ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในโลกยุคนี้ ทำให้ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขึ้นมาก รวมไปถึงความสามารถต่าง ๆ ก็ถูกเพิ่มเข้ามาด้วย พูดได้ง่าย ๆ ว่าเดี๋ยวนี้มีสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตดี ๆ สักเครื่องคุณก็สามารถใช้แทนคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งแน่นอนครับหนึ่งในฟังก์ชันที่หลาย ๆ คนต้องการคือ ปากกา Stylus เพราะนี่ถือเป็นฟังก์ชันที่มีประโยชน์มาก ๆ โดยเฉพาะกับ นักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน รวมไปถึงคนที่ต้องการจดสิ่งต่าง ๆ หรือชอบการวาดภาพ
ซึ่งด้วยสเปกของอุปกรณ์รุ่นเริ่มต้น บวกกับการพัฒนาขึ้นของอุปกรณ์เสริม และการแข่งขันในตลาดที่ดุเดือด มันส่งผลให้เราสามารถหาซื้อปากกาสไตลัส (Stylus Pen) ที่มีราคาประหยัด ๆ มาใช้คู่กับมือถือและแท็บเล็ตราคาประหยัดได้ง่ายขึ้น

สำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของตัวเองมาเป็นสมุด เอาไว้จดงาน วาดภาพ หรือใช้ทำงานต่าง ๆ ในยุคนี้มันไม่ใช้เรื่องยากเลย เพราะทุกวันนี้ในตลาดมีปากกาสไตลัส (Stylus Pen) อยู่หลายรุ่นเลย มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปถึงหลักหลายพันบาทเลย ซึ่งในวันนี้เราขอมาแนะนำว่า เราจะต้องเลือกปากกา Stylus ยังไง และต้องดูอะไรบ้าง ? เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อได้อย่างถูกต้อง และนำไปใช้กับอุปกรณ์ที่คุณมีอยู่ได้
และในบทความนี้เรายังได้คัดเลือก 7 อันดับ ปากกา Stylus ที่ดีที่สุด สำหรับการใช้งานร่วมกับมือถือ และแท็บเล็ต ไม่ว่าจะฝั่ง Android, iOS / iPadOS หรือ Windows หากวันนี้คุณกำลังมองหาปากกาสไตลัสดี ๆ สักอันนึงอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ? บทความนี้มีคำตอบครับ
ปากกาสไตลัส ยี่ห้อไหนดี ?
- ปากกา Stylus สําหรับ iPads รุ่นเก่า มีราคาประหยัด (ต่ำกว่าปี 2017) : Apple Pencil Gen 1
- ปากกา Stylus สําหรับ iPads รุ่นใหม่ ๆ (ตั้งแต่ปี 2018 ขึ้นไป): Apple Pencil Gen 2
- ปากกา Stylus สําหรับ Lenovo Tab Series: Lenovo Precision Pen 2 (Xiaoxin Pad Pen)
- ปากกา Stylus สําหรับ Windows และ Surface: Microsoft Surface Pen
- ปากกา Stylus ที่อเนกประสงค์ใช้ได้ทั้ง Android และ iOS สำหรับคนที่ใช้กับมือถือ/แท็บเล็ต : Adonit Dash 4
- ปากกา Stylus ที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด สําหรับ iPads (ปี 2018 ขึ้นไป) : Logitech Crayon
- ปากกา Stylus ราคาประหยัด สําหรับ iPads (รุ่นปี 2018 ขึ้นไป) : GOOJODOQ GD13
- ปากกา Stylus ราคาประหยัด ที่ใช้งานง่ายที่สุด แถมใช้กับหน้าจอสัมผัสได้ทั้งหมด : Adonit Pro 3
ปากกาสไตลัส (Stylus Pen) คืออะไร ?
ปากกาสไตลัส (Stylus Pen) ก็เหมือนปากกาปกตินี่แหละครับ เพียงแต่มันถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับใช้เขียน จดบันทึก และวาดภาพ ลงบนจอสัมผัสของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับครับ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ค ที่ใช้หน้าจอสัมผัส (Touch Screen) โดยในปัจจุบันปากกาสไตลัสก็มีอยู่หลายรูปแบบ และหลายขนาดให้เลือกใช้งาน แถมบางรุ่นก็มีการใส่ฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ มาให้ด้วย

