ปัญหาฟิตเนสปิด หรือไม่มีเวลาเดินทางไปยิม จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป หากคุณมีลู่วิ่งไฟฟ้าที่เป็นของคุณเอง ซึ่งมันจะให้คุณสามารถออกกำลังกาย เมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่มีการรบกวนจากสิ่งรอบตัว อีกทั้งยังคุ้มค่ามากกว่าการซื้อคอร์สในฟิตเนสเป็นไหน ๆ
“ลู่วิ่งไฟฟ้า” จะช่วยเผาผลาญพลังงานของเรา ช่วยเรียกเหงื่อในการออกกำลังกายได้ดี อีกทั้งยังสามารถบริหารร่างกายได้ทุกส่วนอีกด้วยค่ะ และที่สำคัญหากคุณมีลู่วิ่งเป็นของตัวเอง คุณก็สามารถเลือกความบันเทิงระหว่างวิ่งได้ อาจจะเป็นรายการทีวีหรือเพลงสำหรับวิ่งที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็น Pop, R&B, Rock หรือ Hip-hop ผ่านหูฟังบลูทูธและจอทีวีเครื่องใหญ่ ที่จะให้คุณได้สนุกเพลิดเพลินในระหว่างการออกกำลังกาย แหมมันช่างสะดวกจริง ๆ ใช่ไหมคะ และแน่นอนค่ะวันนี้เราก็มีสินค้าถึง 10 รายการมาให้คุณได้พิจารณาและเลือกซื้อกันค่ะ
ลู่วิ่งไฟฟ้า แบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
ลู่วิ่งไฟฟ้า VS Cross Trainers (ครอสเทรนเนอร์) แตกต่างยังไง?
ก่อนอื่นเลย เราต้องทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ลู่วิ่งไฟฟ้ากับ Cross Trainers ก่อนค่ะ ครอสเทรนเนอร์ เป็นเครื่องออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่เน้นการเผาผลาญพลังงานและไขมัน และไม่เน้นการกระแทกแรง ๆ ลักษณะการออกกำลังกายจึงไม่เหมือนการวิ่ง ที่ต้องมีการกระแทกตามข้อเข่า เหมาะสำหรับคนที่กระดูกไม่แข็งแรงหรือคนที่มีน้ำหนักเกินที่ไม่สามารถวิ่งได้ แต่ถือว่าอุปกรณ์ฟิตเนสที่ให้ใกล้เคียงกับการวิ่งมากที่สุด

9 วิธีเลือกซื้อ ลู่วิ่งไฟฟ้า ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ลู่วิ่งไฟฟ้าในบ้านนั้นถือว่าเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยม ที่จะทำให้คุณมีทางเลือกมากขึ้น สำหรับการออกกำลังกาย เมื่อคุณไม่สามารถไปยิมหรือออกไปข้างนอกได้ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าจะเป็นลู่วิ่งไฟฟ้าหรือไม่นั้น ให้พิจารณาปัจจัยเหล่านี้
1. งบประมาณ
หากคุณต้องการลู่วิ่งที่มีคุณภาพเทียบเท่าลู่วิ่งในโรงยิม คุณจะต้องจ่ายในราคาสูงมาก แต่ก็แลกมาด้วยความคุ้มค่าอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากคุณเป็นนักวิ่งมือใหม่ คุณควรเลือกลู่วิ่งที่มีราคาตามงบประมาณที่คุณสามารถจ่ายไหว และต้องคำนึงถึงคุณภาพด้วยว่าสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานหรือไม่ มีความแข็งแรงคงทนมากน้อยเพียงใด โดยคุณสามารถอ่านรีวิวลู่วิ่งได้จากรีวิวของผู้ใช้จริง
2. ความแรงของมอเตอร์
