รีวิว ซีรีส์จีน ‘A love so beautiful : รักนี้ยังงดงาม’ (นับแต่นั้น ฉันรักเธอ)

เปลี่ยนมาดูซีรี่ส์ความรักกุ๊กกิ๊กไฮสคูลฝั่งเอเชียกันบ้างค่ะ ซึ่งเรื่องที่เราตั้งใจนำมาแนะนำก็คือซีรีส์จากจีนแผ่นดินใหญ่ “A Love So Beautiful” หรือ “รักนี้ยังงดงาม” มีอีกชื่อภาษาไทยว่า “นับแต่นั้น ฉันรักเธอ” ที่บอกเล่าเรื่องราวย้อนความสัมพันธ์สมัยมัธยมของชายหญิงคู่หนึ่ง ซีรีส์เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องโปรดของเราเลยค่ะ จากที่เคยติดอิมเมจว่าหนังหรือซีรีส์จีนต้องเป็นพวกกำลังภายในหรือไม่ก็แนวพีเรียด แต่หลังจากเปิดใจให้กับซีรีส์เรื่องนี้แล้วทำให้มุมองที่มีต่อซีรีส์จีนของเราเปลี่ยนไปเลยค่ะ และเรื่องนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรากลับมาดูซีรีส์จีนอีกครั้ง

A Love So Beautiful : รักนี้ยังงดงาม ออกอากาศครั้งแรกในปี 2560 และมีกระแสตอบรับแบบถล่มทลาย มียอดคนดูขณะออกอากาศออนไลน์กว่าห้าล้านวิว ซีรีส์ดัดแปลงมาจากนวนิยายรักชื่อ To Our Pure Little Beauty ของนักเขียน จ้าวกานกาน ซึ่งเธอเองก็ได้ร่วมเขียนบทซีรีส์อีกด้วย ขณะที่กำลังออนแอร์ก็มีกระแสตอบรับเชิงบวกในเรื่องของพล็อตและบทบาทของตัวละครอยู่เสมอ หลังจากผ่านไปสามปีซีรีส์เรื่องนี้ก็กลับมามีกระแสอีกครั้งเพราะค่ายผลิตละครของเกาหลีได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมคใหม่ค่ะ

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ A Love So Beautiful : รักนี้ยังงดงาม

เรื่องย่อซีรีส์ A Love So Beautiful : รักนี้ยังงดงาม

เรื่องราวชีวิตของ เฉินเสี่ยวซี (เฉินเยว่) นักเรียนมัธยมปลายที่แอบชอบเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมห้องอย่าง เจียงเฉิน (หูอี้เทียน) นักเรียนหนุ่มสุดฮอตและฉลาดหลักแหลม เธอใช้สาระพัดวิธีที่จะแสดงความรู้สึกเหล่านี้ให้เขาได้รับรู้ด้วยความจริงใจและใสซื่อแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถก้าวข้ามกำแพงน้ำแข็งของเขาได้ จนกระทั่งการปรากฏตัวของเพื่อนร่วมห้องคนใหม่ดีกรีนักกีฬาที่เปลี่ยนความสัมพันธ์แอบรักเป็นรักสามเศร้าเคล้าเสียงหัวเราะ การเติบโตของพวกเขาเต็มไปด้วยสายสัมพันธ์เหนียวแน่น

เหตุผลที่ A Love So Beautiful ควรค่าแก่การรับชม

1. ซีรีส์ฟีลกู้ด แนวผ่อนคลาย ไม่มีปมให้ต้องคิดมาก

ซีรีส์เป็นเรื่องราวความรักใสซื่อบริสุทธิ์ของนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งที่นอกจากการคลั่งรักแล้วเธอก็ไม่สนใจอะไรอีกเลย สำหรับตัวเราเองแล้ว A Love So Beautiful ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างแตกต่างจากซีรีส์เรื่องอื่นอยู่นิดหน่อยเพราะทุก ๆ ตอนเราจะคอยลุ้นว่าเมื่อไหร่นางเอกจะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของพระเอกเสียที (ถึงแม้บางครั้งจะแอบขัดใจความเด๋อของนางเอกไปหน่อยก็เถอะ เขาแสดงออกชัดเจขนาดนั้นแล้วนะ!) และอีกอย่างก็คือซีรีส์เรื่องนี้ดราม่าน้อยมาก ๆ เลยค่ะ มีมานิดหน่อยให้พอซับน้ำตา

2. มีกลิ่นอายไฮสคูล รักวัยใส และการเติบโตของตัวละคร

กว่าเจ็ดสิบเปอร์เซนของซีรีส์เป็นการบอกเล่าเรื่องราววัยมัธยมของตัวละคร ประสบการณ์แอบ (?) รักของนางเอกจะทำให้เราหวนนึกถึงความรักสดใสวัยเด็กของเราได้เสมอ ไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าการได้แอบมองใบหน้ายามเผลอและเรียบร้อยถ้อยคำบอกรักที่หวังว่ามันจะส่งไปถึงเขาในสักวันหนึ่ง และคน ๆ นั้นก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หลายคนรักการไปโรงเรียน ซึ่งนอกจากวัยเรียนแล้วซีรีส์ยังถ่ายทอดชีวิตมหาวิทยาลัยของทั้งคู่อีกด้วย ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เราอมยิ้มจนปวดแก้มแน่นอนค่ะ

