การวิ่งเป็นกิจกรรมออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากไม่ว่าจะเป็นการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าหรือวิ่งมาราธอนก็เป็นการออกกำลังกายที่ดีต่อสุขภาพมาก ถึงแม้ว่าการวิ่งจะทำได้ง่ายมากโดยใช้กำลังกายควบคุมแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารองเท้าวิ่งนั้นมีความสำคัญต่อการวิ่งมาก ๆ เพราะการสวมรองเท้าวิ่งขณะวิ่งจะลดอาการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยให้การวิ่งลื่นไหลและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเท้า หลายคนไม่สวมใส่รองเท้าวิ่งแต่เลือกที่จะสวมรองเท้าผ้าใบหรือสนีกเกอร์แทนเพราะคิดว่ามันแทนกันได้ แต่อันที่จริงมันแทนกันไม่ได้นะคะและไม่ดีต่อส้นเท้าของเราด้วย ผู้หญิงอย่างเรา ๆ มักจะชอบรองเท้าที่มีดีไซน์สวยงามถึงแม้จะต้องไปวิ่งแต่แฟชั่นก็สำคัญมากค่ะ แน่นอนว่ารองเท้าวิ่งที่ดีไซน์สวยสำหรับผู้หญิงหาซื้อได้ยากมากแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีค่ะ วันนี้เราก็เลยอยากแนะนำ “รองเท้าวิ่ง Nike สำหรับผู้หญิง” กันค่ะ ซึ่งเมื่อพูดถึงแบรนด์นี้หลายคนอาจจะถึงบางอ้อเลย เพราะนอกจากรองเท้าจากแบรนด์นี้จะเหมาะกับการวิ่งแล้ว ดีไซน์ยังดูทันสมัยเหมาะสำหรับสาว ๆ ผู้รักแฟชั่นอย่างเรากันอีกด้วย
ปัจจุบันคงจะไม่มีที่ไม่รู้จักรองเท้า Nike อย่างแน่นอนค่ะ เพราะรองเท้าจากแบรนด์ Nike นั้นเป็นรองเท้ากีฬาอีกแบรนด์ยอดนิยมที่วางขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด นอกจากรองเท้าแบบลำลองที่ได้รับความนิยมแล้ว แบรนด์นี้ก็โดดเด่นในเรื่องของรองเท้ากีฬาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬา Nike ผู้หญิงหรือรองเท้ากีฬา Nike ของผู้ชาย ก็ได้รับความนิยมสูงมากมากเลยทีเดียวค่ะ โดยปกติแล้วแบรนด์ Nike เองมีคู่แข่งรายหลัก ๆ ไม่กี่รายเท่านั้นนั่นก็คือรองเท้ากีฬาจาก Adidas รองเท้ากีฬา Puma รวมไปถึงรองเท้ากีฬาจากแบรนด์ Mizuno ค่ะ จุดเริ่มต้นของแบรนด์ไนกี้นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจมาก เพราะในครั้งแรกไนกี้ได้ตั้งชื่อแบรนด์รองเท้าที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นว่า “Blue Ribbon Sports” หรือ BRS จากแบรนด์เล็ก ๆ ที่มีคุณภาพนี้ทำให้ไนกี้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกในระยะเวลาไม่กี่ปี หากตอนนี้คุณกำลังหาซื้อรองเท้าวิ่งสักคู่ เราขอแนะนำให้เลือกรองเท้าวิ่งจากไนกี้ค่ะ รับรองว่านอกจากจะดีไซน์สวยแล้วยังใช้งานได้นานอีกด้วย
รองเท้าวิ่ง Nike สำหรับผู้หญิง รุ่นไหนใส่สบาย ดีไซน์สวย?
