ลิปสติกเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยแต่งแต้มริมฝีปากให้มีสีสันสวยงามขึ้นมาได้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าริมฝีปากตามธรรมชาติของคนเรามักจะขาดสีสันและมันยากมากที่คนเราจะมีริมฝีปากอมชมพูมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นการใช้ลิปสติกจึงสามารถช่วยเพิ่มความสวยงามและเพิ่มความมั่นใจให้กับคนที่ทาลิปสติกได้ ผู้เขียนเองเป็นคนหนึ่งที่ชอบซื้อและชอบทาลิปสติกค่ะเพราะผู้เขียนมีความรู้สึกว่าแค่ทาปากก็จะทำให้ใบหน้าของเราดูหน้ามองมากขึ้นได้ ปกติแล้วผู้เขียนจะชอบใช้ลิปสติกติดทนนาน ลิปทินท์และลิปเกาหลีค่ะเพราะผู้เขียนมีความรู้สึกว่ามันเหมาะกับริมฝีปากของผู้เขียนมากกว่าลิปสติกแบบอื่น ๆ แต่หากวันไหนที่ไม่แต่งหน้าผู้เขียนจะใช้แค่ลิปบาล์มมีสีเท่านั้นเพราะมันดูธรรมชาติกว่าค่ะ นอกจากลิปสติกในรูปแบบต่าง ๆ ที่ผู้เขียนพูดถึงแล้ว “ลิปสติกเนื้อแมตต์” ก็เป็นอีกลิปสติกที่น่าสนใจค่ะ และวันนี้เราจะมาพูดถึงเจ้าลิปสติกเนื้อแมตต์กัน

ลิปสติกเนื้อแมตต์ จะขึ้นชื่อในเรื่องความติดทนนานและเป็นลิปสติกที่ได้รับความนิยมมาก ๆ นอกจากนี้ลิปสติกเนื้อแมตต์ยังมีหลากหลายเฉดสีให้เราได้เลือกด้วยค่ะ วันนี้ผู้เขียนเลยถือโอกาสมาแนะนำลิปสติกเนื้อแมตต์กัน ขอบอกเลยว่าบทความวันนี้เรามีสินค้ามารีวิวจริงให้เห็นกันด้วยค่ะ หากตอนนี้พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยว่าลิปสติกเนื้อแมตต์จากแบรนด์ไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด !!!
ลิปสติกเนื้อแมตต์ เหมาะกับใครมากที่สุด ?
ลิปสติกเนื้อแมตต์เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับทุกคนเลยค่ะ ปกติแล้วลิปสติกเนื้อแมตต์มักจะมีส่วนผสมของเม็ดสี น้ำมัน แว็กซ์และสารทำให้ความชุ่มชื้นคล้าย ๆ กับลิปสติกทั่วไป แต่ความแตกต่างก็คือตัวสีของลิปสติกเนื้อแมตต์จะไม่แวววาวเหมือนลิปสติกสไตล์อื่น ๆ โดยจะแห้งสนิทไปกับริมฝีปาก หากคุณต้องการความแวววาวก็อาจจะต้องทาลิปกลอสสีใสเพื่อให้ริมฝีปากฉ่ำมากขึ้น

จุดเด่นของลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ผู้เขียนชอบคือลิปมีเม็ดสีแน่นมาก ซึ่งหมายความว่าเพียงแค่ปาดที่ริมฝีปากเพียงครั้งเดียวก็สามารถกลบสีปากเดิมได้แล้ว ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีริมฝีปากคล้ำขนาดไหนลิปเนื้อแมตต์ก็เอาอยู่อย่างแน่นอนค่ะ อีกทั้งความทึบแสงของลิปสติกเนื้อแมตต์จะทำให้ลิปสติกติดทนได้นานบนริมฝีปากด้วยค่ะ หากคุณเป็นคนที่ไม่มีเวลาทาลิปสติกซ้ำ ๆ ตลอดทั้งวัน ลิปสติกเนื้อแมตต์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณค่ะ
ลิปสติกเนื้อแมตต์ ยี่ห้อไหนดี ?