ลู่วิ่งไฟฟ้าส่วนใหญหากเป็นแบบใช้เล่นที่บ้าน มักจะมีความแรงของมอเตอร์ไม่สูง เพราะยิ่งความแรงสูงมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น โดยปกติแล้วลู่วิ่งไฟฟ้าที่บ้านจะมีความแรงอยู่ที่ประมาณ 1-4 แรงม้า ซึ่งเป็นความแรงที่เพียงพอต่อความต้องการในการออกกำลังกายทั่ว ๆ ไปแล้วค่ะ สำหรับคนที่รักในการวิ่ง คุณอาจจะต้องมองหาลู่วิ่งไฟฟ้าที่ราคาสูงขึ้น เพื่อที่จะได้ลู้วิ่งไฟฟ้าเทียบเท่าลู่วิ่งที่ใช้ในโรงยิมหรือฟิตเนส หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าความแรงของมอเตอร์นั้นสำคัญอย่างไร? แน่นอนค่ะว่ายิ่งมีความแรงของมอเตอร์มาก ความเร็วของเครื่องสูงสุดก็จะมากขึ้นด้วย ความเร็วของเครื่องก็คือความเร็วในการวิ่งนั้นเองค่ะ
ดังนั้นเราควรเลือกกำลังมอเตอร์ตามความต้องการ และความเหมาะสมที่เราสามารถใช้ได้จริง บางคนเลือกลู่วิ่งที่มีแรงม้าสูงไว้ก่อน แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับใช้งานไม่ถึงตามที่ซื้อไว้ก็มีเยอะไปนะคะ
กำลังมอเตอร์ | น้ำหรักผู้วิ่งที่เหมาะสม | การใช้งาน |
1 แรงม้า | 45-55 kg | เดินช้าหรือเดินเร็ว |
1.5 แรงม้า | 55-65 kg | เดินช้าหรือเดินเร็ว |
2 แรงม้า | 65-80 kg | วิ่ง |
2.5 แรงม้า | 70-90 kg | วิ่ง |
3 แรงม้าขึ้นไป | 100 kg ขึ้นไป | วิ่ง |
3. ขนาดของลู่วิ่ง พับเก็บได้
คุณควรตรวจสอบขนาดของลู่วิ่งที่คุณสนใจอย่างละเอียด เพราะบางรุ่นมีขนาดใหญ่มาก คุณอาจจะมีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการจัดวางลู่วิ่งในห้องนั้น ๆ แต่ลู่วิ่งหลาย ๆ รุ่นก็สามารถจัดพับเก็บได้ นี่จึงอาจเป็นทางเลือกอีกที่ดีในการพิจารณาเลือกซื้อลู่วิ่งของคุณ เพราะคุณสามารถพับเก็บให้เรียบร้อยหลังการใช้งานได้ ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นได้ดี โดยเฉพาะรุ่นที่พับสูงสุดถึง 90 องศา ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างประหยัด อาทิเช่น คอนโด หอพัก หรืออพาร์ทเม้นท์ เป็นต้น นอกจากนี้ก่อนซื้อลู่วิ่งคุณควรเตรียมและหาพื้นที่ในวางหรือติดตั้งลู่วิ่งไฟฟ้าก่อนซื้อ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาพื้นที่ไม่เพียงทีหลังได้ค่ะ

4. ความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้า
ความเร็วของลู่วิ่งไฟฟ้าจะขึ้นกับกำลังมอเตอร์ที่เราเลือกว่ากี่มากน้อยเท่าไหร่ ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างลู่วิ่งไฟฟ้าในครัวเรือนและลู่วิ่งในเชิงพาณิชย์หรือในฟิตเนส คือความเร็วสูงสุดที่มีให้ ลู่วิ่งในฟิตเนสส่วนใหญ่มักจะมีความเร็วถึง 19-22.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ลู่วิ่งที่ที่ใช้ในครัวเรือนมักจะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 12-16 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรืออาจจะต่ำกว่านั้นขึ้นอยู่ราคา ซึ่งคุณจะเลือกตามความชอบหรือความเหมาะสมในการใช้งานจริง รวมถึงงบประมาณที่คุณมีด้วยค่ะ
ความเร็ว | การใช้งาน |
0-5 km/hr | เดินเร็ว |
6-10 km/hr | จ็อกกิ้ง |
11-15 km/hr | วิ่งเร็ว |
16-20 km/hr | สปรินท์ |
5. ขนาดของสายพาน
