เมื่อพูดถึง ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth speaker) เชื่อว่าทุกคนคงรู้จัก และเคยใช้ผ่านมือกันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะกับคนที่เคยชื้อมือถือ Android มาใช้งาน เนื่องจากผู้ผลิตอุปกรณ์แอนดรอยด์ส่วนใหญ่ทั้ง Oppo, Vivo, Huawei, Xiaomi และอื่น ๆ มักจะแถมลำโพงบลูทูธ หรือหูฟังรุ่นที่พวกเขาผลิตเองมาให้ด้วย ซึ่งด้วยความที่มันมีการใช้งานที่สะดวกและง่ายดาย บวกกับการที่สามารถขับเสียงออกมาได้ดังกว่าลำโพงที่ติดมากับอุปกรณ์มาก แถมคุณภาพเสียงยังดีขึ้นอีกต่างหาก มันจึงส่งผลให้ ลำโพงบลูทูธ ได้รับความนิยมมาก ๆ ในปัจจุบันครับ ทำให้ไม่ว่าแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ ต่างส่งลำโพงบลูทูธของตัวเองออกมา
ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ ได้ไปส่องดูตลาดลำโพงบลูทูธกันมาบ้างแล้ว เพื่อน ๆ ก็จะเห็นเลยครับว่า ตลาดลำโพงทุกวันนี้มันมีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก ๆ ครับ ถึงขนาดว่า มีให้เพื่อน ๆ เลือกทุกระดับราคา ตั้งแต่ ราคาหลักร้อยต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่นบาทกันเลยทีเดียวครับ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลำโพงบลูทูธตัวเล็ก ๆ ที่มีราคาเบา ๆ มันจะมีให้เลือกเยอะเป็นพิเศษ จนหลายคนสงสัยว่าทำไมมันมีเยอะเหลือเกิน ? ดังนั้นถ้าใครที่กำลังมองหา ลำโพงบลูทูธ ตัวเล็ก ๆ ที่เสียงดี ราคาสบายกระเป๋า มีความทนทาน แถมพกพาง่าย วันนี้เราได้คัดเลือกมาให้แล้วครับ ซึ่งจะมีรุ่นอะไร ? ราคาเท่าไหร่บ้าง ? ตามไปดูกันเลย

แต่ก่อนที่เราจะไปเข้าสู่เนื้อหา เราขอบอกก่อนนะครับว่า ข้อมูลทั้งหมด เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเพียงเท่านั้น โดยเฉพาะ “คุณภาพเสียง” ซึ่งเราเองไม่สามารถตอบได้ว่า ลำโพงตัวไหน เสียงดี? เพราะมันขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคน
ดังนั้น หากเพื่อน ๆ สนใจรุ่นไหนเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปหาฟังเสียงดูก่อน เพื่อให้ได้ลำโพงที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก รุ่นไหนดี?
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่คุ้มค่า คุ้มราคา เสียงดี ขนาดเล็ก ดีไซน์สวย แถมทนทาน : JBL Go 3
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่เสียงดังที่สุด มีไมค์และเป็นพาวเวอร์แบงค์ในตัว : Tribit Stormbox Micro 2
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่ภาพรวมดูดี ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้น ๆ : Marshall Willen
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่ประสิทธิภาพสูง ให้เสียงดีไม่แพ้ลำโพงตัวใหญ่ ๆ : B&O Beoplay A1 (2nd Gen)
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่เหมาะจะพกพา มีคาราบิเนอร์ในตัว แข็งแรง ทนทาน : JBL Clip 4
- ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ราคาประหยัด : Mi Portable Bluetooth Speaker Mini
วิธีการเลือกลำโพงบลูทูธไร้สาย
1. คุณภาพเสียงที่คุณชื่นชอบ
|
ซึ่งแน่นอนครับ คุณภาพเสียง คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกลำโพง ซึ่งเราไม่สามารถบอกคุณได้ว่า รุ่นไหนเสียงดี หรือไม่ดี ! เพราะมันขึ้นอยู่กับโทนเสียงที่แต่ละคนชื่นชอบ
ลำโพงบางรุ่น อาจจะเน้นเสียงเบส เหมาะจะใช้ฟังเพลงมันส์ ๆ แต่บางรุ่นอาจจะเน้นเสียงกลางและเสียงแหลม เพื่อเน้นการเปิดเพลงคลอเบา ๆ ดังนั้นเพื่อให้ได้รุ่นที่ถูกใจคุณที่สุด คุณก็ต้องลองฟังด้วยตัวเองครับ แต่แน่นอนครับว่า การทดลองฟังคือปัญหาใหญ่ของการซื้อของออนไลน์ |
เพราะฉะนั้นหากใครอยู่ต่างจังหวัดไม่สามารถหาฟังเสียงได้ เรามีวิธีที่ง่ายที่สุดในการเลือกซื้อลำโพงมาแนะนำ นั่นก็คือการอ่านรีวิวจากผู้ที่ใช้งานจริง ๆ ครับ โดยยิ่งอ่านรีวิวเยอะเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้เพื่อน ๆ ก็สามารถเปรียบเทียบสเปกกับลำโพงตัวเก่าของเพื่อน ๆ ได้เช่นกัน โดยดูที่ดอกลำโพง กำลังขับ ช่วงความถี่ หรือแม้กระทั่งดูที่แบรนด์ของลำโพง เพราะในแต่ละแบรนด์จะจูนเสียงในสไตล์ของตัวเอง ทำให้ได้เสียงต่างกัน ซึ่งมันเลียนแบบกันยากครับ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า เหตุใดลำโพงบางรุ่นที่มีสเปกต่ำกว่า แต่กลับมีราคาแพงกว่า
2. ความสะดวกในการพกพา