Maybelline SuperStay Matte Ink Liquid Lipstick ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 219 บาท*
Maybelline Super Stay Matte Ink เป็นลิควิดลิปสติกที่ขึ้นชื่อว่าติดทนนานที่สุดค่ะ โดยทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อทาแล้วลิปสติกจะติดยาวนานกว่า 16 ชั่วโมง แม้หลังจากดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารไปแล้วลิปสติกก็ยังคงอยู่ ผู้เขียนขอรับรองเลยค่ะว่าเมื่อทาไปแล้วลิปสติกจะติดตั้งแต่เช้ายันเย็นแน่นอน ลิปสติกจากเมย์เบลลีนทาได้ง่ายมาก ๆ ค่ะและราคาก็ไม่แพงด้วย
จุดเด่นของลิปสติกจากทางแบรนด์คือมีสีสันที่สดใสและมีหลายสีให้เลือก แปรงทาที่มาพร้อมกับลิปสติกมีปลายแบบแหลมค่ะ แน่นอนว่าการออกแบบแปรงทาลิปสติกแบบนี้จะช่วยให้เราสามารถเขียนเส้นขอบปากได้อย่างแม่นยำ ลุคแมตต์ที่ได้จากการทาลิปสติกไม่ได้แห้งมากเกินไปค่ะ แต่ก็ควรบำรุงริมฝีปากก่อนใช้เพื่อป้องกันลิปสติกตกร่องค่ะ

Maybelline Super Stay Matte Ink เป็นลิปสติกสำหรับคนที่ชอบลิปสติกที่ขึ้นชื่อในเรื่องความติดทนนานและราคาประหยัดค่ะ เรื่องความติดทนนานยอมรับเลยว่าเมย์เบลลีนทำได้ดีค่ะ เนื้อลิปสติกทาไม่ได้ยากเมื่อทาแล้วจะให้ความแมตต์แก่ริมฝีปากได้ ทาแล้วจะไม่ถ่ายโอนลงที่แก้ว หลอดหรือช้อนอย่างแน่นอน แต่ต้องพูดเลยว่าลิปสติกจะทำให้ปากแห้งและตกร่องได้ง่ายโดยเฉพาะคนที่ปากแห้งอยู่แล้ว ส่วนคนที่ไม่ได้ปากแห้งก็ควรที่จะทาลิปบาล์มบำรุงทุกครั้งเพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้นและไม่แห้งเมื่อทาลิปสติกค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกมีให้เลือกหลากหลายเฉดสี เม็ดสีแน่นและเข้มข้น
- มาพร้อมกับสูตรกันน้ำ ติดทนนานและไม่ติดแมสก์
- กลบสีปากได้มิดชิด ใช้เวลาไม่นานในการรอลิปเซตตัว
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกให้ความรู้สึกหนักและเหนียวเล็กน้อยหลังการใช้ แนะนำให้รอลิปเซตตัวก่อน
ปริมาณ | 5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 42 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไม่ระบุ |
4U2 Est. Harder ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 99 บาท*
4U2 Est. Harder ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่เหมาะสำหรับคนงบน้อยจริง ๆ ค่ะเพราะมีราคาไม่แพงมากแต่คุณภาพระดับพรีเมียมเลย ลิปสติกจากทางแบรนด์มีให้เลือกถึง 16 เฉดสีซึ่งแต่ละเฉดสีก็สวยมาก ๆ เลยค่ะ รูปแบบของลิปสติกเป็นลิควิดลิปสติกที่มาพร้อมแปรงทาลิปทำให้เราสามารถทาลิปสติกได้ง่ายขึ้น จุดที่หลายคนชอบ 4U2 Est. Harder เพราะเนื้อลิปสติกนุ่มและแห้งเร็วมาก เมื่อแห้งแล้วลิปสติกก็จะแมตต์ทันทีและจะไม่ติดแมสก์เลย
ลิปสติกมีประสิทธิภาพในการกันน้ำพอประมาณค่ะ ถึงแม้จะติดทนนานมากแต่เมื่อทานของมัน ๆ ก็อาจจะต้องทาลิปซ้ำค่ะ ผู้เขียนอยากแนะนำนิดหนึ่งว่าก่อนทาลิปสติกให้ทาลิปบาล์มก่อนเพื่อป้องกันการตกร่องค่ะ ใครที่ชอบซื้อลิปสติกเนื้อแมตต์ราคาประหยัดแนะนำเลยค่ะเพราะ 4U2 Est. Harder ดีจริงค่ะ

4U2 Est.Harder เป็นลิปสติกที่ต้องมีในคลังหากคุณชอบซื้อลิปสติกค่ะ เพราะนอกจากราคาประหยัดแล้วยังไม่ติดแมสก์และกันน้ำด้วยค่ะ ในเรื่องของการติดทนนานผู้เขียนมองว่าติดทนนานได้ในระดับหนึ่งเลยค่ะ หากให้เปรียบเทียบกับลิปสติกที่ราคาไม่ต่างกันมากอย่าง Maybelline Super Stay Matte Ink ความติดทนนานของ 4U2 Est.Harder เทียบกับ Maybelline Super Stay Matte Ink ไม่ได้อย่างแน่นอนค่ะ แต่หากพูดถึงเรื่องทาง่ายและเกลี่ยง่าย 4U2 Est.Harder ทาได้ง่ายกว่ามากและเกลี่ยได้ง่ายด้วยค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกเนื้อแมตต์ ทาง่าย ติดทนยาวนานแต่ไม่ติดแมสก์
- กันน้ำได้ดีเมื่อสัมผัสกับน้ำลิปไม่เลอะไม่ไหลและยังคงอยู่
- หัวแปรงทาปากได้ง่ายและผ่านการออกแบบมาอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- คนที่มีริมฝีปากแห้งต้องทาลิปบาล์มเพื่อบำรุงก่อนป้องกันลิปสติกตกร่อง
ปริมาณ | 2 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 16 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไม่ระบุ |
