Huawei ถือเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีได้ภายในไม่กี่ปี ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปสัก 10 ปีก่อนเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนยังไม่รู้จักแบรนด์นี้เลยด้วยซ้ำครับ แต่ ณ ตอนนี้ Huawei ได้ขึ้นไปยืนอยู่เคียงข้างกับ Sumsung และ Apple แล้ว โดยเหตุผลที่ทำให้หัวเว่ยประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะว่าได้ผลิตอุปกรณ์ไอทีออกมามากมายครับ ไม่เพียงแต่ Huawei Phones เท่านั้น แต่ยังมีทั้ง Pocket WiFi, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ อีกมากมาย
และอีกหนึ่งอุปกรณ์จาก หัวเว่ย ที่ได้รับความนิยมนั่นก็คือ หัวเว่ยสมาร์ทวอทช์ (Huawei Smart Watch) ครับ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีคู่แข่งอยู่หลายแบรนด์ทั้ง Apple, Realme, Samsung, OPPO, Garmin และ Xiaomi แต่นาฬิกาหัวเว่ยก็สามารถทำส่วนแบ่งจากตลาดนี้ได้เป็นกอบเป็นกำครับ

สำหรับในวันนี้เราได้คัดเลือก Huawei Watch รุ่นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน รวมไปถึงสมาร์ทวอทช์จาก แบรนด์ Honor ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Huawei นำมารีวิว เพื่อให้คุณได้เห็นถึงความแตกต่างในแต่ละรุ่น และสามารถที่จะเลือกรุ่นที่เหมาะกับตัวคุณเองได้ง่ายยิ่งขึ้น จะได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปครับ ซึ่งจะมีรุ่นอะไร ? มีราคาเท่าไหร่บ้าง ? ตามไปดูกันได้เลยครับ (อ่านเพิ่มเติม คำแนะนำในการเลือกซื้อ Smart Watch Huawei)
ทำความรู้จักกับ สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) คืออะไร ?
สมาร์ทวอทช์ (Smart Watch) ก็คือ “นาฬิกาที่อัจฉริยะ” ครับ ด้วยรูปแบบการใช้งาน ซึ่งสามารถทำได้มากกว่า แค่การบอกเวลาและวันที่ โดยหลักการง่าย ๆ ก็คือ การนำนาฬิกาข้อมือมาผสานเข้ากับสมาร์ทโฟน จนได้ออกมาเป็น สมาร์ทวอทช์ ทำให้มันมีฟังก์ชันของสมาร์ทโฟน และฟังก์ชันของนาฬิกาข้อมือ อยู่บนอุปกรณ์ชิ้นเดียวกัน
ซึ่งสมาร์ทวอทช์ก็สามารถทำได้หลากหลายครับ อาทิเช่น ดูแผนที่, เก็บข้อมูลการเดินทาง, เก็บข้อมูลสุขภาพ, ควบคุมสมาร์ทโฟน รับการแจ้งเตือนต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟน, คำนวณแคลอรี, วางแผนการออกกำลังกาย และอื่น ๆ อีกมากมาย (แล้วแต่รุ่น) ข้อมูลเหล่านี้ ถือเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อเราครับ เพราะเราสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อใช้ดูแลสุขภาพของคุณได้ครับ

ทางทีมงานได้รวบรวม สมาร์ทวอทช์และสมาร์ทแบนด์ จาก Huawei และแบรนด์ลูกอย่าง Honor มารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ลองเลือกชื้อไปใช้งานกันดูครับ ซึ่งราคาก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด มีทั้ง สายสุขภาพ สายแฟชั่น สายกินคลีน และอื่น ๆ หากใครที่กำลังเล็งจะซื้อนาฬิกาอยู่ ลองเปลี่ยนมาเป็นนาฬิกาอัจฉริยะดูบอกเลยไม่ผิดหวังครับ เพราะมันสามารถใส่ไปทำกิจกรรมได้เหมือนกับนาฬิกาข้อมือปกติ แถมมาพร้อมฟังก์ชันมากมาย สำหรับวันนี้ลองไปดูสมาร์ทวอทช์จาก Huawei และ Honor กันเลยครับ
Huawei Watch รุ่นไหนดี เหมาะกับคุณ ?