ขนาดของสายพาน ก็เป็นอีกสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ ยิ่งมีขนาดกว้างและยาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งวิ่งได้อิสระมากขึ้นเท่านั้น โดยขนาดความกว้างขั้นต่ำ สำหรับที่จะแน่ใจได้ว่าคุณสามารถวิ่งได้อย่างสะดวก คือ 40-45 cm ส่วนความยาวของสายพานนั้น ถ้าเป็นขนาดพื้นฐานเราขอแนะนำที่ 120 cm หากคุณต้องการเลือกจากการใช้งาน ก็ดูว่าคุณเน้นใช้งานแบบไหน ถ้าคุณเน้นเดินช้าหรือเดินเร็ว ก็ไม่ควรต่ำกว่า 100 cm หรือถ้าคุณต้องการวิ่งทั่ว ๆ ไป ความยาวไม่ควรต่ำกว่า 120 cm นอกจากนี้ส่วนสูงเองก็เป็นอีก หนึ่งปัจจัยในการเลือกความยาวของสายพานเช่นกันค่ะ หากคุณสูงเกิน 180 cm คุณจะต้องใช้สายพานอย่างน้อย 130 cm สำหรับการเดิน และสายพานขนาด 140 cm สำหรับการวิ่ง
การใช้งาน | ความยาวสายพาน |
เดินช้าหรือเดินเร็ว | > 100 cm |
วิ่งทั่ว ๆ ไป | > 120 cm |
การใช้งาน ผู้ที่สูงเกิน 180 cm | ความยาวสายพาน |
เดินช้าหรือเดินเร็ว | > 130 cm |
วิ่งทั่ว ๆ ไป | > 140 cm |
6. ความชันของลู่วิ่งไฟฟ้า
ลู่วิ่งส่วนใหญ่จะสามารถปรับระดับความชันได้อยู่ที่ 0% -15% จากพื้น อย่างไรก็ตามบางรุ่นก็สามารถเพิ่มความชันได้มากถึง 40% ทำให้เป็นลู่วิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโหมดการวิ่งบนเนินเขา ยิ่งสามารถปรับความชันได้มากเท่าไร่ ก็ยิ่งออกกำลังกายเผาผลาญไขมันได้มากเท่านั้น ซึ่งสามารถปรับความชันได้ 2 แบบ คือปรับด้วยตัวเองและใช้ปุ่มกดในการปรับ บางเครื่องอาจจะมีฟังก์ชันปรับความเองอัตโนมัติ
7. การรับแรงกระแทก และความเสถียร
ลู่วิ่งที่ดีควรดูดซับแรงกระแทกได้ดี และสายพานไม่ควรขยับไปมาทุกครั้งจากการรับแรงกระแทกที่เท้า ยิ่งลู่วิ่งรับแรงกระแทกได้ดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งลดอาการบาดเจ็บจากข้อเข่าเสื่อมสภาพระหว่างการวิ่งได้มากเท่านั้น ซึ่งการรองรับแรงกระแทกนั้นก็แล้วแต่เทคโนโลยีของแต่แบรนด์ที่ใช้ในการผลิต สำหรับความเสถียรนั้น ลู่วิ่งที่ความเสถียรดีไม่ควรสั่น เมื่อคุณวิ่งหรือเดินบนเครื่อง
8. โปรแกรมที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
สำหรับบางโปรแกรมตั้งไว้ล่วงหน้านั้น มันเป็นเรื่องที่สามารถช่วยเราได้จริง ๆ บางเครื่องสามารถตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าได้ 12-15 โปรแกรม ซึ่งหมายความว่าคุณจะไม่พลาดความสนุกในการเผาพลาญพลังงานอย่างแน่นอน 🙂
9. การรับประกันสินค้า
อย่างน้อยที่สุดแล้วลู่วิ่งควรจะมีการรับประกัน 2 ปี เป็นขั้นต่ำแต่หากมากกว่านั้นก็จะดีสำหรับคุณค่ะ ควรเลือกสินค้าที่มีประกันทุกครั้ง เพราะหากเกิดความเสียหายก็สาามารถส่งเคลมได้ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับวิธีเลือกลู่วิ่งไฟฟ้า เราหวังว่าคุณจะมีสเปคของสินค้าไว้ในใจแล้วนะคะ และอย่าลืมว่าก่อนซื้อต้องหาที่จัดวางสำหรับลู่วิ่งก่อนนะคะเพราะอาจจะไม่มีที่วางในภายหลัง อีกทั้งควรเลือกสินค้าที่มีการรับประกันสินค้าทุกครั้ง ข้อนี้สำคัญมาก ๆ ค่ะทุกคน ตอนนี้ทางเราได้รวบรวมข้อมูลไว้แล้ว ไปเลือกกันเลยค่ะ
THAI SUN SPORT ลู่วิ่งไฟฟ้า พร้อมเครื่องสั่นสลายไขมัน รุ่น TA07

ราคา 6,390 บาท*
จุดเด่น