L’Oreal Paris Rouge Rouge Signature Matte Lip Ink ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 289 บาท*
L'oreal Paris Rouge Signature Matte Lip เป็นลิปสติกอีกหนึ่งแบรนด์ที่ผู้เขียนชอบค่ะเพราะสีสวยมากและทาได้ง่ายด้วย ลิปสติกมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มมาก เมื่อทาแล้วจะมอบความเรียบเนียนและบางเบาให้กับริมฝีปากค่ะ จุดเด่นเลยก็คือลิปจะไม่หนักปากและช่วยให้ริมฝีปากของเราสบายตลอดวัน เม็ดสีของลิปสติกค่อนข้างแน่นเลยค่ะ เมื่อเราปาดลิปสติกแค่ครั้งเดียวจะช่วยให้ริมฝีปากมีสีสันที่สวยงามทันที ฟินิชลุคเป็นแบบแมตต์ค่ะแต่เป็นความแมตต์ที่ยังคงมีความสวยงามอยู่ค่ะ
เทคโนโลยีที่ทางแบรนด์ใช้คือเทคโนโลยีแบบฟิล์มทำให้เนื้อลิปสติกบางเบา การออกแบบแปรงทาลิปสติกออกแบบมาเป็นอย่างดีมีความเรียวเล็กทาได้ง่ายมากและเข้าถึงมุมปากได้เลยไม่ต้องใช้ดินสอเขียนขอบปากอีก ใครที่ชอบลิปสติกที่ทาได้ง่ายไม่หนักปากแนะนำนะคะ แบรนด์นี้คือปังมากค่ะ

หากใครชอบลิปสติกแบบแมตต์แต่ไม่แห้ง L'oreal Paris Makeup Rouge Signature Matte Ink Liquid ถือว่าตอบโจทย์ค่ะ เพราะทาแล้วไม่เกาะปากจนแห้งสนิท ส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่าลิปสติกเป็นลูกผสมระหว่างลิควิดลิปสติกกับลิปสเตนค่ะเพราะมีความสม่ำเสมอเหมือนน้ำ มีความทึบกว่าลิปสเตนแต่ไม่ทึบเท่าลิควิดลิปสติก สูตรมีความบางมากและทาได้ง่าย เมื่อเทียบกับ Maybelline Super Stay Matte Ink ความติดทนสู้ไม่ได้ค่ะ แต่ความสบายริมฝีปากลอรีอัลสู้ได้อย่างแน่นอน
ข้อดี
- เนื้อสัมผัสของลิปสติกมีความบางเบา ทาง่ายและไม่หนักปาก
- แปรงออกแบบมาให้ทาได้ง่ายกว่าเดิมและทำให้เราวาดรูปปากได้ง่าย
- เฉดสีของลิปสติกมีให้เลือกมากมายสามารถกลบสีปากเดิมได้ดี
ข้อควรพิจารณา
- ต้องรอให้ลิปเซตตัวก่อนที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ ซึ่งการเซตตัวต้องใช้เวลานานเล็กน้อย
ปริมาณ | 7 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 31 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไม่ระบุ |
Revlon Ultra HD Matte Lipcolor ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 249 บาท*
Revlon Ultra HD Matte Lipcolor ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่เหมาะมากหากคุณกำลังมองหาลิปสติกเนื้อแมตต์ที่มีเม็ดสีแน่นแต่เมื่อทาแล้วจะไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งค่ะ ขอบอกเลยว่าลิปสติก Revlon Ulta HD Matte น่าสนใจมาก ๆ เพราะเป็นลิปสติกที่ทาง่าย เนื้อบางเบาแต่ทางแบรนด์ได้เคลมเพิ่มมาว่าเมื่อทาแล้วจะติดทนบนริมฝีปากนานถึง 8 ชั่วโมง ถึงแม้จะติดทนไม่นานเท่า Maybelline Super Stay Matte Ink แต่ลิปสติกเนื้อแมตต์แท่งนี้ก็เป็นลิปสติกที่เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและจะไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งค่ะ
ลิควิดลิปสติกของทางแบรนด์มีให้เลือกทั้งหมด 10 สีโดยจะเป็นสีระดับ HD หลายคนอาจจะงงว่ามันเป็นสียังไง ตอบเลยว่าสีระดับ HD คือสีที่ชัดทาแค่เพียงครั้งเดียวก็กลบสีปากแล้วค่ะ ลิปสติกสามารถทาได้ง่าย เมื่อลิปสติกแห้งแล้วเนื้อลิปจะกลายเป็นเนื้อเนียนสวยงาม มาพร้อมเทคโนโลยีเจลไร้แว็กซ์ที่จะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื่นได้ดี อีกทั้งลิปสติกยังมีกลิ่นหอมของมะม่วงและวานิลลาด้วย
Revlon Ultra HD Matte Lipcolor เป็นลิปสติกที่มีแพ็กเกจสวยมากค่ะ ตัวลิปจะเป็นพลาสติกแบบแมตต์เหมือนกับสีลิปและมีฝาด้านบนสีเงินด้วย แปรงทาของลิปสติกมีความแบนแต่นุ่มฟูจึงทาได้ง่าย ตอนทาแรก ๆ เนื้อลิปจะเป็นเนื้อครีมค่ะทาแล้วสบายปากมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกับการทาลิปบาล์มเลยค่ะ ดังนั้นเมื่อทาแล้วจะไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งจริง ๆ เหมือนกับคำเคลมเลย ผู้เขียนมองว่า Revlon Ultra HD Matte Lipcolor เป็นลิควิดลิปสติกเนื้อแมตต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนที่มีริมฝีปากแห้งค่ะ กลิ่นของลิปสติกมีความหอมหวานมากจริง ๆ ค่ะ เป็นหนึ่งในลิปสติกที่คนปากแห้งต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
ข้อดี
- เนื้อลิปสติกทาได้ง่ายมาก มีความบางเบาและไม่ทำให้ปากแห้ง
