สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เรามาเกาะกระแสกันด้วยการรีวิวซีรีส์จีนเรื่อง “ทุกชาติภพกระดูกงดงาม” ทั้งภาคอดีตและปัจจุบัน ถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะจบไปแล้วแต่กระแสความฮิตความปังก็ยังคงอยู่ค่ะ ผู้เขียนต้องกราบขออภัยจริง ๆ ที่มารีวิวช้า เนื่องจากมันมี 2 ภาคเลยต้องใช้เวลาดูเล็กน้อย แต่แน่นอนค่ะซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสมกับการรอคอยมากเพราะเนื้อหาภายในเรื่องดีมากจริง ๆ มีทั้งสุข เศร้า เสียใจและความฟิน
โดยซีรีส์เรื่องนี้ผ่านการดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง “ทุกชาติภพกระดูกงดงาม” เขียนโดย “โม่เป่าเฟยเป่า” ซึ่งตอนนี้นวนิยายเรื่องนี้มีการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว เราสามารถหาซื้อได้ตามออนไลน์ทั่วไปทั้งในแบบหนังสือและแบบอีบุ๊ค อันที่จริงแล้วตอนแรกซีรีส์เรื่องนี้จะมีแค่ภาคอดีตเท่านั้น แต่จุดจบของเรื่องเป็นแบบโศกนาฏกรรมมากเกินไปคล้าย ๆ กับซีรีส์เรื่องตงกงตำนานรักตำหนักบูรพา ทางผู้เขียนเลยเอาใจคนอ่านด้วยการแต่งภาคปัจจุบันมาอีก 1 เล่ม เพื่อเอาใจคนอ่านนั่นเองค่ะ สำหรับผู้เขียนแล้วความคิดนี้ถูกใจคนอ่านและคนดูซีรีส์ที่สุด
![]() |
![]() |
ในภาคแรกจะเป็นภาคอดีตการแต่งการก็จะเป็นแนวจีนโบราณ ส่วนภาคปัจจุบันก็จะเป็นการแต่งกายแบบนำสมัย ซึ่งครบทุกรสชาติของการดูซีรีส์เลยจริง ๆ ต้องขอบอกก่อนเลยผู้เขียนใช้เวลาดูซีรีส์เรื่องนี้นานมาก ๆ นั่นเป็นเพราะในภาคแรกดราม่าหนักเหลือเกินผู้เขียนเลยต้องใช้เวลาทำใจในการดูและถือโอกาสรวบรัดดูทีเดียวทั้งภาคอดีตและปัจจุบัน ขอบอกเลยว่าฟินครบจบทุกกระบวน หากคุณกำลังดูซีรีส์ที่มีภาคต่อผู้เขียนขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้คือซีรีส์ภาคต่อที่ดีที่สุดในปี 2021 ถ้าคุณไม่ได้ดูคือพลาดมากและเพื่อเอาใจคนอ่านทุกคนวันนี้เราก็จะพาคุณไปรีวิวซีรีส์เรื่องนี้กันค่ะ ครบเต็มอิ่มทั้ง 2 ภาคกันไปเลย
เรื่องย่อ ทุกชาติภพกระดูกงดงาม ภาคอดีต (One And Only)
ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม (One and Only) ภาคอดีตเป็นซีรีส์ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของโจวเซิงเฉิน/อ๋องน้อยหนานเฉิง (เหรินเจียหลุน) เขาเป็นแม่ทัพชายแดนตะวันตกผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชมของชาวบ้าน แต่เนื่องจากเขามีกองทัพที่แข็งแกร่งมากเกินไปทำให้ราชวงศ์เริ่มสงสัยในอำนาจของเขา จนทำให้เกิดข่าวลืออย่างต่อเนื่องว่าเขาจะก่อกบฏและแย่งชิงบัลลังก์ เพื่อป้องกันความโกลาหลในช่วงเวลานั้น หลังจากการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิองค์ก่อน โจวเซิงเฉินจึงสาบานว่าเขาจะไม่มีวันแต่งงานและจะไม่มีทายาท จะได้ไม่เป็นที่ครหาว่าตระกูลของเขาและเขาจะแย่งชิงบัลลังก์อีก
