หลังจากที่บทความที่แล้วเราได้รีวิวบุฟเฟ่ต์ในกรุงเทพ ที่มีทั้งอาหารญี่ปุ่น, อาหารจีน, อาหารเกาหลี รวมถึงอาหารทะเล กันไปแล้ว ในบทความนี้เราชวนเพื่อน ๆ มาทานบุฟเฟ่ต์นานาชาติของทางโรงแรมกันบ้างค่ะ บอกเลยว่าเรื่องของรสชาตินั้นไม่เป็นสองรองใคร เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารโรงแรมแต่รสชาตินั้นอร่อยเด็ดดวง!! ไม่ได้จืดชืดอย่างที่คิดเลยค่ะ แถมวัตถุดิบที่ใช้ก็เป็นเกรดพรีเมียมที่นำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโซน Seafood on Ice ก็ดีหรือจะเป็นโซน Carving Station ก็ดี ใครที่เป็นชอบทานปูอลาสก้า, ล็อบสเตอร์, กุ้งแม่น้ำ, แซลมอน, หอยนางรมนำเข้า, ขาแกะ, เนื้อวากิว, ฟัวกราส์ หรือแม้แต่สายชีสเลิฟเวอร์ จะต้องถูกใจบทความในวันนี้แน่นอนค่ะ เพราะเราได้รวบรวม 13 บุฟเฟ่ต์โรงแรมในกรุงเทพที่อร่อย คุ้มค่า และมีคุณภาพไว้ให้คุณแล้ว อย่ารอช้ามาดูกันค่ะว่าจะเป็นบุฟเฟ่ต์โรงแรมไหนน่าสนใจบ้าง!!
1. Atrium @ The Landmark Bangkok
เอเทรี่ยม @ โรงแรม เดอะ แลนด์มาร์ค กรุงเทพ

เวลา | 3 ชั่วโมง 15 นาที |
ราคา | 3,200 Baht Net |
เปิดให้บริการ | วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.45 – 15.00 |
จองล่วงหน้า | 02 2540404 |
พิกัด | 138 ถ. สุขุมวิท แขวง คลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (Google Map) |
หากจะพูดถึงบุฟเฟ่ต์ที่มีปูไข่ดองและกุ้งแม่น้ำเผาตัวโต ๆ ในนาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักบุฟเฟ่ต์จากห้องอาหาร Atrium ของโรงแรม The Landmark Bangkok อย่างแน่นอนค่ะ เพราะทางโรงแรมได้ใช้กุ้งแม่น้ำจากอยุธยาในขนาด 6-7 ตัวต่อกิโลกรัมเชียวค่ะ และเป็นบุฟเฟ่ต์ที่เราสามารถสั่งกุ้งแม่น้ำทานได้แบบไม่อั้น!! ที่สำคัญคือกุ้งตัวใหญ่จริง ไม่จกตา ทั้งยังสด สะอาด เนื้อเด้ง และหวานมาก เสิร์ฟมาแบบย่างด้วยถ่านไม้ ยิ่งหอมเตะจมูก ทานพร้อมกับมันกุ้งเยิ้ม ๆ และน้ำจิ้มซีฟู้ดยิ่งเข้ากันดี ซึ่งน้ำจิ้มซีฟู๊ดของที่นี่อร่อยรสจัดแบบไทยแท้เลยค่ะ ในส่วนของปูไข่ก็เป็นปูจากตำบลคลองโคนจังหวัดสมุทรสงคราม ไม่ว่าจะเป็น เมนูปูไข่นึ่งนมสดแบบทั้งตัวหรือจะเป็นปูไข่ดองก็ดี ต่างก็มีไข่แน่นเต็มทุกกระดอง เรียกว่านาทีนี้ไม่มีอะไรจะฟินได้เท่ากับการทานบุฟเฟ่ต์ Atrium Landmark อีกแล้วนะคะ
ในส่วนของเมนูอื่น ๆ นั้นก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เพราะไม่ว่าจะเป็น ซี่โครงหมู BBQ เนื้อนุ่ม, ซุปครีมเห็ดทรัฟเฟิลที่เข้มข้นถึงใจมีความครีมมี่ตามฉบับรสชาติของฝรั่งเศส, สเต็กเนื้อดรายเอจไพร์มริบนุ่ม ๆ ชุ่มฉ่ำกริลล์มาแบบมีเดียมแรร์, พาสต้าเส้นแก้มวัวตุ๋นเนื้อเปื่อยนุ่มรสเข้าเนื้อ, เตี๋ยวเรือเนื้อวากิว & หมูคุโรบุตะรสชาติเข้มข้น หรือจะเป็นข้าวซอยจากตำรับเชียงใหม่อาหารเหนือยอดนิยมที่รสชาติจัดจ้านถึงเครื่อง ในส่วนของ Seafood on Ice นั้นก็ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะได้ยกทัพอาหารทะเลสดมาไว้หมดแล้วทั้งกุ้ง, กั้ง, หอยนางรม, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ตามด้วยเมนูปลาดิบอย่างซูชิ ซาชิมิ ที่มีให้เลือกทานหลากหลาย สำหรับอาหารจีนนั้นก็มาจากห้องอาหาร Sui Sian ของทางโรงแรม บอกเลยว่ารสชาติไม่ธรรมดาทั้งเป็ดปักกิ่ง, หมูกรอบ หรือติ่มซำ ส่วนอาหารไทยนั้นก็ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะรสชาติอาหารไม่ใช่รสชาติกลาง ๆ ตามสไตล์โรงแรมนะคะ แต่เป็นรสชาติคนไทยที่เข้มข้นจัดจ้าน แนะนำว่ามาแล้วอย่าลืมแวะโซนอาหารไทยและขนมไทยด้วยนะคะ ในส่วนของโซนชีสนั้นก็มีทั้ง Brie Cheese, Blue cheese และ Camembert Cheese พร้อมผลไม้อบแห้ง แครกเกอร์และโคลด์คัทให้ทานแบบจุก ๆ ไปเลยจ้า
2. JW Café @ JW Marriott Hotel Bangkok
เจดับบลิว คาเฟ่ @ โรงแรม เจ ดับบลิว แมริออท กรุงเทพ

เวลา | 3 ชั่วโมง |
ราคา | 2,972 Baht Net |
เปิดให้บริการ | วันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 15.00 |
จองล่วงหน้า | 02 656 7700 |
พิกัด | 4 ถ. สุขุมวิท แขวง คลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (Google Map) |
