กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความแนะนำของกินอร่อย ๆ บอกเลยว่าวันนี้จะต้องถูกใจเพื่อน ๆ อย่างแน่นอนค่ะ เพราะเราได้รวบรวม “บุฟเฟ่ต์ในกรุงเทพฯ ที่ดีที่สุด” มาให้เพื่อน ๆ ได้ตามไปทานกันค่ะ แม้ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาพวกเราจะต้องเจอกับสถานการณ์โควิด 19 ที่สร้างความเดือดร้อนให้ไม่น้อย ไหนจะต้องคอยระวังตัวป้องกันไม่ให้ติดเชื้อโควิด ไหนจะต้องรัดเข็มขัดประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อต่อสู้กับพิษเศรษฐกิจอีก แต่เชื่อไหมคะว่ามีสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจทำให้คนไทยวิตกกังวลได้เลย สิ่งนั้นก็คือ “ของกินอร่อย ๆ” ที่หากพบว่ามีของกินอร่อยที่ไหนจะต้องมีคนไทยยืนต่อแถวอยู่ที่นั่นแน่นอน ไม่ว่าร้านนั้นจะอยู่ไกลแค่ไหนหรือต้องจองคิวเป็นเดือน ๆ ก็ไม่มีหวั่น เพราะพวกเรามันเลือดนักสู้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ ยิ่งเป็นเรื่องกินยิ่งยอมกันไม่ได้!! ต่อให้อยู่ในช่วงไดเอทลดน้ำหนักก็ยังมีวันชีทเดย์มาปลอบใจ เพราะเดี๋ยวจะตกเทรนด์ตามเพื่อน ๆ ไม่ทันอีก! โดยเฉพาะกับบุฟเฟ่ต์นี่เป็นอะไรที่ตอบโจทย์คนไทยในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ที่สุด
ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ 12 ร้านบุฟเฟ่ต์ในกรุงเทพให้เพื่อน ๆ ได้อัพเดทราคาและร้านใหม่ ๆ กันค่ะ มาดูกันว่าจะมีร้านไหนน่าสนใจบ้าง
1. คอปเปอร์ บุฟเฟ่ต์ (Copper Buffet) 1,176*.-

เวลา | 2 ชั่วโมง |
ราคา | 1,176 บาท NET / ท่าน |
เปิดให้บริการ | วันจันทร์ – ศุกร์ 12:00–14:00 / 16:30–18:00 / 19:00–21:00 วันเสาร์ – อาทิตย์ 10:00–12:00 / 12:30–14:30 / 16:00–18:00 / 18:30–20:30 |
โทรจองล่วงหน้า | 02-433-1617 |
พิกัด | The Sense ปิ่นเกล้า ชั้น2 71/50 ถนน บรมราชชนนี แขวง อรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพ 10700 (Google Map) |
คอปเปอร์บุฟเฟ่ต์เป็นบุฟเฟ่ต์รวมอาหารนานาชาติที่ดีที่สุดสำหรับเราเลยค่ะ วัตถุดิบเด่น ๆ ของที่นี่จะเป็นเนื้อ สำหรับใครที่ชอบทานเนื้อเป็นทุนเดิมเรียกว่าคุ้มมากเพราะทางร้านให้แบบเต็มที่ไม่มีกั๊ก เนื้อที่ใช้เป็นเนื้อคุณภาพดี เมนูแนะนำที่มาแล้วต้องทานให้ได้คือเกาเหลาเนื้อน้ำตกวากิวหรือจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อวากิวก็ได้ค่ะ ถือเป็นเมนูเด็ดดวงที่ใครมาแล้วเป็นต้องลองทานสักครั้ง แถมยังติดใจกันทุกคน เพราะรสชาติของน้ำซุปจะเข้มข้นครบเครื่องอร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม เนื้อวากิวสุกกำลังดีไม่เหนียวเกินไป หรือใครอยากจะทานเป็นสเต็กเนื้อวากิวชิ้นโต ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน หรือหากเพื่อน ๆ เป็นสายทานอาหารทะเลหรือชอบกุ้ง ที่นี่ก็มีทั้งหอยนางรมและกุ้งตัวใหญ่ ๆ เนื้อหวานฉ่ำให้ทานเช่นกันค่ะ หรือหากชอบทานพวกซูชิ ซาชิมิก็สดอร่อยมาก ๆ
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ขาดไม่ได้คือครัวซ็องที่นำเข้าจากนำเข้ามาจากฝรั่งเศสทานคู่กับซุปเห็ดทรัฟเฟิลกลิ่นหอม ๆ อร่อยแสงออกปากสมคำล่ำลือ!! ไม่ได้โม้!! ในส่วนของสเต็กฟัวกราส์หรือซูชิฟัวกราส์ก็สุดยอดของความนุ่มชุ่มฉ่ำ หรือใครอยากทานอาหารไทยรสชาติจัดจ้านก็ต้องเป็นขนมจีนน้ำยาปูเลยค่ะอร่อยมากกกก การจัดจานของที่นี่สวยงามทุกเมนู เน้นปริมาณไม่เยอะ ทำให้เราสามารถทานได้หลายอย่าง แนะนำให้จองคิวก่อนมา เพราะหากวอคอินมาเลยจะต้องรอคิวนานมากค่ะ
