อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยของเรานั้นเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์และมีทำเลเพรียบพร้อมทุกอย่างที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว หากคุณเป็นคนที่ชอบอากาศหนาวอยากจะท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติก็แค่ขึ้นเหนือไปจังหวัดเชียงใหม่หรือเชียงราย เพื่อสัมผัสกับลมหนาวบนยอดเขา หรือหากคุณชอบการดําน้ําดูปะการังก็บินลงมาทางใต้อย่างจังหวัดภูเก็ต, กระบี่, พังงา หรือสตูล เพื่อชมกับความงดงามของท้องทะเลอันดามันที่ถือว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำอย่างแท้จริง แต่หากคุณอยากจะท่องเที่ยวในแถบทะเลฝั่งอ่าวไทยก็อาจจะไปยังเกาะรอบ ๆ ของพัทยา, ตราด, ชุมพร และสุราษฎร์ธานีก็ได้เช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเลือกไปที่ไหนก็ดูเหมือนว่าประเทศไทยจะตอบโจทย์ของคุณได้ทุกจังหวัดจริง ๆ นะคะ
หากคุณยังเป็นมือใหม่ในการดำน้ำนอกเหนือจากที่คุณจะต้องมีความพร้อมแล้ว คุณจะต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งดำน้ำ ณ จุดนั้น ๆ เสียก่อนว่าที่ไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด เพราะการดำน้ำไม่เพียงแต่ลงชมความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้ดำน้ำด้วย เนื่องจากจุดดำน้ำแต่ละจุดจะมีความเสี่ยงและระดับความอันตรายที่ต่างกันไป บางที่ก็เป็นจุดที่ลึกจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจใต้น้ำ บางที่ก็มีกระแสน้ำที่แรงจนยากที่เคลื่อนไหวได้สะดวก
ดังนั้นในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมสถานที่ดำน้ำในประเทศไทยมาให้คุณได้เลือกว่าที่ไหนจะเหมาะกับคุณที่สุดกันค่ะ โดย 10 สถานที่จุดดำน้ำ ที่มีความสวยงามของปะการังและสัตว์ทะเลหายากและเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของประเทศไทยอย่างแน่นอน จะมีที่ไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจการดำน้ำประเภทต่าง ๆ กันก่อน
ประเภทของการดำน้ำ
ก่อนอื่นเราอยากให้คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับการดำน้ำให้ลึกซึ้งก่อนที่จะเริ่มคิดทริปดำน้ำไปดูปะการังสวย ๆ กัน เพราะการดำน้ำนั้นมีหลายประเภท บางครั้งคุณอาจจะไม่รู้ตัวว่าคุณเหมาะกับประเภทไหน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันค่ะ
1. การดำน้ำตื้น
การดำน้ำแบบ Snorkeling โดยส่วนใหญ่จะมีความลึกไม่เกิน 0.9 เมตร มักจะเน้นชมความงดงามของปะการัง, พืชพรรณต่าง ๆ และสัตว์น้ำในบริเวณโดยรอบที่อาศัยอยู่ในแนวปะการัง อีกทั้งการดำน้ำแบบตื้นนั้นเป็นประเภทที่นิยมมากที่สุด เพราะเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย และเป็นการดำน้ำในพื้นที่ท่ีกระแสน้ำไม่แรงมากนัก จึงทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหวและไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจใต้น้ำ ใช้เพียงแค่สน็อกเกิ้ล, ตีนกบ และเสื้อชูชีพเท่านั้นค่ะ (สำหรับเสื้อชูชีพนั้นใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำและความชำนาญของแต่ละคน)