โดยลักษณะหน้าตาของปากกาสไตลัสก็จะเหมือนปากกาธรรมดา ๆ เลยครับ เพียงแต่ที่ปลายปากกา จะไม่มีหมึกออกมาเท่านั้นเอง ซึ่งด้วยความที่ส่วนปลายมันเล็กกว่านิ้วมือของเรา จึงส่งผลให้เวลาขีดเขียน หรือสัมผัส จะทำได้ง่าย และมีความแม่นยำกว่านิ้วมือของเราด้วย ซึ่งเราอยากให้คุณลองหยิบสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณขึ้นมา แล้วลองวาดเขียนด้วยนิ้ว คุณก็จะพบว่ามันเขียนยากมาก ๆ ดังนั้น ปากกาสไตลัสจึงเข้ามาช่วยให้การเขียนบนหน้าจอทัชสกรีน กลายเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้นครับ
คำแนะนำในการเลือกซื้อ ปากกาสไตลัส (Stylus Pen)
1. ดูที่ประสิทธิภาพการใช้งาน
|
หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมราคามันห่างกันเยอะจัง ? ระหว่าง รุ่นที่ถูกสุด กับรุ่นที่แพงสุด ? ซึ่งเหตุผลที่ทำให้มีราคาต่างกัน ก็เพราะว่าประสิทธิภาพในการทำงาน การใช้วัสดุ ความคงทน รวมไปถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ครับ
|
ดังนั้นหากคุณต้องการนำไปใช้ในงานที่ต้องใช้ความเร็ว แม่นยำ และมีความละเอียดสูง ๆ เช่น การจดบันทึก การวาดภาพ หรือการทำงานด้านกราฟฟิกที่ต้องการความละเอียดสูง ๆ คุณก็ควรเลือกใช้ปากกาสไตลัสรุ่นที่มีระบบต่าง ๆ เข้ามาช่วย ซึ่งจะราคาสูงหน่อย แต่คุ้มค่าแน่นอนครับ ระบบเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณเขียนได้ง่ายขึ้น บางรุ่นแทบไม่มีอาการหน่วงเลย จนเรารู้สึกไม่ต่างจากการเขีบนบนกระดาษเลย
2. หัวปากกาสไตลัส
ในส่วนหัวของ ปากกาสไตลัส (Stylus Pen) จะเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับหน้าจอโดยตรงครับ ฉะนั้นคุณจะสามารถเขียนได้ถนัดหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับหัวปากกาแต่ละแบบด้วย ในปัจจุบันมีหัวปากกาสไตลัสอยู่หลายรูปแบบมาก ๆ ครับ ซึ่งแต่ละแบบ ก็จะให้ความรู้สึกในการเขียนที่แตกต่างกันออกไปครับ
3. ตรวจสอบความเข้ากันได้

ปากกาสไตลัส แต่ละรุ่นสามารถรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งรุ่นที่มีราคาประหยัด ๆ ส่วนใหญ่ สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับหน้าจอทัชสกรีนได้ทุกรุ่น ทุกระบบ เนื่องจากพวกเขาไม่มีระบบอะไรเลย
แต่ถ้าหากเป็นปากกาสไตลัสรุ่นที่มีราคาสูง ๆ มักจะรองรับได้บางอุปกรณ์เท่านั้นครับ ทำให้ถ้าหากคุณนำไปใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ นอกเหนือจากที่มันรองรับได้ มันก็อาจจะใช้งานไม่ได้ หรือบางครั้งก็อาจจะใช้ได้ แต่บางฟังก์ชันอาจขาดหายไป เพราะฉะนั้นก่อนการตัดสินใจ คุณต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่า ปากกาสไตลัส ที่คุณเลือกมันสามารถรองรับกันได้รึเปล่า ?
4. การออกแบบดีไซน์
ในข้อนี้ก็ถือว่ามีความสำคัญเช่นกันครับ เพราะขนาดแค่ปากกาลูกลื่นทั่วไป หากมันใหญ่ไปหรือเล็กเกินไป เราก็เขียนได้ไม่ถนัด ดังนั้นการเลือก ปากกาสไตลัส คุณก็ควรพิจาราณาที่ขนาดและรูปลักษณ์ของมันด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ถนัดมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้แล้วคุณควรดูเรื่องของการออกแบบของตัวปากกาด้วย เช่น บางรุ่นมาพร้อมที่หนีบ สามารถไว้ใช้หนีบบริเวณกระเป๋าเสื้อได้ บางรุ่นมีฝาปิดปกป้องส่วนหัวปากกา หรือในบางรุ่นมาพร้อมแม่เหล็ก สามารถยึดติดข้าง ๆ ของอุปกรณ์ได้ เป็นต้น สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้มันสามารถช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
5. ฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ

ฟังก์ชันเสริม สามารถเข้ามาช่วยให้คุณสามารถเขียนได้อย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีทั้ง องศาการลาดเอียง, มีความไวต่อแรงกดที่จะช่วยให้เส้นมีความหนาความบาง ตามน้ำหนักของการเขียน และที่สำคัญการวางมือขณะเขียน (Palm Rejection) ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเขียนโดยวางมือลงไปบนหน้าจอได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องใช้ถุงมือช่วย ซึ่งถ้าหากคุณใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นการเขียนที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ๆ ก็สามารถมองข้ามไปได้ครับ เพราะแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้น
Apple Pencil Gen1 ปากกาสำหรับ iPad mini5, iPad Air3, iPad (6th - 10th Gen)

ราคา 3,790 บาท*
Apple Pencil Gen1 เป็นปากกาสไตลัส ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะครับ ซึ่งรุ่นนี้มีการเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 นู้นเลย ซึ่งถึงแม้จะเปิดตัวมานานมากแล้ว แต่ทาง Apple ก็มีการแยกความเข้ากันได้ไว้อย่างชัดเจนครับ โดยถ้าใครใช้ iPad รุ่นเก่า ก็ต้องใช้คู่กับ Pencil (Gen 1) แต่ถ้าคุณเพิ่งซื้อ iPad รุ่นใหม่มา คุณก็ต้องไปซื้อ Pencil (Gen 2) แทน ก็เพราะแบบนี้เอง ทาง Apple ถึงสามารถยังขายทั้ง 2 รุ่นนี้ได้นานขนาดนี้ครับ

โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่ายครับ ใช้พื้นผิวเรียบ ๆ จับถือสบาย พร้อมกับมีประสิทธิภาพการใช้งานที่สูง ช่วยให้คุณเขียนด้วยความแม่นยำ และมีอาการหน่วงน้อยมาก ๆ ทำให้สามารถเขียนและวาดได้อย่างลื่นไหล โดยตัวปากการุ่นนี้มาพร้อมฟีเตอร์ที่เด่น ๆ ทั้ง ความไวต่อแรงกด และรองรับองศาการเอียงด้วย ช่วยให้คุณสามารถขีดเขียนลายเส้น ด้วยน้ำหนักที่ต่างกันได้ ช่วยให้จดบันทึกได้ง่ายมาก ๆ แถมยังแรงเง่ได้ด้วย ทำมห้มันเหมือนกับการใช้ดินสอจดลงบนกระดาษจริง ๆ เลย