แน่นอนทุกคนที่ต้องการลำโพงตัวเล็ก ๆ มีจุดประสงค์เดียวกันคือ การพกพา จริงอยู่ครับว่า ลำโพงตัวใหญ่สามารถให้เสียงที่ดีกว่าได้ เพราะดอกลำโพงที่ใหญ่กว่า แต่นั่นก็หมายถึง ขนาดและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน บางรุ่นก็อาจจะหนักถึง 2-3 กก. เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อน ๆ ต้องการพกพาเป็นหลักเช่น ไปแคมป์ปิ้ง, ไปตกปลา หรือไปนั่งฟังเพลงชิว ๆ ดอกลำโพงที่มีขนาดใหญ่ที่ขับเสียงดังมาก ๆ อาจจะไม่จำเป็น การเลือกลำโพงตัวเล็ก ๆ มันจะช่วยเพื่อน ๆ หยิบใส่กระเป๋า เพื่อพกพาไปที่ไหนก็ได้ โดยที่ไม่รู้สึกว่ามันเป็นภาระ
3. อายุการใช้งาน และระยะเวลาการชาร์จ
|
สิ่งสำคัญอีกอย่างของ ลำโพงบลูทูธ ก็คือ อายุการใช้งาน ครับ โดยเพื่อน ๆ จะต้องดูว่า ความจุแบตเตอรี่ของลำโพงมีมากน้อยแค่ไหน ? เพราะถ้าหากมันน้อยเกินไป ก็เราจะต้องชาร์จแบตฯ บ่อย ๆ ซึ่งมันคงน่ารำคาญมาก ๆ
โดยเฉพาะเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบฟังเพลงเสียงดัง ๆ ตัวลำโพงก็จะใช้แบตฯ มากขึ้นอีก ฉะนั้นแนะนำให้เพื่อน ๆ วิเคราะห์ความต้องการของตัวเองก่อนว่าต้องการใช้งานมากน้อยแค่ไหน ? จากนั้นค่อยมาเลือกรุ่นที่เหมาะสม และอีกอย่างนึงที่เพื่อน ๆ ต้องดู ก็คือ พอร์ตชาร์จ ครับ ซึ่งรุ่นเก่า ๆ บางรุ่นยังคงใช้พอร์ต Micro USB อยู่ แต่รุ่นใหม่จะหันมาใช้ USB-C กันหมดแล้ว เช่น JBL Clip 4, Marshall Willen, B&O Beoplay A1 เป็นต้น ดังนั้นถ้าไม่อยากใช้สายชาร์จหลาย ๆ แบบ แนะนำให้เลือก USB C จะครอบคลุมกว่าครับ |
ดังนั้นเราจึงแนะนำให้คุณดูรายละเอียดตรงแบตเตอรี่ให้ดี ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วบลูทูธจะสามารถเล่นเพลงได้นานประมาณ 4 – 10 ชม. หรือรุ่นที่ไหนที่แบตสามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าได้เยอะ คุณอาจใช้งานได้ตลอด 24 ชม. โดยไม่ต้องชาร์จเลย ดังนั้นก่อนซื้ออย่าลืมที่จะสังเกตส่วนนี้ให้อย่างถี่ถ้วนนะครับ
4. การเชื่อมต่อ (เวอร์ชั่นของ Bluetooth)
หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า Bluetooth ในแต่ละเวอร์ชั่นนั้น มีผลต่อคุณภาพเสียงด้วย เนื่องจากความเสถียรในการส่งสัญญาณมันต่างกัน โดยถ้าลำโพงของเพื่อน ๆ ใช้งาน Bluetooth เวอร์ชั่นเก่า ๆ อย่าง Bluetooth 4.0 ตัวลำโพงจะให้คุณภาพเสียงที่ต่ำลงเล็กน้อยครับ ซึ่งถึงแม้หูของคนธรรมดาอย่างเรา ๆ อาจจะฟังไม่ออกก็จริง แต่ด้วยราคาที่ไม่ได้ห่างกันเท่าไหร่เลย แล้วทำไมเราจะต้องเอา Bluetooth เวอร์ชั่นเก่าด้วยล่ะครับ ในเมื่อเวอร์ชันใหม่มันดีกว่า โดยในปัจจุบันมันถูกพัฒนามาถึง Bluetooth 5.3 แล้ว อย่างที่ลำโพงรุ่น Stormbox Micro 2 ใส่มาให้ สรุปง่าย ๆ ว่า ยิ่งเลือก Bluetooth ใหม่เท่าไหร่ มันก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้นครับ
นอกจากการเชื่อมต่อ Bluetooth แล้ว เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ดูพอร์ตการเชื่อมต่อ สำหรับใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์แบบใช้สายไว้ด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วระบบการต่อแบบใช้สายมักจะให้พอร์ต Aux-in มา เพราะนอกจากจะมีคุณภาพเสียงที่ดีแล้ว มันยังช่วยคุณเซฟพลังงานแบตเตอรี่ได้ในระดับหนึ่งด้วยครับ และอีกพอร์ตที่ถ้ามีก็ดี แต่ถ้าไม่มีก็ได้นั่นก็คือ พอร์ต USB-A สำหรับเอาไว้เสียบ USB Flash Drive นั่นเองครับ
5. ความสามารถในการกันน้ำ
|
ถ้าจุดประสงค์ของเพื่อน ๆ คือ การพกพา แน่นอนครับว่า คุณสมบัติสำคัญที่ลำโพงรุ่นที่คุณเลือกจะต้องมีนั่นก็คือ ความทนทาน ครับ
เพราะการที่เพื่อน ๆ นำลำโพงบลูทูธติดตัวออกไปข้างนอกด้วย มันมีโอกาสตก ถูกกระแทก ตกน้ำ หรือเปียกฝนได้ง่ายกว่าการตั้งไว้ที่บ้านอยู่แล้ว ดังนั้นอย่างน้อย ๆ มันต้องมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นด้วย ยิ่งระดับ IP67 หรือ IPX7 ยิ่งดีครับ |
JBL Go 3 | Portable Waterproof Speaker ลำโพงบลูทูธจิ๋ว เสียงใส แถมพกพาง่าย

ราคา 1,611 บาท*
ทําไมเราถึงเลือก JBL Go 3 : เนื่องจากรุ่นนี้มีปัจจัยที่จำเป็นสำหรับลำโพงพกพาอยู่ครบครันเลย แต่มาในราคาสุดคุ้มค่า มีทั้ง ตัวบอดี้ที่ทนทาน กันน้ำระดับ IPX7 ช่วยให้เพื่อน ๆ พกพาได้อย่างมั่นใจ ส่วนคุณภาพเสียงรุ่นนี้ก็ขับออกมาดีเกินคาด ซึ่งโทนเสียงจะเน้นความสนุก ทุกย่านเสียงอยู่ระดับกลาง ๆ และเสียงเบสก็ขับออกมากำลังดีครับ ช่วยให้ดูหนัง ฟังเพลงได้ทุกแนวเลย

เรามาเริ่มกันที่ลำโพงจิ๋ว จากแบรนด์ชั้นนำอย่าง JBL กันครับ ซึ่งเชื่อว่าทุก ๆ คนน่าจะรู้จักแบรนด์นี้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะเด่นในด้านเสียง ที่ให้มาดีเกินราคาเหลือเกิน แต่กลับมาในราคาที่ย่อมเยา โดยรุ่นที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ ก็คือ JBL Go 3 ลำโพงบลูทูธขนาดเล็กที่สุดของ JBL ที่ออกแบบมาเพื่อการพกพาโดยเฉพาะ โดยขนาดของรุ่นนี้จะเล็กกว่าฝ่ามืออีกครับ ทำให้มันมีน้ำหนักเพียง 209 กรัม เท่านั้น และด้านข้างก็มีการใส่บ่วงมาให้ สำหรับนำไปเกี่ยวไว้กับกระเป๋าเป้ หรืออะไรก็ได้