2. วิสดอม บุฟเฟ่ต์ (Wisdom International Buffet) 1,176*.-

เวลา | 2 ชั่วโมง |
ราคา | เริ่มต้น 1,176 บาท NET |
เปิดให้บริการ | 10.00 – 12.00 น. / 12.15 – 14.15 น. / 14.30 – 16.30 น. / 16.45 – 18.45 น. / 19.00 – 21.00 น. |
โทรจองล่วงหน้า | 02-007-4774 |
พิกัด | Siam Square One ชั้น 5 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 (Google Map) |
หากเพื่อน ๆ ได้ลองคอปเปอร์บุฟเฟ่ต์ไปแล้วร้านต่อมาที่พลาดไม่ได้เลยคือวิสดอมบุฟเฟ่ต์ เพราะเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั่นนานาชาติระดับภัตตาคารที่ใช้วัตถุดิบพรีเมียมและปรุงโดยเชฟแบบจานต่อจานเหมือนกันเลยค่ะ โดยจะมีทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น และตะวันตก อีกทั้งยังมีให้เลือกทานมากกว่า 130 เมนู แต่ที่วิสดอมจะพิเศษกว่านิดหน่อยก็ตรงที่เพื่อน ๆ สามารถเลือกทานได้ 3 แพ็คเกจ คือ Platinum Buffet 999++, Diamond Buffet 1499++ และ Elite Buffet 2999++ (ไม่รวมค่า NET) ซึ่งการสั่งอาหารของที่นี่จะใช้สั่งผ่านแท็บเล็ตเท่านั้น ทำให้เพื่อน ๆ ไม่ต้องเดินไปสั่งเองให้วุ่นวาย น้อง ๆ พนักงานก็จะเดินมาเสิรฟ์ให้ถึงโต๊ะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการนั่งทานชิว ๆ อย่างเดียว
ในส่วนของรสชาตินั้นก็อยู่ที่ความพอใจของผู้บริโภค หลายคนก็บอกว่าคอปเปอร์อร่อยกว่า ในขณะที่หลายคนก็บอกว่าวิสดอมมีเมนูให้เลือกเยอะกว่าทำให้ทานได้เรื่อย ๆ ไม่มีเบื่อ ทั้งนี้เราขอเชียร์ให้สลับกันไปทานเลยค่ะ เพราะบุฟเฟ่ต์ที่ดีที่สุดของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แนะนำว่าให้ลองเองจะได้รู้ว่าตัวเองชอบแบบไหน (อิอิ) สำหรับเมนูอาหารจานเด็ดของวิสดอมที่เราอยากแนะนำให้ลองสั่งมาทานก็คือเป็ดปักกิ่ง, ซูชิฟัวกราส์, สเต็กวากิว, สเต็กฟัวกราส์, ซุปเห็ดทรัฟเฟิล, รวมหอยนางรม 3 สัญชาติ, พวกเมนูล็อบสเตอร์ก็อร่อยทุกจานเลยค่ะ หรือจะเป็นอาหารจานหลักอย่างข้าวผัดมันเนื้อและข้าวกะเพราวากิวไข่ดองก็อร่อย ส่วนในแพ็คเก็จ 2999++ นั้น แนะนำให้เพื่อน ๆ ลองทานสเต็กเนื้อฮอกไกโดให้ได้นะคะดีงามสุด ๆ ส่วนสายของหวานจะต้องไม่พลาดพานาคอตต้าของที่นี่จริง ๆ ค่ะ แต่ละจานถูกจัดวางมาอย่างสวยงาม โดยรวมแล้วเป็นอาหารที่มีรสชาติมาตรฐาน ให้ 3 ผ่านเลยค่ะ!!
3. ร้าน เพราะดี (Phor Dee Restaurant) 1,197*.-

เวลา | 2 ชั่วโมง |
ราคา | 1,197 บาท NET |
เปิดให้บริการ | จันทร์ – พฤหัส 16:00 – 21.00 น. ศุกร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:00 – 13:00 น. / 16:00 – 18.00 น. / 19.00 – 21:00 น. |
โทรจองล่วงหน้า | 092-947-8987 |
พิกัด | โครงการ เดอะเจ้นท์สตรีท 428/93-94 ซอยรามอินทรา 109 ถนนพระยาสุเรนท์ แขวง บางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพ 10510 (Google Map) |