การดำน้ำตื้นยังมีข้อดีอีกอย่างคือมีระดับความใสของน้ำที่สามารถมองเห็นตัวปลาหรือปะการังได้ชัดเจน ทำให้คุณสามารถใกล้ชิดและเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สวยงามของท้องทะเลอย่างเต็มที่และปลอดภัย
2. การดำน้ำลึก แบบมีเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำและมีถังบรรจุอากาศติดตัว
การดำน้ำลึก (Scuba Diving) เป็นการดำน้ำที่ต้องอาศัยทักษะมากขึ้นมาอีกระดับ เพราะคุณจะต้องสวมเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำและจะต้องแบกถังออกซิเจนไว้บนหลัง โดยส่วนใหญ่แล้วการดำน้ำแบบนี้จะมีระดับความลึกอยู่ที่ไม่เกิน 30 เมตร ซึ่งคุณจะได้พบกับแหล่งปะการังที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์และสวยกว่าในพื้นที่ดำน้ำแบบตื้นอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีกระแสน้ำที่ไม่แรงมาก จึงทำให้น้ำยังใสและง่ายต่อการมองเห็นพอ ๆ การดำน้ำแบบตื้นค่ะ
3. การดำน้ำลึก แบบใช้อากาศจากถังบนผิวน้ำ
การดำน้ำลึกแบบใหม่ที่จะใช้เพียง สน็อกเกิ้ล, ตีนกบ, เข็มขัดถ่วงน้ำหนัก และท่อส่งอากาศจากผิวน้ำที่ยาวประมาณ 6 เมตร โดยอากาศที่เราใช้จะอยู่ในถังอากาศที่ลอยอยู่บนผิวน้ำด้านบนที่สามารถเคลื่อนที่ตามเราไปได้เรื่อย ๆ ซึ่งการดำน้ำแบบนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ยังดำน้ำไม่เก่งแต่อยากจะลองใช้เครื่องช่วยหายใจใต้น้ำ หรือเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการชมความงามของท้องทะเลที่สวยมากกว่าการดำน้ำแบบตื้นแต่ยังเน้นความปลอดภัยไปด้วย
10 แหล่งดําน้ําในประเทศไทย ที่สวยที่สุด
1. เกาะสิมิลัน จ.พังงา(1)

ทั้ตั้ง | อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา |
ทะเล | ทะเลฝั่งอันดามันเหนือ |
ฤดูท่องเที่ยว | พฤศจิกายน ถึง เมษายน |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้นและลึก |
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันตั้งอยู่ในจังหวัดพังงาอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 128 ตารางกิโลเมตร อยู่ในทะเลฝั่งอันดามัน เป็นหมู่เกาะที่มีน้ำทะเลสวยมาก ๆ และมีหาดทรายที่ขาวเนียนสะอาดตาสุด ๆ โดยหมู่เกาะสิมิลันนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ รวมถึงมีความสวยงามของตัวเกาะเองทั้งในบนบกและในน้ำ ซึ่งหมู่เกาะสิมิลันจะมีเกาะเล็ก ๆ ภายในแบ่งออกย่อย ๆ ได้อีก 9 เกาะ และเกาะแปดนั้นก็เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลันและยังเป็นเกาะที่นิยมมากที่สุดเช่นค่ะ
กิจกรรมสุดฮิตของที่นี่ก็คือการดำน้ำดูปะการัง, กัลปังหา และปลาการ์ตูนหลากสีสันที่ยังคงความสมบูรณ์ โดยคุณสามารถเลือกดำน้ำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก ซึ่งจะมีจุดให้ดำน้ำมากกว่า 10 จุด ที่เหมาะกับทักษะการดำน้ำที่ต่างกันของแต่ละคน และในบางครั้งคุณอาจจะพบกับปลาวาฬ, ปลาโลมา, กระเบนราหู รวมถึงปลาไหลมอเรย์ที่หาพบได้ยากอีกด้วยนะคะ โดยส่วนใหญ่หมู่เกาะสิมิลันจะเปิดให้เข้าได้ท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน นอกเหนือจากเดือนที่กล่าวมาแล้วทางอุทยานอาจจะทำการปิดเกาะเพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว
ปล. เนื่องจากเกาะสิมิลันเป็นอุทยานแห่งชาติ ดังนั้นจึงไม่มีที่พักบนเกาะนะคะ และเราแนะนำให้คุณทำการจองทัวร์ก่อนช่วงเวลาที่เกาะเปิดล่วงหน้า เพราะเป็นเกาะที่มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ ทั้งชาวไทยและต่างชาติเลยค่ะ หากคุณไม่รีบจองก่อนคุณอาจจะพลาดทริปดำน้ำสวย ๆ ของปีไป
2. หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ (2)

ทั้ตั้ง | หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ |
ทะเล | ทะเลฝั่งอันดามัน |
ฤดูท่องเที่ยว | พฤศจิกายน ถึง เมษายน |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้น |
หมู่เกาะพีพีตั้งอยู่ในเขตของจังหวัดกระบี่ที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อของประเทศไทยที่สวยราวกับสวรรค์บนดิน โดยจะมีเกาะเล็ก ๆ แบ่งย่อยอยู่ 6 เกาะ แต่เกาะพีพีดอนจะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะพีพี ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร และเป็นเกาะที่สามารถนอนพักค้างคืนได้ โดยจะมีอ่าวเล็ก ๆ มากมายให้คุณได้เลือกพักโรงแรมที่คุณสะดวกที่สุด สำหรับเกาะพีพีเลจะมีขนาดพื้นที่รองลงมาจากพีพีดอน แต่จะเป็นเกาะที่ไม่สามารถนอนค้างได้ เพราะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ เลยค่ะ เหมาะสำหรับเป็นเกาะที่จองทริปแวะไปเที่ยวมากกว่า เพราะมีความสวยทางธรรมขชาติที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ
แนะนำ ที่พักบนเกาะพีพีดอน
![]() | พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ต (Phi Phi Island Village Beach Resort) ชื่อใหม่ SAii Phi Phi Island Village | |
![]() | พีพี โคโค่ บีช รีสอร์ต (Phi Phi CoCo Beach Resort) | |
![]() | โรงแรมซีโวล่า (Zeavola Hotel) |
สำหรับจุดดำน้ำที่สวยที่สุดของหมู่เกาะพีพีนั้นมีหลายที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกาะพีพีเลที่มีมีจุดท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง อ่าวปิเละ, อ่าวมาหยา, อ่าวโล๊ะซามะ และถ้ำไวกิ้ง สำหรับเกาะอื่น ๆ ในหมู่เกาะพีพีที่น่าสนใจก็จะมี เกาะปิดะใน, เกาะปิดะนอก, เกาะไม้ไผ่, เกาะยูง ซึ่งทุกที่นั้นมีความงามที่ต่างกันออกไป แต่โดยส่วนใหญ่นั้นจะมีทั้งปะการัง, ดอกไม้ทะเล และสัตว์น้ำทะเลมากมายให้คุณได้เพลิดเพลิน แต่ถ้าจะให้แนะนำเป็นพิเศษเราแนะนำเป็น “เกาะพีพีเล” เลยค่ะ เพราะที่นี่สวยสะกดทุกสายตาจริง ๆ โดยเฉพาะอ่าวมาหยาและอ่าวปิเละที่มีน้ำใสมาก ๆ และมีหาดทรายขาวเนียนละเอียด ถือเป็นสถานท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมากที่สุดของหมู่เกาะพีพีเลยค่ะ
แนะนำ ที่พักบนเกาะพีพีดอนที่ตั้งอยู่บริเวณหาดยาว
![]() | พีพี เดอะ บีช รีสอร์ท (Phi Phi The Beach Resort) |
ปล. แต่หากคุณไม่สะดวกเดินทางออกไปยังหมู่เกาะอื่น ๆ เราแนะนำให้คุณเลือกที่พักบนเกาะพีพีดอนที่ใกล้กับหาดยาว เพราะหาดยาวนั้นก็มีจุดดำน้ำที่สวยให้คุณได้เพลิดเพลินอยู่เช่นกันค่ะ
3. เกาะตะรุเตา ที่จุดร่องน้ำจาบัง จ.สตูล (3)

ที่ตั้ง | อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จ.สตูล |