- มีเครื่องสั่นสลายไขมัน เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการสลายไขมันที่หน้าท้อง
- หน้าจอมีลำโพง และช่องเสียบ AUX, USB, MP3 ที่มาพร้อมวัดชีพจรในตัว
ข้อควรพิจารณา
- การติดตั้งหรือประกอบอาจลำบากเล็กน้อยและใช้เวลาค่อนข้างนาน
กำลังมอเตอร์ | 2 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 0.8-12 km/hr |
ขนาดสายพาน | 110 x 40 cm |
รองรับน้ำหนัก | 100 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | 1 ปี |
B&G ลู่วิ่งไฟฟ้าและที่วัดชีพจร รุ่น F18

ราคา 7,590 บาท*
จุดเด่น
- Application ใช้ได้ทั้งกับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
- มีฟังก์ชั่นตรวจจับชีพจร
ข้อควรพิจารณา
- แม้ปรับความชันได้ 3 ระดับ แต่เป็นระดับเพียงแค่ 0-5 องศาเท่านั้น อีกทั้งจะต้องปรับด้วยมือ ไม่มีปุ่มกดแบบปรับเองอัติโนมัติ จึงอาจจะไม่สะดวกสบายในการวิ่งเท่าที่ควร
กำลังมอเตอร์ | 3 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 0.8-12 km/hr |
ขนาดสายพาน | 120 x 41 cm |
รองรับน้ำหนัก | 100 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | 1 ปี |
KING FITNESS รุ่น KF-DK32At AUTO Incline (3.5แรงม้า)

ราคา 8,790 บาท*
KING FITNESS รุ่น KF-DK32At ขนาด 3.5 แรงม้า เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีฟังก์ชันครบถ้วนและระบบสุดอัจฉริยะ อย่างการปรับความชันของเครื่องได้กว่า 18 ระดับ หรือจะเป็นการเชื่อมต่อเครื่องกับแอปพลิเคชันของทางแบรนด์ ที่จะคอยแนะนำให้คุณได้วางแผนการออกกำลังและการแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังที่ถูกต้อง เปรียบเสมือนกับได้เทรนเนอร์ส่วนตัวมาเทรนให้ถึงที่ภายในบ้าน ทั้งนี้ยังมีการรองรับ MP3 และสาย AUX สำหรับเชื่อมต่อเพื่อการเปิดเพลง ในขณะเดียวกันระบบความปลอดภัยของเครื่องเองก็ดีไม่แพ้ไปกว่ากัน เพราะมันจะมี Auto-Lubrication System ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนให้หยอดน้ำมันเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเกิดปัญหาการติดขัด หรือจะเป็น Six-Level Shock Absorption ที่ทำหน้าที่ในการซัพพอร์ตเข่าและข้อเท้า ส่วน Safety Key ก็เป็นกุญแจหยุดเครื่อง เมื่อเกิดอันตรายข้ึนในระหว่างการวิ่ง
จุดเด่น
- ซัพพอร์ตเข่าและข้อเท้าด้วยเทคโนโลยี Six-Level Shock Absorption
- ระบบ Auto-Lubrication System ที่จะแจ้งเตือนให้หยอดน้ำมันให้กับเครื่อง
- รองรับการเล่นเพลง MP3 และมีสายต่อ AUX
- ปรับความชันได้กว่า 18 ระดับ
- มี Safety Key ที่จะหยุดเครื่องทันทีเมื่อเกิดอันตรายระหว่างการออกกำลังกาย
ข้อควรพิจารณา
- ระบบบลูทูธอาจไม่ค่อยเสถียร
- เครื่องอาจมีการทำงานที่เสียงดังเล็กน้อย
กำลังมอเตอร์ | 3.5 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 1 - 16 km/hr |
ขนาดสายพาน | 126 x 42 cm |
รองรับน้ำหนัก | 130 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | 1 ปี |
ลู่วิ่งไฟฟ้า KingSmith K12

ราคา 11,900 บาท*
จุดเด่น