ร้านบุฟเฟ่ต์ปูม้าแกะที่กำลังมาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ เอาใจสายชอบกินแต่ไม่ชอบแกะ ซึ่งจริง ๆ แล้วทางร้านมีไลน์อาหารให้เลือกทานเยอะมากเลยนะคะ ไม่ใช่มีเพียงแต่ปูม้าเท่านั้น แต่ที่เป็นซิกเนเจอร์มาแล้วต้องสั่งก็คือปูม้าแกะ ที่เป็นเนื้อปูแน่น ๆ หวาน ๆ ใช้ปูสดที่ไม่แช่ฟรีซ นำมานึ่งและเสิร์ฟในจานใหญ่ที่มีทั้งเนื้อปู กันเชียงปู และกล้ามปู ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดจัดจ้าน เปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ กำลังดี ส่วนใครที่ชอบทานหอยก็มีทั้งหอยเชลส์อบเนย, หอยแมลงภู่, หอยหวาน, หอยนางรมตัวใหญ่ ๆ หรือหากอยากทานอาหารเป็นจาน ๆ ก็จะมีเมนูอาหารอร่อย ๆ เยอะเลยค่ะ อาทิเช่น ปูผัดผงกะหรี่, ข้าวผัดปู, ปลากะพงทอดน้ำปลา, กุ้งเผา, ปูนิ่มทอดกระเทียม, กุ้งทอดซอสะขาม, ไข่เจียวปูคอนโด หรือปอเปี๊ยะซีฟู้ดลาวาก็มีค่ะ (เมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของทางร้านเลยนะคะ)
อาหารส่วนใหญ่จะมาในจานขนาดเล็ก ทำให้เราทานได้หลายเมนู และทางร้านจะเสิร์ฟมาให้แบบร้อน ๆ จึงทำให้รสชาติอร่อยมากขึ้นเป็นเท่าตัว เรียกว่าใครที่เป็นสายซีฟู้ดห้ามพลาดร้านนี้เลยจริง ๆ ค่ะ แต่สำหรับคนที่อยากวอคอินไปทานเลยนั้นก็เบรกความคิดไว้ก่อนเพราะร้านนี้เขารับเฉพาะจองคิวล่วงหน้าเท่านั้นค่ะ ล่าสุดก็ได้ข่าวว่าต้องจองกันเป็นอาทิตย์เป็นเดือนแล้วจ้า ราคาอาจดูสูงไปนิดสำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล แต่บอกเลยว่าคุ้มมาก ๆ เพราะรสชาติอร่อย ของสด วัตถุดิบดี เนื้อปูเต็ม ๆ คำไม่ใช่วิญญาณปูเหมือนร้านอื่นนะจ๊ะ แถมยังสั่งได้ไม่อั้นแบบไม่จำกัดจำนวนอีกด้วย รับรองว่าเพื่อน ๆ จะไม่ผิดหวังที่มาร้านเพราะดี ต้องไปลองทานกันให้ได้นะคะ
4. โมโม่พาราไดซ์ (Mo-Mo-Paradise) 659*.-

เวลา | 1 ชั่วโมง 40 นาที |
ราคา | สาขาทั่วไป 659 บาท NET สาขา Gold 858 บาท NET และ 1,518 บาท NET |
เปิดให้บริการ | 11.00 – 22.00 น. |
โมโม่พาราไดซ์เป็นบุฟเฟ่ต์ชาบูเนื้อต้นตำหรับจากญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีมากกว่า 70 สาขาทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยนั้นก็มีมากถึง 22 สาขา คอนเซ็ปต์ของร้านคือสวรรค์ของคนรักเนื้อ ดังนั้นเมนูอื่น ๆ อาจจะดูน้อยไปนิดเพราะร้านต้องการเน้นไปที่เนื้อโดยเฉพาะจริง ๆ ซึ่งจะใช้เป็นเนื้ออย่างดีเท่านั้น เนื้อจึงมีคุณภาพ อร่อย สะอาด และปลอดภัย มั่นใจได้เลยว่าคุณจะต้องได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไปแน่นอนค่ะ โดยตอนนี้ทางโมโม่ก็ได้มีบุฟเฟ่ต์แบบ Gold เปิดให้บริการที่สาขา Central world ชั้น 7 ด้วยนะคะ ซึ่งพวกเนื้อต่าง ๆ ก็จะมีความพรีเมียมมากขึ้น ส่วนสาขาอื่น ๆ ก็จะยังคงใช้เนื้อคุณภาพดีไม่แพ้กัน ตัวเนื้อมีลายสวย แต่อาจจะไม่ฟินเท่าแบบ Gold ดังนั้นใครที่ไม่ใช่สายเนื้อจ๋าขั้นสุด เพื่อน ๆ เลือกทานสาขาธรรมดาก็ได้ค่ะ ส่วนใครที่อยากลองทานไอติมโอ่งรสบ๊วยในตำนานนั้นต้องมาสาขาธรรมดาเท่านั้นนะจ๊ะ เพราะสาขาแบบ Gold ไม่มีไอติมโอ่งค่ะ
สำหรับวิธีทานโมโม่ให้อร่อยนั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก แนะนำให้ต้มผักให้เดือดก่อนแล้วจึงใส่พวกเนื้อตามลงไป ส่วนใครที่อยากทานเนื้อแบบอร่อย ๆ แนะนำให้จุ่มในน้ำซุปให้เนื้อพอสุกนิด ๆ จากนั้นก็มาจุ่มในไข่สดและราดด้วยน้ำจิ้มอีกครั้งหรือจะไม่ราดก็ได้ค่ะ รับรองว่าฟินมาก ๆ แนะนำอีกนิดว่าต้องสั่งเป็นซุปน้ำดำเท่านั้นนะคะ เป็นน้ำซุปที่อร่อยจริง ๆ ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ สำหรับคนที่กังวลเรื่องการทานไข่สดจะปลอดภัยหรือไม่นั้น ขอให้สบายใจได้เพราะไข่ไก่ของที่นี่เป็นไข่ไก่เกรดที่สามารถทานสดได้เลยค่ะ เพื่อน ๆ จะประยุกต์เป็นเมนูไข่แดงดอง ที่ใส่ซี๊อิ้วดำกับพริกและกระเทียมเองก็ได้ หรือคนที่ชอบครีเอทเมนูใหม่ ๆ แนะนำให้เข้าไปที่หน้าเพจ Mo-Mo-Paradise (Thailand) เลยค่ะ มีให้เลือกทำตามหลายเมนูมาก
