ในช่วงเวลาวันหยุดก็เป็นช่วงที่ชาวกรุงเทพแบบเรา ๆ ต้องออกไปเที่ยวกันใช่ไหมล่ะคะ? แต่จะไปเที่ยวที่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของวันหยุดว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากมีเวลาหลายวัน หลาย ๆ คนก็คงเลือกเดินทางไปต่างจังหวัดอย่างเช่น ภูเก็ต, กระบี่, พังงา หรือเลือกไปสัมผัสกับความสวยงามของเกาะที่ได้ชื่อว่ามัลดีฟส์เมืองไทยอย่างเกาะหลีเป๊ะและเกาะพีพี หรือสำหรับบางคนอาจจะใช้ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนนี้ไปกับการนั่งชมเชยความสวยงามของทะเลหมอกกันที่ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ หรือเขาค้อที่เพชรบูรณ์ แล้วถ้าเกิดว่ามีเวลาว่างแค่ 1 – 2 วันล่ะคะจะไปที่ไหนกันดี? ซึ่งก็แน่นอนว่าสำหรับคนกรุงเทพ สถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้และน่าสนใจที่สุดเท่าที่จะนึกออกก็คงหนีไม่พ้นทะเลหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อย่างแน่นอน
ในความเป็นจริงแล้วประจวบคีรีขันธ์ไม่ได้มีเพียงทะเลหัวหินที่เดียวเท่านั้นที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ แต่ยังมีวัดวาอาราม สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอีกมากมาย อย่างเช่น ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี, เขื่อนปราณบุรี, บึงบัว ทุ่งสามร้อยยอด, ถ้ำพระยานครและอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง นอกจากที่เที่ยวแล้วหากใครที่เดินทางมาพักผ่อนไม่ว่าจะมาโซโล่เที่ยวคนเดียว จะมากับคนรัก แก็งเพื่อน หรือครอบครัวจังหวัดประจวบก็ที่พักสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ ไว้รอต้อนรับคุณอยู่แล้วค่ะ
ถ้าหากว่าเร็ว ๆ นี้คุณมีแพลนว่าจะมาเที่ยวทะเลหัวหิน ก็อย่าลืมที่จะมองหาของฝากติดไม้ติดมือกลับไปด้วยนะคะ แต่เอ๋..ถ้าหากว่าใครยังนึกไม่ออกว่าจะซื้ออะไรกลับมาดีวันนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยค่ะ เพราะวันนี้เราจะรวบรวมเอา 11 สุดยอดของฝากจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่คุณจะต้องพลาดไม่ได้มาฝากกันค่ะ ซึ่งของฝากในวันนี้ก็มีทั้งของดีมีชื่อเสียงประจำอำเภอต่าง ๆ และของฝากที่เป็นสินค้าโอท็อปด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากว่าพร้อมกันแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่ะ
ขนมปังชีสเชคไส้สับปะรด

ราคา 39 บาท*
ซึ่งก็แน่นอนค่ะว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของสับปะรดเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศเหมาะสำหรับการปลูกสับปะรด ทำให้เนื้อของสับปะรดประจวบคีรีขันธ์นั้นมีรสชาติที่อร่อย หวานฉ่ำ เนื้อแน่น และเป็นที่ต้องการในตลาดสูงมากทำให้ชาวบ้านหันมาปลูกสับปะรดกันเพิ่มมากขึ้น แต่ผลปรากฏว่าระยะหลังผลผลิตเริ่มล้นตลาดทำให้ชาวบ้านจึงได้คิดหาวิธีรับมือกับปัญหานี้ โดยการนำสับปะรดมาแปรรูปเป็นของว่างทานเล่นอย่างขนมปังชีสเชคที่สอดไส้สับปะรดที่เห็นอันนี้เลยค่ะ
โดยขนมปังชีสเชคไส้สับปะรดจะเป็นขนมปังแผ่นสี่เหลี่ยมบางกรอบสองแผ่นนำมาประกบกันและมีการสอดไส้สับปะรดกวนไว้ตรงกลาง ซึ่งสูตรที่ใช้ทำไส้นั้นจะใช้เป็นสูตรโบราณนะคะ ไส้ของสับปะรดกวนจะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เนื้อสัมผัสจะมีความหนุบหนับ หากกัดทานพร้อม ๆ กับขนมปังที่มีความหอมมันก็จะเข้ากันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว เหมาะสำหรับการทานคู่กับกาแฟร้อน ๆ ยามเช้าหรือจะพกพาไปทานระหว่างมื้อเพื่อชะลอความหิวก็ได้เช่นกัน โดยขนมปังชีสเชค 1 กล่องจะมีจำนวน 11 ชิ้น สามารถเก็บไว้ทานได้นานถึง 6 เดือน
ขนมเกี๊ยวโกะสอดไส้สับปะรด