- ระบบ 2in1 เลือกได้ระหว่างฟังก์ชันเดินและวิ่ง
- รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 120 กิโลกรัม
- มอเตอร์มีประสิทธิภาพ นำเข้ามาจากประเทศเยอรมัน
ข้อควรพิจารณา
- พื้นที่บนลู่วิ่งอาจแคบเล็กน้อย ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่วิ่งกว้าง ๆ
กำลังมอเตอร์ | 1 - 3 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 0.8 - 12 km/hr |
ขนาดสายพาน | 148 x 79.2 cm |
รองรับน้ำหนัก | 100 - 120 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | 1 ปี |
Gsports ลู่วิ่งไฟฟ้า พร้อมที่ปั่นเอว GS-T880CM

ราคา 12,900 บาท*
จุดเด่น
- มีฟังก์ชั่นตรวจจับชีพจร อัตราการเต้นหัวใจ
- มีฟังก์ชั่นพิเศษ มอเตอร์บริหารเอว และเป็นเครื่องนวดในตัว
ข้อควรพิจารณา
- ขนาดของลู่วิ่งอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบลู่วิ่งแบบกว้าง ๆ
- หากเปรียบเทียบกับน้ำหนักที่สามารถรองรับได้อาจจะไม่เยอะเท่ากับลู่วิ่งตัวอื่น ๆ
กำลังมอเตอร์ | 1.5 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 0.8-10 km/hr |
ขนาดสายพาน | 40 x 102 cm |
รองรับน้ำหนัก | 90 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | มอเตอร์ 2 ปี |
ลู่วิ่งไฟฟ้า Amazfit Airrun Smart Treadmill

ราคา 15,990 บาท*
Amazfit สามารถนำไปใช้ได้ภายในห้องทุกขนาด เพราะการดีไซน์ของเครื่องจะสามารถพับเก็บได้ และยังใช้เวลาในการพับเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น ช่วยประหยัดพื้นที่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนด้านหลังของเครื่องจะออกแบบให้สามารถ Build-in ลำโพงคุณภาพอย่าง JBL ได้ ซึ่งตรงนี้จะช่วยทำให้การออกกำลังกายของคุณสนุกและเพลิดเพลินไปกับเพลง ส่วนฟังก์ชันของเครื่องก็จะมีการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจและนาฬิกา Amazfit ที่จะช่วยทำให้คุณประเมินร่างกายและเพิ่มความปลอดภัยในขณะออกกำลังกาย รวมไปถึงระบบการแจ้งเตือนเพื่อให้คุณแก้ไขจุดที่บกพร่องบนเครื่อง อย่างไรก็ดีถ้าหากเกิดการล้มลงบนลู่วิ่ง ตัวเครื่องก็จะซัพพอร์ตเข่าของคุณไม่ให้ได้รับอันตรายที่รุนแรง
จุดเด่น
- สามารถติดตั้งลำโพง JBL เข้าไปได้
- มีระบบ Amazfit ที่คอยประเมินร่างกายและการเต้นของหัวใจ
- พับเก็บได้รวดเร็วภายใน 5 วินาที
- มีระบบที่คอยแจ้งเตือนให้ตรวจสอบและซ่อมเครื่อง
ข้อควรพิจารณา
- การเคลื่อนย้ายไปตามจุดต่าง ๆ อาจลำบากเพราะเครื่องมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ
กำลังมอเตอร์ | 1.25 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 14.48 km/hr |
ขนาดสายพาน | 130 x 50 cm |
รองรับน้ำหนัก | 100 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | 1 ปี |
TEMPO ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น T81

ราคา 16,900 บาท*
จุดเด่น
- มีฟังก์ชั่นวัดอัตราการเต้นหัวใจ
- มีโหมดประหยัดพลังงาน ที่ช่วยให้คุณวิ่งออกกำลังกายโดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของค่าไฟแต่อย่างใด