ความเป็นมาของรองเท้าวิ่ง Nike
ในสมัยก่อนรองเท้าผ้าใบไม่ได้ผลิตมาเพื่อนักวิ่งค่ะแต่ออกแบบมาเพื่อสวมใส่ทั่วไปเท่านั้น แต่คนที่จุดประกายให้มีการคิดค้นรองเท้าวิ่งขึ้นมานั่นคือ บิลล์ บาวเวอร์แมน (Bill Bowerman) ซึ่งเขาเป็นโค้ชนักวิ่งชาวอเมริกันและเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Nike ด้วย ตอนนั้นเขาได้เป็นโค้ชอยู่ที่ University of Oregon เขาได้เห็นการวิ่งของนักกีฬาคนหนึ่งทำให้เขาคิดอยากจะสร้างรองเท้าที่เหมาะสำหรับการวิ่ง บิลล์ บาวเวอร์แมนได้ร่วมมือกับฟิล ไนท์ (Philip Knight) เพื่อสร้างรองเท้าวิ่ง หลังจากที่ฟิล ไนท์ ได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เขาก็เริ่มที่จะสร้างรองเท้าวิ่ง ตอนแรกเขาเริ่มจากการนำเข้ารองเท้าวิ่งคุณภาพดีที่ราคาไม่แพงจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อนำมาขาย ซึ่งบิลล์ บาวเวอร์แมน แต่ต่อมาในปี 1971 ทั้งคู่ก็ได้ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมาซึ่งชื่อแบรนด์ว่า Blue Ribbon Sports แต่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Nike, Inc. ด้วยรูปแบบธุรกิจและรองเท้าที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้รองเท้าวิ่งจาก Nike ได้ครองตลาดรองเท้าวิ่งเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังมีเหล่าคนดังเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย
นวัตกรรม Flyknit จาก Nike คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไร ?
แบรนด์ Nike ได้สร้างรองเท้าผ้าใบที่หลากหลายและมีน้ำหนักเบามากขึ้น โดยมีเทคโนโลยี Flyknit ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการเล่นกีฬา เป้าหมายของ Nike คือการสร้างโครงสร้างของรองเท้าที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทานและเพื่อลดปริมาณขยะให้น้อยที่สุด นี่เป็นเป้าหมายระยะยาวตั้งแต่ช่วง 1980 แล้วค่ะ ก่อนที่จะสร้างเทคโนโลยีนี้ขึ้นมาทางแบรนด์ Nike ได้ทดลองกับรองเท้าตาข่ายที่บางเบา อาทิรุ่น Sock Racer รุ่น Sock Racer พร้อมกับการทดลองอีกหลายครั้ง ต่อมาทาง Nike ได้ค้นพบว่าท่อนบนรองเท้าได้บางเบาและระบายอากาศพอแล้วแต่ยังไม่แข็งแรงพอ จากนั้น Nike ไดเเริ่มผลิตท่อนบนของรองเท้าด้วยวัสดุ Flyknit เนื่องจากความปรารถนาของนักวิ่งส่วนใหญ่ต้องการรองเท้าที่มีคุณสมบัติคล้ายถุงเท้า ให้ความสบายและบางเบาจนผู้ใส่แทบลืมว่าใส่รองเท้าอยู่