ต่อมาโจวเซิงเฉินได้รับหลานสาวของชุยกวงที่ชื่อว่าชุยสืออี๋/สิบเอ็ด (ไป๋ลู่) มาเป็นศิษย์ของเขา เนื่องจากทางตระกูลชุยมีความบาดหมางในอดีตกับจวนอ๋องหนานเฉิงเลยต้องการที่จะสานความสัมพันธ์กับโจวเซิงเฉิน นอกจากนี้ทางตระกูลชุยยังเห็นว่าโจวเซิงเฉินมีความสามารถมากพอที่จะอบรมและดูแลชุยสืออี๋

ชุยสืออี๋เป็นคนที่มีหน้าตาสวยงามและเป็นกุลสตรีแต่เธอไม่ยอมพูด เพราะมีปมในใจเรื่องที่พ่อของเธอได้เสียชีวิตไป แต่เมื่อได้อยู่กับโจวเซิงเฉินนาน ๆ เข้าทำให้ชุยสืออี๋พูดออกมาอีกครั้ง เรื่องนี้ได้สร้างความตกใจให้กับผู้เป็นมารดาและคนใกล้ตัวของชุยสืออี๋มาก ชุยสืออี๋ได้ใช้เวลาทั้งหมดไปกับโจวเซิงเฉินและแล้วพวกเขาก็เริ่มตกหลุมรักกัน แต่ต้องระงับความรู้สึกเอาไว้เนื่องจากสถานะภาพและความรับผิดชอบใหญ่หลวงจึงทำให้ไม่สามารถรักกันได้ อีกทั้งชุยสืออี๋ยังมีสัญญาหมั้นหมายกับหลิวจื่อสิง/กว่างหลิงอ๋อง (หวังซิงเยว่) ผู้เป็นหลานของโจวเซิงเฉินอีกด้วย
ต่อมาลุงของชุยสืออี๋ขอให้ยกเลิกการหมั้นเนื่องจากความวุ่นวายในวัง ทำให้รัชทายาทไม่พอใจเพราะเขาตกหลุมรักและอยากครอบครองชุยสืออี๋ ด้วยเหตุนี้ทำให้รัชทายาทเริ่มดำเนินการตามแผนเพื่อยึดบัลลังก์ ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ก็ได้ดึงเอาชุยสืออี๋และโจวเซิงเฉินเข้ามาในเกมการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในวังจนได้ แน่นอนว่าเรื่องราวในครั้งนี้ได้ลงเอยแบบโศกนาฏกรรมแต่ความรักและความผูกพันของอ๋องน้อยหนานเฉิงและสิบเอ็ดก็ไม่ได้จางหายไปแม้แต่น้อย
ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ One And Only : ทุกชาติภพกระดูกงดงาม ภาคอดีต
แนวซีรีส์ | โรแมนติก ย้อนยุค ดราม่า |
---|---|
ดัดแปลงมาจาก | นวนิยายเรื่อง One Life, One Incarnation : Beautiful Bones เขียนโดย Mo Bao Fei Baoi |
เขียนบท | Mo Bao Fei Baoi |
กำกับการแสดงโดย | Guo Hu |
ช่องทางออกอากาศ | iQIYI และ WeTV |
จำนวนตอน | 24 ตอน ตอนละ 45 นาที |
นักแสดงนำ | เหรินเจียหลุน (โจวเซิงเฉิน/อ๋องน้อยหนานเฉิง) ไป๋ลู่ (ชุยสืออี๋/สิบเอ็ด) |
นักแสดงสมทบ | หวังซิงเยว่ (หลิวจื่อสิง/กว่างหลิงอ๋อง) หลี่อี๋หรู (หงเสี่ยวอวี้) ซูเมิ่งอวิ๋น (เฟิงเฉียว) อู๋ม่านซี (องค์หญิงชิงฮวา) เหลี่ยงอี้ฉี (ฉีเจินเจิน) หยวนรั่วหัง (เซี่ยอวิ๋น) โจวลู่ลา (เสี่ยวหยวน) |
ทำไมต้องดู ทุกชาติภพกระดูกงดงาม ภาคอดีต(One And Only)