บุฟเฟ่ต์จากห้องอาหาร JW Café นั้นมีบริการบุฟเฟ่ต์หลายประเภทมากค่ะ ทั้งบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อเช้า, มื้อกลางวัน, มื้อค่ำหรือจะเป็นซันเดย์บรันช์ ซึ่งแต่ประเภทก็จะมีราคาและไลน์อาหารต่างกันออกไป แต่ในวันนี้เราจะมารีวิว International Sunday Brunch Buffet ที่เสิร์ฟสปาร์คกลิ้งไวน์แบบไม่จำกัดกันค่ะ โดยมาเริ่มกันที่โซน Seafood on Ice ที่ทางโรงแรมได้จัดหนักจัดเต็มมาให้ไม่มีกั๊ก เพราะมีทั้งปู King Crab, Snow Crab และ Blue Crab สำหรับหอยนางรมนั้นมีด้วยกันถึง 4 สายพันธุ์คือ Jersey, Normandy, Fine de Claire และ Irish นอกจากนี้ก็ยังมีกุ้ง, กั้ง, กุ้งแม่น้ำ, หอยหวาน, หอยเชลล์, หอยตลับ, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และหอยหลอด จุดเด่นของนี่คืออาหารทะเลทุกชนิดมีความสด, เนื้อไม่เละ, รสชาติหวาน และมีขนาดใหญ่ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของสาย Seafood Lovers
ส่วนคนที่ชอบทานฟัวกราส์คุณก็สามารถสั่งได้แบบ All You Can Eat ส่วนตัวแล้วเราชอบซอสลูกเกดที่เสิร์ฟมาพร้อมกับฟัวกราส์มาก รสชาติซอสหวานนำ หากโรยเกลือกับพริกไทยดำอีกเล็กน้อยก็จะยิ่งเข้ากันได้ดีกับตัวฟัวกราส์ จุดเด่นอีกอย่างของบุฟเฟ่ต์คือ Carving Station ที่มีให้เลือกหลายหลากมาก มีทั้งปลาแซลมอนอบ, พาร์มริบอบ, ขาแกะอบ และหมูสามชั้นอบสไตล์อิตาเลี่ยน (Porchetta) ซึ่งแต่ละเมนูก็จะอบในความสุกกำลังดี มีความจูซีเบา ๆ ไม่แห้งเกินไป ไม่ฉ่ำเกินไป และไม่เหนียวเลยสักนิดค่ะ ยิ่งทานคู่กับซอสเกรวี่หรือซอสมิ้นต์รับรองว่าอร่อยเข้ากันมาก แนะนำเลยว่าต้องทานเนื้อแกะให้ได้นะคะ เพราะที่นี่ทำออกมาได้ดีมากจริง ๆ ค่ะ ไม่มีกลิ่นสาบ แถมเนื้อก็นุ่มกำลังดี หรือใครอยากทานพวกก๋วยเตี๋ยวเราขอแนะนำก๋ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นและก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อวากิวเลยค่ะ เป็นเมนูที่ขึ้นชื่อของทางโรงแรมเช่นกัน นอกจากนี้ใครอยากทานหมูฮ้องเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ตที่นี่ก็มีเช่นกันค่ะ รสชาติหวาน ๆ เค็ม ๆ เนื้อหมูนุ่มไม่แข็งไม่เหนียว ในส่วนของพาสต้าก็จะเป็นการทำตามออเดอร์ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการซอสแบบไหน เส้นแบบไหน หรือต้องการเนื้อประเภทอะไร รสชาติมีความครีมมี่สุด ๆ ส่วนใครที่เป็นสายชีสก็ไม่ต้องน้อยใจไปค่ะที่นี่มีชีให้คุณเลือกทานเยอะมาก
ในส่วนอาหารจีนนั้นก็มีทั้งหมูแดง, หมูกรอบ, เป็ดย่าง, ซุปเสฉวน และติ่มซำ หรือจะเป็นอาหารอินเดียก็มีให้เลือกเยอะมากค่ะ แต่แนะนำเลยว่าต้องทาน Mutter Paneer แกงชีสอินเดียใส่ถั่วลันเตาให้ได้นะคะ จริง ๆ แล้วอาหารอินเดียของทางโรงแรมทำออกมาได้ดีทุกเมนูเลยค่ะ ทั้งแกงไก่หรือแกงแกะ แต่แนะนำว่าอย่าทานเยอะไปเพระอาจจะเลี่ยนได้ประเดี๋ยวจะทานเมนูอื่นไม่คุ้มน๊า (อิอิ) และสุดท้ายคือของหวานก็มีทั้งขนมไทย, เค้ก, เบเกอรี่ และมูสต่าง ๆ มาในขนาดชิ้นเล็กพอดีคำ ทำให้เราสามารถทานได้หลายชิ้นหลายรส นอกจากนี้ใครที่อยากทานเครปสด ๆ ร้อน ๆ ทางโรงแรมก็มีบริการเช่นกันค่ะ และสุดท้ายขอร้องกริ้ดดัง ๆ เพราะมีรังผึ้งสดให้เราได้ทานด้วยนะคะ จะว่าแล้ว JW Café ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบุฟเฟ่ต์ที่มีไลน์อาหารเยอะมาก ทั้งยังมีคุณภาพตามมาตรฐานโรงแรม อย่าลืมไปลองทานกันให้นะคะ
3. Cuisine Unplugged @ Pullman Bangkok King Power
คิวซีน อันปลั๊ก @ โรงแรม พูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพ

เวลา | 4 ชั่วโมง 30 นาที |
ราคา | วันจันทร์ – พุธ 1,350 Baht Net วันพฤหัส – อาทิตย์ 1,850 Baht Net |
เปิดให้บริการ | บริการทุกวัน เวลา 18.00 – 22.30 น. |
จองล่วงหน้า | 02 680 9999 |
พิกัด | 8/2 ถนน รางน้ำ แขวง ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 (Google Map) |
