ในปัจจุบัน ลําโพงบลูทูธ bluetooth (ไร้สาย) มีอยู่หลายประเภทเลยครับ ซึ่งถ้าบ้านของเพื่อน ๆ เป็นสมาร์ทโฮม มีอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ทั้งปลั๊กไฟ, หลอดไฟ, กริ่งประตู หรือสมาร์ททีวี แล้วต้องการลำโพงสักตัวนึง ที่นำมาเชื่อมต่อเพื่อรับสั่งงานเสียง แน่นอนว่า ลำโพงอัจฉริยะ คือคำตอบครับ แต่ถ้าใครต้องการนำไปเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่หลากหลาย สลับกันไปมา ๆ ลำโพงบลูทูธเกรดพรีเมียม ที่รองรับ Wi-Fi รวมถึง Apple AirPlay และ Google Chromecast จะเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่สุด เพราะให้ฟังก์ชันมาเยอะแยะเลย แต่ในทางกลับกัน มันก็ทำให้ยุ่งยาก และราคาก็แพงเกินความจำเป็นไปมากเช่นกันครับ ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ต้องการนำไปใช้งานทั่วไป โดยเชื่อมต่อกับ มือถือ, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ค ใช้แค่ ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth Speaker) ธรรมดา ๆ ก็เพียงพอแล้วครับ ซึ่งอาจจะเป็นเทคโนโลยีเก่า แต่ก็เก๋า แถมเสียงที่ได้ก็ดีไม่แพ้กัน และที่สำคัญนะครับราคาไม่แพงด้วย
ดังนั้นถ้าใครกำลังมองหาลำโพงบลูทูธสักตัวนึง ที่ขับเสียงดี ๆ เสียงดัง ๆ โดยที่มีราคาไม่แพงคุณมาถูกที่แล้วครับ ในวันนี้เราได้รวบรวม ลำโพงบลูทูธ ที่คุ้มค่าที่สุด ในระดับราคาต่าง ๆ มารีวิวให้ทุกคนได้เลือกซื้อกัน

แต่ก่อนที่เราจะไปเข้าสู่เนื้อหา เราขอบอกก่อนนะครับว่า ข้อมูลทั้งหมด เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเพียงเท่านั้น โดยเฉพาะ “คุณภาพเสียง” ซึ่งเราเองไม่สามารถตอบได้ว่า ลำโพงตัวไหน เสียงดี? เพราะมันขึ้นอยู่กับหูของแต่ละคน ดังนั้น หากเพื่อน ๆ สนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปหาฟังเสียงดูก่อน เพื่อให้ได้ลำโพงที่ตรงกับความต้องการของเพื่อน ๆ มากที่สุด
ลำโพงบลูทูธ รุ่นไหนดี JBL, Marshell, Sony, Anker, Harman, AIWA
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่คุ้มค่าที่สุด สวย เสียงดี ราคาไม่แพง แถมฟังก์ชันครบ : Anker Soundcore Flare Mini
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่เสียงดีที่สุด บางเบา เสียงดี แบตฯ อึด แถมชาร์จไว : Marshall Emberton
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่พกพาง่ายที่สุด ขนาดเล็กจิ๋ว แถมทนทาน นำไปลุยได้เต็มที่ : Sony SRS-XB13
- ลำโพงบลูทูธขนาดใหญ่ ที่คุ้มค่าที่สุด เสียงดี ฟังก์ชันครบ ในราคาไม่แพง : JBL Charge Essential
- ลำโพงบลูทูธขนาดใหญ่ ที่คุณสมบัติโดยรวมดีที่สุด เสียงดี ปรับโทนเสียงได้ แบตฯ อึด แถมชาร์จไว : Marshall Stockwell II
- ลำโพงบลูทูธขนาดใหญ่ ที่มีดีไซน์คลาสสิกที่สุด เป็นได้ทั้ง ลำโพง และของตกแต่งห้องในตัว : AIWA MI-X150 Retro Plus
- ลำโพงบลูทูธขนาดใหญ่ ที่มีดีไซน์เรียบหรูที่สุด จะพกก็ได้วางตกแต่งห้องก็เก๋ : Harman Kardon Onyx Studio 6
วิธีการเลือก ลำโพงบลูทูธ ที่เหมาะกับคุณที่สุด ?
ในปัจจุบันนี้การเลือก ลำโพง Bluetooth สักตัวนึง ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะในตลาดมีอยู่หลายรุ่นหลายราคาให้เลือก ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดเราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้ครับ เพื่อจำกัดตัวเลือกให้แคบลง เพื่อน ๆ จะได้หาลำโพงบลูทูธที่ตรงกับความต้องการของเพื่อน ๆ มากที่สุดได้ง่ายขึ้น
1. คุณภาพเสียง
|
สิ่งที่สำคัญที่สุดของลำโพงทุกประเภทก็คือ เสียง ซึ่งคุณภาพเสียงที่ขับออกมา มันจะต้องเหมาะกับแนวเพลง และตรงกับโทนเสียงที่เพื่อน ๆ ชื่นชอบที่สุด โดยบางคนอาจจะชอบเสียงเบส เน้นเพลงร็อค จังหวะมันส์ ๆ หรือบางคนอาจจะชอบจังหวะสนุก ๆ เพื่อน ๆ ก็เลือกตามโทนเสียงที่ชื่นชอบได้ครับ แต่ถ้าจะให้เราแนะนำ ส่วนตัวมองว่า ลำโพงที่ขับเสียงออกมาครบ ทั้ง เสียงเบส เสียงกลาง และเสียงแหลม คุ้มค่าที่สุดครับ เพราะเพื่อน ๆ สามารถใช้ฟังเพลงได้ทุกแนว ใช้รับชมซีรีส์ หรือใช้ดูหนัง Sci-Fi มันส์ ๆ ก็ได้ครับ ส่วนการลองฟังเสียงเพื่อน ๆ สามารถไปฟังตัวอย่างเสียงจากผู้ผลิต หรืออ่านรีวิวในสื่อต่าง ๆ ก็ได้เช่นกันครับ |
2. การพกพา
เพื่อน ๆ ลองตอบตัวเองดูก่อนนะครับว่า ต้องการให้ลำโพงบลูทูธตัวนี้ พกพาได้ง่ายแค่ไหน ? ถ้าเพื่อน ๆ วางแผนที่จะเปิดเพลงฟังภายในบ้านเพียงอย่างเดียว เวลาออกจากบ้าน จะใช้หูฟังแทนลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ ๆ ที่ให้กำลังขับสูง ๆ ก็จะเหมาะสมกว่าครับ แต่ถ้าเพื่อน ๆ วางแผนจะใช้ทั้งภายใน และภายนอกบ้าน อาทิเช่น จัดปาร์ตี้ในสวนกลางแจ้ง หรือริมสระน้ำ ลำโพงบลูทูธที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาง่าย ๆ อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะมันเคลื่อนย้ายได้ง่ายนั่นเอง