- สมาร์ทแบนด์ราคาประหยัด ฟังก์ชันครบ ครอบคลุมการออกกำลังกายและสุขภาพ : Huawei Band 8 เปิดตัวมิถุนายน 66
- สมาร์ทวอทช์ดีไซน์สวย หน้าจอชัด มีให้เลือกทั้งแบบผู้ชายและผู้หญิง: Huawei Watch GT 4 (41 mm / 46 mm) เปิดตัวกันยายน 66
- สมาร์ทวอทช์ระดับเริ่มต้น สวยทันสมัย ใช้งานง่าย แบตอึด: Huawei Watch Fit 2 เปิดตัวพฤษภาคม 65
- สมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียม ดีไซน์สปอร์ต เพรียวบาง ใส่ได้ทุกสถานการณ์ ฟีเจอร์ครบครัน: Huawei Watch GT 3 SE เปิดตัวตุลาคม 65
Huawei Band 8 เปิดตัวมิถุนายน 66

ราคา 1,229 บาท*
Huawei Band 8 เป็นสมาร์ทแบนด์อัจฉริยะ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้จะเป็นในด้านของการออกแบบดีไซน์ให้มีความเรียบง่าย น้ำหนักเบา มาพร้อมกับสายยางทำให้สวมใส่ได้สบาย กันเหงื่อกันน้ำ ไม่ระคายผิว หน้าจอเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 1.47 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ AMOLED ทำให้สู้แสงได้ดี สามารถมองเห็นการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เหมาะกับการใช้กลางแจ้ง ที่สำคัญหน้าปัดมีให้เลือกกว่า 10,000 แบบ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์การแต่งตัวตามแฟชั่นได้ครับ
ฟีเจอร์เด่นของรุ่นนี้จะเน้นในเรื่องของการตรวจจับการทำงานของร่างกาย โดยสามารถตรวจสุขภาพการนอน ซึ่งสามารถตรวจจับได้ทั้งการนอนและการงีบระหว่างวัน สามารถติดตามออกซิเจนในเลือด และติดตามการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ได้ อีกทั้งยังมีโหมดออกกำลังกาย สามารถรองรับได้มากกว่า 100 โหมด ครอบคลุมการออกกำลังกายทุกรูปแบบ สำหรับใครที่เน้นใช้งานเกี่ยวกับด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย Huawei Band 8 ถือได้ว่าตอบโจทย์ได้ดีกว่าสมาร์ทวอทช์ ด้วยราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ ดีไซน์ที่สวมใส่สบาย ใช้งานง่าย และเหมาะกับการออกกำลังกายทั้งในร่มและกลางแจ้ง แถมยังสามารถใช้งานได้นาน เหมาะสำหรับสายสุขภาพมาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- มีโหมดออกกำลังกาย 100 รูปแบบ
- ใช้พลังงานน้อย แบตเตอรี่ใช้ได้นาน
- ดีไซน์ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการออกกำลังกาย
- มีฟีเจอร์ด้านสุขภาพครบ
- หน้าจอ AMOLED ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
- ปรับเปลี่ยนหน้าปัดได้ 10,000 แบบ
ข้อควรพิจารณา
- ไม่รองรับ GPS
ปีที่เปิดตัว | มิถุนายน 66 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.47 inch / AMOLED 194 x 368 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 5 ATM |
การเชื่อมต่อ | 2.4 GHz / BT5.0 / BLE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 ขึ้นไป / iOS 9.0 ขึ้นไป |
แบตเตอรี่ | 180 mAh |
Huawei Watch GT 4 (41 mm / 46 mm) เปิดตัวกันยายน 66

ราคา 7,990 บาท*
Watch GT Series เป็นซีรีส์ที่มีลูกเล่นที่หลากและฟีเจอร์ที่ครอบคลุมการใช้งานทำให้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยดีไซน์ของรุ่นนี้ตัวเรือนทำจากอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง สวยหรู งานประกอบแน่นหนา ซึ่งขนาด 41 mm จะเป็นโครเมียมที่สวยงาม เหมาะสำหรับผู้หญิง หากเป็นขนาด 46 mm จะเหมาะกับผู้ชาย หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ที่มีการปรับปรุงหน้าจอให้สามารถสู้แสงและใช้งานในที่แจ้งได้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีสายให้เลือกหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็นสายโลหะ, สายหนัง, สายไทเทเนียม และสายยาง สามารถเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และรูปแบบการใช้งานได้
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของรุ่นนี้จะเป็นระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.0 ที่ใช้งานง่าย มีการออกแบบตัวอักษรที่อ่านง่าย ดูคมชัด มาพร้อมกับโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 รูปแบบ อีกทั้งในด้านของสุขภาพ ก็มีการติดตามสุขภาพในด้านต่าง ๆ อย่างครบถ้วน เช่น ฟีเจอร์ตรวจจับการนอน หรือฟีเจอร์การวัดความเครียด นอกจากนี้ในด้านของการใช้งานทั่วไป สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั้งการแจ้งเตือนต่าง ๆ จากมือถือได้ สามารถรับสายและคุยได้ทันทีผ่านตัวนาฬิกา การดูปฏิทิน การสั่งถ่ายภาพจากมือถือ และสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้อีกด้วยครับ
