วัฒนธรรมการดื่มชาเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายมาก ๆ ชามีรสชาติดี มีปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ถึงแม้ในไทยการดื่มชาจะไม่แพร่หลายมากนักเพราะคนไทยชอบดื่มกาแฟมากกว่า แต่ก็ยังมีคนไทยอีกหลาย ๆ กลุ่มที่ชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจค่ะ แน่นอนว่าชามีหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกค่ะทั้งชาคาโมมายล์, ชาอู่หลง, ชาไทย, ชาเอิร์ลเกรย์, ชาดำและชาสมุนไพร ซึ่งชาเหล่านี้เป็นชาประเภทหลักและได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษค่ะ

แต่วันนี้เราจะแนะนำชาอีกหนึ่งชนิดกันค่ะเป็นชาที่ไม่ไกลตัวเลยนั่นก็คือ “ชาเขียวญี่ปุ่น”ค่ะ ชาเขียวญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเภทชาเขียวที่แพร่หลายมาก ๆ ในไทย โดยหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับมัทฉะมากที่สุดเพราะมัทฉะเป็นชาเขียวผงที่ร้านค้าต่าง ๆ ชอบนำมาทำเป็นขนม ไอศกรีมและอาหารค่ะ แต่นอกจากมัทฉะแล้วชาเขียวญี่ปุ่นก็ยังมีอีกมากมายกว่า 10 ชนิดค่ะ
ขอบอกเลยว่าชาเขียวญี่ปุ่นเป็นชาที่รสชาติดีมากเพราะสภาพอากาศ ดินที่ปลูกและสายพันธุ์ของชาที่ดีทำให้ชาเขียวญี่ปุ่นเป็นชาที่คุ้มค่าแก่การลองดื่มค่ะ วันนี้เราเลยอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับชาเขียวญี่ปุ่นกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย
ชาเขียวญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนดี?
- เก็นไมฉะผสมมัทฉะ กลมกล่อมลงตัว: Ito En Genmaicha Premium Green tea with Roasted Rice ชาเขียวญี่ปุ่น
- เคียวกุโระเซนฉะ ฝาดต้นขมปลาย: Harada Chiran Cha Green Tea ชาเขียวญี่ปุ่น
- ชาเขียวพร้อมดื่มแสนอร่อย ดีต่อสุขภาพ: Ito En Green Tea ชาเขียวญี่ปุ่นพร้อมดื่ม
- ชาเขียวมัทฉะสูตรพรีเมียม 1 ถุงชงชาเขียวได้ 3 ถ้วย: Ito En Premium Green Tea Uji Matcha ชาเขียวญี่ปุ่น
- ชาเขียวโฮจิฉะ ผ่านการคั่วมาอย่างดีกลิ่นหอมมาก: Ito En Oi Ocha Hojicha ชาเขียวญี่ปุ่น
- มัทฉะผงมาในรูปแบบซอง ละลายน้ำง่ายชงได้ทั้งร้อนและเย็น: Ito En Japanese Green Tea Matcha Blend ชาเขียวญี่ปุ่น
ประวัติความเป็นมาของชาเขียวญี่ปุ่น
ชาเขียวเป็นชาชนิดหนึ่งที่ถูกค้นพบในประเทศจีนเมื่อ 5,000 ปีที่แล้วในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดิเสินหนงและเป็นชาชนิดแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและเป็นชาชนิดเดียวที่ได้รับความนิยมเป็นเวลาหลายปี หลายคนอาจจะสงสัยว่าชาเขียวถูกพบก่อนชาอื่น ๆ จริงเหรอ เราขอตอบเลยค่ะว่าจริง เพราะชาดำและชาอู่หลงเป็นชาที่ค้นพบในปี ค.ศ. 1600 ซึ่งห่างจากการค้นพบชาเขียวเป็นเวลาหลายปีเลย อีกทั้งยังหลักฐานว่าในยุคถัง (ปี ค.ศ. 618-907) และยุคซ่ง (ปี ค.ศ. 960-1279) มีการดื่มชาเขียวกันแล้วด้วยค่ะ