- ใช้เทคโนโลยี IdealZone Cushioning System และ Variable Response Cushioning ในการรองรับแรงกระแทก ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลในการวิ่งให้ดีขึ้นได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานภายในยิม
- ขนาดความกว้างของลู่วิ่งอาจจะแคบไปสำหรับบางคน
กำลังมอเตอร์ | 1.75 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 0.8-15 km/hr |
ขนาดสายพาน | 135 x 42 cm |
รองรับน้ำหนัก | 115 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | 1 ปี |
FITEX ลู่วิ่งไฟฟ้า F1 AC 5 แรงม้า

ราคา 31,190 บาท*
ลู่วิ่งไฟฟ้า FITEX เป็นลู่วิ่งไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่ได้ความนิยมในหมู่นักออกกำลังกาย มาพร้อมมอเตอร์ AC 5 แรงม้า สามารถเทียบเท่ากับลู่วิ่งที่ใช้ในฟิตเนสเลยทีเดียวแต่มีราคาที่ประหยัดกว่า ลู่วิ่งไฟฟ้ามีความเร็วอยู่ที่ 1 -20 km/hr สามารถปรับความชันไฟฟ้าได้ถึง 20 ระดับ ตัวเครื่องทำงานเงียบและไร้เสียงรบกวน ความพรีเมียมมันอยู่ตรงที่ว่าเราสามารถเลือกหน้าจอแสดงผลได้ค่ะ แบบแรกคือหน้าจอ LCD 7.5 นิ้ว แบบที่ 2 คือ หน้าจอระบบสัมผัส 10.1 นิ้วแถมระบบ Wifi มาให้ด้วย โดยราคาของหน้าจอระบบสัมผัสจะแตกต่างจากราคาของหน้าจอ LCD ประมาณ 4,000 บาทค่ะ แต่ให้ความคุ้มค่าที่สูงมาก ในระบบหน้าจอจะมีโปรแกรมออกกำลังกายถึง 12 โปรแกรมและมาพร้อมลำโพงขนาดใหญ่ทำให้ฟังเพลงได้อย่างสะดวก ในเรื่องของความแข็งแรงนั้นลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 170 กิโลกรัมเลยทีเดียวค่ะ
จุดเด่น
- ลู่วิ่งมีความกว้างพิเศษทำให้วิ่งได้อย่างสะดวก
- สามารถวิ่งได้ยาวและต่อเนื่องเพราะมอเตอร์มีแรงสูง
- ติดตั้งได้ง่ายมาก ใช้เวลาในการติดตั้งไม่ถึง 20 นาที
- ออกแบบให้รองรับแรงกระแทกได้ดี จึงส่งผลให้เครื่องทำงานเงียบไร้เสียงรบกวน
ข้อควรพิจารณา
- ลำโพงอาจจะมีคลื่นเสียงและคลื่นสัญญาณแทรกอยู่บ่อยครั้ง
- มีหน้าจอแต่รองรับได้แค่ Chrome ไม่สามารถใช้กับแอปพลิเคชันอื่น เช่น Netflix ได้
- อัตราการเต้นของหัวใจในระบบมีความคลาดเคลื่อนอาจจะต้องสวมนาฬิกาวัด Heart rate เพิ่มหากต้องการความแม่นยำ
กำลังมอเตอร์ | 5 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 1 - 20 km/hr |
ขนาดสายพาน | 145 x 58 cm |
รองรับน้ำหนัก | 170 kg |
พับจัดเก็บได้ | ✔ |
การรับประกัน | 1 ปี |
FIT 2 FIRM ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น DK-55AD

ราคา 37,900 บาท*
จุดเด่น
- ปรับความชันได้ 0-18% เพียงใช้ปุ่มกดเท่านั้น
ข้อควรพิจารณา
- ไม่สามารถทำความสะอาดด้วยสารเคมีหรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรดได้
- ต้องวางตัวเครื่องไว้ภายในอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป เพราะมอเตอร์อาจได้รับความเสียหาย
กำลังมอเตอร์ | 4 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 1-18 km/hr |
ขนาดสายพาน | 140 x 55 cm |