3. อายุการใช้งาน (แบตเตอรี่)
|
สิ่งที่สำคัญของ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบไร้สาย ทุกประเภทคือ แบตเตอรี่ ครับ ดังนั้นเพื่อน ๆ ควรดูความจุแบตเตอรี่ของลำโพงแต่ละรุ่นก่อน เพื่อคาดคะเนอายุการใช้งานว่าใช้ได้กี่ชั่วโมง ? จากนั้นก็มาเทียบกับการใช้งานของเพื่อน ๆ ดูว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ? เช่น ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการใช้เปิดเพลงฟังตอนล้างรถประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อน ๆ ก็จะต้องเลือกรุ่นที่มีอายุการใช้งานประมาณ 3 ชั่วโมง ขึ้นไป แต่หากเพื่อน ๆ จะใช้ในงานปาร์ตี้ มันก็ต้องใช้งานได้อย่างน้อย ๆ ก็ 4-5 ชั่วโมง เป็นต้น ฉะนั้นเพื่อน ๆ ควรเลือกรุ่นที่มีอายุการใช้งาน สอดคล้องกับความต้องการของเพื่อน ๆ นะครับ |
4. การป้องกันน้ำ รวมถึงความทนทาน
ถ้าหากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ชื่นชอบการผจญภัย รักในการเดินทาง และชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ เพื่อน ๆ ก็ควรเลือกลำโพงบลูทูธที่สามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้ดี ยิ่งหากเพื่อน ๆ รู้ตัวเองว่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตลุย ๆ และสมบุกสมบัน นอกจากกันน้ำแล้วมันก็ต้องเป็นลำโพงที่ มีความทนทานสูง ๆ สามารถทนต่อการตกหล่น หรือการตกกระแทกได้ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการนำไปใช้งานในบ้านเพียงอย่างเดียว ความทนทานต่าง ๆ เหล่านี้ก็ไม่จำเป็นครับ เพื่อน ๆ ก็สามารถเลือกลำโพงที่มีดีไซน์โดดเด่น จนดูกลืนเป็นของตกแต่งบ้านได้ครับ
5. การเชื่อมต่อ
|
อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นครับว่า ในปัจจุบัน ลำโพงไร้สาย มีทั้ง ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth Speaker) ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธได้เท่านั้น กับ ลำโพงไวเลส (Wireless Speaker) หรือ ลำโพงอัจฉริยะ ที่นอกจากบลูทูธแล้วยังรองรับการเชื่อมต่ออื่น ๆ ได้ทั้ง สาย, NFC และ Wi-Fi ซึ่งรวมถึง AirPlay และ Chromecast ด้วยความที่มันใหม่และเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ได้แทบทุกอย่าง ทำให้มันยุ่งยาก และมีราคาสูงมาก ๆ โดยส่วนตัวเรามองว่า มันจำเป็นกับบางคน ที่ทำบ้านให้เป็น Smart Home เท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่มักจะต้องการนำไปเชื่อมต่อกับมือถือ และแท็บเล็ต เพียงเท่านั้น
ดังนั้นแค่ ลำโพงบลูทูธ ธรรมดา ๆ มันก็ตอบโจทย์แล้วครับ ซึ่งวิธีเลือก แนะนำให้ดูที่เวอร์ชันของ Bluetooth ว่า เก่าเกินไปหรือไม่ ? เพราะยิ่งใช้ Bluetooth เวอร์ชันใหม่ อย่าง Bluetooth 5.0 หรือ 5.1 มันก็จะให้สัญญาณที่เสถียรยิ่งขึ้นครับ |
6. ราคา
สิ่งสุดท้ายเพื่อน ๆ ควรตั้งงบประมาณสำหรับลำโพงของเพื่อน ๆ เอาไว้ด้วย เนื่องจากในตลาดลำโพงปัจจุบันมีให้เลือกทุกระดับราคาเลย ดังนั้นเพื่อให้เพื่อน ๆ เหลือตัวเลือกน้อยลง การจำกัดขอบเขตโดยการกำหนดงบประมาณ ก็จะสามารถช่วยให้เพื่อน ๆ รู้ว่าในงบของเพื่อน ๆ จะได้สเปกอะไรบ้าง ? มากน้อยแค่ไหน ? และจะทำให้เพื่อน ๆ เปรียบเทียบสเปกของรุ่นต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
ในปัจจุบัน ลำโพงไร้สาย มีมากมายหลายแบบหลายรุ่น แน่นอนคำถามที่ตามมาคือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? ดังนั้นเพื่อช่วยให้การตัดสินใจของคุณนั้นง่ายขึ้น เราได้ทำการเลือก ลำโพงไร้สาย รุ่นที่ได้รับความนิยมในปี 2023 มาทำการรีวิวให้คุณให้คุณได้ลองอ่าน ลองเปรียบเทียบกันดูครับ ซึ่งเราจะหยิบยกรุ่นอะไรมารีวิวบ้าง ? ตามไปดูกันเลย
Anker Soundcore Flare Mini ลำโพงบลูทูธ

ราคา 1,199 บาท*
ลำโพงบลูทูธแบบพกพา ซึ่งมาในทรงกระบอกเรียบ ๆ มีขนาดกำลังดี พกพาง่าย โดยด้านบน และด้านล่าง ใช้วัสดุเป็นยาง ช่วยให้มันยึดติดพื้นผิวได้ทุกชนิด และที่ด้านล่างยังมีการตกแต่งด้วยไฟ LED ที่ปรับแต่งได้ ส่วนรอบ ๆ จะเป็นตะแกรงหุ้มทับด้วยผ้า ทำให้ดูพรีเมียมขึ้น และยังมีการปิดรูต่าง ๆ ด้วย ทำให้มีการกันน้ำได้ที่ IPX7 เลยทีเดียวครับ ซึ่งสามารถโดนน้ำได้ ส่งผลให้การใช้งานกลางแจ้งไม่มีปัญหาเลย

ส่วนเสียงรุ่นนี้ขับด้วยลำโพงที่มีกำลังขับ 5W จำนวน 2 ตัว เมื่อติดตั้งในบอดี้ที่เหมือนตึกสูง ทำให้เสียงออกมา 360 องศาเลย ทุก ๆ คนในวงได้ยินกันถ้วนหน้าแน่นอน ส่วนเทคโนโลยีเสียงใช้ BassUp ที่เน้นเสียงเบสให้ชัดขึ้น แต่จะเป็นเบสนุ่ม ๆ ฟังสบาย พร้อมทั้งรองรับการเชื่อมต่อลำโพงคู่อีกด้วย หมายถึง เพื่อน ๆ สามารถเอา Flare Mini อีก 1 ตัว มาจับคู่เพื่อขับเสียงพร้อมกัน 2 ตัวได้ ทำให้ได้เสียงสเตอริโอแบบง่าย ๆ ครับ นอกจากนี้ยังมีไมค์ในตัวด้วย ทำให้เพื่อน ๆ พูดคุยโทรศัพท์ผ่านลำโพงได้เลย