แน่นอนว่าแรกเริ่มชาเขียวเป็นชาที่มาจากประเทศจีนและได้ส่งต่อมาในประเทศญี่ปุ่นในยุคนาระ (710-1279) ตอนแรกชาเขียวนั้นเป็นเครื่องดื่มของชนชั้นสูง ดังนั้นผู้คนธรรมดาจึงไม่มีโอกาสที่จะลองชิมเพราะเมื่อเป็นชาของชนชั้นสูงราคาก็จะสูงด้วย แต่ในปี ค.ศ. 1191 พระเอไซ ผู้ก่อตั้งศาสนาพุทธนิกายเซนได้แนะนำธรรมเนียมการดื่มชาเขียวแบบผงขึ้นมาและได้อธิบายถึงประโยชน์ของชาเขียวทำให้เกิดพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นขึ้นมาและเป็นโอกาสให้คนทุกชนชั้นเรียนรู้การชงชาและดื่มชาเขียว ต่อมาในกลางศตวรรษที่ 17 พระเซนอีกองค์หนึ่ง (พระชาวจีน) ก็ได้แนะนำชาในรูปของใบชาจึงเป็นที่มาของวิธีการเตรียมใบชาแบบญี่ปุ่น ทำให้ชาเขียวแพร่หลายในญี่ปุ่นมากขึ้นและเริ่มมีการปลูกชาเขียวญี่ปุ่นขึ้นมาก เอกลักษณ์ของใบชาเขียวญี่ปุ่นคือความสดใหม่และความหลากหลายทำให้ชาเขียวญี่ปุ่นครองใจคนทั่วโลก
ชนิดของชาเขียวญี่ปุ่นที่คุณควรรู้
1. ชาเขียวเซนฉะ (Sencha)
ชาเขียวเซนฉะเป็นชาเขียวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ชาเขียวเซนฉะผลิตโดยการนึ่งใบแล้วม้วนให้เป็นชาดิบ ใบชาเขียวญี่ปุ่นนึ่งจะมีสีเขียวและมีรสชาติสดชื่น แน่นอนว่าความเข้มข้นของรสชาติเซนฉะขึ้นอยู่กับวิธีการชง ปกติแล้วชาเขียวเซนฉะจะมีคาเฟอีนในปริมาณปานกลางระหว่าง 12 – 75 มก. หากต้มชาเขียวเซนฉะอย่างถูกวิธีชาจะไม่มีความเป็นกรด แต่ถ้าคุณต้มนานเกินไปหรือถ้าใช้น้ำร้อนมากเกินไปชาอาจมีรสฝาด
2. ชาเขียวฟุกามุชิ (Fukamushi)
ชาเขียวฟุกามุชิจัดอยู่ในหมวดชาเขียวเซนฉะเหมือนกันค่ะ แต่แตกต่างจากเซนฉะที่กระบวนการนึ่ง ชาเขียวฟุกามุชิจะต้องนึ่งนานกว่าเซนฉะถึงสองเท่า ในญี่ปุ่นจะเรียกชาชนิดนี้ว่าฟุกามุชิ เรียวกุฉะ (Fukamushi Ryokucha) เพราะใบชาโดนความร้อนจากไอน้ำเป็นเวลานาน จึงมีเนื้อสัมผัสที่มีลักษณะเป็นแป้ง อีกทั้งชายังมีสีเขียวเข้มและมีรสชาติเข้มข้น ชาจะไม่มีรสฝาดคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของชาเขียวฟุกามุชิคือแม้ว่าส่วนประกอบสำคัญของชาจะไม่ละลายในน้ำ แต่ก็ยังสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้
3. ชาเขียวเกียวคุโระ (Gyokuro)
ชาเขียวเกียวคุโระเป็นชาที่พิถีพิถันมาก ๆ เพราะ 20 วันก่อนเก็บเกี่ยว ชาเขียวเกียวคุโระจะถูกบังจากแสงแดดเพื่อจำกัดปริมาณแสงที่ไปถึงยอดชาส่งผลให้เกิดการยับยั้งการสร้างคาเทชิน และกรดอะมิโน ทำให้ชาเขียวเกียวคุโระมีรสชาติเข้มข้นและมีรสฝาดน้อย ส่วนกลิ่นหอมของชาเขียวเกียวคุโระนั้นมีกลิ่นคล้าย ๆ กับโนริสาหร่ายค่ะ
4. ชาเขียวคาบุเซะชะ (Kabusecha)
ชาเขียวคาบุเซะชะเป็นชาเขียวที่มีการหลีกเลี่ยงแสงแดดก่อนเก็บเกี่ยวเหมือนกันค่ะ ใบชาคาบุเซะชะจะถูกปกคลุมเพื่อไม่ให้แสงแดดประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนที่จะเก็บ ในช่วงนั้นใบชาที่ขึ้นมาใหม่จะไม่โดนแสงแดดทำให้มีสีเขียวเข้ม รสชาติเข้มข้นและมีรสฝาดน้อยกว่าเซนฉะ
5. ชาเขียวมัทฉะ (Matcha)
ใบชาเขียวมัทฉะเป็นใบชาอ่อนค่ะ จากนั้นนำใบมาบดให้เป็นผงเนื้อเนียนละเอียด ในการชงชาเขียวมัทฉะชงได้ง่ายมาก ๆ เพราะแค่ละลายในน้ำร้อนก็ได้ชารสชาติเข้มข้นแล้ว ในการปลูกพุ่มใบชามัทฉะจะปลูกอยู่ภายใต้ร่มเงาที่ห่างจากแสงแดด กรรมวิธีนี้เป็นวิธีเพิ่มปริมาณคลอโรฟิลล์ในใบชาทำให้ชามีสีเขียวสดใส ใบชามัทฉะแต่ละใบจะถูกเก็บด้วยมือเท่านั้นเมื่อคงคุณภาพค่ะ แน่นอนว่าชาเขียวมัทฉะญี่ปุ่นเป็นชาที่ใช้ในพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมค่ะ
6. ชาเขียวญี่ปุ่นเทนฉะ (Tencha)
ชาเขียวเทนฉะก็เป็นชาเขียวมัทฉะชนิดหนึ่ง ชาเขียวเทนฉะผลิตโดยใช้ใบชาอ่อน ซึ่งเป็นรูปแบบใบชาก่อนนำมาบดค่ะเพราะหากนำมาบดแล้วจะถูกเรียกว่ามัทฉะ ใบชาอ่อนที่นำมาเทนฉะจะต้องปกคลุมให้ห่างจากแสงแดดนานกว่า 20 วันเหมือนกับชาเขียวเกียวคุโระ แต่ข้อแตกต่างก็คือหลังจากนึ่งชาเขียวเทนฉะจะต้องตากให้แห้งโดยไม่ต้องม้วนค่ะ
7. ชาเขียวเก็นไมฉะ (Genmaicha)
ชาเขียวเก็นไมฉะเป็นการผสมผสานระหว่างข้าวกล้องและเซนฉะหรืออาจจะใช้ชาเขียวชนิดอื่น ๆ ในอัตราส่วน 50:50 ที่จริงแล้วคำว่า “เก็นไมฉะ” ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงข้าวกล้องค่ะ เก็นไมฉะหาเป็นชาที่เกิดการแช่ นึ่ง คั่วและบดข้าวกล้อง จากนั้นผสมกับเซนฉะหรือชาเขียวชนิดอื่น ๆ ข้าวกล้องคั่วจะเพิ่มกลิ่นหอมของชาเขียวเก็นไมฉะควบคู่ไปกับรสชาติที่สดชื่น ชาเขียวเก็นไมฉะมีคาเฟอีนต่ำเพราะ 50% ของชาคือข้าวกล้องจึงเหมาะสำหรับเด็กและผู้สูงอายุค่ะ
8. ชาเขียวโฮจิฉะ (Hojicha)
ชาเขียวโฮจิฉะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวเพราะเป็นชาที่ผ่านการคั่ว ชาเขียวโฮจิฉะจะคั่วโดยใช้กระทะที่อุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส หลังจากการคั่วแล้วผู้ผลิตจะทำให้ชาเย็นลงทันทีทำให้ชาเขียวโฮจิฉะมีรสขมน้อยกว่าชาอื่น ๆ อีกทั้งปริมาณคาเฟอีนในใบชาจะระเหยออกไปเมื่อคั่วชาจึงมีกลิ่นหอมและมีรสชาติอ่อน ๆ
9. ชาเขียวชินฉะ (Shincha)
ชาเขียวชินฉะคือชาแรกของฤดูกาลหรือเป็นที่รู้จักกันในชื่ออิจิบันฉะ (Ichibancha) ชาต้นฤดูจะมีรสชาติและกลิ่นหอมสดชื่นของใบชาใหม่ นอกจากนี้ยังมีคาเทชินและคาเฟอีนต่ำทำให้มีความขมและฝาดน้อยลง ชาเขียวชินฉะมีรสหวานเข้มข้นและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน
10. ชาเขียวบันฉะ (Bancha)
ชาเขียวบันฉะเป็นชาที่ต้องปลูกในที่ที่มีแดดจัดซึ่งจะเก็บได้ในช่วงปลายฤดูส่งผลให้ใบชามีใบขนาดใหญ่ มีปริมาณคาเฟอีนต่ำ มีรสชาติที่เข้มข้นและกลิ่นหอมมาก ชาเขียวบันฉะเป็นชาที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุและสตรีมีครรภ์ค่ะ
Harada Chiran Cha Green Tea ชาเขียวญี่ปุ่น