ในปี 2008 แบรนด์ Nike ได้นำเสนอ Flywire เทคโนโลยีที่ใช้ด้ายน้ำหนักเบาและความแข็งแรงสูงเพื่อรองรับการใช้งานตรงตามที่ผู้สวมใส่ต้องการ ซึ่งทำให้ Nike มั่นใจว่าพวกเขาสามารถสร้างวัสดุรองเท้าที่ให้การสนับสนุนเท้าแต่มีน้ำหนักเบาในเวลาเดียวกัน ทางแบรนด์ได้ใช้เวลา 4 ปีเพื่อทำการทดลองและวิจัยเทคโนโลยีการถักนิตติ้งเพื่อสร้างวัสดุท่อนบนของรองเท้า ซึ่งรองเท้า Flyknit ตัวแรกของ Nike ที่ประสบความสำเร็จนั้นมาพร้อมกับความยืดหยุ่นและการระบายอากาศที่ดีมากเลยทีเดียวแต่ทางแบรนด์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นเพราะทางแบรนด์ได้พัฒนารองเท้าอยู่เรื่อย ๆ ทำให้รองเท้าของทางแบรนด์มีความหลากหลาย น้ำหนักบางเบาและช่วยให้ออกกำลังกานได้สะดวกมากขึ้น
เทคนิคในการเลือกซื้อรองเท้าวิ่ง
หลายคนคงประสบปัญหาในการเลือกรองเท้าวิ่งให้เหมาะกับเท้าของตัวเอง วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากสำหรับนักวิ่งมือใหม่ที่ต้องการรองเท้าเก๋ ๆ สักคู่
- ส้นเท้า (Heel) เมื่อเริ่มใส่รองเท้าวิ่งส้นเท้าของคุณควรจะพอดีกระชับกับส้นรองเท้า หากลองร้อยเชือกแบบหลวม ๆ ไม่ได้ผูกเชือก คุณจะสามารถถอดรองเท้าออกได้อย่างง่ายดาย หากคุณไม่สามารถถอดออกได้ หมายความว่ารองเท้าเล็กไปนั่นเอง ดังนั้นก่อนจะวิ่งอย่าลืมร้อยเชือกให้ถึงรูบนสุดเพื่อป้องกันไม่ให้รองเท้าเลื่อนไหล
- หลังเท้า (Instep) รองเท้าวิ่งที่เหมาะกับเราควรจะกระชับและห่อหุ้มบริเวณหลังเท้าของเราได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงไม่ควรให้หลังเท้าโดนบีบมากเกินไปเพราะจะอึดอัด
- ความกว้าง (Width) รูปเท้าของแต่ละคนมีลักษณะแตกต่างกัน รองเท้าที่เหมาะกับเราควรมีความกว้างที่เหมาะสมเพราะจะทำให้เราสามารถขยับส่วนเท้าด้านหน้าได้บ้าง โดยเท้าไม่ควรแตะขอบของพื้นรองเท้า (Insole) ถ้าคุณรู้สึกว่านิ้วเท้าไปเกยขอบพื้นรองเท้าแปลว่ารองเท้าที่ใส่อยู่แคบไปสำหรับเท้าของคุณ
- ความยาว (Length) สาเหตุสำคัญที่ต้องมีที่ให้เท้าขยับขยายได้ทั้งความกว้างและความยาวเนื่องจากเท้าเราจะบวมขึ้นเวลาเราวิ่ง ดังนั้นอย่าลืมเผื่อที่ว่างระหว่างนิ้วเท้าที่ยาวที่สุดกับบริเวณปลายรองเท้า ตอนลองรองเท้าต้องลองผูกเชือกรองเท้าให้เรียบร้อยแล้วยืนขึ้น นิ้วเท้าของเราควรจะสามารถแกว่งขึ้น-ลงได้อย่างสบาย ๆ
- ความโค้งงอตามรูปเท้า (Flex) รองเท้าจะโค้งขณะวิ่งแล้วเกิดจุดหัก ซึ่งเราจะเห็นจุดหักนี้ได้โดยการถือบริเวณส้นรองเท้าแล้วกดปลายรองเท้ากับพื้น เราเรียกจุดนี้ว่า Flex Point คุณควรลองสังเกตดูว่า Flex Point ของรองเท้าวิ่งที่ลองนั้นใกล้เคียงกับของเท้าของคุณไหม และรองเท้างอไปตามรูปเท้าคุณหรือเปล่า
สำหรับคุณผู้หญิงแล้วการเลือกรองเท้าซักคู่นั้นค่อนข้างที่จะเป็นปัญหา ด้วยสไตล์และแฟชั่นที่จะต้องโดดเด่นเหนือใคร การเลือกรองเท้าให้ถูกใจจึงเป็นเรื่องที่ยาก บางคนอาจจะต้องการแฟชั่นที่ล้ำสมัย บางคนต้องการความมั่นใจ หรือบางคนต้องการแค่รองเท้าดี ๆ สักคู่เพื่อไว้วิ่ง ออกกำลังกายหรือใส่ไปทำงาน ถ้าวันนี้คุณยังไม่มีตัวเลือก เราได้มีสินค้ามานำเสนอให้คุณได้เลือกสรรตามสไตล์ที่คุณชอบ เราขอการันตีเลยว่าคุณต้องชอบมันอย่างแน่นอน
