แม้ว่ากรุงเทพมหานครบ้านเราจะเป็นเมืองหลวงที่ครบครันไปด้วยห้างสรรพสินค้าและของกินอร่อย ๆ มากมาย แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติภายในกรุงเทพนั้นไม่สามารถสู้กับต่างจังหวัดได้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตก, ภูเขา และทะเล ดังนั้นในช่วงวันหยุดหรือเวลาว่างคนในกรุงเทพส่วนใหญ่จึงเลือกเดินทางไปต่างจังหวัดก่อนบ่อยครั้ง เพราะจังหวัดใกล้เคียงที่มีธรรมชาติสวย ๆ ก็มีตัวเลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ชลบุรี, ระยอง, ประจวบคีรีขันธ์ หรือ เพชรบุรี ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของทะเล ซึ่งมีชายหาดและเกาะให้ท่องเที่ยวเยอะมาก หากใครกำลังโหยหาบรรยากาศทะเลวันนี้ในบทความเราจะมา ‘แนะนำ ทะเลใกล้กรุงเทพ’ มาฝากกันครับ

1. เกาะล้าน (จ.ชลบุรี)

เกาะล้านเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายคนไปเที่ยวกันค่อนข้างเยอะ เนื่องจากจังหวัดชลบุรีมีระยะทางไม่ได้ไกลจากกรุงเทพ อีกทั้งความสวยของเกาะ และชายหาดก็ถือว่าสวยมาก โดยทรายจะออกเป็นโทนขาวครีมสวย ๆ และน้ำทะเลเป็นสีน้ำเงินใส ภายในเกาะยังมีกิจกรรมให้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การดูปะการัง, เรือสกี และเรือลากซึ่งบอกเลยว่าห้ามพลาด ! สนุกมาก ๆ ในขณะเดียวกันบนเกาะยังมีหาดให้เลือกไปเล่นและชมวิวทิวทัศน์มากกว่า 6 หาด รวมไปถึงที่พักภายในเกาะและอาหารก็ครบครัน เรียกว่าเตรียมตังค์เอาไว้ให้พร้อมก็เที่ยวกันได้อย่างสนุกแล้ว

2. หาดน้ำริน (จ.ระยอง)

หาดน้ำรินจัดเป็นชายหาดขนาดเล็ก เพราะมีความยาวเพียงแค่ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ถ้ามาแล้วต้องไม่ผิดหวัง เพราะถ้าหากคุณเลือกมาในช่วงจังหวะที่อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าสีครามและน้ำทะใสสีน้ำเงินจะตัดกันได้อย่างสวยงาม ถือเป็นวิวที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจกันสุด ๆ นอกจากนี้บริเวณชายหาดเองก็มีโขดหินกระจายตัวอยู่ ซึ่งสามารถไปถ่ายรูปอัพโซเชียลได้แบบเก๋ ๆ ไม่เพียงเท่านั้นคุณยังสามารถเตรียมเสื่อไปปิ๊กนิ๊กเพื่อรับประทานอาหารและชมวิวทะเลไปพร้อมกับครอบครัวในวันหยุดได้ เพราะหาดน้ำรินบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะมากสำหรับการมาสูดอากาศธรรมชาติ

3. เกาะเสม็ด (จ.ระยอง)

เกาะเสม็ดไม่ได้ดังเพียงแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังดังไกลไปถึงนานาชาติสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จากทั่วมุมโลก โดยไฮไลท์ของเกาะเสม็ด คือทรายหาดซึ่งมีความขาวละเอียด ถึงขณะที่อยู่ในวรรณคดีชื่อดังอย่าง ‘พระอภัยมณี’ และมีฉายาและหลายคนเรียกกันติดปากว่า ‘เกาะแก้วพิศดาร’ ส่วนเหตุผลที่มีการตั้งชื่อว่าเกาะเสม็ดก็เนื่องจากบนเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นเสม็ดซึ่งมีความใหญ่และอุดมสมบูรณ์มาก! ทั้งนี้บนเกาะยังมีอ่าวให้นักท่องเที่ยวรับชมกันกว่า 15 อ่าว แต่ที่เด่นและห้ามพลาดเลยคือ อ่าวกลาง, หาดทรายแก้ว, อ่าววงเดือน และอ่าวไผ่ เพราะสวย บรรยากาศดี เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ

4. หาดเขาตะเกียบ (จ.ประจวบคีรีขันธ์)

บริเวณของชายหาดเขาตะเกียบ จะมีเขาลูกหนึ่งยื่นออกกลางทะเล ทำให้ชาวบ้านและผู้คนแถวนั้นตั้งชื่อว่า ‘เขาตะเกียบ’ นั่นเอง โดยความสวยของที่นี่คงต้องยกให้ในเรื่องของความสะอาด เพราะถ้าหากใครเคยได้เขาไปเที่ยวกันมาก่อนจะเห็นได้เลยว่าหาดทรายขาวนวลไร้ขยะ มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตรกว่าให้เดินเล่น ส่วนน้ำทะเลก็จะมีความใสเขียวปนน้ำเงินตามแบบฉบับของคำว่าน้ำทะเลสวย ไม่เพียงเท่านั้นบนเขายังมีพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ให้เราได้ไหว้เคารพบูชาเป็นสิริมงคลในชีวิตอีกด้วย ถ้าหากใครอยู่กรุงเทพแล้วอยากหลบหนีความวุ่นวายมาอยู่กับบรรยากาศทะเลสงบ ๆ ผมแนะนำเลยครับว่าหาดเขาตะเกียบตอบโจทย๋สุด ๆ

5. หาดปึกเตียน (จ.เพชรบุรี)

ถึงแม้ว่าจะยังไม่เคยไป ‘หาดปีกเตียน’ แต่ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นทะเลแห่งนี้ผ่านหน้าผ่านตาในรูปภาพกันไม่มากก็น้อย เพราะจุดเด่นของที่นี่คือรูปปั้นผีเสื้อสมุทรซึ่งยืนอยู่กลางทะเล ในขณะเดียวกันความสมบูรณ์ของธรรมชาติเองก็ถือว่าสวยครับ ถึงแม้ว่าชายหาดจะไม่ได้กว้างมากแต่ความขาวถือว่าไม่ได้แพ้ใคร อีกทั้งคลื่นทะเลของที่นี่ไม่ได้แรงมากครับ สามารถลงไปเล่นน้ำได้สบาย ๆ ทั้งยังมีบริการอาหารและที่พักให้เราเลือกเยอะมาก หากใครอยากเปลี่ยนที่นอนและบรรยากาศใหม่ ๆ ที่นี่ผมแนะนำครับ

6. หาดชะอำ (จ.เพชรบุรี)

ถ้าหากพูดถึงเพชรบุรีแน่นอนว่าสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือ ‘หาดชะอำ’ เพราะมันไม่ได้สวยเพียงแค่ทรายหรือน้ำทะเลเท่านั้น แต่มันยังเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งซึ่งสามารถเข้าไปดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ เป็นแสงแรกของวันที่สวยมาก ส่วนในช่วงเวลากลางวันเองก็มีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ขี่ม้า, เล่นสกู๊ตเตอร์ และบานาน่าโบ๊ท และเล่นน้ำทะเล อีกทั้งยังมีอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกรับประทานเยอะมาก ถ้าได้มากรับรองว่าอิ่มทั้งบรรยากาศและอิ่มท้องไปพร้อม ๆ กันเลยครับ

7. หาดทรายแก้ว (จ.ระยอง)