ราคา 199 บาท*
Harada Chiran Cha Green Tea เป็นเซนฉะชนิดเคียวกุโระที่ผ่านการปลูกในเมืองคาโกชิม่า ประเทศญี่ปุ่น รูปแบบของชาเป็นแบบใบชาปริมาณ 100 กรัม ใบชาที่ทางแบรนด์ใช้เป็นใบชาที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เคียวกุโระเป็นชาที่ไม่ผ่านการสัมผัสแดดมา 20 วันก่อนเก็บทำให้ชามีกลิ่นหอมสดชื่นและอูมามิเป็นอย่างมากเลยค่ะ
ใบชามีสีสันที่สวยงามสามารถชงได้ทั้งร้อนและเย็น แต่ถ้าหากดื่มแบบเย็นจะต้องชงด้วยความร้อนก่อนแล้วนำไปแช่เย็นอีกทีเพื่อให้รสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น ชาเป็นสีเขียวแกมเหลืองรสชาติจะฝาดและหวานที่ปลายลิ้น ปริมาณคาเฟอีนในชาเป็นปริมาณที่พอเหมาะค่ะสามารถดื่มได้เป็นประจำเลย
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | เคียวกุโระ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ใบชา |
ปริมาณ | 100 กรัม |
เมืองที่ผลิตชา | เมืองคาโกชิม่า |
Ito En Green Tea ชาเขียวญี่ปุ่นพร้อมดื่ม