โดยตัวบอดี้จะมาพร้อมกับสีสันสดใสครับ ซึ่งก็จะมีให้เลือกหลายสีเลย บวกกับดีไซน์ที่ดูน่ารัก ๆ ทำให้มันดูเข้ากับเทรนด์แฟชั่นต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ในด้านการเชื่อมต่อก็ง่าย ๆ ครับ รุ่นนี้จะใช้ Bluetooth 5.1 ช่วยให้สัญญาณที่เสถียร และเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว ส่วนอายุการใช้งาน ด้วยขนาดที่ค่อนข้างเล็กของรุ่นนี้ ทำให้แบตฯ มีขนาดเล็กตามไปด้วย ส่งผลให้ใช้งานได้ประมาณ 5 ชม./การชาร์จ 1 ครั้ง ครับ ซึ่งก็อาจจะไม่ได้สูงมากนะครับ แต่จะมีข้อดีคือ น้ำหนักเบา และใช้เวลาชาร์จจนเต็มผ่านพอร์ต Micro USB ประมาณ 2 ชม. เท่านั้นครับ
คุณภาพเสียงในความเห็นของเรา : เสียงของ JBL GO 3 ถือว่ามีคุณภาพเสียงที่ดีเลย ซึ่งเสียงของรุ่นนี้จะถูกจูนมาให้ฟังสนุก กว่าความแม่นยำ ทำให้ต่อให้เปิดดังแค่ไหน มันยังคงขับเสียงที่มีรายละเอียดชิ้นดนตรี ที่คมชัด และครบอยู่ โดยรุ่นนี้จะเด่นที่เสียงร้อง ซึ่งให้เสียงกลางที่ชัดเจน เคลียร์ใส ส่วนเสียงแหลม จะพุ่ง และสว่าง แต่ไม่ถึงกับแสบหูนะครับ ส่วนเสียงเบส ก็จะออกกระชับเป็นลูกเล็ก ๆ ทำให้ฟังได้หลายแนวเลย โดยความดังสูงสุดของรุ่นนี้ หรือค่า SPL เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 79 dB ครับ แต่อาจจะมากกว่านี้ก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ทดสอบ
อ่านรีวิวแบบเต็ม ๆ ได้ที่ : [รีวิว] JBL Go 3 ลำโพงกันน้ำ แบบพกพา ที่ให้เสียงดี เกินขนาดตัว
ข้อดี
- โทนเสียงจะให้ความรู้สึกที่สนุกเป็นหลัก
- ดีไซน์มาพร้อมตะขอเกี่ยวในตัว
- วัสดุบอดี้ที่ทนทาน และมียางป้องกันการกันลื่น
- บอดี้มีการป้องกันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IPX7
- ตัวลำโพงมีให้เลือกหลายสี แต่ละสีก็มีสีสันที่สดใส
ข้อควรพิจารณา
- ไม่ตอบสนองเสียงในย่านความถี่ต่ำ ๆ
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ AUX 3.5 mm.
- ไม่รองรับพอร์ต USB type-A และอื่น ๆ
- ไม่มีไมโครโฟนในตัว
- พอร์ตชาร์จเป็น Micro USB
- เปิดเสียงประมาณ 80% แบบต่อเนื่อง จะใช้งานได้ประมาณ 4 ชม. (จากการทดสอบ)
กําลังขับ | 4.2W |
---|---|
ช่วงความถี่ | 110 Hz - 20 kHz |
ความดังสูงสุด | 79 dB SPL (ไม่เป็นทางการ) |
การป้องกันน้ำ | IPX7 |
Bluetooth | Bluetooth 5.1 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | Micro USB |
อายุการใช้งาน | สูงสุด 5 ชม. |
ระยะเวลาชาร์จ | 2.5 ชม. |
ขนาด | 8.75 x 7.5 x 4.13 ซม. |
น้ำหนัก | 209 ก. |
Tribit Stormbox Micro 2 | Portable Speaker ลำโพงบลูทูธจิ๋ว ที่ชาร์จแบตฯ ให้อุปกรณ์อื่น ๆ ได้

ราคา 1,990 บาท*
ทําไมเราถึงเลือก Tribit Stormbox Micro 2 : หากเพื่อน ๆ ลองเทียบสเปกของรุ่นนี้กับรุ่นราคาเท่า ๆ กัน หรือรุ่นที่แพงกว่าบางรุ่น จะเห็นเลยว่า Stormbox Micro 2 ให้สเปกมาคุ้มค่าเป็นอันตับต้น ๆ เลย และยิ่งหากเทียบกับลำโพงที่ขนาด และราคาพอ ๆ กันอย่าง JBL Go 3 รุ่นนี้จะให้สเปกมาดีกว่าหลายด้านเลย ไม่ว่าจะเป็น พลังเสียง การเชื่อมต่อ และอายุการใช้งาน แถมรุ่นนี้ยังเป็นพาวเวอร์แบงค์ไปในตัวได้ด้วยครับ ด้วยเหตุนี้ Stormbox Micro 2 จึงได้ชื่อว่า ลำโพงพกพาที่คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด ครับ
ลำโพงบลูทูธจิ๋วที่ได้ชื่อว่า คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด กับ Tribit StormBox Micro 2 ลำโพงบลูทูธรุ่นยอดนิยม ที่ได้ใส่สเปก และเทคโนโลยีมาแบบจัดเต็ม โดยตัวลำโพงมาในดีไซน์แบบเรียบ ๆ ทรงสี่เหลี่ยมที่มีความโค้งมนทั้ง 4 ด้าน ช่วยให้ถือได้ถนัด และกระชับขึ้น ส่วนขนาดก็เล็กกว่าฝ่ามืออีกครับ ซึ่งหากเทียบกับ JBL Go 3 รุ่นนี้จะใหญ่กว่านิดหน่อย และจะหนักกว่า เพราะใช้ดอกลำโพงที่ใหญ่กว่า โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ 315 กรัม ครับ ส่วนวัสดุและความทนทานก็พอ ๆ กันครับ กันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP67 ครับ ซึ่งสามารถจะโดนน้ำได้ ไม่ต้องกังวลอะไรเลย