5. สุกี้ตี๋น้อย (Suki Teenoi) 276*.-

เวลา | 2 ชั่วโมง |
ราคา | 276 บาท NET |
เปิดให้บริการ | 12.00 – 05.00 น. |
สุกี้ตี๋น้อยเป็นร้านบุฟเฟ่ต์สไตล์ชาบูที่มีมากกว่า 30 สาขา เอาใจคนนอนดึกด้วยการเปิดให้บริการตั้งแต่เที่ยงวันยันตีห้า การันตีความอร่อยเพราะเป็นอีกหนึ่งร้านบุฟเฟ่ต์ที่ต้องรอคิวนานมากที่สุด หากเพื่อน ๆ ไม่อยากรอคิวนานแนะนำให้มาช่วงดึก ๆ หน่อยเพราะบางสาขาก็ไม่ต้องรอคิวเลยค่ะ สำหรับเมนูอาหารนั้นมีให้เลือกทานหลากหลาย ทั้งหมู เนื้อ หรืออาหารทะเล แต่ที่เป็นจุดขายของทางร้านเลยก็คือชีสยืด ๆ ที่สามารถสั่งได้ไม่อั้น
หากเพื่อน ๆ มาตี๋น้อยครั้งแรกและไม่รู้ว่าจะสั่งเมนูไหนมาทานดี แนะนำให้ลองสั่งหมูไม้ไผ่, เนื้อสไลซ์, สันคอหมู, สามชั้นหมูสไลด์, แมงกะพรุน และหมี่หยกดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวังจริง ๆ คอนเฟิร์มเลยจ้า แถมบางสาขาก็มีพวกอาหารทอดของทานเล่นให้ด้วย ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบสรรหาทานเมนูใหม่ ๆ สุกี้ตี๋น้อยก็ถือว่าตอบโจทย์มากค่ะ เพราะจะมีชาวติ๊กต๊อกเกอร์คอยแนะนำเมนูใหม่ ๆ ไว้ให้หลายช่องหลายเมนู อาทิเช่น หมูสามชั้นห่อกุ้งชีสและไข่, หมึกยัดไส้ชีส, ข้าวโพดผสมชีส, ไข่ผสมชีส, หมูไม้ไผ่ผสมกระเทียมและชีส หรือจะเป็นการทำน้ำซุปต้มเล้งที่ตี๋น้อยก็มีค่ะ เรียกว่าร้านสุกี้ตี๋น้อยเป็นเหมือนห้องครัวขนาดเล็ก ๆ ให้เราได้ DIY อาหารกันสนุก ๆ ที่เป็นทุกอย่างยกเว้นชาบูจริง ๆ ค่ะ (อิอิ)
6. ใบหยกสกาย บุฟเฟต์ (Baiyoke Sky Hotel ชั้น 81) 1,190*.-

เวลา | Indoor 2 ชั่วโมง และ Outdoor ไม่จำกัดเวลา |
ราคา | Indoor 1,190 บาท NET Outdoor วันจันทร์ – พฤหัส 1,650 บาท NET วันศุกร์ – อาทิตย์ 1,999 บาท NET |
เปิดให้บริการ | Indoor 17:00 – 19:00 น. / 19:00 – 21:00 น. |
สอบถามข้อมูล | 02-656-3000 กด 3, 02-656-3939 |
จองล่วงหน้า | ผ่านทางเว็บไซต์ baiyokebuffet.com |
พิกัด | 222 ซอยราชปรารภ 3, ถนนราชปรารภ, ราชเทวี, กรุงเทพ 10400 (Google Map) |
บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่อิ่มท้องอิ่มวิวในยุคนี้จะต้องยกให้บุฟเฟ่ต์ของโรงแรมใบหยกสกายเท่านั้นค่ะ เพราะบรรยากาศดีมาก จะมากับเพื่อนถ่ายรูปสนุก ๆ ก็ดี หรือจะมากับแฟนก็โรแมนติกสุด ๆ แถมยังมีไลน์อาหารให้เลือกทานเยอะมากทั้งอาหารไทย, จีน, ญี่ปุ่น และอาหารตะวันตก อย่าง ชาบู, สลัดบาร์, ของทอด, ติ่มซำ, อาหารทะเล, พิซซ่า, อาหารเส้น, กริลล์สเต๊กที่มีฟัวกราส์ให้ทานกันด้วยนะคะ รสชาติอาหารจะเป็นรสกลาง ๆ ที่กลมกล่อมตามสไตล์อาหารโรงแรม ส่วนตัวแล้วเราไม่ได้รู้สึกว้าวทุกเมนู แต่เมนูที่อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองทานคือเป็ดปักกิ่ง, กุ้งแม่น้ำเผา, ซาชิมิ หรือซี่โครงแกะออสเตรเลียก็อร่อยค่ะ ในส่วนของขนมหวานนั้นก็มีให้ทานทั้งขนมไทยหรือขนมเค้กก็มีค่ะ
จุดเด่นของที่นี่นอกจากวิวดี งานบริการดี อาหารเยอะ รสชาติอร่อย มีความสะอาด และอย่างอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คงจะเป็นสกิลการจัดจานของเหล่าเชฟที่เสิร์ฟมาให้อย่างสวยงาม ทำให้เพื่อน ๆ ได้ถ่ายรูปเช็กอินสวย ๆ ไปหนึ่งกรุบ อีกทั้งยังเสิร์ฟอาหารไว ไม่ต้องรอนาน โดยจะมีให้เลือกนั่งแบบโซน Indoor และ Outdoor ซึ่งราคาก็จะต่างกันด้วย ใครอยากได้ความหราหรูระดับพรีเมียมจัดแบบ Outdoor ที่ไม่จำกัดเวลาไปเลยจ้า รับประกันว่าวิวสวยมาก ๆ ถ่ายรูปยังไงก็ปังทุกรูป แถมหลังทานอาหารเสร็จเพื่อน ๆ ก็ยังสามารถขึ้นมารับลมชมวิวแบบโอเพนแอร์ต่อที่ชั้น 84 ได้ด้วยนะคะ เรียกว่ามาครั้งเดียวคุ้มจริง ๆ ค่ะ