ในส่วนการเชื่อมต่อ รุ่นนี้อาจจะเก่าหน่อยนะครับ โดยที่ด้านบนจะมีฝาปิดอยู่ ภายในจะมีพอร์ต Lightning มาให้ เอาไว้ใช้เชื่อมต่อ Bluetooth และชาร์จแบตเตอรี่ครับ สำหรับวิธีการเชื่อมต่อก็ทำได้ง่าย ๆ เลย เพียงแค่เปิดบลูธูทของอุปกรณ์ จากนั้นก็เสียบพอร์ต Lightning เข้ากับ iPad มันก็จะเชื่อมต่อกันทันที สำหรับ Apple Pencil Gen 1 รุ่นนี้ จะใช้งานกับ iPad ได้บางรุ่นเท่านั้นนะครับ ดังนั้นโปรดตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่า มันรองรับ iPad ที่คุณใช้อยู่หรือไม่ ? |
ความเข้ากันได้
|
ข้อดี
- หัวปากกาเขียนได้ง่าย มีความแม่นยำ และแทบไม่มีอาการหน่วงเลย
- รองรับการเอียง ช่วยให้แรงเงาเหมือนกับใช้ดินสอได้
- รอบรับความไวแรงกดได้หลายระดับ ทำให้ปรับน้ำหนักเส้นได้ตามต้องการ
- รองรับการปฏิเสธฝ่ามือ
- เชื่อมต่อง่าย และรวดเร็วมาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- ด้ามปากกาไม่มีที่หนีบ หรือแม่เหล็กมาให้
- ชาร์จผ่านพอร์ต Lightning เท่านั้น (Pencil Gen 2 ชาร์จผ่านแม่เหล็ก)
- ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad รุ่นใหม่ ๆ ได้
- รุ่นเก่า แต่ยังคงมีราคาแพง
หัวปากกา | Apple Pencil |
---|---|
การรองรับ | iOS (iPad บางรุ่น) |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth/ Lightning |
การชาร์จ | Lightning |
Palm Rejection | |
ความไวแรงกด | |
ขนาดด้าม | 175.7 × 8.9 × 8.9 มม. |
น้ำหนัก | 20.7 ก. |
Apple Pencil Gen2 ปากกา Stylus ที่ดีที่สุดของ iPad

ราคา 4,900 บาท*
เราคงไม่ต้องสาธยายอะไรอีกแล้ว สำหรับ Apple Pencil (Gen 2) เพราะมันถูกยกให้เป็น Stylus Pen ที่ดีที่สุดสำหรับ iPad ณ ขณะนี้ และยังถือเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพโดยรวมสูงเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับการสร้างสรรค์งานศิลปะและกราฟฟิกต่าง ๆ ด้วย ซึ่งแน่นอนครับรุ่นนี้ถูกอัพเกรดมาจาก Pencil (Gen 1) รุ่นแรก ที่เปิดตัวในปี 2015 ส่วนรุ่นนี้เปิดตัวตามมาในปี 2018 ซึ่งด้วยการใส่ประสิทธิภาพที่สูง ทำให้มันได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับ ทำให้จนถึงตอนนี้ ปี 2023 แล้ว ก็ยังไม่มีรุ่นใหม่ออกมาเลย

ซึ่งนอกจากจะมีประสิทธิภาพสูง สามารถขีดเขียนได้อย่างลื่นไหล แม่นยำ และมีความหน่วงในระดับที่น้อยมาก ๆ แล้ว มันยังมาพร้อมดีไซน์ที่เรียบหรูด้วย โดยรุ่นที่แล้ว มีชื่อ Pencil ซึ่งแปลว่าดินสอ แต่ออกแบบมาเหมือนปากกา จนคนสับคน มารุ่นนี้ทาง Apple จึงดีไซน์ใหม่ ซึ่งเน้นความเพรียวบาง และมีขนาดเล็กลง มีเหลี่ยม ๆ เหมือนดินสอมากขึ้น ทำให้เขียนได้ถนัดมากยิ่งขึ้นและให้ความรู้สึกเหมือนดินสอจริง ๆ แถมยังมีการเพิ่มเทคโนโลยีชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็กมาด้วย เพื่อให้ใช้งานร่วมกับ Apple iPad รุ่นใหม่ ๆ ได้อย่างลงตัวครับ

ในส่วนคุณสมบัติต่าง ๆ รุ่นนี้ก็มีให้ครบครันเลย ไม่ว่าจะเป็น การปฏิเสธฝ่ามือ ที่ช่วยให้เราสามารถวางมือบนหน้าจอในขณะที่กำลังเขียนได้ รองรับความไวต่อแรงกดด้วย ช่วยให้เราสามารถเพิ่มแรงกด เพื่อให้ได้เส้นที่หนาขึ้น รองรับการเอียงปากกาด้วย เพื่อใช้แรงเงาสิ่งต่าง ๆ และก็มีฟังก์ชันแตะแบบต่าง ๆ ให้ด้วย ทําให้รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ |
ความเข้ากันได้
|
ข้อดี
- ขนาด น้ำหนัก ให้ความรู้สึกเหมือนดินสอจริง ๆ
- เขียนได้ง่าย แม่นยํา และมีความหน่วงต่ำ แตะปุ๊บ เส้นติดปั๊บ
- รองรับการเอียง ทำให้ปรับน้ำหนักเส้นที่วาดได้
- รองรับการปฏิเสธฝ่ามือ
- มีเทคโนโลยีชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก
ข้อควรพิจารณา
- ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad รุ่นเก่า ๆ ได้
- มีราคาแพงมาก ๆ
หัวปากกา | Apple Pencil |
---|---|
การรองรับ | iOS (iPad บางรุ่น) |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth |
การชาร์จ | ชาร์จไร้สายด้วยแม่เหล็ก |
Palm Rejection | |
ความไวแรงกด | |
ขนาดด้าม | 166.0 × 8.9 × 8.9 มม. |
น้ำหนัก | 20.7 ก. |
Lenovo Precision Pen 2 (Xiaoxin Pad Pen) ปากกา Stylus เขียนง่าย ไวต่อแรงกด