ราคา 40 บาท*
หอยเสียบดองน้ำปลา

ราคา 48 บาท*
Cocono มะพร้าวกะทิในน้ำกะทิอบควันเทียน

ราคา 69 บาท*
สับปะรดกวน

ราคา 75 บาท*
กะปิโหว่แม่สาลี่

ราคา 80 บาท*
ถ้าหากว่าใครมีโอกาสมาเที่ยวประจวบก็ต้องไม่พลาดที่จะไปชม ช้อป และกินของอร่อยกันที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ซึ่งก็แน่นอนว่าของดีของอร่อยหลาย ๆ อย่างถูกรวมเอาไว้ใที่นี่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือกะปิโห่วแม่สาลี่สูตรโบราณอันนี้เลย หากต้องการทานกะปิโห่วโบราณสูตรเด็ดจากประจวบก็ต้องแม่สาลี่เท่านั้นนะคะ ร้านของแม่สาลี่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติกะปิที่อร่อยจนต้องร้องโห่ววอย่างเดียวเท่านั้น แต่เอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกอย่างก็คือสไตล์การแต่งตัวและลีลาในการขายที่จัดเต็มนี่เองที่ทำให้กะปิของแม่สาลี่นั้นไม่ธรรมดาเลยค่ะ สูตรกะปิโห่วของแม่สาลี่ก็จะเป็นสูตรโบราณที่ทำขายมานานกว่า 30 ปี รสชาติของกะปิโห่วแม่สาลี่เข้มข้นกลมกล่อม หวาน มัน เค็ม เผ็ดครบทุกรสชาติ แถมยังได้กลิ่นหอม ๆ ของกะปิชัดเจนมากค่ะ น้ำกะปิโห่วเนื้อจะไม่ข้นหรือเหลวเกินไปเหมาะแก่การทานคู่กับมะม่วงมาก ๆ เลยทีเดียว
การที่จะทานกะปิโหว่แม่สาลี่ให้อร่อยนั้แนะนำว่าให้ทานคู่กันกับมะม่วงแรดเท่านั้น เพราะว่ามะม่วงแรดนั้นมีเนื้อที่แน่น เนื้อเยอะ มีความกรอบกรุบกรับจิ้มคู่กับน้ำจิ้มกะปิโห่วคือดีงามพระรามแปด ใครที่ตอนนี้เริ่มน้ำลายสอแล้วก็แนะนำให้ลองสั่งดูค่ะ นอกจากกะปิโห่วแล้วทางร้านแม่สาลี่ก็มีขายกะปิสูตรอื่น ๆ อีก 11 สูตร ไม่ว่าจะเป็น กะปิหวาน, น้ำปลาหวาน, กะปิอีสาน และอีกมากมาย
ขนมเบื้อง DIY สูตรต้นตำรับชาววัง

ราคา 85 บาท*
ตลาดซิเคด้าเป็นตลาดที่มีกลิ่นอายของความเป็นถนนคนเดินและความเป็นตลาดผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดกลางคืนที่จะต้องไปเยี่ยมชมกันให้ได้ ซึ่งที่ก็จะจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายทั้งเสื้อผ้า ของแฮนด์เมด ของกิน รวมถึงของฝากต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในของฝากที่มีชื่อเสียงและสามารถหาซื้อได้ผ่านทางออนไลน์ที่เราอยากจะหยิบมานำเสนอในวันนี้นั่นก็คือ ‘ขนมเบื้อง DIY สูตรต้นตำรับชาววัง’ เจ้าดังเจ้าเดียวจากตลาดซิเคด้า
ความพิเศษของขนมเบื้องชิ้นนี้ก็คือคุณสามารถใส่ไส้รวมถึงเครื่องต่าง ๆ ลงในแป้งเองได้จะใส่มากใส่น้อยก็เลือกได้ตามใจชอบ ซึ่งในเซตก็จะประกอบไปด้วยแป้งขนมเบื้องแผ่นเล็กบางกรอบจำนวน 25 แผ่น ครีมรสชาติหวานละมุนอีก 1 กระปุก และไส้ขนมซึ่งจะมีด้วยกัน 2 ไส้ คือไส้หวานและไส้เค็ม ซึ่งตัวไส้นี้คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการแบบไหนหรือจะเลือกแบบดูโอ้คู่กันไปเลยก็ได้ค่ะ ซึ่งสำหรับของฝากที่สุดแสนจะครีเอทและน่าสนใจก็แนะนำเป็นขนมเบื้อง DIY อันนี้เลยค่ะ รับรองว่าทั้งรสชาติที่อร่อยและได้ทั้งความสนุกสนานในการทำขนมอย่างแน่นอนค่ะ
หมึกกะตอยจืด