คำเตือน : มีสปอยล์
1. นำเสนอเรื่องราวของความรักที่ “รัก” แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้
ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม (One and Only) ภาคอดีตเป็นซีรีส์ที่มีพล็อตเรื่องดีเรื่องหนึ่ง เนื้อหาของซีรีส์เรื่องนี้มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแต่คุณจะซาบซึ้งกับความเจ็บปวดอย่างแน่นอน สถานการณ์ความรักของโจวเซิงเฉินและชุยสืออี๋นั้นเป็นความรักที่เป็นไปไม่ได้เลย

ดังนั้นหัวใจของพวกเขาก็ค่อย ๆ เรียนรู้ว่าความรักไม่จำเป็นต้องแต่งงานกันแต่ความรักก็คือการที่ต้องอยู่เคียงข้างกัน อย่างไรก็ตามเรื่องราวความรักของพวกเขาไม่ใช่แบบที่คุณคาดหวังให้เป็น หน้าที่และความรับผิดชอบของคนทั้งคู่เป็นกำแพงขนาดใหญ่ที่ขัดขวางความรู้สึกที่ทั้งคู่มีให้กัน นอกจากนี้การเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เพราะตั้งแต่เด็กชุยสืออี๋ได้หมั้นกับรัชทายาทหลิวจื่อสิงมาก่อนแล้ว
นอกจากนี้โจวเซิงเฉินยังสาบานไว้แล้วว่าเขาจะไม่แต่งงานดังนั้นความรักของทั้งคู่เป็นไปไม่ได้เลย คำสาบานนี้เป็นคำสาบานที่โจวเซิงเฉินพูดไว้ก่อนที่จะได้รู้จักกับชุยสืออี๋ โจวเซิงเฉินรู้สึกเสียใจมากที่ได้สาบานไปแบบนั้นเพราะในใจของเขานั้นต้องการอยู่กับชุยสืออี๋เท่านั้น แน่นอนว่าความรักแบบนี้มีอยู่จริงในโลกใบนี้เพราะมีคนอีกหลายคนที่รักกันแค่อยู่ด้วยกันไม่ได้ บางคนถูกความตายแยกจาก บางคนก็มีการกีดกันจากครอบครัว แต่เราก็ขอบอกเลยว่าให้คุณ “ยินดีที่ได้รักกัน…แม้สุดท้ายจะไม่ได้อยู่ด้วยก็ตาม” ใครที่กำลังหาน้ำตาหรืออยากร้องไห้มาก ๆ ซีรีส์เรื่องนี้จะตอบโจทย์มาก
2. นำเสนอความสัมพันธ์ของตัวละครที่หลากหลาย
ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอความสัมพันธ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่โรแมนติก มิตรภาพหรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกสาวก็มีค่ะ ความสัมพันธ์ของสืออี๋กับแม่ของเธอนั้นสวยงาม อบอุ่นใจแต่ก็เจ็บปวดใจเมื่อได้ชม ผู้เขียนชอบที่แม่ของสืออี๋เข้าใจลูกสาวของเธอดีเพราะตัวเธอนั้นมีประสบการณ์ชีวิตแบบนี้มาก่อน

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์จีนย้อนยุคเพียงไม่กี่เรื่องที่ทางตระกูลให้ความสำคัญกับลูกสาวมาก นอกจากนี้ผู้เขียนยังชอบความสัมพันธ์ของโจวเซิงเฉินกับลูกน้องใต้บังคับบัญชาคนอื่น ๆ ของเขาด้วย มันชี้ให้เห็นว่าตัวละครนี้มีศีลธรรมอันดีแค่ไหนตลอดทั้งเรื่อง โจวเซิงเฉินเลี้ยงดูและฝึกฝนพวกเขาอย่างดี เขาเห็นค่าของทุกคนหากใครดีกับเขาเขาก็จะดีตอบ ถึงแม้ซีรีส์จะมีดราม่ามากแต่ความสัมพันธ์ของตัวละครก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ
3. เคมีและการแสดงของนักแสดงดีมาก ๆ
ในฐานะแฟนละครโรแมนติกผู้ชมหลายคนคาดหวังว่าคู่พระนางจะมีช่วงเวลาที่แสนหวานร่วมกัน แต่ขอบอกก่อนเลยว่าตัวละครของสืออี๋และโจวเซิงเฉินไม่มีฉากจูบในละคร ถึงแม้ว่าผู้ชมปรารถนาที่จะเห็นสิ่งนี้และปรารถนาให้พวกเขาแสดงความรักต่อกันแต่ฉากหวาน ๆ ที่ร้อนแรงไม่มีอย่างแน่นอน เพราะความสัมพันธ์ของสืออี๋และโจวเซิงเฉินมีข้อจำกัดหลายอย่าง พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้มีโอกาสที่จะเป็นเหมือนคู่รักอื่น ๆ
แต่ทั้งไป๋ลู่และเหรินเจียหลุนนั้นมีทักษะการแสดงที่น่ายกย่อง พวกเขาสามารถสร้างความโรแมนติกได้ด้วยการสบตาเพื่อเป็นการบอกว่าพวกเขารักกัน ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เหมือนกับซีรีส์โรแมนติกเรื่องอื่นเพราะทางเรื่องนำเสนอเรื่องราวโรแมนติกที่อยู่นอกจากโครงเรื่องทั่วไป โครงเรื่องแบบนี้มันทำให้คุณรักตัวละครและเห็นอกเห็นใจกับความรู้สึกของพวกเขา
![]() |
![]() |
เราต้องขอขอบคุณทางซีรีส์ที่ได้คัดเลือกไป๋ลู่และเหรินเจียหลุนมากแสดง หากคุณได้ดูซีรีส์เรื่องอื่น ๆ ของไป๋ลู่มาก่อนคุณจะเห็นว่าไป๋ลู่มีความสามารถรอบด้านในฐานะนักแสดงมากแค่ไหน ในซีรีส์เรื่องนี้เธอทำให้สืออี๋มีรูปลักษณ์ที่สูงส่งและเคร่งขรึมเหมาะกับสถานะทางสังคมของเธอมาก เธอสามารถกระตุ้นความรู้สึกของผู้ชมผ่านสายตาและการแสดงออกทางสีหน้าของเธอได้ดีมาก นอกจากนี้บทบาทของเหรินเจียหลุนเขาทำออกมาได้ดีมาก เขาเป็นผู้บัญชาการทางทหารที่ดูดีและมีความสามารถ นอกจากนี้เขายังฉายออร่าของนายพลผู้แข็งแกร่งและเป็นที่เคารพนับถืออย่างสูง ขอบอกเลยว่าเหรินเจียหลุนในเรื่องนี้หล่อมากดูมีมาดสุด ๆ ต้องดูเท่านั้นค่ะ
4. ฉากและการแต่งกายในเรื่องดีมาก ๆ
ผู้เขียนประทับใจเครื่องแต่งกายในซีรีส์เรื่องนี้มากและประทับใจกับคอสตูมเช่นเดียวกัน ผู้เขียนคิดว่าทีมโปรดิวเซอร์ได้ใส่รายละเอียดลงไปในเครื่องแต่งกายได้ดีมากและเราก็เห็นว่าชุดสวยมาก เครื่องแต่งกายมีความประณีตโดยเฉพาะฉากเสื้อคลุมขนสัตว์นั้นดีงาม เสื้อคลุมคือสวยมากเมื่อโจวเซิงเฉินมอบให้สืออี๋มันก็ยิ่งสวยไปอีก เสื้อผ้าของแต่ละคนดูดีมากแม้แต่ตัวประกอบเล็ก ๆ ก็ดูโดดเด่น