ราคา 1,590 บาท*
Lenovo Precision Pen 2 หรืออีกชื่อก็คือ Xiaoxin Pad Pen เป็นปากกา Active Stylus ที่มีคุณภาพสูง แต่มาในราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย ผลิตด้วยอลูมิเนียมอย่างดี ช่วยให้สัมผัสที่ดี รู้สึกได้ถึงความทนทาน แถมยังมีการออกแบบมาเป็นเหลี่ยม ๆ คล้าย ๆ กับดินสอ เพื่อช่วยป้องกันการกลิ้งตกจากโต๊ะ นอกจากนี้บนด้ามปากกา ก็มีการใส่ปุ่มลัดมาให้ 2 ปุ่ม ด้วย ซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นอย่างมากครับ

สำหรับปากกา Precision Pen 2 มาพร้อมหัวปากกาปลายแหลม ขนาดเล็ก ซึ่งนับว่ามีการตอบสนองที่ดีเลยครับ โดยความรู้สึกในการเขียน อาจจะยังไม่ถึงกับรู้สึกเหมือนได้เขียนด้วยดินสอ หรือปากกาจริง ๆ แต่มันก็สามารถควบคุมทิศทางและน้ำหนักได้ดีมาก ๆ ครับ เราสามารถเขียนปากกาตัวนี้ ได้อย่างไหลลื่น บวกกับการรองรับน้ำหนักการกดได้มากถึง 4,096 ระดับ และยังรองรับองศาการเอียงได้ ทำให้การเขียน หรือวาดสิ่งต่าง ๆ มันจะมีความรู้สึกเป็นธรรมชาติ สามารถที่จะลงน้ำหนักเส้น หนา-บางได้ตามต้องการการ รวมถึงการแรเงาภาพวาดก็ทำได้ง่าย ๆ ครับ
และรุ่นนี้ยังมีจุดเด่นอีกอย่างนึงก็คือ อายุการใช้งาน ครับ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 60 mAh ช่วยให้เราสามารถใช้ปากกาตัวนี้ได้ต่อเนื่องนานประมาณ 150 ชม. เลยทีเดียวครับ ดังนั้นเราสามารถใช้วาดและเขียนได้ตลอดทั้งสัปดาห์แน่นอน พร้อมกับมีระบบปิดอัตโนมัติ เมื่อไม่มีการใช้งาน หากใครกำลังหาแท็บเล็ตอยู่ด้วย เราขอแนะนำ Lenovo Tab M10 Plus (3rd Gen) แท็บเล็ตงบฯ ไม่ถึงหมื่น แต่ได้จอ 2K ใส่ซิมฯ โทรออกได้ แถมให้ปากกา Lenovo Precision Pen 2 มาในกล่องด้วย ทำให้รุ่นนี้ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ |
ความเข้ากันได้
|
ข้อดี
- ดีไซน์เรียบง่าย แบบเหลี่ยม ๆ คล้ายดินสอ ช่วยป้องกันการกลิ้ง
- ด้ามปากกาทำจากวัสดุอลูมิเนียมที่ทนทาน
- มีการตอบสนองที่ดี และมีอาการหน่วงน้อยมาก ๆ
- มีปุ่มลัดมาให้ใช้งาน 2 ปุ่ม
- รองรับความไวแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับ สำหรับการเล่นน้ำหนักมือ เพื่อให้เส้นหนา-บางต่างกัน
- รองรับองศาการเอียง สำหรับการแรงเงาภาพ
- รองรับการปฏิเสธฝ่ามือ ช่วยให้วางมือลงบนหน้าจอ ขณะเขียนได้
- มีอายุการใช้งานยางนานถึง 150 ชม.
- ราคาคุ้มค่า
ข้อควรพิจารณา
- ด้ามปากกาไม่มีที่หนีบและแม่เหล็กมาให้
- สามารถเข้ากันได้กับ Tablet บางรุ่นของ Lenovo เท่านั้น
หัวปากกา | แบบ Disc/ แบบ Ballpen (หมึก) |
---|---|
การรองรับ | Android และ iOS ทุกรุ่น |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth |
การชาร์จ | USB Type-C |
Palm Rejection | |
ความไวแรงกด | |
ขนาดด้าม | 166 × 9.93 มม. |
น้ำหนัก | 19 ก. |
Microsoft Surface Pen M1776 ปากกาสไตลัส SrfcAcc สำหรับ Surface