7. อาโรอิ ซูชิ (Aroi Sushi) 641*.-

เวลา | 2 ชั่วโมง |
ราคา | 299+ / 399+ / 599+ / 799+ / 1,299+ / 1,499+ บาท ไม่รวม NET อาจมีปรับราคาใหม่ |
เปิดให้บริการ | 11.00 – 22.00 น. |
โทร | 097 224 7740 |
เปิดให้บริการ | สาขาทองหล่อ 40 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เเขวงห้วยขวาง เขตบางกะปิ กรุงเทพ 10310 (Google Map) |
“อาโรอิ ซูชิ” หรือที่มีชื่อเล่นอีกชื่อว่า “อร่อย ซูชิ” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดมานานแล้วปีแล้วค่ะ ทางร้านจะใช้วัตถุดิบชั้นดี สด สะอาด นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นโดยตรง โดยจะมีบริการทั้งแบบอะลาคาร์ทและแบบบุฟเฟ่ต์ ในกรณีที่เป็นบุฟเฟ่ต์นั้นก็มีให้เลือกทานหลายแพกเก็จ ซึ่งราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 299++ ไปจนถึง 1,499++ เป็นบุฟเฟ่ต์ระดับพรีเมียมที่มีราคาไม่แพง จุดเด่นของร้านอาโรอิคือเป็นซูชิข้าวน้อย (ข้าวประมาณ 10 กรัมต่อชิ้นเท่านั้น) มาแบบจานเล็ก ๆ เหมาะกับการกินบุฟเฟต์ รวมถึงสาว ๆ ที่อยากทานบุฟเฟต์แต่กลัวอ้วน หรือใครที่ไม่ถนัดทานอาหารเลี่ยน ๆ ทางร้านก็มีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทย ๆ ไว้ทานตัดเลี่ยน นอกจากนี้เราก็ยังสามารถสั่งจำนวนชูชิแยกเป็นชิ้น ๆ เป็นหน้า ๆ ตามที่เราชอบได้อีกด้วย
สำหรับใครชอบทานตับห่านหรือฟัวกราส์แนะนำให้ลองทานแซลมอนโรลท๊อปตับห่าน, วากิวท๊อปตับห่าน, โรลไม่มีข้าวท๊อปตับห่าน หรือใครที่ชอบทานอิคุระ (ไข่ปลาแซลมอน) รวมถึงพวกเมนูปลาไหลย่างในราคาบุฟเฟ่ต์หลักร้อยที่นี่ก็มีบริการเช่นกัน อีกทั้งยังมีเมนูอื่น ๆ มากมายทั้งของทานเล่น, เทมปุระ, ทาโกะยากิ, กระทะร้อน, ชาบู, คานิมิโซะ (มันปูญี่ปุ่นย่าง), ซาชิมิ, หรือจะเป็นอาหารไทยอย่างส้มตำก็มีให้ทานแก้เลี่ยนกันด้วยนะคะ หากเพื่อน ๆ เลือกไม่ถูกว่าจะทานเป็นบุฟเฟ่ต์ตัวไหนดี? เราแนะนำเป็นบุฟเฟ่ต์ 599++ หรือประมาณ 641 บาท NET / ท่านเลยค่ะ เป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีไลน์อาหารจบครบในหมวดเดียว ไม่มากไปหรือไม่น้อยไป
8. ฮงแด บุฟเฟ่ต์ (Hongdae Buffet) 940*.-

เวลา | 1 ชั่วโมง 30 นาที / 2 ชั่วโมง (ขึ้นกับราคาบุฟเฟ่ต์ที่เลือก) |
ราคา | 352 / 470 / 706 / 941 บาท NET |
เปิดให้บริการ | 11:00–22:00 น. |
โทร | 064-165-7175 (สาขาสยาม) / 099-689-5523 (สาขาฟิวเจอร์รังสิต) |
เปิดให้บริการ | ชั้น 5 Siam Square One (ลง BTS Siam ทางออก 4) / ชั้น B ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต (ฝั่งโรบินสัน) |
ฮงแดบุฟเฟ่ต์เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารเกาหลีที่มีอาหารให้เลือกทานหลากหลาย ทั้งสายปิ้งย่าง สายของดอง หรือสายชีสเลิฟเวอร์ต้องไม่พลาดร้านนี้จริง ๆ นะคะ อย่างพวกเนื้อย่างของทางร้านก็จะใช้เนื้ออย่างดี มีให้เลือกหลายแบบทั้งริบอาย, เนื้อใบพาย, เนื้อยูเอส, หรือเนื้อวากิว ในส่วนของวากิวนั้นตัวเนื้อมีลายสวย ไขมันที่แทรกอยู่จะมีความชุ่มฉ่ำกำลังดี ทานแล้วละลายในปาก ยิ่งได้ทานคู่กับชีสและผักกรอบ ๆ พร้อมกันบอกเลยว่าอร่อยเข้ากันสุด ๆ แถมทางร้านยังมีไส้ย่างเกาหลีให้ด้วยทานนะคะบอกเลยว่าน้อยมากที่เจอไส้ย่างในร้านบุฟเฟ่ต์ ในส่วนของเครื่องเคียงเกาหลีนั้นก็มีให้เลือกหลายอย่างจริง ๆ ค่ะ หรือใครที่ชอบทานของดองเกาหลีที่นี่ก็มีทั้งหอยดอง, แซลมอนดอง, หมึกดอง, กุ้งดอง และไข่แดงดอง โดยจะใช้น้ำดองจากต้นตำหรับของเกาหลีแท้ ๆ ส่วนใครที่อยากทานอาหารทะเลสด ๆ ทางร้านก็มีหอยนางรมสดตัวใหญ่ ๆ เนื้อหวานฉ่ำไว้ให้ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วยเช่นกันค่ะ ส่วนของทานเล่นอื่น ๆ อย่างไข่ตุ๋นชีสเกาหลีหรือไก่ทอดราดซอสก็อร่อยมาก นอกจากนี้ใครที่ชอบทานทรัฟเฟิลเป็นชีวิตจิตใจทางร้านก็มีทั้ซุปทรัฟเฟิลและพิซซ่าทรัฟเฟิลให้ด้วยนะคะ ตบท้ายด้วยของหวานอย่างฮันนี่โทสและชานมไข่มุกเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการทานบุฟเฟ่ต์
โดยรวมแล้วเราคิดว่ารสชาติของทางร้านฮงแดไม่ได้เกาหลีจ๋าจนเกินไป ใครที่กลัวว่าทานไม่ได้บอกว่าเลยรสชาติของร้านฮงแดเหมาะกับคนไทยมากค่ะ ทั้งนี้ก็จะมีให้เลือกทานหลายราคาตั้งแต่ 299++, 399++, 599++ และ 799++ ส่วนราคาที่เราอยากแนะนำก็คงต้องยกให้ราคา 799++ ที่หากรวม NET แล้วตกแค่คนละ 940 บาทเท่านั้น เรียกว่าอิ่มอร่อย กำแบงค์พันเข้าไปมีเงินทอนกลับมาสวย ๆ แนะนำว่าให้โหลดแอป QueQ จองก่อนมานะคะ หากมาแบบวอทอินเพื่อน ๆ อาจต้องรอคิวนานมากเป็นชั่วโมง ๆ เลยค่ะ
9. อะคิโยชิ บุฟเฟ่ต์ (Akiyoshi Buffet) 799*.-

เวลา | 2 ชั่วโมง |
ราคา | 579 บาท NET และ 799 บาท NET |
เปิดให้บริการ | 11.00 – 21.00 น. |
แนะนำบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีกันไปแล้วครั้งนี้มาเอาใจสายปิ้งย่างสไลต์ญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ สำหรับอะคิโยชินั้นเป็นอีกหนึ่งร้านโปรดของเราเลย เพราะนอกจากมีเตาปิ้งย่างให้แล้วก็ยังมีหม้อสุกี้ยากี้มาให้ด้วย จริง ๆ แล้วอะคิโยชิเป็นร้านสุกี้ยากี้ฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ เจ้าแรกของไทยที่เปิดมานานกว่า 30 ปีแล้วนะคะ ดังนั้นเรื่องสุกี้ยากี้ของที่นี่คือบอกเลยว่าอร่อยมาก ๆ ไม่ต้องอวยยศอะไรมากมายเลยค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มีด้วยกันถึง 6 สาขา ได้แก่ สาขาพระโขนง, สยามสแควร์วัน, เซ็นทรัลเวสต์เกต, เซ็นทรัลอีสต์วิลล์, สเปลล์ และจามจุรีสแควร์
ไลน์อาหารของทางร้านก็จะมีพวกเนื้อวัว เนื้อหมู และอาหารทะเล ส่วนน้ำจิ้มก็มีให้เลือกทานหลากหลายแบบมากค่ะ ส่วนตัวเราชอบซอสพอนสึของที่นี่มาก เพราะรสชาติกลมกล่อมกำลังดี ไม่เปรี้ยวไปและไม่เค็มไป หรือจะเป็นซอสงาหอม ๆ ก็อร่อยค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีไข่ดิบเกรดทานสดได้ให้เราจุ่มกินกับเนื้อนุ่ม ๆ ด้วยนะคะ โดยเนื้อของทางร้านจะเป็นวากิวเกรดพรีเมียมอร่อยนุ่มไม่เหนียวเกินไป เวลาทานคู่กับไข่ดิบคืออร่อยละมุนลงตัวมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลยค่ะ ส่วนเนื้อหมูก็จะใช้เป็นหมูคุโรบุตะเกรดดีไม่แพ้กันค่ะนอกจากนี้ก็มีพวกเมนูของทานเล่น, ยำ, ซาชิมิ, ซูชิ และของหวานให้ทานแก้เบื่อด้วยนะคะ
ตัวบุฟเฟ่ต์จะมี 2 แบบให้เลือกคือแบบ Standard 579 บาทรวม NET และ Premium 799 บาทรวม NET แนะนำแบบ Premium ไปเลยค่ะเพราะจะได้เพิ่มเงินอีก 89 บาทสำหรับซื้อบุฟเฟ่ต์แซลมอนได้ด้วย (อิอิ) โดยรวมแล้วใครอยากลองทานชาบูสุกี้และปิ้งย่างสไลต์ญี่ปุ่นแบบ 2in1 ในมื้อเดียว แนะนำต้องไม่พลาดอะคิโยชิบุฟเฟ่ต์เลยค่ะ มาที่เดียวอิ่มครบแน่นอน