รุ่นนี้มาพร้อม Bluetooth 5.3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดเลย ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำได้ง่าย มอบระยะเชื่อมต่อที่ไกลขึ้น แถมสัญญาณก็เสถียรกว่าเวอร์ชั่นก่อน ๆ ด้วย ช่วยให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นในทุก ๆ ด้านครับ ส่วนแบตฯ ให้ความจุมา 4,700 mAh โดยทาง Tribit ได้เคลมอายุการใช้งานไว้สูงถึง 12 ชม. เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าจะใช้งานทั้งวัน มันทำได้สบายครับ นอกจากนี้ยังใช้พอร์ตชาร์จเทคโนโลยี SmartID ซึ่งเป็นพอร์ต USB C ที่เป็นได้ทั้ง ตัวรับ และจ่ายไฟ ทำให้เพื่อน ๆ สามารถใช้พอร์ตนี้ ในการเสียบชาร์จมือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้

สำหรับเสียง ถ้าเทียบกับรุ่นแรก รุ่นนี้ได้มีการปรับปรุงจนดีขึ้นกว่าเดิมมากครับ โดยตอบสนองช่วงความถี่ที่ 70Hz-20kHz และมีกำลังขับสูงถึง 10W มอบเสียงที่ทรงพลังเกินตัว เสริมด้วยเทคโนโลยี XBass ที่เข้ามาเพิ่ม ความลึก และความชัดของเสียงเบส ช่วยให้รู้สึกถึงความอิ่ม และแน่นกำลังดี ขับออกมาเป็นลูกเล็ก ๆ ไม่มากจนเกินไป ด้านเสียงกลางจะมีความชัดเจน เนื้อเสียงเคลียร์ใส ฟังสบาย เสียงแหลมจะพุ่งได้ไกล แต่จะตัดจบไว มีความชัดเจน ช่วยให้ฟังกระชับ และเวทีเสียงจะอยู่ในระดับกลาง ๆ ครับ โดยในภาพรวมโทนเสียงของรุ่นนี้จัดอยู่กลาง ๆ มีความอุ่นหนา ช่วยให้สามารถตอบสนองเพลงได้ทุกแนว
ข้อดี
- โทนเสียงที่น่าประทับใจ ทุกย่านเสียงออกกำลังดี จัดวางอย่างลงตัว
- XBass ช่วยให้เสียงเบสมีความนุ่มลึกกว่าลำโพงที่มีขนาดเท่า ๆ กัน
- บอดี้ใช้วัสดุที่ทนทาน ดีไซน์มาพร้อมสายรัดในตัว
- ตัวบอดี้มีการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IPX7
- มีไมโครโฟนในตัว สามารถพูดคุยโทรศัพท์ผ่านลำโพงได้โดยตรง
- มีแอปพลิเคชัน Tribit ในการปรับค่าต่าง ๆ รวมถึงปรับ EQ
- Bluetooth 5.3 ใหม่ มอบคุณภาพที่ดีขึ้น และมีช่วงเชื่อมต่อไกลขึ้นถึง 120 ฟุต
- รองรับ TWS การจับคู่รุ่นเดียวกัน เข้าด้วยกันได้ เพื่อระบบเสียงแบบสเตอริโอ
- สามารถใช้ชาร์จแบตฯ มือถือ และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้
- อายุการใช้งาน 12 ชม. (ตามสเปก)
ข้อควรพิจารณา
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ AUX 3.5 mm.
- ไม่รองรับพอร์ต USB type-A และอื่น ๆ
- ใช้เวลาชาร์จ 3-4 ชม.
กําลังขับ | 10W |
---|---|
ช่วงความถี่ | 70 Hz - 20 kHz |
ความดังสูงสุด | 90 dB SPL (ที่ระยะ 1 ม.) |
การป้องกันน้ำ | IPX7 |
Bluetooth | Bluetooth 5.3 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | mAh |
อายุการใช้งาน | 9 - 12 ชม. (ความดัง 40-50%) |
ระยะเวลาชาร์จ | 3.5 ชม. |
ขนาด | 9.98 x 9.98 x 4.29 ซม. |
น้ำหนัก | 315 ก. |
Marshall Willen Black and Brass | ลำโพงบลูทูธแบบพกพา ยอดนิยม

ราคา 3,990 บาท*
ทําไมเราถึงเลือก Marshall Willen : หากพูดถึงลำโพง และหูฟัง ที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึง Marshall Headphones อย่างแน่นอน เพราะนี่คือแบรนด์ที่โดดเด่นในด้านคุณภาพ การออกแบบที่มีสไตล์ และเสียงอันทรงพลังที่เป็นเอกลักษณ์ โดย Marshall Willen เป็นลำโพงไร้สายแบบพกพารุ่นใหม่ ที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เนื่องจากดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ความทนทาน และที่สำคัญคือ คุณภาพเสียงที่ไม่มีใครเหมือน
เรามาต่อกันที่ Marshall Willen ลำโพงบลูทูธรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้น ๆ ณ ตอนนี้ ส่วนนึงก็เพราะชื่อชั้นที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ แต่อีกส่วนนึงได้จากคุณภาพที่ดี วัสดุทนทาน และสิ่งสำคัญคือ เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ โดยรุ่นนี้ถูกดีไซน์มาโดดเด่นเหมือนพี่ ๆ ในค่ายเลยครับ บอดี้มาในทรงสี่เหลี่ยม ขนาดเท่า ๆ กับ Stormbox Micro 2 เลย แต่ดีไซน์ของรุ่นนี้ จะมีความคลาสสิกชัดเจนกว่า โดยด้านหน้าใช้เป็นตะแกรง ตัดกับปุ่มทองเหลือง Control Knob และโลโก้ตรงกลาง ด้านหลังมีสายรัด สามารถปลดออกมาแขวนตามที่ต่าง ๆ ได้ ด้านบนจะมีปุ่มควบคุม และไฟแสดงสถานะแบตฯ ซึ่งดูง่ายมาก ๆ นอกจากนี้ยังกันน้ำและฝุ่นที่ IP67 ด้วย ช่วยให้พกได้อย่างมั่นใจ ลุยได้ทุก ๆ ที่ ทุก ๆ สภาพอากาศครับ

โดยรุ่นนี้จะเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.1 ที่เสถียร และรวดเร็ว เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ภายในไม่กี่วินาที โดยจะมีระยะเชื่อมต่อสูงสุด 10 เมตร ในขณะเดียวกันก็มีการรองรับการเชื่อมต่อแบบ Stack Mode ด้วย ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถนำลำโพงหลาย ๆ ตัวมาเชื่อมต่อกันได้ นอกจากนี้ยังมีไมค์มีคุณภาพดีที่รับเสียงพูดได้คมชัดมาในตัวด้วย ช่วยให้คุยโทรศัพท์ ผ่านลำโพงได้โดยตรง และยังมีแอปฯ Marshall ที่ให้เพื่อน ๆ ปรับค่า และปรับ EQ ได้ 3 แบบ คือ Marshall, Push และ Voice ซึ่งทั้งหมดนี้บวกกับอายุการใช้งานที่นานถึง 15 ชม./การชาร์จ 1 ครั้ง แถมชาร์จแค่ 20 นาที แต่เล่นได้ถึง 3 ชม. มันถือว่าคุ้มค่าจริง ๆ ครับ