- เม็ดสีของลิปสติกแน่นมากกลบสีปากได้อย่างรวดเร็ว
- ลิปสติกราคาไม่แพงและมีกลิ่นหอมมาก ๆ
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกใช้เวลาเซตตัวให้เป็นเนื้อแมตต์ค่อนข้างช้า
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่แพ้น้ำหอม
ปริมาณ | 5.9 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 10 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | เชียร์บัตเตอร์ |
HERA Sensual Powder Matte ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 990 บาท*
HERA Sensual Powder Matte ลิปสติกเนื้อแมตต์อีกหนึ่งแบรนด์ที่เราอยากแนะนำค่ะ โดยแบรนด์ Hera เป็นแบรนด์เกาหลีนะคะ หากคุณชอบซื้อเครื่องสำอางเกาหลีคุณจะรู้ว่าแบรนด์เกาหลีมักจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเสมอ เครื่องสำอาง Hera เป็นเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่มีเจนนี่ Blackpink เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ลิปแมตต์สูตรนี้เป็นเนื้อแป้งโปร่งสบายและทาง่าย หากคุณชอบทาปากสไตล์เกาหลีต้องห้ามพลาดนะคะเพราะลิปแมตต์จากแบรนด์นี้จะเหมาะกับคุณอย่างแน่นอน
ปัจจุบันลิปสติก Hera Sensual Powder Matte มีทั้งหมด 12 เฉดสีให้เราได้เลือกใช้ค่ะ โดยทางแบรนด์เคลมมาว่าลิปสติกมีส่วนผสมของไพรเมอร์ถึง 33% เมื่อใช้งานแล้วริมฝีปากจะเรียบเนียน ไม่ตกร่องและช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบริมฝีปาก นอกจากนี้ลิปสติกนี้ยังมีน้ำมันให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกเพื่อให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื่นทุกครั้งที่ได้ใช้ด้วยค่ะ
Hera Sensual Powder Matte เป็นลิปแมตต์เนื้อแป้งที่ทาแล้วเกลี่ยได้ง่ายมาก เนื้อลิปจะเรียบเนียนและช่วยเบลอริมฝีปากได้ดีค่ะ ในการทาลิปแนะนำให้แตะ ๆ ที่ริมฝีปากแล้วใช้นิ้วเกลี่ยเพราะสีลิปจะสวยกว่า เฉดสีของลิปสติกมีความสวยงามมาก ๆ เหมาะสำหรับลุค MLBB และเหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ ลิปสติกไม่ติดทนเท่าไหร่ค่ะ แต่หากไม่ได้ทานอะไรเลยลิปอาจจะติดทนได้ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบมากค่ะเพราะทาแล้วสวยจริง ๆ
ข้อดี
- เนื้อลิปสติกเป็นเนื้อแป้งทาง่ายมากและช่วยให้ริมฝีปากสวยขึ้น
- เฉดสีของลิปสติกสวยทุกสีทำให้สามารถทาได้ทุกสีผิว
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทาลิปสติกแบบเกาหลี
ข้อควรพิจารณา
- ลิปสติกติดทนได้ไม่นานนัก
ปริมาณ | 5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 12 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ไพรเมอร์และน้ำมันธรรมชาติ |
M.A.C Retro Matte Lipstick ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 950 บาท*
M.A.C Retro Matte Lipstick เป็นลิปสติกที่ได้รับความนิยมมาก ๆ และหลาย ๆ คนจะต้องรู้จักหรือเคยใช้ค่ะ รูปแบบของลิปจะเป็นแบบแท่งจึงสามารถพกพาและทาได้ง่ายเพียงแค่เปิดฝาก็สามารถทาได้เลยค่ะ ลิปสติกมีปลายแหลมเนื้อลิปมีความนุ่มทำให้เราสามารถเกลี่ยสีลิปได้ง่าย หลังจากทาไปแล้วริมฝีปากจะเรียบเนียนแต่จะมีความแมตต์แบบเบา ๆ
เฉดสีของลิปสติกจะมีทั้งหมดประมาณ 32 เฉดสีค่ะ ดังนั้นในการเลือกสีเราสามารถเลือกได้ตามความชอบเลยค่ะ สีที่ขายดีที่สุดของ M.A.C Retro Matte Lipstick คือสี Ruby Woo เป็นสีแดงแบบคลาสสิกและได้รับความนิยมมาก ทางแบรนด์เคลมมาว่าลิปสติกมีเม็ดสีแน่นและจะติดทนนาน 10 ชั่วโมงค่ะ ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของลิปสติกจากแมคต้องห้ามพลาดนะคะ
M.A.C Retro Matte Lipstick เป็นลิปสติกที่มีความเข้มข้นและติดทนประมาณหนึ่งเลยค่ะ เพราะหลังจากทานอาหารไปสีลิปสติกยังคงอยู่ ดังนั้นหากคุณไม่ได้ทานอาหารมัน ๆ เลยลิปสติกจะติดทนนานกว่าเดิมแน่นอน แต่หากคุณอยากได้ลิปสติกที่ติดทนนานกว่าและสามารถทนต่อความมันของอาหารได้ เราอยากแนะนำให้ซื้อ Maybelline Super Stay Matte Ink แทนค่ะ เพราะลิปสติกนี้สามารถป้องกันการถ่ายโอนได้ดีกว่า
ข้อดี
- ลิปสติกมาในรูปแบบแท่งสามารถทาได้ง่ายมาก
- ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากได้ดี เม็ดสีชัดทาแล้วไม่ตกร่อง
