แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ ภาค 1 [สปอยหนังภาคต่อดังๆ]

แนะนำภาพยนตร์ดังๆ หนังภาคต่อสนุกๆ : แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ภาค 1

Harry Potter and the Philosopher’s Stone [2001]

เรื่องราวชีวิตของเด็กชายกำพร้าคนหนึ่งชื่อว่า “Harry Potter” เขาถูกเลี้ยงดูโดยครอบครัวของญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ หลังผ่านความทุกข์ยากมาถึง 11 ปี เขาก็ได้รู้ความจริงว่าตัวเขาเองมีพลังวิเศษหลังได้จดหมายรับเชิญให้เข้าเรียนที่โรงเรียนสำหรับพ่อมดแม่มด ขณะเดียวกันก็ได้รู้เรื่องราวการตายของพ่อแม่ที่ไม่ใช่แค่การประสบอุบัติรถชนเหมือนที่ป้าบอก แต่พ่อแม่ของเขาต้องผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมสุดเลวร้ายใน “โลกเวทมนตร์” เพียงเพื่อต้องการปกป้องเขาจากจอมมาร

นักแสดงหลักใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาค 1

	แฮร์รี่พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิตจากการสังหารของจ้าวแห่งศาสตร์มืด หลังจากทุกข์ยากจากการเลี้ยงดูของครอบครัวเดอร์ลีย์ถึง 10 ปี หลังรู้ว่าตัวเองเป็นพ่อมดชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงและต้องเผชิญหน้ากับคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
	รอน วิสลีย์ เด็กชายหัวแดงที่มาจากตระกูลสายพ่อมดแม่มดเลือดบริสุทธิ์ เป็นเพื่อนคนแรกในโลกเวทมนตร์ของแฮร์รี่ ถึงแม้จะไม่เก่งในการร่ายคาถา แต่เขาก็สามารถช่วยให้แฮร์รี่ชนะเกมหมากรุกพ่อมดได้อย่างชาญฉลาด
	เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ สาวน้อยที่เกิดจากครอบครัวมักเกิ้ล (มีพ่อหรือแม่เป็นมนุษย์ธรรมดา) แต่เธอสามารถร่ายคาถาได้อย่างแม่นยำจนได้รับเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ ทั้งยังเป็นเพื่อนกับแฮร์รี่และรอนในเวลาต่อมา ด้วยความเก่งกาจนี้ทำให้เธอสามารถแก้ปัญหาและช่วยชีวิตเพื่อน ๆ ไว้ได้เสมอ
	ศาสตราจารย์อัลบัส ดัมเบิลดอร์ พ่อมดผู้มีพลังมากที่สุด ทั้งยังพวงด้วยบทบาทอาจารย์ใหญ่ผู้ปกครองฮอกวอตส์ และผู้ก่อตั้งองค์กรที่ต่อสู้กับจ้าวแห่งศาสตร์มืดอย่างลับ ๆ อัลบัสจะต้องต่อสู้เพื่อปกป้องแฮร์รี่และนักเรียนฮอกวอตส์ทุกคนจากจ้าวแห่งศาสตร์มืดและเหล่าสมุน ซึ่งมีเพียงเขาเท่านั้นที่มีพลังมากพอจะต่อกรกับอำนาจชั่วร้ายได้
	ศาตราจารย์สอนวิชาป้องกันจากศาสตร์มืด ควิรินัส ควีเรลล์ ที่มีนิสัยประหม่าขี้ตกใจจากการถูกกลั่นแกล้งในวัยเด็กส่งผลให้เขาพูดติดอ่างและมีจิตใจอ่อนไหวจนตกเป็นเป้าหมายของพ่อมดชั่วร้าย

สถานที่ถ่ายทำหลัก ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาค 1

1. Christ Church College, England ⁽¹⁾ 

สถาบันการศึกษาแห่งเดียวในโลกที่เป็นโบสถ์ เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำหลักในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ตค่ะ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถเห็นความสวยงามของโบสถ์นี้ได้ในฉากที่แฮร์รี่เข้ารับการคัดเลือกจากหมวกคัดสรร, ฉากห้องโถงใหญ่ และฉากทางเดินต่าง ๆ

2. Alnwick Castle, England ⁽²⁾ 

เพื่อน ๆ จำฉากที่แฮร์รี่และเดรโกแข่งบินไม้กวาดกันได้ไหมคะ และสถานที่ถ่ายทำฉากนั้นก็คือ Alnwick Castle และปราสาทแห่งนี้ก็มีประวัติเกี่ยวข้องกับราชวงศ์อังกฤษที่น่าสนใจมาก ๆ อีกด้วยค่ะ