ถึงแม้ว่า รุ่นนี้จะมีขนาดเล็ก และมีกำลังขับ 10W แต่ขอบอกเลยว่า มันยังคง ขับเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งให้เสียงดังเกินตัว และครบทุกย่านเสียง โดยขับเสียงด้วยดอกลำโพง 2 นิ้ว 1 ตัว และยังมีเรดิเอเตอร์แบบพาสซีพ มาอีก 2 ตัว ช่วยให้เสียงเบสที่แน่นขึ้น แต่มวลไม่ได้หนานะครับ ขับออกเป็นลูกเล็ก ๆ ส่วนเสียงกลาง ถือว่า เด่นของรุ่นนี้ ซึ่งจะเน้นความเคลียร์ มอบเสียงร้องที่ชัดถ้อยชัดคำ มีการแยกตำแหน่งและให้รายละเอียดของเสียงต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน เสียงแหลม จะพุ่งได้ไกลระดับนึงครับ จัดอยู่กลาง ๆ ไม่มาก ไม่น้อย จนเกินไป และเวทีเสียงของรุ่นนี้ก็ไม่กว้างเท่าไหร่ครับ โดยเสียงร้องจะอยู่หน้าสุด และจัดวางเสียงของดนตรีแต่ละชิ้นไว้รอบ ๆ ซึ่งถือว่าจัดวางได้ดีเลยครับ
ข้อดี
- ให้เสียงที่มีคุณภาพน่าประทับใจ โทนกลาง ๆ เหมาะกับทั้ง การดูหนัง และฟังเพลงได้ทุกแนว
- บอดี้ใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน แถมดีไซน์แบบคลาสสิกพรีเมียม พร้อมสายรัด สำหรับคล้องกับสิ่งต่าง ๆ
- ตัวบอดี้มีการป้องกันน้ำ และฝุ่น ที่มาตรฐาน IP67
- มีไมโครโฟนในตัว ช่วยให้สามารถพูดคุยด้วยเสียงที่คมชัด ผ่านลำโพงได้โดยตรง
- มีแอปพลิเคชัน Marshall ในการปรับค่าต่าง ๆ
- ปรับ EQ บนแอปฯ ได้ 3 แบบ คือ Marshall : เสียงมาตรฐาน (ดูหนัง ฟังเพลงทั่วไป), Push : เพิ่มเบส/แหลม (เน้นความมันส์) และ Voice : เน้นเสียงกลาง (เน้นเสียงพูด
- รองรับ Stack Mode หรือการจับคู่รุ่นเดียวกัน เข้าด้วยกันได้หลาย ๆ ตัว เพื่อขับเสียงสเตอริโอ
- มีการจัดสรรพลังงานที่ดี ช่วยให้อายุการใช้งาน 15+ ชม. (ตามสเปก)
- มีการชาร์จที่รวดเร็วมาก ๆ เพียงชาร์จแค่ 20 นาที แต่ตัวลำโพงจะสามารถเล่นได้นาน 3 ชม.
ข้อควรพิจารณา
- หากใครชอบเบส รุ่นนี้อาจไม่เหมาะ
- Stack Mode เป็นเพียงการเพิ่มความดัง ไม่ได้เป็นเสียงสเตอริโอ
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ AUX 3.5 mm.
- ไม่รองรับพอร์ต USB type-A และอื่น ๆ
- มีราคาค่อนข้างสูง
กําลังขับ | 10W RMS |
---|---|
ช่วงความถี่ | 100 Hz - 20 kHz |
ความดังสูงสุด | 82 dB SPL (ที่ระยะ 1 ม.) |
การป้องกันน้ำ | IP67 |
Bluetooth | Bluetooth 5.1 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB Type C |
อายุการใช้งาน | สูงสุด 15+ ชม. |
ระยะเวลาชาร์จ | 3 ชม. (20 นาที เล่นได้ 3 ชม.) |
ขนาด | 10.1 x 10.0 x 4.04 ซม. |
น้ำหนัก | 310 ก. |
B&O Beoplay A1 (2nd Gen) | Portable Wireless Speaker ลำโพงไร้สาย แบบพกพา ระดับพรีเมียม

ราคา 11,900 บาท*
ทําไมเราถึงเลือก B&O Beoplay A1 (2nd Gen) : เพราะนี่คือ ลำโพงบลูทูธ แบบพกพา ที่มีประสิทธิภาพโดยรวมดีที่สุด ซึ่งแน่นอนครับว่า ถ้าเราต้องการลำโพงที่มีประสิทธิภาพสูงในทุก ๆ ด้านทั้ง ดีไซน์แบบพรีเมียม ความทนทาน คุณภาพเสียงที่ดี และแบตฯที่อึด เราก็จะต้องยอมจ่ายในราคาที่แพงขึ้นครับ เนื่องจากลำโพงรุ่นที่มีราคาประหยัด ๆ ไม่สามารถให้สิ่งเหล่านี้กับเราได้
มาต่อกันที่ลำโพงพกพาจาก Bang & Olufsen แบรนด์ระดับไฮเอนด์ กับรุ่น B&O Beoplay A1 (รุ่นที่ 2) ลำโพงบลูทูธแบบพกพาที่ให้เสียงคุณภาพสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของลำโพงที่มีขนาดเล็ก โดยต้องบอกเลยว่า หน้าตารุ่นนี้ถูกออกแบบมาพรีเมียมดูไฮเอนด์สุด ๆ ครับ โดยเน้นความเพรียวบาง และดูเรียบหรู บอดี้มีทรงกลม ทำจากอะลูมิเนียมที่ทนทาน และมีสายหนังสำหรับแขวนกับตะขอต่าง ๆ และรองรับมาตรฐาน IP67 ส่งผลให้มันพร้อมลุยไปกับคุณได้ทุกที่ตั้งแต่ริมสระน้ำ หรือห้องน้ำในบ้านคุณ

โดยรุ่นนี้จะรองรับ Bluetooth 5.1 ที่ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็ว พร้อมสัญญาณที่เสถียร เชื่อมต่อราบรื่นจนแทบไม่มีอาการกระตุกให้เห็น พร้อมกับรองรับการเชื่อมต่อแบบ TWS หรือการจับคู่รุ่นเดียวกันเข้าด้วยกันได้ เพื่อขับเสียงแบบสเตอริโอ นอกจากนี้ก็มีไมโครโฟนมาให้ด้วย ช่วยให้ใช้พูดคุยโทรศัพท์ผ่านลำโพงได้ ด้วยเสียงที่คมชัด และยังสามารถพูดคำสั่งเสียงเพื่อสั่งงานไปที่ Alexa Voice Assistant ผ่านแอปฯ Bang & Olufsen ได้ด้วย และจุดเด่นอีกอย่างคือ อายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งฟังเพลงได้นานถึง 18 ชม.เลยทีเดียว นับว่านานเป็นอันดับต้น ๆ อีกเช่นกันครับ และจะชาร์จผ่าน USB-C ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 3 ชม. ก็เต็มแล้ว