ราคา 27 บาท*
Ito En Green Tea เป็นชาเขียวพร้อมดื่มที่เหมาะมากหากคุณกำลังมองหาชาที่ไม่ต้องชงเองให้ยุ่งยาก ชามาในรูปแบบขวดที่พกพาสะดวกมาก ชาที่ทางแบรนด์ใช้เป็นชาออร์แกนิกและไม่หวาน ผ่านการรับรองจาก USDA จึงเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ สามารถดื่มแทนชาเย็นแบบอื่น ๆ ได้เลย ดื่มได้ทุกวันและไม่ทำให้อ้วนด้วยค่ะ
รสชาติของชาดีมาก ๆ แนะนำให้แช่เย็นและเขย่าขวดก่อนดื่มเพื่อให้รสชาติของชามีความเข้มข้นมากขึ้น เมื่อเทียบกับชาเขียวแบบขวดสำเร็จรูปจากแบรนด์อื่น ๆ Ito En Green Tea เป็นชาเขียวที่รสชาติเข้มข้นกว่าเล็กน้อย มีกลิ่นหอมสดชื่นและไม่มีรสขมเลยค่ะ ใครที่เป็นแฟนชาเขียวญี่ปุ่นแต่ไม่สามารถชงชาเขียวดื่มเองได้ต้องลองซื้อมาดื่มค่ะ
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | เซนฉะ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ขวดพร้อมดื่ม |
ปริมาณ | 500 มล. |
เมืองที่ผลิตชา | ไม่ระบุ |
Ito En Premium Green Tea Uji Matcha ชาเขียวญี่ปุ่น

ราคา 155 บาท*
หากคุณเป็นคนที่ชอบดื่มชามัทฉะที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ Ito En Premium Green Tea Uji Matcha ชาเขียวเป็นชาเขียวประเภทมัทฉะที่เป็นผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นแท้ ๆ หนึ่ง 1 กล่องจะมีมัทฉะทั้งหมด 20 ถุง แต่ละถุงชาอัดแน่นไปด้วยใบชาที่มีรสชาติกลมกล่อมและมีกลิ่นหอมมากเป็นพิเศษ รับรองว่าดื่มแล้วจะติดใจอย่างแน่นอนค่ะ
ความพิเศษของ Itoen Premium Green Tea คือถุงชามาในรูปแบบพีระมิดเป็นถุงชาที่ทำจากไนลอนอย่างดี ชามัทฉะที่ทางแบรนด์ใช้เป็นชาเขียวเขียว 100% เมืองอุจิ นครเกียวโต วิธีชงชาก็ง่ายมาก ๆ ค่ะแค่แช่ในน้ำร้อนหรือน้ำเย็นก็ได้แล้ว รสชาติของชาเป็นรสชาติระดับพรีเมียม ขอบอกเลยว่าถุงชา 1 ถุงสามารถชงชาเขียวได้ถึง 3 ถ้วยด้วยกันคุ้มค่ามากจริง ๆ ค่ะ
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | มัทฉะ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ถุงชา |
ปริมาณ | 20 ซอง |
เมืองที่ผลิตชา | เมืองอุจิ นครเกียวโต |
Ito En Oi Ocha Hojicha ชาเขียวญี่ปุ่น