จุดเด่น
- มีทั้งดีไซน์ของผู้ชายและผู้หญิง สามารถเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.0 ที่ใช้งานง่าย
- หน้าจอ AMOLED ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
- มีโหมดออกกำลังกาย 100 รูปแบบ
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนักค่อนข้างหนักสำหรับขนาด 4.6 mm
ปีที่เปิดตัว | กันยายน 66 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.32 inch (41 mm) / 1.43 inch (46 mm) / AMOLED 466 x 466 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 5 ATM |
การเชื่อมต่อ | BT5.2 / BR / BLE / EDR |
ระบบปฏิบัติการ | Android 8.0 ขึ้นไป / iOS 13.0 ขึ้นไป |
แบตเตอรี่ | 323 mAh (41 mm) / 523 mAh (46 mm) |
Huawei Watch Fit 2 เปิดตัวพฤษภาคม 65

ราคา 3,999 บาท*
Huawei Watch Fit 2 เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ต่อยอดมาจากรุ่น Watch Fit รุ่นแรก โดยดีไซน์ของรุ่นนี้เป็นหน้าจอทรงสี่เหลี่ยม หน้าจอมีขนาด 1.74 นิ้ว ใช้จอภาพแบบ AMOLED ที่ให้สีสันที่สวยงามและคมชัด สามารถแสดงผลแบบ Always on Display ซึ่งจะแสดงเวลาหรือภาพกราฟิกเล็ก ๆ ได้ตลอดเวลาโดยที่กินพลังงานต่ำ ตัวเรือนผลิตจากวัสดุไฟเบอร์พอลิเมอร์ที่แข็งแรงและทนทาน สายนาฬิกาเป็นซิลิโคน ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่ระคายผิว สวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน
สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มีฟีเจอร์เด่น ๆ อย่างการตรวจวัดสุขภาพด้วยเซนเซอร์ต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะตรวจวัดค่าต่าง ๆ ในร่างกายของเราไม่ว่าจะเป็น การนับจำนวนก้าวเดิน, การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การวัดระดับออกซิเจนในเลือด, การวัดความเครียด หรือการวัดการนอน ซึ่งข้อมูลจะถูกบันทึกไปยังแอป Huawei Health สามารถดูข้อมูลย้อนหลังแบบละเอียดได้ นอกจากนี้ยังรองรับการออกกำลังกายได้มากถึง 97 รูปแบบ พร้อมมีหน่วยความจำในตัวทำให้สามารถเล่นเพลงได้ รวมถึงยังรองรับ Bluetooth Calling ทำให้สามารถสนทนาโทรศัพท์มือถือในระยะ 100 เมตร ได้ สำหรับที่ไม่ชอบหยิบมือถือขึ้นมาบ่อย ๆ และชอบออกกำลังกายถือว่าตอบโจทย์และคุ้มค่ากับการเลือกซื้อมาใช้งานมาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- มีหน่วยความจำในตัวทำให้สามารถเล่นเพลงได้
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน
- หน้าจอ AMOLED ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- สามารถแสดงผลแบบ Always on Display ได้
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
- มีโหมดออกกำลังกาย 97 รูปแบบ
- รองรับ Bluetooth Calling ทำให้สามารถสนทนาโทรศัพท์มือถือได้
ข้อควรพิจารณา
- ตัวเรือนนาฬิกาเกิดรอยขนแมวได้ง่าย ควรระมัดระวังในการใช้งาน
ปีที่เปิดตัว | พฤษภาคม 65 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.74 inch / AMOLED 336 x 480 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 5 ATM |
การเชื่อมต่อ | 2.4 GHz / BT5.2 / BR / BLE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 ขึ้นไป / iOS 9.0 ขึ้นไป / HarmonyOS |
แบตเตอรี่ | 292 mAh |
Huawei Watch Fit Special Edition สมาร์ทวอทช์

ราคา 2,699 บาท*
Huawei Watch Fit Special Edition เป็นสมาร์ทวอทช์ที่คุ้มค่าและมีจุดเด่นรอบด้านทั้งในเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน โดยดีไซน์ของรุ่นนี้ยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ Watch Fit มาพร้อมหน้าจอสี่เหลี่ยมโค้งมนขนาดใหญ่ 1.6 นิ้ว เป็นหน้าจอ AMOLED ที่มีสีสวยคมชัด ขอบจอบางทำให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มตา ตัวเรือนวัสดุเป็นพอลิเมอร์มีความแข็งแรง ทนทาน ตัวสายเป็นซิลิโคน น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับขนาดให้พอดีกับข้อมือได้ ที่สำคัญหน้าปัดมีให้เลือกมากกว่า 13,000 แบบ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย เพราะรองรับภาษาไทย สามารถอ่านข้อความและเลือกตอบกลับแบบเร่งด่วนได้อย่างง่ายดาย