Nike Zoom Fly 3 รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง

ราคา 3,480 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- แถบรองรับอุ้งเท้ายึดกับเชือกรองเท้า ช่วยลดแรงกดออกจากช่วงหลังเท้า
- ส่วนส้นเบนออกจากข้อเท้าเพื่อช่วยลดแรงกดที่เอ็นร้อยหวาย
- เหมาะสำหรับวิ่งระยะไกล
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีโฟม Zoom X จึงไม่ยกระดับเท้าขึ้น ทำให้พื้นรองเท้ายุบตัวเร็ว
สี | White/Metallic silver/Racer blue/Cyber |
---|---|
น้ำหนัก | 252 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกล |
Nike Free RN 5.0 รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง

ราคา 2,880 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- การนำส้นด้านหลังออกช่วยให้เท้ามีอิสระมากขึ้น แต่ก็ยังคงความล็อกกระชับไว้อย่างเพียงพอ
- แผ่นรองพื้นรองเท้าชั้นเดียวช่วยให้เท้าคุณรู้สึกถึงพื้นได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
- ปุ่มยางที่ส้นและปลายเท้าเสริมการยึดเกาะ
ข้อควรพิจารณา
- เหมาะสำหรับการวิ่งในระยะที่ไม่เกิน 5 กิโลเมตร
สี | Black/Magic ember/Cave purple |
---|---|
น้ำหนัก | 204 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งระยะสั้น |
Nike Zoom Gravity รองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง

ราคา 1,650 บาท*
จุดเด่นของสินค้า
- พื้นรองเท้ายางชั้นนอกแบบแบ่งส่วนที่ส้นให้ความทนทานและการยึดเกาะบนหลายพื้นผิว
- ส้นรองเท้าที่สูงขึ้นด้วยโฟมที่ด้านข้างสร้างความรู้สึกโอบรับและเพิ่มการทรงตัว
- ส่วนหุ้มข้อแถบบางแบบมินิมอลม้วนขึ้นเล็กน้อยทำให้สวมใส่สบายขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- ความทนทานยังไม่ดีเท่าที่ควร อาจจะทำให้ขาดหรือชำรุดได้ง่าย
สี | Summit White/Vast Grey/Lava Glow/White |
---|---|
น้ำหนัก | 198 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกลและวิ่งระยะสั้น |
NIKE Downshifter 11 รองเท้าวิ่งผู้หญิง

ราคา 1,680 บาท*
บางครั้งรองเท้าวิ่งพื้นฐานแบบทั่ว ๆ ไปก็เป็นสิ่งที่คุณต้องการ ซึ่งรองเท้าที่เราแนะนำกันในวันนี้เป็นรองเท้าที่ไม่มีโฟม ไม่มีส่วนเสริมที่พื้นรองเท้าชั้นกลาง มีเพียงพื้นรองเท้าโฟมชั้นกลางและพื้นรองเท้าชั้นนอกทำจากยางเท่านั้น ซึ่งนั่นก็คือรองเท้าวิ่ง Nike Downshifter 11 ค่ะ นอกจากรองเท้าวิ่งนี้จะมีราคาประหยัดแล้ว อัปเปอร์ของรองเท้ายังช่วยยึดเท้าระหว่างวิ่ง ใต้ฝ่าเท้ามีโฟม EVA ที่เพียงพอเพื่อให้คุณสามารถวิ่งได้สบายทุกวัน ถึงแม้ว่ารองเท้านี่ไม่ใช่รองเท้าสำหรับวิ่งมาราธอนแต่เพียงพอสำหรับกิจกรรมวิ่งแบบเบา ๆ อัปเปอร์ทำออกมาได้สวยงามตามราคา มีโลโก้ Swoosh แบบขึ้นรูป และการเน้นสีตัดกันบนแผงร้อยเชือกรองเท้าทำให้รองเท้า Downshifter 11 ดูพรีเมียมมากยิ่งขึ้นค่ะ
