีย สำหรับในประเทศไทยจะนิยมปลูกทางภาคใต้ เช่น ในจังหวัดชุมพร, สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราชค่ะ
แนะนำ เมล็ดกาแฟอาราบิก้า-โรบัสต้า แบรนด์ไหนดีที่สุด
Daniel's Artisan Roastery กาแฟโรบัสต้าคั่วบด เกรด A คั่วใหม่ทุกออเดอร์

ราคา 102 บาท*
หากคุณเป็นคนที่ชอบกาแฟแบบเข้ม ๆ ไม่ติดเปรี้ยว แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าขมบาดคอจนเกินไป เราขอแนะนำเป็นเมล็ดเมล็ดกาแฟโรบัสต้า 100% เกรด A ถุงนี้เลยค่ะ เพราะกาแฟถุงนี้เป็นเมล็ดกาแฟแบบ Fine Robusta ที่ได้รับการแปรรูปอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกเมล็ดกาแฟที่สุกเต็มที่ มีการคัดเกรดสารกาแฟ และมีการตากที่สะอาด แตกต่างจากการแปรรูปกาแฟ Robusta ในเกรดอุตสาหกรรมสำเร็จรูปทั่วไป จากนั้นจึงนำมาคั่วในระดับเข้ม จึงทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้น หอมกลอมกล่อม แต่ไม่บาดคอ ซึ่งสามารถชงได้ทั้งเมนูร้อนและเมนูเย็นเลยค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากเมล็ดกาแฟ Fine Robusta ที่ได้รับการแปรรูปอย่างพิถีพิถัน
- เมล็ดกาแฟคั่วระดับเข้ม บดสำเร็จ รสชาติเข้มข้น แต่ไม่บาดคอ
- บรรจุมาในถุงฟอยด์ทึบแสง ติดวาล์วทางเดียว ช่วยป้องกันอากาศจากภายนอก
- สามารถชงได้ทั้งเมนูร้อนและเมนูเย็น
สายพันธุ์กาแฟ | Fine Robusta |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วเข้ม (Dark Roast) |
Test note | ไม่ระบุ |
แหล่งปลูก | Thailand |
ปริมาณ | 250 g. |
PHAYAO COFFEE ROASTER กาแฟคั่วเม็ดโรบัสต้า 100%

ราคา 120 บาท*
สำรับเมล็ดกาแฟตัวแรก เรามาเอาใจสายชอบกาแฟรสชาติเข้ม ๆ กันด้วยเมล็ดกสแฟจากแบรนด์ PHAYAO COFFEE ตัวนี้เลยค่ะ ซึ่งเมล็ดกาแฟถุงนี้เป็นเมล็ดกาแฟโรบัสต้าแท้ 100% จากแหล่งภาคใต้ นำมาคั่วในระดับคั่วเข้ม (Dark Roast) ทำให้ได้เมล็ดกาแฟคั่วที่มีความหอม เข้ม ขม ในสไตล์โรบัสตาที่ลงตัว รับรองว่าโดนใจคอกาแฟสายเข้มแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ทางร้านยังมีบริการทั้งเมล็ดกาแฟแบบเต็มเมล็ด และเมล็ดกาแฟแบบบดที่สามารถเลือกระดับการบดได้ทั้งบดแบบละเอียด, บดแบบหยาบ, บดสำหรับแคปซูล และบดสำหรับ Mokapot ค่ะ
จุดเด่น
- เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า 100%
- คั่วเมล็ดกาแฟในระดับคั่วเข้ม รสชาติเข้มข้น
- มีบริการทั้งเมล็ดกาแฟคั่วแบบเต็มเมล็ด และแบบบด
- สามารถเลือกรับการบดได้หลากหลาย
สายพันธุ์กาแฟ | โรบัสต้า 100 % |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วเข้ม (Dark Roast) |
Test note | ไม่ระบุ |
แหล่งปลูก | ไม่ระบุ |
ปริมาณ | 250 g. |
Bluekoff A5 เมล็ดกาแฟไทย อาราบิก้า100% เกรด A คั่วเข้ม

ราคา 151 บาท*