ทะเล | ทะเลฝั่งอันดามัน |
ฤดูท่องเที่ยว | พฤศจิกายน ถึง เมษายน |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้นและลึก |
เกาะตะรุเตาตั้งอยู่ในจังหวัดสตูล เป็นแหล่งปะการังน้ำตื้นที่ขึ้นชื่อของประเทศไทยอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าปะการังที่นี่สวยสุด ๆ โดยอุทยานแห่งชาติตะรุเตาจะประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมายที่มากกว่า 51 เกาะ แต่จุดที่เป็นแหล่งดำน้ำยอดนิยมคงจะเป็นบริเวณ “เกาะจาบัง” มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “กองหินจาบัง หรือ ร่องน้ำจาบัง” ที่มีปะการังหลากสีมากมายอย่าง “ปะการังเจ็ดสี” ที่ปกติแล้วจะมีให้เห็นในเฉพาะจุดดำน้ำลึกเท่านั้น แต่คุณจะได้เจอปะการังสีชมพู สีแดง และสีม่วง เหล่านี้ได้ในน้ำตื้นที่เกาะจาบังค่ะ โดยจะมีพื้นที่กว้างขวางสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เยอะ ให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับความงามของปะการังได้อย่างเต็มที่ รวมถึงดอกไม้ทะเลและสัตว์ทะเลหายากอีกมากมาย อย่าง ปลาการ์ตูน, ปลานกแก้ว และปลาทะเลน้อยใหญ่นานาชนิดอีกด้วยนะคะ
ปล. เนื่องจากเป็นพื้นที่กระแสน้ำค่อนข้างแรงมากแนะนำให้คุณมีสวมใส่เสื้อชูชีพให้แน่นหนาตลอดการดำน้ำด้วยนะคะ
แนะนำ ที่พักเกาะหลีเป๊ะ
![]() | บันดาหยา วิลล่า (Bundhaya Villas) | |
![]() | เมาน์เท็น รีสอร์ท (Mountain Resort) | |
![]() | ไอดีลลิค คอนเซปต์ รีสอร์ท (Idyllic Concept Resort) |
4. เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี (4)

ที่ตั้ง | เกาะเต่า ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี |
ทะเล | ทะเลฝั่งอ่าวไทย |
ฤดูท่องเที่ยว | เมษายน ถึง ตุลาคม |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้นและลึก |
เกาะเต่าเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ฝั่งทะเลอ่าวไทยอย่างโดดเดียวในเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตั้งห่างจากเกาะพะงันไปประมาณ 45 กิโลเมตร ถือเป็นอีกเกาะที่มีความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สูง และยังเป็นแหล่งดำน้ำที่มีแนวปะการังให้คุณได้ชมทั้งแบบตื้นและลึกเลยค่ะ ลักษณะเด่นของเกาะเต่านั้นคือเป็นแหล่งปะการังที่สวยที่สุดและติดอันดับต้น ๆ ของโลก จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมของโลกได้เป็นอย่างดี พื้นที่ทั้งหมดของเกาะเต่านั้นเป็นภูเขาที่มีอ่าวมากมายถึง 11 อ่าว และแหลมอยู่ 10 แหลม จึงทำให้มีความหลากหลายทางธรรมชาติให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับวันหยุดอย่างไม่มีเบื่อ
สำหรับจุดดำน้ำที่เราอยากแนะนำก็จะมี กองหินตุ้งกู (จุดดำน้ำตื้นมีทั้งปะการังและปลาหลากหลายชนิด), กงชุมพร (มีแนวปะการังมากมายและคุณอาจโชคดีเจอฉลามวาฬในบางครั้ง),กงหินวง (เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีทักษะในการดำน้ำ เพราะแค่สวมสน็อคเกิลหรือแว่นตากันน้ำก็สามารถมองเห็นปลาหรือปะการังได้อย่างชัดเจนแล้วค่ะ เนื่องจากมีความลึกเพียง 3-12 เมตรเท่านั้น), กงหินขาว (เป็นอีกจุดที่มีปะการังสวยเช่นกันโดยจะมีความลึกอยู่ที่ประมาณ 6-22 เมตร), กงทรายแดง (สามารถดำน้ำได้ทั้งแบบตื้นและลึก เพราะมีความลึกที่ 5-20 เมตร มีแนวปะการังแบบอ่อนนุ่มหลายหลายสีสีนที่สวยงามมาก ๆ ) และสุดท้ายเป็น หินใบ (มีความลึกประมาณ 9-30 เมตร เป็นจุดดำน้ำที่สวยอีกจุดที่คุณไม่ควรพลาดเลยค่ะ)