จุดเด่นของสินค้า
- ผ้าตาข่ายทำให้ระบายอากาศได้ดี ถึงแม้จะมีเหงื่อออกแต่ไม่อึดอัด
- พื้นรองเท้าชั้นนอกทนทานมาก สามารถใช้งานได้นาน
- ราคาประหยัดและให้ความคุ้มค่าสูงมากเหมาะกับคนที่งบน้อย
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะรู้สึกแน่นฝ่าเท้าเมื่อสวมใส่
สี | White |
---|---|
น้ำหนัก | 253 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกลและวิ่งระยะสั้น |
NIKE Zoom Winflo 8 รองเท้าวิ่งผู้หญิง

ราคา 2,880 บาท*
NIKE Zoom Winflo 8 Winflo เป็นรองเท้าที่เหมาะสำหรับการวิ่งระยะไกล พื้นรองเท้าชั้นกลางทำจากโฟม Cushlon ที่จับคู่กับ Air Zoom ที่ปลายเท้า ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสบายของส้นและข้อเท้าได้ดีมาก แม้ว่าพื้นรองเท้าชั้นกลางและพื้นรองเท้าชั้นนอกของรองเท้านี้จะเอามาจากรุ่นเก่าอย่าง Winflo 7 แต่เทคโนโลยี Flywire ใหม่ที่ส่วนกลางเท้าจะช่วยเพิ่มความรู้สึกปลอดภัย คุณลักษณะนี้เมื่อรวมกับลิ้นรองเท้าและส้นรองเท้าที่บุนวมของรุ่น 8 แล้วจะให้ความสบายและให้การปกป้องที่ดียิ่งขึ้น รองเท้าวิ่งคู่นี้สร้างสรรค์ขึ้นโดยคำนึงถึงนักกีฬาโดยเฉพาะแต่เหมาะสำหรับการวิ่งทั่วไปมากกว่าการวิ่งบนลู่วิ่ง
จุดเด่นของสินค้า
- รองเท้าให้ความสะดวกสบายและให้ประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีมาก
- ให้ความกระชับพอดีทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการวิ่งระยะไกล
- รู้สึกเบาสบายและเป็นตัวเลือกที่มีราคาจับต้องได้
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะรู้สึกแน่นบริเวณนิ้วเท้าไปสักหน่อย
สี | Regal pink/Black/Hyper pink/Lilac |
---|---|
น้ำหนัก | 250 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกล |
NIKE Renew Run 2 รองเท้าวิ่งผู้หญิง

ราคา 3,100 บาท*
รองเท้าวิ่ง Nike Renew Run 2 เหมาะสำหรับนักวิ่งที่กำลังมองหารองเท้าวิ่งน้ำหนักเบาและให้ความสบายสูงสุดในการวิ่ง รองเท้าคู่นี้มีพื้นรองเท้ายางที่ทนทาน พื้นรองเท้ารองรับแรงกระแทกได้ดีมากเหมาะสำหรับวิ่งทางไกลเป็นพิเศษ ด้วยพื้นรองเท้าส่วนบนที่ระบายอากาศได้ดีทำให้เหมาะสำหรับนักวิ่งเป็นอย่างมาก ตัวรองเท้าออกแบบโดยคำนึงถึงเท้าของผู้สวมใส่ เป็นรองเท้า Nike ที่ดีและสะดวกสบายสำหรับนักวิ่งที่มีงบประมาณจำกัด รองเท้าวิ่งนี้มีการผสมผสานระหว่างความหนาแน่นสองชั้นและโฟมด้านในที่นุ่มเป็นพิเศษซึ่งล้อมรอบด้วยโฟมที่แน่นกว่าทำให้มีความมั่นคงขณะสวมใส่