นาฬิการุ่นนี้มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานด้านสุขภาพอย่างครบครัน โดยจะมีทั้งการตรวจจับการนอนหลับ, การวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด, การตรวจสอบความเครียด หรือการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ อีกทั้งยังสามารถดูข้อมูลผ่านตัวนาฬิกาได้เลย ที่สำคัญนาฬิการุ่นนี้รองรับโหมดกีฬามากกว่า 100 รูปแบบ ทำให้สามารถใช้ออกกำลังกายได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังรองรับกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เพราะมีมาตรฐานกันน้ำ 5 ATM กันน้ำได้ลึกสูงสุด 50 เมตร ไม่ว่าจะเจอเหงื่อ เจอฝน หรือใส่ว่ายน้ำก็ไม่มีปัญหาครับ
จุดเด่น
- สามารถแสดงผลแบบ Always on Display ได้
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน
- หน้าจอ AMOLED ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
- มีโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 รูปแบบ
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีลำโพงตัวเครื่อง
ปีที่เปิดตัว | กรกฎาคม 2566 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.64 inch / AMOLED 456 x 280 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 5 ATM |
การเชื่อมต่อ | 2.4 GHz / BT5.0 / BLE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 ขึ้นไป / iOS 9.0 ขึ้นไป / HarmonyOS |
แบตเตอรี่ | ไม่ระบุ (สามารถใช้ได้ 6 - 10 day) |
Huawei Watch GT 3 SE เปิดตัวตุลาคม 65

ราคา 4,999 บาท*
Huawei Watch GT 3 SE สมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียมที่มีดีไซน์เรียบเท่ เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์ โดยดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตที่เน้นความเรียบเท่ เสริมบุคลิกให้ดูโตขึ้น เข้ากับคนวัยทำงาน หน้าปัดเป็นแบบทรงกลม ขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว เป็นจอ AMOLED ที่มีความละเอียดสูงและความคมชัด ครอบด้วย Corning Gorilla Glass ทำให้ทนทานต่อการขีดข่วน สายข้อมือวัสดุเป็น TPU ที่มีน้ำหนักเบา มีความทนทาน ทนต่อการสึกหรอ ที่สำคัญหน้าปัดสามารถปรับเปลี่ยนได้หลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นเน้นเท่ ๆ หรือภาพกราฟิกน่ารัก ๆ ก็สามารถโหลดจากแอปพลิเคชันเพื่อปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ
สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ฟีเจอร์ด้านสุขภาพก็ให้มาหลากหลายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับการนอนหลับ, การตรวจค่าออกซิเจนในเลือดหรือ SpO2, ตรวจอัตราการเต้นของหัวใจ, ตรวจระดับความเครียด และสำหรับสาว ๆ ก็มีการตรวจรอบประจำเดือน พร้อมกับโหมดกีฬามีให้เลือกถึง 85 รูปแบบ ซึ่งเป็นโหมดสำหรับการออกกำลังกายทั่วไป และมีระดับมืออาชีพอีก 18 รูปแบบ เช่น ปีนเขา, สกี หรือ ว่ายน้ำ เรียกได้ว่าครอบคลุมกีฬาแทบจะทุกประเภท แถมยังมี GPS ในตัวทำให้เราสามารถบันทึกเส้นทางการวิ่งโดยที่ไม่ต้องพกมือถือให้วุ่นวาย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันบ่อย ๆ เช่น การแจ้งเตือนหรือ Bluetooth Calling ในการรับสายและคุยผ่านนาฬิกาได้โดยตรง เรียกได้ว่าสะดวกสบายมาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- หน้าจอ AMOLED ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- สามารถแสดงผลแบบ Always on Display ได้
- หน้าจอครอบด้วย Corning Gorilla Glass ทำให้ทนทานต่อการขีดข่วน
- มีโหมดออกกำลังกาย 85 รูปแบบ และระดับมืออาชีพอีก 18 รูปแบบ
- รองรับ Bluetooth Calling ทำให้สามารถสนทนาโทรศัพท์มือถือได้
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
ข้อควรพิจารณา
- บริเวณขอบนาฬิกาฝุ่นเข้าไปติดง่าย ต้องคอยทำความสะอาด
- หากเป็นคนที่ข้อมือเล็กเวลาใส่ออกกำลังกายอาจจะไม่ค่อยถนัดและรู้สึกล้าข้อมือ
ปีที่เปิดตัว | ตุลาคม 65 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.43 inch / AMOLED 466 x 466 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 5 ATM |
การเชื่อมต่อ | BT5.2 / BLE / BR / EDR |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 ขึ้นไป / iOS 9.0 ขึ้นไป |
แบตเตอรี่ | 451 mAh |
Huawei Watch GT 3 Pro (46 mm) สมาร์ทวอทช์

ราคา 11,990 บาท*