- ลิปสติกติดทนนานพอสมควรและไม่เหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาของลิปสติกค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 3 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบแท่ง |
เฉดสีที่มี | 32 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | กลีเซอรีน |
NYX Soft Matte Lip Cream ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 259 บาท*
NYX Soft Matte Lip Cream เป็นลิปสติกครีมเนื้อนุ่มที่สามารถทาได้ง่าย โดยทางแบรนด์ยังเคลมมาว่าเมื่อทาแล้วจะไม่ทำให้ริมฝีปากแห้งแตกอย่างแน่นอน แปรงทาลิปผ่านการออกแบบมาอย่างดีเพื่อให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้นค่ะ ถึงแม้ว่าลิปสติกจะให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าลิปสติกเนื้อแมตต์ทั่วไปแต่เราก็ต้องทาลิปบาล์มก่อนเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ลิปสติกตกร่องค่ะ ขอบอกเลยว่าลิปจาก NYX ฮิตมาก ๆ มีช่วงหนึ่งที่ลิปจากแบรนด์นี้เป็นไวรัลและมียอดขายเยอะมาก ๆ เลย
หลังจากทาแล้วลิปสติกจะทำให้ริมฝีปากมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอและดูสวยงาม ฟินิชลุคจะให้ความรู้สึกเนียนนุ่มบนริมฝีปากและเมื่อแห้งแล้วจะเป็นเนื้อแมตต์ ระหว่างที่เราทาลิปสติกตัวลิปจะช่วยปลอบประโลมและปรับสภาพริมฝีปากด้วยการให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปาก ตัวลิปสติกมีความติดทนพอประมาณค่ะ เฉดสีมีให้เลือกมากกว่า 34 สี หากคุณกำลังมองหาลิปสติกที่ให้การบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากอย่างล้ำลึกแต่ยังคงให้ลุคแมตต์อยู่แนะนำ NYX Soft Matte Lip Cream
NYX Soft Matte Lip Cream เป็นลิปสติกที่มีความครีมมี่มาก เนื้อสัมผัสของลิปสติกมีความนุ่มเป็นพิเศษทำให้ทาแล้วรู้สึกสบายปากมาก ลิปสติกมาในหลอดทึบแสงน่ารักและมีขนาดเล็กซึ่งจะมีสีเดียวกับสีของลิปสติก ส่วนฝาของลิปสติกจะเป็นสีดำ เนื้อสัมผัสของลิปสติกคล้ายมูส เนื้อบางเบาเมื่อทาแล้วจะไม่ทำให้รู้สึกหนักปากอย่างแน่นอน ลิปมีกลิ่นคัพเค้กวานิลลาหวาน ๆ ค่ะ หากเปรียบเทียบความติดทนกับ Maybelline Super Stay Matte Ink เมย์เบลลีนติดทนกว่าค่ะแต่ NYX ทาแล้วสบายปากมากกว่า
ข้อดี
- ลิปสติกติดทนนานหลายชั่วโมง แพ็กเกจขนาดเล็กพกพาได้ง่าย
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าลิปสติกเนื้อแมตต์ส่วนใหญ่
- เมื่อลิปสติกแห้งแล้วจะไม่ถ่ายโอนและติดแน่นกับริมฝีปากเลย
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้เวลาสักพักกว่าลิปสติกจะเซตตัว
ปริมาณ | 8 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบลิควิด |
เฉดสีที่มี | 34 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | ขึ้ผึ้ง |
Bobbi Brown Luxe Matte Lip Colour ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 1,550 บาท*
Bobbi Brown Luxe Matte Lip Colour ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่เหมาะมากหากคุณต้องการเพิ่มความสวยงามให้กับริมฝีปากของตัวเองค่ะ Luxe Lip Colour จาก Bobbi Brown เป็นลิปสติกที่มีให้เลือกถึง 18 เฉดสี ความพิเศษคือตัวลิปปราศจากพาราเบน น้ำมันแร่และซัลเฟต ใครที่มีริมฝีปากแห้งและแพ้ง่ายสามารถใช้งานได้เลยค่ะ ลิปสติกมาในบรรจุภัณฑ์สีทองที่สวยงามมากหรูหราไม่แพ้กับ Dior Rouge Dior Couture Colour Matte เลยค่ะ
เม็ดสีของลิปสติก Bobbi Brown Luxe Matte Lip Color แน่นมากค่ะ เมื่อทาลงบนริมฝีปากแล้วจะกลบสีปากเดิมได้ดี แต่ไม่หนักมากนะคะทุกคนมันบางเบามาก ๆ เลยทีเดียวค่ะ หลายคนอาจกลัวว่าลิปสติกเนื้อแมตต์จะแห้งเมื่อใช้ไปนาน ๆ ผู้เขียนตอบเลยว่าไม่แห้งแน่นอนค่ะแต่คนที่มีปากแห้งต้องบำรุงก่อนนะคะเพื่อป้องกันการตกร่องของริมฝีปากค่ะ ลิปสติกติดทนนานพอสมควรเลยค่ะใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Bobbi Brown ไม่ควรพลาดนะคะ