ราคา 190 บาท*
Ito En Oi Ocha Hojicha เป็นชาเขียวที่ตอบโจทย์มาก ๆ หากคุณต้องการลองอะไรที่แตกต่างจากชาเขียวเซนฉะแบบดั้งเดิม เพราะชาเขียวชนิดนี้เป็นชาโฮจิฉะค่ะ ในการผลิตโฮจิฉะใบชาจะถูกนำไปนึ่งและนำไปคั่วเพื่อให้มีรสชาติที่ กลมกล่อม ซึ่งโฮจิฉะของทางแบรนด์มาในรูปแบบถุงสามารถชงได้ง่ายและมีรสชาติที่กลมกล่อมมาก ๆ
ในการคั่วใบชาเขียวทางแบรนด์ได้คั่วโดยการใช้ไฟที่มีความแรงสูง ซึ่งแน่นอนว่าในกระบวนการคั่วทำให้ชาเปลี่ยนสี น้ำชาที่ได้จึงออกมาเป็นสีน้ำตาลอ่อนและมีกลิ่นเฉพาะตัว แต่ถึงแม้จะผ่านการคั่วมาแล้วรสชาติของชาก็ยังคงความสดและมีกลิ่นหอมค่ะ ชามีรสชาติค่อนข้างอ่อนจึงเป็นชาชั้นเยี่ยมสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับไว้ดื่มร่วมกับการทานอาหารญี่ปุ่นด้วย ใครที่อยากลองดื่มชาเขียวคั่วต้องลองค่ะ
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | โฮจิฉะ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ถุงชา |
ปริมาณ | 20 ซอง |
เมืองที่ผลิตชา | ไม่ระบุ |
Ito En Japanese Green Tea Matcha Blend ชาเขียวญี่ปุ่น

ราคา 770 บาท*
Ito En Japanese Green Tea Matcha Blend ผงชาเขียวมัทฉะที่ผ่านการบรรจุแบบซองจึงง่ายต่อการพกพาไปทุกที่ที่คุณต้องการ ในหนึ่งกล่องมีชาเขียว 100 ซอง ชาเขียวผงมัทฉะชงได้ง่ายมากเพียงแค่ละลายในน้ำโดยตรงก็ได้แล้วค่ะ รสชาติที่ได้เป็นรสชาติที่กลมกล่อม สดชื่นและมีรสหวานเล็กน้อย แน่นอนว่าผงชาเขียวจากทางแบรนด์เป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายจะเก็บไว้ในกระเป๋าหรือเก็บไว้ในโต๊ะทำงานก็ได้
แต่เนื่องจากเป็นชาเขียวมัทฉะรสชาติของชาเขียวอาจจะอ่อนเกินไปสำหรับใครหลาย ๆ คน หากคุณต้องการชาที่เข้มข้นให้ใช้มากกว่าหนึ่งซอง สิ่งที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ ในชาเขียวเลยก็คือชงได้รวดเร็วมาก เพราะละลายได้ง่ายจะชงในน้ำร้อนหรือน้ำเย็นก็ได้ตามความต้องการเลยค่ะ ใครที่ชอบความสะดวกต้องไม่พลาดเลยนะคะ
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | มัทฉะ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ผง |
ปริมาณ | 100 ซอง |
เมืองที่ผลิตชา | เมืองอุจิ นครเกียวโต |
Ito En Oi Ocha Koiaji Sara Sara Ryokucha ชาเขียวญี่ปุ่น

ราคา 229 บาท*
Ito En Oi Ocha Koiaji Sara Sara Ryokucha เป็นมัทฉะในรูปแบบผงปริมาณ 40 กรัมที่รสชาติดีมาก ๆ ค่ะ เป็นที่รู้ดีอยู่แล้วว่า Ito En เป็นแบรนด์ชาเขียวอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ชาเขียวที่ทางแบรนด์ผลิตไม่เพียงแต่เป็นที่ต้องการของชาวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ Ito En ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย หนึ่งในผลิตภัณฑ์เด่นของร้านคือชาเขียวผงสำเร็จรูปค่ะ
มัทฉะของทางแบรนด์ชงงานมาก ๆ แค่ใช้น้ำเย็นหรือน้ำร้อนละลายผงชาก็ได้แล้วค่ะ ถึงแม้ว่าชาจะมีปริมาณน้อยแต่ก็เข้มข้นมากสามารถชงชาได้มากถึง 100 ถ้วย ในการดื่มชาเราขอแนะนำให้ดื่มพร้อมการทานซูชิและซาซิมิเพราะจะทำให้รสชาติของซูชิและซาซิมิอร่อยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งชาจะมีกลิ่นหอมมาก ๆ ทำให้ยิ่งดื่มยิ่งมีความสุขค่ะ
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | มัทฉะ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ผง |
ปริมาณ | 40 กรัม |
เมืองที่ผลิตชา | เมืองอุจิ นครเกียวโต |
Ito En Unsweetened Jasmine Green Tea ชาเขียวญี่ปุ่นผสมมะลิพร้อมดื่ม