ถึงแม้ว่าซีรีส์จะมีเพียงแค่ 24 ตอนแต่แต่ละตอนรายละเอียดของเสื้อผ้าก็ดีมาก นอกจากเครื่องแต่งกายแล้วฉากในซีรีส์ก็ดีเช่นกันถึงแม้จะมีการแหวกแนวแต่ฉากก็ยังเยี่ยมมาก สิ่งที่โดดเด่นสำหรับผู้เขียนมากก็คือการถ่ายทำฉากต่อสู้ฝ่ายผลิตใช้ช่วงเวลาเหล่านี้เพื่อปรับปรุงฉาก ผู้เขียนชอบมากเพราะมันทำให้การต่อสู้ดูโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น ฉากต่อสู้ภายในเรื่องสวยงาม ทำให้เราเห็นเสื้อคลุมที่พลิ้วไหวระหว่างการต่อสู้ การกำกับภาพสำหรับซีรีส์เรื่องนี้โดยรวมดีมากแต่ฉากต่อสู้ถือเป็นไฮไลท์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เขียน เพราะมันทำให้เราได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยมุมกล้องหรือการเคลื่อนไหวของกล้อง
เรื่องย่อ ทุกชาติภพกระดูกงดงาม ภาคปัจจุบัน (Forever And Ever)
ทุกชาติภพกระดูกงดงาม (Forever And Ever) ภาคปัจจุบันก็ได้บอกเล่าเรื่องราวของสืออี๋ (ไป๋ลู่) หลังจากชุยสืออี๋ได้ตายไปเมื่อชาติที่แล้วเธอก็ได้มาเกิดใหม่ในภพปัจจุบัน หลังจากได้ทิ้งแซ่ชุยไว้ข้างหลังเธอก็ได้ชื่อว่า “สืออี๋” เช่นเดิมในภพนี้สืออี๋ได้เป็นนักพากย์เสียงที่มีชื่อเสียงและเธอก็ได้รับหน้าที่พากย์เสียงเรื่องราวของอ๋องน้อยหนานเฉิงและชุยสืออี๋ ซึ่งเป็นเรื่องราวของเธอในอดีตนั่นเอง
เธอหลงใหลในเรื่องราวนี้มาก เพราะเธอมักจะมีความฝันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตและเธอก็หวังอยู่ตลอดว่าตัวเธอจะได้พบกับอ๋องน้อยหนานเฉิงอีกครั้ง แต่และแล้วความฝันของเธอก็เป็นจริง ขณะที่เธออยู่ที่สนามบินสืออี๋ได้ยินประชาสัมพันธ์เรียกชื่อว่าโจวเซิงเฉิน (เหรินเจียหลุน) ซึ่งชื่อนี้ก็เป็นชื่อเดียวกันกับชื่อของอ๋องน้อยหนานเฉิงนั่นเอง สืออี๋เคยเห็นผู้ชายคนนี้ในความฝันและเธอก็สนใจเขาตั้งแต่แรกเห็นและต้องการพูดคุยกับเขา ในการเจอกันครั้งนี้โจวเซิงเฉินก็ได้ให้ที่อยู่อีเมลกับเธอและพวกเขาก็ติดต่อกันผ่านทางอีเมลเป็นเวลา 6 เดือน แน่นอนว่าระหว่างการติดต่อกันก็ทำให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกันและตกหลุมรักกันในที่สุด

โจวเซิงเฉินเป็นศาสตราจารย์ด้านเคมีและนักวิจัย เขาเป็นลูกชายคนโตและเป็นทายาทของตระกูลโจวซึ่งเป็นครอบครัวเก่าแก่ที่มั่งคั่งมาก ตระกูลนี้เป็นตระกูลที่มีญาติพี่น้องจำนวนมาก กฎของตระกูลก็คือลูกชายคนโตจะเป็นคนควบคุมทรัพย์สินส่วนใหญ่ของครอบครัว แต่โจวเซิงเฉินเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้มาก เขาไม่สนใจที่จะดำเนินธุรกิจของครอบครัว แต่ต้องการควบคุมทิศทางของกองมรดกให้เสร็จเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในภายหลัง หากเขาต้องจัดการเรื่องมรดกเขาจำเป็นต้องแต่งงานก่อนและเขาก็เห็นว่าสืออี๋เป็นคนที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมเขารักเธอและเธอก็รักเขา
เมื่อโจวเซิงเฉินขอให้สืออี๋หมั้นกับเขา สืออี๋ก็ตกลงทันทีแม้เธอจะตกใจอยู่บ้างแต่ในชีวิตนี้เธอก็รักเพียงเขาเท่านั้น แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้ราบรื่นนักถึงแม้สองคนจะรักกันมาก แต่ครอบครัวตระกูลโจวไม่ได้ปล่อยพวกเขาไป มีบางคนต้องการเป็นใหญ่ในตระกูลและต้องการกำจัดโจวเซิงเฉินนั่นเอง
ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Forever And Ever : ทุกชาติภพกระดูกงดงาม ภาคปัจจุบัน
แนวซีรีส์ | โรแมนติก ดราม่า |
---|---|
ดัดแปลงมาจาก | นวนิยายเรื่อง One Life, One Incarnation : Beautiful Bones เขียนโดย Mo Bao Fei Baoi |
เขียนบท | Mo Bao Fei Baoi |
กำกับการแสดงโดย | Shen Yang |
ช่องทางออกอากาศ | iQIYI และ WeTV |
จำนวนตอน | 30 ตอน ตอนละ 45 นาที |
นักแสดงนำ | เหรินเจียหลุน (โจวเซิงเฉิน) ไป๋ลู่ (สืออี๋) |
นักแสดงสมทบ | ซือชา (เหม่ยสิง) หวังเยว่อี้ (หงเสี่ยวอวี้) หวังรุ่ยซิน (โจวเหวินซิง) ลั่วหมิงเจี๋ย (โจวเหวินชวน) หลัวไห่ฉง (ฉินหว่าน) เฝิงเจี่ยอี๋ (โจวเซิงซิง) อ้ายเจียหนี (เสี่ยวม่าน) |
ทำไมต้องดู ทุกชาติภพกระดูกงดงาม ภาคปัจจุบัน (Forever And Ever)
คำเตือน : มีสปอยล์
1. มีการเปลี่ยนนักแสดงและผู้กำกับเรื่อง
ซีรีส์เรื่องทุกชาติภพกระดูกงดงามเป็นซีรีส์ที่ได้ผ่านการรีเมคมาจากซีรีส์เรื่อง One Life, One Incarnation : Beautiful Bones เขียนโดย Mo Bao Fei Baoi (โม่เป่าเฟยเป่า) แต่ในภาคปัจจุบันนั้นทางเรื่องได้เปลี่ยนนักแสดงสมทบออกไปเกือบหมด ในจุดนี้ผู้เขียนไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเปลี่ยนแต่อาจจะเป็นเพราะคิวนักแสดงไม่ว่างก็เป็นไปได้ ผู้เขียนมองว่าการเปลี่ยนผู้กำกับและนักแสดงก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะเราจะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างของการเล่าเรื่อง ถึงแม้ว่าผู้กำกับจะเป็นคนละคนแต่เรื่องราวของซีรีส์ก็ลื่นไหลมากทำให้เราคิดไปเลยว่าซีรีส์ทั้ง 2 เรื่องนี้ผ่านการกำกับด้วยผู้กำกับเดียวกัน

เนื่องจากซีรีส์เรื่องนี้เป็นภาคต่อ ภาคแรกจบลงอย่างเจ็บปวดแต่ภาคหลังก็จบอย่างสวยงาม ผู้เขียนสังเกตเห็นว่านอกจากนักแสดงนำแล้วนักแสดงสมทบก็ผ่านการเปลี่ยนมาเกือบหมด ในภาคนี้คนที่เคยให้ร้ายคู่พระนางไว้จำเป็นต้องใช้กรรมเพื่อทำให้คู่พระนางได้ครองรักกัน แต่แน่นอนว่าก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเพราะทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วค่ะ แต่ผู้เขียนมองว่าตัวละครโจวเหวินชวนเป็นตัวละครที่ไม่มีที่มาที่ไปค่ะ คือในชาติที่แล้วไม่ได้มีตัวละครนี้แต่ในภาคใหม่ตัวละครโจวเหวินชวนเป็นตัวละครที่ร้ายมากเลยทีเดียว ถ้าถามผู้เขียนว่าร้ายแบบมีเหตุผลไหมผู้เขียนบอกเลยว่ามีเหตุผลแต่เหตุผลในความร้ายนั้นน้อยไปหน่อย