Cuisine Unplugged เป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่มีอาหารให้เลือกทานเยอะมาก แต่สิ่งที่เป็น Highlight ของที่นี่ที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั้นก็คืออาหารซีฟู้ดซึ่งมีให้เลือกทานหลากหลายจริง ๆ ค่ะ และหนึ่งในนั้นก็คือขาปูอลาสก้าพระเอกของงานนี้ เพราะเป็นขาปูเกรดพรีเมียมที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งนอกจากมีปูอลาสก้าแล้ว ทางโรงแรมก็ยังทั้งกุ้งแม่น้ำ, กั้ง, ปูม้า, ปูหิมะ, หมึก, หอมแมลงภู่, หอยเชลล์, หอยนางรมอีก 3 สายพันธุ์ เอาเป็นว่าไลน์หอยของที่นี่ก็จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบไม่แพ้ใครเลยค่ะ รวมถึงพวกเมนูปลาดิบอย่างซาชิมิทั้งปลาแซลมอน ปลาโทโร่ และปลาหมึกก็มีให้ทานเช่นกัน ในส่วนของสเตชั่นสเต็กนั้นไม่พูดไม่ได้เลยค่ะเพราะให้เลือกเยอะมาก ซึ่งจะมีตั้งแต่ขาแกะย่างจากนิวซีแลนด์, ซี่โครงเนื้อย่าง, เนื้อวากิวย่าและเนื้อโทมาฮอว์คย่างจากออสเตรเลีย โดยเชฟจะย่างมาในระดับมีเดียมแรร์ที่เป็นความสุกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเนื้อสเต็ก รับรองว่าสายเนื้อจะไม่ผิดหวังกับสเต็กของที่นี่
นอกจากนี้พวกโซนอาหารอื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโซนพิซซ่าที่เป็นแบบโฮมเมดพิซซ่าทำใหม่ ๆ ร้อน ๆ หรือจะเป็นโซนอาหารไทยก็มีส้มตำให้ทานแก้เลี่ยนกันด้วย รวมถึงโคลด์คัทก็มีเช่นกัน แต่ที่เราชอบมากที่สุดอีกเมนูก็คงต้องยกให้ซุปเห็ดทรัฟเฟิลเพราะค่อนข้างหาทานยากในบุฟเฟ่ต์โรงแรมที่จะอร่อยขนาดนี้ ขอแถมอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำคือหมูหันหนังกรอบ ๆ ก็อร่อยมากเช่นกันค่ะ ในส่วนคาเฟ่นั้นก็มีทั้งเครื่องดื่มและขนมหวานให้ทาน ซึ่งจะมีทั้งเค้กทั้งพายหลายชนิดมากและน่ากินทุกชิ้นจริง ๆ ทั้งยังมีช็อกโกแล็ตฟองดูว์ให้ทานด้วยค่ะ โดยรวมแล้วอาหารทะเลคือยืนหนึ่งในย่านนี้ ถ้าเพื่อน ๆ อยากทานปูอลาสก้า, หอยนางรมฟินเดอแคลร์, หอยนางรมเกาหลี, ขาแกะตุ๋น, เนื้อวัว, หมูหัน, ปลากะพงขาวอลาสก้า ต้องมาเฉพาะวันพฤหัส-วันอาทิตย์เท่านั้นนะคะ
4. NEXT2 Café @ Shangri-La Bangkok
เน็กซ์ทู คาเฟ่ @ โรงแรม แชงกรี-ลา กรุงเทพ

เวลา | 4 ชั่วโมง |
ราคา | 2,698 Baht Net |
เปิดให้บริการ | วันศุกร์ – อาทิตย์ เวลา 18.00 – 22.00 น. |
จองล่วงหน้า | 0 2236 7777 |
พิกัด | 89 ซอย วัดสวนพูล แขวง บางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 (Google Map) |
บุฟเฟ่ต์จากห้องอาหาร NEXT2 Café ของโรงแรม Shangri-La เป็นบุฟเฟ่ต์ที่เรียกว่าถูกใจสายล็อบสเตอร์แน่นอนค่ะ เพราะที่นี่เขาให้เราทานล็อบสเตอร์ได้ไม่อั้น!! แต่ควรตรวจสอบประเภทบุฟเฟ่ต์ก่อนจองด้วยนะคะ ต้องเป็นบุฟเฟ่ต์ Lobsterlicious เท่านั้นถึงจะรวมกุ้งล็อบสเตอร์ไปด้วย ซึ่งล็อบสเตอร์ที่ใช้ก็เป็นล็อบสเตอร์จากแคนาดาคุณภาพดี ตัวใหญ่ เนื้อเยอะ เนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ มีความสดเด้ง กัดคำไหนก็ฟินคำนั้น โดยเราสามารถสั่งให้เชพปรุงล็อบสเตอร์ได้หลายเมนูเลยค่ะ แต่ที่เบสิกสุด ๆ ก็น่าจะเป็นล็อบสเตอร์ย่างเนยที่หอมเนยมาก ๆ อีกทั้งที่นี่ยังมีขาปูอลาสก้า หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ ๆ และหอยนางรมเนื้อหวานนุ่มละมุนลิ้นอีก 3 สายพันธุ์ที่นำเข้าจากฝรั่งเศสและอเมริกา ให้เพื่อน ๆ เลือกทานกันแบบจุก ๆ บอกได้คำเดียวว่าคุณจะต้องประทับใจกับไลน์อาหารทะเละดับพรีเมียมของที่นี่แน่นอนค่ะ
ในส่วนเมนู Highlight อื่น ๆ นอกจากกุ้งล็อบสเตอร์แล้ว เราขอยกให้เมนูฟัวกราส์ที่เชฟจะกริลล์ให้ตามสั่งและเสิร์ฟกันแบบร้อน ๆ ส่วนตัวแล้วเราชอบฟัวกราส์ของที่นี่มาก เพราะเขาจะกริลล์มาให้ข้างนอกเกรียมนิด ๆ แต่ข้างในจะคงความชุ่มฉ่ำไว้ เมื่อทานแล้วจึงไม่แห้งเกินไป เนื้อนุ่มอร่อยกำลังดี และนอกจากที่กล่าวมาแล้วทาง NEXT2 Café ก็ยังมีทั้งโซนอาหารอินเดีย, อาหารไทย, ซูชิ ซาชิมิ หรือพาสต้าปรุงสดแบบจานต่อจานด้วยนะคะ ในส่วนโซนของหวานนั้น ขอร้องกริ้ดดัง ๆ (ในใจ) เพราะมีให้เลือกทานเยอะมาก อีกทั้งที่นี่ก็ยังมีบรรยากาศดีมากอีกด้วยค่ะ เพราะเป็นวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเลือกทานได้ทั้งโซน Indoor และ Outdoor เอาเป็นว่าใครอยากทานล็อบสเตอร์แบบจัดหนักจัดเต็มแนะนำให้มาที่ NEXT2 Café เลยค่ะคุ้มสุด ๆ