ราคา 600 บาท*
Ito En Unsweetened Jasmine Green Tea ชาเขียวมะลิพร้อมดื่มรสชาติไม่หวานและตอบโจทย์สำหรับทุกคนเลยค่ะ ชาที่ใช้เป็นเซนฉะคุณภาพดีผสมกับกลิ่นมะลิทำให้รับประทานได้ง่ายมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นของชาเขียวธรรมดา รสชาติของชาเบา สดชื่นและมีกลิ่นหอมของดอกไม้ อันที่จริงแล้วชามี 2 สูตรนะคะแบบหวานและไม่หวาน หากใครชอบหวานสามารถเลือกซื้อรสชาติหวานได้เลย
ปริมาณของแต่ละขวดอยู่ที่ 500 มล. หากซื้อตามลิงก์ของเราก็ได้รับไปเลยค่ะ 24 ขวดแบบจุก ก่อนการดื่มชาเขียวแนะนำให้แช่เย็นก่อนเพราะการดื่มแบบเย็น ๆ จะอร่อยและสดชื่นมากกว่าค่ะ ถึงแม้จะเป็นชาเขียวผสมมะลิแต่ก็ยังมีคาเฟอีนอยู่ค่ะ ทุกคนอย่าดื่มเยอะเกินไปนะคะเดี๋ยวจะนอนไม่หลับ
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | เซนฉะ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ขวดพร้อมดื่ม |
ปริมาณ | 500 มล. |
เมืองที่ผลิตชา | ไม่ระบุ |
Shizuoka Bancha Green Tea ชาเขียวญี่ปุ่น

ราคา 125 บาท*
Shizuoka Bancha Green Tea เป็นชาเขียวบันฉะแบบใบที่คุณต้องลองดื่มสักครั้งค่ะ บันฉะที่ทางแบรนด์ใช้เป็นชาที่มีใบใหญ่มาก รสชาติของชามีรสชาติที่ซับซ้อนแต่เป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีปริมาณโพลีฟีนอลสูง ชาเขียวบันฉะมีคาเฟอีนต่ำ มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เมื่อชงชาออกมาชาที่ได้จะมีสีเหลืองแกมเขียวรสชาติน่ารับประทานมาก ๆ
ชาเป็นแบบใบชาที่มีปริมาณ 100 กรัม ราคาถือว่าเหมาะสมกับปริมาณที่ได้ค่ะราคาไม่แรงจนเกินไปสามารถใช้เป็นชาดื่มได้ทุกวัน ชาเขียวบันฉะตอบโจทย์คนที่ไม่อยากบริโภคชาเขียวที่มีคาเฟอีนสูง อีกทั้งยังตอบโจทย์สำหรับเด็ก ผู้ใหญ่และสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ด้วย ใครที่ชอบดื่มชารสชาติอ่อน ๆ ต้องไม่พลาดนะคะเพราะบันฉะรสชาติดีมาก ๆ
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | บันฉะ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ใบชา |
ปริมาณ | 100 กรัม |
เมืองที่ผลิตชา | ไม่ระบุ |
Ito En Genmaicha Premium Green tea with Roasted Rice ชาเขียวญี่ปุ่น