มากันที่ฝั่งคอกาแฟสายนุ่มนวลกันบ้าง ด้วยเม็ดกาแฟพันธุ์อาราบิก้าจากแบรนด์ Bluekoff ตัวนี้ ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่เก็บเกี่ยวจากดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย และเป็นอีกหนึ่งกาแฟสัญชาติไทยที่ได้รับรางวัล Coffee Review มาช่วยการันตีคุณภาพมาตรฐานสากลระดับโลก เมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่ได้ถูกนำมาคั่วในระดับ Dark Roast ที่ช่วยให้ได้กาแฟที่มีรสชาติหอมกลมกล่อมกำลังดี มีบอดี้ที่หนักแน่น และยังได้รสสัมผัสหอมหวานของคาราเมล ช็อกโกแลต และรสโทนถั่ว อีกทั้งยังสามารถนำไปชงได้ทั้งเมนูอเมริกาโน่ และเมนูนมอีกด้วยค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากดอยช้าง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย
- เมล็ดกาแฟคั่วระดับคั่วเข้ม (Dark Roast) หอมเข้ม กลมกล่อม
- ได้รับรางวัล Coffee Review การันตีคุณภาพมาตรฐานสากลระดับโลก
- ได้รสสัมผัสหอมหวานของคาราเมล ช็อกโกแลต และรสโทนถั่ว
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วเข้ม (Dark Roast) |
Test note | หวานคาราเมล ช็อกโกแลต และโทนถั่ว |
แหล่งปลูก | ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย |
ปริมาณ | 250 g. |
Catimore เมล็ดกาแฟโรบัสต้าชุมพรแท้ 100% เข้มทะลุนม Italian Roast

ราคา 155 บาท*
สำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟนม แต่ในบางครั้งก็รู้สึกว่ากลิ่น และรสชาติกาแฟถูกรสของนมกลบไป ขอแนะนำเป็นเมล็ดกาแฟโรบัสต้าถุงนี้เลยค่ะ เพราะเมล็ดกาแฟถุงนี้เป็นเมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าแท้จากจังหวัดชุมพร 100% นำมาคั่วในระดับ Italian Roast ทำให้ได้กาแฟรสชาติเข้มข้น และหอมกรุ่นเตะจมูก เรียกได้ว่านำไปชงเมนูนมกลิ่น และรสก็ยังหอมเข้มทะลุนมขึ้นมาเลยทีเดียว นอกจากนี้จากร้านยังคั่วเมล็ดกาแฟใหม่ทุกสัปดาห์ ทำให้กาแฟที่จัดส่งสดใหม่อยู่เสมอ หมดปัญหากาแฟไม่มีกลิ่นหอม หรือเกิดกลิ่นหืนค่ะ
จุดเด่น
- เมล็ดกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าแท้ 100% จากจังหวัดชุมพร
- คั่วในระดับ Italian Roastได้รสชาติที่เข้มข้น และกลิ่นหอมเตะจมูก
- เหมาะสำหรับชงเมนูนม กลิ่น และรสของกาแฟไม่หาย
- ทางร้านคั่วกาแฟใหม่ทุกสัปดาห์ ทำให้ได้กาแฟที่สดใหม่อยู่เสมอ
สายพันธุ์กาแฟ | โรบัสต้า |
---|---|
ระดับการคั่ว | Italian Roast |
Test note | ไม่ระบุ |
แหล่งปลูก | จังหวัดชุมพร |
ปริมาณ | 500 g. |
HILLKOFF : Ratika Robusta French Roast เมล็ดกาแฟโรบัสต้าคั่วเข้ม

ราคา 169 บาท*