แนะนำ ที่พักเกาะเต่า เกาะนางยวน
![]() | ทรายรี คอตเทจ รีสอร์ต (Sairee Cottage Resort) | |
![]() | อนันดา วิลลา (Ananda Villa) | |
![]() | เซนซี พาราไดซ์ บีช รีสอร์ท (Sensi Paradise Beach Resort) |
สำหรับหาดทรายที่เราอยากแนะนำจะเป็น หาดทรายรี ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ยาวเกือบ 2 กิโลเมตร มีเนื้อทรายที่เนียนละเอียดเป็นสีขาวน้ำตาลนิด ๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งดำน้ำชมปลานานาพันธ์ุและปะการังที่ดีอีกด้วยนะคะ
5. หมู่เกาะชุมพร จ.ชุมพร (5)

ที่ตั้ง | อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร |
ทะเล | ทะเลฝั่งอ่าวไทย |
ฤดูท่องเที่ยว | เมษายน ถึง ตุลาคม |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้นและลึก |
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลฝั่งอ่าวไทยอยู่ใกล้กับกรุงเทพขึ้นมาอีกนิด เป็นหมู่เกาะที่มีความโดดเด่นมาก ๆ ไม่แพ้ที่อื่นเลยค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดำน้ำเพื่อชมความสวยงามของปะการัง โดยอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรนั้นมีเกาะน้อยใหญ่รวมแล้วมากถึง 40 เกาะ ซึ่งแต่ละเกาะจะมีความสวยที่ไม่เหมือนกัน
แต่เกาะที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันมากสุดจะเป็น เกาะง่ามใหญ่-เกาะง่ามน้อย ที่เป็นแหล่งดำน้ำอันขึ้นชื่อของหมู่เกาะชุมพร โดยสามารถน้ำชมปะการังได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึกเลยค่ะ แนวปะการังส่วนใหญ่จะมีความอุดมสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ พร้อมด้วยดอกไม้ทะเลหลากสีสันและปลาน้อยใหญ่มากมายอย่าง ปลาการ์ตูน, ปลาผีเสื้อ, ปลาสินสมุทร และปลาสลิดหิน ให้คุณสนุกสนานเพลิดเพลินไม่รู้เบื่อ นอกจากนี้ก็ยังมี เกาะหลักง่าม, เกาะทะลุ, เกาะมาตรา และ เกาะลังกาจิว ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักดำน้ำที่น่าสนใจในหมู่เกาะชุมพรอีกด้วยนะคะ
6. เกาะกระดาน จ.ตรัง (6)

ที่ตั้ง | เกาะกระดาน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง |
ทะเล | ทะเลฝั่งอันดามัน |
ฤดูท่องเที่ยว | พฤศจิกายน ถึง เมษายน |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้น |
เกาะกระดานเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อของจังหวัดตรัง มีเนื้อที่กว่า 0.96 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ห่างจากเมืองกันตังไปประมาณ 10 กิโลเมตร และอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะมุกและเกาะลิบง อีกทั้งเกาะกระดานยังเป็นเกาะที่ขึ้นชื่อในเรื่องการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรอีกด้วยนะคะโดยถือว่าเป็นไฮไลท์ของเกาะนี้เลยทีเดียว ซึ่งมักจะจัดในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุก ๆ ปี