ราคา 199 บาท*
Ito En Genmaicha Premium Green tea with Roasted Rice เป็นชาเขียวเก็นไมฉะที่คุณต้องลองดื่มสักครั้งค่ะ เก็นไมฉะของทางแบรนด์เป็นชาที่ผลิตจากใบชาอย่างดีที่ปลูกบนเนินเขาสูง ซึ่งเก็นไมฉะเป็นชาเขียวอีกหนึ่งชนิดที่ได้รับความยอดนิยม ชาที่ทางแบรนด์นำมาทำเก็นไมฉะมีการผสมผสานของมัทฉะจากเมืองอุจิ นครเกียวโตด้วยค่ะ
ใบชาที่ทางแบรนด์ใช้เป็นใบชาที่เก็บในช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่ารสชาติของชาจะมีคุณภาพสูงสุด รูปแบบของชามาในรูปแบบของถุงชา สามารถชงได้ง่ายด้วยการเติมน้ำร้อนลงไปค่ะ ใครที่อยากลองดื่มชารสชาติใหม่ ๆ บ้างแนะนำเก็นไมฉะเลยค่ะ
ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น | เก็นไมฉะ |
---|---|
รูปแบบของชาเขียวญี่ปุ่น | ถุงชา |
ปริมาณ | 20 ซอง |
เมืองที่ผลิตชา | เมืองอุจิ นครเกียวโต |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้อชาเขียวญี่ปุ่น
1. เลือกชนิดของชาเขียวที่ได้รับความนิยม
ชาเขียวมีหลายประเภทค่ะโดยข้อมูลเหล่านี้เราได้บอกไปแล้วในด้านบนถึง 10 ชนิด แต่ชาเขียวที่ได้รับความนิยมและวางขายมากที่สุดในไทยมีแค่ 2 ชนิดเท่านั้นค่ะ ซึ่งนั่นก็คือเซนฉะและมัทฉะค่ะ เราเลยมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซนฉะและมัทฉะมาบอกกันไปดูกันเลย

- เซนฉะ (Sencha) เซนฉะเป็นชาเขียวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและเป็นชาที่เหมาะที่จะดื่มในชีวิตประจำวัน หากคุณเพิ่งเริ่มดื่มชาเขียวญี่ปุ่นเราขอแนะนำเซนฉะก่อนเลยค่ะ เซนฉะเป็นชาที่จะต้องผ่านการนึ่งเพื่อหยุดการเกิดออกซิเดชัน ชามีกลิ่นหอมมากและมีความกลมกล่อมด้วย เซนฉะเป็นชาที่มีสายพันธุ์ต่าง ๆ ให้เราได้เลือกมากมาย ทั้งสะเอะมิโดะริ (Saemidori) ที่ทำจากใบเก็บเกี่ยวครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิมีรสชาติหวาน แต่ถ้าคุณชอบชาที่รสชาติเข้มข้นให้ลองพิจารณาชาเขียวฟุกามุชิ (Fukamushi) ชาชนิดนี้นึ่งนานกว่าเซนฉะแบบดั้งเดิมทำให้มีรสชาติที่เข้มข้นกว่าค่ะ ส่วนเกียวคุโระเป็นเซนฉะยอดนิยมอีกประเภทหนึ่งที่ผ่านการปลูกในร่มเงาเป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์เพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม ในการเลือกซื้อสามารถเลือกซื้อตามรสนิยมได้เลยค่ะ
- มัทฉะ (Matcha) มัทฉะเป็นผงชาเขียวที่ทำจากใบชาอ่อนผ่านการปลูกในที่ร่ม มัทฉะมีคาเฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าชาเขียวทั่วไป มีรสชาติที่สดชื่น หวานเล็กน้อยและขมนิด ในการดื่มคุณสามารถดื่มเองหรือเติมนมและสารให้ความหวานเพื่อทำมัทฉะลาเต้ก็ได้เช่นกัน โดยทั่วไปมีมัทฉะมี 2 เกรด คือมัทฉะที่ใช้ทำอาหารและมัทฉะที่ใช้ในพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งมัทฉะที่ใช้ในพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมมักจะมีรสชาติเข้มข้นมากกว่ามัทฉะที่ใช้ในการปรุงอาหาร
2. เช็กแหล่งที่มาของชาเขียว