จุดเด่นของสินค้า
- พื้นยางทนทานมาก รองรับทุกการเสียดสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พื้นรองเท้าส่วนบนสามารถระบายอากาศได้ทำให้ไม่อึดอัด
- ราคาประหยัดและให้ความคุ้มค่าสูงมากเหมาะกับคนที่งบน้อย
ข้อควรพิจารณา
- รองเท้าน้ำหนักเบามากไปหน่อยหลายคนอาจจะไม่ชอบ
สี | Elemental pink/Sunset pulse/Black/Cyber |
---|---|
น้ำหนัก | 255 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกล |
NIKE React Infinity Run Flyknit 2 รองเท้าวิ่งผู้หญิง

ราคา 4,640 บาท*
Nike React Infinity Run Flyknit เป็นรองเท้าที่สร้างความฮือฮามากในปี 2020 ด้วยแคมเปญการตลาดที่สำคัญของ Nike ที่ส่งเสริมให้ Nike React Infinity Run Flyknit เป็นรองเท้าที่ช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บระหว่างวิ่ง ต่อมาทางแบรนด์ก็ได้ออกแบบเวอร์ชันที่ 2 ขึ้นมาโดยมีลักษณะคล้ายกับเวอร์ชันแรกแต่มีส่วนที่ปรับปรุงใหม่ สิ่งที่สะดุดตาในแวบแรกคือการซัพพอร์ตที่มั่นคง พื้นรองเท้ามีระบบลดแรงกระแทกแบบวางซ้อนสูงโดยอยู่ใต้ส้นรองเท้าที่ 33 มม. มีตัวคลิปหนีบ TPU ใต้อุ้งเท้าเพื่อล็อกเท้าให้อยู่กับที่ ส่วนบนเป็นนวัตกรรม Flyknit ที่มีความหนาแน่นมากขึ้นเพื่อการล็อกที่ดีขึ้นและทนทานยิ่งขึ้น ส่วนพื้นรองเท้าชั้นนอกมาพร้อมกับยางจำนวนมากเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความทนทานในการรักษารองเท้าให้ใช้งานได้นานขึ้น
จุดเด่นของสินค้า
- รองเท้าผ่านปรับปรุงส่วนบนเพื่อการล็อกเท้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- รองรับแรงกระแทกได้สบายพร้อมการเด้งกลับเพื่อซัพพอร์ตเท้า
- แข็งแรงทนทานและมาพร้อมน้ำหนักที่เหมาะสม
ข้อควรพิจารณา
- อัปเปอร์เป็นแบบใหม่อาจจะหลวมไปหน่อยสำหรับบางคน
สี | Black/Lime Ice/Magic Ember/White |
---|---|
น้ำหนัก | 281 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกลและวิ่งระยะสั้น |
NIKE Air Zoom Pegasus 38 รองเท้าวิ่งผู้หญิง

ราคา 5,000 บาท*
Nike Air Zoom Pegasus 38 เป็นรองเท้าวิ่งที่ออกแบบมาสำหรับการวิ่งทุกวัน ตัวรองเท้ามีซับกันกระแทกใหม่ที่ปลายเท้า รวมทั้งโฟมเพื่อการตอบสนองในทุก ๆ การวิ่ง เมื่อมีโฟมซัพพอร์ตรองเท้าจึงทนทานและน้ำหนักเบามาก ซึ่งเหมาะสำหรับนักวิ่งทุกระดับเลยค่ะไม่ว่าจะวิ่งระยะไกลหรือระยะสั้นก็เอาอยู่ พื้นรองเท้าชั้นกลางโดดเด่นด้วยโฟม Nike React ซึ่งให้ความเบา ยืดหยุ่นและแข็งแรง นอกจากนี้รองเท้ายังเป็นแบบ Air Zoom มีปลายเท้าที่ใหญ่เป็น 2 เท่าของรุ่นทั่วไปทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นรองรับในทุกการวิ่ง อีกทั้งยังทำให้รองเท้าใกล้ชิดกับเท้ามากขึ้นเหมือนไม่สวมรองเท้าอยู่ เมื่อสวมรองเท้าคอลเลกชันนี้จะมีความพอดีและสมบูรณ์แบบ มาพร้อมส่วนกันกระแทก ที่ปลายเท้าและโฟมเพื่อช่วยกันกระแทกได้ดีเยี่ยมค่ะ