อีกหนึ่งกาแฟโรบัสต้าที่เราอยากจะแนะนำให้คอกาแฟสายเข้มได้รู้จัก นั่นก็คือเมล็ดกาแฟโรบัสต้าแท้ 100% กาแฟ Ratika คั่วเข้มถุงนี้นั่นเองค่ะ ซึ่งขอบอกเลยว่าเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟโรบัสต้าแบบเข้ม ๆ เพราะเมล็ดกาแฟตัวนี้เป็นโรบัสต้าคั่วเข้มที่ชงออกมาแล้วได้บอดี้ที่แน่นสะใจ มีกลิ่นหอมอโรม่าเข้มข้น และยังไม่ติดรสชาติเปรี้ยว ช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ตื่นเต็มตาทันทีที่ได้ดื่ม นอกจากนี้กาแฟรุ่นนี้ยังสามารถนำมาชงได้ทั้งเมนูร้อน และเมนูเย็นโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียรสชาติกาแฟไปค่ะ
จุดเด่น
- กาแฟราติก้า โรบัสต้าแท้ 100%
- เมล็ดกาแฟแบบคั่วเข้ม บอดี้แน่น หอมเข้มข้น
- สามารถชงได้ทั้งเมนูร้อน และเมนูเย็นโดยที่ไม่เสียรสชาติ
สายพันธุ์กาแฟ | โรบัสต้าแท้ 100% |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วเข้ม (Dark Roast) |
Test note | ไม่ระบุ |
แหล่งปลูก | ไม่ระบุ |
ปริมาณ | 500 g. |
Mezzo Roasted Coffee Beans เมล็ดกาแฟอาราบิก้าเกรดพรีเมียม

ราคา 199 บาท*
สำหรับเมล็ดกาแฟตัวนี้ขอบอกเลยค่ะว่าเป็นเมล็ดกาแฟอาราบิก้าสูตรพรีเมี่ยม เพราะทางแบรนด์ได้ทำการคัดสรรเมล็ดกาแฟมาจากเทือกเขาสูงที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ในทางภาคเหนือของประเทศไทย เช่น ดอยตุง, ดอยช้าง และดอยวาวี จากนั้นนำมาคั่วในระดับคั่วเข้ม และยังผสมเมล็ดกาแฟโรบัสต้าเล็กน้อย ช่วยให้ได้กาแฟที่มีกลิ่นหอม และรสชาติที่เข้มข้น เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟรสเข้มแต่ไม่บาดคอ สามารถนำมาชงได้ทั้งเมนูร้อน และเมนูเย็น หรือจะนำไปทำเมนูนมก็ยังคงกลิ่นหอม และรสอร่อยของกาแฟได้ดีค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้าเกรดพรีเมี่ยม จากเทือกเขาสูงที่มีชื่อเสียงทางภาคเหนือของไทย
- เมล็ดกาแฟสูตรคั่วระดับเข้ม ได้รสชาติ และกลิ่นหอมที่เข้ม
- เป็นกาแฟอาราบิก้าที่ผสมกาแฟโรบัสต้าเล็กน้อย เพิ่มรสชาติที่เข้มข้น
- สามารถชงได้ทั้งเมนูร้อน, เมนูเย็น และเมนูนม โดยที่กลิ่น และรสของกาแฟไม่หายไป
- มีบริการบดให้ฟรี
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วเข้ม |
Test note | ไม่ระบุ |
แหล่งปลูก | เทือกเขาสูงในภาคเหนือของไทย เช่น ดอยตุง, ดอยช้าง และดอยวาวี |
ปริมาณ | 250 g. |
Milkster Brazil Signature Blend S เมล็ดกาแฟ CRAFT สำหรับสายกาแฟนม

ราคา 250 บาท*
สำหรับเมล็ดกาแฟตัวนี้รับรองว่าถูกใจสายกาแฟนมแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า เพราะเมล็ดกาแฟอาราบิก้าคั่วตัวนี้ถูกคัดสรร และผลิตสูตรมาเพื่อให้สามารถใส่ผสมกับนมได้อร่อยที่สุด โดยที่รส และกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟไม่หายไป และยังคั่วด้วยการคั่วระดับกลางค่อนเข้ม ทำให้ได้กลิ่นหอม และได้รสชาติโทน Dark chocolate, Nutty ที่ชัดเจน ไม่ติดเปรี้ยวเมื่อนำไปผสมนม แต่ถ้าหากดื่มแบบเอสเพรสโซ่อาจจะมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งทางร้านก็มีเมล็ดกาแฟให้เลือกทั้งแบบเต็มเมล็ด และแบบบดหลากหลายแบบเลยค่ะ