ราคา 120 บาท*
ของดีขึ้นชื่อของอำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั่นก็ต้องเป็นอาหารทะเลแปรรูปค่ะ ร้านที่เราเลือกมาในวันนี้ก็เป็นร้านที่มีการจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปมานานกว่า 20 ปี ซึ่งร้านนี้ก็คือร้านเพชรรัตน์ ร้านขายของฝากที่ครบครันไปด้วยอาหารทะเลแปรรูปทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึกแดด, ปลาอินทรีย์หรือกุ้งแห้งก็ต้องร้านนี้ร้านเดียวได้ครบ สำหรับของอาหารทะเลแปรรูปที่เราเลือกมาในวันนี้ก็คือหมึกกะตอยจืดตากแห้งค่ะ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในสินค้าของดีและมีชื่อเสียงจากประจวบคีรีขันธ์
หมึกกะตอยจืดตากแห้งมาในขนาด 200 กรัม เป็นหมึกกะตอยตัวเล็กที่ทั้งสดและสะอาดจากทะเลประจวบ นำมาผ่านการล้างทำความสะอาดและตากจนเนื้อแห้งสนิท ไม่มีกลิ่นคาว หมึกกะตอยเต็มตัวไม่เป็นเศษ มาในชิ้นขนาดเท่า ๆ กันทอดง่ายมากค่ะ กลิ่นนี่หอมฉุย รสชาติไม่เค็มและในขณะเดียวกันก็ไม่จืดแบบไร้รสชาตินะคะ นำมาทานคู่กันกับข้าวร้อน ๆ คืออร่อยเหาะอย่าบอกใครเชียว
มะพร้าวกะทิทับสะแก

ราคา 120 บาท*
น้ำพริกหมึกเลิศรส

ราคา 250 บาท*
ถ้าหากใครที่กำลังมองหาของฝากประเภทน้ำพริกรสชาติดีสำหรับทานเองหรือส่งต่อเป็นของฝากจากประจวบคีรีขันธ์นั้นก็ต้องเป็นน้ำพริกจากแม่แต๋วเท่านั้น ในสมัยก่อนนั้นร้านแม่แต๋วนั้นเป็นเพียงร้านขายอาหารทะเลแปรรูปทั่ว ๆ ไปเท่านั้นแต่พักหลังแม่แต๋วเลยได้เริ่มหันมาทำน้ำพริกจากอาหารทะเล ปรากฏว่าผลตอบรับออกมาดีเกินคาด ทำให้นับจากนั้นเป็นต้นมาแม่แต๋วก็เลยกลายเป็นที่รู้จักกันในนามของน้ำพริก สำหรับน้ำพริกแม่แต๋วก็มีอยู่ด้วยกันหลายประเภทเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริกปลากะพง, น้ำพริกเผากุ้งแห้ง, น้ำพริกกุ้งแห้งดั้งเดิม แต่ที่เราเลือกมานำเสนอในวันนี้นั้นก็คือ ‘น้ำพริกเผาหมึกเลิศรส’ นั่นเองค่ะ
สำหรับน้ำพริกสูตรนี้จะเป็นสูตรเฉพาะของแม่แต๋ว เคล็ดลับความอร่อยที่มีมานานหลายสิบปีไม่เคยเปลี่ยนแปลง รสชาติจะมีความเข้มข้น อัดแน่นไปด้วยเนื้อหมึกอย่างดีมีคุณภาพ เนื้อหมึกในน้ำพริกจะมีความหอมนุ่ม ไม่เหนียวเคี้ยวง่าย ไม่มีกลิ่นคาว สามารถทานเปล่าหรือทานคู่กับข้าวสวยและไข่ต้มได้เลยค่ะ ใครที่ชอบน้ำพริกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ขอแนะนำเลยค่ะ ส่วนใครที่ยังไม่เคยลองทานน้ำพริกมาก่อน นี่ถือว่าเป็นโอกาสดีเลยค่ะที่จะได้ลองน้ำพริกอร่อย ๆ แบบนี้
โคโคนิค น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นออร์แกนิค