5. Red Oven @ SO Bangkok
เร้ด โอเว่น @ โรงแรม โซ แบงคอก

เวลา | SO Sunday Brunch : 3 ชั่วโมง Weekend Buffet Extravaganza / World Buffet & Robata Grill 4 ชั่วโมง |
ราคา | SO Sunday Brunch : 1,999 Baht Net Weekend Buffet Extravaganza : 1,788 Baht Net World Buffet & Robata Grill : 1,412 Baht Net |
เปิดให้บริการ | SO Sunday Brunch : ทุกวันอาทิตย์ 12.00 – 15.00 น. Weekend Buffet Extravaganza : ทุกวันศุกร์ – เสาร์ 18.00 – 22.00 น. World Buffet & Robata Grill : ทุกวันอาทิตย์ – พฤหัส 18.00 – 22.00 น. |
จองล่วงหน้า | 02 624 0000 |
พิกัด | 2 ถ. สาทรเหนือ แขวง สีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 (Google Map) |
ห้องอาหาร Red Oven จากโรงแรม SO BKK เป็นหนึ่งในบุฟเฟ่ต์โรงแรมที่สาย Seafood Lovers จะต้องไม่พลาดเด็ดขาดนะคะ เพราะอาหารทะเลส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากต่างประเทศ เป็น Seafood เกรดพรีเมียมที่มีคุณภาพและมีความหลากหลายให้เลือกทานเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น หอยนางรมจากฝรั่งเศสหรือจะเป็นหอยมะนิลาจากสเปน นอกจากนี้ก็ยังมีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, กุ้งแม่น้ำ, กั้ง, ปูม้า, ปูหิมะ, ปูอลาสก้า และยังมีล็อบสเตอร์ให้ทานกันอีกคนละ 1 ตัวด้วยนะคะ สำหรับใครที่มาแล้วอยากทานไลน์อาหารอื่น ๆ ทางโรงแรมก็มีให้เลือกทานทั้งอาหารไทย, อาหารญี่ปุ่น, อาหารจีน และอาหารฝรั่งเศส
โดยเฉพาะกับเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่อย่างฟัวกราส์ย่าง ที่มาในความสุกกำลังดี รสชาติไม่เลี่ยนไม่มันจนเกินไป ยิ่งได้ทานคู่กับซอสสูตรพิเศษยิ่งเข้ากันสุด ๆ หรือจะเป็นโซนพาสต้าก็เป็นแบบโฮมเมดพาสต้าที่ทำกันสด ๆ ร้อน ๆ กันตรงหน้าเลยค่ะ แนะนำให้ลองสั่งพาสต้าซอสเห็ดทรัฟเฟิลมาทานกันดูนะคะอร่อยมากจริง ๆ ส่วนเมนูอื่น ๆ อย่างเป็ดปักกิ่ง, ขนมจีนน้ำยาปู, ขาแกะย่าง, ซาซิมิ, ซูชิ, BBQ ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นก็อร่อยไม่แพ้กัน รวมถึงพวกโคลด์คัทและชีสที่นำเข้าจากต่างประเทศก็คือดีไม่ไหว!! ในส่วนของโซนของหวานเบเกอร์รี่นั้นก็น่าทานทุกอย่าง แถมยังมีไอศกรีมโฮมเมดมากถึง 9 รสชาติ และยังมีช็อกโกแล็ตฟองดูว์จากเบลเยี่ยมด้วยนะคะ โดยรวมแล้วเป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีอาหารค่อนข้างหลากหลายเลยค่ะ ใครที่ชอบทานหอยนางรมหรือออยสเตอร์จะต้องไม่พลาดจริง ๆ ค่ะ เพราะที่นี่มีออยสเตอร์ให้เลือกทานหลายสายพันธุ์มาก เรียกว่าแค่มาทานอาหารทะเลอย่างเดียวก็คุ้มแล้วค่ะ ที่สำคัญบรรยากาศดีมาก เพราะเป็นวิวมุมสูงใจกลางกรุงเทพฯ อิ่มท้องแล้วยังอิ่มอกอิ่มใจในคราวเดียว อย่าลืมมาทานกันสักครั้งนะคะ
6. Ventisi @ Centara Grand at Central World
เวนติซี @ โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

เวลา | 4 ชั่วโมง 30 นาที |
ราคา | 1,590++ per person |
เปิดให้บริการ | วันพฤหัสบดี – เสาร์ เวลา 18.00 – 22.30 น. |
จองล่วงหน้า | 02 100 6255 |
พิกัด | 999, 99 ถ. พระรามที่ 1 แขวง ปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 (Google Map) |
หากจะให้พูดถึงห้องอาหารของโรงแรมที่มีรสอร่อย มีการปรุงอย่างพิถีพิถัน และมาพร้อมกับบรรยากาศดี ๆ เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องนึกถึงห้องอาหาร Ventisi อย่างแน่นอนค่ะ เพราะนอกจากจะโดดเด่นเรื่องรสชาติแล้วที่ห้องอาหารแห่งนี้ก็ยังมีวิวที่สวยมากด้วยนะคะ เนื่องจากได้ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 ของโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ในส่วนของไลน์อาหารในบุฟเฟ่ต์นั้นแม้ว่าจะเป็นบุฟเฟ่ต์แบบนานาชาติแต่ทางร้านจะเน้นไปที่อาหารอิตาเลียนและอาหารไทยเป็นหลัก ซึ่งจะมีเมนู Highlight ที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในแต่ละวัน อาทิเช่น ล็อบสเตอร์, ฟัวกราส์ หรือเนื้อแกะ แต่รับรองว่าอร่อยทุกเมนู โดยเมนู Highlight นั้นจะเสิร์ฟมาให้ 4 เมนูต่อวันและต่อคนค่ะ