จุดเด่นของสินค้า
- มีสายรัดส่วนกลางเท้าที่สามารถกระชับรอบเท้าของคุณเมื่อคุณผูกเชือกได้ดี
- น้ำหนักเบามากทำให้รู้สึกเบาสบายเมื่อวิ่ง
- ช่วยลดแรงกระแทกที่ปลายเท้าได้ดีมากจะไม่มีอาการเจ็บปวดเกิดขึ้นในระหว่างวิ่ง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนเท้ากว้างเพราะด้านบนแคบไปหน่อย
สี | Blue Tint/Regal Pink |
---|---|
น้ำหนัก | 260 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกลและวิ่งระยะสั้น |
NIKE ZoomX Invincible Run Flyknit รองเท้าวิ่งผู้หญิง

ราคา 5,120 บาท*
ขอบอกเลยว่า NIKE ZoomX Invincible Run Flyknit นั้นโดดเด่นมากเพราะตัวโฟม ZoomX ทำงานได้ดีกว่า Pegasus Turbo มากเลยทีเดียว ด้วยโฟม ZoomX ทำให้เราก้าวเท้าที่คล่องตัวและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น พื้นรองเท้าชั้นกลางเป็น Invincible ซึ่งประกอบด้วยโฟมเท่านั้น ส่วนบนของรองเท้าเป็น Flyknit ที่ระบายอากาศได้ดีมาก รองเท้ารุ่นนี้มีความหนาแน่นและแข็งพอที่จะทำให้ล็อกเท้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น ช่องของนิ้วเท้ากว้างพอที่จะรองรับเท้าที่กว้างกว่าได้ ท็อปของรองเท้าด้านบนสวมใส่สบายช่วยเสริมความแข็งแรง พื้นรองเท้าเป็นยางทั้งหมดและมีปุ่มสตั๊ดที่บางมาก ให้การยึดเกาะไร้ที่ติและให้ความทนทานที่สูงมาก ขอบอกเลยว่ารองเท้าคู่นี้เป็นรองเท้าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักวิ่งรุ่นมิดเดิ้ลเวทเพราะสามารถวิ่งระยะไกลได้อย่างสบาย ๆ
จุดเด่นของสินค้า
- รองเท้านุ่มและเด้งมากเหมือนกับเหยียบมาร์ชแมลโลว์อยู่
- อัปเปอร์ทำจากผ้านุ่มใส่สบาย สามารถระบายอากาศได้ดี
- ตอบโจทย์ในทุก ๆ ของการวิ่งโดยเฉพาะวิ่งทางไกล
ข้อควรพิจารณา
- พื้นรองเท้าด้านนอกเมื่อเสียดสีอาจจะมีเสียงบ้าง
สี | Purple |
---|---|
น้ำหนัก | 242 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกล |
NIKE Air Zoom Tempo NEXT% รองเท้าวิ่งผู้หญิง

ราคา 5,600 บาท*
Nike Air Zoom Tempo NEXT% มาพร้อมกับพื้นรองเท้าขนาดใหญ่ที่มีรูปทรงโค้งมนเพื่อรองรับเท้า มีแผ่นไนลอนที่ช่วยมอบความสบายระหว่างวิ่ง รองเท้านี้สวมใส่ได้สบายมาก มีโฟม ZoomX ที่รองรับแรงกระแทกได้ดี แม้ว่ารองเท้าชนิดนี้จะถูกสร้างเพื่อการวิ่งเร็ว แต่รองเท้าก็ไม่หนาแน่นมากเกินไป ทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อผูกเชือกเข้าด้วยกันสามารถวิ่งได้ 13 ไมล์ในคราวเดียวโดนไม่สร้างอาการบาดเจ็บ Nike Tempo Next% สร้างขึ้นเพื่อการเดินและวิ่งทางไกล ตัวรองเท้าสามารถใช้งานได้ยาวนานถึงแม้จะวิ่งเป็น 100 ไมล์แต่รองเท้ายังคงทนทานอยู่ Flyknit ด้านบนค่อนข้างระบายอากาศได้ดีแม้จะมีลักษณะเป็นพลาสติกแต่ก็ล็อกเท้าได้แม่นยำยิ่งขึ้นค่ะ