ราคา 350 บาท*
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เที่ยวประจวบคีรีขันธ์เดือนไหนดี?
อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้นถูกจัดเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีทะเลที่ใกล้กรุงเทพมากที่สุดทำให้ทุก ๆ ปี ชาวกรุงเทพหรือคนที่อาศัยในกรุงเทพมักเลือกที่จะมาพักผ่อน รับลมทะเลกันที่ทะเลหัวหินเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพลงมายังหัวหินนั้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หรืออาจจะน้อยกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่การจะมาเที่ยวประจวบคีรีขันธ์อย่างไรให้ได้เข้าถึงบรรยากาศของการพักผ่อนที่แท้จริงนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในเดือนนั้น ๆ ด้วย ดังนั้นแล้ววันนี้เราเลยจะมาดูกันค่ะว่าถ้าหากมีแพลนจะมาเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราควรจะเดือนทางไปช่วงเดือนไหนดี
ต้องบอกเลยค่ะว่าใครที่กำลังมีแพลนว่าจะมาเที่ยวจังหวัดนี้นั้นโชคดีมากเพราะสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด รวมไปถึงทะเลหัวหินนั้นเป็นที่ที่คุณสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่…แต่มีข้อควรต้องระวังอยู่นิดนึงนะคะ ถึงแม้ว่าจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทุกช่วงแต่หากคุณเดือนทางในช่วงตุลาคมถึงพฤศจิกายน ก็แนะนำให้ตรวจสอบสภาพอากาศกันให้ดีอีกครั้งก่อนที่จะออกเดินทางนะคะ เนื่องจากในช่วงนี้มีโอกาสที่จะเจอกับฝนได้มากเป็นพิเศษ
ส่วนช่วงเดือนที่เหมาะที่สุดสำหรับการมาทะเลหัวหินก็แน่นอนค่ะว่าจะต้องเป็นช่วงหน้าร้อน ซึ่งก็จะเป็นช่วงที่เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ยาวไปจนถึงพฤษภาคม ในช่วงนี้ก็เป็นช่วงหน้าร้อนโดยเฉพาะเดือนเมษาที่ว่ากันว่าร้อนที่สุดนั้นหากได้มาเที่ยวทะเลคุณจะรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ร้อนมากเท่าไหร่นัก เพราะว่าจะมีลมเย็นและไอน้ำที่ถูกพัดเข้ามาจะสามารถช่วยบรรเทาอาการร้อนอบอ้าวได้เป็นอย่างดี น้ำทะเลในช่วงนี้จะสวยค่ะ น้ำนิ่งทะเลใส น่าเล่นน้ำมาก ๆ
แต่ถ้าหากใครไม่ได้มีจุดหมายว่าจะต้องไปทะเลอย่างเดียวก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะเพราะคุณสามารถเดินทางได้ทุกช่วงฤดู ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในประจอบก็มีอยู่หลากหลาย ทั้งสวนน้ำ Vana Nava, ตลาดโต้รุ่งหัวหิน, อุทยานราชภักดิ์ หรือจะแวะชมธรรมชาติที่วนอุทยานปราณบุรีก็ได้นะคะ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะเดินทางมาในช่วงหน้าฝน ซึ่งก็แน่นอนว่าอาจจะเจออุปสรรคบ้างเล็กน้อยแต่ในช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ต้นไม้เริ่มออกดอกออกใบเขียวชอุ่มเลยทีเดียว
ส่วนใครที่เดินทางไปกับครอบครัวอยากจะแวะกราบไหว้ขอพรหลวงปู่ทวดก็มาได้ที่วัดห้วยมงคลแห่งนี้เลยค่ะ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของทะเลอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลาย ๆ ที่ให้คุณได้เลือกไปพักผ่อนและได้สัมผัสกับบรรยากาศเหล่านั้นด้วยตัวเอง ดังนั้นแล้วหากมีโอกาสก็ลองมาเที่ยวกันดูได้นะคะ และอีกอย่างอย่าลืมซื้อของฝากกลับไปด้วยนะคะทุกคน 🙂