3. Warner Bros. Studios, England ⁽³⁾ 

และนี่ก็คือสตูดิโอหลักที่ใช้ถ่ายทำแฮร์รี่ พอตเตอร์ค่ะ ภายในประกอบด้วยห้องนั่งเล่นบ้านกริฟฟินดอร์, ห้องทำงานอัสบัส, กระท่อมของแฮร์กริด และฉากสำคัญ ๆ อีกมากมายเลยค่ะเพื่อน ๆ

เนื้อเรื่องสปอย : แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ภาค 1 

ศาสตราจารย์อัลบัส ดัมเบิลดอร์, ศาสตราจารย์มิเนอร์ว่า มักกอนนากัล และ รูเบอัส แฮร์กริด พาร่างของทารกคนหนึ่งวางไว้หน้าบ้านของ ครอบครัวเดอร์สลีย์ และเด็กคนนั้นก็คือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายผู้รอดชีวิตจากการลอบสังหารของ ลอร์ด โวลเดอมอร์ จ้าวแห่งศาสตร์มืดที่หายไป ทิ้งเพียงแต่รอยแผลเป็นปริศนาไว้ที่หน้าผากของแฮร์รี่ สิบปีต่อมาแฮร์รี่เติบโตขึ้นมาอย่างทุกข์ยากในบ้านเดอร์สลีย์ที่ปฏิบัติราวกับเขาเป็นทาส วันหนึ่งครอบครัวเดอร์สลีย์และแฮร์รี่เดินทางไปสวนสัตว์ แต่เขาสามารถสื่อสารกับงูได้อย่างน่าประหลาดใจและดัดลีย์ลูกพี่ลูกน้องของแฮร์รี่ก็ตกลงไปในกรงขังงูอย่างปริศนาทำให้ลุงเวอร์นอนโกรธจัดโทษว่าเป็นเพราะแฮร์รี่ และขังแฮร์รี่ไว้ในห้องใต้บันไดโดยไม่บอกถึงสาเหตุให้แฮร์รี่รู้

ใกล้วันเกิดปีที่สิบเอ็ดแฮร์รี่ก็ได้รับจดหมายจ่าหน้าซองถึงเขาเป็นครั้งแรก แต่ไม่ทันได้เปิดอ่านดัดลีย์และลุงเวอร์นอนก็ทำลายมันทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่ถึงอย่างนั้นก็มีจดหมายส่งถึงเขาอย่างท่วมท้นจนลุงเวอร์นอนต้องพาทุกคนหลบหนีไปยังเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ไม่มีใครสามารถตามหาพวกเขาเจอแน่ ๆ และในคืนวันเกิดของแฮร์รี่ ก็มีชายรูปร่างสูงใหญ่ผิดขนาดมนุษย์ทั่วไปนามว่าแฮร์กริดก็ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมบอกความจริงว่าเขาเป็นพ่อมดและได้มอบจดหมายที่มีเนื้อความว่า “เขาได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนที่โรงเรียนเวทมนตร์ฮอกวอตส์” หลังจากจัดการสั่งสอนบทเรียนกับครอบครัวเดอร์สลีย์เป็นที่เรียบร้อย แฮร์กริดก็พาแฮร์รี่ไปยังตลาดในโลกเวทมนต์เรียกว่า “ตรอกไดแอกอน” เมื่อไปถึงที่นั่นเขาก็ได้รู้ว่าตัวเองเป็นที่รู้จักในชื่อ “เด็กชายผู้รอดชีวิต” แฮร์กริดพาเขาไปยังธนาคารกริงกรอตส์เพื่อถอนเงินค่าอุปกรณ์การเรียนและทำธุระสำคัญของโรงเรียนใน “ห้องนิรภัย 713” ไม่กี่วันหลังจากนั้นแฮร์รี่ก็ต้องขึ้นรถไฟที่ชานชาลา 9 ¾ เพื่อมุ่งหน้าไปยังฮอกวอตส์ และบนรถไฟเขาก็ได้พบกับเพื่อนใหม่อย่าง รอน วิสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ทั้งสามกลายเป็นเพื่อนกันในเวลาต่อมา

เมื่อมาถึงฮอกวอตส์ นักเรียนปีหนึ่งทุกคนจะต้องรับคัดเลือกเข้าประจำบ้าน ได้แก่ “กริฟฟินดอร์, ฮัลเฟิลพัฟ, เรเวนคลอร์ และ สลิธีริน” ซึ่งคัดเลือกโดยหมวกคัดสรรที่แยกเด็กตามลักษณะนิสัยที่เข้ากับบ้านนั้น ๆ สุดท้ายแฮร์รี่ก็ได้อยู่บ้านกริฟฟินดอร์กับเพื่อนอีกสองคน ถึงแม้ว่าหมวกจะบอกว่าเขาเหมาะกับบ้านสลิธีรินก็ตาม ชีวิตของพวกเขาในฮอกวอตส์เป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งวันหนึ่ง เดรโก มัลฟอย นักเรียนปีหนึ่งแห่งบ้านสลิธีรินที่เป็นคู่ปรับกับพวกเขาได้ท้าแฮร์รี่แข่งเหาะไม้กวาด และนั่นทำให้ศาตราจารย์มักกอนนากัลเห็นความสามารถและชักชวนให้แฮร์รี่เข้าร่วมทีม “ควิชดิช” ในตำแหน่งสำคัญอย่าง “ซีกเกอร์” มีหน้าที่อย่างเดียวคือจับลูกสนิชให้ได้ หากเขาจับมันได้จะทำให้เกมจบลงทันที เนื่องจากมีคะแนนสูงถึง 150 แต้ม

ในคืนวันฮาโลวีนมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อ ศาสตราจารย์ควีเรลล์ อาจารย์สอนวิชาป้องกันศาสตร์มืดร้องโหวกเหวกโวยวายว่ามีโทรลล์หลุดเข้ามาและมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำหญิง แฮร์รี่และรอนนึกขึ้นได้ว่าเฮอร์ไมโอนีอยู่ที่นั่นเลยรีบเข้าไปช่วยไว้ได้อย่างทันท่วงที แต่แฮร์รี่สังเหตุเห็นอาการผิดปกติของ ศาสตราจารย์ เซเวอรัส สเนป อาจารย์สอนวิชาปรุงยาและมีท่าทีเกลียดชังแฮร์รี่อย่างน่าสงสัย เมื่อวันแข่งควิชดิชนัดแรกเริ่มต้นขึ้น แฮร์รี่กำลังเจอปัญหาเมื่อไม้กวาดนิมบัส 2000 ที่เขาได้รับเป็นของขวัญมีความผิดปกติเกิดขึ้น แต่เฮอร์ไมโอนีสังเกตุเห็นสเนปกำลังทำท่าทางเหมือนร่ายมนตร์บางอย่างใส่แฮร์รี่อยู่ ด้วยความไม่ไว้ใจเธอเลยแอบร่ายคาถาจุดไฟใส่เสื้อคลุมของเขาทำให้แฮร์รี่ควบคุมไม้กวาดได้ทำให้เขาจับลูกโกลเด้นสนิชได้เร็จ เกมจบลงด้วยชัยชนะของกริฟฟินดอร์

แต่ความอยากรู้อยากเห็นของทั้งสามคนยังไม่หมด แฮร์รี่ลองปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดและสงสัยว่าโรงเรียนกำลังซ่อนของสำคัญบางอย่างเอาไว้และเป็นสิ่งที่สเนปต้องการ ในที่สุดเฮอร์ไมโอนีก็รู้ว่าโรงเรียนกำลังปกป้อง ศิลาอาถรรพ์ สิ่งประดิษฐ์ของ นิโคลัส เฟลมเมล ที่สามารถทำให้ชุบชีวิตให้เป็นอมตะได้และคิดว่าสเนปกำลังตามหาเพื่อนำไปชุบชีวิตให้โวลเดอมอร์ ทั้งสามจึงฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ มาจนถึงด่านสุดท้ายที่แฮร์รี่ต้องเข้าไปคนเดียว แต่เขาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อคนที่เขาพบกลับเป็นศาสตราจารย์ควีเรลล์ เขาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้แฮร์รี่ฟังรวมถึงการแข่งขันควิชดิชที่เขาเป็นคนร่ายคาถาสาปไม้กวาดของแฮร์รี่ด้วย ก่อนที่เขาจะเปิดเผยใบหน้าของโวลเดอมอร์ที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าโพกหัว ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงศิลาอาถรรพ์และแฮร์รี่ก็สังหารควีเรลล์สำเร็จแต่โวลเดอมอร์กลับหนีไปได้ สุดท้ายแฮร์รี่ก็ตื่นขึ้นมาในห้องพยาบาลพบว่าศิลาอาถรรพ์ถูกทำลายไปแล้วจากคำบอกเล่าของอาจารย์ใหญ่อัลบัส ซึ่งจากความกล้าหาญของสามสหายทำให้บ้านกริฟฟินดอร์ได้รับรางวัลบ้านดีเด่นในที่สุด

เรียกว่าชีวิตของแฮร์รี่พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะคะ ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเด็กธรรมดา ๆ ที่โดนกดขี่และทำงานหนักราวกับทาสจะกลายเป็นคนมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในโลกเวทมนตร์ และแฮร์รี่ก็สามารถเรียนรู้และปรับตัวในโลกที่ต่างจากเดิมราวฟ้ากับเหวทั้งยังสามารถต่อสู้กับพ่อมดฝีมือดีได้อีกด้วย และสิ่งที่ปกป้องแฮร์รี่ให้พ้นจากความชั่วร้ายก็คือพลังความรักของพ่อและแม่นั่นเองค่ะ

References

1. Christ Church, Oxford
2. Alnwick Castle
3. Warner Bros. Studio Tour London – The Making of Harry Potter