Huawei Watch GT 3 Pro (46 mm) สมาร์ทวอทช์สุดหรูที่มาพร้อมกับฟีเจอร์สุขภาพและรองรับการออกกำลังกายได้อย่างหลากหลาย สำหรับรุ่นนี้ตัวเรือนนาฬิกาวัสดุทำจากไทเทเนียม หน้าปัดเป็นกระจกกันรอยแซฟไฟร์ มีคุณสมบัติช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีความทนทานกว่าหน้าจอของรุ่น Huawei Watch GT 3 SE หน้าจอของรุ่นนี้มีขนาด 1.43 นิ้ว หน้าจอแบบ AMOLED สีสันสวยงาม สู้แสงแดดได้ดี และรองรับการทัชสกรีน ในส่วนฝาหลังวัสดุเป็นเซรามิกเพิ่มความหรูหรา และสายนาฬิกาวัสดุทำจากหนังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับนาฬิกามากยิ่งขึ้น
ในส่วนของการใช้งานสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ การควบคุมผ่านปุ่มหรือการทัชสกรีนสามารถทำได้ดี ตอบสนองได้ว่องไว ควบคุมได้ง่าย และไม่เกิดอาการหน่วง อีกทั้งยังรองรับฟีเจอร์ด้านสุขภาพอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เซนเซอร์ตรวจจับการนอน เซนเซอร์การวัดออกซิเจนในเลือด หรือเซนเซอร์ที่ช่วยตรวจวัดการนอนหลับ นอกจากนี้ยังมีโหมดกีฬามากกว่า 100 รูปแบบ และสามารถดูผลการฝึกซ้อมกีฬาต่าง ๆ ผ่านแอป Huawei Health ได้อีกด้วย แต่เนื่องจากวัสดุของสายเป็นหนังทำให้อาจจะไม่เหมาะกับการออกกำลังกายเท่าไหร่ หากเป็นการสวมใส่เพื่อใช้งานงานในชีวิตประจำวันหรือกิจกรรมทั่ว ๆ ไป รุ่นนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- หน้าจอ AMOLED ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- สามารถแสดงผลแบบ Always on Display ได้
- หน้าจอแบบ Sapphire Glass Suface ทนต่อรอยขีดข่วนได้ดี
- มีโหมดกีฬามากกว่า 100 รูปแบบ
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นาน
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
- รองรับ Bluetooth Calling ทำให้สามารถสนทนาโทรศัพท์มือถือได้
- มีหน่วยความจำในตัวทำให้สามารถเล่นเพลงได้
ข้อควรพิจารณา
- เนื่องจากสายข้อมือใช้วัสดุเป็นหนังทำให้ไม่เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย
- หากใช้ออกกำลังกายควรซื้อสายซิลิโคน
ปีที่เปิดตัว | พฤษภาคม 65 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.43 inch / AMOLED 466 x 466 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 5 ATM |
การเชื่อมต่อ | BT |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 ขึ้นไป / iOS 9.0 ขึ้นไป |
แบตเตอรี่ | ไม่ระบุ (ใช้งานได้สูงสุด 8 - 14 days) |
Huawei Watch Buds สมาร์ทวอทช์พร้อมหูฟัง

ราคา 13,990 บาท*
Huawei Watch Buds ในรุ่นนี้การออกแบบรุ่นนี้จะมีหน้าปัดทรงกลม ไม่มีขอบหน้าปัด หน้าจอมีขนาด 1.43 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ AMOLED รองรับระบบสัมผัส และสามารถใช้ฟีเจอร์ Alway on Display รวมถึงฟีเจอร์ปรับระดับความสว่างของหน้าจอแบบอัตโนมัติได้ ตัวเรือนเป็นสเตนเลสขัดเงาให้ความหรูหรา สายนาฬิกาวัสดุเป็นหนังช่วยเพิ่มความพรีเมียม โดยไฮไลต์ของนาฬิการุ่นนี้จะอยู่ที่หน้าปัดสามารถเปิดออกได้ เมื่อเปิดหน้าปัดจะพบกับหูฟังทั้ง 2 ข้าง ซึ่งจะถูกยึดไว้ด้วยตัวแม่เหล็กใต้ฝา โดยหูฟังจะมีลักษณะคล้ายลูกกระสุนขนาดเล็ก อีกทั้งยังมีคุณภาพเสียงที่ดีทำให้ไม่ต้องพกอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ให้วุ่นวายเลยครับ
สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ดีทั้งในส่วนของฟีเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพและการใช้งานทั่วไป โดยฟีเจอร์การดูแลสุขภาพมีทั้งตรวจจับคุณภาพการนอนหลับ ระบบติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ วัดค่าออกซิเจนในเลือด พร้อมกับการแจ้งเตือนหากมีสิ่งผิดปกติ นอกจากนี้ยังสามารถดูการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือได้ สามารถรับสายวางสาย ควบคุมการเล่นเพลง และตรวจเช็กสภาพอากาศได้อีกด้วย ในส่วนของฟีเจอร์การออกกำลังกายรุ่นนี้มีโหมดออกกำลังมาให้ถึง 80 รูปแบบ รวมถึงมีฟีเจอร์ที่สามารถช่วยจัดแผนฝึกซ้อมเพื่อให้ออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่โดยรวมแล้วอาจจะไม่เหมาะสำหรับใช้ออกกำลังกาย เพราะด้วยคุณสมบัติของนาฬิกาที่ไม่ได้เน้นเรื่องการกันน้ำกันเหงื่ออย่างจริงจังทำให้เหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากกว่าครับ
จุดเด่น
- มีหูฟังในตัว เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบพกพาอุปกรณ์เสริมหลายชิ้น
