สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวซีรีส์เกาหลีทุกคน วันนี้ก็พบกันอีกแล้วในช่วงแนะนำและรีวิวซีรีส์ หลังจากที่เราอยู่ที่กำแพงเมืองจีนมาเนิ่นนาน วันนี้เราก็กำลังจะพาคุณวกกลับเกาหลีกันอีกครั้งด้วยการรีวิวซีรีส์โรแมนติกดราม่า เรื่อง “Now, We Are Breaking Up“ ค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวความรักของดีไซเนอร์แห่งวงการแฟชั่นแสนสวยและช่างภาพหนุ่มสุดหล่อค่ะ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่อยู่ในโหมด 19+ ค่ะเพราะทางเรื่องจะนำเสนอความรักที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อยนั่นเองค่ะ จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ก็มีการประชันบทบาทและร่วมงานกันในครั้งแรกระหว่างซงฮเยคโยและจางกียง ซึ่งผลงานเรื่องนี้เป็นผลงานทิ้งทวนของหนุ่มหล่อจางกียงก่อนเข้ากรมด้วยค่ะ

แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้มีพล็อตเรื่องทั่วไป แต่ด้วยความที่มีนักแสดงนำที่มีคุณภาพทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ถูกพูดถึงในวงกว้าง ซึ่งตอนนี้ซีรีส์เรื่องนี้ได้ดำเนินเรื่องไปประมาณครึ่งเรื่องแล้วความน่าสนใจของเรื่องก็เริ่มจะเพิ่มขึ้นค่ะ ถึงแม้จะเป็นซีรีส์แนวโรแมนติกแต่ความดราม่ามีแน่นอน ถือเป็นซีรีส์แนวโรแมนติกที่ทิ้งทวนท้ายปีได้ดีมากเพราะหลายคนต่างรอคอยเคมีการแสดงของทั้งคู่อยู่ค่ะ วันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปรีวิวซีรีส์เรื่องนี้ เราไปดูกันว่าซีรีส์เรื่อง Now, We Are Breaking Up มีจุดเด่นอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่ะ
เรื่องย่อ Now, We Are Breaking Up
Now, We Are Breaking Up บอกเล่าเรื่องราวของฮายองอึน (ซงฮเยคโย) แฟชั่นดีไซเนอร์และหัวหน้าทีมแผนกออกแบบของบริษัทแฟชั่นชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศ เธอเป็นคนที่สวย มีเสน่ห์แต่เธอไม่เหมือนกับสาว ๆ ทั่วไปเพราะเธอไม่ได้ยึดมั่นหรือใฝ่หาในเรื่องของความรัก แต่สิ่งที่ฮายองอึนนั้นมุ่งมั่นมากที่สุดก็คือการสร้างความมั่นคงให้กับตัวเอง ฮายองอึนพยายามสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวงการแฟชั่นเพื่อให้ผลงานของเธอโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับ ถึงแม้ว่าเธอจะมีความสามารถสูงมากแต่ก็มีหลาย ๆ คนที่พยายามขวางเส้นทางการทำงานของเธอ วันหนึ่งเธอเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศสเพื่อคว้าสัญญากับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังสำหรับงานฉลอง 30 ปีของห้าง The One (เดอะวัน) ในการเดินทางในครั้งนี้ทำให้เธอได้พบกับยุนแจกุก (จางกียง) ช่างภาพแฟชั่นอิสระชื่อดังที่ใช้นามแฝงว่ามิสเตอร์เจ (Mister J)

ยุนแจกุกเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ มีความมั่นคง มีความคิดเป็นของตัวเองและมีหน้าตาหล่อเหลา การเจอกันของฮายองอึนและจางกียงในครั้งแรกถือเป็นวันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) ของกันและกัน ฮายองอึนไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับยุนแจกุกในตอนแรกแต่ยุนแจกุกนั้นชอบความคิดและบุคลิกของฮายองอึนและเขาก็พยายามใกล้ชิดเธอเสมอ ตอนอยู่ที่ฝรั่งเศสยุนแจกุกได้ช่วยเหลือฮายองอึนไว้มากมายทั้งถ่ายภาพแฟชั่นให้เธอและช่วยเหลือเธอในยามลำบากทำให้ทั้งสองก็เริ่มประทับใจในกันและกัน เมื่อฮายองอึนกลับมาถึงเกาหลียุนแจกุกก็ติดตามมาด้วย แต่ความรักของทั้งสองคนไม่ได้ง่ายดายเพราะยุนแจกุกพบว่าฮายองอึนคือแฟนเก่าของพี่ชายตัวเองที่ชื่อว่ายุนซูวาน (ชินดงอุค) ความรักในครั้งนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ อุปสรรคในความรักจะผ่านการแก้ไขอย่างไร ต้องไปติดตามใน Now, We Are Breaking Up ค่ะ
ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Now, We Are Breaking Up
แนวซีรีส์ | โรแมนติก ดราม่า |
---|---|
สร้างโดย | Samhwa Networks United Artists Agency |
เขียนบท | เจอิน |
กำกับการแสดงโดย | อีกิลบก |
ช่องทางออกอากาศ | Viu |
จำนวนตอน | 16 ตอน ตอนละ 60 – 70 นาที |
นักแสดงนำ | ซงฮเยคโย (ฮายองอึน) จางกียง (ยุนแจกุก) ชเวฮีซอ (ฮวังชีซุก) คิมจูฮอน (ซอกโดฮุน) |
นักแสดงสมทบ | นัมกีเอ (คังจองจา) ชเวฮงอิล (ฮาแทคซู) จูจินโม (ประธานฮวัง) ชาฮวายอน (มินฮเยอก) จางฮยอกจิน (โกกวางซู) ซงยูฮยอน (โออินอา) พัคฮโยจู (จอนมีซุก) ยุนนามู (กวักซูโฮ) โอเซฮุน (ฮวังชีฮยอก) ยูรา (ฮเยจิน) ชินดงอุค (ยุนซูวาน) |
เหตุผลที่ต้องดู Now, We Are Breaking Up
คำเตือน : มีสปอยล์
1. เป็นการประกบคู่กันครั้งแรกระหว่างซงฮเยคโยและจางกียง
ซีรีส์เรื่อง Now, We Are Breaking Up เป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของซงฮเยคโยและจางกียงค่ะ ผลงานที่สร้างชื่อของซงฮเยคโยคือ Descendants of the Sun ที่ชาวไทยของเราติดกันงอมแงม ส่วนผลงานล่าสุดที่สร้างชื่อของจางกียงคือ My Roommate Is a Gumiho ค่ะ หลายคนต่างรอคอยซีรีส์ที่ซงฮเยคโยและจางกียงประกบคู่กันเพราะอยากรู้ว่าทั้งสองจะเข้ากันดีขนาดไหน? ขอบอกก่อนเลยว่าซีรีส์เรื่อง Now, We Are Breaking Up นี้เป็นซีรีส์ทิ้งทวนก่อนเข้ากรมของจางกียงด้วยค่ะ ต่อไปเราไปเจาะลึกคาแรกเตอร์ของตัวละครและนักแสดง 2 คนนี้กันค่ะ

ฮายองอึน (ซงฮเยคโย)
ฮายองอึนเป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีความฝันอันยิ่งใหญ่มาก เธอใฝ่ฝันที่จะทำงานในวงการแฟชั่นมาโดยตลอดและยอมละทิ้งชีวิตรักของตัวเองเพื่อที่จะให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย ตัวละครนี้เป็นตัวละครหญิงที่ค่อนข้างเย็นชา เยือกเย็นแต่มีเป้าหมายมาก ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของผู้หญิงยุคใหม่ที่เดินได้ด้วยเท้าของตัวเองไม่เพิ่งพาความรักหรือผู้ชายเพื่อนำตัวเองไปอยู่ในที่สูง