ซึ่งจากที่เราได้ทดสอบการใช้งาน เราพบว่า รุ่นนี้ฟังได้นาน 9-10 ชม. เลยทีเดียวครับ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับอายุการใช้งานที่แบรนด์ได้เครมเอาไว้ที่ 12 ชม. เลย ดังนั้นใครที่จะใช้งาน 4-5 ชม. รุ่นนี้ใช้ได้สบาย ๆ ครับ และความพิเศษอีกอย่างของรุ่นนี้ คือ แอปฯ Soundcore ที่เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปควบคุม และปรับ EQ ได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้โทนเสียงตามที่เพื่อน ๆ ชื่นชอบ ดังนั้นในภาพรวมเจ้า Flare Mini ถือเป็นลำโพงบลูทูธที่อเนกประสงค์จริง ๆ ครับ เหมาะจะใช้งานได้หลากหลายมาก ๆ
ความรู้สึกส่วนตัว หลังจากที่ได้ฟังเสียงของ Soundcore Flare Mini เรามองว่า เสียงของรุ่นนี้จะออกแนวนิ่ม ๆ ฟังสบาย ๆ ครับ มีเบสกำลังดี มีความทุ้ม แต่ไม่มาก เสียงกลางและเสียงร้อง มีความคมชัด และเสียงที่โดดเด่นคือ เสียงแหลม ที่พุ่งได้ไกล เคลียร์ใส ถ้าหากเพื่อน ๆ ต้องการเสียงที่สมดุล ฟังได้ทุกแนวเพลง รุ่นนี้เหมาะมากครับ แต่ถ้าใครที่ชอบเบสหนัก ๆ เน้นฟังแนวดนตรีมันส์ ๆ เพื่อน ๆ ก็อาจจะชอบ JBL Charge Essential มากกว่า
อ่านรีวิวเต็ม ๆ ได้ที่ : [รีวิว] Anker Soundcore Flare Mini ลำโพงบลูทูธ แบตฯ อึด เบสแน่น เสียงใส
ข้อดี
- เบสนุ่มฟังสบาย ๆ กลางชัด แหลมพุ่งใส โดยรวมเสียงมีความสมดุลสูง
- บอดี้ที่มีขนาดกำลังดี และเบา และมีไฟ LED ที่ปรับแต่งได้
- ดีไซน์ทรงกระบอก และดอกลำโพง 2 ตัว ช่วยให้ขับเสียงได้แบบ 360 องศา
- มีการกันน้ำที่ IPX7 สามารถโดนน้ำได้
- รองรับการจับคู่กับ ลำโพงรุ่นเดียวกัน ได้อีก 1 ตัว เพื่อช่วยกันขับเสียงแบบสเตอริโอ
- มีไมโครโฟนในตัว ให้ 1 ตัว ทำให้ใช้ในการโทรฯ ได้
- มีแอปฯ Soundcore ที่ให้เราสามารถควบคุม ปรับแต่ง และตั้งค่า EQ ได้ง่าย ๆ
ข้อควรพิจารณา
- ส่วนที่ใช้วัสดุยาง เป็นรอยได้ง่าย และดูจะเสื่อมสภาพไว หากโดนแดด หรือน้ำบ่อย ๆ
- ใช้ Bluetooth 4.2 ซึ่งเก่ามากแล้ว
- พอร์ตชาร์จใช้ Micro USB (ทำให้ต้องพกสายชาร์จเพิ่ม เพราะอุปกรณ์อื่น ๆ ใช้ USB Type C หมดแล้ว)
- ไม่รองรับ AUX ทำให้เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้เพียงอย่างเดียว
คลิปวีดีโอทดลองใช้จริง Anker Soundcore Flare Mini ลำโพงบลูทูธ เบสแน่น เสียงใส
ดอกลำโพง | 1.75 นิ้ว × 2 ตัว (360° BassUp) |
---|---|
กำลังขับรวม | 10W (5W × 2) |
Bluetooth | Bluetooth 4.2 |
การเชื่อมต่ออื่นๆ | |
แบตเตอรี่ | 2,600mAh |
อายุการใช้งาน | 12 ชม. |
การชาร์จ | 3.5 ชม. Micro USB (5V/1A) |
การป้องกันน้ำ | IPX7 |
ขนาด | 9.1 × 13.7 × 9.1 cm. |
น้ำหนัก | 477 g. |
Marshall Emberton ลำโพงบลูทูธ แบบพกพา ที่จิ๋ว แต่แจ๋ว

ราคา 5,941 บาท*
เรามาต่อกันกับลำโพงบลูทูธแบบพกพารุ่นล่าสุด จากแบรนด์ที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุดอย่าง Marshall กับรุ่น Emberton เป็นลำโพงบลูทูธที่ออกแบบมาเพื่อการพกพาโดยเฉพาะครับ เริ่มตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุอย่างดี ผลิตออกมาในบอดี้ขนาดเล็ก ที่น้ำหนักแค่ 700 ก. เท่านั้น ส่วนดีไซน์ก็มาในสไตล์คลาสสิกหน่อย ๆ ครับ ดูเรียบหรู และสวยงาม ไม่ว่าจะวางไว้มุมไหน มันก็ดูเข้ากันไปหมด โดยรุ่นนี้มีให้เลือกกันหลายสีเลย พร้อมกับโลโก้ Marshall ที่มีสีตัดกับสีของบอดี้ เช่น บอดี้สีครีม ตัดกับโลโก้สีทอง หรือบอดี้สีดำ ตัดกับโลโก้ขาว เป็นต้น
และจุดเด่นของรุ่นนี้คือ คาแรคเตอร์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ ครับ โดยรุ่นนี้จะขับเสียงสเตอริโอหน้า-หลังแบบ 360 องศา ซึ่นจะเน้นในย่านเสียงกลางและต่ำ Mid-Low ช่วยให้มันมีการตอบสนองเสียงร้องที่ชัดเคลียร์ ออกเป็นคำ ๆ ชัดเจน ไม่ขุ่นมัว และยังให้มิติของเสียงร้องฟังดูโดดเด่นกว่าเครื่องดนตรีอื่น ๆซึ่งถ้าเราเจาะลงไปในแต่ละย่าน ส่วนตัวรู้สึกว่าในย่านเสียงเบสจะขับออกมาพอดี เน้นกระชับ ๆ ขับออกเป็นลูก ๆ แต่ไม่ได้ลงลึกนะครับ ส่วนความหนักแน่น ทำได้ใกล้เคียงกับพวกลำโพงตัวใหญ่ ๆ เลย ส่วนเสียงกลาง และเสียงแหลม ก็จัดว่าดีเลยครับ มันมีทั้งความชัด เคลียร์ใส และยังให้ความสมดุลที่ดีด้วย แถมเวทีเสียงก็กว้าง ทำให้มันเหมาะมากกับการฟังเพลงหลาย ๆ แนว
จุดแข็งอีกอย่างก็คือ อายุการใช้งาน ครับ รุ่นนี้สามารถใช้งานได้นานถึง 20 ชม.กว่า ๆ เลย ซึ่งให้มาสูงเป็นอันดับต้น ๆ เลย แถมรุ่นนี้ยังใส่การชาร์จเร็วมาด้วย ช่วยให้การชาร์จจนเต็ม ใช้เวลาแค่ 3 ชม. เท่านั้น แต่ถ้าเพื่อน ๆ ลืมชาร์จก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะแค่ชาร์จ 20 นาที รุ่นนี้ก็สามารถเล่นได้นานถึง 5 ชม. แล้ว ดังนั้นลืมเรื่องอายุการใช้งานไปได้เลย ส่วนการเชื่อมต่อรุ่นนี้จะรองรับ Bluetooth 5.0 เท่านั้น ซึ่งมีความเร็ว และความเสถียรสูง เพื่อน ๆ จึงใช้งานได้อย่างง่ายดาย และยังรองรับฟังก์ชัน Multi-host ด้วย ซึ่งช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถเชื่อมต่อมือถือ 2 เครื่อง พร้อมกันได้ ทำให้สามารถสลับการใช้งานไปมาระหว่างมือถือ 2 เครื่องได้ง่ายขึ้น