- หน้าจอ AMOLED ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- สามารถแสดงผลแบบ Always on Display ได้
- มีโหมดกีฬา 80 รูปแบบ
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.0 ที่ใช้งานง่าย
ข้อควรพิจารณา
- มีน้ำหนักมากกว่าสมาร์ทวอทช์ทั่วไป
- อุปกรณ์ไม่ได้ถูกออกแบบไว้ใช้สำหรับกันน้ำ
- ไม่เหมาะสำหรับใช้ออกกำลังกาย
- หูฟังมีขนาดเล็ก ต้องระมัดระวังไม่ให้หล่นหาย
ปีที่เปิดตัว | ธันวาคม 65 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.43 inch / AMOLED 466 x 466 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | ระดับการกันฝุ่นและน้ำเฉพาะหูฟัง IP54 (นาฬิกาไม่ใช่อุปกรณ์ป้องกันน้ำ) |
การเชื่อมต่อ | 2.4 Ghz / BT5.2 / BR / BLE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 7.0 ขึ้นไป / iOS 9.0 ขึ้นไป |
แบตเตอรี่ | 410 mAh |
Huawei Watch Kids 4 Pro สมาร์ทวอทช์สำหรับเด็ก

ราคา 4,990 บาท*
Huawei Watch Kids 4 Pro เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะ ซึ่งในสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและฟีเจอร์เพื่อการเสริมสร้างสุขภาพ โดยดีไซน์มีความสวยงาม สวมใส่ง่าย ด้านข้างหน้าปัดมีไฟที่สามารถเรืองแสงในที่มืดได้ สามารถกะพริบตามจังหวะการก้าวเดินของผู้ใส่ช่วยให้สามารถสังเกตเห็นเด็ก ๆ ในระยะไกลได้ดีขึ้น หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาดใหญ่ ที่มีสีสันสดใส มองเห็นง่าย พร้อมติดตั้งกล้องหน้า เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ สามารถวิดีโอคอลหาผู้ปกครองได้โดยที่ไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟน
สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้มีฟีเจอร์สำหรับออกกำลังกาย มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำระดับ 5 ATM ทำให้สามารถสวมใส่ขณะว่ายน้ำได้ อีกทั้งยังสามารถใส่ซิมการ์ด เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ สามารถโทรหรือส่งข้อความต่าง ๆ ผ่านระบบ 4G ได้จากสมาร์ทวอทช์โดยไม่ต้องผ่านโทรศัพท์ และฟีเจอร์ที่น่าสนใจของรุ่นนี้ คือ เทคโนโลยี 9-System AI Positioning โดยจะทำงานร่วมกับเทคโนโลยีรับสัญญาณ GPS ทำให้ผู้ปกครองสามารถรู้ตำแหน่งของเด็ก ๆ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบต่าง ๆ ที่จะช่วยดูแลการออกกำลังกายและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ได้ทั้งความปลอดภัยและสร้างความสนุกสนานให้กับเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวครับ
จุดเด่น
- เทคโนโลยี 9-System AI Positioning ช่วยระบุตำแหน่งของเด็ก ๆ ได้อย่างแม่นยำ
- มีฟีเจอร์ One-Step SOS Call ที่สามารถโทรหาหมายเลขฉุกเฉินได้
- มีกล้องหน้า สามารถวิดีโอคอลหรือถ่ายรูปได้
- ใช้งานง่ายและรองรับภาษาไทย
- สามารถใส่ซิมได้
- สามารถโทรและรับส่งข้อความผ่านสมาร์ทวอทช์ได้ทันที
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- ไม่รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม
- ไม่มีโหมดการปั่นจักรยาน
ปีที่เปิดตัว | สิงหาคม 64 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.41 inch / AMOLED 320 x 360 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 5 ATM |
การเชื่อมต่อ | BT4.1 / 4G (Nano-SIM) / 2.4 GHz |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 ขึ้นไป / iOS 9.0 ขึ้นไป |
แบตเตอรี่ | 800 mAh |
Huawei Watch Ultimate สมาร์ทวอทช์

ราคา 29,990 บาท*
Huawei Watch Ultimate สมาร์ทวอทช์รุ่นเรือธงที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดล้ำ โดยดีไซน์หรูหราสุดคลาสสิก ตัวเรือนวัสดุทำจากเหล็กเซอร์โคเนียมที่มีความแข็งแรงทนทาน แก้วครอบจอใช้เป็นกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งมีความแข็งแรง สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและป้องกันการกระแทกได้ดี หน้าจอขนาด 1.5 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ LTPO AMOLED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหน้าจอที่ช่วยประหยัดพลังงาน อัตรารีเฟรชเรท 60 Hz และมีระบบทัชสกรีนที่ลื่นไหล อีกทั้งรุ่นนี้จะมีสายให้เลือก 2 แบบ โดยจะเป็นสายที่มีสีวัสดุเข้ากับตัวเรือนนาฬิกาและสายแบบยางทำให้สามารถปรับใช้กับกิจกรรมได้หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของการใช้งานรุ่นนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.0 