หาดทรายแก้วสามารถเข้าไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าหากอยากรับชมความสวยและความอุดมสมบูรณ์ของทะเลมากที่สุด แนะนำให้ไปในช่วงปลายปีครับ ช่วงประมาณกันยายนไปจนถึงธันวาคม เพราะน้ำทะเลจะใสสุด ๆ ทำให้เราสามารถไปดำชมปะการังได้แบบเต็มที่ สร้างความประทับใจให้ใครหลายคนเลยทีเดียว ส่วนความสวยของทรายบนชายหาดก็ไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะเพียงแค่ชื่อหาดก็พอจะอธิบายได้ทั้งหมดแล้ว โดยเม็ดทรายจะมีความละเอียดและขาวสะอาดกว้างกว่า 1.7 กิโลเมตรให้เราเดินรับลมทะเลชิล ๆ

8. หาดเตยงาม (จ.ชลบุรี)

สำหรับชาวกรุงเทพคนไหนมีแพลนอยากไปดำน้ำผมแนะนำที่นี่เลยครับ เพราะบริเวณใกล้เคียงของหาดเตยงามจะมีเกาะหนึ่งที่ชื่อว่า ‘เกาะไก่เตี้ย’ ซึ่งเราสามารถเดินไปตามน้ำแหวกได้แบบไม่ต้องนั่งเรือไปให้เสียเวลา ส่วนบริเวณชายหาดเตยงามก็จะมีต้นไม้นานาพันธุ์อันเขียวชอุ่มให้เราชมและสูดออกซิเจนกันอย่างเต็มปวด ทั้งยังมีสัตว์ตัวเล็กและน้ำทะเลใสให้เราได้เล่นกันแบบเต็มที่ นอกจากนี้หากใครมีเวลามากหน่อยผมแนะนำให้อยู่ถึงช่วงพระอาทิตย์ตกครับ เพราะเราจะได้เห็นวิวแสงสุดท้ายสีส้มอล่ามแบบพาโนราม่า ซึ่งรับชมได้ยากมากใน กทม. บอกเลยว่าได้ภาพสวยและความทรงจำดี ๆ กลับไปอย่างแน่นอน

9. เกาะไผ่ (จ.ชลบุรี)

หากใครได้มีโอกาสไปเกาะล้าน อย่าลืมที่จะแวะไป ‘เกาะไผ่’ กันนะครับ เพราะมันห่างกันเพียงแค่ประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น โดยเกาะแห่งนี้เหมาะสำหรับการไปเที่ยว One Day Trip เนื่องจากบนเกาะไม่มีบริการที่พักให้ แต่ถ้าได้ก้าวเข้าไปแล้วบอกเลยว่าไม่ผิดหวังกับการเสียเวลาไปเหยียบบนเกาะ เพราะน้ำของที่นี่ใสมาก !!!!!!! เรียกว่ายืนอยู่ในน้ำก็สามารถเห็นปลาแหวกว่ายกันเลยทีเดียว เหมาะกับทั้งการดำน้ำชมปะการัง, พายเรือคายัค แต่ใครที่ไม่ใช่แนวลุยน้ำก็สามารถไปถ่ายรูปกับวิวหาดทรายและต้นไม้เขียว ๆ บนเกาะได้ครับ บอกเลยว่าภาพออกมาสวยประทับใจไม่ผิดหวัง

10. หาดปากน้ำปราณ (จ.ประจวบคีรีขันธ์)

ไฮไลท์ของหาดปากน้ำปราณจะไม่เหมือนกับหาดอื่น ๆ ตรงที่วิวด้านหน้าชายหาดจะโล่งกว้างแบบพาโนราม่าเห็นวิวน้ำทะเลได้แบบเต็มที่ และหายทราดของที่นี่จะสลับเฉดกับน้ำทะเลเป็นโทนน้ำตาลฟ้าคราม ที่ไม่ว่าใครเห็นก็บอกว่าสวยครับ แต่แลนด์มาร์คซึ่งทำให้รู้เลยว่าถึงหาดแล้วนั่นคือต้นตาลสูงเด่นตระหง่านเรียงกัน 3 ต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวถ่ายคู่เก็บเอาไว้บ่อยครั้ง ใครมีโอกาสมาเที่ยวประจวบก็อย่าลืมเช็คอินหาดทรวยและทะเลสวย ๆ ที่นี่กันนะครับ