ข้อดี
- คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม โดยมีเบสแน่น กำลังดี เสียงกลาง และแหลมก็ชัดเคลียร์ พุ่งใส และสมดุล
- ขับเสียง 360 องศา โดยให้มิติหนัก-เบาของเสียงต่าง ๆ ที่ดี และยังมีการแยกเสียงซ้ายขวาที่แม่นยำ
- ตัวบอดี้ที่เพรียวบาง ขนาดกะทัดรัด แถมเบา ทำให้พกพาสะดวกมากขึ้น
- วัสดุมีความทนทานสูง กันน้ำ IPX7 ช่วยให้พกพาได้อย่างมั่นใจ
- การเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ที่เสถียร และรวดเร็ว และนำอุปกรณ์มาเชื่อมต่อพร้อม ๆ กันได้ 2 ตัว
- มีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่คงเหลือที่ชัดเจน
- ลำโพงสามารถใช้งานได้นานถึง 20 ชม. นานกว่าลำโพงบลูทูธส่วนใหญ่ในตลาด
- ชาร์จแค่ 20 นาที แต่ฟังได้นาน 5 ชม.
- การชาร์จไว ใช้เวลาเพียง 3 ชม. ในการชาร์จจนเต็ม 100%
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีไมโครโฟนในตัวมาให้ ทำให้ไม่สามารถรับสายสนทนาได้
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายทั้ง AUX/3.5 mm และ USB-A
- บนบอดี้มีเฉพาะปุ่มควบคุมเพลง แต่ไม่มีปุ่มหรือลูกบิดปรับเสียงในย่านต่าง ๆ
ดอกลำโพง | full range 2 นิ้ว × 2 ตัว / passive radiators × 2 |
---|---|
กำลังขับรวม | 20W (10W × 2) |
Bluetooth | Bluetooth 5.0 |
การเชื่อมต่ออื่นๆ | TWS / AUX / TF Card |
แบตเตอรี่ | 4,000mAh (ใช้งานได้ 10-12 ชั่วโมง เมื่อเปิดเสียง 50%) |
อายุการใช้งาน | 20+ ชม. |
การชาร์จ | 3 ชม. (20 นาที ใช้งานได้ 5 ชม.) |
การป้องกันน้ำ | IPX7 |
ขนาด | 6.8 × 16 × 7.6 cm. |
น้ำหนัก | 700 g. |
Sony SRS-XB13 EXTRA BASS ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก

ราคา 1,790 บาท*
เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังหาลำโพงจิ๋ว ที่สามารถห้อยติดกระเป๋าติดตัวไปได้ทุกที่ เราขอแนะนำ Sony SRS-XB13 เป็นลำโพง Bluetooth แบบพกพา ราคาย่อมเยา ที่มีในดีไซน์เรียบง่าย คล้าย ๆ แก้วน้ำครับ โดยมีขนาดเล็ก และเบา พอ ๆ กับมือถือเลย ช่วยให้รุ่นนี้พกพาได้ง่ายมาก แถมภายนอกยังทำจาก UV coating ช่วยเพิ่มความทนทาน พร้อมกับอุดรูต่าง ๆ ทำให้มันมีการป้องกันน้ำที่ IP67 และยังมีสายคล้องที่ปรับเปลี่ยนได้หลายแบบ ทำให้เพื่อน ๆ พกพาได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวแดด กลัวฝน สามารถใส่ไว้ในกระเป๋า หรือแขวนไว้กับเป้สะพายหลังก็ได้
และถึงแม้จะมีขนาดเล็ก แต่คุณภาพเสียงของรุ่นนี้ก็ไม่น้อยหน้ารุ่นใหญ่ ๆ เลย โดยลำโพงขับเสียงด้วยไดรเวอร์ขนาด 46 มม. เพียงตัวเดียว แต่ขับเสียงได้ชัดเจน และมีสมดุลเสียงที่ดี พร้อมกับมี Extra Bass อันเลื่องชื่อของ Sony ช่วยขับเสียงเบสที่ลึก หนักแน่น กระแทกมาเป็นลูก ๆ เสียงกลางที่ชัดเคลียร์กำลังดี และเสียงแหลมที่พุ่งได้ไกล แถมมีรายละเอียด โดย SRS-XB12 จะมีการตอบสนองความถี่ 20Hz - 20kHz ช่วยให้สามารถรองรับแนวเพลงได้ทุกแนวครับ
ในด้านการเชื่อมต่อ รุ่นนี้ใช้ Bluetooth 4.2 และมีพอร์ต Aux-in มาให้ด้วย ช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทั้ง แบบมีสาย และแบบไร้สายเลย โดยจุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ อายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 16 ชม./แบตฯ เต็ม ซึ่งน่าประทับใจมาก ๆ ครับ สำหรับลำโพงขนาดเล็กแบบนี้ ส่วนการชาร์จจะใช้สาย USB-C โดยใช้เวลา 3-4 ชม. ครับ ทั้งหมดทำให้รุ่นนี้ กลายเป็นลำโพงบลูทูธแบบพกพาที่ยอดเยี่ยม เห็นเล็ก ๆ แบบนี้แต่บอกเลยว่า เสียงมันทรงพลังอย่างน่าประหลาดใจ อีกทั้งมีการออกแบบที่ทนทาน และอายุการใช้งาน 2 วัน สบาย ๆ เพื่อน ๆ คนไหนงบน้อยแต่มองหาลำโพงที่อึด ถึก และทน ต้องรุ่นนี้เท่านั้นครับ
ข้อดี
- เสียงที่ทรงพลัง ขับเสียงเบสที่หนักแน่นตามสไตล์ Extra Bass และเสียงแหลมที่คมชัด เคลียร์ใส
- มีระบบเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง Sound Diffusion Processor
- ออกแบบมาเพื่อการพกพาโดยเฉพาะ ทั้ง เล็ก เบา และทนทานมาก ๆ
- มีความทนทานสูง กันน้ำ IP67 ช่วยให้พกพาได้อย่างมั่นใจ
- รองรับ Multi-host ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกัน 2 เครื่องได้
- รองรับการจับคู่สเตอริโอแบบไร้สาย ช่วยให้เชื่อมต่อลำโพงรุ่นเดียวกันนี้ได้ 2 ตัว เพื่อช่วยกันขับเสียงให้ดังขึ้น
- มีไมโครโฟนในตัว สามารถโทรแบบแฮนด์ฟรีผ่านลำโพงได้โดยตรง
- ปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่ายสำหรับการปรับระดับเสียง การข้ามเพลง และอื่น ๆ
- รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 มม.