ในส่วนของความสวยงามของปะการังนั้นบอกเลยว่ามีสีสันที่สวยสดใสชัดเจนมาก ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ปะการังสมอง, ปะการังเขากวาง และปะการังอ่อนหนามแดง อีกทั้งยังมีฝูงปลาหลากสีสันที่แหวกว่ายอยู่บริเวณรอบ ๆ อย่างสวยงาม ถือว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการดำน้ำมาก ๆ และยังมีพื้นที่สำหรับผู้ที่ชอบการโต้คลื่นให้ลงเล่นอีกด้วยนะคะ
แนะนำ ที่พักบนเกาะกระดาน
![]() | โครัล การ์เดน รีสอร์ต (Coral Garden Resort) | |
![]() | KALUME' Eco Boutique Resort | |
![]() | กระดาน บีช รีสอร์ต (Kradan Beach Resort) |
7. เกาะรอบๆ พัทยา จ.ชลบุรี
ที่ตั้ง | รอบ ๆ พัทยา จ.ชลบุรี |
ทะเล | ทะเลฝั่งอ่าวไทย |
ฤดูท่องเที่ยว | พฤศจิกายน ถึง เมษายน |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำลึก |
เมื่อพูดถึงพัทยาแล้วหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเมืองพัทยานั้นมีดีกว่าสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน เพราะเกาะรอบ ๆ เมืองพัทยานั้นก็มีความสวยงามทางธรรมชาติที่น่าสนใจไม่แพ้แสงสีในตัวเมืองเลยค่ะ
โดยเกาะรอบๆ พัทยานั้นจะเหมาะสำหรับผู้ดำน้ำทุกเพศทุกวัย ทั้งผู้ที่เป็นมือใหม่หรือผู้เชียวชาญการดำน้ำ ต่างก็สามารถหาความสนุกได้จากเกาะเหล่านี้ อย่างเช่น เกาะครก ที่มีเป็นแหล่งดำน้ำใกล้กับชายฝั่งที่สุด กระแสน้ำกำลังดีไม่แรงมากถือว่ากำลังดี มีระดับความลึกประมาณ 3-12 เมตร เท่านั้น หากในบางวันคุณโชคดีอาจจะเจอกับเต่าทะเลที่เกาะครกก็เป็นได้ค่ะ ต่อมาเป็น เรือพัทยา ที่เป็นจุดดำน้ำที่ลึกขึ้นมาอีกระดับ โดยจุดเด่นอยู่ที่ซากเรือสำเภาโบราณที่จมอยู่ในลึกประมาณ 26 เมตร และที่ใกล้ ๆ กับ กองหินพระนาง เป็นอีกจุดที่คุณสามารถมาชื่นชมกับปะการังสวย ๆ ที่ไล่ยาวไปกว่าประมาณ 200-300 เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นนักดำน้ำมือใหม่มากค่ะ เพราะมีระดับความลึกอยู่ที่ 6-20 เมตร และเป็นบริเวณกระแสน้ำไม่แรงมากนัก นอกจากนี้ยังมี เกาะไผ่, เกาะมารวิชัย และ เกาะริ้น ที่อยู่ไกลออกไป โดยแต่ละเกาะล้วนเป็นจุดสำหรับดำน้ำที่น่าสนใจไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเลยค่ะ
แนะนำ ที่พักพัทยา
![]() | โรงแรมไฟว์ บีช เฮาส์ (5ive Beach House Hotel) | |
![]() | แอลเค เอมเมอรัลด์ บีช (LK Emerald Beach) | |
![]() | โรงแรมฮาร์ดร็อค พัทยา (Hard Rock Hotel Pattaya) |
8. หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา (7,8)

ที่ตั้ง | ตำบล/แขวงคุระ อำเภอ/เขตคุระบุรี ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา |
ทะเล | ทะเลอันดามัน |
ฤดูท่องเที่ยว | เมษายน ถึง ตุลาคม |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้นและลึก |