ราคา 3,130 บาท*
Surface Pen M1776 เป็น Stylus pen จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Microsoft ดังนั้นเรื่องคุณภาพไม่ต้องห่วงเลยครับ สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ Windows และผู้ใช้ Surface ทั้ง Surface Pro และ Surface Book โดยมาในดีไซน์เรียบง่าย พร้อมกับประสิทธิภาพในการเขียนตอบสนองไว มีความแม่นยำ และให้ความรู้สึกเหมือนเขียนด้วยปากกาทั่วไป แถมขนาดด้ามปากกาก็เหมาะมือมาก ๆ มาพร้อมหัวปากกาขนาดเล็ก ที่เขียนได้อย่างไหลลื่นและมีความแม่นยำสูง โดยมันไม่มีการหน่วงให้เห็นเลย ส่วนปลายปากกาด้านตรงข้ามรุ่นนี้ใส่ปุ่มลัดมาให้ด้วย (เป็นยางลบ) ช่วยให้คุณใช้สร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ขึ้น

โดยรุ่นนี้รองรับความไวต่อแรงกดได้ถึง 4,096 ระดับ และรองรับการเอียงตัวของปากกาด้วย ทำให้การเขียน การวาดเส้น การแรงเงา หรือแม้แต่การลงสี เจ้ารุ่นนี้ก็สามารถทำได้อย่างแม่นยำและง่ายดายครับ ช่วยคุณสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น เพราะมีความละเอียดที่สูงกว่าปากกาทั่วไป ทำให้คุณรู้สึกเหมือนปากกาจริง ๆ นอกจากนี้ยังรองรับ Palm Rejection หรือการปฏิเสธฝ่ามือ ช่วยให้คุณวางมือไปบนหน้าจอ ในขณะเขียนได้เลย และถ้าหากใครใช้ Surface อยู่ แล้วกำลังต้องการปากกาคุณภาพสูง ๆ รุ่นนี้เหมาะกับคุณมาก ๆ ครับ

ซึ่งการตอบสนองแบบสัมผัส ทําให้รุ่นนี้ดูน่าสนใจมาก ๆ ครับ เพราะสามารถให้ความรู้สึกเหมือนเราเขียนด้วยปากกาบนกระดาษจริง ๆ ส่วนการเชื่อมต่อรุ่นนี้ก็ทำได้ง่าย ๆ ครับ โดยจะใช้ Bluetooth 4.0 ซึ่งมีความเสถียรมาก ๆ และแทบไม่มีอาการหน่วงให้เห็นเลย ซึ่งจุดที่ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบคือ การไม่มีแบตเตอรี่ และการชาร์จ แต่รุ่นนี้จะใช้ถ่าน AAAA จำนวน 1 ก้อน ซึ่งแน่นอนครับมันใช้งานได้นานมาก ๆ แต่ถ้าถ่านหมด มันก็หาซื้อยากเช่นกัน |
ความเข้ากันได้
|
ข้อดี
- ดีไซน์เรียบง่าย ดูพรีเมี่ยม มีขนาดเหมาะมือ
- หัวเขียนได้ง่าย มีความแม่นยำ และแทบไม่มีอาการหน่วงเลย
- ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับปากกาจริง ๆ มาก
- มีปุ่มยางลบอยู่ด้านบน และมีปุ่มคลิกขวา และเลือก เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- รองรับการเอียง ทำให้สามารถแรงเงาได้ตามต้องการ
- รองรับแรงกดได้ถึง 4,096 จุด ซึ่งถือว่าควบคุมได้ละเอียดมาก ๆ
- รองรับเทคโนโลยีปฏิเสธฝ่ามือ ช่วยให้คุณวางมือและข้อมือบนจอได้
- ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ เพราะถ่าน AAAA ใช้ได้นานมาก และพกสำรองได้
- เชื่อมต่อง่าย และรวดเร็วมาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- ด้ามปากกาไม่มีคลิปหนีบ
- บางรุ่นของ Surface ไม่รองรับบางพีเจอร์ (โดยเฉพาะรุ่นเก่า ๆ)
- เหมาะสำหรับใช้งานร่วมกับ Surface เท่านั้น
- ใช้ถ่าน AAAA ไม่มีที่ชาร์จ (ถ่าน AAAA หาซื้อยากมาก ๆ อาจจะต้องสั่งออนไลน์)
- มีราคาค่อนข้างแพง
หัวปากกา | Barrel Button/ Tail Eraser |
---|---|
การรองรับ | Surface บางรุ่น |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth 4.0 |
การชาร์จ | 1 × AAAA |
Palm Rejection | |
ความไวแรงกด | |
ขนาดด้าม | 146.1 × 9.7 × 9.7 มม. |
น้ำหนัก | 20 ก. |
Adonit Dash 4 ปากกาสไตลัส ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone, iPad และ Android

ราคา 1,590 บาท*
เมื่อพูดถึงปากกาสไตลัสราคาประหยัด แต่ให้ฟังก์ชันครบครัน มีหนึ่งแบรนด์ที่ผู้คนทั่วโลกให้ความไว้วางใจเป็นอย่างมาก นั่นคือ Adonit กับรุ่น Adonit Dash 4 ปากกา Stylus รุ่นใหม่ ที่ให้คุณซื้อเพียงแค่ด้ามเดียว แต่สามารถนำไปสลับใช้กับอุปกรณ์อะไรก็ได้ ขอแค่ให้เป็นหน้าจอสัมผัส ไม่ว่าจะ iPhone, iPad, Android และอื่น ๆ
ซึ่งตัวด้ามมาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรู มีปุ่มเปิด-ปิดอยู่ด้านบน มีคลิปหนีบที่ตัวปากกา โดยด้ามทำจากอะลูมีเนียม ช่วยให้สัมผัสที่ดี รู้สึกคงทน แถมเล็กและเบาเพียง 14 ก. เท่านั้น ช่วยให้พกพาสะดวกมาก ๆ ส่วนหัวปากกาใช้เป็นแบบเกลียว 1 มม. ช่วยรู้สึกเหมือนได้เขียนด้วยปากกาจริง ๆ แต่ถ้าไม่ชอบ คุณก็สามารถถอดเปลี่ยนหัวได้ง่าย ๆ ครับ สำหรับปากกา Stylus รุ่นนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับหลาย ๆ อุปกรณ์จริง ๆ ครับ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อใด ๆ เลย โดยมันจะมีโหมดการใช้งานมาให้ 2 โหมดครับ ซึ่งแบ่งด้วยสีไฟสถานะ ดังนี้ |
|