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานถึง 16 ชม. เหมาะมาก ๆ สำหรับการพกพา
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.2 ซึ่งถือว่าเก่าแล้ว
- ด้วยขนาดที่เล็ก เสียงอาจจะไม่ได้ดังเท่ากับรุ่นอื่น ๆ ในบทความนี้
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-A
ดอกลำโพง | 1.8 นิ้ว × 1 ตัว |
---|---|
กำลังขับ | 20W |
Bluetooth | Bluetooth 4.2 |
การเชื่อมต่ออื่นๆ | AUX / SD Card |
แบตเตอรี่ | 1,400mAh |
อายุการใช้งาน | 16 ชม. |
การชาร์จ | 4-5 ชม. |
การป้องกันน้ำ | IP67 |
ขนาด | 7.6 × 7.6 × 9.5 cm. |
น้ำหนัก | 253 g. |
JBL Charge Essential ลำโพงบลูทูธ รุ่นยอดนิยม

ราคา 2,790 บาท*
เรามาต่อกันที่ลำโพงบลูทูธยอดนิยม จากแบรนด์ที่ทุกคนต้องรู้จักกับ JBL Charge Essential ลำโพงแบบพกพาที่มาในดีไซน์เรียบ ๆ ทรงกระบอกที่มีขนาดกำลังดี ตัวบอดี้ผลิตจากวัสดุอย่างดี ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าที่ทนทาน ซึ่งสามารถช่วยป้องกันได้ทั้งการตกกระแทก และรอยขีดข่วน ทั้งยังช่วยให้จับถือถนัดมืออีกด้วย ส่วนแผงควบคุมจะอยู่ด้านบน และที่ด้านหลัง มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน พร้อมฝาปิดอย่างดี ช่วยให้รุ่นนี้ป้องกันน้ำได้ที่ระดับ IPX7 เลยทีเดียว โดนน้ำได้สบาย ๆ

ในด้านเสียงรุ่นนี้ถือว่า ขับเสียงออกมาได้หนักแน่น และมีความสมดุลมาก ๆ นับว่าน่าประทับใจเลย เมื่อดูจากขนาดของมัน โดยรุ่นนี้จะขับเสียงด้วย ไดรเวอร์ขนาด 50 มม. 2 ตัว พาสซีฟเรดิเอเตอร์คู่ที่ให้เสียงเบสกำลังดี เหมาะสำหรับลำโพงขนาดนี้ เสียงที่ได้ถือว่าค่อนข้างดังครับ แถมไม่มีผิดเพี้ยนด้วย ทำให้รุ่นนี้เหมาะทั้งการใช้งานกลางแจ้ง และห้องขนาดใหญ่เลย มีไมค์ในตัวมาให้ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถพูดคุยโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีผ่านลำโพงได้เลย นอกจากนี้รุ่นนี้ยังมี Stereo Mode ที่จะช่วยให้ลำโพง 2 ตัว ขับเสียงแบบแยกข้างซ้าย และขวา ทำให้ได้เสียงแบบสเตอริโอที่มีมิติมากยิ่งขึ้น
สำหรับเชื่อมต่อ รุ่นนี้มาพร้อม Bluetooth 5.0 ครับ ที่ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว และเสถียร นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB ให้มาในตัวด้วย ช่วยให้เพื่อน ๆ เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านพอร์ตนี้ได้ หรือจะชาร์จสมาร์ทโฟนในขณะฟังเพลงก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีพอร์ต Aux-in สำหรับเชื่อมต่อแบบสายให้ด้วย เรียกได้ว่า ครบครันเลยล่ะครับ ส่วนอายุการใช้งาน รุ่นนี้สามารถฟังเพลงได้นานสูงสุดถึง 20 ชม. เลยทีเดียว และใช้เวลาชาร์จจนเต็มเพียง 4 ชม. เท่านั้นครับ ซึ่งมันมากเกินพอสำหรับการใช้งานในหนึ่งวัน ซึ่งที่ตัวลำโพงด้านล่าง จะมีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่คอยบอกไว้อย่างชัดเจนครับ ใครที่ต้องการฟังก์ชันครบ ๆ ราคาไม่แพง รุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ
ข้อดี
- เบสอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เสียงย่านอื่นระดับกลาง ๆ ฟังได้หลากหลาย
- ใช้วัสดุที่ทนทาน ช่วยปกป้องตัวลำโพงจากการพกพาได้เป็นอย่างดี
- ขนาดเล็ก และเบา แถมมีการกันน้ำ IPX7 ช่วยให้พกพาได้อย่างมั่นใจ
- รองรับการจับคู่สเตอริโอแบบไร้สาย พร้อม Stereo Mode ที่ช่วยให้ลำโพง 2 ตัว ขับเสียงต่างกัน
- การเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ที่เสถียร และรวดเร็ว
- รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายทั้ง AUX 3.5 มม. และ USB A
- มีไมโครโฟนมาให้ในตัว
- อายุการใช้งานที่ยาวนาน 20 ชม. พร้อมไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ที่ชัดเจน
ดอกลำโพง | 50 มม. × 2 ตัว |
---|---|
กำลังขับรวม | 20W |
Bluetooth | Bluetooth 5.0 |
การเชื่อมต่ออื่นๆ | AUX in 3.5 mm/ USB-A |
แบตเตอรี่ | 6,000mAh |
อายุการใช้งาน | 20 ชม. |
การชาร์จ | 4 ชม. (Micro USB) |
การป้องกันน้ำ | IPX7 |
ขนาด | 21.3 × 8.9 × 8.7 cm. |
น้ำหนัก | 770 g. |
Marshall Stockwell II ลำโพงบลูทูธ แบบพกพา ยอดนิยม

ราคา 8,049 บาท*
หนึ่งในลำโพงบลูทูธที่มีคนพูดถึงมาที่สุด Marshall Stockwell II ลำโพงบลูทูธแบบพกพายอดนิยม จากแบรนด์ดังระดับโลก โดยรุ่นนี้ถูกอัปเกรดต่อจาก Stockwell ครับ ทำให้มีอายุการใช้งานนานถึง 20 ชม. มีการป้องกันน้ำ IPX4 โดนละอองน้ำได้ และเสียงที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น ซึ่งหน้าตายังคงมีดีไซน์แบบเรโทร ขนาดเล็ก มาในทรงสี่เหลี่ยมเรียบ ๆ ที่เพิ่มความทนทานด้วยการหุ้มซิลิโคน และด้านหน้าจะใช้ตะแกรงเหล็กอย่างดี ที่มีโลโก้ Marshall ทำให้ดูคลาสสิกสุด ๆ และยังใส่หูหิ้วหนังมาให้ด้วย ทำให้เพื่อน ๆ พกพาได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจะพกพาไปแคมป์แบบเท่ ๆ นอนฟังทั้งคืนได้สบาย ๆ หรือจะวางไว้ตกแต่งบ้านก็สวยครับ
จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่การขับเสียงทั้งหน้าและหลัง ซึ่งใช้โครงสร้างเสียง Blumlein Stereo ที่แยกเสียงซ้าย และขวาได้อย่างชัดเจน โดยรุ่นนี้มีกำลังขับรวมอยู่ที่ 20W ครับ แบ่งเป็นวูฟเฟอร์ 1 ตัว ทำงานร่วมกับทวีตเตอร์อีก 2 ตัว เสริมด้วยท่อ Bass reflex ช่วยให้เบสแน่นมากขึ้น ซึ่งโดยรวมเสียงของรุ่นนี้ น่าประทับใจมาก ๆ ครับ ทั้ง ชัดเจน และทรงพลัง ถูกขับออกมาหลายทิศทาง โดยตำแหน่งเสียงร้องอยู่ตรงกลาง ที่ให้เนื้อเสียงคมชัด ล้อมรอบด้วยเสียงดนตรี โดยเสียงกลางชัดเคลียร์ เสียงแหลมพุ่งใส และจุดเด่นคือ เบสที่ละมุน ดำดิ่งลงลึก แถมมีมวลใหญ่ ขับออกมาเป็นลูก ๆ นอกจากนี้ยังมีลูกบิดอยู่ด้านบน ทำให้เพื่อน ๆ สามารถปรับเสียงเบส และเสียงแหลมได้ตามต้องการ อย่างละเอียดอีกด้วย
สำหรับ Stockwell II รองรับการเชื่อมต่อทั้ง แบบมีสาย ผ่านช่อง AUX (3.5mm) และแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 และมันยังรองรับการจับคู่สเตอริโอแบบไร้สายด้วย ทำให้เพื่อน ๆ สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงรุ่นเดียวกันอีก 1 ตัวได้ เพื่อขับเสียงพร้อมกัน ช่วยเพิ่มประสบการณ์เสียงแบบรอบทิศทาง ดังนั้นโดยรวมแล้วรุ่นนี้ถือเป็นลำโพง Bluetooth แบบพกพาที่ยอดเยี่ยมครับ ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ แถมมีหน้าตาที่โดดเด่น นอกจากนี้ยังมีความทนทาน และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ช่วยให้มันเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับใครก็ตามที่ชื่นชอบการฟังเพลง
ข้อดี
- ขับเสียงแบบหลายทิศทาง พร้อมให้เสียงโดดเด่น ทรงพลัง และสมดุลในทุกความถี่
- ดีไซน์แบบคลาสสิก สามารถตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้
- มีความทนทาน กันน้ำ IPX4 ขนาดเล็ก และเบา เมื่อเทียบกับเสียงที่ได้ แถมมีหูหิ้ว ช่วยให้พกพาง่ายขึ้น
- มีลูกบิดปรับเสียงเบส และเสียงแหลม ที่ปรับได้ละเอียดมาก ๆ
- รองรับการจับคู่สเตอริโอแบบไร้สาย
- การเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ที่เสถียร และรวดเร็ว และนำอุปกรณ์มาเชื่อมต่อพร้อม ๆ กันได้ 2 ตัว
- รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 มม.
- มีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่คงเหลือที่ชัดเจน
- ลำโพงสามารถใช้งานได้นานถึง 20 ชม. นานกว่าลำโพงบลูทูธส่วนใหญ่ในตลาด
- ชาร์จแค่ 20 นาที แต่ฟังได้นาน 5-6 ชม.
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีไมโครโฟนในตัวมาให้
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-A
- ใช้เวลาชาร์จจนเต็มค่อนข้างนาน ประมาณ 5-6 ชม. เนื่องจากแบตฯ มีความจุสูง
ดอกลำโพง | 10W × 1 ตัว / 5W × 2 ตัว |
---|---|
กำลังขับรวม | 20W |
Bluetooth | Bluetooth 5.0 |
การเชื่อมต่ออื่นๆ | AUX (3.5mm) |
แบตเตอรี่ | N/a |
อายุการใช้งาน | 20+ ชม. |
การชาร์จ | 5 ชม. (20 นาที ใช้งานได้ 6 ชม.) |
การป้องกันน้ำ | IPX4 |
ขนาด | 18 × 16 × 7.0 cm. |
น้ำหนัก | 1.38 kg. |
AIWA MI-X150 Retro Plus ลำโพงบลูทูธพกพา BASS++

ราคา 4,190 บาท*
ใครที่ชื่นชอบความคลาสสิก ขอแนะนำ AIWA Retro Plus ลำโพงบลูทูธพกพา รุ่นยอดนิยม ที่มีดีไซน์แนวย้อนยุค ซึ่งตัวบอดี้มีลายไม้ที่สวยงาม มาในทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียบ ๆ แต่อาจจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่สักหน่อย ทำให้จึงหูหิ้วแบบถอดได้มาให้ โดยด้านหน้าใช้ตะแกรงที่ดูย้อยยุค ส่วนด้านบนจะเป็นแผงควบคุมที่รวม สวิตซ์เปิดปิด, ปุ่มควบคุมเพลง 3 ปุ่ม, ลูกบิดแบบหมุน 3 ตัว สำหรับปรับระดับเสียง ปรับ Bass และปรับ Treble และยังรวมช่อง AUX In 3.5 มม. ที่ใช้เสียบสาย, พอร์ต USB-A ที่ใช้เสียบพวก Flash Drive และพอร์ตชาร์จ USB-C ครับ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า รุ่นนี้ให้มาแบบจัดเต็มจริง ๆ ครับ
โดยรุ่นนี้ จะมีกำลังขับรวมสูงถึง 60W เลย โดยจะมีไดรเวอร์ฟูลเรนจ์ 2 นิ้ว 2 ตัว และไดรเวอร์กระจายเสียงเบส 5 นิ้ว มาอีก 1 ตัว ครับ เรียกได้ว่า ใส่มาให้สมกับขนาดเลย ช่วยให้คุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น มีการติดตั้งไมค์ในตัวให้ด้วย ทำให้เราสามารถจะพูดคุยผ่านลำโพงได้เลย พร้อมทั้งมีการรองรับการเชื่อมต่อลำโพง 2 ตัวอีกด้วย แถมมันยังสามารถเชื่อมต่อได้ ทั้ง รุ่น MI-X100 Retro และ MI-X150 Retro Plus เลยครับ ใครที่อยากได้เสียงสเตอริโอก็สามารถหาซื้อลำโพงอีกตัวมาเชื่อมต่อกันได้