จุดเด่น
- ใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์ อาราบิก้า Brazil Blend
- คั่วในระดับกลางค่อนเข้ม กลิ่นหอม บอดี้แน่นแต่ไม่บาดคอ
- เหมาะสำหรับนำไปทำเมนูนม เพราะจะไม่ติดเปรี้ยว กลิ่น และรสไม่หาย
- แต่ถ้าหากทานเป็นเมนูเอสเพรสโซจะติดเปรี้ยวเล็กน้อย
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า (Brazil Blend) |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วกลางค่อนเข้ม |
Test note | Dark chocolate , Nutty , caramel |
แหล่งปลูก | Brazil |
ปริมาณ | 250 g. |
Espresso Pure by NLCOFFEE กาแฟโรบัสต้า 100% เข้ม หนักแน่น สไตล์กาแฟไทย

ราคา 325 บาท*
สำหรับเมล็ดกาแฟโรบัสต้าตัวสุดท้ายที่อยากจะแนะนำกัน เป็นเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่ขอบอกเลยว่าเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบกาแฟรสชาติเข้มจัด ๆ มีความหนักแน่นสไตล์กาแฟไทย เพราะกาแฟถุงนี้เป็นกาแฟโรบัสต้าสูตรคั่วเข้มพิเศษ ทำให้กาแฟที่ได้มีตัวบอดี้ที่แน่นมาก ๆ รสชาติหนักลิ้น กลิ่น และรสค้างในปากนาน ได้กลิ่นหอมแบบเข้ม ๆ และที่สำคัญคือไม่มีความเป็นกรด ทำให้ไม่มีรสเปรี้ยว เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการชงกาแฟเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมนูนม เพราะจะได้กาแฟที่เข้มข้นหอมมันสไตล์คนไทย หรือจะดื่มแบบอเมริกาโนก็อร่อยเข้มตื่นเต็มตา รับรองว่าถูกใจคอกาแฟสายแข็งแน่นอนค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากเมล็ดกาแฟโรบัสต้า 100%
- สูตรคั่วเข้มพิเศษ ได้รสชาติที่หอมเข้ม บอดี้แน่น รสค้างในปากนาน
- ไม่มีความเป็นกรด ทำให้ไม่มีรสเปรี้ยว
- สามารถนำไปชงเมนูนมได้ โดยที่กลิ่น และรสของกาแฟไม่หายไป
สายพันธุ์กาแฟ | โรบัสต้า |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วเข้มพิเศษ |
Test note | ไม่ระบุ |
แหล่งปลูก | ไม่ระบุ |
ปริมาณ | 250 g. x 4 แพ็ค |
The Summer Coffee Company เมล็ดกาแฟ Mr.Rum Raisin

ราคา 460 บาท*
หากคุณต้องการดื่มกาแฟที่ให้รสชาติ และสัมผัสที่แปลกใหม่ เราขอแนะนำให้คุณลองชิมเมล็ดกาแฟถุงนี้เลยค่ะ เพราะ Mr.Rum Raisin ถุงนี้เป็นเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าที่มีคาเรคเตอร์เป็นเอกลักษณ์ จากกระบวนการบ่มกาแฟที่ซับซ้อน จากนั้นจึงนำมาคั่วด้วยการคั่วระดับกลาง ทำให้ได้รสที่หอมหวานของ Raisin หรือลูกเกด และกลิ่นหอมอบอวลของ Rum และกลิ่นหวานละมุนของ Vanilla สามารถดื่มได้ทั้งแบบกาแฟดำเพื่อลิ้มรสชาติ และกลิ่นที่ชัดเจน หรือถาลองนำไปทำเป็นเมนูกาแฟนมก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทานไอศครีม Rum Raisin เลยทีเดียว ถือเป็นเมล็ดกาแฟอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความนิยม และมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า