หากใครต้องการฟังเพลงด้วยคุณภาพเสียงสูง ๆ รุ่นนี้เหมาะมากครับ เพราะรองรับ Codec ไร้สายคุณภาพสูง อย่าง aptX พร้อมกับการขับเสียง 360 องศา ช่วยขับเสียงให้ดังกระหึ่มใกล้เคียงลำโพงตัวใหญ่ โดยโทนเสียงของรุ่นมีการจูนมาดีมาก ๆ ครับ ให้เสียงร้องที่ชัด เคลียร์ใส เนื้อเสียงมีการแยกตัวออกมา ไม่ทับกับเสียงดนตรีต่าง ๆ เลย ส่วนเสียงสูงก็จะเด่นขึ้นมาหน่อยนึง เนื้อเสียงทอดไกล แบบไม่แตก ส่วนเสียงเบสจะถูกขับออกมากลาง ๆ แน่นกำลังดี แถมปลายไม่มีฟุ้ง และสำหรับเวทีเสียงของรุ่นนี้จะอยู่ในระดับกลาง ๆ ครับ โดยจะมีการจัดวางเสียงของชิ้นดนตรีอย่างลงตัวมาก ๆ ซึ่งไม่ซ้อนกันเลย ช่วยมอบเสียงที่มีมิติมากขึ้น ใครที่ต้องการเสียงคุณภาพสูง หรือชอบเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ B&O รุ่นนี้เลยครับ ฟังได้ทุกแนว ไม่ผิดหวังแน่นอน
ข้อดี
- ให้เสียงคุณภาพสูง สมราคา โดยมีการปรับจูนมาให้เหมาะกับการดูหนัง และฟังเพลงทุกแนว
- บอดี้ใช้วัสดุที่ทนทาน ดีไซน์แบบพรีเมียม พร้อมสายหนัง สำหรับคล้องกับสิ่งต่าง ๆ
- ตัวบอดี้มีการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IPX7
- มีไมโครโฟนในตัว 3 ตัว สามารถพูดคุยด้วยเสียงที่คมชัด มีคุณภาพ
- มีแอปพลิเคชัน Bang & Olufsen ในการปรับค่าต่าง ๆ และสั่งคำสั่งเสียง
- รองรับ TWS การจับคู่รุ่นเดียวกัน เข้าด้วยกันได้ เพื่อระบบเสียงแบบสเตอริโอ
- มีการจัดสรรพลังงานที่ดี ช่วยให้อายุการใช้งาน 18 ชม. (ตามสเปก)
- มีการชาร์จที่รวดเร็วมาก ๆ เมื่อเทียบกับอายุการใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดใหญ่กว่าฝามือ และมีน้ำหนักกว่าครึ่งกิโลกรัม อาจจะพกลำบากในบางสถานการณ์
- ปุ่มควบคุมต่าง ๆ เป้นระบบสัมผัส ซึ่งอาจจะกดยาก ต้องหันไปมองทุกครั้งที่จะกด
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ AUX 3.5 mm.
- ไม่รองรับพอร์ต USB type-A และอื่น ๆ
- มีราคาสูงมาก
กําลังขับ | 2 x 30W RMS |
---|---|
ช่วงความถี่ | 55 Hz - 20 kHz |
ความดังสูงสุด | 92 dB SPL (ที่ระยะ 1 ม.) |
การป้องกันน้ำ | IPX7 |
Bluetooth | Bluetooth 5.1 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB Type C |
อายุการใช้งาน | สูงสุด 18 ชม. |
ระยะเวลาชาร์จ | 2.75 ชม. |
ขนาด | 13.3 x 13.3 x 4.6 ซม. |
น้ำหนัก | 558 ก. |
JBL Clip 4 | Ultra-portable Waterproof Speaker ลำโพงบลูทูธ ดีไซน์มีคาราบิเนอร์ในตัว

ราคา 2,511 บาท*
ทําไมเราถึงเลือก JBL Clip 4 : มีดีไซน์ที่เหมาะกับการพกพามาก แถมคุณภาพเสียงก็ดีอีกด้วย ตอบโจทย์ทั้ง การเปิดเพลงคลอเบา ๆ และการปาร์ตี้ที่เน้นเสียงดัง ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ รู้สึกชื่นชอบสีสัน และดีไซน์ ของ JBL Go 3 แต่อยากได้สเปกและเสียงที่ดีกว่า ขอแนะนำ JBL Clip 4 เลยครับ ซึ่งถ้าเทียบกันรุ่นนี้จะโดดเด่นกว่าในทุกด้านเลย แถมยังออกแบบคาราบิเนอร์มาเป็นส่วนหนึ่งในตัวด้วย ทำให้นำไปแขวนได้กับทุกอย่างครับ
JBL Clip 4 เป็นลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ที่ถูกออกแบบมาดีมาก ๆ ครับ มีดีไซน์ที่ลงตัว พร้อมกับสีสันสดใส ทำให้มันดูโดดเด่นมีชีวิตชีวามากขึ้น โดยตัวบอดี้มาในรูปทรงวงรี ขนาดเล็กเหมาะมือ คล้ายแม่กุญแจ โดยความพิเศษอยู่ที่ คาราบิเนอร์ขนาดใหญ่ที่ด้านบน ทำให้เพื่อน ๆ ใช้แขวนไว้กับอะไรก็ได้ โดยที่ไม่ต้องเป็นกังวนอะไรเลย เพราะรุ่นนี่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ หุ้มด้วยผ้าที่ให้ทั้ง ความคงทน รวมถึงมีหน้าตา และสัมผัสที่ดี พร้อมการกันน้ำที่ระดับ IPX7 ช่วยให้รุ่นนี้สามารถโดนน้ำได้สบาย ๆ ครับ หรือหากทำตกน้ำก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะพังเลย
ส่วนการเชื่อมต่อ รุ่นนี้ใช้ Bluetooth 5.1 ที่ให้สัญญาณค่อนข้างนิ่ง และเสถียร พร้อมกับการจับคู่ที่รวดเร็ว ช่วยมอบเสียงที่ดี และฃชัดเจนมากฃขึ้น โดยในด้านเสียงของเจ้า JBL Clip 4 จะต้องบอกเลยว่า มีชั้นเสียงที่ชัดเคลียร์มาก ๆ ครับ ซึ่งหากเปิดความดังกลาง ๆ รุ่นนี้จะขับเสียงที่มีคุณภาพ มีความคมชัด เคลียร์ใส แต่ถ้าเพื่อน ๆ เปิดเสียงดังประมาณ 90-100% คุณภาพเสียงอาจจะลดลงเล็กน้อยครับ แต่โทนเสียงจะเน้นความสนุกมากขึ้น ซึ่งถ้าฟังเพลงจังหวะมันส์ ๆ เราจะแทบไม่รู้สึกต่างเลย
ข้อดี
- มีเสียงที่ดี ชัดเคลียร์ ฟังราบรื่น (เสียงดีขึ้นกว่า JBL Go 3 รุ่นที่ถูกกว่า)