รองรับน้ำหนัก | 140 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | 1 ปี |
World Master Fitness ลู่วิ่งไฟฟ้า รุ่น GT5

ราคา 39,900 บาท*
จุดเด่น
- เพิ่มโปรแกรมได้เอง 3 โปรแกรม
- มีลำโพงมีระบบ Hi-Fi ที่มีกำลังสูง
- มีฟังก์ชันวัดอัตราการเต้นของหัวใจ Hand Pulse
- สามารถวิ่งได้ต่อเนื่อง 8-24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพักเครื่อง
- ใช้ Shock-Absorber ที่เป็นสปริงรองรับแรงสั่นสะเทือนจากการกระแทกได้ดี
- รองรับการทำงานของระบบป้องกันอัคคีภัยได้ 2 ระดับ ทั้งหยุดฉุกเฉินและหยุดนิ่ง
ข้อควรพิจารณา
- ลู่วิ่งเครื่องนี้ไม่สามารถพับจัดเก็บแบบประหยัดพื้นที่ได้ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่เพียงพอต่อการติดตั้งใช้งาน
กำลังมอเตอร์ | 4 แรงม้า |
---|---|
ความเร็ว | 1 - 18 km/hr |
ขนาดสายพาน | 146 x 52 cm |
รองรับน้ำหนัก | 150 kg |
พับจัดเก็บได้ | |
การรับประกัน | 1 ปี |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว 10 อันดับ ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
THAI SUN SPORT ลู่วิ่งไฟฟ้า พร้อมเครื่องสั่นสลายไขมัน รุ่น TA07 |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับลู่วิ่ง
1. การลดน้ำหนัก
- ลู่วิ่งได้ช่วยให้ผู้คนหลายคนประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักตามเป้าหมาย
- การเดินการวิ่งเหยาะ ๆ และวิ่งบนลู่วิ่ง สามารถช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรี่ส่วนเกินได้มาก สามารถเสริมสร้างความแข็งแรงและสุขภาพของหัวใจรวมถึงปอดอีกด้วย
- การเดินและวิ่งจ๊อกกิ้งบนลู่วิ่ง เป็นสิ่งที่ดีสำหรับการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจในโซนที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการลดน้ำหนักและคนที่ต้องการความฟิต
- คุณควรวิ่งด้วยลักษณะการวิ่งที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งควรวิ่งด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ และไม่ควรจับราวหรือจับอะไรระหว่างวิ่ง
2. การฝึกหนักเกินไป
- หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดที่ คือพวกเขาเริ่มออกกำลังกายครั้งแรก ด้วยการเดินวิ่งเหยาะ ๆ หรือวิ่งเร็วเกินไป
- การฝึกหนักเกินไปในช่วงเริ่มต้นของโปรแกรมการเดินหรือวิ่งจ๊อกกิ้ง อาจนำไปสู่การบาดเจ็บ และอาจกระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากเลิกออกกำลังกาย เพราะคุณรู้สึกว่าหนักเกินไป และไม่คุ้มค่ากับความพยายามทั้งหมด
- ลู่วิ่งบางรุ่นมีฟังก์ชันที่สามารถปรับความเร็วของสานพานเดินได้โดยการตรวจอัตราการเต้นของหัวใจของคุณ
- ควรจะค่อย ๆ ปรับระดับการวิ่งเริ่มต้นอย่างช้า ๆ เแล้วปรับระดับความเร็วไปถึงจุดหนึ่งที่เริ่มรู้ว่าไม่ไหวแล้ว ให้ค่อย ๆ ลดความเร็วมาอยู่ในระดับที่ยังพอเดินได้ และค่อยเร่งความเร็วเพื่อจะวิ่งต่ออีกครั้ง ทำอย่างนี้สลับไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย 30 นาที อย่าลืมวอร์มอัพและวอร์มดาวน์ทุกครั้ง