- เป็นเมล็ดกาแฟคั่วกลาง ให้รสชาติ และกลิ่นที่หอมละมุนกำลังพอดี
- มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยรสชาติของ Raisin หอมอบอวลด้วยกลิ่นของ Rum และ Vanilla
- สามารถดื่มได้ทั้งแบบกาแฟดำ และเมนูนมเพื่อเพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่
- เมล็ดกาแฟคั่วใหม่ทุกวัน พร้อมบริการบดฟรี สามารถเลือกระดับการบดได้
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วกลาง (Medium) |
Test note | Rum, Raisin, Vanilla |
แหล่งปลูก | ไม่ระบุ |
ปริมาณ | 200 g. |
Nana Coffee Roasters : Moonstone เมล็ดกาแฟอาราบิก้าคั่วอ่อน

ราคา 498 บาท*
สำหรับเมล็ดกาแฟตัวสุดท้ายนี้ เป็นสุดยอดเมล็ดกาแฟไทยที่สร้างความฮือฮาเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา จากร้าน Nana Coffee Roasters ร้านกาแฟออร์แกนิคจากเชียงใหม่ที่มีดีกรีแชมป์ประเทศไทย และแชมป์โลก ซึ่ง ‘คุณเอก สุวรรณโน’ นัก Process ประจำร้านนี่เอง ที่ได้ออกแบบเมล็ดกาแฟ Moonstone ขึ้นมา และกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ด้วยเมล็ดกาแฟอาราบิก้าแบบคั่วอ่อนที่มีบอดี้ปานกลาง และรสสว่าง มาพร้อมกับกลิ่นหอมสดชื่นของลิ้นจี่ กลิ่นหวาน ๆ คล้ายลูกอม รวมถึงกลิ่นหอมอบอวลของกุหลาบ และกลิ่นฟลอรัล อีกทั้งยังให้ความนุ่มนวลแบบ Creamy ในขณะดื่ม จึงไม่แปลกใจเลยที่กาแฟชนิดนี้จะได้รับการพูดถึงจากเหล่าคอกาแฟ ถือเป็นเมล็ดกาแฟอีกหนึ่งตัวที่อยากให้ลองชิมเลยค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า
- คั่วในระดับคั่วอ่อน รสสว่างทานง่าย ได้กลิ่นหอมอบอวล
- มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของลิ้นจี่ และลูกกวาด ร่วมกับความหอมอบอวลของกุหลาบ และกลิ่นแนวฟลอรัล
- แหล่งปลูกจากหมู่บ้านแม่ตอนหลวง ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
สายพันธุ์กาแฟ | อาราบิก้า |
---|---|
ระดับการคั่ว | คั่วอ่อน |
Test note | Lychee, Rose, Candy-like, Floral, Creamy Mouthfeel |
แหล่งปลูก | หมู่บ้านแม่ตอนหลวง จ.เชียงใหม่ |
ปริมาณ | 100 g. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีเลือก เมล็ดกาแฟ อย่างไรให้รสชาติอร่อยถูกใจ
1. เลือกความเข้มจากระดับการคั่วกาแฟ
หลังจากที่คุณเลือกสายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟที่ตรงใจกันไปแล้ว ในลำดับต่อมาเราก็ต้องมาเลือกระดับความเข้มของการคั่วเมล็ดกาแฟกันค่ะ ซึ่งระดับในการคั่วนี้เองก็มีผลกับกลิ่น และรสชาติของกาแฟที่ได้ โดยลำดับในการคั่วเมล็ดกาแฟส่วนใหญ่ที่เราเห็นกันตามท้องตลาดจะแบ่งออกประมาณ 3 ระดับ แต่จริง ๆ แล้วสามารถแบ่งได้ถึง 4 ระดับเลยค่ะ

เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน (Light Roast)
กาแฟคั่วอ่อนตัวเมล็ดจะมีสีน้ำตาลอ่อน และมีผิวที่แห้ง กาแฟคั่วอ่อนจะมีรสชาติที่ค่อนข้างบางเบกว่าตัวอื่น ๆ และรสชาติที่ออกเปรี้ยวเป็นจุดเด่น กลิ่นของกาแฟที่ได้จะมีความโดดเด่นและซับซ้อน สามารถดึงเอากลิ่นพิเศษตามตามคาแรคเตอร์ของสายพันธุ์, แหล่งที่ปลูก และกระบวนการ Process ออกมาได้มากที่สุด เช่น กลิ่นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่, ส้ม, แอปเปิ้ล, ลิ้นจี่ หรือกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ต่าง ๆ เป็นต้น
เมล็ดกาแฟคั่วกลาง (Medium Roast)
กาแฟคั่วกลางตัวเมล็ดจะมีสีน้ำตาลกลางถึงน้ำตาลเข้ม และมีผิวที่ค่อนข้างแห้ง รสชาติของกาแฟที่ได้จะลดความเป็นผลไม้ลง และได้รสเข้มของกาแฟมากขึ้น แต่ยังคงมีรสเปรี้ยวแบบผลไม้อยู่ มาพร้อมบอดี้ของกาแฟที่แน่นและขมขึ้น เติมด้วยรสหวานและมีกลิ่นออกโทนโกโก้หรือช็อคโกแลตเข้ามา ซึ่งช่วยเพิ่มความสมดุลกับรสเปรี้ยวแบบผลไม้ค่ะ
เมล็ดกาแฟคั่วกลางค่อนเข้ม (Medium – Dark Roast)
กาแฟคั่วกลางค่อนเข้มตัวเมล็ดกาแฟจะมีสีน้ำตาลเข้มแต่ไม่ถึงดำ และมีผิวที่ค่อนข้างมันจากน้ำมันที่เคลือบผิวกาแฟ ซึ่งกาแฟคั่วในระดับนี้ตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟเข้มแต่ไม่ถึงขั้นขมมาก เพราะคั่วกลางค่อนเข้มจะอยู่กึ่งกลางระหว่างคั่วกลางและคั่วเข้ม จึงช่วยผสมผสานรสชาติกลมกล่อม หอมนุ่มแบบ Milk Chocolate และรสชาติเข้ม ๆ แบบ Dark chocolate ได้เป็นอย่างดี
เมล็ดกาแฟคั่วเข้ม (Dark Roast)
กาแฟที่คั่วเข้มเมล็ดกาแฟจะมีสีเข้มจัดจนเกือบดำ และมีน้ำมันเคลือบผิวกาแฟจนขึ้นเป็นเงาสวย รสชาติกาแฟที่ได้จะมีความเข้มข้นมาก ๆ และหนักแน่นมากกว่าการคั่วแบบอื่น ๆ ผสมกับกลิ่น Dark Chocolate ที่ชัดเจน ทำให้กาแฟที่ได้มีความหอมนุ่ม เหมาะสำหรับนำไปทำเมนูเย็นหรือเมนูกาแฟที่ใส่นม เพราะกลิ่นและรสของกาแฟจะไม่ถูกกลบไปจนหมด และเหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟรสเข้มที่ไม่ติดรสเปรี้ยวค่ะ
2. คั่วเม็ด หรือ คั่วบด
จริง ๆ แล้วหากคุณเป็นคนที่หลงไหลในการชงกาแฟและชอบความสดใหม่ เราแนะนำให้ซื้อเมล็ดกาแฟแบบคั่วเม็ดที่ไม่ผ่านการบดใด ๆ เพราะจะให้รสชาติที่ไม่เพี้ยนไปจากเดิม สามารถคงรสชาติและกลิ่นได้ยาวนานกว่าอีกด้วยนะคะ โดยทุกครั้งที่คุณบดเมล็ดกาแฟใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องบดกาแฟมือหมุนหรือเครื่องบดเมล็ดกาแฟไฟฟ้าก็ตาม รสชาติกาแฟที่ได้ดีกว่าแบบคั่วบด และทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกอย่างที่เราอยากแนะนำคือ หากคุณต้องการดื่มกาแฟที่รสเข้มหอมกรุ่นในทุก ๆ ครั้งที่ชง คุณไม่ควรบดกาแฟทิ้งเอาไว้ก่อน แต่ควรบดในปริมาณที่พอดีต่อการชงแต่ละครั้งค่ะ