ผู้เขียนมองว่าตัวละครนี้น่าสนใจมากถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปเมื่อจะเข้าสู่ช่วงอายุ 40 แล้วจะเป็นกังวลเพราะยังไม่แต่งงานทั้งที่คนรอบข้างตัวเองมีลูกและแต่งงานกันไปหมดแล้ว แต่ฮายองอึนไม่ได้เป็นแบบนั้นค่ะเธอสวย เริ่ด เชิด หยิ่งไม่แคร์ผู้ชายยืนด้วยเท้าสองข้างของตัวเองอย่างมั่นคง แต่ถึงแม้เธอจะมีมุมอ่อนแออยู่บ้างแต่ก็ไม่อยากแสดงให้ใครเห็น
ขอบอกเลยว่าซงฮเยคโยนั้นเหมาะมากกับบทนี้เพราะแสดงเป็นสาวรุ่นใหญ่ที่สวยมาก การแต่งกายของเธอดูหรูหรามาก ความงามของเธอก็ไร้ที่ติมาก ซงฮเยคโยเป็นนักแสดงหญิงอีกคนค่ะที่เวลาทำอะไรเธอไม่ได้ เราต้องหลีกทางให้ราชินีค่ะ

ยุนแจกุก (จางกียง)
ยุนแจกุกเป็นช่างภาพแฟชั่นฮอตช็อตซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการแฟชั่น เขาเป็นคนรูปหล่อ หุ่นดีและมากความสามารถ โดยพื้นฐานแล้วยุนแจกกุกมีครอบครัวที่ร่ำรวยอยู่แล้วแต่เขาชอบความเป็นอิสระมากกว่า ยุนแจกุกได้พบกับฮายองอึนและทั้งสองก็วันไนท์สแตนด์ด้วยกันที่ฝรั่งเศส ในระหว่างนั้นฮายองอึนไม่ได้คิดจะสานความสัมพันธ์กับเขาต่อแต่ยุนแจกุกต้องการ แต่ความโชคดีในความโชคร้ายก็มีอยู่เพราะโชคชะตาพาเขากลับมาหาเธอในกรุงโซล แต่ฮายองอึนกลับทำตัวเฉยเมยต่อเขาและแกล้งจำเขาไม่ได้ ยุนแจกุกไม่เคยคิดจะยอมแพ้กับความรักในครั้งนี้แต่ก็ต้องเจอกับอุปสรรคในความรักมากมาย
จางกียงเป็นนักแสดงที่ได้รับบทบาทนี้ผู้เขียนไม่มีอะไรจะมานิยามเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ บอกได้คำเดียวคือ “หล่อเท่” ที่สุด การแสดงของจางกียงนั้นดีมากจนได้รับคำชมอย่างล้นหลาม ถึงแม้ตอนนี้จางกียงจะเข้ากรมอยู่แต่ใจของแฟนคลับอย่างเราส่งถึงเขาอย่างแน่นอน
2. จัดเรตผู้รับชมซีรีส์อยู่ที่ 19 +
ซีรีส์เรื่องนี้เปิดฉากออกมาแซ่บมากค่ะ ดังนั้นซีรีส์เรื่องนี้ก็จัดเรตอยู่ที่ 19+ โดยปริยาย ผู้เขียนชื่นชอบฉากเปิดของซีรีส์เรื่องนี้มากค่ะเพราะมันดูถึงใจตามฉบับของผู้ใหญ่ แน่นอนค่ะเมื่อเราโตขึ้นการหาความรักและคนจริงใจเป็นเรื่องที่ยากหลายคนจึงไม่สนใจในเรื่องของความรักมากนัก ดังนั้นการวันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) จึงเป็นทางออกของคนที่รักสนุกแต่ไม่อยากผูกมัดค่ะ ถ้าถามว่าเรื่องนี้ผิดไหม ผู้เขียนมองว่าไม่ผิดนะคะถึงแม้ว่าในไทยจะมองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนแต่ตอนนี้โลกของเราเปิดกว้างในเรื่องของเพศแล้ว ตราบใดที่เราไม่ได้ทำเรื่องผิดศีลธรรมก็ถือว่าเราไม่ผิดค่ะ

ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าตอนที่ 1 และ 2 ของซีรีส์เป็นตอนที่หลายคนชอบมากที่สุดเพราะมันแสดงให้เรามองเห็นจุดยืนของตัวละครได้ดีมาก เพราะหลังจากผ่านการวันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) มาแล้ว ยุนแจกุกก็ได้เจอกับฮายองอึนอีกครั้ง ฮายองอึนนั้นไม่ค่อยพอใจในการเจอกับเขาในครั้งนี้ เพราะเธอไม่คิดจะพัวพันกับคนที่เคยวันไนท์สแตนด์ ในการเจอกันอีกครั้งภาพลักษณ์ของฮายองอึนดูเท่ วางมาดและเธอไม่ได้ปล่อยให้ยุนแจกุกขยี้เรื่องราวของเธอ แต่ยุนแจกุกนั้นเป็นฝ่ายยืนกรานที่จะสานสัมพันธ์กับเธอและอยากใช้เวลากับเธอ ถึงแม้ว่าฮายองอึนเห็นได้ชัดว่ายุนแจกุกนั้นชอบเธอแต่ฮายองอึนไม่ได้หวั่นไหวเลยด้วยซ้ำ การได้เห็นทั้งสองจีบกันไปมานั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากแต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจก่อนที่ปมจะมาเท่านั้น อีกทั้งฉากที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดอีกฉากคือฉากจูบอันแสนสุขของคู่พระนาง เห็นฉากจูบแล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ควรอยู่ในเรต 19+ เท่านั้นค่ะ
3. นำเสนอเรื่องราวความรักตามฉบับของผู้ใหญ่
นอกจากซีรีส์เรื่องนี้จะจัดอยู่ในเรต 19+ แล้วซีรีส์เรื่องนี้ยังนำเสนอมุมมองความรักของผู้ใหญ่ได้ดีมาก ซึ่งความรักนี้มักจะสอดแทรกอยู่ในการดำเนินเรื่องเลยค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าตัวละครแต่ละตัวสะท้อนชีวิตรักของตัวเองได้ดีมากและตรงกับแนวคิดความรักของปัจจุบันเป็นอย่างดี ตัวละครและมุมมองความรักที่ผู้เขียนอยากจะพูดถึงมากที่สุดก็คือมุมมองความรักของฮายองอึนและจอนมีซุกซึ่งทั้งสองนั้นเป็นเพื่อนกันแต่มีมุมมองและเส้นทางในความรักที่แตกต่างกัน ฮายองอึนมีอายุเท่ากับจอนมีซุกแต่เธอไม่เลือกที่จะแต่งงาน สิ่งที่เธอเลือกคือสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองเพราะหลังจากเลิกกับยุนซูวานไปฮายองอึนก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องแต่งงาน ดังนั้นการสร้างที่พึ่งพิงด้วยตัวเองจึงเป็นความต้องกันของฮายองอึน สำหรับตัวของฮายองอึนนั้นมองว่าความรักนั้นไม่จำเป็นเท่ากับความมั่นคงในชีวิต เธอจึงเลือกที่จะละทิ้งความรักและเลือกงานแทน

ส่วนจอนมีซุกนั้นแต่งงานแล้วเธอแต่งงานกับกวักซูโฮ ภายนอกดูเหมือนว่าจอนมีซุกจะมีความสุขแต่ความจริงแล้วเธอไม่ได้มีความสุขเลย จอนมีซุกแต่งงานมาหลายปีเธอทำงานเป็นแม่บ้านและเลี้ยงลูกให้กับเขาจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองแม้กระทั่งสามีก็ไม่ได้สนใจเธอ กวักซีโฮนั้นเป็นคนที่โลเลเขาแอบมีกิ๊กไว้นอกบ้านซึ่งคนนั้นก็เป็นคนในที่ทำงานและอยู่ใกล้ตัวจอนมีซุกมาก ตัวละครจอนมีซุกนั้นฉลาดเธอรู้ว่าสามีเปลี่ยนใจไปเป็นอื่นแล้วแต่เพื่อครอบครัวเธอยอมปิดตาข้างนึงเพื่อให้ชีวิตได้ดำเนินต่อไป แน่นอนว่าการทำแบบนี้ไม่ได้ผิดแต่อย่างใดเพราะมีหลายครอบครัวที่เป็นแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วเรารู้อยู่แก่ใจค่ะถึงแม้ว่าจะเป็นการประคับประคองครอบครัวแต่บาดแผลในใจมันยากที่จะฟื้นฟูสู้แยกทางกันเสียยังดีกว่าค่ะ แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะความรักของเพื่อน ๆ เป็นแบบไหนกันบ้างเอ่ย ???