2. การดำเนินเรื่องมีความสวยงามและมีความพิถีพิถัน
ซีรีส์เรื่องทุกชาติภพกระดูกงดงาม (ภาคปัจจุบัน) เป็นซีรีส์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนคุณกำลังอ่านนิยายโรแมนติกเรื่องโปรดของคุณ หากคุณเคยเห็นกระแสของเมโลดราม่าที่เกินจริงและเน้นแค่เรื่องประเด็นเรื่องการนอกใจและความโลภ ซีรีส์นี้จะทำให้คุณรู้สึกแตกต่าง การเล่าเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้นั้นมีเสน่ห์และมีระดับ ทางเรื่องรู้วิธีเปลี่ยนเรื่องราวให้เรียบง่ายสลับกับความตื่นเต้น ตัวเรื่องมีความละเอียดมากและเห็นได้เลยว่าผู้จัดตั้งใจโชว์ให้เห็นช่วงเวลาแห่งอารมณ์ ตัวละครสามารถโน้มน้าวผู้ชมเห็นถึงการกระทำของพวกเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นความโลภหรือความเห็นแก่ตัวเราจะได้เห็นตัวละครในทุกด้าน
ซีรีส์เรื่องนี้ได้รวมเอาปัญหาครอบครัวจีนดั้งเดิมมารวมไว้เข้าด้วยกัน โจวเซิงเฉินเป็นทายาทโดยชอบธรรมของครอบครัว เขาต้องใช้ชีวิตที่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องควบคุมตระกูลไปในทางที่ดี เขาไม่ได้ต้องการสมบัติใด ๆ สิ่งที่เขาต้องการคือชีวิตที่เป็นสุขเท่านั้น ในตอนแรกชีวิตของเขาว่างเปล่ามากแต่ในที่สุดเขาก็ค้นพบจุดประสงค์ของชีวิตโดยมีสืออี๋อยู่ในนั้น เขาจำเป็นต้องปกป้องเธอจากครอบครัวที่หวังประโยชน์จากเขา ซึ่ง 6 ตอนสุดท้ายของซีรีส์นี้สร้างความประทับใจให้กับคนดูได้ค่อนข้างมาก แม้เรื่องราวในช่วงสุดท้ายจะบาดใจมากแต่ทางเรื่องก็ปรับให้เข้ากับเนื้อหาของเรื่อง ซีรีส์ได้สอนให้เรารู้ว่าเราคือเจ้าของความรักและเราจะมีความสุขมากหากได้ปกป้องความรักด้วยตัวเอง
3. มีความโรแมนติกท่ามกลางความดราม่า
ถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่องทุกชาติภพกระดูกงดงาม (ภาคปัจจุบัน) จะเป็นเรื่องราวที่มีดราม่าหนักมากแต่ก็จบลงได้อย่างสวยงาม แต่ถึงแม้จะมีดราม่าแต่ความโรแมนติกก็ไม่น้อยลงไปเลย การได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดสามารถละลายปมในหัวใจได้ สืออี๋และโจวเซิงเฉินได้ทำให้เราเห็นว่าความรักนั้นไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในทันทีทันใด ปล่อยให้ความรักดำเนินไปเรื่อย ๆ ตามทางของมันคุณไม่จำเป็นต้องพยายามแค่ทำในสิ่งที่ควรทำและคุณจะค้นพบพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคุณ สืออี๋และโจวเซิงเฉินหมั้นกันอย่างรวดเร็วมากแต่พรหมลิขิตก็ทำให้ทั้งสองเชื่อมั่นในกันและกัน ถึงแม้ในปัจจุบันโจวเซิงเฉินจะรู้จักกับสืออี๋ได้ไม่นานแต่เหมือนทั้งสองผูกพันกันมาทุกพบทุกชาติ