10. ณ คลองวาฬ บุฟเฟ่ต์ วิภาวดี20 (Na Klongwan) 1,176*.-

เวลา | 2 ชั่วโมง |
ราคา | 1,176 บาท NET และ 1,452 บาท NET |
เปิดให้บริการ | 11.00 – 20.00 น. |
โทร | 02 103 2228 |
พิกัด | 24/12 ซอย วิภาวดีรังสิต 20 แยก 1 แขวง จอมพล เขตจ ตุจักร กรุงเทพ 10900 (Google Map) |
หลังจากที่รีวิวบุฟเฟ่ต์ปูม้ากันไปแล้ว ก็ยังมีบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดอีกหนึ่งที่ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ มาลองทานกันนั่นก็คือร้าน “ณ คลองวาฬ” แม้ว่าจะเป็นชื่อของตำบลในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แต่ตัวร้านจริง ๆ ตั้งอยู่ที่ซอยวิภาวดีรังสิต 20 นี่เองค่ะ เมนูบุฟเฟ่ต์ของทางร้านมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ แต่ทีเด็ดที่มาแล้วห้ามพลาดเลยก็คือกุ้งแม้น้ำเผาตัวใหญ่ ๆ ที่เราสามารถขอได้ไม่อั้น เป็นเมนูกุ้งเผาเนื้อหวาน ๆ มีความเด้งกรุบ ๆ และชุ่มฉ่ำไม่แห้งเกินไป เนื้อกุ้งสดมาก มันกุ้งมีกลิ่นหอมรสชาติมัน ๆ นัว ๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดทานเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ
ส่วนเมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็มีเยอะมากเหมือนกันทั้งจั๊กจั่นทะเลทอด, ปูนิ่มทอดกระเทียม, กั๊งแก้วนึ่ง, ปูถอดเสื้อ (ปูม้าแกะ), หอยเชลส์ย่างเนยกระเทียม, กุ้ง/ปูไข่/แซลมอนดองเกาหลี, หอยนางรมสด, กุ้งคั่วพริกเกลือ, ต้มยำทะเล หรือหมึกต้มหวาน รสชาติอาหารเป็นสูตรอาหารใต้แบบที่คนประจวบทานกัน โดยรวมอาหารทะเลส่วนมากไม่ได้ตัวใหญ่แบบตกตะลึง (ยกเว้นกุ้งแม่น้ำและปู้ม้าอันนี้ใหญ่จริงค่ะ) แต่เป็นอาหารทะเลที่สดอร่อย ทานแล้วรู้ได้ทันว่านี่แหละคืออาหารทะเลที่ฉันคู่ควร!! คุ้มค่าแก่การอการจองคิว และเงินที่เสียไปมาก ๆ ค่ะ อย่าลืมมาลองทานกันให้ได้นะคะ รับประกันความอร่อย อร่อยชนิดที่ต้องปลดกระดุมกางเกงกันเลยทีเดียว!!
11. อิลมีจอง บุฟเฟ่ต์ (IL MI JUNG Buffet) 350*.-

เวลา | มา 2 คน 70 นาที / 3 คน 80 นาที / มามากกว่า 4 คน 90 นาที |
ราคา | 350 บาท ไม่รวมเครื่องดื่ม |
เปิดให้บริการ | 10.30 – 22.30 น. |
โทร | 02 251 8787 |
พิกัด | สุขุมวิท ซอย 12 ตึกโคเรียทาวน์ ชั้น 1 (Google Map) |
กลับมาที่บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเกาหลีอีกครั้ง โดยครั้งนี้เราจะขอรีวิวร้านอิลมีจองตั้งอยู่ที่เกาหลีทาวน์ชั้น 1 ที่นี่มีเมนูอาหารเยอะมาก เป็นเมนูแบบเกาหลี๊เกาหลี หากเพื่อน ๆ ดูซีรีส์แล้วเกิดอยากทานเมนูไหนขึ้นมา ให้มาที่นี่สิคะรับรองว่าร้านนี้เค้ามีให้เลือกทานหมดค่ะ ทั้งพาจอน, รามยอน, ต๊อกบกกี, ซุปกิมจิ, จับแช, ไข่ตุ๋นเกาหลี และเยอะแยะอีกมากมาย โดยเฉพาะกับเครื่องเคียงนี่คือเดอะเบสมาก แค่กินเครื่องเคียงก็คุ้มแล้วค่ะ เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ลองสั่งกิมจิหอยนางรมมาทานดูนะคะ รับรองว่าอร่อยแปลกใหม่และรสชาติก็เข้ากันสุด ๆ เพราะโดยส่วนตัวเรายังไม่เคยลองทานที่ไหนเลยค่ะ (ฮ่า ๆ) อีกทั้งร้านนี้เค้ามีใบงาไว้ทานกับเนื้อย่างให้ด้วยนะคะ เราตามหาร้านบุฟเฟ่ต์อาหารเกาหลีที่มีใบงายากมาก ในที่สุดก็เจอสักที!! แถมยังมีน้องพนักงานย่างให้ด้วยน๊าเกาหลีเกาใจสุด ๆ ไปเลยใช่มั้ยละคะ