4. มีเรื่องราวของแฟชั่นและการถ่ายภาพ
ถึงแม้ว่าจะมีซีรีส์มากมายที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่น แต่ขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่อง Now, We Are Breaking Up ทำได้ดีมากค่ะเพราะทั้งเรื่องมีแฟชั่นเยอะมากแม้แต่การแต่งกายของนักแสดงเองก็ยังคงไฮแฟชั่นค่ะ สำหรับใครที่ชอบซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องความงามและแฟชั่นซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมาก
ในเรื่องนี้ซงฮเยคโยรับบทเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ ดังนั้นภายในเรื่องจึงมีหลายฉากที่แสดงให้เราเห็นถึงแฟชั่นเสื้อผ้ายอดนิยมในปัจจุบัน ฉากในซีรีส์นั้นได้ตีแผ่ความจริงเรื่องราวของวงการแฟชั่นและเสื้อผ้า เพราะ “ถึงแม้ดีไซเนอร์จะพยายามออกแบบเสื้อผ้าขนาดไหน แต่เทรนด์แฟชั่นมักจะมาเร็วและไปเร็วเสมอ” ดีไซเนอร์ใช้เวลาในการออกแบบเสื้อผ้าไปเป็นปีแต่วางขายได้หนึ่งเดือนความนิยมก็ลดลงแล้วค่ะ ดังนั้นในวงการนี้ไม่มีอะไรแน่นอนอีกทั้งยังมีการแข่งขันที่สูงมาก

นอกจากนี้ทางเรื่องก็ได้สอดแทรกเรื่องราวความรักกับเสื้อผ้าไปในตัว เพราะถ้าเปรียบเทียบได้ความรักในสมัยนี้ก็เหมือนเสื้อผ้าเช่นกันค่ะ บางครั้งเสื้อผ้าบางตัวที่เราคิดว่าสวยดีและเหมาะกับเรามา แต่พอเอาเข้าจริง ๆ เมื่อได้สวมใส่ก็อาจจะพบว่ามันอาจไม่พอดีหรืออาจจะไม่เหมาะกับเราและเมื่อพบว่ามันไม่เหมาะกับเราทางเลือกของเราก็คือทิ้งไปหรือนำไปมอบให้กับคนอื่นนั่นเอง เช่นเดียวกับความรักเมื่อพบกับคนที่ไม่ใช่ก็ทิ้งไปอย่าให้เสียเวลาค่ะ
นอกจากนี้ทางเรื่องก็ยังแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากการอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงค่ะเพราะวงการไหนที่มีความต้องการสูงก็ย่อมต้องมีการแข่งขันสูงและต้องเหน็ดเหนื่อยเป็นพิเศษเพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ และนอกจากเรื่องของแฟชั่นแล้วทางเรื่องก็นำเสนอเรื่องราวในวงการถ่ายภาพด้วย ในซีรีส์เรื่องนี้พระเอกของเราเป็นช่างถ่ายภาพค่ะ เขาเป็นช่างภาพมือหนึ่งที่หาตัวจับยากมาก เขาจะร่วมงานกับคนที่เขาพอใจเท่านั้นค่ะ จุดเริ่มต้นความรักระหว่างคู่พระนางก็เริ่มต้นมาจากรูปภาพใบเดียวเหมือนกันค่ะ จุดเด่นของช่างภาพมิสเตอร์เจก็คือเขาใช้แสงและสีที่ไม่เหมือนกับช่างภาพทั่วไป เมื่อรวมกับนางเอกที่อยู่ในวงการเสื้อผ้าแล้วก็ถือว่าคู่พระนางนี้เป็นคู่พระนางแห่งวงการแฟชั่นที่แท้จริงค่ะ