ในส่วนของเมนูอื่น ๆ ที่ทานได้ไม่อั้นนั้นเราขอแนะนำเมนูพอร์เช็ตต้าและฉู่ฉี่แซลมอนที่อยากให้คุณได้ลองทานกัน และสำหรับใครที่ชอบทานอาหารทะเลมาก ๆ ทางร้านก็มี Seafood on Ice ไว้บริการเช่นกันค่ะ พวกไลน์อาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิและซิชิมิก็ทำออกมาได้ดี เนื้อสด สะอาด มีคุณภาพ สีสวยน่าทาน ส่วนสาว ๆ ที่รอคอยให้เรารีวิวขนมหวานจากร้าน Ventisi นั้นบอกได้คำเดียวว่าอร่อยทุกอย่าง! ทั้งขนมไทยขนมเทศ แนะนำให้ลองทานชีสเค้กดูนะคะ (อร่อยมากจริง ๆ) โดยรวมแล้วใครที่อยากทานอาหารอร่อย ๆ วิวสวย ๆ บรรยากาศดี มีอาหารให้เลือกค่อนข้างหลากหลายทั้งอาหารไทย, ญี่ปุ่น, อิตาเลียน, สลัดบาร์, Cold Cuts, ซีฟู้ดสด ๆ และขนมหวานอีกมากมาย โดยจะมีรสชาติกลาง ๆ ไม่จัดจ้านมากเกินไป เหมาะกับคนไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลียนรสชาติขนานแท้ แนะนำว่ามาจัดบุฟเฟ่ต์ที่ Ventisi เลยจ้า
7. The Square @ Novotel Bangkok on Siam Square
เดอะ สแควร์ @ โรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ สยามสแควร์

เวลา | 2 ชั่วโมง 30 นาที |
ราคา | 1,199 Baht Net (Promotion 599 Baht Net) |
เปิดให้บริการ | วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 12.00 – 14.30 น. |
จองล่วงหน้า | 02 209 8888 |
พิกัด | 392, 44 สยามสแควร์ ซอย 6 แขวง ปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 (Google Map) |
บุฟเฟ่ต์ของโรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square จากห้องอาหาร The Square จะมีด้วยกัน 2 ประเภท คือบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน International Weekend Lunch Buffet และบุฟเฟ่ต์มื้อเย็น Grill Around the Globe Buffet ซึ่งแน่นอนว่าราคาและไลน์อาหารจะต่างกันไปค่ะ แต่ในวันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาทานบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันกันค่ะ บอกเลยว่าบุฟเฟ่ต์ของทางโรงแรมนั้นไม่ได้มีดีแค่ติ่มซำเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีอาหารนานาชาติอีกหลายเมนูมากที่รอให้คุณไปลิ้มลอง
เดิมทีแล้วบุฟเฟ่ต์ของที่นี่จะขึ้นชื่อเรื่องอาหารจีนอย่างพวก เมนูติ่มซำ, ฮะเก๋ากุ้ง, เป๋าฮื้อ, กระเพาะปลา, หมูแดงหมักน้ำผึ้ง, หมูกรอบ และอีกเมนูที่พลาดไม่ได้เลยก็คือเป็ดปักกิ่งและเป็ดกีต้าร์ ส่วนใครที่ไม่อยากทานอาหารจีนกลัวว่ามาแล้วจะไม่คุ้ม บอกเลยว่าที่นี่มีครบ!! ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะว่าในราคานี้จะมีทั้งกุ้ง, ปู, หอย, ซูชิ ซาชิมิ, พิซซ่า, พาสต้า, ของหวาน และในส่วนของไลน์อาหารไทยนั้นมีให้เลือกทานหลากหลายเมนูมากทั้ง ก๋วยเตี๋ยว, ขนมจีนน้ำยาปู, ปูผัดผงกะหรี่, ปูผัดพริกไทยดำ รับรองว่าถูกใจทุกคนแน่นอนค่ะ และสำหรับใครที่อยู่ในช่วงไดเอดนั้น ขอสบายใจได้เลยค่ะเพราะที่นี่มีสลัดบาร์มาให้ด้วยเช่นกัน สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือของหวานสำหรับคุณผู้หญิงนั้นบอกเลยว่ามาแบบจัดเต็มทั้งเค้ก 5-6 ชนิด ไอศกรีมอีก 3 รส หรือจะเป็นบัวลอยน้ำขิงร้อน ๆ หอม ๆ ซดคล่องคอ โดยรวมแล้วถือเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่มีราคาคือไม่แรง ใคร ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งหากเป็นช่วงโปรนั้นจะสนนราคาอยู่ที่ 599 บาทเท่านั้นค่ะ
8. BlueSpice @ Grande Centre Point Sukhumvit 55
บลูสไปซ์ @ โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55

เวลา | ไม่จำกัดเวลา |
ราคา | วันจันทร์ – พฤหัสบดี 613 Baht Net วันศุกร์ – อาทิตย์ 1,166 Baht Net |
เปิดให้บริการ | บริการทุกวัน เวลา 17.00 – 23.00 น. |
จองล่วงหน้า | 02 042 8056 |
พิกัด | 300 ซ. สุขุมวิท 55 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 (Google Map) |