ที่รวดเร็วและใช้งานง่าย มีโหมดดำน้ำลึกมากกว่า 100 เมตร และสามารถติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 รูปแบบ อีกหนึ่งโหมดที่มีความน่าสนใจ คือ โหมด Expedition ที่ออกแบบมาสำหรับนักผจญภัยโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีระบบนำทางและติดตามเส้นทางที่แม่นยำทำให้ทุกการผจญภัยมีความปลอดภัยไม่ต้องกลัวว่าจะหลงทาง ที่สำคัญสำหรับคนรักสุขภาพ ก็จะมีโหมดติดตามสุขภาพที่สามารถติดตามค่าออกซิเจนในเลือดและอัตราการเต้นของหัวใจได้ นอกจากนี้ยังมี Huawei TruSleep 3.0 สำหรับติดตามสุขภาพการนอนหลับอย่างละเอียดทำให้ผู้สวมใส่ทราบถึงปัญหาการนอนหลับได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูพรีเมียมและฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุมทำให้สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครบทุกกิจกรรมเลยครับ
จุดเด่น
- จอแสดงผล LTPO AMOLED ที่ช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน
- มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 10 ATM
- มีโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 รูปแบบ
- ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.0 ที่รวดเร็วและใช้งานง่าย
- ตัวเรือนและหน้าปัดใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน
- สามารถแสดงผลแบบ Always on Display ได้
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปีที่เปิดตัว | ตุลาคม 66 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.5 inch / LTPO AMOLED 466 x 466 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 10 ATM |
การเชื่อมต่อ | BT5.2 / 2.4 GHz / BR / BLE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 6.0 ขึ้นไป / iOS 9.0 ขึ้นไป / HarmonyOS 2 ขึ้นไป |
แบตเตอรี่ | 530 mAh |
HONOR Band 7 สมาร์ทวอทช์

ราคา 1,690 บาท*
HONOR Band 7 นาฬิกาอัจฉริยะที่มาพร้อมกับโหมดกีฬาและฟีเจอร์ติดตามสุขภาพอย่างครบครัน ในส่วนของดีไซน์ของรุ่นนี้ไม่ได้ต่างจากรุ่นก่อน ๆ มากเท่าไหร่ แต่จะมีความบางและน้ำหนักเบามากกว่าเดิม โดยจะเป็นหน้าจอสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความโค้งมน ขนาดหน้าจอ 1.47 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ AMOLED สามารถสู้แสงและใช้งานกลางแจ้งได้ดี หน้าจอใช้กระจก Gorilla Glass 2.5D ขอบโค้งทำให้สามารถป้องกันรอยขีดข่วนและรอยขนแมวต่าง ๆ ได้ อีกทั้งสายข้อมือเป็นยางซิลิโคน สามารถปรับระดับให้พอดีกับข้อมือของผู้สวมใส่ได้ทำให้ไม่รำคาญเกะกะขณะใช้งาน
จุดเด่นของรุ่นนี้ คือ โหมดออกกำลังกายที่มีถึง 96 รูปแบบ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถครอบคลุมการออกกำลังกายได้มากมาย และยังสามารถเก็บข้อมูลการออกกำลังกายได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือดได้ตลอดทั้งวัน สามารถตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตรวจวัดการนอนหลับ ตรวจวัดความเครียด ติดตามรอบเดือนสำหรับผู้หญิง และสามารถแจ้งเตือนได้ทันทีหากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับผู้ใส่ เรียกได้ว่าครบถ้วนทุกการใช้งานจริง ๆ ครับ
จุดเด่น
- หน้าจอ AMOLED ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
- มีโหมดออกกำลังกายมากถึง 96 รูปแบบ
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 14 วัน
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 5 ATM
- รองรับการแจ้งเตือนภาษาไทย
- ดีไซน์ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการออกกำลังกาย
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มี GPS ในตัว
- ไม่สามารถลงแอปพลิเคชันเพิ่มได้
ปีที่เปิดตัว | พฤษภาคม 66 |
---|---|
หน้าปัดเรือน | 1.47 inch / AMOLED 194 x 368 pixel / ระบบสัมผัส |
ระดับการกันน้ำ | 5 ATM |
การเชื่อมต่อ | BT5.0 / 2.4 GHz / BLE |
ระบบปฏิบัติการ | Android 9.0 ขึ้นไป / iOS11.0 ขึ้นไป |
แบตเตอรี่ | 180 mAh |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เปรียบเทียบ นาฬิกาหัวเว่ย รุ่นไหนดี
![]() Huawei Band 8 เปิดตัวมิถุนายน 66 | ![]() Huawei Watch GT 4 (41 mm / 46 mm) เปิดตัวกันยายน 66 | ![]() Huawei Watch Fit 2 เปิดตัวพฤษภาคม 65 | ![]() Huawei Watch GT 3 SE เปิดตัวตุลาคม 65 |