Bobbi Brown Luxe Matte Lip Colour เป็นลิปแบรนด์ไฮเอนด์ที่หลายคนคุ้นเคยค่ะเพราะแบรนด์นี้ผลิตแต่เครื่องสำอางชั้นดีมาตลอดเลย ลิปสติกเป็นเนื้อแมตต์ที่ทาได้ง่ายและมาแบบแท่งทำให้เราสามารถพกพาได้สะดวก ผู้เขียนชอบตรงที่มันเป็นเนื้อแมตต์แต่ไม่หนักปากทำให้เรารู้สึกสบายริมฝีปากทุกครั้งที่ทา ทางแบรนด์เคลมมาว่าลิปสติกติดทนนานประมาณ 12 ชม. แต่หลังจากที่ได้ใช้ผู้เขียนมองว่าติดทนจริงค่ะแค่หากทานของมันก็ไม่ได้ติดทนนานขนาดนั้น หากให้เปรียบเทียบคงจะติดทนพอ ๆ กับ M.A.C Retro Matte Lipstick ค่ะ
ข้อดี
- ลิปสติกทาง่ายมากเนื้อมีความบางเบา เกลี่ยง่ายไม่หนักปาก
- ติดทนนานพอประมาณหากไม่ทานของมันเลยก็จะยิ่งติดทนนาน
- แพ็กเกจมีความหรูหราสามารถพกพาได้สะดวก
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงแต่ลิปสติกคุณภาพดีมาก
ปริมาณ | 3.6 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบแท่ง |
เฉดสีที่มี | 16 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | น้ำมันดอกคามีเลีย |
Dior Rouge Dior Couture Colour Matte ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 1,390 บาท*
Dior Rouge Dior Couture Colour Matte ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่เหมาะมาก ๆ หากคุณกำลังมองหาลิปสติกระดับไฮเอนด์ค่ะ ส่วนผสมหลักของลิปสติกเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างดอกทับทิมที่จะให้ทั้งการดูแลริมฝีปากและให้เม็ดสีแน่นค่ะ เมื่อทาแล้วริมฝีปากจะได้รับการบำรุงและไม่แห้งแตกเหมือนลิปสติกเนื้อแมตต์อื่น ๆ อย่างแน่นอนค่ะ
ลิปสติกจาก Dior Rouge ติดทนได้นานพอประมาณเลยค่ะ ไม่เพียงแค่ติดทนนานนะคะแต่บรรจุภัณฑ์ก็สวยมาก ๆ ปัจจุบันลิปสติกรุ่นนี้มีเฉดสีให้เลือกเยอะถึง 35 เฉดสีสามารถเลือกได้ตามความต้องการเลยค่ะ ผู้เขียนมองว่าลิปสติกสีสวยทุกสีเลยเป็นลิปแมตต์ที่ดูไม่แมตต์มากแต่ติดทนนานเลยค่ะ ถึงแม้ราคาจะแรงไปหน่อยแต่เราจะได้รับความคุ้มค่าเมื่อทาแน่นอนค่ะ
Dior Rouge Dior Couture Colour Matte มาในแท่งสีเงินและสีดำ ไม่ต่างจาก Rouge Dior รุ่นออริจินัลมากนักค่ะ แต่แทนที่จะเป็นแถบสีเงินสลักลายแคนนาจแพ็กเกจแบบใหม่จะมี CD ของ Christian Dior อันเป็นเอกลักษณ์แทน สีของลิปสติกปังมากเนื้อลิปทาได้ง่ายค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนไม่เคยใช้ลิปแมตต์ของดิออร์ค่ะปกติใช้แต่กลอสและลิปครีมทั่วไป แต่ Dior Rouge Dior Couture Colour Matte น่าสนใจมาก ๆ หากซื้อแล้วจะมารีวิวให้ดูเต็ม ๆ อีกครั้งค่ะ
ข้อดี
- เฉดสีมีความสวยงามและดูทันสมัยทุกสี
- ให้เม็ดสีที่ชัดจากการปาดเพียงครั้งเดียวและกลบสีปากคล้ำได้
- เป็นเนื้อแมตต์แต่ให้ความชุ่มชื่นแก่ริมฝีปากและทำให้เอิบอิ่มได้ดี
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงแต่ลิปสติกคุณภาพดีมาก
ปริมาณ | 3.5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบแท่ง |
เฉดสีที่มี | 23 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | สารสกัดจากทับทิม |
Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick ลิปสติกเนื้อแมตต์

ราคา 1,294 บาท*
Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick เป็นลิปสติกอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราอยากแนะนำค่ะ โดยลิปแมตต์ตัวนี้จะเหมาะมากหากคุณต้องการให้ริมฝีปากที่แห้งแตกกลับมาชุ่มชื้นเมื่อทาลิปแมตต์ เพราะลิปแมตต์จาก Charlotte Tilbury มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นหลายชนิดมาก ๆ แต่ส่วนผสมที่เด่นที่สุดคือสารสกัดจากดอกกล้วยไม้ที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าจะทำให้ริมฝีปากนุ่มและอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์แบบวีแก้นนะคะและเป็นสูตรลิปสติกที่ดังมาก ๆ เพราะได้กระแสมาจากซีรีส์เรื่อง Nevertheless โดยสีที่ฮิตที่สุดของลิปสติกคือ Pillow Talk Medium ขอบอกเลยว่าลิปสติกไม่เพียงแต่มีสีที่สวยงามเท่านั้นแต่ยังติดทนและไม่มีพาราเบน ใครที่แพ้ง่ายสามารถใช้ได้เป็นประจำโดยไม่ระคายเคืองริมฝีปากค่ะ