ส่วนการเชื่อมต่ออื่น ๆ ก็อย่างที่บอกครับ รุ่นนี้รองรับทั้ง มีสาย และไร้สายเลย ซึ่งมีทุกอย่างที่ลำโพงในยุคนี้ควรมี โดยการเชื่อมต่อไร้สาย รุ่นนี้รองรับ Bluetooth 5.0 ครับ ส่วนการเชื่อมต่อผ่ายสาย มีช่อง AUX 3.5 มม. มาให้ และก็มีพอร์ต USB-A ที่สามารถเล่นเพลงใน Flash Drive ได้ทันที เพียงแค่นำมาเสียบลงไป ซึ่งถ้ามองในภาพรวมลำโพงบลูทูธรุ่นนี้ถือว่า ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ครับ โดดเด่นตั้งแต่ หน้าตา เสียง ไปจนถึงการเชื่อมต่อเลย แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ บวกกับดีไซน์ลายไม้ที่สวยงาม มันทำให้เราไม่กล้าจะพกไปไหน ดังนั้นใครอยากได้ลำโพงเก๋ ๆ ไปฟังเพลง และใช้ตกแต่งบ้านด้วย ขอบอกเลยว่า ตัวนี้เหมาะที่สุดครับ
ข้อดี
- คุณภาพเสียงดีมาก มีครบทุกย่านเสียง แถมปรับเสียงได้ละเอียดมากทั้ง เบส และแหลม
- ดีไซน์สไตล์ย้อนยุค มีหูหิ้วแบบถอดได้ ดูเก๋มาก ๆ สามารถตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้
- มีปุ่มควบคุมที่ครบครัน สามารถสั่งการได้บนตัวลำโพงทั้งหมด
- มีลูกบิดปรับเสียงที่ปรับได้ละเอียดมาก ๆ
- รองรับการจับคู่ TWS ได้สูงสุด 2 ตัว (จับคู่ได้ทั้งรุ่น MI-X100 หรือรุ่น MI-X150)
- มีไมโครโฟนในตัว ช่วยให้ใช้โทรแบบแฮนด์ฟรีได้ และสามารถใช้เป็นสปีกเกอร์โฟนได้
- การเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 ที่เสถียร และรวดเร็ว
- รองรับทั้ง AUX 3.5 มม. และ USB Type A สามารถเล่นเพลงบนอุปกรณ์ที่ไม่มีบลูทูธได้
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดประมาณ 10 ชม.
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดค่อนข้างใหญ่ และมีน้ำหนักมาก ไม่ให้ไม่เหมาะกับการพกพา
- ไม่มีการกันน้ำหรือกันฝุ่น ดังนั้นจึงไม่เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง
- ใช้เวลาชาร์จค่อนข้างนาน ประมาณ 6 ชม.
ดอกลำโพง | 2 นิ้ว × 2 ตัว / 5 นิ้ว × 1 ตัว |
---|---|
กำลังขับรวม | 60W |
Bluetooth | Bluetooth 5.0 |
การเชื่อมต่ออื่นๆ | AUX in 3.5 mm/ USB-A |
แบตเตอรี่ | 4,000mAh |
อายุการใช้งาน | 10 ชม. (ระดับเสียง 50%) |
การชาร์จ | 6 ชม. USB-C (5V/2A) |
การป้องกันน้ำ | |
ขนาด | 30 × 18 × 18 cm. |
น้ำหนัก | 3400 g. |
Harman Kardon Onyx Studio 6

ราคา 4,790 บาท*
สำหรับ Harman Kardon Onyx Studio 6 เป็นลำโพงบลูทูธที่มีการออกแบบที่ล้ำสมัย ไม่เหมือนใครครับ มาในดีไซน์ทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ ฝาครอบหุ้มด้วยผ้าแบบพรีเมียม พร้อมที่จับอะลูมิเนียมในตัว ช่วยให้มันพกพาสะดวกยิ่งขึ้น แต่ด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ และน้ำหนักเกือบ 3 กก. ทำให้รุ่นนี้อาจจะพกพายากหน่อยสำหรับสาว ๆ แต่ถ้าใครชอบดีไซน์ที่ล้ำสมัยแบบนี้ ก็สามารถนำไปวางตกแต่งห้องได้ครับ โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ ดำ น้ำเงิน และเทา
สำหรับรุ่นนี้หลาย ๆ คนยกให้เป็นลำโพงบลูทูธแบบพกพาที่ให้เสียงดีเป็นอันดับต้น ๆ มาพร้อมกำลังขับที่มากถึง 50W ขับด้วยลำโพง Woofer ขนาด 120 มม. 1 ตัว และมีลำโพง Tweeter ขนาด 25 มม. อีก 1 ตัว ช่วยขับพลังเสียงเต็มประสิทธิภาพ ด้วยคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม โดยรุ่นนี้เสียงเบสจะลึก และหนักแน่น ส่วนเสียงกลาง และเสียงสูงนั้น จะมีความคมชัด เคลียร์ใส ฟังสบาย ลำโพงมีช่วงการตอบสนองความถี่ 50Hz-20kHz ซึ่งหมายความว่า สามารถรองรับแนวเพลงได้ทุก ๆ แนวครับ แถมยังมีไมโครโฟนในตัวอีกด้วย ช่วยให้พูดคุยโทรศัพท์ผ่านลำโพงได้โดยตรงเลย
นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ Wireless Dual Sound ที่ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถเชื่อมต่อ Onyx Studio 6 อีก 1 ตัว แบบไร้สายได้ เพื่อใช้ลำโพง 2 ตัวช่วยกันขับเสียง ซึ่งถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การฟังเพลงของเพื่อน ๆ ให้สูงขึ้น ในด้านการเชื่อมต่อ รุ่นนี้รองรับ Bluetooth 4.2 ครับ ซึ่งอาจจะเก่าสักหน่อย แต่ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ สามารถทำให้มีคุณภาพที่สูงได้ อีกทั้งยังมีช่อง Aux-in มาให้ด้วย ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ไม่มีบลูทูธได้โดยใช้สาย โดยรวมแล้วรุ่นนี้จัดเป็นลำโพงบลูทูธที่ยอดเยี่ยม ให้คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ บวกกับการออกแบบที่มีสไตล์ ทำให้มันเหมาะมาก ๆ ที่จะวางไว้อยู่ในบ้านของเรา
ข้อดี
- คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม ขับเสียงเบสที่หนักแน่น ลงลึก เสียงกลาง และสูงที่ชัดเจน ฟังสบาย ๆ
- ดีไซน์สุดเก๋ มีหูหิ้วในตัว แถมวัสดุที่ใช้ก็พรีเมียม ทำให้วางเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้
- มีความทนทาน กันน้ำ IPX7 ช่วยให้พกพาได้ง่ายขึ้น
- รองรับ Multi-host ช่วยให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกัน 2 เครื่องได้
- รองรับ Daisy chain การจับคู่สเตอริโอแบบไร้สาย
- มีไมโครโฟนในตัว สำหรับพูดคุยผ่านลำโพง
- ปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่ายสำหรับการปรับระดับเสียง สลับแทร็ก และอื่น ๆ
- รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 มม.