฿1229.00* | ฿7990.00* | ฿3999.00* | ฿4999.00* |
|
|
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
คำแนะนำในการเลือกซื้อ Smart Watch Huawei
1. เลือกขนาดและการออกแบบ
คิดง่าย ๆ ครับ สมาร์ทวอทช์ มันก็เหมือนกับ นาฬิกาข้อมือทั่วไป ที่แน่นอนทุกคนคนมีสไตล์แตกต่างกัน นาฬิกาข้อมือผู้ชาย กับนาฬิกาข้อมือผู้หญิง ก็ใช้ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่คุณต้องเลือกก็คือ ดีไซน์การออกแบบ ครับ เนื่องจากนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ไม่จำเป็นต้องสวมใส่ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว คุณสามารถสวมใส่ไปที่ไหน ๆ ก็ได้ตามต้องการ จะใส่ไปเที่ยว ใส่ไปทำงาน หรือใส่ไปเดินเล่นก็ได้ นาฬิกาข้อมือ ถือเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเสริมบุคลิก เพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความมั่นใจให้กับคุณได้ หากมันเหมาะกับคุณ
2. พิจารณาฟังก์ชันการใช้งาน

Smart Watch ก็จะมีอยู่หลายรุ่น หลายราคา โดยแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นตัดฟังก์ชันที่เด่น ๆ ออกเพื่อปรับราคาลงมา ซึ่งเอาจริง ๆ บางฟังก์ชันเราก็ไม่ได้ใช้ครับ อย่างเช่น ฟังก์ชันที่เกี่ยวกับการออกกำลังกายถ้าคุณไม่ใช่คนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย แน่นอนไม่ได้ใช้อยู่แล้วครับ ดังนั้นคุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ต้องการอะไรจากสมาร์ทวอทช์ ? หากต้องการเพียงแค่ความสะดวกสบายจากสมาร์ทวอทช์ คุณก็สามารถที่จะเลือกรุ่นไหนก็ได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการนำไปใช้ดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง คุณก็ต้องไปดูที่คุณสมบัติ และฟังก์ชันต่าง ๆ ที่รุ่นนั้น ๆ มีครับ
3. การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
สมาร์ทวอทช์ทุกรุ่นมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนต่างกัน ดังนั้นคุณควรเลือกสมาร์ทวอทช์รุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนของคุณได้ เพื่อให้มันสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากการเชื่อมต่อนั้นไม่รองรับกันบางฟังก์ชันอาจใช้งานไม่ได้หรือมีปัญหาติดขัดครับ ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อควรตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนโดยส่วนใหญ่สมาร์ทวอทช์หลาย ๆ รุ่นได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า มันสามารถรองรับระบบปฏิบัติการใดได้บ้างตั้งแต่เวอร์ชั่น ไหนขึ้นไป
4. ความจุของแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ ถือเป็นส่วนสำคัญของการใช้งานสมาร์ทวอทช์ เนื่องด้วยมันเป็นเหมือนนาฬิกาเรือนนึงซึ่งต่างจากสมาร์ทโฟน แน่นอนครับสมาร์ทโฟนเราต้องชาร์จทุกวันจนเป็นนิสัย แต่นาฬิกาปกติกว่าถ่านมันจะหมดก็ใช้เวลาหลายเดือน หรือเป็นปี ซึ่งเมื่อเราเปลี่ยนจากนาฬิกาปกติมาเป็นสมาร์ทวอทช์ การลืมเรื่องชาร์จแบตฯ เป็นเรื่องปกติครับ เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรเลือกรุ่นที่มีความจุแบตเตอรี่สูง ๆ จะดีกว่าครับ นอกจากจะใช้งานได้หลายวันแล้ว บางรุ่นยังสามารถรองรับการชาร์จไวได้อีกด้วย ซึ่งมันช่วยเพิ่มความสะดวกได้มากครับ
บทส่งท้าย
ในปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจเทรนด์ในการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย ส่งผลให้คนหันมาเล่นกีฬาและออกกำลังกายเพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมถึงการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ สมาร์ทวอทช์จึงเป็นเหมือนผู้ช่วยที่จะคอยรายงานผลและแจ้งเตือนผลสุขภาพของผู้ใช้งาน โดยสมาร์ทวอทช์ ก็คือนาฬิกาอัจฉริยะที่ทุกคนสามารถใส่ได้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้รู้สึกอยากออกกำลังกาย เพราะผู้ใช้งานจะเห็นปัญหาต่าง ๆ ของร่างกาย ที่จากเดิมไม่มีอะไรมาคอยเตือน แต่สมาร์ทวอทช์ สามารถคอยเตือนคุณในเรื่องต่าง ๆ ได้ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ นาฬิกาอัจฉริยะจาก Huawei และ Honor ที่เราได้คัดเลือกมา มีรุ่นไหนที่ถูกใจคุณบ้างหรือยังครับ สำหรับนาฬิกาอัจฉริยะไม่จำเป็นต้องเป็น สายสุขภาพ หรือสายผจญภัย เท่านั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายไหน ก็สามารถนำ สมาร์ทวอทช์ ไปสวมใส่ได้ครับ