![]() |
![]() |
ขอบอกเลยว่าพ่อโจวเซิงเฉินของเราจะดูเย็นชา แต่ขอบอกเลยว่าเมื่อถึงเวลาคลั่งรักเขาก็คลั่งรักมาก ยินยอมพร้อมใจนั่งรถข้ามเมืองมาหาสืออี๋ที่เมืองใหญ่เลยทีเดียว ความรักของทั้งสองคนไม่ได้หรูหรามากแต่ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกันให้มากที่สุด เมื่อทั้งคู่หมั้นกันแล้วโจวเซิงฉินก็เป็นว่าที่สามีที่น่ารักมาก เปย์ทุกอย่างถึงแม้สืออี๋จะไม่ได้เอ่ยขอแต่เขาก็จัดการให้หมดทุกอย่างเลย ซีรีส์ในภาคนี้ไม่มีมือที่ 3 เลยค่ะ เพราะในภาคนี้ตัวเรื่องได้เน้นถึงความรักและการเดินทางของทั้งสองคนเท่านั้น ถึงแม้ตัวเรื่องจะมีดราม่าไปบ้างแต่ก็เป็นซีรีส์ที่อบอุ่นใจมากค่ะ
4. ภาพและเพลงประกอบซีรีส์ดีมาก
ภาพของซีรีส์เรื่องนี้สวยมากโดยเฉพาะในส่วนของภาคปัจจุบันคือสีของภาพให้ฟีลเหมือนซีรีส์เกาหลีเลยค่ะ การแต่งกายก็สวยงามมากให้กลิ่นอายแบบทันสมัยอย่างแท้จริง ซีรีส์เรื่องนี้เปลี่ยนจากการเล่าเรื่องแนวโรแมนติกที่เร้าใจเป็นการให้ความเคารพต่อผลงานต้นฉบับ แน่นอนว่าการเล่าเรื่องแบบนี้ได้รับความชื่นชมอย่างมากจากคนดู ผู้เขียนขอบอกก่อนเลยว่านวนิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหนังสือที่ผู้เขียนโปรดปรานที่สุดในปีนี้ เมื่อนำมาปรับบทบาทก็เข้ากันมากเพราะทางเรื่องมีฉายภาพที่เหมาะสมกับบทบาทของนักแสดง แม้แต่รายละเอียดที่เล็กที่สุดทางเรื่องก็เก็บเรียบ
นอกจากนี้เพลงประกอบซีรีส์ก็ดีมาก ในภาคอดีตความหมายของเพลงก็เจ็บปวดไปตามเรื่องราว ส่วนในภาคปัจจุบันเพลงก็หวานมากแสดงให้เห็นถึงความรักที่แท้จริงระหว่างคู่พระนาง ทางเรื่องได้นำเสนอความสัมพันธ์อันสวยงามของตัวละครและได้หลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างดีเพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจกับสถานการณ์ความรักของพวกเขา ทั้งเพลงและเนื้อหาของซีรีส์ได้ครอบคลุมองค์ประกอบมาตรฐานของการเล่าเรื่องโรแมนติกอย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวความรักแต่ละช่วงเวลาของแต่ละคนก็เข้ากันได้ดีกับเนื้อเพลง การเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์มาอย่างดีและการแสดงลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นนำคุณไปสู่ความน่าสนใจในซีรีส์นี้ได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถดูซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างสนุกสนานและเราขอบอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้จะทำหัวใจของเต้นรัวอย่างแน่นอนค่ะ ต้องดูนะคะ