โดยในการเริ่มใช้งานสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการกดปุ่มพาวเวอร์ที่ด้านบน ซึ่งจะมีไฟสถานะติดขึ้นมา เท่านี้ตัวปากกาก็พร้อมจะใช้งานได้ทันทีครับ แต่คุณต้องปรับโหมดการใช้งานให้เหมาะกับอุปกรณ์ด้วยนะครับ แต่ด้วยความที่มันไม่ได้เชื่อมต่อด้วยบลูทูธ ทำให้มันอาจจะมีอาการดีเลย์อยู่บ้างครับ นอกจากนี้ข้อดีอีกอย่างคือ การชาร์จที่รวดเร็ว ซึ่งชาร์จจนเต็มจะใช้เวลา 1 ชม. เท่านั้นแต่สแตนบายได้นานสุด 15 ชม. และยังสามารถชาร์จระหว่างใช้งานได้ตลอด ผ่านแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง
ข้อดี
- ดีไซน์เรียบหรู วัสดุดูดี แถมมีคลิปหนีบในตัว
- สามารถใช้งานกับหน้าจอสัมผัสได้ทั้งหมด
- มีโหมดการใช้งาน 2 โหมด สลับใช้งานระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่าย
- รองรับการเอียงได้ถึง 60 องศา ทำให้ปรับน้ำหนักเส้น สามารถใช้แรงเงาได้อย่างง่ายดาย
- รองรับเทคโนโลยีปฏิเสธฝ่ามือ (เฉพาะ iPad รุ่นใหม่ ๆ)
- เชื่อมต่อง่าย ไม่ต้องใช้บลูทูธ
- แท่นชาร์จแม่เหล็ก ที่ชาร์จได้เร็ว
ข้อควรพิจารณา
- ด้ามปากกาไม่มีแม่เหล็ก ทำให้ติดด้านข้าง iPad ไม่ได้
- หัวปากกาขนาดเล็กก็จริง แต่ไม่แหลมเหมือนปากกา ทำให้เขียนยาก (เส้นที่ได้อาจจะไม่ตรงกับที่เราเขียน)
- มีอาการหน่วงอยู่บ้าง ในบางจังหวะ
- การใช้งานบนสมาร์ทโฟน และ iPad 2017 หรือต่ำกว่า จะไม่รองรับการปฏิเสธฝ่ามือ
- การขีดเขียนงานบนแอปฯ บางตัว มีปัญหา เช่น ไม่สามารถเล่นน้ำหนักเส้นได้
- การชาร์จต้องใช้แท่นชาร์จเท่านั้น (ถ้าหายก็จะชาร์จไม่ได้ เพราะไม่มีพอร์ตมาเลย)
หัวปากกา | 1.0 mm Fine Tip |
---|---|
การรองรับ | หน้าจอสัมผัสทั้งหมด |
การเชื่อมต่อ | |
การชาร์จ | USB Type-C |
Palm Rejection | |
ความไวแรงกด | |
ขนาดด้าม | 150 × 8.8 มม. |
น้ำหนัก | 15 ก. |
Logitech Crayon ปากกา Stylus ที่แม่นยำ สำหรับ iPad ทุกรุ่น (ปี 2018 ขึ้นไป)