หากถามความคิดเห็นของผู้เขียน Charlotte Tilbury The Super Nudes Matte Revolution เป็นลิปสติกที่ต้องมีและควรค่าแก่การซื้อแน่นอนค่ะ จุดที่น่าประทับใจที่สุดคือลิปสติกมีเม็ดสีแน่นมาก ถึงแม้จะเป็นสีโทนนู้ดแต่สามารถใช้ได้กับทุกสีผิวเลย เนื้อลิปเป็นเนื้อแมตต์ไม่แห้งสนิทเหมือนลิควิดลิปสติก หากเปรียบเทียบกับ Maybelline Super Stay Matte Ink ลิปสติกของ Charlotte Tilbury ทาได้ง่ายกว่ามากค่ะ อีกทั้งยังเป็นลิปสติกที่ติดทนนานด้วยถึงแม้จะไม่ได้ติดทนนานเหมือนกับ Super Stay Matte แต่ลิปสติกยังอยู่ตลอดการดื่มและการทานอาหาร ส่วนที่หลุดออกไปของลิปสติกจะมีบริเวณตรงกลางของริมฝีปากเท่านั้นค่ะ ถือว่าคุณสมบัติดีและเหมาะสมกับราคาจริงๆ
ข้อดี
- มีส่วนผสมบำรุงริมฝีปากจากธรรมชาติหลากหลายชนิดป้องกันไม่ให้ริมฝีปากแห้ง
- ลิปเป็นแบบแท่งแต่แท่งของลิปสติกเป็นหัวเหลี่ยมทำให้ทาลิปสติกได้ง่ายกว่าเดิม
- ทาแล้วสบายริมฝีปาก ไม่รู้สึกแห้ง แตกหรือเหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงแต่คุณภาพก็เหมาะสมกับราคา
ปริมาณ | 3.5 กรัม |
---|---|
รูปแบบของลิปสติก | ลิปสติกแบบแท่ง |
เฉดสีที่มี | 8 เฉดสี |
ส่วนผสมบำรุงริมฝีปาก | สารสกัดจากกล้วยไม้และคำแสด (Lipstick tree) |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการเลือกซื้อลิปสติกเนื้อแมตต์
1. เลือกระหว่างลิปสติกเนื้อแมตต์แบบแท่งหรือแบบลิควิด
|
ลิปสติกเนื้อแมตต์แบบแท่งลิปสติกแบบแท่งเป็นลิปสติกแบบดั้งเดิมที่เราคุ้นเคยกันดีค่ะ ลิปสติกเนื้อแมตต์เหล่านี้ทาได้ง่ายแต่ไม่ติดทนนานนัก เราอาจต้องทาซ้ำ 2 – 3 ครั้งหรือตลอดทั้งวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่ม ลิปสติกแบบแท่งทาง่ายก็จริงค่ะแต่หากอยากได้รูปปากที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นให้ใช้ร่วมกับดินสอเขียนขอบปากค่ะ จุดที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ คือลิปสติกเนื้อแมตต์แบบแท่งจะไม่ทำให้ริมฝีปากของเราแห้งแต่ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อด้วยค่ะ แต่เรื่องความแห้งเราสามารถป้องกันได้ด้วยการเตรียมริมฝีปากไว้ก่อนด้วยลิปบาล์มค่ะ สิ่งที่ควรระวังคือให้ระวังเสื้อผ้าที่สวมใส่ด้วยเพราะลิปสติกแบบแท่งมักติดเสื้อผ้าได้ง่ายนั่นเองค่ะ |
|
ลิปสติกเนื้อแมตต์แบบน้ำหรือลิควิดลิปสติกลิควิดลิปสติกได้รับความนิยมมาก ๆ ค่ะ เพราะมันติดทนนานมาก ทาแค่ครั้งเดียวก็สามารถติดทนได้นานตั้งแต่เช้ายันเย็นค่ะ แต่ลิควิดลิปสติกจะทำให้ริมฝีปากแห้งได้ง่ายและต้องทาให้ดี ๆ เพื่อให้ได้รูปปากที่ต้องการค่ะ แต่สำหรับลิควิดลิปสติกบางยี่ห้อหรือบางสูตรก็อาจจะไม่ได้ติดทนนานมากนักและยังคงถ่ายโอนไปยังแก้วน้ำ แต่ลิควิดลิปสติกบางยี่ห้อก็มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำและยากที่จะลบออกค่ะ แต่เราก็สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการเลือกใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือคลีนเซอร์ประเภทบาล์มเพื่อให้ลบลิปสติกออกได้ง่ายขึ้น ในการทำความสะอาดให้แต้มคลีนเซอร์เล็กน้อยบนริมฝีปาก ปล่อยทิ้งไว้สักครู่แล้วเช็ดออกด้วยทิชชู่ค่ะ |
2. เลือกเฉดสีลิปสติกที่เข้ากับอันเดอร์โทนผิวของคุณ
อันเดอร์โทนเย็น
ส่วนใหญ่แล้วคนที่มีอันเดอร์โทนเย็นมักจะมีผิวที่ขาวอมชมพูแดงค่ะ แต่ให้สังเกตให้ง่าย ๆ คือคนที่มีอันเดอร์โทนเย็นจะมีเส้นเลือดที่ข้อมือเป็นสีน้ำเงินค่ะ หากคุณมีอันเดอร์โทนเย็นให้เลือกใช้ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่มีอันเดอร์โทนของสีเป็นสีน้ำเงินหรือสีม่วง ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการทาลิปสติกสีแดงให้เลือกใช้สีแดงอมน้ำเงินแทนสีแดงอมส้ม สำหรับลิปสติกสีนู้ดให้เลือกเฉดสีชมพูอมชมพูค่ะ
อันเดอร์โทนร้อน
หากคุณมีผิวเหลืองหรือผิวสีมะกอกเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณเป็นคนผิวอันเดอร์โทนร้อนค่ะ หากไม่แน่ใจให้สังเกตเส้นเลือดที่ข้อมือค่ะหากเส้นเลือกปรากฏเป็นสีเขียวก็หมายความว่าคุณมีอันเดอร์โทนร้อน เฉดสีลิปสติกที่ดีที่สุดสำหรับสีผิวอันเดอร์โทนร้อนคือสีลิปสติกในเฉดสีโทนร้อนหรือเฉดสี เช่น สีส้มเข้ม สีแดงเพลิงและสีน้ำตาลทองแดง เมื่อเลือกลิปสติกสีนู้ดให้เลือกสีนู้ดที่อ่อนหากผิวคุณไม่ได้เข้มมากและให้เลือกสีนู้ดเข้มหากคุณมีผิวที่เข้มค่ะ
อันเดอร์โทนกลาง
หากคุณสังเกตแล้วว่าคุณไม่ได้เป็นคนที่มีอันเดอร์โทนเย็นหรืออันเดอร์โทนร้อนก็มากความว่าคุณอาจเป็นคนที่มีสีผิวกลาง ๆ โดยมีทั้งสองอันเดอร์โทนผสมกัน สำหรับอันเดอร์โทนนี้สเปกตรัมของสีที่กว้างขึ้นจะช่วยเติมเต็มผิวของคุณค่ะ สำหรับผิวขาวให้ลองลิปสติกสีชมพูหรืออาจจะเลือกสีม่วงหรือโทนสีเบอร์รีก็ได้ค่ะ