- ชาจากชิซูโอกะ (Shizuoka) ปัจจุบันเมืองชิซูโอกะเป็นผู้ผลิตชารายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและคิดเป็น 40% ของชาที่ผลิตในประเทศ ไร่ชาส่วนใหญ่ในชิซูโอกะจะปลูกเซนฉะหรือฟุกะมุชิเซนฉะค่ะ เซนฉะในชิซูโอกะมีชื่อเสียงมาก ๆ และมีรสชาติที่สมดุลเพราะไม่ขมจนเกินไป แต่น่าเสียดายที่มัทฉะไม่ได้ผลิตกันแพร่หลายในชิซูโอกะแต่ก็มีบางพื้นที่ที่ปลูกอยู่บ้าง ซึ่งรสชาติของมัทฉะที่ปลูกในชิซูโอกะจะมีรสขมเล็กน้อยและมีกลิ่นหอม
- ชาจากเกียวโต (Kyoto) เกียวโตเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมชาญี่ปุ่นและปัจจุบันเป็นพื้นที่ผลิตชาที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ในเมืองเกียวโตมีการคิดค้นและปลูกพันธุ์ชาต่าง ๆ มากมาย เช่น เซนฉะ เกียวคุโระและมัทฉะ เกียวโตเป็นเมืองที่มีหมอกในตอนเช้าและดินที่มีความเป็นกรดสูง ทำให้เกียวโตเป็นสภาวะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกชา เซนฉะที่ผลิตในเกียวโตมักมีรสเข้มข้นและหวานเล็กน้อยพร้อมกลิ่นหอมน่ารับประทาน ส่วนมัทฉะจากเกียวโตก็อร่อยมากและถือว่าเป็นมัทฉะที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น
- ชาจากคาโกชิม่า (Kagoshima) คาโกชิม่ามีสภาพที่เหมาะสมสำหรับการปลูกชา เพราะมีดินภูเขาไฟที่อุดมสมบูรณ์และภูมิอากาศแบบกึ่งเขตร้อน แน่นอนว่ามีชาเขียวหลายชนิดที่ปลูกในคาโกชิม่า แต่เซนฉะเป็นหนึ่งในชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เซนฉะจากคาโกชิม่ามีรสหวานและกลมกล่อม ส่วนมัทฉะจากคาโกชิม่ามีรสหวานด้วยเช่นกันค่ะ
3. รูปแบบของชา

ชาเขียวญี่ปุ่นมีหลายแบบให้เราได้เลือกซื้อค่ะทั้งแบบใบชา, แบบถุง, แบบผงและแบบสำเร็จรูป ไม่ว่าคุณจะเลือกชาเขียวญี่ปุ่นรูปแบบไหนก็จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแน่นอนค่ะ ชาเขียวแบบใบชาจะเป็นชาที่มีคุณภาพสูงกว่าชาที่บรรจุถุง ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ชื่นชอบชา อย่างไรก็ตามในการชงชาแบบใบชาจะต้องมีอุปกรณ์ในการต้มชาค่ะ ส่วนชาแบบถุงจะมีรสชาติไม่เข้มข้นเท่าชาแบบใบชา แต่เป็นตัวเลือกที่สะดวกเมื่อคุณไม่มีอุปกรณ์ในการต้มชา ส่วนชาผงจะเป็นชาเขียวมัทฉะค่ะ การเตรียมชาแบบผงเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วมาก อีกทั้งผงชาเขียวยังเหมาะสำหรับการใช้ใส่เครื่องดื่มหรืออบขนมด้วยค่ะ แต่หากคุณไม่แน่ใจว่าชาเขียวที่ชงออกมาจะอร่อยไหมหรือถ้าคุณไม่อยากชงชาเขียวด้วยตัวเอง ให้ลองดื่มชาเขียวบรรจุขวด ชาเขียวบรรจุขวดจะมีรสชาติดีเมื่อแช่เย็นและหาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตค่ะ
บทสรุป
ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่บริโภคกันอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นและเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ในบรรดาชาเขียวที่มีอยู่นับไม่ถ้วนในญี่ปุ่น ชาเขียวที่ดีต่อสุขภาพที่สุดคือมัทฉะค่ะ มัทฉะเป็นใบชาอ่อนที่ผ่านการบดละเอียดและมีสีเขียวสดใส มัทฉะมีระดับสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเรา หลายคนอาจจะสงสัยว่าชาเขียวญี่ปุ่นดีที่สุดไหม เราขอตอบเลยค่ะว่าชาเขียวญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก อีกทั้งชาเขียวญี่ปุ่นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เข้มข้นมากกว่าชาเขียวชนิดอื่น ๆ ในโลกด้วยค่ะ

จากรายการชาเขียว 9 แบบที่เราแนะนำกันไป เราสามารถพูดได้เลยว่าแบรนด์ชาเขียวญี่ปุ่นที่ดีที่สุดคืออิโตะเอ็น (Ito En) ค่ะเพราะอิโตะเอ็นเป็นแบรนด์ชาเขียวอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นที่จำหน่ายชาเขียวหลากหลายประเภทและเป็นผู้จัดจำหน่ายชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเช่นกัน อิโตะเอ็นได้นำเสนอชาคุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรมาอย่างดีซึ่งมีรสชาติที่สดชื่นและน่ารับประทานค่ะ หากคุณเพิ่มดื่มชาเขียวเป็นครั้งแรกแบรนด์อิโตะเอ็น (Ito En) ตอบโจทย์มากที่สุดค่ะ