ราคา 2,590 บาท*
Logitech Crayon เป็น Stylus Pen ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad ทุก ๆ รุ่นเลย นับตั้งแต่ปี 2018 ขึ้นมา โดยรุ่นนี้จะมีการผลิตด้วยเทคโนโลยีแบบเดียวกับ Apple Pencil เลยครับ เพียงแต่จะออกแบบโดย Logitech แบรนด์ IT ชั้นนำระดับโลก ซึ่งวางขายด้วยราคาที่ถูกกว่าเกือบครึ่งนึง ช่วยให้คุณได้ขีดเขียน และวาดอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยความแม่นยำ และแทบไม่หน่วงเลย แถมยังสามารถนำไปใช้งานกับแอปพลิเคชั่นที่รองรับ Apple Pencil ได้ทันทีอีกด้วย ใครที่ต้องการ Apple Pencil แต่งบน้อย รุ่นนี้ช่วยได้ครับ
อย่างที่บอกครับว่า รุ่นนี้มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นหากคุณต้องการเขียนเส้นหนา ๆ หรือเส้นบาง ๆ คุณก็สามารถที่จะทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่เอียงปากกาเล็กน้อยครับ เนื่องจากรุ่นนี้รองรับการปรับน้ำหนักเส้นตามองศา ซึ่งไม่ต่างจากการแรงเงาด้วยดินสอปกติ นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยีตรวจจับการวางมือในขณะเขียนอีกด้วย ช่วยให้คุณสามารถวางมือลงบนหน้าจอในขณะเขียนได้ ช่วยให้คุณเขียนได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นรุ่นนี้ก็มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนอีกด้วย โดยมีด้ามปากกาที่เล็ก และบางเบา ช่วยให้จับถนัดมือมาก ๆ ทั้งยังทำมาจากอะลูมิเนียมอย่างดี ซึ่งให้ความรู้สึกที่ทนทานสุด ๆ แถมตัวด้ามจะออกแบบมาให้มีมีลักษณะเป็นวงรี ซึ่งช่วยป้องกันการกลิ้งตกจากโต๊ะได้ ส่วนอายุการใช้งาน รุ่นนี้ใช้ได้ต่อเนื่องนานถึง 7.5 ชม. เลยทีเดียวครับ พร้อมระบบปิดอัตโนมัติ เมื่อไม่มีการใช้งาน ดังนั้นคุณสามารถใช้งานตลอดทั้งวันได้สบาย ๆ ครับ |
ความเข้ากันได้
|
ข้อดี
- การออกแบบที่แตกต่าง ดูพรีเมี่ยม สวยงามไม่เหมือนใคร
- ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ Apple Pencil ช่วยให้สามารถใช้งานแอปฯ ที่รองรับ Apple Pencil ได้
- ใช้ปลายปากกาของ Apple Pencil ได้
- รองรับการเอียง ทำให้ปรับน้ำหนักเส้นได้ ขึ้นอยู่กับมุมที่วางลงไป
- รองรับเทคโนโลยีปฏิเสธฝ่ามือ ช่วยให้คุณเขียนถนัดมากขึ้น
- เชื่อมต่อได้ง่าย เพียงแค่เปิดปากกา คุณจะพร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องจับคู่กับ iPad
- มีการป้องกันการตกจากที่สูงประมาณ 1.2 เมตร
- ชาร์จ 2 นาที ด้วยสาย Lightning Cable มันจะใช้ได้นานถึง 30 นาที
- สามารถใช้งานร่วมกับ iPad ได้ทุกรุ่น (ตั้งแต่ปี 2018 ขึ้นไป)
ข้อควรพิจารณา
- ดีไซน์ด้ามจับเป็นแบบแบน อาจทำให้บางคนเขียนไม่ถนัด
- ไม่รองรับความไวแรงกด หรือการลงน้ำหนักด้วยการกดปากกา
- ชาร์จผ่านพอร์ต Lightning
- ไม่มีสายชาร์จมาให้ในกล่อง
- ใช้ได้กับ iPad Pro, iPad Air, iPad mini และ iPad (รุ่นปี 2018 ขึ้นไป)
หัวปากกา | ขนาด 1.0 มม. |
---|---|
การรองรับ | iPad ทุกซีรีส์ (ปี 2018 ขึ้นไป) |
การเชื่อมต่อ | |
การชาร์จ | ขาตั้งแม่เหล็ก แบบ USB-C |
Palm Rejection | |
ความไวแรงกด | |
ขนาดด้าม | 163.0 × 12.0 × 8.0 มม. |
น้ำหนัก | 20 ก. |
GOOJODOQ GD13 ปากกาสไตลัส ราคาประหยัด สำหรับ iPad

ราคา 721 บาท*
สำหรับ Goojodoq GD13 เป็น Stylus pen ราคาประหยัด ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับ iPad โดยเฉพาะครับ โดยรุ่นนี้จะเข้ากันได้กับ iPad 2018 - 2022 เลย ส่วนในดีไซน์ตัวด้ามจะมีหน้าตาที่มีความเรียบหรู เป็นเหลี่ยม ๆ ทำให้มันไม่กลิ้งไปมา ๆ ส่วนขนาดก็เพรียวบาง และน้ำหนักเบา ใกล้เคียงกับ Apple Pencil Gen2 เลย ช่วยให้การจับถือถนัดมือ แถมรุ่นใหม่ยังมาพร้อมการชาร์จไร้สายระบบแม่เหล็ก ทำให้คุณสามารถนำไปแปะข้าง ๆ iPad เพื่อชาร์จและเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ เพิ่มความสะดวกมาก ๆ

โดยรุ่นนี้มาพร้อมหัวปากกาแบบแหลม ขนาดเล็ก เพียง 1.0 มม. เท่านั้นครับ ช่วยมอบสัมผัสการเขียนที่ลื่นไหล มีความแม่นยำ และการตอบสนองที่ไวพอสมควรเลย พร้อมด้วยรองรับ Palm Rejection ที่ช่วยให้คุณสามารถวางมือลงบนหน้าจอ ในขณะขีดเขียนได้ ทำให้คุณเขียนได้ถนัดมากยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเขียนบนกระดาษเลย และยังมีฟังก์ชันตรวจจับความเอียงมาให้ด้วย ช่วยให้คุณปรับน้ำหนักเส้นได้แบบไดนามิก โดยจะขึ้นอยู่กับมุมของดินสอที่คุณเขียนลงไป
ส่วนการเชื่อมต่อรุ่นนี้ก็ปรับให้ดีขึ้นจาก GD12 โดยมันจะเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ เพียงแค่นำไปติดข้าง ๆ iPad แล้วดึงออกมามันจะพร้อมใช้งานทันที โดยที่หน้าจอ iPad จะมีการแสดงผลชัดเจน พร้อมบอกสถานะแบตเตอรี่คงเหลือให้เราด้วย ส่วนอายุการใช้งานหากคุณไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 5 นาที มันจะปิดตัวเองอัตโนมัติ ช่วยให้แบตฯ ใช้งานได้นานขึ้นโดยรุ่นนี้จะใช้งานได้ที่สูงสุดประมาณ 15 ชม. |
ความเข้ากันได้
|
ข้อดี
- ดีไซน์เรียบหรู ดูสวยงาม
- หัวเขียนได้ง่าย ใช้งานได้อย่างแม่นยำ และลื่นไหลยิ่งขึ้น
- รองรับการเอียง มีความไวต่อแรงกด ทำให้ปรับน้ำหนักเส้นได้แบบไดนามิก ขึ้นอยู่กับมุมที่วางลง
- รองรับเทคโนโลยีปฏิเสธฝ่ามือ ช่วยให้คุณเขียนถนัดมากขึ้น
- มีแม่เหล็กสำหรับติดด้านข้าง ๆ ของ iPad ได้ช่วยพกพาสะดวกขึ้น
- ติดตั้งเชื่อมต่อได้ง่ายมาก ๆ ไม่ต่างจาก Pencil Gen 1 และ Pencil Gen 2 เลย
- มีราคาคุ้มค่ามาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- ด้ามปากกาไม่มีที่หนีบมาให้
- วัสดุตามราคา
- รองรับการใช้งานกับ iPad เท่านั้น (โปรดเช็ค iPad รุ่นที่รองรับก่อนสั่งซื้อ)
หัวปากกา | 1.0 mm Fine Tip |
---|---|
การรองรับ | iPad ปี 2022 |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth |
การชาร์จ | สายชาร์จแม่เหล็ก |
Palm Rejection | |
ความไวแรงกด | |
ขนาดด้าม | 8.9 มม. |
น้ำหนัก | N/a |
Adonit Pro 3 ปากกา Stylus ใช้ได้กับทุกหน้าจอ Touch Screen