แต่สำหรับใครที่ต้องการความสะดวก คุณก็สามารถเลือกซื้อเมล็ดกาแฟแบบคั่วบดได้เช่นกันค่ะ แต่เราขอแนะนำให้ซื้อในปริมาณที่ไม่เยอะเกินไป เพราะการเก็บเมล็ดกาแฟคั่วบดไว้นาน ๆ จะทำให้รสชาติเพี้ยนได้ สำหรับระดับการบดเมล็ดกาแฟนั้นก็จะมี 4 ระดับ คือ บดหยาบ, บดปานกลาง, บดละเอียด และบดละเอียดมาก โดยวิธีเลือกนั้นก็ขึ้นอยู่กับเครื่องชงกาแฟที่คุณใช้ อาทิเช่น การชงแบบ French Press เหมาะกับบดหยาบ, การชงแบบ Dripper เหมาะกับบดปานกลาง หรือ การชงกับเครื่อง Espresso เหมาะกับบดละเอียดและบดละเอียดมาก แต่หากถามถึงเรื่องรสชาตินั้น เมล็ดกาแฟที่บดละเอียดมากเท่าไหร่ก็จะให้รสชาติที่เข้มข้นมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
3. เลือกแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ
เพราะเมล็ดกาแฟเป็นผลผลิตที่ได้มาจากธรรมชาติ ดังนั้นสภาพแวดล้อมของแหล่งที่ปลูกกาแฟจึงมีผลเป็นอย่างมากต่อเมล็ดกาแฟที่ได้ ทั้งในด้านของการเจริญเติบโตและรสชาติของเมล็ดกาแฟที่แตกต่างกันในการปลูกแต่ละพื้นที่ เช่น ในพื้นที่ทางตอนใต้ที่มีระดับต่ำกว่าระดับน้ำทะเลจะได้ผลผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่เข้มข้นเพราะสายพันธุ์โรบัสต้าชอบความชื่น และสามารถปลูกได้ในที่อากาศร้อน ส่วนในทางภาคเหนือของประเทศไทยที่มีอากาศหนาวเย็นจะสามารถปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้าที่มีกลิ่นหอมชวนหลงใหลได้ดีค่ะ
4. เลือกซื้อกาแฟคั่วใหม่ และตรวจสอบวันที่คั่ว หรือวันหมดอายุเสมอ
ในการจะเลือกซื้อเมล็ดกาแฟซักถุง คุณควรเลือกเมล็ดกาแฟที่คั่วใหม่หรือมีอายุไม่เกิน 2 เดือนเสมอ เพราะกาแฟที่คั่วสดใหม่นั้นจะมีเสน่ห์ที่กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นและรสชาติกาแฟที่เข้มข้นกว่า ซึ่งเสน่ห์เหล่านี้มักจะค่อยสลายหายไปตามวันเวลา หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือกาแฟยิ่คั่วมานานเท่าไหร่ตัวกลิ่นหอมและรสชาติของกาแฟก็จะหายไปเท่านั้น
ดังนั้นคุณจึงควรตรวจสอบวันที่ผลิตหรือวันที่คั่วก่อนซื้อทุกครั้ง นอกจากนี้การดมกลิ่นยังเป็นวิธีที่ดีนการยืนยันว่าเมล็ดกาแฟที่คุณซื้อมายังคงสดใหม่ตามอายุการคั่ว โดยกาแฟกาแฟที่คั่วสดใหม่และมีคุณภาพที่ดีจะมีกลิ่นที่หอมอบอวลอยู่เต็มถุง ซึ่งคุณสามารถดมได้จาก One way valve ที่อยู่บนถุงกาแฟ แต่ถ้าหากกลิ่นที่คุณได้รับจากภายในถุงกาแฟเป็นกลิ่นแปลก ๆ เช่น กลิ่นอับ, กลิ่นเชื้อรา หรือกลิ่นบูด แนะนำว่าคุณความทิ้งกาแฟถุงนั้นไปจะดีกว่า เพราะสาเหตุของกลิ่นมักจะมาจากกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น การคั่วกาแฟดิบเสื่อมคุณภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้หากคุณดมแล้วได้กลิ่นเหม็นหืนจากเมล็ดกาแฟ นั้นแปลว่าเป็นกาแฟคั่วที่ถูกเก็บเอาไว้นาน หรือเป็นกาแฟที่เก็บรักษาไม่ดี ซึ่งนอกนจากจะเกิดกลิ่นหืนแล้วกาแฟก็จะยังสูญเสียความอร่อย มีรสชาติที่จืดค่ะ
วิธีการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้สดใหม่ยาวนาน
จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าการซื้อเมล็ดกาแฟนั้นไม่ได้แค่ซื้อมาวางเอาไว้แล้วก็จบ เพราะถ้าหากคุณเก็บเมล็ดกาแฟผิดวิธีปัญหาที่จะตามมาคือกลิ่นเหม็นหืนของเมล็ดกาแฟ รสชาติ และกลิ่นหอมของกาแฟสี และยังมีปัญญาเชื้อราจากความชื้นอีกด้วย
ดังนั้นคุณจึงควรเก็บรักษาเมล็ดกาแฟอย่างถูกวิธี ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการเก็บเอาไว้ในถุงกาแฟไปเลยด้วยการปิดถุงให้มิดชิด โดยการไล่อากาศภายในถุงออก แล้วพับฝาถุงลงมาหลาย ๆ ชั้น จากนั้นใช้ตัวหนีบหนีบเอาไว้เพื่อกันอากาศเข้า หรือคุณอาจจะเลือกใช้เป็นโหลเก็บเมล็ดกาแฟโดยเฉพาะก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ เพราะก็สามารถช่วยปกป้องเมล็ดกาแฟของคุณได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพเช่นกัน จากนั้นแนะนำให้คุณนำกาแฟไปเก็บเอาไว้ในที่แห้งและเย็น ควรเก็บกาแฟโดยหลีกเลี่ยงความร้อน ความชื้น และแสงแดดเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เมล็ดกาแฟเสื่อมสภาพค่ะ
แต่ถึงอย่างนั้นการเก็บเมล็ดกาแฟในตู้เย็นหรือช่องแช่แข็งก็เป็นสิ่งที่ไม่แนะนำนะคะ เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยถนอมคุณภาพเมล็ดกาแฟอย่าที่เราเข้าในแล้ว ยังจะเร่งให้เมล็ดกาแฟเสื่อมประสิทธิ์ภาพเร็วเข้าไปอีก เพราะความชื้นในตู้เย็นที่อาจทำให้เกิดหยดน้ำเกาะบนเมล็ดกาแทำให้กาแฟชื้นและเสียรสชาติ อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดปัญหาเชื้อราได้ รวมถึงเมล็ดกาแฟยังสามารถดูดซับกลิ่นของอาหารอื่น ๆ เข้ามาในตัวเองได้อีกด้วย ทำให้กลิ่นของกาแฟแทบจะไม่หลงเหลืออยู่ในตัวเมล็ดเลยล่ะค่ะ
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคนกับ ‘เมล็ดกาแฟอาราบิก้า & โรบัสต้า’ ตัวเด็ด ๆ และคำแนะนำดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะได้เมล็ดกาแฟที่ถูกใจ และได้รับความรู้ใหม่ ๆ จากคำแนะนำของเรานะคะ แต่ขอบอกเลยว่านอกจากกาแฟคั่วแบบเต็มเมล็ดและกาแฟคั่วบดแล้ว ก็ยังมีกาแฟอีกหลายแบบให้คุณได้เลือกลิ้มลองกันทั้งกาแฟขี้ชะมด, กาแฟดริปแบบซอง และกาแฟแคปซูล NESCAFE Dolce Gusto นอกจากนี้ยังมีกาแฟดีแคฟ หรือกาแฟไร้คาเฟอีนสำหรับคนที่อยากดื่มด่ำกับรสชาติ และกลิ่นหอม ๆ ของกาแฟ แต่ไม่อยากให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนอีกด้วยค่ะ