บุฟเฟต์ข้าวต้มในตำนานที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียล เพราะเป็นบุฟเฟต์แบบไม่กำจัดเวลาของห้องอาหาร BlueSpice จากโรงแรม Grande Centre Point บอกได้คำเดียวว่าเมนูกับข้าวของที่นี่มีเลือกเยอะมาก ๆ แถมยังจัดมาในจานเล็กจิ๋วขนาดพอทาน ทำให้เราสามารถเลือกหยิบได้หลายเมนู รสชาติอาหารโดยรวมอร่อยกลมกล่อม! มีทั้งแบบแบบปรุงเสร็จมาให้แล้ว และแบบปรุงร้อนใหม่ ๆ จากเชฟแบบจานต่อจาน ในส่วนของประเภทข้าวต้มนั้นก็มีให้เลือกทั้งข้าวต้มขาว, ข้าวต้มเผือก, ข้าวต้มไรเบอร์รี่ หรือโจ๊ก นอกจากนี้หากใครมาช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์จะมีซีฟู้ดทั้งกุ้ง, หอย, ปู, ปลา ให้ทานแบบเผาร้อน ๆ หอม ๆ กันด้วยค่ะ โดยคุณสามารถนั่งได้ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม เรียกว่าทานเรื่อย ๆ เพลิน ๆ ไม่กำจัดเวลาเหมือนบุฟเฟต์ทั่วไป ถูกใจสายกินจุแน่นอนค่ะ
9. Up & Above Restaurant and Bar @ The Okura Prestige
อัพแอนด์อะบัฟ @ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ

เวลา | 3 ชั่วโมง |
ราคา | 3,500++ per person |
เปิดให้บริการ | วันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 15.00 น. |
จองล่วงหน้า | 02 687 9000 |
พิกัด | 57 ถ. วิทยุ แขวง ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 (Google Map) |
บุฟเฟต์ Sunday Brunch สุดหรูจากห้องอาหาร Up & Above โรงแรม The Okura Prestige จุดเด่นของที่นี่คือวัตถุดิบเกรดพรีเมียมคุณภาพดี ไม่ว่าเป็นล็อบสเตอร์เนื้อแน่นหวานฉ่ำทานคู่กับจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ รับรองเลยค่ะว่าวางช้อนไม่ลงกันเลยทีเดียว หรือจะเป็นหอยนางรมไซส์ยักษ์ตัวอวบอ้วน เนื้อสด ๆ ที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น, เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีรสชาติที่อร่อยต่างกันไป แต่แนะนำว่าต้องลองหอยนางรม Karatsuki ของญี่ปุ่นให้ได้นะคะ ยิ่งทานคู่กับซอสพอนซึคืออร่อยลงตัวมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบทานปูนั้นก็บอกเลยว่าทางโรงแรมมีทั้งขาปูหิมะและขาปูคิงแครบให้เลือกทานกันด้วยนะคะ หรือจะเป็นอาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิและซาชิมิก็คือจัดเต็มทั้งปลาฮามาจิ, หอยปีกนก รวมถึงเมนูอุนางิ (ปลาไหลญี่ปุ่น) รสชาติเข้มข้นก็มีเช่นกันค่ะ
แต่ที่เป็นซิกเนเจอร์พลาดไม่ได้เลยก็คือ ตับห่านย่างเสิร์ฟกับขนมปังโยโมจิและล็อบสเตอร์จากแคนาดาย่าง ที่สั่งได้แค่จานเดียวต่อคนเท่านั้น รวมถึงสำหรับคนที่ชอบอาหารหนัก ๆ อย่างเมนูเนื้อต้องจัด ซันเดย์โรสต์และซี่โครงแกะย่างจริง ๆ ค่ะ ในส่วนของงานชีสนั้นก็คือที่สุดของคนรักชีส เพราะมีให้เลือกทานเยอะมากแถมยังเป็นชีสนำเข้าจากฝรั่งเศสด้วยนะคะ ตบท้ายกันที่เมนูของหวานก็คือเยอะจนลานตาขั้นสุด แต่ที่แนะนำเลยก็คือไอศกรีมรสนมฮอกไกโดค่ะ รสชาตินุ่มละลายในปากของจริง ทั้งนี้เห็นราคาสูง ๆ แบบนี้ ก็ต้องยอมรับว่าวัตถุดิบของทางโรงแรมนั้นดีมาก ๆ และก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะเพราะทางโรงแรมมักจะจัดโปรกันอยู่บ่อย ๆ ที่สำคัญคือคุณไม่เพียงแต่อิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังอิ่มวิวอีกด้วยนะคะ เพราะห้องอาหารตั้งอยู่ที่ชั้น 24 ค่ะ
10. Allamanda @ Maruay Garden Hotel
อลัมมาด้า @ โรงแรม มารวยการ์เด้น

เวลา | 3 ชั่วโมง 30 นาที |
ราคา | 690 Baht Net |
เปิดให้บริการ | วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-14.30 น. |
จองล่วงหน้า | 02 561 0510 / 061 998 2952 |
พิกัด | 1 ถ. พหลโยธิน แขวง เสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 (Google Map) |
Sunday Brunch เป็นอีกหนึ่งบุฟเฟ่ต์ราคาถูกแสนถูกจากโรงแรม Maruay Garden ที่มักจะจัดโปรกันบ่อย ๆ สำหรับไลน์อาหารนั้นก็เป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่มีให้เลือกทานเยอะมาก แต่ที่เรายกให้เป็น First Impression แบบรู้สึกว้าวมาก ๆ ก็คงต้องเป็นไลน์อาหารจีนอย่างพวกติ่มซำนี่คือเดอะเบสดีทุกจานจริง ๆ ค่ะ หรือจะเป็นเป็ดปักกิ่งหนังกรอบ ๆ ก็รสชาติอร่อยมาก สำหรับสายซูชิและซาชิมิที่นี่ก็มีทั้งแซลมอนและทูน่าเนื้อสด ลายสวย ชิ้นหนา ๆ ให้ทานกันด้วยนะคะ พวกอาหารตะวันตกอย่างไก่อบ, พิซซ่า, พาสต้า, สเต็ก หรือ Cheese board ก็มีค่ะ แถมยังมีชีสให้เลือกทานหลายชนิดมาก อาหารทะเลซีฟู้ดก็จัดเต็มกุ้งหอยตัวใหญ่ ๆ เนื้อแน่น ๆ หรือจะเป็นอาหารไทยก็รสชาติอร่อยเข้มข้นไม่เบา ในส่วนของไลน์ของหวานก็มีให้เลือกทานไม่หวาดไม่ไหว จัดเรียงเค้กชิ้นเล็กชิ้นน้อยกันอย่างสวยงาม แถมยังมีฟองดูว์ให้ทานด้วยนะคะ (เลิฟสุด ๆ ก็ตรงนี้แหล่ะค่ะ)