3. ความซื่อตรงที่จริงใจของเฉินเสี่ยวซี

นางเอกของเราเป็นคนหนึ่งที่มีการแสดงออกอย่างซื่อตรง ชอบก็บอกว่าชอบ พยายามใช้สาระพัดวิธีเพื่อสะแสดงออกถึงความรู้สึกที่มี ถึงแม้ว่าบางครั้งมันจะเยอะเกินไปจนดูน่ารำคาญแต่เมื่อมองดี ๆ แล้วการแสดงออกทั้งหมดของเธอก็ส่งตรงมาจากหัวใจ มันมีความจริงใจอยู่เต็มเปี่ยม และด้วยนิสัยที่เป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อยและติดซื่อบื่อของเธอก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ความรักเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้

4. ใบหน้าเย็นชาแต่การกระทำแสนอบอุ่นของเจียงเฉิน

ถึงแม้หน้าตาและความฉลาดหลักแหลมจะเป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดให้เราดูซีรีส์เรื่องนี้ แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่ทำให้เราตกหลุมรักเจียงเฉินคือการการกระทำต่างหาก ทั้งสายตาและการกระทำของเขาที่มีต่อนางเอกนั้นค่อนข้างจะแตกต่างจากคนอื่น ๆ จากเคยรำคาญลูกตื๊อของนางเอกก็เริ่มเปลี่ยนเป็นมองหาและคอยแกล้งอยู่เสมอเพราะตกหลุมความซื่อบื้อและความน่าเอ็นดูของเฉินเสี่ยวซีอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งอาการเหล่านี้ก็เริ่มปิดไม่อยู่ตั้งแต่อู๋ปั๋วซงเข้ามามีบทบาทบนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และแน่นอนว่านางเอกไม่เคยสัมผัสได้เลยแม้แต่นิดเดียว

5. Mood & Tone อบอุ่น ละมุน

การใช้โทนสีของซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่น่าสนใจค่ะ เนื่องจากเนื้อเรื่องเป็นการย้อนอดีตวัยเรียนของตังละครเอก ดังนั้นเพื่อน ๆ จะได้เห็นชีวิตของนักเรียนจีนสมัยก่อนที่ยังปั่นจักรยานไปเรียน, ใช้โทรศัพท์ปุ่มกด และการพูดคุยผ่านคิวคิว (QQ เว็บไซต์แชทออนไลน์ยอดฮิตของจีน) และเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไปตามการเติบโตของตัวละคร และการใช้โทนสีที่มีความละมุน นุ่มนวล และอบอุ่นสบายตา

6. พระนางเคมีเข้ากันสุด ๆ

ซีรีส์เรื่องนี้ได้หนุ่มหล่อหูอี้เทียนมารับบทเจียงเฉิน นักเรียนและคุณหมอสุดเย็นชา ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกนักแสดงได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะลุคหนุ่มสูงโปร่งที่มาพร้อมความฉลาดหลักแหลมและสายตาสุดอบอุ่นยามมองคนรักนี่มันหนุ่มในฝันชัด ๆ โดยเฉพาะตอนใส่ชุดกาวน์นี่ทำให้รารู้สึกสั่น ๆ อยากโดนคุณหมอเจียงเฉินตรวจหัวใจยังไงก็ไม่รู้ และหูอี้เทียนก็มาสารถทำได้ดีจนดังเป็นพลุแตกขึ้นแท่นสามีแห่งชาติคนใหม่ของจีนเลยทีเดียว ส่วนเฉินเยว่ที่รับบทเฉินเสี่ยวซีก็ตีบทแตกได้ตีไม่แพ้กันค่ะ เพราะลุคสาวไซส์มินิที่มีความสดใส น่ารัก และการมองโลกในแง่ดีของเธอทำให้หลายคนอมยิ้มด้วยความเอ็นดู

หลังจากผ่านไปสามปี ในที่สุดค่ายหนังยักษ์ใหญ่จากเกาหลีได้ขอซื้อลิขสิทธิ์และนำซีรีส์เรื่องนี้ไปรีเมคในแบบฉบับเกาหลี โดยใช้ชื่อเดียวกัน ได้อดีตสมาชิกวง X1 อย่าง คิมโยฮัน รับบทพระเอกโดยใช้ชื่อเกาหลีว่า ชาฮอน ประกบคู่กับนักแสดงรุ่นพี่ โซจูยอน ที่รับรับบท ชินซลอี นางเอกของเรื่อง ซึ่งขณะนี้กำลังออกอากาศทาง Netflix ค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ สนใจก็สามารถตามไปชมกันได้น้าาา ส่วนเพื่อน ๆ ที่กำลังสนใจซีรีส์จีนก็สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ ซีรีส์จีนโรแมนติก (พระเอกหล่อมากกกก), ซีรีส์จีนที่ไม่ควรพลาดในปี 2020 และ แนะนำ ซีรี่ย์จีนที่ไมค์ พิรัชต์ (Mike D’Angelo) แสดง