โดยรวมแล้วใครที่เป็นสายปิ้งย่างเกาหลีอยากทานบุฟเฟ่ต์ในราคาเบา ๆ รสชาติอร่อย ๆ ถูกปากคนไทยเพราะมีน้ำจิ้มแจ่วและน้ำจิ้มซีฟู้ดให้เลือกด้วยค่ะ ยังไงก็อย่าลืมมาลองทานร้านนี้ดูนะคะ อ้อที่สำคัญเลยถ้าเพื่อน ๆ สั่งโซจูมาดื่มด้วย สามารถนั่งทานต่อได้อีก 30 นาทีด้วยน๊าาา สำหรับคนที่สงสัยว่าราคารวมน้ำด้วยไหม? บอกเลยไม่ว่ารวมค่ะ และไม่รวมพวกเนื้อวัวด้วยนะคะ หากเพื่อน ๆ อยากทานเนื้อวัวต้องสั่งเป็นเซตแยกเอาจ้า แต่สำหรับเราแล้วแค่มีคอหมูกับเนื้อหมูสามชั้นแค่นี้ก็ทำให้หัวใจพองโตได้แล้วค่ะ ส่วนใครที่ไม่อยากทานแบบบุฟเฟ่ต์อยากมานั่งสั่งเป็นจาน ๆ ไป ทางร้านก็มีบริการเช่นกันค่ะ ราคาน่ารักเป็นมิตรอีกด้วยนะคะ
12. ดุ๊กกี้ ต๊อกบกกี (Dookki Topokki)

เวลา | 1 ชั่วโมง 30 นาที |
ราคา | 299 บาท NET |
เปิดให้บริการ | 11.00 – 22.00 น. |
รีวิวอาหารปิ้งย่างเกาหลีมาเยอะแล้ว ครั้งนี้ขอจบท้ายบทความด้วยหม้อไฟเกาหลีกันบ้าง โดยร้านนี้ชื่อว่า “ดุ๊กกี้ ต๊อกบกกี” จะเป็นการเอาใจสายต๊อกบกกีเฉพาะ เพราะทางร้านเค้ามีตัวต๊อกบกกีให้เลือกทานหลายแบบมาก เราเองก็เพิ่งทราบว่าต๊อกบกกีมีมากกว่าแบบแป้งเฉย ๆ (ฮ่า ๆ) แนะนำให้เพื่อน ๆ ทานต๊อกชีสและต๊อกมันม่วงดูนะคะอร่อยมาก นอกจากนี้ก็ยังมีพวกเมนูของทอดอย่างยากี้มันดู (เกี๊ยวเกาหลี), คิมมารี (วุ้นเส้นห่อสาหร่าย) หรือไก่ทอดก็มีค่ะ ทั้งยังมีพวกไลน์อาหารโอเด้งร้อน ๆ คิมบับ หรือรามยอนก็มีหลายรสมาก ๆ ในส่วนของการผสมซอสสำหรับหม้อไฟของเรานั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะเราจะผสมกันมั่วนะคะ เพราะทางร้านเค้ามีป้ายเขียนบอกสูตรไว้ให้ชัดเจน ซอสไหนควรจะผสมกับซอสไหน พร้อมกับบอกวิธีทำอย่างละเอียด ซึ่งมีด้วยกันถึง 7 สูตร ซอสดุ๊กกี้, ซอสต๊อกโม, ซอสโรเซ่, ซอสพุลกช (เผ็ดสุด), ซอสจาจัง (ซอสดำ) และซอสกุงจุง
ก่อนจะตบท้ายด้วยของหวานอย่างมันหวานเชื่อม เลือดนักสู้อย่างเราต้องจัดข้าวผัดเกาหลีก้นหม้อมาสักหน่อยค่ะ แน่นอนว่าต้องเป็นการจัดแจงวัตถุดิบด้วยตัวเองอีกเช่นเคย แต่ไม่ยากเกินความสามารถค่ะ แค่นำข้าว, สาหร่าย, กิมจิ, น้ำมันงา นำทุกอย่างไปผสมกับซอสก้นหม้อให้เข้ากัน บี้ข้าวให้แบน ๆ และติดหม้อสักหน่อยเพื่อให้ข้าวของเราไหม้นิด ๆ จากนั้นก็โรยด้วยข้าวโพด สาหร่าย และชีสอีกทีเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ โดยตอนนี้ทางร้านก็มีด้วยกันถึง 13 สาขา เพื่อน ๆ สามารถเลือกสาขาที่เพื่อน ๆ สะดวกได้เลยจ้า
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ 12 ร้านบุฟเฟ่ต์ที่เราแนะนำกันไป มีให้เลือกทานหลายแบบ, หลายประเทศ, หลายสัญชาติกันไปเลยใช่มั้ยคะ? แน่นอนว่าจริง ๆ แล้วก็ยังมีร้านบุฟเฟ่ต์ในกรุงเทพอีกหลายร้านที่อร่อย คุ้มค่า และสดสะอาด ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วเราไม่อาจรีวิวได้หมดจริง ๆ ค่ะ เพราะว่ามีเป็นร้อยเป็นพันร้านแบบเยอะมาก ๆ (ฮ่า ๆ) หากครั้งหน้ามีโอกาสได้ทานร้านไหนแล้วรู้สึกว่าติดใจอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ลองทานตามกัน เราจะกลับมาอัพเดทบทความให้เรื่อย ๆ นะคะ
สำหรับวันนี้หากเพื่อน ๆ ยังติดสินใจเลือกร้านบุฟเฟ่ต์ที่จะทานไม่ได้ ระหว่างเลือกอยู่นั้น เพื่อนสามารถทำหมูกระทะทานเองที่บ้านรอไปก่อนได้นะคะ ซึ่งเราก็มีบทความดี ๆ มาฝากเช่นกัน ทั้งบทความแนะนำน้ำซุปชาบู, ชุดเตาถ่านปิ้งย่าง, สูตรหมักหมูกระทะ, น้ำจิ้มสุกี้, น้ำจิ้มปิ้งย่างทั่วไป, น้ำจิ้มปิ้งย่างสูตรเกาหลี, หม้อชาบู-ปิ้งย่าง 2in1, พริกผงหมาล่า, ซอสหมาล่า อย่าลืมแวะเข้าไปอ่านกันด้วยน๊าา สำหรับนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่ะ