โดยรวมแล้วเราคิดว่าอาหารที่นี่รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง สดสะอาด มีเมนูให้เลือกทานหลากหลาย แนะนำให้ลองทาน ข้าวมันไก่เนื้อนุ่ม ๆ ละลายในปาก, ติ่มซำเนื้อแน่น ๆ ไม่มีแป้งผสม, เป็ดปักกิ่งหนังกรอบ ๆ, งาทอดที่ด้านในเป็นถั่วแดง (อันนี้อร่อยมากกก ต้องทานให้ได้นะคะ) หรือจะเป็นเมนูพาสต้าก็อร่อยทุกจานจริง ๆ ค่ะ เอาเป็นว่าไม่ขอพูดเยอะดีกว่าอยากให้ไปลองทานกันเอง เรื่องรสชาติอร่อยจริงไม่จกตา ให้ 3 ผ่านไปเลยจ้า
11. The Emerald Coffee Shop @ The Emerald Hotel
ดิเอมเมอรัลด์ ค็อฟฟี่ช็อพ @ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์

เวลา Lunch | Buffet Lunch 3 ชั่วโมง Buffet Dinner 4 ชั่วโมง |
ราคา | Buffet Lunch ทุกวัน 900 Baht Net (Promotion 659 Baht Net) Buffet Dinner วันจันทร์ – พฤหัส 1,400 Baht Net (Promotion 999 Baht Net) Buffet Dinner วันศุกร์ – อาทิตย์ 1,700 Baht Net (Promotion 1,299 Baht Net) |
เปิดให้บริการ | Buffet Lunch บริการทุกวัน เวลา 11.30 – 14.30 น. Buffet Dinner บริการทุกวัน เวลา 18.00 – 22.00 น. |
จองล่วงหน้า | 02 276 4567 |
พิกัด | 99/1 ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ 10400 (Google Map) |
บุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร The Emerald Coffee Shop ของโรงแรม The Emerald นั้นบอกเลยว่ามีแพคเก็จให้เลือกเยอะมาก ทั้งบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันอย่าง International Buffet Lunch หรือจะเป็นบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นอย่าง Premium Sushi & Seafood Buffet Dinner (แอบกระซิบอีกนิดว่าห้องอาหาร YOK Chinese Restaurant ก็มีบุฟเฟ่ต์ติ่มซำสุดพรีเมี่ยมสำหรับคนรักอาหารจีนด้วยนะคะ) สำหรับบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันนั้นบอกเลยว่าไลน์อาหารไม่ธรรมดา เพราะมีเมนูเด็ดประจำวันที่ต่างกันไปค่ะ โดยจะมีทั้งเมนูเส้นและข้าวเพื่อให้คุณได้รับประทานอาหารเที่ยงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บะหมี่เกี๊ยว, ขนมจีน, ก๋วยเตี๋ยว, ก๋วยจับ, ข้าวซอย, พาสต้า, ข้าวปั้นซูชิ, ข้าวขาหมู, ข้าวมันไก่, ข้าวหมูแดง หรือแม้แต่ส้มตำก็ยังมีค่ะ มาพร้อมกับของหวานอย่างเบเกอรี่, เค้ก, ไอศกรีม รวมไปถึงขนมไทยอย่างขนมครก, กล้วยทอด และกะลอจี๊
ในส่วนของ Premium Sushi & Seafood Buffet Dinner นั้นบอกเลยว่าจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ เพราะมีแถมกุ้งมังกรฟรี ๆ กันคนละ 1 ตัว ในส่วนของซูชิและอาหารทะเลซีฟู้ดก็พรีเมียมจัดเต็มตามชื่อเลยค่ะ ทั้งซูชิฟัวกราส์, ซูชิวากิว, กั้ง, กุ้ง, ปู, หอยนางรม, หอยแมลงภู่ เสิร์ฟมาทั้งแบบนึ่ง เผา ทะเลถังและแบบ Seafood on Ice แถมยังมีอาหารไทยอย่าง ก๋วยเตี๋ยว, ข้าวต้ม, ข้าวขาหมู หรือจะเป็นอาหารฝรั่ง อาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลีอย่างแซลมอนและหมึกดองซีอิ๊วก็มีค่ะ นอกจากนี้อาหารจีนพวกติ่มซำ, บะหมี่หยกเป็ดย่าง และกระเพาะปลาน้ำแดงก็อร่อย ในส่วนของหวานนั้นก็มีเสิร์ฟตั้งแต่มินิเค้กหลากหลายรูปแบบไปจนถึงมูส, คัสตาร์ด, ไอศกรีม และบิงซูแบบกันอย่างจุใจ โดยรวมแล้วรสชาติอาหารของที่นี่อร่อยมากค่ะ แนะนำเมนูที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยก็คือ ซูชิฟัวกราส์, ซูชิวากิว, กุ้งแม่น้ำเผา, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิวที่ทานแบบไม่ต้องปรุงก็อร่อย, ข้าวต้มปลากะพงน้ำซุปกลมกล่อมมาก และสุดท้ายคือเมนูขึ้นชื่ออย่างข้าวขาหมูสูตรลับเฉพาะของโรงแรม รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ แม้จะเป็นเมนูที่ดูธรรมดาแต่รสชาตินั้นไม่ธรรมดานะจ๊ะบอกเลย!!