- ดีไซน์ยอดเยี่ยม มีคาราบิเนอร์ออกแบบมาในตัวเลย ช่วยให้พกพาง่ายขึ้น
- บอดี้ใช้วัสดุทนทาน พร้อมมียางกันลื่นในบางจุดให้ด้วย
- มีการป้องกันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IPX7
- ตัวบอดี้มีให้เลือกหลายสี แต่ละสีก็มีสีสันที่สดใสมาก ๆ
- อายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 10 ชม. (ตามสเปก)
ข้อควรพิจารณา
- ตอบสนองเสียงในย่านความถี่ต่ำได้ไม่ดี และเบสค่อนข้างบาง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ AUX 3.5 mm.
- ไม่รองรับพอร์ตเชื่อมต่อ USB type-A และอื่น ๆ
- ไม่มีไมโครโฟนในตัว
- ไม่รองรับการชาร์จเร็ว โดยการชาร์จจนเต็มจะใช้เวลาประมาณ 3 ชม.
กําลังขับ | 5W RMS |
---|---|
ช่วงความถี่ | 100 Hz - 20 kHz |
ความดังสูงสุด | N/a |
การป้องกันน้ำ | IPX7 |
Bluetooth | Bluetooth 5.1 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB Type C |
อายุการใช้งาน | สูงสุด 10 ชม. |
ระยะเวลาชาร์จ | 3 ชม. |
ขนาด | 8.6 x 13.4 x 4.6 ซม. |
น้ำหนัก | 239 ก. |
Xiaomi Mi Portable | Bluetooth Speaker Mini ลำโพงบลูทูธ ลำโพงไร้สาย

ราคา 659 บาท*
ทําไมเราถึงเลือก Xiaomi Mi Portable : ทุกวันนี้ตลาดลำโพงบลูทูธมีหลายราคามากครับ ซึ่งพวกราคาหลักพันถึงหลักหมื่นบาท ย่อมมีคุณภาพที่ดีอยู่แล้ว แต่การหาลำโพงราคาหลักร้อยที่ดี ๆ เป็นเรื่องยากครับ เพราะเรามีตัวเลือกหลายรุ่น หลายแบรนด์มาก ๆ ทั้ง แบรนด์ที่รู้จัก และไม่รู้จัก เพราะฉะนั้นเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ เราจึงเลือกลำโพงบลูทูธจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง Xiaomi Mi Portable มาครับ
ถ้าใครกำลังมองหา ลำโพงบลูทูธที่คุณภาพดี ๆ แต่มีงบฯ อยู่แค่หลักร้อย เราขอแนะนำ Mi Portable ลำโพงบลูทูธแบบพกพาขนาดเล็กสุดของ Xiaomi แบรนด์ชั้นนำที่ทุกคนต้องรู้จัก โดยมาในดีไซน์ที่เรียบหรู ตัวบอดี้ทรงกลมขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาเพียง 185 ก.เท่านั้น ส่งผลให้หยิบติดตัวไปได้อย่างง่ายดาย แถมยังออกแบบมาพร้อมบ่วงเชือก ที่เราสามารถนำไปแขวนไว้กับอะไรก็ได้ ในด้านความทนทาน รุ่นนี้ก็ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ และยังมาพร้อมมาตรฐาน การกันน้ำ และฝุ่นที่ IP67 ด้วย ช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถพกพาได้อย่างมั่นใจ นำไปเปิดเพลงได้ทุกที่ตามต้องการ

ส่วนการเชื่อมต่อ รุ่นนี้จะมีการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 ครับ ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น สัญญาณมีความเสถียร ทำให้ไม่มีอาการสะดุดเลย และตัวลำโพงมาพร้อมไมโครโฟนในตัวด้วย ส่งผลให้สามารถใช้โทรฯ แบบแฮนด์ฟรี พูดคุยผ่านลำโพงได้โดยตรง ส่วนอายุการใช้งาน รุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีความจุ 2,000mAh มอบอายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชม. เลยทีเดียว (เปิดความดังประมาณ 50-60%) และพอร์ตชาร์จจะใช้เป็นพอร์ต USB Type-C ตามมาตรฐานปัจจุบัน เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการชาร์จ และยังรองรับการเชื่อมต่อลำโพงสเตอริโอแบบไร้สายด้วย โดยสามารถเชื่อมต่อลำโพงรุ่นเดียวกัน 2 ตัว เพื่อที่ช่วยกันขับเสียงออกมาเป็นระบบสเตอริโอ ขับเสียงแบบรอบทิศทางซ้ายและขวา

ในด้านของคุณภาพเสียงก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ โดยลำโพงตัวนี้มีกำลังขับรวมอยู่ที่ 5W RMS ครับ และจะขับเสียงผ่านไดร์เวอร์ Full range ขนาดดอก 52 มม. ซึ่งสามารถให้เสียงที่ค่อนข้างดังเกินตัว ให้เสียงเบสที่หนักแน่นใช้ได้ เสียงกลางมีความคมชัดสูง ฟังง่าย และเสียงแหลม ที่พุ่งเคลียร์ใส เน้นการฟังเพลงสนุก ๆ มันส์ ๆ ซึ่งเมื่อเทียบคุณภาพเสียงกับราคา ถือว่าคุ้มค่าพอสมควรเลยครับ ใครที่ต้องการลำโพงเล็ก ๆ ที่มีดีไซน์สวย เสียงดี ฟังเพลง หรือดูหนักก็ได้ แถมราคาไม่แพง รุ่นนี้ตอบโจทย์มากครับ
ข้อดี
- โทนเสียงจะให้ความรู้สึกที่สนุกเป็นหลัก
- ดีไซน์มาพร้อมบ่วงเชือกในตัว สำหรับนำไปแขวนกับสิ่งต่าง ๆ
- บอดี้มีการป้องกันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IPX7
- มีไมโครโฟนในตัว
- รองรับ TWS การจับคู่รุ่นเดียวกัน เข้าด้วยกันได้ 2 ตัว เพื่อระบบเสียงแบบสเตอริโอ
- อายุการใช้งาน 10 ชม. (ตามสเปก)
- ราคาประหยัด
ข้อควรพิจารณา
- วัสดุบอดี้ธรรมดา
- ไม่ตอบสนองเสียงในย่านความถี่ต่ำ ๆ
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ AUX 3.5 mm.