ราคา 890 บาท*
มาต่อกันที่ Adonit Pro 3 เป็นปากกาสไตลัสแบบแอนาล็อก ที่มีความแม่นยำ ที่สามารถใช้วาด สเก็ตช์ภาพ และจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา แถมยังใช้บนหน้าจอทัชกรีนได้ทุกชนิด ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ไม่ต้องเชื่อมต่อใด ๆ ทั้งสิน หยิบขึ้นมาใช้เขียนได้ทันที
โดยรุ่นนี้มาพร้อมหัวแบบ disc ที่สามารถเขียนได้อย่างเเม่นยำ และไหลลื่น ตัวด้ามปากกาทำจาก Solid Aluminium ที่เรียบหรู ดูเเข็งเเรง ด้านบนมีคลิปหนีบที่ตัดด้วยเลเซอร์ ช่วยให้มันดูหรูหรา มีระดับมาก ๆ พร้อมกับมีฝาปากกามาให้ด้วย โดยตัวด้ามรุ่นนี้มีความหนาอยู่ที่ 8.5 มม. ครับ ขนาดถือว่าพอดีมือเลย ใช้งานง่าย สบายมือ สำหรับรุ่นนี้สามารถใช้งานได้เลยทันที เนื่องจากตัวปากกาไม่มีแบตเตอรี่
ข้อดี
- ดีไซน์สุดหรู ดูแพงมาก ๆ
- สามารถใช้งานกับหน้าจอทัชสกรีนได้ทั้งหมด
- ด้ามปากกาทำจากอลูมิเนียม พร้อมฝาปิดแม่เหล็ก ให้คุณพกพาได้อย่างมั่นใจ
- หัวปากกาแบบ Disc ออกแบบมาเป็นชิ้นเดียว ช่วยให้เขียนได้ไหลลื่น
- ใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ หรือชาร์จแบตเตอรี่
- ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตทุกรุ่น
- ด้ามปากกามีที่หนีบมาให้
ข้อควรพิจารณา
- การเขียนอาจจะมีรู้สึกหน่วง ๆ บ้าง
- ไม่รองรับความไวต่อแรงกด
- ไม่รองรับการปฏิเสธฝ่ามือ
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานแบบจริงจัง
หัวปากกา | แบบ Disc |
---|---|
การรองรับ | อุปกรณ์ทัชสกรีนทั้งหมด |
การเชื่อมต่อ | |
การชาร์จ | |
Palm Rejection | |
ความไวแรงกด | |
ขนาดด้าม | 125.9 × 8.5 × 8.5 มม. |
น้ำหนัก | 15.4 ก. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว 8 ปากกาสไตลัส (Stylus Pen) ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
Apple Pencil Gen1 ปากกาสำหรับ iPad mini5, iPad Air3, iPad (6th - 10th Gen) |
| |||
| ||||
Lenovo Precision Pen 2 (Xiaoxin Pad Pen) ปากกา Stylus เขียนง่าย ไวต่อแรงกด |
| |||
Microsoft Surface Pen M1776 ปากกาสไตลัส SrfcAcc สำหรับ Surface |
| |||
Adonit Dash 4 ปากกาสไตลัส ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone, iPad และ Android |
| |||
Logitech Crayon ปากกา Stylus ที่แม่นยำ สำหรับ iPad ทุกรุ่น (ปี 2018 ขึ้นไป) |
| |||
| ||||
|
บทส่งท้าย
ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน การเขียนด้วย ปากกาสไตลัส จะยังคงมีความรู้สึกที่แตกต่างกับปากกาจริง ๆ อยู่บ้าง ทั้ง อาการดีเลย์ หน่วง เขียนติดบ้างไม่ติดบ้าง การเล่นน้ำหนักเส้นจากแรงกด และอีกมากมาย ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องฝึกฝนครับ รวมไปถึงอุปกรณ์และปากกาที่ใช้ด้วย ถ้าเป็นรุ่นท็อปที่มีราคาแพง ๆ หน่อย มันก็จะเขียนได้ลื่นไหลอย่างรุ่น Apple Pencil Gen 2 เป็นต้น แต่หากคุณมีงบฯ จำกัด และแค่ต้องการนำไปใช้งานทั่ว ๆ ไป คุณก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงขนาดนี้ เพราะรุ่นประหยัด ๆ เช่น Adonit Pro 3 และ GOOJODOQ GD13 ก็ให้คุณภาพที่น่าประใจแล้ว ดังนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วล่ะครับว่าต้องการแบบไหน ?