3. ลู่วิ่งสามารถจำลองการเดินขึ้นเขาได้
คุณสามารถจำลองการเดินหรือวิ่งขึ้นเขา ซึ่งจะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และแน่นอนมันจะเผาผลาญแคลอรีมากขึ้นทุกนาทีที่คุณออกกำลังกายเช่นกัน
4. ดูทีวีในระหว่างการวิ่ง
จริง ๆ แล้วไม่แนะนำให้ดูทีวีระหว่างการวิ่ง เพราะจะทำให้คุณวิ่งผิดท่าและจะส่งผลเสียให้คุณบาดเจ็บขณะการวิ่งได้ กรณีต้องการเปิดทีวีในการวิ่งควบคู่ไปด้วยจริง ควรจะให้จอทีสีนั้นอยู่ตรงหน้าลู่วิ่งพอดี เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเกร็งกล้ามเนื้อส่วนคอไปมา อาทิเช่น ต้องก้มหน้า หรือต้องชะเง้อ เป็นต้น แต่ถ้าคุณชอบฟังเพลง คุณอาจจะใช้หูฟังไร้สายหรือลำโพงดี ๆ สักตัว เปิดระหว่างการออกกำลังกายไปด้วยก็ได้ค่ะ
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับลู่วิ่งไฟฟ้าที่ได้นำเสนอกันไปในวันนี้ เราหวังว่าคุณจะสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างถูกใจนะคะ
และหากจะพูดถึงการออกกำลังกายที่บ้านหรือโฮมฟิตเนสนั้น ถือว่าปัจจุบันนี้ได้มีวิธีการออกกำลังกายต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจักรยานออกกำลังกายที่บ้าน ที่จะช่วยให้ขาของคุณกระชับและปราศจากไขมันส่วนเกิน อย่างแทรมโพลีนเองก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่ได้ทั้งสุขภาพเกี่ยวกล้ามเนื้อและความสนุก สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หรือจะเป็นการยกดัมเบลหรือลูกกลิ้งบริหารหน้าท้องที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่ในการออกกำลังกายอย่างจำกัด อีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์เวทเทรนนิ่งที่หาซื้อได้ง่าย แม้แต่การต่อยมวยที่ใช้แค่กระสอบและนวม ก็ดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ไม่ยากเช่นกัน ถือได้ว่าเป็นกีฬาที่สร้างกล้ามเนื้อได้และเผาผลาญพลังงานได้ดี นอกจากนี้ยังมีโยคะที่เป็นกิจกรรมยอดฮิตสำหรับคุณผู้หญิง เพียงแค่ใช้เสื่อโยคะหรือลูกบอลโยคะ ก็สามารถออกกำลังกายได้แล้ว แต่สำหรับผู้หญิงเรานั้นเนื่องด้วยสรีระทางร่างกาย เราอาจจะต้องพิถีพิถันในการเลือกใช้เกงกางเลกกิ้ง และ Sport Bra หน่อย หากคุณไม่อยากให้ส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของคุณหย่อนยาน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของก้น หรือทรวงอก ก็ล้วนแต่ต้องการการดูแลเข้าใจเป็นพิเศษนะคะ 🙂
และนอกจากออกกำลังกายแล้วอย่าลืมรับประทานอาหารรให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะโดยเฉพาะโปรตีน เพราะโปรตีนมีส่วนในการช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและส่วนที่สึกหรอของร่างกาย แต่ถ้าหาากคุณอยากได้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบโปรตีนล่ะก็ เราขอแนะนำ เวย์โปรตีน ซึ่งตัวเวย์จะช่วยให้คุณมีกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แข็งแรงและจะได้ผลดีมากขึ้นหากคุณรับประทานควบคู่ไปกับการออกกำลังกายค่ะ