5. ปมภายในเรื่องน่าสนใจมาก
ถึงแม้ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นซีรีส์แนวโรแมนติกดราม่าทั่วไปที่มีพล็อตเรื่องแบบเดิม ๆ แต่ก็ยังคงให้ความน่าสนใจอยู่ดี ซึ่งปมหลักในเรื่องนี้คือเรื่องของความรักเลยค่ะ “Now We Are Breaking Up” ได้บอกถึงอุปสรรคของความรักซึ่งผู้เขียนมองว่าปมนี้เป็นปมที่ใหญ่มากเพราะได้เล่นกับจิตใจของคู่พระนางเลยค่ะ ถ้าพูดง่าย ๆ เลยก็คือ “เราจะต้องรู้สึกยังไงเมื่อคนที่เรามีวันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) ด้วยและกำลังจะสานสัมพันธ์ต่อเป็นน้องชายของแฟนเก่าตัวเอง” ซึ่งปมนี้เป็นปมที่หนักหน่วงมาก ๆ ค่ะ โดยทางเรื่องจะบอกเล่าเรื่องราวในตอนแรก ๆ เพราะเมื่อเปิดฉากด้วยวันไนท์สแตนด์ (One Night Stand) แล้ว ยุนแจกุกได้พบกับฮายองอึนอีกครั้ง ซึ่งยุนแจกุกนั้นชอบฮายองอึนเป็นอย่างมากแต่ฮายองอึนไม่ชอบความสัมพันธ์แบบผูกมัด เธอเลยใช้จุดยืนของตัวเองและขีดเส้นแบ่งระหว่างกันและกัน

แน่นอนว่ายุนแจกุกไม่ได้ยอมแพ้ เข้าพยายามทุกอย่างเพื่อให้ฮายองอึนมองเห็นตัวตนของตัวเองอีกทั้งยังพยายามช่วยให้เธอพ้นจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่หลังจากนั้นไม่นานปมก็เผยออกมาเพราะฮายองอึนเป็นแฟนเก่าของยุนซูวานพี่ชายของยุนแจกุก แต่ยุนซูวานนั้นเสียชีวิตแล้วด้วยอุบัติเหตุซึ่งทางบ้านของยุนแจกุกก็เชื่อและคิดว่าอุบัติเหตุที่คร่าพี่ชายของเขาในครั้งนั้นเป็นเพราะฮายองอึน ซึ่งปมเรื่องแค่นี้ก็เจ็บปวดแล้วค่ะแต่โชคดีหน่อยที่ยุนแจกุกพยายามสืบหาความจริงและเชื่อในภายหลังว่าฮายองอึนไม่ได้เป็นต้นเหตุ
แต่เรื่องราวก็มีพีคกว่านี้ไปอีกเพราะว่ายุนแจกุกชอบฮายองอึนมาก่อนพี่ชายตัวเอง ในตอนแรกยุนแจกุกเป็นช่างภาพสมัครเล่นเขาขายรูปภาพอยู่ตามถนนและรูปภาพใบแรกของเขาก็ถูกฮายองอึนซื้อไป ยุนแจกุกชอบและประทับใจในตัวเธอมาตั้งแต่ตอนนั้นเลยฝากให้พี่ชายส่งของและฝากข้อความไปให้เธอเป็นประจำ แต่ด้วยเหตุนี้ทำให้พี่ชายของเขายุนซูวานได้รักกับฮายองอึนซะงั้น คิดดูสิคะทุกคนว่ามันบิดเบี้ยวมากแค่ไหน บิดเบี้ยวจนเราปวดใจเลยทีเดียวค่ะ