- ไม่รองรับพอร์ต USB type-A และอื่น ๆ
- การชาร์จค่อนข้างช้า
กําลังขับ | 5W RMS |
---|---|
ช่วงความถี่ | 100Hz - 18kHz |
ความดังสูงสุด | N/a |
การป้องกันน้ำ | IP67 |
Bluetooth | Bluetooth 5.0 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB Type C |
อายุการใช้งาน | สูงสุด 10 ชม. |
ระยะเวลาชาร์จ | 3 ชม. |
ขนาด | 8.6 x 8.6 x 4.5 ซม. |
น้ำหนัก | 185 ก. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ 6 ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ยี่ห้อไหนดี เสียงดี พกพาง่าย ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
JBL Go 3 | Portable Waterproof Speaker ลำโพงบลูทูธจิ๋ว เสียงใส แถมพกพาง่าย |
| |||
Tribit Stormbox Micro 2 | Portable Speaker ลำโพงบลูทูธจิ๋ว ที่ชาร์จแบตฯ ให้อุปกรณ์อื่น ๆ ได้ |
| |||
Marshall Willen Black and Brass | ลำโพงบลูทูธแบบพกพา ยอดนิยม |
| |||
B&O Beoplay A1 (2nd Gen) | Portable Wireless Speaker ลำโพงไร้สาย แบบพกพา ระดับพรีเมียม |
| |||
JBL Clip 4 | Ultra-portable Waterproof Speaker ลำโพงบลูทูธ ดีไซน์มีคาราบิเนอร์ในตัว |
| |||
Xiaomi Mi Portable | Bluetooth Speaker Mini ลำโพงบลูทูธ ลำโพงไร้สาย |
|
วิธีการดูแลลำโพงบลูทูธ เพื่อให้ใช้งานไปได้นาน ๆ
1. ทำให้ลำโพงสะอาดอยู่ตลอดเวลา
การที่จะรักษาประสิทธิภาพของลำโพงไว้ให้ดีได้คือ การทำความสะอาดลำโพง โดยป้องกันไม่ให้มีคราบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกไปอุดลำโพงครับ อย่างไรก็ดีการที่จะทำความสะอาดนั้น คุณก็จะต้องรู้ก่อนว่า ตัวลำโพงไม่ควรที่จะใช้น้ำนะครับ ถึงแม้ว่าจะมีระบบกันน้ำก็ตาม เนื่องจากของเหลวอาจไหลเข้าไปในตัวเครื่อง จนทำให้ตัวเครื่องได้รับความเสียหาย ซึ่งวิธีการทำความสะอาดที่ถูกต้อง เราขอแนะนำให้ใช้ผ้าสะอาดที่มีผิวนุ่มมาเช็ดอย่างเบามือ ร่วมกับการใช้เครื่องดูดฝุ่น มาดูดเอาฝุ่นออกครับ
2. เก็บลำโพงไว้ในอุณหภูมิห้อง
หากเราเก็บลำโพงไว้ในที่แสงแดดส่องถึง หรือมีอุณภูมิที่สูงกว่า 30 องศา มันสามารถส่งผลต่อแบตเตอรี่ของลำโพงได้ครับ ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณเก็บไว้ในจุดที่ไม่โดนแดด เช่น ในลิ้นชัก ใต้โต๊ะ เป็นต้น เพื่อรักษาแบตเตอรี่ลำโพงให้มีประสิทธิภาพที่ดีในการเก็บพลังงานไฟฟ้า
3. หลีกเลี่ยงไม่ให้ลำโพงโดนน้ำ
ถึงแม้ว่าลำโพงบลูทูธในปัจจุบัน มักจะมาพร้อมมาตรฐานการกันน้ำที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ดีเราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ หลีกเลี่ยงไม่ให้ลำโพงโดนน้ำจะดีกว่าครับ เพราะการป้องกันน้ำของตัวลำโพง ไม่ได้หมายความว่ามันจะช่วยได้แบบ 100% เสมอไป เพราะเมื่อเราใช้งานไปนาน ๆ ยิ่งลำโพงเก่าไปมากเท่าไหร่ ระบบการป้องกันน้ำก็จะเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ จนมันไม่สามารถป้องกันน้ำได้อีก ฉะนั้นอย่าให้โดนน้ำจะดีที่สุดครับ
ในปัจจุบันลำโพงไร้สายมีอยู่หลายประเภทมาก ๆ ครับ แต่ละแบรนด์ก็มีการออกแบบมาเฉพาะเจาะจงมากขึ้น อย่างในบทความนี้ ก็จะเน้น การพกพาที่สะดวกสบาย ทุกรุ่นก็จะมีขนาดเท่า ๆ กับฝ่ามือ ใช้วัสดุอย่างดี แถมกันน้ำได้ ซึ่งด้วยขนาดที่เล็ก พื้นที่ในตัวลำโพงก็จะจำกัด ทำให้ต้องลดคุณภาพเสียงลง นี่คือสิ่งที่เราจะต้องแลกครับ แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ต้องการลำโพงที่ขับเสียงดี ๆ บวกกับจะต้องพกพาได้ด้วย เพื่อน ๆ ก็สามารถขยับไปเลือก ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth Speaker) ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยได้ ซึ่งขนาดอาจจะใหญ่ และหนักขึ้น แต่เสียงดีแน่นอนครับ