จุดเด่นของสินค้า
- ให้การสวมใส่ที่สะดวกสบายสุด ๆ พร้อมรองรับแรงกระแทกได้ดี
- ตัวรองเท้าสามารถปรับให้เข้ากับทุกความเร็วได้สบาย ๆ
- มีฟังก์ชันล็อกเท้าให้กระชับด้วย Toe Box ที่กว้างขวาง
ข้อควรพิจารณา
- รองเท้าที่ด้านบนอาจจะแคบไปหน่อยสำหรับบางคน
สี | White/Black/Washed coral/Pink blast |
---|---|
น้ำหนัก | 266 กรัม |
เหมาะสำหรับ | วิ่งทางไกล |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รองเท้าวิ่ง Nike สำหรับผู้หญิง รุ่นไหนดีที่สุด 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
วิธีทำความสะอาดรองเท้าวิ่ง
1. ขัดผ้ารองเท้าด้านบน
ห้ามใช้เครื่องซักผ้าทำความสะอาดรองเท้า เนื่องจากความร้อนและสารซักฟอกอาจเป็นอันตรายต่อกาวที่ยึดส่วนต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน แนะนำให้ทำความสะอาดส่วนบนที่สกปรกโดยใช้แปรงขนนุ่มขัดแทน ในการทำความสะอาดแนะนำให้ถอดเชือกรองเท้าออกแล้วซักแยกกันเพื่อการทำความสะอาดที่ทั่วถึงยิ่งขึ้น
2.ทำความสะอาดด้านล่างและด้านข้าง
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้การซักรองเท้าในเครื่องซักผ้าจะทำให้รองเท้าพังก่อนเวลาอันควร ดังนั้นเราขอแนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ กับผ้าหรือแปรงเพื่อทำความสะอาดพื้นรองเท้าชั้นกลางและพื้นรองเท้าชั้นนอก หากสกปรกหรือมีโคลนแนะนำให้ใช้น้ำยาล้างจานทำความสะอาด เพราะน้ำยาล้างจานเป็นตัวเลือกที่ดีและอ่อนโยนกว่าผงซักฟอก
3.ทำให้รองเท้าของคุณแห้ง
วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้รองเท้าวิ่งที่กำลังเปียกแห้งคือปล่อยให้รองเท้าแห้งด้วยอากาศหรือวางไว้หน้าพัดลม ไม่แนะนำให้ใช้เครื่องทำความร้อนเพื่อทำให้รองเท้าแห้งเพราะการวางรองเท้าวิ่งในเครื่องอบผ้าอัตโนมัติ (แม้ในความร้อนต่ำ) หรือหน้าช่องระบายอากาศที่อุ่นจะทำให้กาวและโฟมกันกระแทกเสียหายถาวร และทำให้รองเท้าสึกหรอเร็วมาก
หากรองเท้าของคุณมีคราบสกปรกเป็นพิเศษ คุณสามารถช่วยกระบวนการทำให้แห้งได้โดยการถอดแผ่นซับถุงเท้าและบรรจุหนังสือพิมพ์ยู่ยี่ซัก 2 – 3 แผ่นลงในรองเท้าเพื่อดูดซับความชื้นส่วนเกิน หากคุณไม่มีหนังสือพิมพ์ก็สามารถใช้กระดาษทิชชู่และที่กรองกาแฟก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าอยากประหยัดเวลาให้ใช้เครื่องอบรองเท้าที่มีประสิทธิภาพซึ่งมันจะช่วยหมุนเวียนอากาศภายในรองเท้าโดยไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับรองเท้าแต่อย่างใด