12. The Kitchen Table @ W Hotel Bangkok
เดอะ คิทเช่น เทเบิ้ล @ โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ

เวลา | 2 ชั่งโมง 30 นาที |
ราคา | 599 Baht Net |
เปิดให้บริการ | วันพุธ – ศุกร์ เวลา 12.00 – 14.30 น. |
จองล่วงหน้า | 02 344 4210 |
พิกัด | 106 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 (Google Map) |
Lunch Break Buffet ณ ห้องอาหาร The Kitchen Table ของโรงแรม W Bangkok เป็นบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันที่มีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับบุฟเฟ่ต์โรงแรมอื่น ๆ โดยมีราคาเพียง 599 บาทต่อคนเท่านั้น Highlight ของอาหารในแต่ละวันก็จะสับเปลี่ยนหมุ่นเวียนกันไป บางวันก็เป็นอาหารญี่ปุ่น, อาหารเกาหลี, อาหารอิตาเลี่ยน หรือเป็น Seafood on Ice แนะนำให้โทรไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าไปทานด้วยนะคะ แต่บอกเลยว่ามีแต่อาหารอร่อย ๆ ทั้งนั้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็น แซลมอนอบ, ขาหมูเยอรมัน, ติ่มซำ, พิซซ่า หรือ Cold Cuts ก็มีนะคะ ในส่วนโซนของทอดนั้นก็มีให้เลือกทานเยอะมากทั้งไก่ทอด, ฟิชแอนด์ชิปส์, กุ้งเทมปุระ รวมไปถึงทีเด็ดอย่างไก่ย่างเนื้อชุ่มฉ่ำที่มีความจูซีสุด ๆ ยิ่งได้ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วบอกเลยว่าเข้ากันมากค่ะ หรือใครที่เป็นสายสุขภาพทางโรงแรมก็มีโซนสลัดบาร์ไว้คอยบริการเช่นกันค่ะ ในส่วนของหวานนั้น ก็ทำได้ดีเกินราคา!! ทั้งของหวานจากไทยและเทศ มีให้เลือกเยอะจริง ๆ ค่ะ รับรองว่าถูกใจสาว ๆ แน่นอน
แม้ว่าอาหารแต่ละประเภทจะมีอย่างละนิดอย่างหน่อย แต่เมนูอาหารจะมีความหลากหลายเพราะเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ถือว่ามีให้เลือกทานได้ไม่มีเบื่อ อาหารมีรสชาติอร่อย บรรยากาศดี พื้นที่กว้างขวาง ที่นั่งสบาย ไม่แออัด พนักงานเสิร์ฟบริการดีมีความเอาใจตลอด โดยรวมแล้วเราคิดว่าก็เป็นบุฟเฟ่ต์โรงแรมในระดับมาตรฐานที่เหมาะสมกับราคา เพราะสามารถทานได้ถึง 2.30 ชั่วโมง แค่มาทานแซลมอนและทูน่าซาซิมิสด ๆ ที่ตักได้ไม่อั้น แถมยังมีการเติมของเรื่อย ๆ แบบไม่มีกั๊กก็ถือว่าคุ้มแล้วนะคะ
13. Sunday Brunch @ Millennium Hilton Bangkok
ซันเดย์บลันช์ @ โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพ

เวลา | 3 ชั่วโมง |
ราคา | 2,200 Baht Net (Promotion 1,499 Baht Net) |
เปิดให้บริการ | วันอาทิตย์ เวลา 12.00 – 15.00 น |
จองล่วงหน้า | 02 442 2000 / 02 442 2036 |
พิกัด | 123 ถนนเจริญนคร คลองสาน กรุงเทพฯ 10600 (Google Map) |
Oh my Brunch! Buffet Sunday Brunch ณ ห้องอาหาร FLOW ของโรงแรม Millennium Hilton เป็นบุฟเฟ่ต์สุดหรูที่มีไลน์อาหารเยอะมากทั้งของคาว, ของหวาน, อาหารไทย, อาหารญี่ปุ่น, อาหารจีน, อาหารอินเดีย หรืออาหารตะวันตก เรียกว่ามีครอบคลุมทุกเชื้อชาติ อิ่มจบครบในมื้อเดียว Oh my Brunch! เป็นบุฟเฟ่ต์ที่เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบอาหารอร่อย สะอาด บรรยากาศดี ๆ เพราะห้องอาหารของที่นี่มีวิวติดแม่น้ำเจ้าพระยา โดยคุณสามารถเลือกทานได้ทั้งโซน Indoor และ Outdoor
สำหรับไลน์อาหารนั้นใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นที่นี่ก็มีทั้งซูชิและซาชิมิที่เชฟมายืนแล่เสิร์ฟกันแบบสด ๆ หรือจะเป็นอาหารทะเลอย่างกุ้ง, กั้ง, ปูม้า, ขาปูอลาสก้ายักษ์ และหอยนางรมสด ๆ ตัวใหญ่ ๆ นำเข้าจากฝรั่งเศส ส่วนอาหารไทยนั้น แม้ว่ารสชาติอาจจะไม่ได้จัดจ้านมากนักสำหรับเรา แต่ก็ถือว่าเป็นรสชาติที่ทานง่ายเหมาะสำหรับทุกคนค่ะ ในทางกลับกันสิ่งที่เราชอบมากของที่นี่กลับเป็นอาหารอินเดีย ที่ถือว่าเป็นรสชาติอินเดียขนานแท้ แนะนำว่าต้องลองทานจริง ๆ นะคะเพราะทานแล้วจะติดใจแน่นอนค่ะ ในส่วนของสเต็กนั้นก็มีทั้งเนื้อวากิวจากออสเตรเลียหรือกุ้งแม่น้ำย่าง ซึ่งจะเป็นเปลี่ยนเมนูไปเรื่อย ๆ ทุกสัปดาห์ หรือใครที่เป็นสายไลน์ฟัวกราส์ในบุฟเฟ่ต์ก็มีเช่นกันค่ะ
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั้นก็คือโซน Cold Cuts และ Cheese Room ของที่นี่ที่มีความเล่นใหญ่อลังการมาก เพราะมีชีสมากกว่า 14 ชนิด บางตัวก็นำเข้ามาจากต่างประเทศ บอกเลยว่าใครที่เป็นสาย Cheese Lover จะต้องไม่พลาดเด็ดขาดค่ะ สำหรับสายขนมหวานก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปค่ะ เพราะทางโรงแรมมีทั้งเค้กและเบเกอรี่ให้เลือกทานมายมาก จัดเรียงกันชนิดที่ว่าเต็มทุกเคาน์เตอร์ ใครที่ชอบทานช็อกโกแลตที่นี่ก็มีด้วยนะคะ ส่วนไอศกรีมนั้นก็มีแบบ Teppan Ice ที่เชฟมายืนผัดกันให้เห็นจะจะไปเลย บอกได้คำเดียว่าเลยว่าของหวานของทางโรงแรมดีมาก!! มีให้เลือกทานเยอะแยะละลานตาจริง ๆ ค่ะ