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ตั้งอยู่ในจังหวัดพังงา มีเนื้อที่ประมาณ 135 ตารางกิโลเมตร และมีเกาะเล็ก ๆ มากมาย ทั้งยังมีทรัพยากรป่าไม้ที่ค่อนข้างอุดมสมูรณ์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเราแบ่งหมู่เกาะสุรินทร์ออกเป็นเกาะสุรินทร์เหนือ-เกาะสุรินทร์ใต้ โดยจะมีเกาะเล็ก ๆ เพิ่มมาอีก 3 เกาะ อันได้แก่ เกาะมังกร, เกาะสต๊อก และ เกาะตอรินลา ในส่วนของกองหินสำหรับจุดดำน้ำนั้นจะมี กองหินแพ-กองหินริเชลิว ที่เป็นจุดดำน้ำลึกอันโดดเด่นของหมู่เกาะสุรินทร์ ที่ในเรื่องของความสวยงามใต้ท้องทะเลต้องยกให้เขาเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกะการังผักกาด, ปะการังอ่อน, ปะการังสมอง, ปะการังเขากวาง, กัลปังหา และ ดอกไม้ทะเล อีกทั้งยังมีปลานานาชนิดที่มีสีสันสวยงามให้คุณได้ชม รวมถึงสัตว์ทะเลหายากอย่าง เต่าทะเล, ฉลามวาฬ และปลากระเบนราหูให้คุณได้เห็นในบางครั้งอีกด้วยนะคะ
สำหรับใครที่อยากดำน้ำตื้นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ก็มีจะ อ่าวไม้งามและอ่าวสุเทพ ที่จะมีแนวปะการังน้ำในสภาพที่สมบูรณ์ขนาดใหญ่ให้คุณได้ชม สำหรับจุดอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็จะมี อ่าวแม่ยาย, เกาะปาจุมบา (เกาะมังกร) ค่ะ
9. เกาะหวาย และ เกาะรัง จ.ตราด (9)

ที่ตั้ง | ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด |
ทะเล | ทะเลอ่าวไทย |
ฤดูท่องเที่ยว | พฤศจิกายน ถึง เมษายน |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้นและลึก |
นอกจากเกาะกูด-เกาะช้างแล้ว สำหรับจังหวัดตราดนั้นยังมีเกาะหวาย-เกาะรัง ที่น่าสนใจอยู่ไม่แพ้กัน โดยปกติหากคุณต้องการไปเกาะช้างนักท่องเที่ยวมักจะนั่งเรือมาชมความงามของปะการังที่เกาะหวายด้วย เพราะเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ใช้เพียงสน็อกเกิ้ลหรือหน้ากากกันน้ำก็สามารถชมความงามของปะการังได้แล้วค่ะ แต่สำหรับสำหรับจุดดำน้ำลึกที่น่าสนใจอื่น ๆ ก็จะมีทั้ง จุดหินลูกบาต (อยู่ระหว่างร่องน้ำของเกาะช้างกับเกาะคลุ้ม มีความลึก 15-20 เมตร), จุดหินสามเส้า (เป็นจุดดำน้ำลึกที่สวยเช่นกัน โดยมีความลึกประมาณ 15-20 เมตร), จุดหินพรายน้ำ (เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าปลาใหญ่นานาพรรณที่สวยงาม มีความลึกอยู่ที่ 20-30 เมตร) และสุดท้ายเป็น เกาะกระ-เกาะรัง (เป็นจุดดำน้ำดูปะการังน้ำได้ทั้งแบบลึกและแบบตื้นที่สวยงามที่คุณไม่ควรพลาด)
แนะนำ ที่พักบนเกาะช้าง
![]() | ซีวิว เกาะช้าง (Sea View Koh Chang) | |
![]() | โครอล รีสอร์ท (Coral Resort) | |
![]() | เคซี แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา (KC Grande Resort & Spa) Food |
10. เกาะเฮ-เกาะราชาใหญ่-เกาะราชาน้อย จ.ภูเก็ต (10)

ที่ตั้ง | ทั้งเกาะเฮ-เกาะราชาใหญ่-เกาะราชาน้อย ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับ จ.ภูเก็ต |
ทะเล | ทะเลอันดามัน |
ฤดูท่องเที่ยว | พฤศจิกายน ถึง เมษายน |
ประเภทการดำน้ำ | ดำน้ำตื้นและลึก |
เกาะเฮ-เกาะราชาใหญ่-เกาะราชาน้อย เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกาะภูเก็ต อีกทั้งยังเป็นแหล่งดำน้ำที่น่าสนใจทั้ง 3 เกาะ เพราะที่นี่มีทั้งปะการังและสัตว์ทะเลมากมายให้คุณได้เชยชม ไม่เพียงแต่มีดีที่จุดดำน้ำเท่านั้นนะคะ แต่ที่นี่ยังมีหาดทรายที่ขาวสะอาดมาก ๆ มาพร้อมกับน้ำทะเลสีฟ้าใสขั้นสุดที่ชวนให้คุณหลงไหลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวเหมาะกับผู้ที่รักความสงบ