3. เลือกสีลิปสติกตามโอกาส

- ลิปสติกสีแดง ลิปสติกสีแดงเป็นสีคลาสสิกค่ะ หลายคนชอบมาก ๆ เพราะเมื่อทาแล้วใบหน้าจะดูโดดเด่นขึ้นทันที คนดังหลายคนต่างบอกว่าลิปสติกสีแดงเป็นสีโปรดเพราะสามารถทากับลุคไหนก็ได้ ยิ่งในวันที่เรานึกสีลิปสติกไม่ออกแค่ทาปากสีแดงและปัดมาสคาร่าก็ได้แล้วค่ะ
- ลิปสติกสีชมพู ลิปสติกสีชมพูสามารถใช้ได้หลากหลายลุคเช่นเดียวกับสีแดง ลิปสติกสีชมพูเป็นสีที่โดดเด่นมากค่ะและมีหลายโทนสีให้เราได้เลือกซื้อ สีชมพูอ่อนจะเหมาะกับวันสบาย ๆ ส่วนลิปสติกสีชมพูเข้มเหมาะกับชุดหรืองานที่เป็นทางการเพราะจะให้ลุคที่ดูเป็นทางการมากขึ้น ลิปสติกสีชมพูเฉดสีต่างๆ เหมาะสำหรับทุกโอกาสเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้หรืองานเฉลิมฉลองก็เหมาะค่ะ แต่ควรระวังเมื่อใช้เฉดสีชมพูเข้มหรือชมพูนีออนนะคะเพราะเป็นสีที่ไม่เหมาะสำหรับการทาไปสัมภาษณ์หรือประชุมค่ะ
- ลิปสติกสีนู้ด ลิปสติกสีนู้ดเป็นลิปสติกที่ดูเรียบง่ายและดูมีระดับค่ะ เมื่อคุณเลือกสีปากให้เข้ากับเสื้อผ้าไม่ได้ ลองทาลิปสติกสีนู้ดเพราะมันเข้ากันได้ดีกับทุกชุดและทุกลุคกับการแต่งหน้าได้ค่ะ นอกจากนี้คุณสามารถใช้ลิปสติกสีนู้ดเพื่อทำให้ส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าโดดเด่นขึ้นได้ด้วยค่ะ
- ลองเฉดสีใหม่ ๆ หากคุณต้องการให้ริมฝีปากมีความโดดเด่นมากขึ้น แทนที่จะเลือกสีแบบเดิม ๆ เช่น ลิปสติกสีแดง ชมพูสดและนู้ด ให้ลองใช้สีที่แปลกใหม่ เช่น น้ำเงิน ม่วงและดำแทนค่ะ เฉดสีเหล่านี้ไม่เพียงเน้นริมฝีปากของคุณเท่านั้น แต่ยังทำให้การแต่งหน้าทั้งหมดของคุณดูดีขึ้นอีกด้วย นอกจากการใช้ลิปสติกสีแปลกใหม่แล้ว เราแนะนำให้ทาอายแชโดว์ในสีเดียวกันด้วยเพื่อสร้างความเป็นแฟชั่นค่ะ แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าเฉดสีเหล่านี้ไม่เหมาะสำหรับโอกาสส่วนใหญ่ โดยเฉพาะโอกาสที่เป็นทางการค่ะ แต่หากคุณไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อน ๆ และต้องการให้ทุกสายตาจับจ้องมาที่คุณลิปสติกเฉดสีเหล่านี้จะเหมาะกับคุณแน่นอน
เคล็ดลับในการป้องกันริมฝีปากแห้งเมื่อทาลิปสติกเนื้อแมตต์

แม้ว่าลิปสติกเนื้อแมตต์จะช่วยให้ริมฝีปากของเราดูสวยและมีระดับแต่ลิปสติกเนื้อแมตต์จะแห้งได้ง่ายมาก ส่งผลให้ริมฝีปากเป็นร่องและดูไม่สวยค่ะ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเพราะมีเคล็ดลับในการแก้ไขอยู่ค่ะ ขั้นตอนที่เราต้องทำคือ สครับริมฝีปากและทาลิปบาล์มเพื่อป้องกันริมฝีปากแห้ง
- ในการสครับริมฝีปากด้วยลิปสครับสามารถสครับริมฝีปากก่อนทาลิปสติกได้ค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้ริมฝีปากนุ่มและเรียบเนียนทำให้ง่ายต่อการทาลิปสติกเนื้อแมตต์
- ในขณะเดียวกันเมื่อต้องการให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากการใช้ลิปบาล์มก่อนทาลิปสติกเนื้อแมตต์จะช่วยได้เพราะจะทำให้เราทาลิปสติกเนื้อแมตต์ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ตกร่องค่ะ
ลิปสติกเนื้อแมตต์ทุกแบรนด์ติดทนเหมือนกันหมดไหม?
ลิปสติกเนื้อแมตต์เป็นลิปสติกที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ค่ะ โดยจะเหมาะที่สุดสำหรับคนที่ไม่มีเวลาในการเติมลิปสติกซ้ำ ๆ ปกติแล้วลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ติดทนนานอาจมีราคาสูงกว่าลิปสติกทั่วไป แต่เมื่อซื้อมาแล้วจะมีประโยชน์อย่างแน่นอนเพราะจะช่วยประหยัดเวลาในการทาลิปสติกและยังให้ความคุ้มค่าเพราะใช้งานได้นานด้วย แต่ทุกคนคะ“ลิปสติกเนื้อแมตต์แต่ละแบรนด์ไม่ได้ติดทนเหมือนกันทั้งหมด” นะคะ ปกติแล้วลิควิดลิปสติกแบบเนื้อแมตต์มักจะติดทนนานกว่าลิปสติกในรูปแบบอื่น ๆ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ติดทนนานตลอดทั้งวันแนะนำให้ซื้อลิควิดลิปสติกเนื้อแมตต์
แต่ถ้าหากคุณไม่ได้มีปัญหาริมฝีปากแห้งก็สามารถหาซื้อลิปสติกสูตรที่ไม่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ เช่น วิตามินอี เชียบัตเตอร์ น้ำมัน ฯลฯ ก็ได้ค่ะเพราะลิปสติกแบบนี้จะติดทนนานกว่าลิปสติกที่มีสารบำรุงริมฝีปาก