- ลำโพงสามารถใช้งานได้นาน 8 ชม.
ข้อควรพิจารณา
- น้ำหนักค่อนข้างมาก
- ยังคงเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.2 ซึ่งถือว่าเก่าแล้ว
- ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับลำโพงบลูทูธแบบพกพาที่มีสเปกเท่า ๆ กัน
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-A
- ใช้เวลาชาร์จจนเต็มค่อนข้างนาน ประมาณ 5 ชม.
ดอกลำโพง | 4.7 นิ้ว × 1 ตัว / 0.9 นิ้ว × 1 ตัว |
---|---|
กำลังขับรวม | 50W × 1 RMS Bi-amp (AC mode) |
Bluetooth | Bluetooth 4.2 |
การเชื่อมต่ออื่นๆ | AUX 3.5 mm |
แบตเตอรี่ | 3,280mAh |
อายุการใช้งาน | 8 ชม. |
การชาร์จ | 5 ชม. |
การป้องกันน้ำ | IPX7 |
ขนาด | 28.4 × 29.1 × 12.8 cm. |
น้ำหนัก | 2.9 kg. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ 7 ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี เสียงดี ซื้อแล้วคุ้ม JBL, Marshell, Sony, Anker | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
ลำโพงไร้สาย VS ลำโพงแบบมีสาย แบบไหนดีกว่ากัน ?
หากย้อนเวลากลับไปสัก 10 กว่าปีก่อน นักฟังเพลงที่มีหูเทพหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า ยังไง ๆ ลำโพงไร้สาย ก็ไม่มีทางสู้ลำโพงมีสายได้อยู่แล้ว เพราะการส่งสัญญาณผ่านสาย ย่อมดีกว่าการส่งสัญญาณในอากาศอยู่แล้ว ซึ่งมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ แต่ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีไร้สายอย่าง Bluetooth มีการพัฒนา จนมาถึง Bluetooth 5.2 แล้ว ซึ่งช่วยให้มันมีการส่งสัญญาณที่เสถียร และนิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก ส่งผลให้การใช้งานทั้ง 2 แบบ มีคุณภาพแทบไม่ต่างกันเลย โดยในการใช้งานจริง แบบมีสายยังคงดีกว่าในแง้ของอาการดีเลย์ ส่วนแบบไร้สาย จะดีกว่าในแง้ของความสะดวกสบายครับ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมหูฟังเกมมิ่งส่วนใหญ่จึงยังคงใช้สายอยู่
ลำโพงไรสายระหว่าง Bluetooth กับ Wireless แตกต่างกันอย่างไร ?
ลำโพง Bluetooth เป็นลำโพงไร้สายที่มีการเชื่อมต่อกับแหล่งสัญญาณเสียง ผ่านสัญญาณ Bluetooth เท่านั้น หมายความว่า เราหรืออุปกรณ์ของเรา ไม่จำเป็นต้องมี Wi-Fi ก็สามารถใช้งานได้ แต่หากเป็น ลำโพง Wireless เราจะต้องมีอินเทอร์เน็ต หรืออุปกรณ์ของเราต้องรองรับ Wi-Fi, Apple AirPlay, Google Chromecast และอื่น ๆ ด้วย นอกจากนั้นลำโพง Wireless หลายรุ่นก็มักจะใส่ Bluetooth มาให้ด้วย ทำให้สรุปได้ง่าย ๆ ว่า Bluetooth จะเชื่อมต่อกันโดยตรง กับอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth ส่วน Wireless จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลากหลายกว่านั่นเอง
ส่วน การส่งสัญญาณเสียงผ่านสัญญาณ Wi-Fi กับ การส่งสัญญาณเสียงผ่านสัญญาณ Bluetooth นั้น จะมีประโยชน์แตกต่างกันออกไป โดย Wi-Fi จะไม่มีช่วงสัญญาณที่ถูกจำกัดเท่ากับ Bluetooth ช่วยให้สามารถส่งสัญญาณเสียง ด้วยคุณภาพที่สูงกว่าได้ แต่ Bluetooth นั้น สามารถส่งสัญญาณเสียงที่มีคุณภาพระดับ CD Audio เท่านั้น ครับ ส่วนสิ่งที่ Bluetooth จะทำได้ดีกว่า ก็คือ การใช้งานที่ง่ายดาย ครับ เพราะมันเชื่อมต่อกันโดยตรงแบบ Peer to Peer มันจึงไม่ต้องสนใจอุปกรณ์อื่น ๆ ส่วนระบบภายในมันจะน้อยกว่า ทำให้ขนาดเล็ก และเบา มันจึงเหมาะกับการพกพามากกว่าครับ นอกจากนี้ยังทำให้มีราคาถูกกว่าด้วย
บทส่งท้าย
การมี ลำโพงไร้สาย ติดบ้านไว้เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะคุณสมบัติที่หลากหลายของมันทั้ง การเคลื่อนย้ายที่สะดวกสบาย สามารถช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านของคุณได้เป็นอย่างดี เช่น ถ้าคุณไปล้างรถอยู่หน้าบ้าน คุณก็สามารถหยิบลำโพงบลูทูธ ไปเปิดฟังเพลงระหว่างล้างรถได้ หรือถ้าคุณไปปลูกผักปลูกต้นไม้อยู่ในสวน คุณก็สามารถนำลำโพงไร้สายไปเปิดฟังเพลงคลอไปด้วยได้เช่นกัน นอกจากนี้การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ยังช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใดก็ได้ที่รองรับ Bluetooth อาทิเช่น มือถือ และแท็บเล็ต ไม่ว่าจะฝั่ง Android หรือ iOS รวมไปถึงพวกแล็ปท๊อป และโน้ตบุ๊คด้วย ซึ่งถ้าหากใครใช้ลำโพงเดิม ๆ ของอุปกรณ์เหล่านี้อยู่ คงรู้อยู่แล้วว่า มันทั้ง เล็ก และเบามาก ๆ แถมบางรุ่นยังขับเสียงไม่ดีด้วย ดังนั้นลำโพงบลูทูธจึงนับเป็นตัวช่วยที่ดีครับ ในการแก้ปัญหาตรงนี้