สำหรับจุดดำน้ำของเกาะราชานั้นจะมีเด่น ๆ ด้วยกันอยู่ 3 จุดได้แก่ อ่าวคอนแค,อ่าวหลาที่เป็นจุดดำน้ำที่สวยที่สุด และอ่าวสยาม สำหรับใครที่ชอบการดำน้ำแบบลึกขึ้นมาหน่อยเราแนะนำให้ไปยัง เกาะราชาน้อย ที่มีความลึกในระดับ 10-40 เมตร โดยบริเวณปลายสุดทางเหนือของเกาะจะมีร่องดำน้ำที่สามารถเลาะไปเรื่อย ๆ ที่บางครั้งอาจจะพบกับฉลามปะการังและปลากะเบนราหูด้วยนะคะ
โดยรวมแล้วถือว่าเกาะเฮ-เกาะราชาใหญ่-เกาะราชาน้อย นั้นเป็นจุดดำน้ำลึกแบบ SCUBA และยังเป็นจุดดำน้ำแบบตื้น ที่สวยมาก ๆ ซึ่งมีความงามเทียบเท่ากับเกาะเต่า, เกาะสุรินทร์ หรือเกาะสิมิลัน เลยก็ว่าได้ค่ะ
แนะนำ ที่พักภูเก็ต
![]() | กะตะ ร็อคส์ (Kata Rocks Resort & Residences) | |
![]() | ตรีสรา ภูเก็ต วิลลา แอนด์ เรสซิเดนซ์ (Trisara Phuket Villas & Residences) | |
![]() | วินด์แฮม แกรนด์ ภูเก็ต กะหลิม เบย์ (Wyndham Grand Phuket Kalim Bay) |
บทส่งท้าย
เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบมาก ๆ ค่ะ โดยเฉพาะสถานที่ที่เป็นธรรมชาติ หากคุณชอบการปีนเขา, ขึ้นเขา, เดินป่า, ล่องแก่ง, ตั้งแคมป์ หรืออยากชมความงดงามของทะเลหมอก เราแนะนำให้คุณไปเที่ยว เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์, ปาย จังหวัดแม่ฮองสอน, เชียงคาน จังหวัดเลย, ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่ใครที่เป็นสายท่องเที่ยวเชิงรักทะเลรักการดำน้ำ คุณจะต้องลงใต้ไปยัง เกาะเต่า, เกาะสมุย, เกาะพีพี, เกาะลันตา, เกาะหลีเป๊ะ, ภูเก็ต และ เกาะสวย ๆ ในจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทะเลอันดามันที่เป็นที่นิยมในภาคใต้อย่างมาก แต่ถ้าคุณจะเที่ยวทะเลแบบใกล้กรุงเทพหน่อย เราแนะนำเป็นจังหวัดชลบุรี (บางแสน–เกาะสีชัง–เกาะล้าน), ระยอง (เกาะเสม็ด), จันทบุรี และจังหวัดตราด (เกาะกูด-เกาะช้าง) เป็นต้นค่ะ


ก่อนจากกันสำหรับใครที่ต้องการเก็บภาพความทรงจำของท้องทะเลที่สวยงามไว้ชมเมื่อยามคิดถึง เราแนะนำให้คุณพกกล้องถ่ายรูปใต้น้ำไปด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น กล้องแอคชั่น แบรนด์ดังอย่าง กล้องยี่ห้อ GoPro , DJI, Sony, SJCAM, DRIFT, Nikon, Olympus หรือ Garmin ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกกล้องยี่ห้อไหนก็ตาม คุณควรมองหากล้องแอคชั่นที่มีความละเอียดของภาพไม่ต่ำกว่า 1080p ที่ 60fps และเราขอแนะนำให้คุณอย่าลืมที่จะตรวจสอบคุณสมบัติระดับการกันน้ำของกล้องแต่ละรุ่นด้วยนะคะ เพราะในบางรุ่นแม้ว่าจะให้ความคมชัดระดับดีเยี่ยม แต่กล้องอาจจะกันน้ำได้ไม่ลึกมากพอ หรือบางรุ่นก็อาจจะต้องใช้เคสกันน้ำเสริมช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้อย่าลืมคำนึงถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วยนะคะ
สำหรับใครที่มีกล้อง GoPro อยู่แล้ว เราขอแนะนำบทความอุปกรณ์เสริมกล้อง GoPro ที่จะทำให้กล้องของคุณมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีอะไรน่าสนใจบ้างต้องตามไปอ่านกันเลยค่ะ
References